คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : วันที่ปั่นป่วน I [62%]
4
กลางดึกคืนหนึ่ง
ก๊อกๆๆ!
“หือ..งืมงำๆ”
ฉันลุกขึ้นมาด้วยอาการสะลึมสะลือมัวขี้ตาในกลางดึก เพราะเสียงเคาะประตูห้องดังสนั่นแบบไม่เกรงอกเกรงใจชาวบ้านชาวช่อง ฉันบิดตัวอย่างขี้เกียจสองสามทีแล้วก้มลงดูนาฬิกาดิจิตอลเรืองแสงว่าเป็นเวลากี่ทุ่มกี่ยาม
เหวอ ตีสองครึ่ง! ใครบังอาจมาเคาะเรียกเวลานี้เนี่ย กร๊อดด
ฉันก้าวลงจากเตียงนอนระบายลูกไม้ลายมิคกี้เม้ากับมินนี่สีชมพูอย่างช้าๆ โดยปกติฉันก็ไม่ค่อยตื่นขึ้นมากลางดึกสักเท่าไหร่ เพราะเป็นคนหลับยาวและหลับลึกเกิดจากการเล่นคอมฯจนดึกซะเป็นส่วนใหญ่ ฉันควานหาสวิทซ์เปิดไฟพอสว่างเสร็จฉันก็เดินไปที่ประตู แล้วส่องดูทางช่องตาแมว แต่สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า
ในยามวิกาลที่ไร้ผู้คนแบบนี้แม้แต่เสียงยังไม่ค่อยจะได้ยิน แล้วเหตุใดตีสองกว่าๆแบบนี้ถึงมีคนมาเคาะประตูได้
พอคิดอย่างนั้นได้ฉันจึงหันหลังแล้วไปนอนต่อ แต่พอจะล้มตัวนอน
ก๊อกๆๆ!
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกเช่นเคย ผิดที่ว่าเสียงมันเบากว่าเดิมเล็กน้อยราวกับอ่อนกำลังลง ใจของฉันตอนนี้เต้นแรงและเร็วมากสมองพยายามไม่คิดถึงอะไรทั้งสิ้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเรื่องเล่าต่างๆนาๆที่เพื่อนๆพากันมาเล่า
T^Tใจฉันมันเริ่มแป่วแล้วในตอนนี้ โปรดอย่าถาม~
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นต่อเนื่อง ฉันจึงตัดสินในเดินออกไปเปิดประตูให้มันรู้ไปเลยว่าใครมาแกล้งกันได้ พอเปิดประตูออกไปก็พบว่าหน้าห้องว่างเปล่าไร้ผู้คน ฉันจึงชะโงกหน้าออกไปนอกห้องแล้วมองซ้ายมองขวาแต่ก็พบกับความมืดและบรรยากาศเงียบเชียบ ทางคอนโดฯนี้จะปิดไฟทางเดินอัตโนมัติพอมีคนเดินไปมาไฟก็จะติดอัตโนมัติเช่นกัน เป็นระบบที่ตั้งเวลาเอาไว้ดังนั้นพอกลางวันมันเลยไม่ติด
เมื่อสำรวจไม่พบใครแล้วฉันที่เห็นท่าไม่ค่อยดีก็รีบถอยหลังเข้าห้อง ทันใดนั้นเองจู่ๆก็มีมือมาแตะที่ไหล่ของฉันในเวลาแบบนี้.........
หมับ!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!”
.............................................................................................................................
ซูด~ซวด~
เสียงซดมาม่าอย่างเอร็ดอร่อยแบบไม่เกรงใจใคร นายออนไลน์ดาราติ๊งต๊องที่เป็นต้นเหตุทำให้ฉันต้องกรี๊ดจนแสบคอบวกร้องให้จนทั้งคอนโดฯต้องวิ่งมาดูอย่างแตกตื่นบวกกับความอับอายที่ไม่อาจลบล้างได้
ใช่!! หมอนี่คือคนที่เอามือมาจับไหล่ฉันจนฉันสติแตกพระที่ห้อยคอกระเจิงไปคนละทางT^T
ฉันที่ตอนนั้นกำลังยกมือกล่าวขอโทษพวกป้าๆทั้งหลายอยู่นั้น นายออนไลน์ก็ถือวิสาสะเข้าไปในห้องของฉันแล้วก็มาขอให้ฉันหาข้าวให้กินอีก เหตุผลเพราะไม่มีอะไรกินแล้วในเวลานี้จึงหันหน้ามาพึ่งฉัน ทั้งๆที่เมื่อวานทำอะไรไว้กับฉันก็ลืมหมด T^Tที่แย่กว่านั้นคือหมอนี่เห็นฉันเป็นหม้อหุงข้าวหรือไงกัน ตอนแรกก็ผลักไสไล่ส่งให้กลับห้องเขาไป แต่สุดท้ายอดสงสารไม่ได้ที่เขาต้องทำงานหนักจนต้องหิวโซกว่าจะได้กินกว่าจะได้นอน ด้วยเหตุผลที่ฉันเป็นพวกใจบุญเลยยอมต้มมาม่ารสซุปไก่
“เป็นดารามันก็เหนื่อยเหมือนกันเนอะ”
ฉันเอ่ยขึ้นลอยๆไม่หวังที่จะได้คำตอบกลับมา นายออนไลน์เงยหน้าขึ้นมองฉันทั้งที่เส้นมาม่ายังคาปากอยู่
“อื้อ ก็เป็นคนของประชาชนนี่นา เหนื่อยจะตายอยู่แล้วขี้เกียจมากๆด้วย”
“อ้าวแล้วนายจะเป็นดาราทำไมกัน”
“ก็..”ออนไลน์หยุดพูดก่อนจะกลืนคำสุดท้ายลงคอไปแล้วพูดต่อ “ก็คนมันหน้าตาดีอะนะ”
แป่ว!! ที่แท้ก็หลงตัวเองค่ะท่านผู้โชมม
“รีบๆกินแล้วก็รีบๆกลับห้องนายไปเลยไป๊” ฉันพูดขึ้นออกแนวทำนองว่าไล่
“นี่ เธอยังไม่หายโกรธอีกเหรอเรื่องเมื่อกี้น่ะ เอาเป็นว่าฉันขอโทษล่ะกันนะใครจะไปคิดว่าคนอย่างเธอจะขวัญอ่อน”
“ฉันก็ต้องตกใจสิ นี่มันตีอะไรแล้วฮะ คนบ้าอะไรจะมาเคาะประตูดึกดื่น อ๋อ!ที่แท้นายก็บ้ายิ่งกว่าคนบ้าสินะ”
“จะบ้าหรือไงล่ะ - -^”
“จะไปรู้ได้ไงกัน นายยิ่งโรคจิตด้วย T^Tดูสิเอาคนโรคจิตเข้าห้องแถมยังเลี้ยงดูปูเสื่ออย่างดี กรี๊ดด>[]<ตอนนี้ฉันต้องเกลียดนายอยู่สิ”
“เอ้า! ฮ่าๆๆ โอเคๆดีกันๆ” นายออนไลน์หัวเราะออกมาก่อนจะยื่นนิ้วก้อยมาให้ฉัน เหมือนเด็กเลยแฮะตานี่จากนั้นก็พูดต่อ “ยังไงมื้อนี้ก็อร่อยๆสุดๆไปเลยถ้าไม่ได้เธอฉันต้องหิวตายอยู่หน้าห้องแน่ๆ วันนี้กว่าจะอัดรายการเสร็จ....เดี๋ยวล้างชามให้ละกัน ว่าแต่ล้างตรงไหน?”
“อะ..เอ๊ย ไม่ต้องหรอกเดี๋ยวฉันล้างเองดีกว่า นายเหนื่อยไม่ใช่หรือไง ทางที่ดีรีบกลับห้องของนายไปเลยดีกว่า คนอื่นเห็นเข้าจะไม่ดี นายเป็นคนดังด้วย”
“อืม...จะดีเหรอ”
“ดีสิย่ะ”
“ก็ดีเหมือนกันพรุ่งนี้ฉันมีงานไปเดินแบบด้วย ต้องไปแต่เช้า งั้นฝันดีนะครับ^^”
พอออนไลน์ออกจากห้องฉันไปก็ดูเหมือนค่ำคืนนี้กลับมาเงียบอีกครั้ง พอเจอนายออนไลน์ทีไรก็มักจะเจอเรื่องวุ่นๆอยู่เสมอ ฉันนำชามไปล้างแล้วก็ไปนอนต่อ เวลานี้เป็นเวลาเกือบตีสี่ ก่ำกึ่งระหว่างเช้ากับมืด ฉันพลิกตัวไปมาอยู่บนที่นอน แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถข่มตาให้หลับได้เหมือนเก่า ฉันจึงลุกขึ้นไปเปิดโทรทัศน์ดูเผื่อว่าอาจจะง่วงแล้วผล็อยหลับไปเอง แต่ดูไปดูมาตาฉันก็ยิ่งสว่างขึ้นๆ ในที่สุดฉันก็ต้องถอดใจเพราะฟ้าก็เริ่มจะสว่างแล้วจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าล้างหน้าแปรงฟันเตรียมตัวไปวิ่งออกกำลังกายให้ยามเช้าดูมีประโยชน์ขึ้น
ตึกๆๆ
เสียงปลายเท้ากระทบพื้นเป็นจังหวะการวิ่งจ๊อกกิ้ง ฉันวิ่งไปมาในคอนโดฯขึ้นลงๆอยู่หลายรอบจนมาหยุดอยู่หน้าห้องของตัวเองกะว่าจะไปอาบน้ำแล้วเล่นคอมฯต่อเลยแต่(มันต้องมีแต่สิน่ะ)ก็พบนายออนไลน์กำลังม่วนหลายอยู่กับการขนสารพัดข้าวของออกมาวางกองไว้หน้าห้อง
“นี่ ขยันดีจังเลยนะ ไหนว่างานยุ่งไงวันนี้”
ฉันเดินเข้าไปทักนายออนไลน์โดยที่เหงื่อท่วมตัว ออนไลน์หันหน้ามามองฉันด้วยสีหน้าเบลอๆ
=[]=;;;กรี๊ดเมาหรือเปล่า
“อื้อๆ จะไปทำงานแล้ว พอดีลังพวกนี้ไม่ได้ใช้เลยจะเอาไปทิ้ง”
“อ๋อ วางไว้แบบนี้มันเกะกะคนอื่นเขานะเดี๋ยวบางทีนายอาจจะสะดุดเองก็ได้ ดูสิเปิดประตูออกมาก็สะดุดพอดีเลย” ฉันสาธิตให้ดู
“ไม่หรอก-0-ฉันไม่ซุ่มซ่ามแบบเธอนิ”
“เอ้า ไหนมาว่าฉันล่ะ คนอุตส่าห์พูจาดีๆด้วย ไม่พูดแล้วหมดอารมณ์”
ฉันเดินเชิดหน้าแล้วหันไปไขกุญแจห้องตัวเอง
โครม! กึก
ไม่ทันขาดคำนายออนไลน์ก็ไปนอนกลิ้งเอกคะเนอยู่กับพื้นเพราะสะดุดลังที่วางระเกะระกะ ฉันหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนจะไปช่วยดึงตัวที่หนักเอาการของเขาขึ้น
“ฮ่าๆๆบอกแล้วไม่เชื่อ ยังจะมาว่าฉันอีกเป็นไงล่ะกรรมตามทันนะจ๊ะ”
“ฉันแค่แซวไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย”
“เชอะ! เอ้าลุกขึ้นไหมนั้น เรี่ยวแรงหายไปไหนหมดนายเนี่ย ว๊าย!”
ฉันมัวแต่โวยวายจนเสียหลักล้มทับตัวนายออนไลน์ซะเอง ใบหน้าของฉันแนบชิดกับในหน้าของออนไลน์ เสียงลมหายใจอ่อนๆของเขาปะทะกับแก้มขาวๆของฉัน ชั่วพริบตาเดียวเหมือนหัวใจฉันหยุดเต้น ไม่สิมันเต้นเร็วผิดจังหวะและสับสนไปหมด หน้าของฉันแดงระเรือและร้อนผ่าว ฉันรู้สึกเหมือนกับว่านายออนไลน์ก็ใจเต้นผิดจังหวะเหมือนกัน ร่างกายทุกส่วนของฉันชาไปหมด ราวกับโดนดูดพลังงานไปหมด
อ๊าย>//<จะเป็นลมแล้ววว~
“เฮ้ๆ =___=ลุกขึ้นสักทีสิ คนอื่นมาเห็นมันจะไม่ดีนะ”
ออนไลน์ทักขึ้นทำให้ฉันหลุดออกจากพะวง
“อะ!ว๊ายย>//<ขอโทษๆ เจ็บไหม?”
“ครั้งแรกที่ฉันล้มเองน่ะไม่เจ็บเท่ากับที่เธอทับฉันหรอกยัยฮิปโป”
“!! ฮิปโปเหรอ นินายฉันก็มีชื่อนะย่ะ!”
กรี๊ดดด กล้าดียังไงมาเรียกฉันฮิปโปT^T มีนไม่ยอมมม
“อ่ะ... ว่าแต่เธอชื่ออะไรเหรอ”
กรี๊ดดดดอีกรอบของวันนี้ นี่มันนิยายเรื่องอะไรกันฟะเนี่ยT^Tตูอยากบ้าตาย มาขอข้าวกินแล้วคุยเยี่ยงเพื่อนเล่นแบบนี้ยังไม่รู้จักชื่อฉันอีก ใครก็ได้บอกเขาที่ว่ามีนอยากบ้า
“นี่นายจริงๆเลยนะ โอ๊ยหงุดหงิดๆ”
“โทษทีๆๆ ตกลงเธอชื่ออะไร”
“ชื่อมีน พอใจรึยัง! ฉันไปแล้ว อีตาบ้าเอ่ย”
ฉันเดินกระทืบเท้าปึงปังเข้าห้องด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดสุดๆ ทำตัวเหมือนรู้จักกันมานานนมเน มาเคาะห้องขอข้าวกิน แต่เพิ่งมาถามฉันว่าชื่ออะไรเนี่ยนะ! อีตาบ้าเอ่ย ต่อไปถ้าหิวข้าวตายอย่ามาเคาะเรียกฉันก็แล้วกัน ฉันจะไม่ทำบุญไปให้ด้วย
หลังจากอาบน้ำชำระล้างร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันก็มานั่งใจจดใจจออยู่กลับหน้าจอคอมพิวเตอร์ตัวเดิมที่ใช้มาหลายปีแล้ว
ตึง ตึ่ง~
เสียงเอ็มเอสเอ็นดังขึ้น ฉันเหลือบไปมองชื่อคนที่ทักเข้ามา ก็พบว่าเป็นเพื่อนเก่าที่ไม่เจอกันมาหลายวัน
ห้องสนทนาของ ::Meenni Meenni:: กับ Jamjaew =^^=
Jamjaew =^^= says: ไงมีน!
::Meenni Meenni:: says: เห้ยแจ้ว คิดถึงแกจังเลย กลับมาไทยแล้วเหรอ
Jamjaew =^^= says: ใช่กลับมานานแล้ว สบายดีไหมเนี่ย ไม่ได้เจอกันนานเว่อร์
::Meenni Meenni:: says: สบายดีดิ นั้นสิ! อยากเจอจัง J
Jamjaew =^^= says: เอาดิๆ วันนี้เราว่างพอดีเลยอ่ะ เจอกันที่ร้าน Cafe’ in loveล่ะกันนะ
::Meenni Meenni:: says: โห ใจร้อนเหมือนเดิม โอเคๆ อย่าลืมของฝากนะงั้นเจอกัน
Jamjaew =^^= says: (Offine)
ฉันออฟไลน์ออกมาแล้วรีบปิดคอมฯทันที ก่อนจะออกจากคอนโดฯ แล้วตรงดิ่งไปหาเพื่อนที่ Café’ in love ร้านกาแฟเล็กที่มีบริกรหน้าตาดี*O* ขนมอร่อย นมปั่นน่ากิน ชาหอมกรุ่น วิวในร้านดีฮ่าๆ ทุกอย่างลงตัว ทำให้คนในร้านเยอะแยะมาก ส่วนมากก็จะเป็นผู้หญิงทุกวัย โดยเฉพาะวัยรุ่นคู่รัก
ฉันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าร้าน Café’ in love ที่มีคนเยอะมากจนต้องกระเด็นออกมานอกร้าน ฉันมองหาแจ้วเพื่อนเก่ากึกของฉันผ่านผู้คนมากมาย จนในที่สุดฉันก็เจอเจ้าตัวนั่งจิบน้ำชาอย่างสบายอารมณ์เหมือนพวกผู้ดีของฝรั่งเศส
แจ้วเป็นผู้หญิงที่ถูกจัดอยู่ในหมวดของคนน่ารักมากถึงน้อย เธอมีดวงตากลมโต ผิวขาว ใบหน้าขาวใส เสียงของเธอเล็กๆ ตอนที่เรียนด้วยกันตอนมัธยมต้นเธอเป็นคนกินเก่งมาก แต่ว่าต้องขาดการติดต่อเพราะว่าแจ้วไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น >w<ตอนนี้กลับมาก็น่ารักกว่าเดิมอีกแหนะ
“ไหนๆของฝากล่ะ” ฉันแบมือขอของฝากจาก
“อะเอาไป แผ่นเพลงจากท่านออนไลน์>w<”
“เอ๋!! ทำไมของฝากมัน...”
“ตกใจล่ะสิ เนี่ยซื้อมาจากญี่ปุ่นๆๆแผ่นเพลงของญี่ปุ่นเลยนะ คิดว่ามีนต้องชอบแน่ๆเลยอุตส่าห์ไปแย่ชิงมาให้ ซื้อมาสองแผ่นฝากยัยพิ้งค์ด้วย อิอิ ถูกใจไหมล่ะ”
“แต่ของเมืองไทยก็มีนี่นาT_T”
“นี่มันภาษาญี่ปุ่น แล้วก็มีของแถมข้างหลังด้วย T^Tแกไม่ชอบเหรอมีน”
TTซวยแล้วไง เสียน้ำใจมันแน่ถ้าบอกว่าฉันจะเอาไปเช็ดก้นเหรอ ย๊ากก
“ชอบสิชอบมากเลย จะเปิดฟังทุกวันเลยจ้าT_T”
ต้องเป็นพิ้งค์แน่ๆที่ไปบอกว่าอยากได้แผ่นเพลงน่ะ หน๊อย~ดูสิเพลงไทยยังจำเนื้อไม่ค่อยจะได้เลย ให้มาฟังเพลงญี่ปุ่น ไม่ต้องนั่งแกะเป็นชาติเหรอ แล้วนี่อะไรเนี่ยอุ๊ย! เป็นคนไทยแต่ไปร้องเพลงญี่ปุ่น กรี๊ดดรับไม่ได้ O_Oเหวอ อ๊ายหน้าปกโชว์แผงอกด้วยอ่ะ! -..-
สักพักพิ้งค์ก็เดินมาสมทบด้วย สามสาวอย่างเราๆเลยนั่งหัวเราะคิกคักกับการนั่งเม้าเรื่องการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ของแจ้ว แถมยังมีเรื่องของนายออนไลน์มาพูดอีก
“เดี๋ยวขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ดื่มน้ำรอเธอไปหลายแก้วเลยยัยพิ้งค์”
“เชิญๆเร็วๆเข้าล่ะเดี๋ยวไปร้องคาราโอเกะกัน”
ฉันเดินเข้าไปข้างในร้านเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่ก็ต้องพบว่าคนเข้าห้องน้ำเยอะมาก T_Tโอ๊ยฉี่จะราดอยู่แล้วค่ะ ฉันรอไม่ไหวเลยต้องไปเข้าในห้างสรรพสินค้า เพราะร้านกาแฟร้านนี้อยู่ในเขตวัยรุ่น ใกล้ห้างสรรพสิ้นค้าสยามพารากอน
เฮ้อ~ นึกว่าจะราดซะแล้ว
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยจิตใจที่เบิกบาน ทันใดนั้นเองสายตาก็ไปสะดุดกับใครบางคนที่กำลังยืนอยู่บนเวที เขาอยู่ในชุดสบายๆเสื้อคอปกฮาวายเข้ากับหน้าร้อน กางเกงสี่ส่วน ออนไลน์มาเดินแบบที่นี่เหรอเนี่ยO_O ยังว่าอยู่ว่าทำไมวันนี้คนเยอะเป็นพิเศษ ปกติก็ไม่ค่อยมีคนเดินเท่าไหร่ เพราะว่าของแพง
กรี๊ดดดดดดดดดด!
เสียงกรี๊ดดังสนั่นเมื่อนายออนไลน์ขวัญใจสาวๆกล่าวขอบคุณ ฉันเลยยืนมองอีกสักพักว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก แต่ดูเหมือนจะคิดผิด เพราะว่าพอนายออนไลน์เห็นหน้าฉันก็หันมายิ้มแล้วก็ยักคิ้วให้เฉยเลย
ซวยแล้วตู เหมือนถูกพวกแฟนคลับมองอยู่T^T หาเรื่องให้อีกแล้วไหมล่ะ
“เมื่อกี้พี่ออนไลน์เขามองยัยป้าคนนั้นหรือเปล่า - -+” เด็กผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
=[]=;;ป้างั้นเหรอ
“ไม่น่าจะใช่นะจิน” เพื่อนผู้หญิงอีกคนพูขึ้นมา มันเป็นคำพูดที่ดีมากในเวลานี้
“เหรอ ฮึ เชอะ”
ฉันรีบสาวเท้าออกจากจุดนั้นทันทีเพราะกลัวว่าจะมีสายตาประสงค์ร้ายวิ้งๆมาอีก แต่เวลาเดียวกันฉันก็โดนฉุดเข้าไปในหลังเวทีทันที
“กรี๊ดดดด อุ๊บส์!”
“เบาๆสิฉันเอง เอาเสียงกรี๊ดมาจากที่ไหนบ้างเนี่ย”
ฉันหันไปมองเจ้าของเสียง ก็เจอกับนายออนไลน์ยืนยิ้มโชว์ฟันขาวอยู่ ฉัยเลยชักสีหน้าไม่พอใจกับการกระทำของเขา ถ้าเกิดหัวใจวายตายจะทำไง ฮึย~
“ขอโทษๆ ฮ่าๆๆพอดีไม่คิดว่าจะเจอกันในระหว่างที่ฉันทำงานพอดี^^”
“นายนี่มัน...” ฉันทำท่าจะพุ่งหมัดใส่เขาแต่ก็ต้องชะงักเพราะสีหน้าล้อเลียนของเขา
“ถ้าเธอต่อยหน้าฉัน ฉันจะวิ่งไปบอกแฟนคลับข้างนอกว่าเธอคิดจะลวนลามฉัน คราวนี้เธอได้ไปเกิดใหม่แน่นอน”
“อ๊ากกกก เบื่อจริงเลย มีอะไรอีกล่ะ”
“ฮ่าๆๆ ดูทำหน้าเข้า ฉันเลิกงานแล้วไปเที่ยวกันไหม^^”
“อย่ามาตลก อย่างนายเนี่ยนะจะไปเที่ยว ที่ไหนล่ะ เกาะร้างเหรอ?”
“ไปสิ ฉันไปได้ก็แล้วกัน” พูดจบก็ให้ไปหยิบอะไรคนเดียวกุกกักๆ
“??”
“ปะไปกัน ^O^ ฉันเตรียมกระเป๋าไว้เรียบร้อย ลุย!”
“เดี๋ยวสิ แล้วไม่ใส่แว่นดำปิดหน้าปิดตาเหรอ”
ตายแล้วอีตานี้จะเดินโท่งๆออกไปให้คนต่อมหึ่งๆหรือไงกัน เดี๋ยวฉันก็ตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งหรอก อุ๊ย!แต่ถ้าได้ลงข่าวหน้าหนึ่งกับดาราไฟแรงตอนนี้ อ๊าย>//<
“จะบ้าเหรอ การใส่แว่นดำเป็นอะไรที่ต้องห้ามเลยนะ”
“แล้วจะไปแบบนี้เหรอ?”
“ใช่ แต่ต้องเหนื่อยหน่อยนะ”
“เอ๋??”
O_Oโอะโอ
แฮกๆ ๆ
ฉันกับนายออนไลน์วิ่งเข้าซอยนู้นทะลุซอยนี้ เพื่อหนีแฟนคลับที่วิ่งตามมากันเป็นพรุน นายออนไลน์บอกว่าไม่มีใครจำหน้าฉันได้หรอก ดังนั้นเลิกคิดไปเลยว่าจะได้มีข่าวออกมาเสียๆหายๆ
T^T ขอบใจนะที่อุตส่าห์พาฉันมาวิ่งให้เหนื่อย แถมยังไม่ได้ออกหนังสือพิมพ์อีกต่างหาก ฮือๆๆ
ออนไลน์พาฉันเลี้ยวเข้าไปหลบหลังร้านอาหารแห่งหนึ่งที่มีถังขยะเต็มไปหมด คาดว่าเป็นที่ไว้ทิ้งขยะหรืออาหารที่กินไม่หมดของพวกลูกค้า
“นี่เมื่อกี้เห็นออนไลน์วิ่งมาทางนี้นิ ใช่พาใครวิ่งมาด้วยก็ไม่รู้T^Tผู้ชายด้วยนิ”
“อะใช่เหรอ ฉันเห็นเป็นผู้หญิงนะ”
“เหรอไม่แน่ใจเหมือนกันอ่ะ โหยเซ็งเป็ดเลย”
เสียงผู้หญิงกลุ่มใหญ่พูดขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งเล็กน้อยจนต้องถอยหลังไปชนนายออนไลน์
เฮ้อ~ทำไมฉันต้องมาเหนื่อยแบบนี้ด้วยเนี่ย
ปูดๆๆป๊าดๆรับโทรศัพท์หน่อย~
เสียงที่โทรศัพท์ฉันดังขึ้นคล้ายเสียงคนท้องเสียมาหลายสัปดาห์ ทำให้นายออนไลน์หลุดขำออกมานิดๆ แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้บรรยากาศสุดมาคุหายไปเลย เพราะว่าพวกแฟนคลับกลุ่มใหญ่ก็เจอตัวพวกเราสองคนจนได้ ฉันเลยคุยโทรศัพท์ไปวิ่งไป T_T ใครมันโทรมาตอนนี้ก๊านนนนน
“ใครค่ะ แฮกๆ”
[มีนแกหายไปไหนเนี่ย!]
ปลายสายพูดขึ้น อ๋อที่แท้ก็แจ้วนั้นเอง นี่ฉันลืมเพื่อนสองคนนั้นไปได้ยังไงกันนะ
“ขอโทษทีตอนนี้ไม่สะดวกจะคุยด้วยเลย”
[อ้าว แล้วแกอยู่ไหน ฉันจะไปร้องเกะกันแล้วนะ]
“เออไว้วันหลังนัดกันใหม่แล้วกันนะ อ๊ากทำไมมันตายยากจังฟะ แค่นี้ก่อนนะแจ้วขอโทษทีเพื่อน”
ฉันกดตัดสายโทรศัพท์แล้วเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงสี่ส่วน สีน้ำเงิน ก่อนจะวิ่งด้วยฝีเท้าที่เร็วสุดตัวไปพร้อมกับนายออนไลน์ที่ยังคงจับมือของฉันไว้อย่างเหนี่ยวแน่น พวกเราวิ่งเข้าไปในฝูงชนกลุ่มใหญ่เพื่อพลางตัว เป็นแผนการที่ดีมาก
“แฮกๆ เหนื่อยมากเลย นายคิดจะให้ฉันลดความอ้วนหรือไงย่ะ!”
“ฮ่าๆๆ โอ๊ย ฮ่าๆๆ สนุกจริงๆเลย ไม่ได้มีเพื่อนวิ่งแบบนี้มานานแล้วนะเนี่ย”
“โรคจิตปะเนี่ย ไม่เอาแล้วฉันจะกลับบ้าน-*- เที่ยวกับเพื่อนก็ไม่ได้เที่ยว แถมยังต้องมาเหนื่อยฟรีๆอีก วันนี้มันเฮงซวยสิ้นดีเลย”
“=__=หว่านี่ฉันทำเธอโกรธอีกแล้วเหรอเนี่ย”
“เออสิ! เจอหน้านายทีไรซวยทุกทีเลย”
ฉันวีนแตกขึ้นมาทันทีจนนายออนไลน์เริ่มหน้าเสีย ฉันเลยไปเดินหารถแท็กซี่เพื่อที่จะกลับคอนโดฯ แต่นายออนไลน์ก็มาดึงแขนฉันไว้ก่อนจะยืนนิ้วก้อยมาทางฉัน
“-__-^ฉันไม่ใช่เด็กๆนะ”
“ดีกันๆ เดี๋ยวฉันจะพาไปกินของอร่อยๆ วันนี้เป็นเจ้ามือเองหายโกรธหรือยัง”
“ก็ได้ ฉันจะกินให้พุงกางไปเลยคอยดูสิ”
ฉันตบคำรับปากนายออนไลน์ที่ยิ้มหน้าบาน นี่เขาจะมาทำดีไถ่โทษให้ตายยังไงฉันก็ยังไม่เลิกเกลียดขี้หน้านายนั้นหรอกนะ เจอที่ไรเป็นต้องขายขี้หน้าทุกที
หลังจากนั้นพวกเราก็มาหยุดอยู่หน้าร้านไอศกรีมแห่งหนึ่ง ในร้านนั้นตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลส้ม มีโต๊ะเล็กๆจัดตามมุมต่างๆของร้านให้เข้ากับบรรยากาศ ตรงกระจกมีน้ำไหลออกมาเป็นทางอย่างสวยงาม ออนไลน์บอกว่าร้านนี้เป็นร้านของรุ่นพี่โรงเรียนเก่าเขา แต่ก่อนเขามากินทุกวันหลังเลิกเรียนกับเพื่อนๆ พอเข้ามาในวงการก็ไม่มีเวลามากินจึงชวนฉันมานั่งกินเป็นเพื่อน ฉันเห็นว่านายออนไลน์สนิทกับเจ้าของร้านนี้มากๆ
“ไงน้องออนไลน์ ทำไมเหงื่อออกขนาดนั้นล่ะ นั่งก่อนๆ” พี่พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามาทักทายอย่างยิ้มแย้ม
“พอดีวิ่งหนีแฟนคลับมาน่ะครับ^^ไม่ได้เจอพี่ต้นข้าวตั้งนานสวยคิดเป็นกองนะเนี่ย”
“อ๊ายบ้าๆ เราเหมือนกันไม่ได้เจอกันนานเลย>//<หล่อขึ้นนะเนี่ย”
“ฮ่าๆๆของมันแน่นอนครับ”
อ๊ายหน้าไม่อาย หลงตัวเอง
“แล้วนี่นึกยังไงหนีงานมาได้ล่ะ ดังถึงเมืองนอกเมืองนานิอิอิ แล้วนี่ไปเอาสาวน้อยน่ารักผมม้ามาจากไหนล่ะ”
พี่ต้นข้าวเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะทัก เล่นเอาฉันเขินไปเหมือนกันอยู่ๆก็มาชมพูดเรื่องจริงอีกแหนะ
“สวัสดีค่ะพี่ต้นข้าว หนูชื่อมีนค่ะ^^ เพื่อนร่วมคอนโดฯของออนไลน์ ทั้งๆที่ไม่อยากจะเป็นแต่ก็ต้องมาเป็นค่ะ”ฉันแนะนำตัว
“ฮ่าๆๆน้องเขาตลกดีอ่ะ นั่งก่อนเลยๆ เอาเมนูไปดูนะว่าอยากกินอะไรเดี๋ยววันนี้กินฟรีไปเล้ย!”
“ขอบคุณครับพี่ต้นข้าว น่ารักที่สุดเลย”
หลังจากที่สองคนนั้นคุยกันเสร็จ ออนไลน์ก็พาฉันมานั่งที่โต๊ะตรงริมหน้าต่าง ที่มีสายน้ำไหลลงมาเข้ากับบรรยากาศที่แสงแดดอ่อนๆ ร้านนี้มีคนไม่เยอะมากนัก กำลังพอดี เสียงเพลงที่คลอเบาๆทำให้เหมือนกันกับว่ากำลังมาเดตกันเลย>w<
“นี่เธอ เคลิ้มอะไรอยู่คนเดียวฮ่าๆ ไงล่ะถูกใจใช่ไหม^^”
“ก็เปล่านิ แค่สงสัยว่าทำไมนายถึงมาเข้าวงการได้เหรอ”
“อื้อ ก็เพราะว่าไม่เรียนร้องเพลงน่ะสิ”
“ห๊า แค่เรียนร้องเพลงก็ได้เป็นแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่ๆ มีแมวมองเขามาเชิญชวนไปเล่นหนัง พูดง่ายๆคือเป็นเด็กเก็บ พอมีงานอะไรก็จะมาคัดเลือกอีกที”
“เหนื่อยน่าดูเลยเนอะทำงานแบบนี้เวลาส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะมี”
“ใช่ นี่เป็นครั้งแรกในการทำงานเลยนะ ที่ฉันมาเที่ยวกับผู้หญิงอ่ะรู้ปะ เธอกำลังนั่งกินอยู่กับขวัญใจสาวๆเลยนะ”
“แหวะ อย่าพูดอะไรเลี่ยนๆเวลาจะกินของอร่อยได้ปะ”
สักพักไอศกรีมสองถ้วยก็มาเสิร์ฟ พวกเราสองคนก็สวาปามกันจนเกลี้ยง จากนั้นก็ไปเดินเล่นดูของนู่นของนี่บางทีก็มีคนส่วนน้อยที่จำหน้าออนไลน์ได้มาขอถ่ายรูปด้วย จากนั้นเราก็ไปกินสุกี้กันต่อ ฉันล่ะเชื่อเลยว่านายออนไลน์เป็นพวกกินเก่งมาก สองมือของพวกเราต้องมีของกินอยู่เสมอ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้เดินต้องท้องแตกตายแน่เลย ได้ไม่ได้เที่ยวไปกินไปตั้งนานแล้ว
พวกเราเที่ยวกันจนลืมเวลาว่ามันล่วงเลยมาถึงสองทุ่ม กว่าจะมาถึงคอนโดฯก็สามทุ่มพอดี
“วันนี้ขอบใจมากนะที่พาไปเที่ยวไปกิน”
“O_O เมื่อกี้เธอว่าอะไรนะ” นายออนไลน์มองหน้าฉันพลางทำตาโตแบบไม่เชื่อหูตัวเอง
“- -^ฉันไม่พูดแล้วย่ะ นายจะไม่กวนประสาทฉันสักนิดจะได้ไหม ฮ่วย!”
“ฮ่าๆๆก็มันแปลกๆ เอ่อนี่ พรุ่งนี้ว่างไหม”
“มีอะไรอีกล่ะ”
“พรุ่งนี้ไปเป็นผู้ช่วยฉันตอนไปถ่ายแบบทีสิ”
“ทำไมฉันจะต้องไปมิทราบย่ะ!”
“อ๋อก็ไม่มีอะไรมากหรอก พอดีผู้ช่วยส่วนตัวฉันไม่สบายก็เลยจะหาผู้ช่วยไปแทนคนเก่า แต่ถ้าเธอไม่ว่างก็ไม่เป็นอะไรนะ แต่ถ้าไม่ไปก็น่าเสียดายแย่เลยโอกาสแบบนี้หายากมากเลยนะแถมมีค่าจ้างให้ด้วย”
หน๊อย เชอะคิดว่าฉันจะหลงกลนายหรือไง ไอ้ผู้ช่วยมันก็คือคนรับใช้นั้นแหละ อืมม...แต่ก็อยากรู้เหมือนกันแฮะว่าพวกคนดังเขาทำอะไรกัน
“ไปก็ได้ เพราะอาจมีแมวมองมาเห็ฯแววของฉันก็ได้”
“โห โอเคครับ พรุ่งนี้เก้าโมงจะมาเรียกนะ ฝันดีครับ!”
ว่าแล้วนายออนไลน์ก็เดินเข้าห้องไป ทำไมฉันรู้สึกว่านายออนไลน์ก็ไม่มีอะไรเลวร้ายเหมือนกันเนอะ แต่ไว้ใจไม่ได้ชอบหาเรื่องมาให้ตลอดเลย อะรีบเข้าบ้านไปเล่นคอมฯดีกว่าอิอิ
ความคิดเห็น