ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #6 : File 04 : เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ / มื้อเช้า / โดนทิ้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 627
      2
      8 พ.ย. 54

    File 04 :  เพื่อนร่วมห้องคนใหม่ / มื้อเช้า / โดนทิ้ง

     

    Chocola Talk  :

                ในที่สุดก็เล่ามาถึง ณ.ปัจจุบัน  งั้นเราไปต่อกันเลยดีกว่าว่าหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น

     

    เครียดมากถึงมากถึงมากที่สุด  ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไงแล้วใครผิด  หรือว่าฉันที่เป็นคนจุด  T^T  ก็ฉันเห็นว่าวนิลาเครียดกับหลายๆเรื่องนี่นา  อีกทั้งฉันเองยังค่อนข้างมึนกับการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก  เลยหวังดีจุดเทียนหอมหวังให้เหมือนดั่งสปาที่ตั้งอยู่กลางธรรมชาติ  พร้อมเปิดเพลงบรรเลงเสียงนกวิหคสวรรค์  ฉันผิดเหรอออ 

    และด้วยเหตุนี้เองพวกเราห้าคนเลยมายืนหน้าบานกันอยู่หน้าห้องของลุงผู้จัดการ  เพราะว่าห้องที่คอนโดนี้เต็มแบบไม่มีกำหนดว่าจะว่าง  ส่วนห้องที่เราพักต้องซ่อมแซมอย่างหนักเพราะสภาพมันน่าอนาถมากถึงมากที่สุด  ผู้จัดการเลยให้พวกเรามาพักห้องเขาก่อนชั่วคราว  แต่พอเข้ามาในห้องก็พบกับสภาพยิ่งกว่าไฟไหม้

    “เอ่อ...  ห้องหรือรังหนูเนี่ย”  ฉันทักขึ้น  เพราะดูแล้วไม่น่าเรียกว่าที่พักคนได้  โคตรจะรก  ซกมกสุดๆ

    “เออน่า  เข้ามาก่อนๆ”  ผู้จัดการกวักมือเรียก

    ยัง...ยังมีหน้ามาชวนให้เข้า  แค่มองเข้าไปในห้องก็แทบหาที่ยืนไม่ได้  แต่ก็ไม่อยากขัดใจ  ฉันเลยเดินตามเพื่อนๆเข้าไป  แค่ก้าวแรกที่เอ่อ...มันยังไม่ทันถึงก้าวนึงอะ  เท้าฉันก็ไปเหยียบ  TOT  ชามมาม่า!!

    “กรี๊ดดด  มด มดเดินเป็นทางเลยค่า  ฮืออ”  เสียงซูชิร้องตามฉันมาติดๆ

    “โว๊ยยย  ฉันไม่ยอมนอนห้องที่แม้แต่หนูก็ยังมีแบบนี้หรอกนะ!  เชอร์เบทสาวขี้วีนโวยวายเสียงดัง  ก่อนจะกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางออกไปยืนหน้าห้องเช่นเดิม

    ผู้จัดการถึงกับยิ้มแหยๆ  เกาหัวแก้เขินแล้วก็หัวเราะแฮ่  ฉันไม่รอช้ารีบเดินกระเผลกๆไปยืนให้ห่างไกลจากห้องนี้ให้มากที่สุด  เท้าที่เต็มไปด้วยน้ำมาม่าที่ไม่รู้ว่าเน่ารึมากี่วันเริ่มแสบเล็กน้อย  ดูเหมือนจะเป็นรสต้มยำอะไรประมาณนั้น  อุ๊ย  มีกุ้งกับผักติดมาด้วย  พร้อมกินในซองเลยใช่ป่ะ  ฮือออ ช็อกโกล่าอยากเป็นลม

    “ขอโทษทีนะ  ไม่ค่อยว่างทำความสะอาดมันเลยเน่าแบบนี้”  ผู้จัดการคิมพูดแล้วหัวเราะแห้งๆ  “ตอนนี้ดึกมากแล้วด้วย  ถ้าไม่นอนที่นี่ก็ไม่รู้จะไปนอนที่ไหนนะ”

    ชิ่ง  -_______-+

    พวกฉันส่งสายตาชิ่งๆให้เป็นการเตือนว่า  ไม่คิดจะนอนที่นี่นะยะสกปรกแบบนั้นให้หนูมดไก่แจ๋นอนไปเถอะ  ผู้จัดการทำสีหน้าใช้ความคิดก่อนจะทำหน้ามีไอเดียดีๆ

    “ฉันรู้แล้วว่าคืนนี้พวกเธอจะไปนอนที่ไหน” 

    “หือ  ที่ไหนอะ?”  พวกฉันห้าคนถามขึ้นพร้อมกัน

     

    “ไม่” 

    เสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยความเย็นชา  ใบ้หน้าบึ้งตึง  งัวเงียและโกรธเคือง  เมื่อพวกเรามายืนอยู่หน้าห้องของวงรีเทิร์น  วงรีเทิร์น!!  ถูกต้องแล้วค่ะ  คุณอ่านไม่ผิดและฉันก็ไม่ได้พิมพ์ผิด  ผู้จัดการคิมพาพวกเราห้าคนมาขอห้องพักอาศัยกับผู้ชายห้าคนที่สาวเกาหลีต้องการมากที่สุด  สวรรค์ชัดๆ

    “โถ่  พวกเธอไม่มีที่พักจริงๆนะ  นายช่วยแบ่งที่พักให้พวกเธอนิดๆหน่อยๆเองนะ  เฮซอง”  ผู้จัดการอธิบายให้เฮซองสุดที่รักของฉันฟัง  แต่เขากลับปฏิเสธท่าเดียวเลย

    “ห้องคุณไง  อยู่คนเดียวไม่ใช่รึไง”  เฮซองแย้งขึ้น

    “ห้องฉันมันรกมาก  มากจนฉัน...  เฮ้อเอาเป็นว่าช่วยฉันหน่อยนะๆๆ” 

    “ถ้างั้นก็ส่งกลับประเทศตัวเองไปซะ  แค่นี้นะ”  เฮซองพูดจบพร้อมกำลังจะปิดประตู  แต่ผู้จัดการหยุดไว้ทันก่อนจะส่งสายตา  เอิ่ม...  นั้นเฮซองหมูน้อยหนูนะแงๆจะหวานเยิ้มเกินไปแล้ว

    “แค่คืนเดียวๆ  ฉันจะเรียกแม่บ้านมาทำความสะอาดให้เสร็จ  แล้วพรุ่งนี้ให้พวกเธอไปนอนห้องฉัน  แล้วฉันก็จะย้ายมานอนห้องนาย  ได้โปรด” 

    เฮซองใช้ความคิด  ก่อนจะขอตัวไปปรึกษากับเพื่อนร่วมวง  เวลาผ่านไปประมาณห้านาที  ประตูห้องก็เปิดออกเผยให้เห็นแสงออร่าส่องสว่างจ้าเล็ดลอดออกมา  ชายที่เห็นแล้วต้องสลบไปกับความหล่อเหลา  เปล่งประกายด้วยรอยยิ้มของเจ้าชาย...   ชเวเทโฮ

    “อ้าว  เฮซองล่ะ”  ฉันเผลอหลุดปากถามออกไปเป็นภาษาไทย  ด้วยความเสียดายที่เห็นเฮซองใกล้ๆเพียงเดี๋ยวเดียว 

    “เฮซองกลับไปนอนแล้ว  ฉันเลยออกมาต้อนรับพวกเธอแทน”  ฉันลืมไปว่าเขาเข้าใจภาษาไทยบ้างนิดหน่อย  เขาอธิบายแล้วก็คว้ากระเป๋าเสื้อผ้าของทุกคนไปไว้ในห้องด้วยตัวคนเดียว...  กล้ามเทโฮใหญ่ขึ้นเปล่าอ่ะ

    “งั้นพรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ  ฝากด้วยนะเทโฮ”  พอทุกอย่างลงตัวผู้จัดการก็หนีหายไปอย่างรวดเร็ว  เอ่อ...  ทิ้งผู้หญิงห้าคนไว้กับผู้ชายห้าคน  กรี๊ดดด  แล้วพวกฉันจะอดใจไหวเหรอ

    คนที่ก้าวไปคนแรกคือไอซิ่ง  ที่เดินตามเทโฮไปอย่างรวดเร็ว  ฉันเลยรีบบ้างเพราะอยากล้างเท้าที่เต็มไปด้วยกุ้งผักสารอาหารครบถ้วน

    ภายในห้องนั้นช่างเหมาะสมกับการเป็นห้องของไอดอลจริงๆ  เพราะเสื้อผ้าแขวนแน่นเอียดเต็มราว  ที่ชั้นวางร้องเท้าก็เต็มไปด้วยร้องเท้าที่ราคาแพงน้อยถึงแพงมากวางกองๆกันไว้  มีไวบอร์ดสีขาวเขียนตารางงานของแต่ละวัน  แล้วก็กลางห้องเป็นโซฟา  ถัดไปเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะมีทีวีอยู่ข้างๆ  หน้าต่างก็มีระเบียงยื่นออกไป

    เมื่อฉันถามเทโฮว่าห้องน้ำไปทางไหนเขาก็ชี้ไปว่าทางนั้น  ฉันเลยเดินจ้ำๆเข้าไปในห้องน้ำ  เอ๋...พอมาถึงมันมีสองห้องที่ปิดประตูอยู่แล้วก็มีแค่สองประตูที่อยู่ตรงนี้  ฉันไม่รู้ว่าประตูไหนคือห้องน้ำ  เพราะมันเหมือนกันทั้งสองบาน  โอ๊ย...คันเท้ายุบยิบแล้วนะฉี่ก็ปวด  เลือกเปิดเอาสักห้องแล้วกัน!

    แอ๊ดดด 

    ฉันค่อยๆเปิดประตูเข้าไปและปิดประตูอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะคลำหาสวิตซ์เปิดไฟ  แต่คลำหาเท่าไรก็หาไม่เจอ  ฉี่ฉันก็จะราดอยู่แล้ว  ฉันเลยเดินหาไปเรื่อยๆในความมืดมิด  ก่อนมือจะไปสัมผัสเข้ากับประตู...  ประตูอะไรหว่า  ห้องน้ำมันมีซ้อนกันออยู่เหรอ  มัวแต่คิดไม่ได้ฉันเลยผลักออกไปเบาๆเพื่อดูว่ามันคือที่ไหน  อ๊ะ!  ไฟ  ในที่สุดฉันก็คลำหาสวิตซ์เปิดไฟเจอแล้ว  เย้ไฟฟ้าจงเจริญ

    ไม่รอช้า  รีบเปิดทันที  และพอเปิดมันก็ทำให้ฉันรู้ว่า  แย่แล้วววว!

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดด”

    ฉันกรี๊ดร้องลั่นเสียงดังแบบสุดๆ  ทำให้ทุกคน  ย้ำว่าทุกคน!!  พวกรีเทิร์นรีบวิ่งมาดูว่าเสียงอะไรรวมถึงเพื่อนๆฉันด้วย  ก็จะไม่ให้กรี๊ดได้ไงเล่า  อยู่ๆเฮซองก็มายืนอยู่ข้างหลังของฉันๆๆ 

    “โอ๊ย  เลิกร้องสักทีได้ไหม  หนวกหูชะมัด”  เฮซองบ่นเหวี่ยงๆ

    “ก็ฉันตกใจนี่นา!  นายมายืนอยู่ข้างหลังฉันทำไมเล่า  คนบ้าT^T  ฉันตอบกลับด้วยเสียงสั่นๆ

    “แล้วใครใช้ให้เธอมาเข้ามาเหยียบในห้องของฉันมิทราบฮะ  ยัยโรคจิต”

    “อุ๊ย  โทษทีนะนายพูดช้าๆหน่อยได้ไหมอะ  ฉันฟังไม่ค่อยจะออก” ฉันบอกเขา  ความจริงฉันไม่ค่อยจะเก่งเกาหลีเท่ากับเพื่อนๆสี่คนของฉัน  ที่พูดได้พูดดี

    “ได้  นอกจากเธอจะโรคจิตแล้ว...เธอยังโง่อีกต่างหาก”  เฮซองพูดอย่างช้าๆและชัดเจน

    เขาว่าฉันโง่และโรคจิตอ่ะ  ฮืออออออ  เครียด

    “นี่เฮซอง  นายพูดผิดใช่ไหมๆ”  ฉันถามเขาเพื่อความแน่ใจอีกที 

    “เปล่า  ฉันไม่ได้พูดผิดและเธอ...ยัยโง่ออกไปจากห้องนอน!  ของ!  ฉัน!  ซะ!  กลัวเธอจะวางเพลิงห้องฉัน”  ไม่พูดเปล่ายังขึ้นเสียงแล้วเน้นคำอย่างชัดเจน  ต่อให้ฉันโง่แค่ไหนก็รู้ว่าเขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ  ฮืออออเขาขอโทษเฮซองงง

    “เดี๋ยวสิๆ  ฉันขอโทษนายจริงๆนะ”  ฉันเข้าไปดึงเสื้อเขาเอาไว้

    ว๊ายยย  ฉันได้แตะโดนชุดนอนเขาด้วย  เย้

    “เอามือสกปรกออกไปด้วย  พวกนายก็เหมือนกัน”  ว่าฉันเสร็จก็หันไปบอกเพื่อนๆเขา  ส่วนเพื่อนฉันเขาก็ทำสีหน้าชังๆใส่แทน  “ง่วงแล้ว”

    ปัง!

    ราวกับฝันว่าไปทัวร์นรกแตกมา  ฉันออกมายืนจังก้าอยู่หน้าห้องนอนของเฮซองด้วยความมึนงงกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้  ฉันตบหน้าตัวเองไปหนึ่งทีและแถมหยิกที่แขนด้วย  สุดท้ายก็ได้คำตอบอย่างชัดเจนแล้วว่าฉันไม่ได้ฝันไป  ฉันไปทัวร์นรกแตกมาจริงๆ  ฮือออ

    เมื่อเพื่อนๆเห็นฉันยืนบ้าตบหน้าตัวเองไปมาก็เข้ามาลากตัวไป  วนิลาผู้ที่ตกอยู่ในสถานะเดี๋ยวกับฉันก็เข้ามาตบบ่าปลอบใจ  ซูชิไอซิ่งก็เข้ามากอดคอฉันแล้วลากไปนั่งที่โซฟา

    “ไม่เป็นไรนะๆ  ฉันเข้าใจว่าแกรู้สึกยังไงช็อกโก้”  น้ำเสียงที่เศร้าสร้อยมองไปยังบุคคลที่กำลังเดินกลับเข้าไปในห้อง  ไม่ยอมแม้แต่จะทักทาย

    เหลือเพียงพวกฉันห้าคนกับจงจุน  เทโฮ  และจองมินที่มานั่งคุยเล่นเป็นเพื่อนพวกฉัน  จนไปๆมาๆก็กลายเป็นเล่นไพ่  และให้ตายสิ!จงจุนเล่นเก่งชะมัด  ดีนะไม่กินตังไม่งั้นฉันหมดตูดแน่ๆ  เล่นกี่ทีๆก็แพ้ที่โหล่ตลอด  ฮือออ  ชีวิตฉันหน้าเศร้า

    “พวกนายไม่ไปนอนเหรอ”  ฉันถามขึ้นเพราะรู้สึกว่าเริ่มง่วง  หลังจากจองมินพูดเรื่องของกิน

    น่ารักอะน่ารักมาก  จองมินพูดแต่เรื่องกิน  จงจุนก็เล่นไพ่  เทโฮก็ยิ้มแล้วรินน้ำชาให้  ว๊ายยอบอุ่น

    “นอนดิพรุ่งนี้มีถ่ายแบบนะ”  จงจุนพูดขึ้น 

    “ถ่ายแบบอะไรเหรอ”  ซูชิถามแทรกขึ้นทันที  ออกนอกหน้ามากเพื่อนฉัน

    “ก็ Lismus  winter  20xx  อะสิ”  จงจุนหันไปตอบคำถามซูชิที่นั่งอยู่ข้างๆ

    คือ...ทุกคนสงสัยใช่ป่ะว่าเรานั่งกันยังไง  คือเล่นไพ่ก็ต้องนั่งล้อมวงแล้วฉันนั่งข้างวนิลากับไอซิ่ง  ถัดจากไอซิ่งเป็นเทโฮ  ถัดจากเทโฮเป็นเชอร์เบทแล้วก็ซูชิจงจุน  จบด้วยจองมินที่นั่งข้างวนิลา  สรุปคือฉันโคตรจะอ้างว้างในหัวใจ  T^T  ไม่มีชายใดมานั่งข้างๆเลยสักนิดฮืออออ 

    หลังจากที่คุยกันได้สักพัก  พวกเราก็แยกย้ายกันไปนอน  เทโฮที่นอนห้องเดียวกับจงจุนก็ให้พวกฉันเข้าไปนอนในห้อง  เพราะในนั้นมันอุ่นจะได้ไม่หนาวมาก  แต่พวกฉันก็ยังยืนยันว่าจะนอนข้างน้องเนี่ยแหละ  แม้ฮิตเตอร์จะไม่ค่อยอุ่นมากแต่ก็ถือว่ามันยังไม่หนาวเกินไป  ส่วนจองมินก็ไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้แล้วก็ขอตัวไปนอน  โดยไม่ลืมที่จะขอร้องว่า

    “นี่ๆ  ถ้าพรุ่งนี้ไม่ลำบากพวกเธอช่วยทำข้าวเช้าให้กินหน่อยได้ไหมล่ะ  ฉันอยากกิน  ส่วนของที่อยู่ในตู้เย็นพวกเธอใช้ได้ตามสบายเลยนะ”

    “ได้สิๆ  ฉันทำให้แน่ๆ  *O*  เชอร์เบทที่ดูขรึมๆโหดๆแต่ก่อน  ได้ตายหายไปแล้วเพราะเธอรีบตอบรับคำขอทันทีที่จองมินพูดจบ  ไม่เพียงแค่นั้นยังส่งสายตาระยิบระยับให้จองมินก่อนจะโบกมือบายกันอีก 

    หมั่นไส้แล้วนะ  ชิชะ

    “ทุกคนฝันดีนะ”  เทโฮพูดแล้วก็เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป

    พวกฉันที่รู้งานรีบปูที่นอนกันทันควัน  เพราะปากบอกไม่หนาวแต่สภาพร่างกายไม่เป็นอย่างที่โม้ไว้  อากาศแบบนี้มันยิ่งกว่าดรีมเวิล์ลเสียอีก  หนาวไปถึงขั่วหัวใจเลย  ยิ่งเป็นเวลาดึกๆแบบนี้ยิ่งหนาวสุดๆ  เนื่องจากว่าห้องมันกว้างเลยทำให้ฮีตเตอร์ส่งความอบอุ่นมาถึงพวกเราได้น้อย  ยังดีที่ผ้าห่มผืนหนาทำให้หนาวน้อยลง  เมื่อจัดแจงที่นอนกันเสร็จสับก็ปิดไฟลง

    “เออนี่  พวกแกว่าป่ะว่าเจ้าชายของฉันน่ารักมาก”  ไอซิ่งทัก

    “อือจริง  ฉันละเชื่อแล้วว่าเขาคือเจ้าชายและฉันก็ชอบเขามาก  ฮือออ”  วนิลาพูดขึ้น

    “บ้าเหรอ  วนิลาแกเป็นแฟนคลับซุนวูไม่ใช่รึไง”

    “เออแกเห็นไหมอะ  ว่าวันนี้เขาทำตัวโคตรจะเงียบแล้วก็ไม่สนใจฉันเลยอะ”  เมื่อเข้าเรื่องตัวเองวนิลาถึงกับร่ายยาวทันที  “ฉันยังเสียใจเรื่องกีตาร์ไม่หายเลยนะ  แต่เขาก็ไม่พูดอะไร  จริงๆแล้วลึกๆเขาโกรธฉันแน่  ทำไมไม่เห็นเหมือนในทีวี  ในคอนเสิร์ตอะไรแบบนั้นเลยอะ  โอ๊ยยไม่เข้าใจ”

    “ใจเย็นๆ  เฮซองฉันก็ไม่ต่างไปจากแกหรอก  โคตรจะปากจัด  ไม่เห็นเหมือนหมูน้อยฉันเลย  ฮืออออยากกลับบ้าน”  ฉันพูดขึ้นบ้าง  อึดอัดเหมือนกัน  หมูน้อยเฮซองคนเก่าในทีวีของฉันนั้นอยู่หนใด

    “ฮ่าๆๆ  ฉันไม่อยากกลับแล้วอ่ะ  จงจุนน่ารักมากฉันอยากอยู่ที่นี่อีกนานๆๆ”  ซูชิที่รอโอกาสเผยแพร่ความน่ารักของคนที่ตัวเองชอบก็พูดขึ้นบ้าง

    “เฮ้อออ  บางทีเราตื่นขึ้นมานะ  ทุกอย่างอาจเปลี่ยนไปแล้วพวกเราก็อยู่บนเตียงนุ่มๆที่บ้าน  เช้าๆเราก็ไปโรงเรียนด้วยกัน”  ฉันพูดขึ้น

    “อื้อ  รีบหลับเถอะพรุ่งนี้ฉันจะทำข้าวเช้าให้จองมินทาน  ฮ่าๆ”  เชอร์เบททักขึ้น

    แกไม่ได้ฟังที่ฉันพูดเลยใช่ไหม  ว่าฉันอยากกลับบ้าน -____-

    “เออเนอะ  เดี๋ยวฉันช่วยทำนะอยากทำให้จงจุนกินบ้างอะไรบ้าง  ฉันเคยทำข้ามต้มกุ้งให้พ่อกับแม่กินนะ  ท่านบอกอร่อยมากโฮะๆ”  ซูชิพูดขึ้น

    “ฉันด้วยนะ  เทโฮชอบน้ำชาล่ะฉันจะต้มชาให้ดื่ม  เฮ้ยตั้งนาฬิกาปลุกด้วยนะ”  ไอซิ่งพูด

    ฉันกับวนิลาหันหน้าเข้าหากัน  ฮืออแล้วกอดคอกันนอนร้องไห้  ที่ศิลปินที่ชอบไม่เป็นดั่งที่คิดไว้  แซดดด

    แต่ฉันไม่ยอมหรอกนะ  คอยดูเฮซอง  นายจะต้องมอบหัวใจให้ฉัน!!  พรุ่งนี้ฉันจะเริ่มต้นแผนการ คิคิคิ

     

    หอม...  กลิ่นหอมลอยออกมาจากหมอใบใหญ่  กลิ่นหอมของข้าวต้มรุ่งอรุณฝีมือของซูชิลอยมาแตะจมูกของฉันหลายต่อหลายครั้งจนอดใจที่จะรอกินพร้อมกันไม่ได้  ผสมผสานกับกลิ่นของใบชาแสนสดชื่น  ชวนให้ผ่อนคลายเรื่องเมื่อคืนได้เป็นอย่างดี  ฉันยืนหั่นผักใส่ลงไปในน้ำซุปอย่างกระปรี่กระเป่าตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคุณเพื่อน  ฉันเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำส้มสดจากไร่มารินวางไว้บนโต๊ะเพื่อเตรียมเสิร์ฟ 

    เมื่อเช้ากว่าเราจะคิดเมนูอาหารกันได้ก็แทบแย่  เพราะว่าของในตู้เย็นนั้นแสนจะว่างเปล่า  มีเพียงผักกับเนื้อเล็กๆน้อยๆ  แถมผักพวกนี้ก็ไม่เคยจะเห็นหน้าค่าตากันอีก  แต่ด้วยความฉลาดของซูชิที่มีพ่อเป็นเจ้าของร้านซูชิ  เธอจึงรู้เรื่องผักทั่วเอเชียที่มีอยู่  ว๊าววว  เพื่อนฉันไฮโซมากค่า

    อาหารทุกอย่างพร้อม  ฉันพร้อม  เพื่อนๆพร้อม  แต่รีเทิร์นไม่พร้อม  เฮ้ย!  ได้ไงกัน

    “พวกนั้นยังไม่ตื่นกันเลยนะ  ฉันว่าเรามากินกันก่อนดีป่ะ”  ฉันถาม

    “เฮ้ยไม่ดีๆ  ฉันว่าเรารอพวกนั้นด้วยการเก็บกวาดข้าวของแล้วทำความสะอาดห้องให้ดีไหม  เพราะว่าเรามาอยู่ห้องพวกเขาตั้งคืนหนึ่งแหนะ”  ซูชิเตือน

    “จ๊ะๆ  งั้นก็...”

    แอ๊ดดด

    ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ  หนุ่มน้อยน่ารักขวัญใจของฉันก็เดินงัวเงียออกจากห้องด้วยเสื้อกล้ามสีดำสุดเซ็กซี่กับบ็อกเซอร์ลายหัวใจสีชมพู  ว๊ายย น่ารักโฮกกก

    ฉันวิ่งเข้าไปทักทายเขาทันทีที่เห็นเฮซองเดินออกมาจากห้อง  ใบหน้ายามครึ่งหลับครางตื่นของเขาน่ารักที่สุด  นี่ฉันเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาที่สุดในไทย  ที่ได้เห็นใบหน้าของเขาตอนเช้าใกล้ๆแบบนี้ 

    “เฮซองงงงอุปป้า  ฉันทำข้าวต้มแสนอร่อยไว้ให้พี่ด้วยนะ”  ฉันเข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก  คิคิคิ  (หลงตัวเองมาก : จอมโจร)

    “ฮือ...”  เฮซองปราดสายตามาทางฉันก่อนจะหลี่ตาเหมือนกำลังมองให้แน่ใจอะไรสักอย่าง  แล้วชักสีหน้าแบบว่ารังเกียจมาให้

    “เธอ!!  ยังไม่ออกไปจากห้องฉันอีกเหรอเนี่ย  ยัยโรคจิต”  พูดด่าฉันไม่พอยังเอามือปิดหน้าอกตัวเองแล้วเดินหนีบๆเข้าไปในห้องน้ำ

    ไม่นานนักก็ออกมาด้วยใบหน้าที่ใสวิ้งกลับผมที่หวีเรียบร้อยแล้ว 

    “เธอ!  ออกไปซะ  พวกเธอด้วย” 

    “ตื่นมาก็เอะอะโวยวาย  อารมณ์ไม่ดีเหรอ>_<  แกล้งโง่ไปก่อนฉัน

    “ใช่เพราะเธอนั้นแหละยัยโง่!

    “ฉันชื่อช็อกโกล่าจ๊ะ  เรียกชื่อฉันสิๆ”  ฉันยังทนได้  ศรีทนได้

    “โอ๊ย  ชื่อเธอเหรอนั้น  ตอนพ่อแม่ตั้งให้ได้ปรึกษากันมาแล้วใช่ไหมว่าเหมาะกับใบหน้าของเธอ  เอ๊ะ  แต่ก็เหมาะกับสีผิวเธอนะ”

    ฉึก  ฉันรู้สึกเจ็บแปลบ  ไม่รู้ว่าชินหรืออะไรถึงได้ฟังสิ่งที่เขาพูดมาออกทุกคำเลย 

    ฉันไม่น่าจะมาฉลาดตอนนี้เลย

    “ไม่จ๊ะ  ไม่โกรธโฮะๆ  ที่ชื่อช็อกโกล่าเพราะตอนท้องแม่ชอบกินช็อกโกแลตล่ะ” 

    “นอกจากโง่แล้วก็ยังหน้าด้านด้วย”  พูดจบก็โยนผ้าเช็ดหน้าใส่ฉัน 

    เฮ้ย!  อารมณ์ร้อนขึ้นมาแล้วล่ะสิ  ฮ่าๆ  ร้อนรุ่มเข้าไปที่รัก  เกลียดฉันเข้าไป  เพราะฉันจะทำให้นายตกหลุมรักฉันให้จงได้  ตามนิยายที่ฉันเคยอ่านมาบวกกับประสบการณ์ของน้องสาวฉันและมันต้องได้ผลแน่ๆ  วะฮะฮ่า

    “ช็อกโก้  แกบ้าไปแล้วเหรอถึงได้ทำตัวหน้ามึนแบบนั้นอะแก  นี่ฉันคิดว่าเฮซองจะกินแกเข้าไปแล้วนะ  ดูเขาโกรธมากๆเลย”  ซูชิเข้ามาทักทันทีหลังจากเฮซองเดินสะบัดหน้าหล่อๆกลับเข้าไปในห้อง

    “ฮึ  มันเป็นแผ่นการที่ฉันวางเอาไว้แล้วล่ะ”

    “แผน?  แผนแกเคยมีอะไรดีบ้างป่ะ”  วนิลาถามขึ้น

    “มีดิ  นี่ไงเราได้มาเกาหลีฟรีไม่เสียเงิน  ได้อยู่กับรีเทิร์นแบบใกล้ชิด  ฉันยังได้ผ้าเช็ดหน้าเขามาด้วย”  พูดจบก็ถือผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาดู

     

    กรี๊ดดดด  ฉันเหมือนคนโรคจิตจริงๆวะ

    หลังจากสนามรบผ่านพ้นไป  ความสดใสและวิตามินสายตาก็ทยอยออกมา  เทโฮกับจงจุนออกมาจากห้องพร้อมๆกัน  ใบหน้าที่สดใสพร้อมรอยยิ้ม  จองมินกับซุนวูก็เดินตามออกมาติดๆ  จากนั้นจองมินก็เป็นคนเจิมข้าวต้มหมอนี้เป็นคนแรก

    “ว๊าววว  หอมที่สุดเลย  ไม่ได้กินข้าวเช้าแบบนี้มานานเท่าไรแล้วนะเนี่ย  ฉันขอกินเลยนะ”  ไม่พูดเปล่าเจ้าตัวยังตักคำใหญ่เข้าปากด้วยช้อนเกาหลีที่ด้ามจับยาวกว่าช้อนธรรมดาที่บ้านชั้น

    สีหน้าบ่งบอกว่าอร่อย  กินได้ไม่ตายแน่เลย  ทำให้ทุกคนตักทานอย่างเอร็ดอร่อย  พวกฉันถูกเชิญให้นั่งร่วมโต๊ะด้วย  เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้นั่งร่วมโต๊ะกับรีเทิร์น  ว๊ายยยยฉันหุบยิ้มไม่ได้แล้วนะ

    “อิ่มแล้ว” 

    ยังไม่ทันที่ก้นจะหย่อนลง  ซุนวูก็ลุกออกจากเก้าอี้ทันทีด้วยสีหน้าเรียบเฉยมาก...  ฉันรีบหันไปดูวนิลาที่ตอนนี้อึ้งกิมกี่อีกครั้งและพร้อมจะปล่อยโฮออกมาได้ทุกเมื่อ  ไอซิ่งที่รู้หน้าที่จึงโอบไหล่เพื่อนแล้วปลอบเบาๆ  เพื่อไม่ทำให้บรรยากาศเสีย  แต่ไม่นานนักคนที่ทำให้บรรยากาศเสียจริงๆก็คงเป็น...เฮซอง

    คุณชายเดินอาดๆเข้ามานั่งข้างๆเทโฮ  แล้วก็รินชาใส่แก้ว  ฉันจึงวิ่งไปตักข้าวต้มร้อนๆมาให้เฮซองทันที

    “ไม่เอาไม่กิน”  เขาพูดจบแค่นั้นก็หันมาจ้องหน้าฉัน

    “ทำไมล่ะอร่อยออก”  เทโฮทักขึ้น  เสริมด้วยการพยักหน้าของจองมินที่ทานไปแล้วไม่รู้กี่ชาม

                “ฉันจะไปกินที่โน่น”

                “เออวันนี้ไปโยนโบว์กันอีกป่ะ”  จงจุนหันไปถามเฮซอง

                “เอาดิ  ฉันชนะอีกแน่”   เฮซองโอ้อวด

                “ไม่ได้”

                อยู่ๆเสียงที่ไม่คุ้นเคยก็ดังแทรกขึ้นมา  พวกเราทุกคนหันขวับไปหาต้นเสียงทันที

                อ๋อ  คุณผู้จัดการนั่นเอง  ลืมแล้วนะเนี่ยว่ายังอยู่ในเรื่อง

                “พวกนายถูกสั่งห้ามให้ไปทำกิจกรรมอะไรในช่วงนี้ไม่ใช่รึไง”  คุณผู้จัดการเสริม

                “ได้ไง  ใครสั่ง”  เฮซองนักเที่ยวกลางคืนท้วงขึ้นอย่างฉุนเฉียว  ไม่รู้ว่านิสัยเสียแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรจ๊ะ  พ่อคุณอารมณ์ร้อนเหลือเกิน

                “ผู้บริหารสั่งมา  ฉันต้องทำตาม...เว้นเสียแต่ว่า  พวกนายจะยอมเอาพี่เลี้ยงไปด้วย”

    “ฮะ”   พูดจบก็โยนขี้  เอ๊ย  โยนหน้าที่มาให้ฉันแบบแทบรับไม่ทัน  ฉันก็เลยได้แต่อุทานเบาๆแล้วยิ้มแหยๆเหมือนเจอตลกเล่นมุขฝืด  T^T  อะไรๆก็ตู ฮือออ

                ฉันไม่ได้คิดว่ามันไม่ดีหรืออะไรนะ  ถึงแม้จะดีใจก็เถอะ...แต่แบบเจ้าตัวเขาแทบจะกลืนกินฉันเข้าไปอยู่แล้วอะ  กลัวววว...

                กลัวอย่างนั้นเหรอฮ่าๆ  ฉันก็แค่แสดงเท่านั้นแหละคิคิคิ  นี่เป็นโอกาสที่ดีที่ฉันจะได้ใกล้ชิดกับเขานะ  ต้องรีบคว้าเอาไว้  สู้ๆ

                “ไปกับยัยนี่เนี่ยนะ”  เฮซองชี้นิ้วมาที่ฉัน  ว๊ายยยเขาชี้มาที่ฉันค่า  (นางเอกมันบ้า)

                “ใช่  นายด้วยจงจุน  ถ้านายจะไปนายก็ต้องเอาพี่เลี้ยงประจำตัวนายไปด้วย”  ผู้จัดการเมินหน้าหนีเฮซองและพุ่งเป้าหมายไปที่จงจุนแทน  จงจุนยักไหล่เป็นเชิงบอกว่ายังไงก็ได้  แต่มีเหรอคนอย่างเฮซองจะยอมอะไรง่ายๆ

                “ไม่เอา  ปกติไม่เห็นมีอะไรแบบนี้เลย”

                “มาตรการใหม่  อ๋อมีเรื่องที่จะแจ้งอีกรอบคือ”  ผู้จัดการยิ้มแฮ่  แล้วเดินไปลากบางอย่างมา  มันคือกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต๊โต  “คือว่า...พอดีเอ่อ...ห้องที่ฉันพักท่อมันแตกน่ะ  เลยต้องรอช่างมาซ่อมแล้วก็เปลี่ยนพรมใหม่...ดังนั้นระหว่างนี้  ฉันก็ขอพักกับพวกนายไปก่อนนะ”

                “ฮะ!!!  คูณห้าความตกใจ

                “ขอร้องแหละนะ  ส่วนพี่เลี้ยงก็ฝากด้วยเหมือนกันนะ”  พูดรัวแบบไม่หยุดให้เถียง  ผู้จัดการคนดีก็รีบเอากระเป๋าไปเก็บไว้ข้างตู้เสื้อผ้า  จากนั้นก็วิ่งหายออกไปจากห้องอ้างว่าจะไปเตรียมรถ...

                “เรื่องเยอะมาก...”  เฮซองบ่นงุงิอะไรก็ไม่รู้คนเดียว 

                “เอาน่า  ไม่นานหรอก^^ 

                ฉันได้ยินเทโฮพูดอะไรบางอย่างกับเฮซอง  แต่เพราะมันเบามากฉันจึงฟังไม่รู้เรื่องบวกกับความไม่เก่งของตัวเองอีกเท่าตัว  เพียงแว๊บเดียวฉันก็เห็นรอยยิ้มเยือกเย็นของเทโฮ  คือ...แค่แว๊บเดียวฉันก็ขนลุกซู่โดยไม่รู้ตัว  น่ากลัว...

                บรึ๊ยยย  ไม่คิดมากนะช็อกโกล่า  ไม่มีอะไรหรอกจ้า

               

    ในเวลาต่อมา

    ฟิ้ว...

    สายลมพัดผ่านไปอย่างเงียบๆ  รถตู้ศิลปินผ่านเฉี่ยวหน้าไปเมื่อสักครู่โดยที่ไม่มีการรอ  ความหนาวเย็นเริ่มพัดโชยมา  บรรยากาศรอบข้างเริ่มมาคุมากขึ้น  ถูกทิ้ง...  เชอร์เบทก้มลงไปเก็บกระดาษโน้ตที่ถูกใครสักคนโยนลงมาแล้วอ่าน   ทันทีที่อ่านจบเชอร์เบทกำหมัดแน่นและ...ขยำกระดาษแล้วออกแรงเขวี้ยงไปไกล  ลำบากฉันที่ต้องวิ่งไปเก็บมาอ่านบ้าง  อื้ม...  ตัวนี้อ่านว่าอะไรหว่า

    ฉันเดินถือไปให้วนิลาอ่านให้  และเมื่ออ่านเสร็จเธอก็มีอาการเช่นเดียวกับเชอร์เบท  -_____-  แล้วอิฉันจะได้รู้ข้อความในนี้ไหมคะ ชิชะ  อ่านเองก็ได้

    เนื่องด้วยรถเต็ม  พวกเธอจึงต้องหาทางมาเอง  ปล.มาไม่ได้ก็ไม่ต้องมากลับประเทศของเธอไปซะ 

                                                                                        จาก  เฮซองสุดหล่อ

                    แก...  ไอ้ลูกหมา  ไปตายซะ!                  
    ________________________________________
      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×