ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #9 : File 000 Special Short : บทเพลงอันแสนหวาน ความปรารถนาในวันปีใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 578
      2
      30 ธ.ค. 54

                       Special Short : Happy New Year ! 2012

                   Character      :  Sushi and JongJoon

                    File 000         :  บทเพลงอันแสนหวาน  ความปรารถนาในวันปีใหม่

                   

                    เนื้อหาของเรื่องไม่เกี่ยวข้องกับตอนที่ ๙  หากแต่แต่งขึ้นเพื่อเทศกาลตามความสนองนี้ดตัวเองล้วนๆและเพื่อตอบแทนนักอ่านที่ติดตาม  รอคอย  และให้กำลังใจกันตลอดมานั้น...พีจึงอยากมอบบทเพลงแสนหวานผ่านทางนิยายตอนพิเศษนี้ให้เช่นเดียวกัน...



                    OMG!!  นี่มันอะไรกันเนี่ย  ปีใหม่ทั้งทีฉันกลับต้องมานั่งแหง่วอยู่ที่ร้านซูชิน้อยๆของพ่อกับแม่  เพราะว่าวันนี้ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษ  พ่อเลยให้ฉันมาช่วยเสิร์ฟ  ช่วยหยิบนู่นหยิบนี้  ต้อนรับลูกค้า  เก็บร้านและ...เฝ้าร้านคนเดียว  ใช่เลยยซูชิคนนี้เฝ้าร้านอยู่คนเดียวเปล่าเปลี่ยวเอกาหามีเพื่อนมาเฝ้าด้วยไม่  ฮือออ  เพราะว่าเห็นเป็นปีใหม่และพ่อกับแม่ก็ทำงานหนักมากไม่ค่อยได้ออกไปไหน  ฉันเลยเอ่ยปากไปว่าน่าจะไปฉลองปีใหม่กันบ้างนะ  แต่ใครจะคิดว่าพวกเขาจะทิ้งฉันแล้วไปเริงร่าสวีทกิ๊บๆกันสองคนเล่า  ฮือออ  เศร้าชะมัดเลยติดแหง็กอยู่นี่ไปไหนไม่ได้ซะด้วย  เอ๊ะจริงสิ  โทรไปชวนช็อกโกล่ามาอยู่เป็นเพื่อนดีกว่า  ปกติยัยนั่นไม่ไปในช่วงปีใหม่อยู่แล้วอิอิอิ  อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนเหงาคนเดียว  มีเพื่อนฉลองปีใหม่ด้วยกันก็ดีนะ

                    ตู๊ดดด  ตู๊ดดด

                    ฮัลโหลลล  ครืดดด  อุ๊ยรับสายเร็วจัง

                    ช็อกโก้แกอยู่ไหนนนน

                    อยู่บ้าน  ครืดดด 

                    กรี๊ดดว่าแล้วเชียวว่าเธอต้องอยู่บ้าน

                    เหมือนกันเลยอะ  ตอนนี้ฉันเหงามากเลยอะแก  ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวด้วยนะเศร้าๆ  ฉันพูดเสริมให้ดูน่าสงสารขึ้นอีก

                    เหรอ  ครืดดด

                    เอ๋  เสียงอะไรหว่าครืดๆ  น่ากลัวอะ

                    เออดิ  ว่าแต่เธอช็อกโกล่า  นั่นเสียงอะไรอะไอ้ครืดๆ

                    ฮะ?  เสียงไรอะไม่เห็นมีเลย  ตกลงแกโทรมาทำไมอะ  ครืดดด  มีไรให้ช่วยเปล่า

                    เฮ้ยยย  มันมีเสียงครืดๆอีกแล้วอะ  มือถือแกจะระเบิดป่ะ

                    กรี๊ดดดอย่ามาแช่งน๊า  ตูม!”

                    ตู๊ดๆๆๆ

                    เฮ้ย  มันระเบิดจริงๆเหรอวะเนี่ย  น่ากลัวอะ  ไว้ค่อยโทรไปถามอาการพรุ่งนี้ก็แล้วกันๆ  (รักเพื่อนมากนะเธอ)

     

                    ต่อไปโทรหาเชอร์เบทดีกว่า  ได้ยินว่ามันชอบอยู่บ้านไม่ชอบคนเยอะๆ  อิอิอิ  คงไม่ได้ไปไหน

                    ตู๊ดดด  ตู๊ดดด

                    ไง  นึกไงเนี่ยแกถึงโทรมาห๊า  ดูมันรับสายสิไม่มีมารยาทเลยอะ -*-

                    แกอยู่บ้านคนเดียวป่ะ  มาอยู่เป็นเพื่อนกันไหมมฉันเหงา

                    เริ่มพูดไปตรงๆกลัวมือถือมันระเบิดไปอีกคน

                    ตอนนี้เหรอ?  เฮ้ยขอโทษทีแก  ฉันมาเที่ยวกับที่บ้านอะ  พอดีญาติมาเลยไปพัทยากัน

                    อ้าวเหรอ  เออๆงั้นไม่เป็นไร  เที่ยวให้สนุกล่ะของฝากด้วย

                    เออโอเค  เอาโมจิป่ะ  ของขึ้นชื่อที่นี่เลยนะ

                    ของขึ้นชื่อที่พัทยาบ้านแกเป็นโมจิเหรอ

                    เออเอาอะไรก็ได้

                    เอิ๊กๆ  บ้ฉันกินได้หมดแหละ  อุ๊ยไปก่อนนะตาฉันร้องเกะแล้วจุ๊บๆ

                    เฮ้อออ  พูดกับเชอร์เบทแล้วเหนื่อย  ต่อไปวนิลา 

                    ตู๊ดดด  ตุ๊ดๆๆ

                    พรึบ!

                    เหวอออออ  มือถือดับแงงงแบตหมดอีก  โว้ยยยหงุดหงิด  ตกลงปีใหม่นี้ฉันต้องห่อเหี่ยวใจเหรอเนี่ย  เฮ้ออ  ปิดประตูร้านดีกว่าแล้วไปนอนดูทีวีข้างบนฮือออ

                    กรุ๊งกริ๊งๆ

                    เสียงกระดิ่งหน้าร้านที่ห้อยไว้เพื่อให้รู้ว่ามีลูกค้ามานั้น  สั่นดังขึ้นท่ามกลางความเงียบและอากาศหนาวของค่ำคืนหนึ่งที่เต็มไปด้วย...ความเหงา  บุคคลปริศนาก้าวเข้ามาในร้านพร้อมเครื่องแต่งกายด้วยเสื้อโค้ทสีดำหนังมันเงามีฮู้ดคลุมผผมสีทองอร่ามของเขาไว้  เขาส่วมแว่นตาสีดำสนิทพร้อมกับรองเท้าหนังอย่างดีแบบที่คนมีเงินเขาใส่กัน 

                    สวัสดีครับ  เขาทักขึ้นเป็นภาษาอังกฤษ 

                    เสียงของผู้ชาย...ต่างชาติ?!

                    เอ่อ...ขอโทษทีคะร้านปิดแล้วนะคะ  ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่  ฉันตอบกลับเป็นภาษาไทยปนอังกฤษ

                    T_T  ดันมีคนมาตอนฉันอยู่คนเดียวอีกแงง  พูดภาษาต่างดาวด้วยอะฟังไม่ออก

                    ??  ตอนนี้มีเครื่องหมายคำถามเต็มหน้าของเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ก็แหงล่ะ  ใครจะไปฟังออกภาษาต่างดาวของฉันเนี่ย  เฮอะ  (ความจริงฉันก็ต่างดาวเหมือนกันนะฮ่าๆ)

                    ซวยแล้วสิ  จะพูดอะไรยังไงดี  โอ๊ยยยเครียดดด

                    แย่จัง...  อยู่ๆเขาก็ควานหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเป้พร้อมอุทานไปด้วยว่าแย่ๆเป็นภาษาเกาหลีที่แสนยุ่งเหยิง  อ่ะ  เดี๋ยวนะ...ภาษาเกาหลีงั้นเหรอ  เฮ้ยยคนเกาหลี  ฉันพูดภาษาเกาหลีได้นิดหน่อยนะฉันพูดได้ดีกว่าภาษาอังกฤษเยอะเลย

                    เอ่อ...คุณพูดเกาหลีได้ใช่ไหมคะ

                    ครับ...  เขาเงยหน้าขึ้นก่อนจะถอดแว่นจาดำแก  เผยใบหน้าที่ขาวเนียน  ดวงตาเปล่งประกายราวกับมีความหวัง  ผมสีเหลืองที่ส่องประกายรับรูปหน้าของเขาปรกลงมาปิดตาอีกข้างหนึ่งเมื่อเขาถอดแว่นออก  ริมฝีปากบางสีอมชมพู  โครงหน้าคมสวย  ผู้ชายหน้าสวยงั้นเหรอผู้ชายเกาหลีเสียด้วย  คุณพูดเกาหลีได้เหรอ  เขาถามด้วยความดีใจด้วยใบหน้าที่เหมือนกับดาราศิลปินเกาหลีไม่มีผิด

                    ใช่ๆฉันพูดได้นิดหน่อยค่ะ  พอดีว่าร้านเราปิดแล้วนะคะ  ฉันตอบกลับ  ปากก็สั่นรัวเพราะไม่เคยเจอคนหล่อมายืนคุยด้วย  แถมยังต้องพูดภาษาเกาหลีอีกต่างหาก  ตื่นเต้นชะมัด >_<

                    เขาถอนหายใจเพราะโล่งอกที่มีคนคุยกันรู้เรื่อง  ก่อนจะถอดฮู้ดลงเพื่อให้มองเห็นหน้าของเขาชัดเจนมากขึ้น...  ผู้ชายคนนี้เขาเป็นใครกันนะ  ทำไมสายตาของฉันถึงหยุดมองเขาไม่ได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว  ราวกับถูกต้องมนตร์ที่น่าดึงดูด  สายตาของเขาดู...

                    อ๊ายยยไม่นะๆๆนี่ฉันเป็นอะไรไปแล้วเนี่ย

                    พอดีว่าผมหลงทางครับ  คุณเป็นอะไรหรือเปล่า  เขาถามด้วยความเป็นห่วง

                    แปลกจัง...อบอุ่นลึกๆอย่างบอกไม่ถูก

                    โอ้วววว  นี่ฉันเป็นพวกรู้สึกดีกับคนแปลกหน้าเหรอเนี่ย  หรือเพราะโรคไม่เคยเจอผู้ชายหล่อมันกำเริบ เอิบ เอิบ...

                    เปล่าค่ะ...  มีอะไรให้ช่วยใช่ไหมคะ

                    รีบๆคุยให้จบๆแล้วไล่เขากลับดีกว่า  ถึงจะหล่อแต่ไม่น่าไว้ใจ

                    พอดีกว่าอยากถามทางหน่อยน่ะครับ  แผนที่ของห้างxxx  ผมว่าผมคงหลงทางซะแล้ว  ไม่พูดเปล่ายังส่งยิ้มน่ารักมาให้ฉัน

                    ไหนคะ  ฉันเดินเข้าไปดูอย่างลืมตัว  จนเราเผลอใกล้กันมากไป...

                    พรึบ

                    ฉันรีบผละตัวออกมาห่างๆเขาพร้อมแผนที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์  หืมม  วันนี้มีเค้าดาวน์ที่นั่นนินา  หมอนี่จะไปเค้าดาวน์หรอกเหรอ  อะโธ่ไม่ใช่พวกโรคจิตนี่นา...

                    ฉันรู้จักค่ะ  นั่งบีทีเอสไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วล่ะ  ฉันพูขึ้นแต่ก็ดูเหมือนเขาจะยังงงอยู่  เฮ้ออ  อื้มมม  เอางี้แล้วกัน  ฉันจะไปที่นั่นพอดี  คุณรอไปพร้อมฉันเลยไหมคะ 

                    เอาล่ะฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไปเค้าดาวน์กับชาวบ้านบ้าง  ยังไงซะพ่อกับแม่ต้องกลับบ้านดึกอยู่แล้วไปแค่เดี๋ยวเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกเนอะ  ฮ่าๆๆ

                    ว่าแล้วฉันก็ปิดร้านอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับผู้หลงทาง

                    พวกเราสองคนมาทันเวลานับถอยหลังพอดิบพอดี  ปีนี้เขาจุดพลุลูกโตที่สวยงามากๆ  น่าจดจำแบบสุดๆ อ๊ะจริงสิ  ว่าแต่เขาชื่ออะไรนะ

                    ขอโทษนะคะ  ไม่ทราบว่าชื่ออะไรเหรอ  ฉันถาม

                    จงจุน  อีจงจุนครับ^^”

    ……………………………………………

                    เที่ยงคืนเมื่อสามปีที่แล้ว...ฉันยังจดจำได้ดี  ตอนนี้ฉันเฝ้ารอการนับถอยหลังของเวลาจากนาฬิกาดิจิตอลเรือนใหญ่ท่ามกลางฝูงชนนับพันอยู่หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ  แสงไฟที่ส่องประกายวิบวับหลากหลายสีสันสลับกันไปมากับน้ำพุกลางลานกว้างที่พุ่งขึ้นลงตามจังหวะเพลงปีใหม่  รอบตัวของฉันเต็มไปด้วยคนมีความสุขและรอยยิ้มที่แสนน่าประทับใจ  ฉันจดจ้องและซึมซับบรรยากาศเหล่านั้นไว้  เพื่อจะก้าวไปสู่ปีหน้าด้วยจิตใจที่มีแต่ความสุข  แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆของช่วงเวลานี้ก็ตาม

                    ครืดด  ครืดด

                    เสียงมือถือในกระเป๋ากระโปรงสั่นขึ้น  ฉันรีบกดรับทันทีที่เห็นเบอร์โทรเข้า

                    ว่าไงช็อกโกล่า  คอนเสิร์ตสนุกไหมล่ะ  ฉันทักทายด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติ

                    สนุกสิสนุกมากเลย  ถ้าซูชิมาด้วยกันก็คงดีนะ  ปลายสายพูดขึ้นตามด้วยเสียงแซวแว่วผ่านสายมา

                    นั่นสิ  อยากไปเหมือนกันแต่ว่ามีธุระกับที่บ้านจริงๆ  เพิ่งจะเลิกเมื่อกี้เองเนี่ย  ไว้ปีหน้าค่อยไปดูด้วยกันเนอะ  แล้วเป็นไงบ้างอุปป้าหล่อมากไหม  อยากเจอจัง

                    อื้อ  น่ารักมากๆเลยอะ  เฮซองเขาเล่นร้องเต้นได้เต็มที่จริงๆ  แต่นะจงจุนน่ะ...เขาหล่อสุดๆเลยล่ะ  คิคิคิ

                    อะนะ  นี่หัวเราะเยาะเขาอยู่ใช่ไหมตัวเองงง

                    เปล่าสักหน่อย  โอ๊ะ  อะไรนะจงจุนกลับไปก่อนงานเลิกเหรอ  กรรมฉันยังไม่ได้ถ่ายรูปเลยนะอ๊ายยย  ปลายเสียงที่ดูเหมือนจะคุยอยู่กับบุคคลที่สามซึ่งฉันคิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มพวกเราเนี่ยแหละ  ซูชิแต่นี้ก่อนนะ  รอดูวงอื่นไม่ได้แล้วล่ะอุปป้าจะกลับกันคืนนี้แล้วววว

                    ตู๊ดๆๆๆ

                    ยังไม่ทันได้ล่ำได้ลากัน  ช็อกโกล่าก็ชิ่งวางสายไปก่อนทันควัน  ฉันที่ยังยืนงงๆก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงภาพความวุ่นวายของผองเพื่อนที่กำลังวิ่งตามนักร้องของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน  เฮ้อ  ฉันก็อยากจะไปดูคอนเสิร์ตบ้างจังน้า  แต่ก็ติดธุระของที่บ้าน  เพราะว่าที่บ้านฉันมีธุระกิจเปิดร้านซูชิและครอบครัวฉันก็มีคติคือไม่จ้างงานคนนอกแต่อย่างใด  ทำให้พอวันปีใหม่ทีไรคนจะเยอะเต็มร้านจนเสิร์ฟไม่ไหว  ฉันจึงต้องอยู่ช่วยจนถึงเวลาห้าทุ่มกว่า  แต่อย่างน้อยขอให้ได้ยืนข้ามปีก็ยังดี

                    แต่...ฉันก็อยากจะเจอจงจุนอุปป้าวงรีเทิร์นจังเลย  T^T  วันนี้มีคอนเสิร์ต Korea Music Festival  ที่สนามกีฬาฉันดันชวดไม่ได้ไปซะเนี่ย  เฮ้ออไม่เอาไม่คิด

                    ฉันหันกลับไปมองเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วินาทีก็จะเริ่มนับถอยหลังกันด้วยความตื่นเต้น  จังหวะนั้นเองที่ฉันจะควานหาโทรศัพท์มาถ่ายรูปแต่อยู่ๆก็มีเด็กที่ไหนไม่รู้วิ่งผ่านหน้าฉันด้วยความเร็วสูงจนโทรศัพท์ฉันหล่นพรวดออกจากมือ

                    ฟิ้ววว 

                    กรี๊ดดดโทรศัพท์เอ็นเขียดของฉันหล่นถลากลิ้งขมำหายไปไหนแล้วเนี่ย  ฮือออ  เพิ่งจะซื้อมาได้ไม่เท่าไหร่ก็ต้องได้ฤกษ์เปลี่ยนใหม่แล้วเหรอ  โอ๊ยยจะข้ามปีแล้วกะว่าจะมองโลกแง่ดีแล้วเชียวฮือออ 

                    แทนที่จะได้เตรียมตัวข้ามปีกับชาวบ้านเขา  ฉันกลับต้องมานั่งงมหาโทรศัพท์มือถือเอ็นเขียดข้ามปีคนเดียว  แถมคนก็เริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆราวกับคลื่นสึนามิมาแบบไม่ได้นัดหมายอย่างนั้นแหละ  โอ๊ยยแล้วฉันจะหาเจอไหมเนี่ย  โอ๊ะมันอยู่ตรงเท้าของใครสักคนที่อวบๆใหญ่ๆ

                    ฮึบ

                    ฉันเงยหน้ามองลายกระโปรงดอกทิวลิปสีม่วงบานสะพรั่งเพื่อเมมโมรีก่อนจะแหวกว่ายฝูงชนเพื่อไปหาน้องโทรศัพท์

                    ครืดดด

                    อ่าวเฮ้ย!  ไม่มีรู้ว่าใครเตะโทรศัพท์ฉันหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้แงงง  สวรรค์แกล้งฉันตั้งแต่เช้ายันค่ำฮืออ  ไม่ว่าจะปีไหนๆฉันก็โชคร้ายอยู่ดีนั่นแหละ  ว๊ายยเห็นแว๊บๆว่ามีคนเหยียบมันนน้องเอ็นเขียดด  นอกจากมันจะเกิดมารันทด  หน้าจอไร้แสงไฟ  ใยแมงมุมเกาะ  เคาะที่เดียวกรอบหลุด  ชุดเครื่องเสียงในตัวก็ไม่มี  ดีแต่โทรออกและรับสาย  แบตโบกมือบ๊ายบายภายในสามชั่วโมงแล้ว  มันยังโดนทารุณทางจิตใจอีก

                    อ๋อ  ฉันไม่ได้ว่าจนมากถึงขั้นนั้นแต่เพราะว่าช่วงนี้กินแกลบโทรศัพท์ดันมาหายเลยต้องไปซื้อเครื่องละหกร้อยยี่ห้อเอ็นเขียดใช้แก้ขัดไปก่อน

                    แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ  ใครกันบังอาจมาเหยียบลูกรักของฉัน(แค่ตอนนี้)  ฮืมมโกรธๆซูชิพิโรธแล้วนะ

                    มุดๆๆ  ฉันพยายามมุดไปเรื่อยๆ  จนถึงต้นต่อคนที่ทำร้ายลูกเอ็นเขียดฉัน  และจึงพยายามที่จะดึงมันออกมาจากเท้าของเขา  แต่เขากลับเหยียบมันแรงกว่าเดิม  TOT  โฮ้ๆๆ  เจ็บแค้นเคืองโกรธฉันทำไม  ฉันทำอะไรให้เธอเคืองโกรธ  ฉันทนอยู่ใต้ฟุตบาทต่อไปไม่ไหวแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองคนนิสัยเสียทันที

                    ย๊า!  นี่คุณกำลังเหยียบโทรศัพท์ของฉันอยู่นะคะ  เครื่องมันใหญ่จะตายไม่รู้สึกรึไงฮะ  ฉันเหวี่ยงทันที

                    เอ๋?  บุคคลปริศนาที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมมีฮูดสีดำเทาพูดขึ้นโดยที่ไม่ยอมสบตากับฉัน  และยังไม่ยอมเอาเท้าของเขาออกจากโทรศัพท์ฉันอีก

                    ฉันบอกให้คุณเอาเท้าออกไปจากโทรศัพท์ฉันเดี๋ยวนี้นะ

                    หน๊อยยย  อย่ามาทำเสียงแอ๊บแบ๊วเหมือนชาวต่างด้าวฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องนะเฟ้ยย  ไม่ยอมม

                    ว่าแล้วฉันก็ก้มลงไปดึงโทรศัพท์ฉันจนเขาตกใจแล้วร้องเสียงหลง  ฉันก็ตกใจและรีบเงยหน้าขึ้นทันที  สายตาเราดันเผลอสบตากันโดยบังเอิญ

                    มันกลับมาอีกครั้งความรู้สึกแบบนี้...ความรู้สึกอบอุ่นแบบนี้

                    ฟึบ

    เฮือกกกก

    ผู้ชายนี่นา  ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาด้วยแต่เขาเป็น...  อีจงจุนแห่งวงรีเทิร์น  เมื่อสามปีที่แล้ว...เวลาแบบนี้

    ซอรี่ ซอรี่  จงจุนภายใต้เสื้อคลุ่มตัวยาวสีดำกับฮู้ดที่เทาดำสร้างความประหลาดใจให้กับฉันมาก  เขาก้มหัวขอโทษฉันหลายรอบ  ในขณะที่ฉันยังยืนอึ้งเป็นไก่ตาแตกอยู่อย่างนั้นเพราะอะไรไม่ถูก  มือถือก็ไม่ได้เก็บ  จนจงจุนก้มลงไปเก็บแล้วยื่นมันมาให้ฉัน

    ขะ ขะ...เข้าเก็บมือถือให้ฉันอยู่ตอนนี้  ตะตะตะตอนนี้  เวลานี้เขาอยู่ตรงหน้าฉันอีกครั้ง O[]O

    I’m sorry Hey you understand?” เขาถามฉันเป็นภาอังกฤษ

    ฉันยิ่งกว่าอันเดอร์แสตนอีกค่า 

    ฉะ เอ่ย  ฉันเผลอพูดไทยซะได้  ต้องพูดเกาหลีสิเนอะ  โอ๊ยจำอะไรไม่ได้เลยฉัน  ฉันเข้าใจที่คุณพูดนะ  ฉะฉัน  พูดเกาหลีได้นิดหน่อย ฉัน...

    ว๊าวว  เดบัก!  (แปลว่าเลิศ ดีเยี่ยม)  คุณพูดภาษาเกาหลีได้จริงเหรอเนี่ย  อ่ะนี่มือถือคุณครับ  จงจุนพูดขึ้นแล้วยื่นมือถือให้ฉันอีกรอบหนึ่ง

    ฉันรับเอ็นเขียดด้วยมือที่สั่นเทา  มันสั่นจนตาลายคล้ายจะเป็นลม  

                    อ๊ะ  โกรธหรือเปล่า  ผมขอโทษจริงๆนะ

                    มะ...ไม่โกรธเลยค่ะ!!!”  ฉันตะโกนตอบด้วยเสียงที่เต็มกำลัง  เพราะว่าเสียงเหมือนจะไม่ออกเลยเปล่งไปซะเต็มแรงเลย  แงงง

                    ฮะ  ฮ่าๆๆ  อยู่ๆจงจุนก็หัวเราะขึ้น

                    เบาๆสิเดี๋ยวก็มีคนรู้หรอก  ฉันแอบมาเที่ยวนะ  ขืนเธอเสียงดังแบบนี้ฉันก็เที่ยวไม่สนุกนะสิ  เขายิ้มแล้วพูดจาด้วยภาษาเกาหลีรัวๆจนฉันมึนงงไปหมด  ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้น  เขาเป็นมือเบสวงรีเทิร์นจริงๆใช่ไหม  ฉันฝันไปหรือเปล่าค่าท่านผู้อ่านนนน

                    เฮ้  เธอยังฟังฉันอยู่ใช่ไหม...  ฉันทำเธอตกใจรึเปล่า

                    เขาจะจำฉันได้ไหมนะ...  เขาเป็นศิลปินเกาหลีที่กำลังดังมากตอนนี้นี่นา  ไอดอลของฉัน...

                    เอ่อ...ไม่คะไม่เป็นอะไร

                    เขาคงจำไม่ได้...  ไม่สิใครเขาจะมาจำได้กัน  บ้าจริงๆเลยฉัน  ก้เขาแค่เป็นไอดอลของฉันก็พอแล้วนี่นา 

                    เหลืออีกเพียงแค่สิบวินาทีเท่านั้น  พวกเราทุกคนในลานกว้างต่ามพาฉันนับถอยหลังเพื่อเริ่มต้นเข้าสู่ปีใหม่และอะไรใหม่ๆ  แม้ฉันจะไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ต  แต่ฉันก็ได้คุยกับเขาอีกครั้ง...

                    ความรู้สึกแบบนี้มันอะไรกันนะ  ความรู้สึกที่เหมือนน้ำตาจะไหลออกมา  ดวงตาร้อนผ่าวโดยไม่รู้ตัวแบบนี้  ฉันเป็นอะไรไปนะ  ซูชิเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ 

                    5

                    4

                    3

                    2

                    1

                    0

                    “Happy New years!”

    พลุหลากหลายสีสันถูกจุดขึ้นท้องฟ้าอย่างสวยงาม  มันแตกกระจายเป็นรูปดอกไม้ที่สวยที่สุดในวันนี้  ความทรงจำแบบนี้ฉันก็อยากจะมีอีก  เขาคนที่กำลังยืนมองพลุด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา  ฉันก็อยากจะจดจำไว้ ไม่ใช่เขาในฐานะศิลปินคนดัง  แต่เป็นผู้หลงทางจากความปรารถนาในวันปีใหม่...  ความทรงจำที่ไปพร้อมกับเพลงต้อนรับปีใหม่ที่ฟังดูอาจธรรมดา  แต่สำหรับฉันมันช่างเป็นเพลงที่เพราะเหลือเกิน

     เมื่อตอนนั้นก็สวยเหมือนตอนนี้เลยนะ  จงจุนหันมายิ้มแล้วเราทั้งคู่ก็สบตากัน

    อื้อ  สวยสุดๆเลยล่ะ

    ปีใหม่นี้...ให้เป็นช่วงส่งท้ายที่แสนสุขและต้อนรับปีใหม่ด้วยรอยยิ้มที่งดงาม...  สวัสดีปี  2012


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×