คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : Episode 10 Don't forget
ที่โลกใต้ดินที่เหล่ามอนสเตอร์อาศัยอยู่มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีหิมะปกคลุมและป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า "Welcome to Snowdin" ริมแม่น้ำที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนักกล่องจำนวนหนึ่งที่ทยอยขนเข้ามาที่ละใบๆโดยมอนสเตอร์
“เอาล่ะเสร็จเรียบร้อย”
“ขอบใจมากนะที่ช่วย”
“ไม่เป็นไรน่า พวกเราเป็นเพื่อนกันก็ต้องช่วยสิ”
มอนสเตอร์กำลังช่วยขนของใส่เรือลำหนึ่งเพื่อที่จะย้ายไปยังโลกข้างบนโดยกล่องที่วางไว้บนเรือเมื่อกี้เป็นกล่องสุดท้ายพอดี ที่หมู่บ้านแห่งนี้ก็เหมือนกับส่วนอื่นๆที่เริ่มทยอยย้ายกันไปบ้างแล้ว
“หลังจากนี้ที่หมู่บ้านก็คงเงียบเหงาไปเยอะเลยแหะ”
“นั่นสินะ พอย้ายไปข้างบนนายก็จะยังคงติดบิลฉันอยู่เหมือนเดิมใช่ไหม?”
“Whoop . . .ยังไงก็ขอติดไว้ก่อนละกัน”
“จะว่าไปไม่ใช่ว่านายไปกับเจ้าพวกนั้นและเด็กคนนั้นแล้วหรอกเหรอ?”
“พอดีมีธุระนิดหน่อยน่ะเลยกลับมาที่นี่น่ะ”
“ยังไงก็เจอกันที่โลกข้างบนนะ”
“ไว้เจอกัน เปิดร้านใหม่อย่าลืมซ่อมตู้เพลงนั้นด้วยล่ะ”
“Tra la la ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย”
เรือก็แล่นออกไปมอนสเตอร์ที่มาช่วยขนของให้กับเพื่อนของเขาก็ได้เดินกลับไปหมู่บ้านที่บรรยายกาศเงียบเหงาพอสมควรแม้จะมีบางส่วนที่ยังอยู่ที่นี่แต่อีกไม่นานก็จะย้ายออกไปแล้วเช่นกันและรวมถึงตัวเขาเองและเมื่อมาถึงบ้านสองชั้นหลังหนึ่งมองดูจดหมายจำนวนมากที่ถูกยัดใส่ตู้จดหมายก่อนที่จะเดินไปยังหลังบ้าน
ห้องที่มีแบบแปลนและรูปตั้งอยู่ที่บนโต๊ะรวมถึงเครื่องจักรบางอย่างที่ถูกผ้าคลุมเอาไว้ มอนสเตอร์ได้หยิบรูปขึ้นมาอย่างช้าๆและปัดฝุ่นออกก่อนที่จะมองไปยังรูปที่มีความสำคัญสำหรับเขาเป็นอย่างมากและสำหรับบางสิ่งที่ไม่เคยลืม
“Don’t Forget”
.
.
เต้นท์พยาบาลในค่ายทหารที่ตั้งอยู่ใกล้ๆหมู่บ้าน แพทย์สนามประจำกองร้อยกำลังตรวจอาการของแอสกอร์ที่หมดสติหลังจากที่ปกป้องโทเรียลจากอิฐที่ร่วงใส่โดยที่โทเรียลนั่งอยู่ข้างๆพร้อมกับพายชิ้นเล็กๆชิ้นหนึ่ง
“ผมคิดว่าเขาคงไม่เป็นอะไรมากหรอกครับอีกไม่นานก็น่าจะฟื้นแล้ว”
“ยังไงก็ขอขอบคุณมากนะคะ”
“ไม่หรอกครับผมก็แค่รักษาตามอาการแค่นั้นเองเพราะโครงสร้างทางกายภาพของมอนสเตอร์ที่ดูเหมือนจะแตกต่างกับมนุษย์ทำให้ผมทำอะไรได้ไม่มากนัก ซึ่งหลังจากนี้ผมต้องศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพวกคุณอีกเยอะเลยเผื่อมีกรณีแบบนี้อีก”
“ถ้ามีอะไรที่อยากให้พวกเราช่วยก็บอกได้เลยนะคะ”
“ครับ ยังไงก็ขอให้คุณช่วยอยู่เป็นเพื่อนไปอีกสักพักนะครับผมต้องไปทำงานต่อแล้ว”
แพทย์สนามเดินออกไปจากเต้นท์พยาบาล โดยตอนนี้โทเรียลก็อยู่กับแอสกอร์ตามลำพังเมื่อผ่านไปสักพักแอสกอร์ที่เริ่มกลับมามีสติอีกครั้งก็พบโทเรียลที่นั่งอยู่ข้างๆกำลังอ่านหนังสืออยู่
“อูย ~ โทริ . . . !?! เธอไม่อะไรใช่ไหม” แอสกอร์มองไปรอบๆก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง
“ฟื้นแล้วเหรอดรีมเมอร์? เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะฉันไม่เป็นไรหรอก”
“ว่าแต่เธอเป็นคนพาฉันมาที่นี่เหรอ”
“เปล่า พวกมนุษย์เป็นคนแบกเธอมาที่นี่น่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ . . . ขอบใจมากนะที่เป็นห่วง”
“ต้องขอบคุณพวกเค้าที่พาคุณมายังที่นี่น่ะดรีมเมอร์ และก็อย่าลืมกลับไปทำงานของคุณด้วยล่ะ พวกเขากำลังรอคุณอยู่ และก็ . . . ฉันไปก่อนล่ะเพราะฉันก็มีงานที่ต้องทำอยู่เหมือนกัน”
ว่าแล้วโทเรียลก็เก็บหนังสือที่กำลังอ่านและเดินออกไปโดยทิ้งพายชิ้นเล็กๆไว้ที่โต๊ะ
“โทริ . . .”
แอสกอร์มองไปยังพายที่โทเรียลตั้งทิ้งไว้และหยิบพายขึ้นมากินอย่างช้าๆ . . .
.
.
“ครบแล้วใช่ไหมครับ?”
“ครับ และก็ขอบคุณมากนะที่ช่วยไม่งั้นพวกเราคงต้องเดินกันเหนื่อยแน่”
“เดี๋ยวรออีกสักครู่นะครับรถน่าใกล้จะซ่อมเสร็จแล้ว”
ที่ใกล้ๆกับเทือกเขา Ebott ทางเข้าโลกใต้ดิน แย๊งที่กำลังช่วยมอนสเตอร์ขนของใส่รถบรรทุกอยู่ โดยรถบรรทุกคันหนึ่งเครื่องยนต์เกิดขัดข้องขึ้นมาทำให้แย๊งต้องขับรถนำชุดอุปกรณ์ซ่อมแซมมาช่วยสมทบหน่วย
“ลองสตาร์ทเครื่องอีกรอบดิ” ทหารที่ซ่อมเครื่องยนต์เสร็จแล้วบอกให้คนขับลองสตาร์ทอีกรอบ
แก๊กๆๆ บรืน~~ !! เครื่องยนต์ของรถบรรทุกก็กลับมาทำงานอีกครั้ง
“เรียบร้อยแล้วครับหัวหน้า” ทหารที่ซ่อมรถวิ่งกลับมารายงานกับหัวหน้าของเขา
“ชุดซ่อมติดไว้กับรถเลยนะและก็พวกนายไปก่อนได้เลยเดี๋ยวฉันค่อยขับรถตามไป”
“รับทราบครับหัวหน้า”
ทหารเก็บชุดซ่อมและวิ่งกลับไปขึ้นก่อนที่จะออกตัวเดินทางไปยังที่หมู่บ้านอีกครั้ง โดยเหลือแต่แย๊งกับรถที่จอดอยู่ แย๊งเดินไปที่รถยนต์และก็นั่งพักอยู่ข้างๆจากนั้นหยิบแฟ้มปกหนังสือในกระเป๋าขึ้นเพื่อจดบันทึกส่วนตัวลงไป
<เป็นรูปแผนที่ระหว่างหมู่บ้านจนถึงเทือกเขา Ebott>
“ผ่านไปหลายวันแล้วหลังจากที่ได้เข้าไปยังเมืองใหญ่ในโลกใต้ดิน โดยหลังจากเสร็จงานที่หมู่บ้านแล้วจะลองกลับไปสำรวจอะไรเพิ่มเติมอีกครั้ง เป็นระยะทางกว่าสามกิโลจากภูเขาถึงหมู่บ้านและอีกสองกิโลเพื่อเข้าเมืองใหญ่และอีกระยะทางกว่ายี่สิบกิโลเมตรถึงค่ายหลักของเรา ระหว่างที่มีมอนสเตอร์โครงกระดูกกำลังนั่งดูฉันกำลังเขียนบันทึกอยู่นั้น . . . ”
“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” มอนสเตอร์โครงกระดูกใส่เสื้อฮู้ดสีน้ำเงินที่นั่งดูแย๊งจดบันทึกอยู่ข้างๆพูดออกมา
“ตั้งแต่เมื่อกี้ละ ว่าแต่ฉันสิที่ต้องถามนายมานั่งอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“อย่าใส่ใจเลย ว่าแต่ยังไม่ได้ทักทายกันเลยฉันชื่อแซนส์ Sans the skeleton”
“ฉันแย๊ง อลานหัวหน้ากองร้อยทหารช่างที่ 41 ยินดีที่ได้รู้จัก”
แย๊งจับมือทักทายกับมอนสเตอร์โครงกระดูก . . . ปรู้ด~~~ด ! เสียงตกจากมือที่ทั้งสองจับมือกันทำเอาแย๊งเหวอไปพักนึงก่อนที่จะพบว่าเป็นถุงตดที่โครงกระดูกถือเอาไว้ตอนจับมือกับแย๊ง
“-__- . . . .”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ~ โทษที ฉันแค่เคยเล่นมุขนี้ครั้งนึงกับมนุษย์แล้วอยากลองเล่นอีกน่ะ”
“มนุษย์ . . . ใช่เด็กที่ชื่อฟริกส์หรือปล่าว ?”
“ใช่ เอ๊ะ !? นายรู้จักกับเด็กคนนั้นด้วยเหรอ?”
“ก็ไม่เชิง เธอเป็นคนพามอนสเตอร์มาพบกับพวกเราเหล่ามนุษย์นี่แหละ และตอนนี้ฉันก็รับงานในการให้ความช่วยเหลือพวกเค้าน่ะว่าแต่นายเป็นเพื่อนกับฟริกส์อย่างนั้นเหรอ”
“ใช่ฉันเป็นเพื่อนของเด็กคนนั้นอ่ะนะ”
“งั้นขึ้นรถมาก่อนสิเดี๋ยวจะได้ที่หมู่บ้านเลย เหล่ามอนสเตอร์กำลังสร้างบ้านใหม่อยู่ที่นั่นน่ะระหว่างที่ขับรถอยู่นี้คงได้คุยอะไรไปพลางๆด้วย”
แย๊งกับแซนส์ขึ้นรถและขับรถตรงไปที่หมู่บ้านโดยระหว่างที่ขับรถอยู่นั้นทั้งคู่ก็ได้พูดคุยเรื่องต่างๆ
“ถามอะไรหน่อย” แย๊งเปิดคำถามกับแซนส์
“ว่า ?”
“พอรู้หรือปล่าวว่าฟริกส์ไปทำอะไรที่โลกใต้ดิน แบบว่าเธอ . . . แบบเหมือนมีอะไรบางอย่างที่พิเศษมั้งที่ฉันสังเกตุได้ ไม่งั้นเธอก็คงไม่สามารถช่วยเหล่ามอนสเตอร์ให้เป็นอิสระได้แน่ๆ”
“ถ้าจะให้ฉันเล่าฉันคงเล่าได้เป็น skele-TON เลยล่ะ”
Ba dam tss ~ ฮะ ฮ่ะ ฮ่า . . . ฮาซะไม่มี
“-__- . . . ให้ตาย มุขใช้ได้เลยแหะ”
“ขอบใจ แต่ก็นะเรื่องราวของเธอนี้เป็นอะไรที่ฉันเอาใจช่วยเด็กคนนั้นมาตลอดเลยล่ะ ถือแม้ว่าฉันจะไม่ได้ช่วยอะไรมากมายเลยก็เหอะนอกจากขาย Hog Dog ให้เธอเอาไปวางไว้บนหัวเล่น สนใจไหมแค่ 30 G”
ว่าแล้วแซนส์ก็หยิบ Hog Dog (?) มาให้แย๊งดูซึ่งก็มีลักษณะคล้ายๆกับไส้กรอก
“อยากลองอยู่แต่ขอโทษทีฉันไม่มีเงิน G ที่นายว่าติดตัวเลย”
“ไม่เป็นไร งั้นฉันให้ละกันถือว่าสำหรับการพบกันครั้งแรกของเพื่อนของเพื่อนละกัน”
“ขอบใจมากแซนส์”
แย๊งรับไส้กรอก Hod Dog (?) ที่แซนส์ให้มากินซึ่งก็ . . . สำหรับแย๊งถือว่ารสชาติก็อร่อยดีแต่ติดใจตรงเสียงแปลกๆระหว่างที่กินก็เท่านั้นแหละ
“ว่าแต่ถ้านายรู้จักกับฟริกส์ งั้นนายพอจะรู้จักน้องชายฉันพาไพรัสบ้างหรือปล่าว” แซนส์ถามแย๊ง
“พาไพรัส . . . นั้นน้องชายนายเหรอ ถ้าหมอนั่นล่ะก็มอนสเตอร์คนแรกเลยมั้งที่เข้ามาหาพวกฉันเนี่ย ถ้าจำไม่ผิดหมอนั่นเดินเข้าบอกกับทุกคนว่ายินดีที่ได้เป็นเพื่อนกับมนุษย์ ฉันยังจำได้เลย”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า หมอนั่นก็แบบนี้ตลอดแหละ”
.
.
“ฮัดชิ่ว !!!” พาไพรัสจามออกมาขณะที่กำลังช่วยงานอันไดน์อยู่
“อ้าวพาไพรัสนายเป็นหวัดเหรอ?”
“เปล่า ข้าเหมือนรู้สึกว่ามีใครกำลังนินทาข้าอยู่น่ะ”
“นี่พวกเธอช่วยส่งไม้แผ่นนั้นมาให้ฉันที” มอนสเตอร์คนหนึ่งที่กำลังต่อหลังคาตะโกนออกมา
“ได้ๆๆแปบนึง มาเร็วพาไพรัสเรามีงานที่ต้องทำอีกเยอะนะ”
.
.
“ว่าแต่คุยถึงไหนละ เมื่อกี้นายถามว่าอะไรนะ”
“ฟริกส์ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่เหรอ”
“ตอนนี้เธอน่าจะอยู่ในเมืองน่ะบ้านของเธออยู่ที่นั่นด้วย เมื่อวานเธอก็มาช่วยฉันทำงานที่หมู่บ้านด้วย”
“จะว่าไป . . . ” แย๊งนึกอะไรบางอย่างได้
“ว่าแต่นายสนใจอะไรในบันทึกที่ฉันเขียนเมื่อตอนนั้นเหรอ”
“ก็ . . . แบบ ฉันสังเกตุอะไรบางอย่างบนบันทึกของนายได้น่ะ”
“มีอะไรในบันทึกของฉันอย่างนั้นเหรอ?”
“เอาเป็นว่านายไปได้บันทึกนั้นมาได้ยังไงดีกว่า”
“อ๋อ คนสำคัญของฉันให้มาเมื่อฉันยังเป็นเด็กน่ะ เค้าคนนั้นที่ฉันได้ให้คำมั่นบางอย่างเอาไว้น่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ . . . ” มองไปยังบันทึกที่ใส่เอาไว้ในกระเป๋าซึ่งสังเกตุได้ว่ามีกลิ่นอายของมอนสเตอร์อยู่ซึ่งอันที่จริงพวกเหล่ามอนสเตอร์เพิ่งขึ้นมายังโลกข้างบนได้ไม่นาน ซึ่งแซนส์สงสัยว่าแย๊งไปได้บันทึกเล่มนี้มาได้ยังไง
“อ๊ะ ถึงแล้วนิ :3” ทั้งคู่มาถึงหมู่บ้านโดยแย๊งได้จอดรถใกล้ๆกับบ้านฐานทัพที่แย๊งอยู่
“ยังไงก็ยินดีต้อนรับสู่โลกข้างบนนะแซนส์ ถ้ามีอะไรก็มาหาฉันที่นี่ได้เลยนะ”
“ขอบใจมากนะพวก” แซนส์มองไปที่ลานดอกไม้สีทองที่อยู่ใกล้ๆมันทำให้เขานึกถึงเรื่องราวบางอย่าง . . . .
“แซนส์ นายหายไปไหนมา อ้าวสวัสดีเจ้ามนุษย์” พาไพรัสที่ตะโกนมาแต่ไกลเดินมาหาพี่ชายของเขา
“Sup bro สวัสดีพาไพรัสนายสบายดีสินะ”
“แล้วเมื่อวานนายไปไหนมาเนี่ยหา? เห็นฉันหานายไม่เจอ”
“พอดีฉันมีธุระนิดหน่อยนะ ว่าแต่นายคงทำงานมามากเลยสินะ”
“หึ ข้าพาไพรัสผู้ยิ่งใหญ่ต้องช่วยเหลือผู้คนอยู่แล้ว”
“ว่าแต่บ้านของพวกเราอยู่ที่ไหนเหรอพาไพรัส?”
“จะว่าไปยังไม่ได้หาบ้านหลังใหม่สำหรับพวกเราสองคนเลยแหะ”
“งั้นก็เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเองละกัน ส่วนนายก็ช่วยงานพวกมนุษย์พลางๆละกันนะ”
“เยี่ยมเลยแซนส์งั้นฉันไปก่อนนะ” ว่าแล้วพาไพรัสก็กลับไปทำงานของเขาต่อ
“แย๊ง ดูเหมือนน้องชายฉันจะไม่ได้สร้างปัญหาอะไรให้ใช่หรือปล่าว”
“ก็ไม่นะออกจะดีด้วยซ้ำที่เขาอยู่ที่นี่”
“งั้นเหรอ . . . ขอบใจมากนะที่ช่วยเหลือพวกเรา”
“แค่ทำตามหน้าที่น่ะ”
หลังจบประโยคแย๊งเดินแยกกลับไปบ้านฐานทัพส่วนแซนส์มองไปที่พาไพรัสที่กำลังช่วยอันไดน์สร้างบ้านให้กับผู้คนในหมู่บ้านก่อนที่จะเริ่มเดินไปรอบๆหมู่บ้านเพื่อสำรวจอะไรบางอย่างอยู่สักพัก
“กริลบี้ไปเปิดร้านใหม่อยู่ตรงไหนหว่า อ่ะ !?!”
หลังจากเดินไปรอบๆหมู่บ้านแม้ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านที่มอสเตอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่นั่นกันแต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก เดินกลับมาที่หมู่บ้านเก่าดูเหมือนแซนส์จะเจอบริเวณหนึ่งที่ถือว่าเยี่ยมสำหรับการสร้างบ้านหลังใหม่สำหรับเขาเองและพาไพรัส แซนส์มองซ้ายมองขวาดูรอบๆก่อนที่จะทำอะไรบางอย่าง
“เอาเป็นว่าตรงนี้ละกัน เอาล่ะ . . . ”
[MEANWHILE]
“แอสกอร์ฉันมาเยี่ยมน่ะไม่เป็นอะไรใช่ไหม อ่ะ !?!” แอลฟี่มาเยี่ยมแอสกอร์ที่เต้นพยาบาลก่อนที่จะต้องตกใจแบบงงๆว่าอะไรเมื่อพบว่าแอสกอร์นั่งร้องไห้ไปกินพายที่โทเรียลทำให้ไปพลาง
“ฮือ ~ โทริยังเป็นห่วงฉันอยู่สินะพายนี้ช่างอร่อยจริงๆ”
“อ . . เอ่อ . . . แอสกอร์นายไม่ . . . นายไม่เป็นอะไรใช่หรือปล่าว?”
แอลฟี่มองไปที่แอสกอร์ด้วยความมึนงงว่าตกลงแอสกอร์กำลังดีใจหรือเสียใจอยู่กันแน่
TO BE CONTINUED
จบ หรือยังวะ ?
“อูย ~ โทริ . . . !?! เธอไม่อะไรใช่ไหม” แอสกอร์มองไปรอบๆก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียง
“ฟื้นแล้วเหรอดรีมเมอร์? เป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะฉันไม่เป็นไรหรอก”
“ว่าแต่เธอเป็นคนพาฉันมาที่นี่เหรอ”
“เปล่า พวกมนุษย์เป็นคนแบกเธอมาที่นี่น่ะ”
อันที่จริงแล้ว . . .
โครม !! เสียงล้มลงของมอนสเตอร์และมนุษย์ที่พยายามจะแบกแอสกอร์ไปที่เต้นท์พยาบาลแต่ดูเหมือนแอสกอร์จะตัวใหญ่แม้กับมอสเตอร์ด้วยกันเองก็ตามที
“ตัวใหญ่เป็นบ้า ขนาดช่วยกันแบกแล้วนะ”
“งั้นก็ลากไปทั้งอย่างนั้นละกัน”
“ช่วยไม่ได้งั้นก็ . . . เอ้า !! หนึ่ง สอง สาม ~ !!!”
พวกเขาช่วยกันลากแอสกอร์ราวกับกระสอบทรายโดยที่โทเรียลก็เดินตามมาเรื่อยๆจนถึงเต้นท์พยาบาล . . . .
Note
11/11/2015
สงสัยกันหรือปล่าวตลอดสิบตอนมานี้มีตัวละครที่สำคัญหายไปคนนึงซึ่งตอนนี้ก็โผล่มาจนได้แหะ
:p
ความคิดเห็น