ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Because I'm Crazy เพราะฉันมันบ้ารักเธอสุดสุด ❤♪

    ลำดับตอนที่ #12 : File 08 : ความจริงเป็นสิ่ง(ไม่)ตาย / หลอก / หลง (60%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 432
      1
      4 มี.ค. 55

    File 08 : ความจริงเป็นสิ่ง(ไม่)ตาย  / หลอก / หลง

     

    ฉันกำลังนั่งอึ้งกับหลายๆสิ่งในเช้าวันนี้  ขณะที่กำลังทำอาหารและพวกเราก็กำลังเม้าตามประสา  อย่างแรกคือ  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าช็อกโกล่าเธอจะกล้าทำเฮซองขาเข้าเฝือก  เหตุเพราะการเล่นโบว์ลิ่งของเธอ  โอ้แม่เจ้า  อีกปัญหาหนึ่งคือพฤติกรรมแปลกๆของจองมิน  เมื่อคืนไม่ทันได้ฟังอะไรเท่าไรเลยไม่ติดใจสงสัยอะไร  แต่วันนี้พอมานั่งคิด  ฉันว่าทุกคนที่นี่แปลกกันหมด  ตั้งแต่ผู้จัดการถึงหนุ่มๆ  บางที...สิ่งที่ซูชิคิดอาจจะจริงก็ได้

     

                    “นี่  อย่าว่าแต่เรื่องของพวกฉันเลย  แกก็เอาเงินเดือนเดือนหน้าไปซื้อกีตาร์ให้ซุนวูด้วยใช่ไหม”  ช็อกโกล่าพูดขึ้น

                 “ไม่สำคัญเท่าไรหรอก  อย่างน้อยฉันก็มีพวกแกไง  ฮ่าๆๆ  แต่เรื่องขาของเฮซองเนี่ยสิที่เรื่องใหญ่  ถ้าคนอื่นเห็นว่ามันเป็นความผิดแก  ช็อกโก้  แกอาจถูกส่งกลับประเทศก็ได้นะ”  ฉันพูดเสร็จก็ยกจานไปเรียงที่โต๊ะ  แล้วถอนหายใจเฮือกหนึ่ง  เรื่องเมื่อวานอย่างกับฝันแหนะ...

                    แอ๊ดดด

                    ไม่นานนักประตูห้องนอนของเฮซองก็เปิดออกมา  พร้อมกับสภาพไม้เท้าข้างหนึ่ง  ที่พยุงตัวเองให้เดินไปยังโซฟา  ผู้จัดการที่โดนเบียดเบียนที่นอน  ก็รีบลุกขึ้นช่วยคนเจ็บ

                    “โอโฮ้  วันนี้มีงานแจกลายเซ็นซะด้วย  แถมยังให้สัมภาษณ์นิตยสารอีก  จะไว้ไหมเนี่ย”

                    “ไม่รู้  ยังไงก็ต้องไปหาแฟนคลับที่น่ารักอยู่ดีนั้นแหละ”  เฮซองตอบกลับ  สีหน้าแบบว่าอยากฆ่าช็อกโกล่าเต็มแก่

                    “แล้วจะบอกต้นสังกัดว่าอะไรดีล่ะ  ฉันว่านายน่าจะพักผ่อนอยู่ที่บ้านมากกว่านะวันนี้”

                   “ไม่ได้เด็ดขาด  พวกแฟนๆกำลังรอผมอยู่นะ  แค่นี้ไม่เจ็บเท่าไร  ไม่เจ็บเท่ากับเจ็บใจ  มาทำงานวันแรกก็เกิดเรื่องเกือบตาย  เหอะ  คอยดูฉันพูดอะไรออกไปเธอไม่รอดแน่ๆ  ยัยตัวซวย!

                    =[]=!  แรงมากเจ้าค่ะ 

                    ฉันที่ฟังออกทุกคำของเฮซองถึงกับตกใจมากที่เขาใช้ภาษารุนแรง  ประชดใส่ช็อกโกล่าด้วยความโกรธ  ถึงขั้นอยากจะเด็ดเธอออกจากพี่เลี้ยงเลยทีเดียว  แต่...ดูเหมือนว่าช็อกโกล่าเธอจะไม่ได้ใส่ใจและทำสีหน้าเฉยๆกับคำพูดเหล่านี้

                    นี่เพื่อนฉันเป็นเอ็มหรือเปล่าว่ะ   แอบกังวลเล็กน้อย

     

                    และแล้วในที่สุดทุกคนก็มานั่งทานข้าวเช้าพร้อมหน้าพร้อมตากันเป็นครั้งแรก  ถึงแม้อาหารจะอร่อยสักแค่ไหน  แต่บรรยากาศรอบๆตัวนั้นไม่ชวนอยากให้ทานเอาเสียเลย  เพราะว่ามีรังสีแผ่กระจายชวนสะอิดสะเอียนใจ  ฉันหันไปสบตากับชายตรงหน้า  หวังอย่างยิ่งให้เขาหันมายิ้มตอบแต่...ก็เปล่า

                    ตารางงานวันนี้คือสัมภาษณ์ที่บริษัทนะ  ตอนเย็นมีไปแจกลายเซ็นต่อก็เป็นอันจบ  ส่วนเรื่องอาการที่ขาเนี่ย  ฉันอยากให้เธอระวังให้มากกว่านี้นะช็อกโก้  ฉันจะแก้ตัวไปว่าเกิดอุบัติเหตุระหว่างออกกำลังกายแล้วกัน  ไม่งั้นเธอจะโดนผู้ใหญ่ว่า  ฉันก็จะลำบากไปด้วย  เฮ้อออ  รีบกินเถอะเดี๋ยวจะต้องไปกันแล้ว”  ลุงผู้จัดการ

                    “ขอบคุณค่ะ”  ช็อกโกล่าที่รู้สึกเหมือนยกภูเขาอกก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกลับมาร่าเริงแล้วส่งยิ้มหวานให้เฮซอง  แต่เฮซองก็ทำท่าทางเหมือนแขยงเธอเต็มทน 

                    อ๊ายยหรือช็อกโกล่ามันเป็นเอ็มจริงๆ  ชอบความรุนแรง

                    ณ.บริษัท FNC

                    “กรี๊ดดดโอปป้า  หันมาทางนี้หน่อยค่าาาาา”  เสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าพลพรรคแฟนคลับที่มาดักรออยู่หน้าบริษัทร้องขึ้น  เมื่อเห็นพวกหนุ่มๆเดินมา

                    ฉันรีบเดินประกบซุนวูทันที เพราะกลัวจะมีอะไรเกิดขึ้น ตามมาด้วยบอร์ดี้การ์ดรุ่นพี่บิ๊กอีกหนึ่งคนประกบฉันอีกที  ทำให้ตอนนี้ฉันถูกขนาบข้างแทน  อร๊ายยแถมแฟนคลับก็เบียดเสียดเข้ามาอีก  ตอนนี้ฉันกับซุนวูแล้วก็พี่การ์ดหน้าโหดแทบจะกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  T^T  เฮลมีจ้า

                    “ซุนวูนายอย่าเบียดมาได้ไหมอ่ะ”  ฉันทักขึ้น

                    “ฉันก็ขยับไปไหนไม่ได้เหมือนกันนั้นแหละ”

                    ตอนนั้นเองที่ฉันกับซุนวูหันหน้ามาชนกันพอดิบพอดี...ทำให้ปากเราสองคนเฉียดกันเล็กน้อย  ฉันรีบหันหน้ากลับไปหาพี่การ์ด  หลบใบหน้าที่แดงก่ำเอาไว้  ตอนนี้หัวใจของฉันเต้นรัวเสียจนไม่อยากให้ใครได้ยิน...

                    อุ๊ยว๊าย  ฉันเกือบจุ๊บกับเขาโดยไม่ตั้งใจออกสื่อไปแล้ว เขาตอบกลับฉันอ่ะ  กรี๊ดดดเขิน   (นางเอกออกนอกหน้ามากจ้า)  ฉันรีบหันกลับมาพูดแก้เขิน

                    “เมื่อไรจะเดินไปถึงสักทีล่ะเนี่ย  ตอนนี้ฉันไม่ได้ก้าวเดินเลยนะ  มันไหลไปเอง  T^T

                    “ฉันก็เหมือนกัน  เอิ๊กๆ  เย็นนี้เจอกันที่งานไซต์นะครับ”  ซุนวูที่ดูเหนื่อยๆ  อยู่ๆก็ยกแขนโบกมือทักทายแฟนๆพร้อมพูดเหมือนคุยกับเพื่อน  ฉันล่ะทึ่งจริงเลย  ไม่อยากเชื่อว่าเขารักแฟนคลับจริงๆ

                    “กรี๊ดดดด  ฉันได้ไปด้วยละ  อย่าลืมทักฉันด้วยนะ” 

                    โอ๊ยหูตูจะแตก 

                   

                    กว่าพวกเราห้าคนจะถอดสังขารออกมาจากที่ตรงนั้นมาได้  ก็เล่นเอาปางตาย  ผมเพ้าที่เซ็ทมาอย่างดีพังพินาศกลายเป็นยายเพิ้งไปถนัดตา  คนทั้งบริษัทหันมาให้ความสนใจพวกฉันขณะที่เดินตามศิลปินพร้อมกับหัวเราะเบาๆ  แต่ฉันได้ยินนะยะ  เธอบอกฉันโทรมเหมือนป้า  ฮือออ

                    ไม่นานนักก็เดินมาถึงห้องให้สัมภาษณ์  ภายในห้องนั้นมีหญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆนั่งรออยู่  พร้อมกับช่างภาพหนึ่งคนผู้ชายตัวสูงโปร่ง  พวกเขาส่งยิ้มให้พวกเราเล็กน้อยก่อนจะหยิบอุปกรณ์อย่างเครื่องอัดเสียง  สมุดปากกาบลาๆ  ก่อนจะทำการสัมภาษณ์เป็นคำถามแบบถามตอบ  ซึ่งคนแรกที่ได้รับเลือกให้ถูกสัมภาษณ์ก่อนก็คือซุนวูที่น่ารักนั่นเอง

                    ห้าหนุ่มที่นั่งในท่าทางสบายๆเหมือนชินกับการทำงานแบบนี้  ก็หยอกล้อกันไปมา  ฉันตั้งหน้าตั้งตารอคำถามแรกทันที  ต่อไปนี้ในวงเล็บคือความคิดฉัน

                    “ก่อนอื่นเลยอยากถามคำถามทั่วไปก่อน  ในอัลบั้มมีเพลงหนึ่งที่รู้สึกซุนวูจะเป็นคนแต่งเองใช่ไหมคะ”

                    “ใช่ครับ  ผมแต่งตอนที่นึกถึงอะไรดีๆ”  ซุนวูตอบพร้อมรอยยิ้ม  (น่ารักที่สุด)

                    “ฮะอะไรคืออะไรดีๆของนาย  ผู้หญิงใช่ไหม”  เฮซองพูดขัดขึ้นมา  สร้างเสียงหัวเราะให้กับสมาชิกคนอื่นๆ

                    “อะไรดีๆก็คืออะไรดีๆ  ฮยองชอบคิดแต่เรื่องผู้หญิงนั้นแหละแล้วโยนให้ผมตลอด”  ซุนวูค้าน  แต่สีหน้าก็แสดงออกถึงความเขินอาย  (เอ๊ะยังไง)

                    “แสดงว่าต้องดีมากๆเลยนะคะ  เพราะเพลงที่แต่งกินใจแฟนเพลงทุกคน  แถมยังกวาดชาร์ตทุกชาร์ตเรียบเลย”  หญิงสาวถามขึ้นอีก

                    “ครับ  จริงๆพี่เทโฮก็ช่วยแต่งครับ”

                    “ใช่ๆ  ผมแต่งสามคำเอง”  เทโฮพูดขึ้น

                    “เอ๊ะคำไหนบ้างคะ”  หญิงสาวถาม

                    “ซารางเฮครับ”  (กรี๊ดดดดด  ชวนคิดลึก)

                    “ฮ่าๆๆ”

                    แล้วหนุ่มๆก็หัวเราะกันยกใหญ่กับความขี้เล่นของลีดเดอร์สุดหล่อมาดเจ้าชาย  แน่นอนว่าคำถามอื่นๆก็ตามมาเรื่อยๆ  จนกระทั่ง...คำถามเรื่องรักๆ

                    “รักแรกของคุณล่าสุดคือตอนไหนคะ”

                    “อื้มมม  ก็คงตอนก่อนเข้าวงการครับ  ตอนนั้นผมแอบชอบคนๆหนึ่งอยู่  แต่ไม่ได้บอกให้เธอรู้...”  ซุนวูยิ้มบางบางเพียงแว๊บหนึ่งก่อนจะกลับมายิ้มสดใสเหมือนเดิม

                    “แล้วตอนนี้คุณชอบเขาอยู่ไหมคะเนี่ย”

                    เอ๊ะ  ฉันไม่อยากจะฟังเรื่องแบบนี้...  ทำไมฉันถึงเจ็บที่หัวใจจังเลยนะ

                    “...มะ...ไม่หรอกครับ  พวกเราเลิกติดต่อกันนานหลายปีแล้ว  ผมก็มีแฟนคลับที่น่ารักแล้วผมก็รักพวกเธอครับ  คงไม่นอกใจครับ”  ซุนวูตอบ

                    ใช่เขาตอบแบบไม่เต็มปากด้วยนี่นา  เขามีคนที่ชอบด้วยเหรอ...

                    ตอนนี้ในสมองที่ว่างเปล่าของฉันก็มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน  ใจเต้นรั่ว  สั่นไปหมด  ฉันไม่แน่ใจว่าอาการแบบนี้เรียกว่าอะไร  แล้วทำไมฉันถึงรู้สึกอยากร้องไห้มากขนาดนี้  ทั้งๆที่เขาก็บอกไปว่ามันผ่านมาหลายปีแล้ว  แต่ฉันรู้สึกได้ว่าเขา...  ไม่หรอกน้า 

                    “วนิลา  แกโอเคนะเป็นไรป่าววะ  ดูหน้าแดงๆ”  เชอร์เบทพูดขึ้น

                    “อื้มโอเคนิ  ทำไมอะ”

                    ฉันแกล้งตีหน้าเนียนต่อไป  นี่ฉันเป็นอะไรไปแล้วนะ  ฉันหวังอะไรอยู่รึเปล่ากับระยะเวลาสั้นๆแบบนี้... 

     

                    การสัมภาษณ์คนอื่นก็ผ่านไปเรื่อยๆจนจบภารกิจในตอนเช้าของวันนี้ ผู้จัดการบอกว่าใกล้จะหมดช่วงโปรโมทแล้ว  แต่กว่าจะถึงช่วงนี้คงต้องรอสักหน่อย  หลังจากนั้นก็ได้เวลาทานข้าวเที่ยงพอดี  ที่บริษัทนี้มีโรงอาหารสำหรับพนักงานอยู่ชั้นล่าง  ราคาย่อมเยาและสบายกระเป๋า  ถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณสามสิบบาท  ที่นี่มีอาหารเป็นชุดให้เลือกจิ้ม  แต่จะมีกิมจิเป็นอาหารหลักของแต่ละชุด  อาหารแต่ละอย่างดูน่าอร่อยไปหมดจนพวกฉันยืนเลือกแถมไม่ถูก

                    ฉันลืมเรื่องที่เศร้าแล้วมาลงมือทานอาหารเที่ยงแสนอร่อย  กับพนักงานบริษัท  อ๋อพวกเรามีบัตรพนักงานฝึกงานแขวนอยู่ที่คอด้วยค่ะ  ดูเท่ไม่หยอกเลยอิอิอิ

                    “เฮ้ยยย  ของแกน่ากินอะวนิลา  เอาหมูอบมาแลกกับมันบดป่ะ”  ไอซิ่งพูดจบก็คีบเอาหมูฉันไปแล้วเอามันบดหยอดลงจานฉัน

                    “อ่าว  ฉกไปแบบเนียนๆ”

                    พวกเรานั่งกินข้าวหัวเราะรัวกันจนลืมไปว่ายังมีคุณผู้จัดการนั่งอยู่ด้วยอีกคน

                    “เฮ้  พวกเธอฉันก็นั่งอยู่ด้วยคนตรงนี้นะ”  ผู้จัดการร้องท้วงขึ้น

                    “ว่าแต่ทำไมลุงมานั่งท่านกับพวกเราอะ  ไม่ได้ทานกับพวกรีเทิร์นเหรอ”  ฉันถามขึ้น

                    เนื่องจากว่าพวกรีเทิร์นนั้นมีอาหารแยกไปอีกต่างหาก  ทำให้ไม่ต้องลงมาทานข้าวชั้นล่างแบบพนักงาน 

                    “ก็ปกติฉันก็มากินที่นี่แหละ  ทำไมอะเห็นฉันอย่างนี้ฉันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกเธอหรอกนะ”

                    “อ๋อ  ใช่คุณมันก็แค่พนักงานที่บังเอิญได้ดี”

                    นี่ไม่ใช่คำพูดถากถางจากพวกฉันห้าคน แต่ต้นเสียงมาจากผู้หญิงที่สวยเปรี้ยวบาดใจกับชุดแซกสีดำเหลือบขาวสุดเซ็กซี่  ผมบ๊อบสีดำชวนมอง 

                    “คุณยุนอานั่นเอง”  ผู้จัดการยิ้มหน้าบานทันทีที่รู้ว่าเป็นเสียงใคร

                    “สวัสดีค่ะคุณคิม  ฉันเพิ่งทราบเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุของเฮซองที่เกิดจากการไม่ดูแลเอาใจใส่ของคุณแล้ว  และฉันก็หวังอย่างยิ่งว่า  คุณจะไม่ได้ให้ความเท็จเพื่อปกป้องใครหรือแก้ตัวแทนใคร”  คุณยุนอาพูดจบ  ผู้จัดการก็ถึงกับสำลักข้าวจุกคอ  “ทำไมคะ  คุณกลัวว่าจะทำงานที่ได้รับมอบหมายไม่สำเร็จหรือว่า...ถ้าใครถูกไล่ออก  คุณจะต้องผิดข้อตกลงแล้วก็จะถูกไล่ออก  ว่าไงคะ”

                    ข้อตกลง??

                    ฉันกับเพื่อนๆได้แต่มองสถานการณ์อย่างไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าซูชิผู้นำของกลุ่มเริ่มทำสีหน้าตกใจออกมา 

                    “ผมทราบดีครับ  แต่ที่ผมทำไปไม่ใช่เพราะกลัวตัวเองถูกไล่ออก  เปล่าเลยที่ผมทำเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ผู้นำเขาทำกัน  ขอบคุณที่คุณยุนอาอุตส่าห์มาแนะนำนะครับ”

                    “หึ  ไม่เป็นไรค่ะ”  พูดจบเธอก็เชิดหน้าสวยๆกับหุ่นเซ็กซี่บาดใจของเธอออกไป

                    ทำให้บรรยากาศที่สนุกสนานเมื่อสักครู่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน  ซูชิที่เก็บความสงสัยไม่อยู่จึงเป้นคนเอ่ยปากถามก่อน

                    “เรื่องอะไรกันเหรอคะ  ทำไมคุณต้องปกป้องพวกเราด้วย”

                    “คือ...จริงๆแล้ว”  คุณผู้จัดการเว้นวรรค  เหมือนกับกำลังตัดสินใจบางอย่าง  ก่อนจะเล่า  “ที่ฉันยอมตกลงให้พวกเธอมาทำงานที่นี่ได้แบบง่ายๆ  เพราะว่าตอนนั้นฉันทำข้อตกลงไว้ว่า  ภายในสามเดือนจะต้องหาคนที่มาควบคุมดูแลพวกรีเทิร์นให้ได้  ไม่อย่างนั้นฉันจะถูกไล่ออกจากที่นี่  ซึ่งตอนนั้นฉันดีใจมากที่อยู่ๆพวกเธอมาช่วย  ความจริง...”

                    “ยังมีความจริงอะไรอีกเหรอคะ”  ซูชิถาม

                    “ความจริงแล้วงานนี้เป็นงานของพี่ชายฉัน  แน่นอนว่าเขาทำงานดีมากจนพี่ฉันเสียไป  ท่านประธานก็ชวนฉันมาทำงานแทนตำแหน่งที่พี่ชายทำ  แต่คุณยุนอาไม่ยอมฉันเลยจำเป็นต้องยอมรับเงื่อนไข  เพราะว่าพวกรีเทิร์นจริงๆแล้วพวกนั้นร้ายกาจมาก  ทั้งที่ฉันรู้แต่ก็ดึงพวกเธอมาเกี่ยวข้องด้วย  ฉันต้องขอโทษจริงๆ”

                    “ฮะ  ห้าคนนั้นเนี่ยนะที่ร้ายกาจมาก  ไม่เท่าไรหรอกมั่งคะ”  เชอร์เบทพูด

                    “ตอนแรกฉันก็คิดอย่างนั้น...  ช่างมันเถอะ  พวกเธอไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”

                    “ได้โปรด  เล่าให้จบด้วยเถอะค่ะ  วันนี้!

                    และนั้นเป็นคำขอของฉันที่ฉันคิดว่า  ฉันไม่น่าจะมารับรู้เรื่องแบบนี้...เรื่องที่ไม่น่าเชื่อ  ฉันอาจมองพวกนั้นผิดไป  พวกเขาคือปีศาจดีๆกันนี่เอง!!  พวกนั้นวางแผนการทั้งหมด  แกล้งทำดีกับพวกฉันเพื่อจะแกล้ง  อย่างจองมินแกล้งทิ้งเชอร์เบทเอาไว้  นั้นก็แผนการของเขา  แล้วซุนวูล่ะ  ซุนวู...นายแกล้งฉันหรือเปล่าคำพูดของนาย...

                    “แล้วคุณรู้เรื่องนี้ได้ไงกันอะ  แล้วทำไมเพิ่งจะมาบอกกันล่ะ”  เชอร์เบทเดือดขึ้นมาทันทีที่รู้ความจริง

                    “ใจเย็นๆ  ที่เล่าให้ฟังเพราะอยากให้ระวังตัวกันมากๆ  ฉันว่าพวกเขาอาจไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร  อย่างเมื่อวานเขาก็เป็นคนโทรให้ฉันไปรับเธอนะเชอร์เบท  ส่วนเฮซอง  จริงๆแล้วเขาเป็นคนตรงไปตรงมา  เห็นแบบนั้นเขาก็เป็นคนดี  ซุนวู  เขาเป็นคนที่ตรงข้ามกับที่แสดงออกกับเธอทุกอย่าง  เทโฮ  คนนี้ฉันไม่ค่อยรุ้เรื่องเท่าไร  เพราะเขาเงียบๆนิ่งๆ  จงจุน  คนนี้เพลย์บอยนิดนึงเธอคงเหนื่อยหน่อย  และทั้งหมดนี้ฉันบอกกับพวกเธอทุกอย่างแล้ว  ดอเคฉันสบายใจแล้ว”

                    “เดี๋ยวๆ  ตกลงคือคุณปิดบังเราแค่นี้   โธ่เอ๊ยนึกว่ามีเรื่องใหญ่โตอะไร”

                    “พวกนั้นเขาไม่ชอบให้ใครมาเจ้ากี้เจ้าการ  ฉันกลัวว่าพวกเธอจะรับมือไม่ไหว”

                    “โอ๊ยแค่นี้เอง  คอยดูฉันจะมัดใจเขาให้ได้”  ช็อกโกล่าพูดจบก็ยกกำปั้นขึ้น

                    “อ๋อ  พวกเธอรู้กฎของที่นี่ใช่ไหม  ห้ามหลงรักศิลปินเด็ดขาด”

                    โอ๊ยยยไม่รู้วันนี้มีเรื่องอะไรอีกมากมายจนฉันรู้สึกปวดหัวสุดๆ  แต่ก็รู้แล้วว่าจริงๆซุนวูเป็นคนยังไงแล้วฉันก็จะทำให้เขายอมรับฉันให้ได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×