ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #35 : File 29 : 1 Date / หึงนะเธอ / กติกาใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 464
      16
      24 พ.ย. 55



     

    File 29 : 1 Date / หึงนะเธอ / กติกาใหม่

     

                    ตอนนี้บรรยากาศรอบข้างฉันสุดจะบรรยายเลยจริงๆ  คนในร้านที่เริ่มทะยอยเข้ามาในร้าน  เพื่อที่จะมุงดูการถ่ายทำรายการ  พี่ตากล้องเองก็เริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดีนักกลัวรายการจะล่ม  ฉันเองก็ไม่ต่างกัน  คนดูก็คงจะรู้สึกสงสารยัยนาบีจริงๆ ที่นางยังไม่ได้ออกกล้องเท่าไร  แถมคู่ของเธอซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครในสองคนนี้  โอ๊ย  คนสวยก็อยู่ตรงนู่น  ทำไมต้องมาแย่งกับคนขี้เหร่หน้าเหมือนผีด้วย

                    "งั้นรุ่นพี่ได้คำใบ้ว่าอะไรครับ"  มินฮยอกถาม  พร้อมกับชะเง้อมองกระดาษาที่เฮซองถืออยู่เล็กน้อย

                    "ก็เขียนว่า  ยามราตรีเจ้าส่องแสงสะท้อนงามสง่ามาแต่ไกล..." เฮซองเริ่มอ่าน

                    อุ๊ยว๊าย  กระจกแน่นอนเลยอ่ะ!  ฉันจะได้คู่กับเฮซองจริงๆเหรอเนี่ย  ดีใจโว้ยย

                    "สว่างจ้าเด่นหล้ากระทบตา  มาสบตาชั่วครู่แล้วหายไป"

                    ใช่ชัวร์ๆ  กระจกบ้านไหนใครส่องนาน  แบบนางโผล่แวบในกระจกแล้วหายไปใช่ไหม คิคิคิ

                    "รุ่งอรุณเจิดจ้าประกายวิบ  บานสะพรั่งเต็มสวนเอ่ย"

                    พรวด

                    จะบ้าเหรอ!!  ใครจะส่องกระจกในสวนฟะ  แถมยังบานสะพรั่งอีก หน้าฉันเหรอ!  ฉันอ้าปากค้างไปแล้วสามสิบวินาที  มินฮยอกหลุดหัวเราะพรวดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ  พี่ตากล้องเองก็กลั้นหัวเราะจนน้ำตาเล็ดออกมา  เช่นเดียวกับลูกค้าคนอื่นๆในบางคน  ที่นั่งแถวบริเวณโต๊ะฉัน  พากันหัวเราะไม่พอ  บางคนที่เป็นแฟนคลับต่างพากันชูนิ้วโป้งว่าเยี่ยมมาก  คิดได้ไงแล้วใช่อะไรคิดวะ  T^T  คือฉันว่าสมองฉันมันช้าแล้วนะ  เฮซองยังช้ากว่าฉันอีก  นี่ฉันให้เขากินเนื้อมากเกินไปรึเปล่า  ฉันผิดใช่มั้ย  แง

                    "นายจะบ้าหรอ!  คิดว่าฉันหัวเหม่งเจิดจ้ายามเช้าตอนส่องกระจกในสวน  แถมหน้าฉันก็บานอีกใช่ไหมฮะ  ฟังยังไงๆก็ไม่ใช่กระจกชัดๆ"  ฉันทำปากว่าเขาแบบไม่ส่งเสียง  แต่ดูเหมือนเฮซองจะยังไม่เข้าใจ  เขาทำหน้างงๆ

                    "ฉันไม่ได้โง่นะยัยบ้า  ในข้อความหมายถึงดอกทานตะวันต่างหาก  เธอนั้นแหละยัยโง่  ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่ากระจก"  เฮซองทำปากตอบกลับมา

                    อ่านปากไม่ออกอ่ะ =__=

                    "ฮะๆ  ผมว่ามันคงไม่ใช่กระจกนะครับ"  มินฮยอกพูดขึ้นพร้อมยิ้มตัวตานิ้มๆของเขา

                    "ย๊า  ฉันพูดตอนไหนว่ากระจก  ฉันกำลังจะบอกว่าทานตะวันต่างหาก"  เฮซองพูดจบก็เดินเชิบๆ  ตรงดิ่งไปที่แจกันดอกไม้  ที่มีดอกทานตะวันปักอยู่ในแจกันสีขาวเทาเซรามิคริมโต๊ะ... "นี่ไง  ทดอกทานตะวันสีเหลือง  แถมบานสะพรั่งด้วย"

                    ดอกทานตะวันปลอม  บนโต๊ะฉันนิ  อึ้งไปมากกว่าเดิม  ตรงข้ามกับเฮซองที่กำลังยืนชื่นชมดอกทานตะวันปลอมอย่างมีความสุข  พร้อมยักคิ้วหลิ่วตาให้มินฮยอก  ที่กำลังอ้าปากค้าง  ดวงตาเล็กเบิกกว้าง  เหมือนกำลังค้นหาคำตอบว่า  เฮซองของฉันจะบ้าไปถึงไหนวะนั้น  เอ๊ะถ้าเป็นอย่างนี้ก็หมายความว่าเขาเข้าใจผิด นึกว่าฉันได้ดอกทานตะวันสินะ  บ้าเกินไปแล้ว  ที่แย่กว่านั้นคือฉันอดคู่กับเขาอะ  แงงเศร้ากว่า

                    "ฉันต่างหากที่ได้ดอกทานตะวันค่ะ  อุปป้า^^"  อยู่ๆยัยนาบีก็พูดขึ้นแทรกระว่างบทสทนาแสนยาวนานของพวกเรา  หลังจากที่เธอรู้แล้วว่าคู่ของเธอคือใคร  เธอก็เสนอหน้าออกมาทันที

                    "ฮะ  เธอเนี่ยนะ"  เฮซองยังคงสับสนและทำหน้าตาฉงน  เหมือนตอนคิดข้อสอบไม่ผ่าน  ใบหน้ามีความสุขแปรเปลี่ยนเป็นหน้าเอ๋อมากขึ้นเรื่อยๆ 

                    "ใช่ค่ะ  ฉันอึนนาบี  เจ้าของดอกทานตะวันนี่ไงคะ  ยินดีที่ได้รู้จักค่ะเฮซองอุปป้า"  นาบีพูดขึ้นพร้อมส่งยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ให้เฮซอง

                    กรี๊ดดดด  เกินหน้าเกินตาไปแล้ว  แบบนี้เฮซองฉันก็ต้องคลั่งไคล้เธอสิ  เขาบ้าผู้หญิงจะตาย  ฮือออ  ไม่เอามินฮยอกแล้ว  เปลี่ยนตัวด่วนค่า

                    "อะ...อ๋อ  นี่สรุปว่า...ผมเข้าใจผิดเหรอเนี่ย"  เฮซอง  ทำหน้ามึนงง  เอามือเกาหัวแกรกๆแก้เขิน  ก่อนจะยิ้มคืนให้ยัยนาบีหน้าสวย

                    ไม่นะเฮซอง อย่าไปยิ้มให้เธอคนนั้น  TOT 

                    ฉันยิ่งเห็นภาพตรงหน้าก็ยิ่งปวดใจมากขึ้น  นอกจากเขาจะทำร้ายจิตใจฉันแบบไม่รู้ตัวหลายต่อหลายครั้งแล้ว เขายังชอบทำอะไรเปิดเผยแบบตรงๆอีกด้วย  นั่นยิ่งทำให้ฉันรับไม่ได้  เหมือนคราวที่แล้ว...ชิ!

                    "งั้นถ้าตกลงกันได้แล้วก็ไปนั่งที่กันเถอะค่ะ  อุปป้าชอบดื่มอะไร"  ยัยนาบีพูดแล้วเขินจนบิดไปมาเป็นเกลียวคลื่น

                    "โซจู..."  ฉันที่ปากไวกว่าสมอง  ก็เผลอหลุดปากออกมาอย่างไม่คาดคิด  และไม่ได้คิดด้วย  ทำให้ทุกสายตาหันขวับมาทางฉันเป็นทางเดียว  "เอ่อ...ฉัน...ฉันหมายถึงว่าอากาศมันร้อนๆแบบนี้ ดื่มโซจูคงจะสดชื่นฮ่าๆ  เนอะว่าไหม"

                    ฉันรีบแก้คำพูดทันที  พร้อมปาดเหงื่อที่ไม่มีสักหยดแสดงให้ดูเหมือนว่าร้อนมาก  แต่เพราะว่ารีบจนเกินไปเลยไม่ได้ดูสภาพอากาศที่เย็นยะเยือก  แถมในห้องแอร์อีก  โชคดีที่ทุกคนดูเหมือนจะไม่สนใจกับคำพูดของฉันสักเท่าไร 

                    เฮซองกับยัยนาบีเดินไปที่โต๊ะกาแฟแล้วสั่งเครื่องดื่ม  ฉันกับมินฮยอกก้เลยเดินไปนั่งที่โต๊ะตัวเองบ้าง  แล้วการถ่ายทำก็เริ่มดำเนิ่นไปยอ่างที่มันควรเป็น  ดีนะไม่ใช่รายการสด  ไม่อย่างนั้นฉันว่าได้ล่มกันเป็นแถบ 

                    "สวัสดีค่ะ ฉันช็อกโกล่ายินดีที่ได้รู้จัก" แนเริ่มแนะนำตัวใหมี่กครั้ง  แสร้งว่าเราสองคนเพิ่งจะรู้จักกัน

                    "ครับ...เอ่อ...  ผมคังมินฮยอก  มือกลองวงซีเอ็นบลูครับ  ฝากตัวด้วยนะครับ"  มินฮยอกยิ้มจนตาปิดพร้อมใบหน้าสดใส  หวานๆที่คนเห็นต้องละลายให้ฉัน  ทำให้ผู้คนรอบข้างเคลิ้มตามไปด้วย 

                    "ฝากตัวด้วยเช่นกันคะ  ถ้ายังไงจะเรียกช็อกโก้เฉยๆก็ได้นะคะ  วันนี้มาทำให้เต็มที่กันเถอะนะคะ  สู้ๆ"  ฉันชูกำปั้นขึ้น  แล้วส่งยิ้มคืนให้เขา  ตามนิสัยส่วนตัวของตัวเอง  แล้วยกแกแฟขมๆขึ้นดื่มอย่างลืมตัว

                    "อ่ะ  เดี๋ยว..."  อยู่ๆมินฮยอกก็มาดึงแก้วกาแฟออกจากมือของฉัน  แล้วเรียกพนักงงานคนหนึ่งมา  "ขอช็อโกแล็ตปั่นสองแก้วครับ  แฟนผมไม่ดื่มกาแฟ"  พนักงานรับออเดอร์แล้วเดินจากไป

                    =[]=  แฟนผม?!

                    เร็วไปไหมที่มินฮยอกจะเรียกฉันแบบนี้  ถึงแม้เราจะมีเวลาเดิทกันหนึ่งวันก็เถอะ 

                    "เฮ้  ตกใจอะไรกัน  เรามีเวลาเป็นแฟนกันหนึ่งวันเต็มๆ  มาทำให้มันเป็ฯความทรงจำที่ดีกันเถอะ" 

                    เออนั้นสิเนอะ  ก็ตอนนั้นฉันเป็นแฟนคลับผู้โชคดีที่ได้เป้นแฟนไอดอลหนึ่งวันนี่นา  แล้วจะมามะวตกใจอะไรกันนนน  ลุยไปเลยคิคิคิ  แต่ไม่วาย  สายตาของฉันก็เหลือบไปมองคู่ของเอซอง  ที่คุยกันกระหนุงกระหนิงอย่างไม่เกรงใจสายตาผู้คน!  อ๊ายยย  หงุดหงิด

                    ไม่นานนักช็อโกแล็ตปั่นของโปรดของฉันก็มาเสิร์ฟ 

                    "นี่เราไปสวนสนุกกันเถอะ  ฉันอยากไปสวนสนุกคู่รักที่ฮิตกันในเกาหลีล่ะ"  ฉันพูด

                    ไม่อยากเห็นภาพบาดใจด้วย  อยากร้องไห้

                    "ใจตรงกันเลย  เชิญครับคุณผู้หญิง"  มินฮยอกลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาข้างตัวฉัน  พร้อมส่งแขนให้ควง  ฉันรีบเอามือเย็นๆเกาะแขนเขาแล้วเราสองคนก็เดินออกมาจากร้านกาแฟพร้อมตากล้อง

                    กรุ่งกริ๊ง

                    "อุปป้าไม่ได้ไปสวนสนุกนานแค่ไหนแล้วคะ  ล่าสุดตอนไปถ่ายรายการรรันนื่งวิ่งสนั่นโลกใช่มั้ย" 

                    ขวับ

                    ฉันรีบหันหลังกลับไปดูทันทีที่หูของฉันได้ยินเสียงของยัยนาบี  สองคนนั้นเดินควงแขนกันออกมานอกร้าน  พร้อมทำสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขราวกับคู่รักที่สมจริงสมจังเสียเหลือเกิน  เลียนแบบคู่ของฉันกับมินฮยอกมาก  กรี๊ด  แต่ที่ยอมไม่ได้คือนั่นเฮซอง  เขาเป็นหมูน้อยของฉันนะย่ะ!  เอ่ยไม่ใช่  เขาเป็นเด็กอยู่ในการดูแลของฉัน  หลอนมีสิทธิ์อะไรมาควงแขนเขาแล้วเอาหน้าพลาสติกมาถูๆเนี่ย  ยี๋  ปรี๊ดจะแตก  แถมแว่วๆมาเมื่อกี้ว่าจะไปสวนสนุกเหรอ  แถวนี้มันมีอยู่สวนเดียว  อย่าบอกนะว่าจะไปด้วยกันน่ะ  เหอะ!  อ๊าก  เฮซองบ้า  จะยิ้มทำไมไม่ทราบ  ชอบเหรอ?  ไม่นะ  โฮ่ๆ  นั่น  นั่นมันที่ของฉัน  ฮือออ ยัยนาบีเอามือไปแตะแก้มเฮซองแล้ว  อ๊ากจะเป็นลม  เฮ้ย!  เฮซองทำบ้าอะไรวะนั้น  กรี๊ดดด  ขยี้หัวยัยนาบีเน่าอย่างเอ็นดูด้วย  ฮือออไม่จริงไม่เชื่อ!

                    "ช็อกโก้  เธอ...เอ่อ...โอเคแน่นะ"  เสียงของมินฮยอกเรียกสติของฉันกลับคืนมาทันที

                    "ฮะ  อะไรนะ..."  แล้วฉันอยู่ที่ไหนอะเนี่ย  สับสนจัง

                    "ฉันถามว่าเธอโอเคไหม  เห็นส่องกระจกไปทำหน้าประหลาดไป  เมื่อกี้เธอแทบจะกินมันเข้าไปด้วยซ้ำ"

                    "เอ๋..."  ฉันนิ่งพร้อมทบทวนเหตุการณ์  ตอนนี้ฉันนั่งอยู่บนกระเช้าลอยฟ้าในสวนสนุก  เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรเล่นบ้าง  พร้อมชมสถานที่รอบๆ  แล้วก็  อ๋อ! เฮซองเองก็มาขึ้นกระเช้าหลังของเราสองคนเหมือนกัน  ฉันเลยเอากระจก  (มันมีดีก็ตอนนี้แหละ)  ออกมาแกล้งส่องหน้า แต่จริงๆแล้วฉันส่องคน!  "อ่า...เปล่านะ  ฉัน...เอ่อ...กำลังอยากไปเล่นไวกิ่ง  ฮ่าๆ  ใช่ๆอยากเล่นไวกิ่ง"

                    "เธอแน่ใจนะ"  มินฮยอกทำสีหน้าฉงนปนสงสัย  ฉันเลยเออๆออๆไป  หูไม่ได้ตั้งใจฟังสักเท่าไร  แล้วก็ตอบไปแบบส่งๆด้วย

                    "อื้ม  น่าสนุกดีออก"

                    "งั้นไปกัน"

                    "อื้อ..."

                   

                    โอ๊ย  ทำไมวันนี้ฉันรู้วึกร้อนรุ้มในทรวงอกแบบนี้  T^T  นี่มันเป็นเพราะฉันไม่ได้คู่กับเฮซองใช่ป่ะ  นี่เป็นเพราะฉันเห็นภาพบาดตา หรือฉันหึงกันนะ  ฉันมั่นใจแล้วว่าตัวเองชอบเฮซองมากแค่ไหน....  ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้อีกแล้ว...  เฮ้อ  คับอกคับใจมันเป็นแบบนี้สินะ  วนิลาฉันเข้าใจแล้ว  ฮือ

                    "เชิญท่านต่อไปได้เลยครับ"  เสียงของพนักงานจัดคิวเครื่องเล่นพูดขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส 

                    "เฮ้อ..."  ฉันถอนหายใจแล้วหายใจเล่า  สายตาเหม่อลอย  ฟังหูซ้ายทะลุออกหูขวาหมด  ทำให้ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังทำอะไรอยู่

                    "คาดเข็มขัดให้เรียบร้อยนะ"  มินฮยอกหันมากระซิบข้างหูของฉัน

                    "อะ...อื้อ...ฮะ"  หือ =___=  >> =[]=  ตอนนี้หน้าตาฉันเป็นแบบนี้!  ไม่อยากใส่อีโมคอนแต่มันต้องใส่  กรี๊ดดด  ฉันมาอยู่บนเรือโจรสลัดไวกิ้งได้เยี่ยงไร  ใครก็ได้บอกฉันที  "ระ  ระ  เรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงอ่า  TOT"

                    "ที่ไหน"

                    "ก็..."  ฉันกำลังจะโวยวายใส่มินฮยอก  แต่ก็ต้องหยุดค้างกลางอากาศ  เพราะว่าบุคคลที่นั่งอยู่ๆข้างฉัน  แบไหล่ชนไหล่  คือคนที่แอบมองมาตลอดทั้งวัน  อีเฮซอง  "เฮ้ย  เฮซอง  นายมาอยู่ที่นี่ได้ไง"  ฉันพูดขึ้น

                    "ทำไม  ทำไมฉันจะมาอยู่ที่นี่ไม่ได้  ของเล่นบ้านเธอรึไง"  เฮซองพูดอย่างกวนๆ

                    "นายไม่ได้แอบสะกดรอยตามฉันเหมือน...เหมือน"  เหมือนตอนนั้นใช่ป่ะ  ฉันชะงักแหละรีบเก็บคำพูดทันที  ลืมไปว่าออกสื่ออยู่จะเสนอหน้ามากไม่ได้  เดี๋ญวจะโดนดักตบนะคะท่านผู้โชมม

                    "น้อยๆหน่อย  ใครเขาอยากจะตามเธอกันฮะ"

                    วืดดดด

                    เอ๊ะ...เกิดอะไรขึ้น  อยู่ๆมือก็เริ่มสั่นเล็กน้อย  อย่าบอกนะว่ามันกำลังจะ...!

                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด x10

                    "แงงง  หนูกลัวแล้ว  เอาหนูลงไปเถอะ  แว๊ดดดดด"  ฉันกรี๊ดสุดเสียงเท่าที่จะทำได้  มือเกาะที่กั้นช้างหน้าแน่น   หัวใจหล่นวูบวาบไปที่ตาตุ่มกระเด็นลงพื้นไปเรียบร้อย  ตั้งแต่ที่ไวกิ้งเหวี่ยงสามร้อยหกสิบองศาฉันก็ไม่สามารถหยุดกรี๊ดได้อีกเลย   "กรี๊ดดดดดดด  ฉันจะลง  ปล่อยฉันลงไปเถอะ"

                    ครืดดด

                    แล้วไวกิ้งก็สงบลง  แต่หัวใจฉันยังเต้นโครมครามไม่หยุด  สภาพเหมือนผ่านการตายมาหมาดๆ  สิ่งที่รับรู้ได้ตอนนี้คือ มืออุ่นๆของใครบ้างคน  กำลังกุมมือฉันของฉันแน่น  ฉันลมตาขึ้นมา  มองหาความอุ่นนั้น  มือนั้น...เฮซอง...นาย

                    "นะ...นายก็กลัวไวกิ้งเหมือนกันใช่ไหม"  ฉันถามไปปาดน้ำตาไป 

                    แป่ว!  ตูลืมซึ้งไปสิบวิ  ถามอะไรออกไปฟะฉัน  T^T

                    "ใช่ที่ไหนกันเล่า"  ว่าแล้วเฮซองก็เอามือออกจากมือของฉัน   "ก็เธอกรี๊ดอย่างกับโลกจะแตกเป็นเสี่ยงๆ เธอเนี่ยน้า..."  พูดจบก็เอามือมาปัดผมที่เปียกโชกไปด้วยน้ำตาของฉันขึ้นไป 

                    "เอ่อ..."

                    "รุ่นพี่ช่วยเอามือออกไปจากแฟนผมจะได้ไหมครับ"  มินฮยอกพูดแทรกขึ้นระหว่างบรรยากาศแสนโรแมนติก

                    "ฮะ  ยะ...คนนี้แฟนนาย  ฉันว่านายน่าจะเรียกคู่เดทมากกว่านะ  คำว่าแฟนมันเร็วเกินไปรึเปล่า  พวกนายยังดูเด็กเกินไปนะฉันว่า"  เฮซองพูด

                    แล้ว  มันเกี่ยวอไรกับเขาวะนั้น  หรือว่า...หมอนี่หึงฉันเหรอ >.<

                    "รุ่นพี่ควรสนใจคู่ของตัวเองดีกว่า  ดูเธอยังไม่หายตกใจเลย"

                    ว่าแล้วเฮซองก็หันไปมองคู่หูของเขา  ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะเป็ฯจะตายมากกว่าฉันร้อยเท่า  อ่ะ  ที่เขาบอกว่ามารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนนี่จริงสินะ 

                    "อุปป้า  ฉันจะกลัวมากเลยค่ะ"  ยัยนาบีรีบวิ่งมาเกาะแขนแฮซองทันที  ที่พวกเราลุกจากที่นั่ง 

                    "ไม่เป็นไรนะ"  เฮซองทำหน้าเซ็งก่อนถาม

                    "ไม่ค่ะ  ฉันคอแห้งมากเลย   เราไปหาน้ำกินกันเถอะ"

                    กรี๊ดดดด  ยัยบ้ามารยาแท้ๆเลยนี่หว่า  T^T

                    "มินฮยอก!  เราไปกินน้ำกันเถอะ  ฉันก็หิวเหมือนกัน" 

                    แล้วเราสี่คนก็มายืนแออัดท่ามกลางฝูงแฟนคลับที่มารุมล้อมจะซื้อน้ำร้านเดียวกับพวกเรา  แม้จะมีการ์ดกั้นเอาไว้ก็ตาม  พี่ตากล้องเองก็ลำบากในการถ่ายไม่น้อย  ตอนนี้มีเพียงเฮซองคนเดียวที่เบียดเข้าไปซื้อน้ำได้  เขาเลยอาสาจะซื้อน้ำมาให้  แล้วให้พวกเรารออยู่ข้างนอก

                    "เฮ้  นายจะกินน้ำอะไรมินฮยอก  พวกเธอสองคนเดียว"  เขาตะโกนข้ามฝั่งมาซึ่งไม่ได้อยู่ไกลกันนัก

                    "เอาโค้กสามกระป๋องครับ"  มินฮยอกขานรับ

                    เง้อ...ฉันกินโค้กไม่ได้  ฉันเมา  ฉันอยากบอกออกไปแบบนั้น  แต่การ์ดดันเอาสอกดันหน้าฉันแทบหงาย  สุดท้ายเฮซองก็ซื้อน้ำมาจนได้ เขาแจกน้ำให้แก่ทุกคน  รวมถึงฉัน... 

                    "เอ่อ..  เฮซอง  ฉันมีอะไรจะบอก"

                    "อะไร" 

                    "ฉันเมาน้ำอัดลมกระป๋องอะสิ  TOT"  ฉันกระซิบข้างหูเขา 

                    "ยัยขี้โม้  คนบ้าอะไรจะเมากะอีแค่น้ำอัดลมเนี่ยนะ"

                    "เออ  คนบ้าแบบฉันเองแหละ..."

                    ฉันเลี่ยงที่จะไม่ดื่มน้ำ  แล้วถือเอาไว้อย่างนั้น  อีตาบ้าเฮซอง  ชิ

                    "เอ้า  น้ำฉันเองแหละ  เอาไปดื่มเถอะ"  เฮซองยื่นขวดน้ำของตัวเอง  ที่แบกมาจากร้านกาแฟเมื่อเช้า  ส่งให้ฉัน  ฉันทำตาโตแบบไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เดี๋ยวนะนี้เขาให้ฉันดื่มน้ำขวดเดียวกับเขาเหรอ  จูบทางอ้อมใช่ไหม  อ๊ายยคิดไปไกลฮ่าๆๆ 

                    "ขอบคุณนะ"

                    ฉันรับมาดื่มอย่างตื่นเต้น  หลังจากนั้นพวกเราก็พากันเดินเบียดฝูงชนไปมา 

                    "อ่ะ!  เท้าฉัน  T^T"  ฉันเอง

                    พลัก!  <<ฉันเองอีก

                    ในที่สุดพวกเราก็ถูกปกป้องอย่างปลอดภัย  นี่มันอะไรกัน!!  ฮือออ  ดีนะถ้าการ์ดไม่มาเพิ่มจำนวนคนฉันว่า  ฉันคงเลาะเป็นกล้วยปิ้งไปแล้ว  ฉันก็มาถ่ายรายการนะเฟ้ย  ทำไมทำกับฉันแบบนี้ 

                   

                    "เอาล่ะครับ  เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวายมากเมื่อสักครู่  ตอนนี้เราเลยจะเปลี่ยนกิจกรรมการเดทให้อยู่กับที่และน่าสนุกสมกับเดทไอดอลสเปเชี่ยลสุดพิเศษครั้งนี้นะครับ  โดยเราจะให้พวกคุณสามคู่เล่นเกมออกเดทมาราธอน  กติกาคือคุณต้องรับภารกิจแล้วทำภารกิจให้ผ่านและเก็บสะสมคะแนนให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เป็นผลดีต่อภารกิจสุดท้าย  คู่เดทไหนสะสมคะแนนได้มากก่อนจะชนะไป  อ๊ะอ๊ะอ๊ะ  อย่าเพิ่งครับใจเย็นๆคุณเฮซองครับ  คุณช็อกโกล่าครับ   กรุณาฟังกติกาให้จบเสียก่อนครับ  เพราะว่ามันอาจจะเป็นเกมที่น่าเบื่อหน่าย  ดังนั้นเราเพิ่มกฏที่มีชื่อว่า  กฏแห่งการเปลี่ยนคู่  แน่นอนว่าทุกคนอาจจะไม่ได้ชนะไปพร้อมคู่ที่ตัวเองคู่มาตั้งแต่แรก  แต่อาจจะไปคู่กับอีกคนหนึ่งครับ  เราจะใช้วิธีจับฉลากเอาในแต่ละครั้งที่เริ่มเกม  ตอนนี้เราเปิดให้ผู้ชมที่อยู่ที่สวนสนุกแห่งนี้  โหวตใครที่คุณคิดว่าจะชนะและได้คู่กัน  ใครที่สามรถทายถูก  เราจะเอามารวมกันและจับรางวัลหาคนที่ได้สามคนแรก"  พิธีกรที่เป็นทีมงานร่ายยาว 

                    ชั่วพริบตาบริเวณโดยรอบถูกกั้นไว้ด้วยรั้วเหล็กความสูงเท่าเอวอย่างรวกเร็ว  อีกทั้งยังมีการ์ดยืนเป็นผู้คุมห่างๆกัน   ตอนนี้ผู้คนในสวนสนุกเริ่มทยอยกันเดินมานั่งบ้างยืนบ้างล้อมรอบรั้วเหล็ก  บางคนก็เป็นแฟนคลับตัวเป็นๆ  บางคนก็เป็นเช้าบ้านหรือครอบครัวธรรมดา  พวกเราไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองได้เดินมาอยู่จุดกึ่งกลางวงล้อมนี่เมื่อไร 

                    "เอาไงดี  ดูเหมือนว่าเราต้องแยกจากันนะคะอุปป้า  ฉันไม่อยากเลยอะ  T^T"  ยัยนาบีพูดขึ้น 

                    "อื้อ  ก็ไม่เป็นไรนิ"  เฮซองพูดขึ้น  ท่าทีไม่กังวลใดๆเลย                                                          

                    เอ๊ะเดี๋ยวนะ...  งั้นฉันก็สิทธิ์ที่จะคู่กับเฮซองอะสิ  กรี๊ดดดด  โคตรโชคดีเลยฉัน  ไม่แน่นะๆ  คิคิคิ  แต่เห็นดวงของฉันช่วงนี้เศร้าเลยแฮะ  ไม่ได้ดีอะไรเลยสักอย่าง  วางแผนบ้าบอจนต้องมาตกระกำช้ำชอกกันทุกคนถ้วนหน้า 

                    "ช็อกโก้เธอพร้อมนะ"  มินฮยอกถาม

                    "อื้อพร้อม"  ฉันชูกำปั้นขึ้นโชว์พลังให้มินฮยอก 

                    "ทุกคนพร้อมนะครับ"  แล้วพี่ทีมงานก็มาติดไมค์ให้เราพร้อมกับส่งสัญญาณมือ 

                    เอ๊ะ - -  เมื่อกี้เฮซองเขาแลบลิ้นใส่หน้าฉันเหรอ  อีตาบ้านิ  คอยดูนะฉันจะจับฉลากให้คู่กับนายเลย  คิคิคิ

                    ทีมงามเริ่มนับถอยหลังของการถ่ายทำที่กระทันหันและไร้สคลิป

                    " หนึ่ง  สอง..."

                    จังหวะที่กำลังจะก้าวขาวิ่งนั้น

                    "ช็อกโก้ฉันชอบเธอ..."  เสียงพูดของคนที่กำลังจะจับมือกันออกวิ่ง..."ฉันชอบเธอจริงๆ..."



     
    © Tenpoints !
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×