คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : โรคหัวใจกำเริบ Love
8 โรคหัวใจกำเริบ Love
“ งื้มๆงำๆ”
ฉันกำลังนอนกินลม อย่างสบายใจ ลมพัดเย็นฉ่ำอยู่ตรงสวนหย่อมของโรงเรียน เฮ้อ~ แล้วจู่ๆยัยตาลเพื่อนตัวแสบก็โผล่หน้ามา
“จ๊ะเอ๋!” ยัยตาล
“เห้ย!! ยัยเพื่อนบ้าโผล่หน้าเงียบๆ ถ้าฉันเผลอเตะจะทำยังไง” ฉันโวยวายใส่ตาลจนตาลทำหน้ามุ่ย เฮ่ๆฉันไม่หลงกลเจ๊หรอกน้าเข็ดแล้วฮ่าๆ
“นี่แกจะไม่ง้อฉันหน่อยเหรอ” ยัยตาลถามพลางทำหน้าละห้อย ตั้งแต่เข้าชุมนุมละครได้นี่ดูแสดงเนียนขึ้นนะเนี่ย
“ไม่เล่นด้วยนะ วันนี้ไม่มีอารมณ์อยากนอน” ฉันพูดขณะที่หลับตาไปด้วย
ดูเหมือนเพื่อนเลิฟจะรู้ใจ เสียงเริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง วันนี้เจ๊เบียบไม่สอนเป็นอะไรที่ต้องจดไว้ว่าเป็น 8 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก็ตั้งแต่เรียนมา 4 ปีไม่เคยเห็นเจ๊เขาหยุดเลย สงใสจะป่วยเพราะข้าวของโรงเรียนแหงเลย ก๊ากๆๆขอบคุณแม่ครัวเจ้าค่ะ (เริ่มเลวร้าย)
2คาบเช้าหมดไปอย่างไร้สาระกับการนอน ฉันต้องออมแรงไว้เยอะๆ เพราะไม่รู้ว่าสาวน้อยจะโดนแกล้งอีกหรือเปล่า โดยเฉพาะนายลูกข่าง !!โว้ยยคิดถึงนายทีไรอยากเตะลงส้วมทุกทีเลย>O< แล้วฉันจะมานั่งคิดถึงนายบ้านั้นทำไมหว่า?
ในที่สุดก็ถึงเวลาพักเที่ยงซึ่งฉันรอคอยเธอมาแสนนาน~ แต่อาการดีใจของฉันก็หมดไปเมื่อเหลือบไปเห็นฟ้านั่งยิ้มแฉ่งกินข้าวอยู่กับเพื่อนๆ ที่โต๊ะริมนอกของโรงอาหาร ฉันรีบเร่งฝีเท้าไปนั่งที่โต๊ะของตัวเองโดยมียัยตาลนั่งจองไว้แล้ว
“ไอน้ำข้าวแกเป็นอะไร ทำหน้าอย่างกับเห็นผีกาก้า” ตาลพูดขึ้นเมื่อฉันทำหน้าอย่างที่มันว่า
“เปล่าหรอก ฮ่าๆ ผีกาก้าอะไรไม่มี้ไม่มี ฮ่าๆ” ฉันเลี่ยงที่จะไม่พูดอะไร แล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวมันไก่
ขณะที่พวกเราสองคนกำลังจะเดินไปเรียนวิชาภาษาไทยที่อาคาร 8 ตาลก็เอ่ยถามว่า
“เออนี่ๆ แล้วไองานที่แกไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวเป็นไงมั่งล่ะ”
“อ๋อ!ก็ดีนะ สนุกดีอยู่หรอกถ้าไม่มีนายลูกข่างบ้า” ฉันตอบพร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ
“ทำไมล่ะ ฉันว่าเขาเท่ดีออกเล่นเบส>_<ดีกว่าพี่บาสแกตั้งเยอะ”
“นี่ๆหยุดเลยพี่บาสเขาดีกว่าเป็นร้อยเท่า”
“ไม่เคยได้ยิ่งเหรอน้ำข้าว ยิ่งเกลียดยิ่งรัก” ตาลพูดแล้วเดินต่อไปปล่อยให้ฉันยืนเอ๋ออยู่กับคำพูดของของตัวเอง ทำไมหน้าฉันมันร้อนผ่าวๆฟะ
ตกเย็นวันนี้ฉันต้องไปปฏิบัติหน้าที่คนรับใช้จำเป็น แต่ได้กลับบ้านพร้อมยัยตาลสักที ตั้งแต่เกิดเรื่องบ้าๆฉันก็ห่างเหินเพื่อนไปเยอะเลย รถมาหยุดจอดอยู่ตรงหน้าโรงเรียนชายล้วน บรรยากาศพลุกพล่านไปด้วยนักเรียนที่กำลังจะกลับบ้าน แล้วดูสิเนี่ยพี่ชายตัวดีไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ปล่อยให้ฉันเดินเก่ๆกังๆ อยู่ในโรงเรียนชายเนี่ย แล้วสายตาของฉันก็หยุดอยู่ตรงผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดในตอนนี้>O<!!
“ยัยเบ๊อะ!” เรียกฉันอย่างนี้ก็มีอยู่คนเดียวเท่านั้นแหละนายลูกข่างนั้นเอง
“ว่าใครยัยเบ๊อะมิทราบ”
“ก็คนนี้แหละ บ้าๆบ๊องๆด้วย” นั้นไงหลอกว่ากันอีกแล้ว
“แงะ อย่ามากวนฉันนะอีตาบ้า” ฉันหันหลังกะว่าจะไปตามหาพี่นัท แต่นายลูกข่างก็เรียกไว้ก่อน
“เฮ่!เดี๋ยวสิ โอเคๆไม่ว่าเธอแล้ว ว่าแต่เธอเล่นบอลเป็นไหม ^^”นายลูกข่างถามพลางยิ้มให้ฉัน อย่ายิ้มแบบนั้นสิย่ะมันทำฉันหวั่นไหวอ่ะ นี่ฉันจะตายเปล่าเนี่ยใจมันเต้นรัวจนจับจังหวะไม่ถูกแล้ว ฮือๆ
ฮ่าๆตอนนี้ฉันกำลังยืนหัวเราะบ้าบออยู่กับไอลูกกลมๆที่เขาเรียกว่าบอล ถึงฉันจะเก่งทุกเรื่อง แล้วก้กีฬาเด่นก็เหอะนะ แต่คนเราก็ไม่ได้เกิดมาเลิศทุกคนนี่นา สรุปคือฉันเล่นฟุตบอลไม่เป็น ซวยจริงๆเลยไอตอนแรกก็นึกว่าจะง่ายนิดเดียวแค่เตะเอง ที่ไหนได้มันไม่ได้ดั่งใจคิดเอาซะเลย พอจะเตะมันก็กลิ้งไปโน่นไปนี่
“โว้ย~ไอลูกบ้า~” ฉันโวยวยจนคนอื่นๆพากันหันมามอง โดยเฉพาะนายลูกข่างที่มองอย่างเดียวไม่พอยังขำจนต้องลงไปกองอยู่กับพื้น หน๊อย~
“เล่นไม่เป็นก็ไม่บอก ฮ่าๆ” แหนะๆมีกวน
“ฉันเล่นเป็น” อืมเล่นเป็นเหรอ แน่นอนว่ามั่วสด
“เลิก..ฮ่าๆเลิกเล่นเหอะ ก่อนที่ท้องฉันจะแข็งตายฮ่าๆ” นายลูกข่างพูดอย่างเดียวไม่พอยังมีทิ้งท้ายโดยการขำจะเป็นจะตาย
“-//- โถ่เอ่ย ทำไมต้องตื่นเต้นด้วยฟะ” ฉันยืนบ่นพึมพำๆ รู้สึกหน้ามันร้อนวูบๆ
“เธอไม่สบายรึไง หน้าแดงยังกับตูดลิง” ดูๆนายลูกข่างเปรียบเทียบหน้าอันสวยงามของฉัน อยากเตะลงส้วมจริงๆเลย
“เปล่าๆวันนี้ไม่มีซ้อมเหรอฉันรอนานแล้วนะ” เปลี่ยนเรื่องคุย!!
“ ไม่มีใครบอกรึไง”
“- -^ไม่มีนะสิถ้ามีแล้วฉันจะถามนายเหรอ ถามอะไรตลก” ฉันสวนกลับ
“ยัยตัวแสบเธอจะกวนฉันอีกนานมะ”
“ก็แล้วจะทำไม”
“งั้นนี่เป็นครั้งสุดท้ายของเธอแน่ ย๊ากกก” เขาตะโกนเสียงดังจนหูดับ ก่อนที่ทำท่าจะบีบคอฉันแหนะ นี่ฉันชอบคนวิปริตงั้นเหรอเนี่ย น้ำข้าวแกบ้ารึเปล่า!!
สักพักพวกเราก็วิ่งไล่กัน ก็ดูสิฉันเป็นสาวน้อยน่ารักกับนายบ้าที่เพิ่งออกมาจากหลังคาแดงทำท่าจะบีบคอสาวน้อย โหดร้ายที่สุดเลย ว๊ากกกก... พวกเราหยุดวิ่งพลางหอบด้วยกันทั้งคู่ เหนื่อยชะมัดเลย แฮ่กๆ ฉันว่าฉันควรกลับบ้านได้แล้วนะเนี่ย
“นี่!น้ำข้าว ไอนัทบอกว่าจะนอนบ้านฉันนะให้เธอกลับไปได้เลย อีกอย่างวันนี้ไม่ซ้อมด้วย” นายลูกข่างพูดขึ้น
“อ้าว แล้วทำไมนายเพิ่งจะบอกฉันเล่า อีตาบ้า!!”
“ก็คนมันลืมนิ ขอโทษทีนะเหอะๆ” พอพูดเสร็จนายลูกข่างคนบ้าก็วิ่งหนีหายไปในกลีบเมฆ ฝากไว้ก่อนเถอะคราวหน้าฉันจะฆ่านายแน่
++++++++++++++
เสียงเพลงชาติดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลา หกโมงเย็น ซึ่งเป็นขณะเดียวกับที่ฉันกำลังควานหาของกิน โฮะๆ
อยู่คนเดียวมันก็สบายดีเหมือนกันแฮะ ไม่ต้องทำกับข้าว มีอะไรกินก็กินอันนั้น สุดท้ายก็จบลงด้วยการซดมาม่า บ้านเงียบๆแฮะเหอะๆอยู่คนเดียวก็งีแหละ ฉันคิดแล้วหัวเราะอยู่คนเดียว ฮ่าๆเงียบเกินไปก็ไม่ดีไปดูทีวีดีกว่า ฉันรีบไปเปิดทีวีพร้อมมาม่าที่คาอยู่ในปาก
“เย็นๆแบบนี้มีอะไรดูมั่งนะ” ฉันพูดพลางกดรีโมทไปเรื่อยๆ แล้วก็จ๊ะเอ๋กับช่องหนังพอดีเลย นั่งดูสักพักก็ทำให้ฉันคิดว่ามันผิดมหันต์มากเลยที่เลือกดูช่องนี้ ก็หนังที่ดูมันเป็นหนังผีอ่า โอ้ว T^Tกลัวสุดๆเลย นี่ไม่ใช่เวลามาดูหนังผีซะด้วยสิ ฉันเริ่มสั่นๆด้วยคงามกลัว บรรยากาศข้างนอกทำท่าเหมือนฝนจะตก และแล้วฝนมันก็เทลงมาไม่เกรงใจกันเลย เออดี!!เจริญสิคราวนี้
“เปรี้ยง!!!!!”
เสียงฟ้าผ่าอย่างแรง ทำให้ฉันสะดุ้งโหยงไปอยู่บนโซฟา ใจเย็นไว้น้ำข้าว ฮ่าๆสมาธิๆ แต่แล้วจู่ๆไฟก็ดับ ดับทั้งบ้านให้ตายสินี่มันอะไรกันเนี่ย TOT ฉันกลัวแล้วนะแงๆ ฝนตกลงมาอย่างหนักเหมือนพายุเข้า ตามด้วยฟ้าผ่าลงมาปะทะกับเสียงฟ้าร้อง ฉันนั่งกอดเข่าอยู่บนโซฟาไปขยับไปไหน จนกระทั่ง......
~ชอบมาขัด ชอบมาขัด ชอบมาขัดใจ เดี๊ยะสะ....~
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอยู่ในกระเป๋ากางเกงฉัน ฉันสะดุ้งเล็กน้อยก่อนตั้งสติรับโทรศัพท์เจ้ากรรม
“สะหวัดดะดีค่ะ” ฉันปากสั่นเล็กน้อย ก็คนมันกลัวนี่นา
-ทำไมเสียงสั้นๆล่ะ
อ๋อ!พี่นัทเองเหรอ ฮือๆโชคดีจังเลย
“พี่นัทไฟด......”
-เออใช่ อย่าลืมปิดหน้าต่างนะ เดี๋ยวฝนสาด
ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร พี่นัทก็แทรกขึ้นซะก่อน แล้วพี่นัทแกก็เล่นพล่ามซะยาว เรื่องกลัวฝนสาดเข้าบ้านเอย แล้วก็อะไรต่อมิอะไร และแล้วความอดทนและความกลัวก็เข้ามาอัดอั้นจนเอาไว้ไม่อยู่
“นี่!พี่ฟังหนูพูดมั่งสิ! หนูอยู่บ้านคนเดียวไฟก็ดับ ฟ้าก็ร้องกลัวจะตายอยู่แล้ว เคยเป็นห่วงกันบ้างไหม ห๊า!” ฉันใส่ไปเป็นชุดด้วยความโกรธ เหอะๆพี่นัทเงียบเลย เฮ่~ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะพี่บังเกิดเกล้า รู้สึกผิดจัง เลยอะ
“เอ่อ..พี่นัทเมื่อกี้พูดแรงไปหน่อย ขอโทษนะค่ะ”
-เมื่อกี้ทำไมเหรอ?
“ก็หนูตะโกนใส่พี่ไง” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสำนึกผิดสุดๆ
-เอ๋ แกตะโกนใส่ฉันว่าอะไรนะ เหอะๆพอดีไม่ได้ฟังนะดูบอลอยู่ ยังไงก็อย่าลืมปิดหน้าต่างนะ บาย
ตึ๊ดๆๆ
เออเจริญ พี่ฉันเองแหละ เมื่อกี้ฉันมันโง่เองแหละหลงคิดไปเอง เจ้าพี่ตัวดี ทั้งหมดพูดไปไม่ได้ฟังเลยสินะ โอ๊ยเซ็ง คอมก็เล่นไม่ได้ T^T
ฉันจำใจจะหลับมันอยู่ตรงโซฟานี่แหละ อุ่นใจดีอย่างน้อยมันก็มีปิกกาจูให้กอด มีผ้าให้ห่ม (ผ้าเช็ดตัว) ก็ฉันไม่กล้าเดินไปในที่มืดๆนี่นา ไว้ไฟมาค่อยไปนอนข้างบน เฮ้อ~ ทำไมนะทำไมคนเป็นร้อยเป็นพันล้าน แต่ทำไมฉันต้องมารู้จักนายด้วย ฉันคิดบ้าๆอยู่สักพักก็หลับไป..........
ความคิดเห็น