ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    19 Days Love in Korea ❤

    ลำดับตอนที่ #2 : Intro + First Day : จุดเริ่มต้นของการเดินทาง ❤

    • อัปเดตล่าสุด 25 ต.ค. 56






    19 Days Love in Korea

    Intro + First Day

                    ครืด ครืด

                    เสียงล้อลากกระเป๋าขูดกับพื้นปูนหยาบ  สร้างเสียงครืดๆเป็นช่วงๆ  หญิงสาวในชุดเสื้อยืดสีขาวแขนกับกางเกงเลกกิ้งสีดำ  สวมเสื้อคลุมยาวสีเขียวทับมิดชิดอีกที  ผมมัดรวบตึงปัดไรผมเรียบเพื่อไม่ให้ตกมาปกปิดหน้า รองเท้าผ้าใบคอนเวิสสีน้ำเงินดูมาดมั่น  เดินลากกระเป๋าใบโตสีแดงมุ่งหน้าเข้าสู่ประตูที่ 6 สายการบิน Korean Air

                    "ไม่ลืมอะไรนะแพงกี้!"  เสียงผู้เป็นแม่ตะโกนดังลั่นมาจากรถที่จอดฝั่งตรงข้ามประตู 

                    "ไม่ลืมๆ  แม่จะตะโกนสะกัดดาวรุ่งทำไมนิ"  เธอตอบกลับด้วยเสียงที่ดังพอกัน

                    เพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอจะก้าวสู่ประเทศเกาหลี 

                    เมื่อเดินเข้ามาถึงภายในสุวรรณภูมิ  แอร์เย็บเฉียบก็สะท้านเข้าที่กระดูก  อากาศแบบนี้ที่เกาหลีจะขนาดไหนเนี่ย  พลางมองซ้ายมองขวาเพื่อหาเพื่อนร่วมทีม  ที่นัดแนะกันเอาไว้ 

                    "ฮู่วว  ไฟติ้ง!"

    Namyen 's Talk

                    ฉันยืนรอเพื่อนร่วมลัทธิเกาหลีฟีเว่อร์ด้วยใจที่จดจ่อ  วันนี้ฉันใส่ชุดเดรสสั้นยาวเลยเข่ามานิดหน่อยกับถุงน่องสีดำเพิ่มความมั่นและเปรี้ยวไปในตัว  นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่ฉันไปเกาหลี  แต่ดูเหมือนรอบนี้จะมีแรงกระตุ้นบางอย่างที่หน้าสนใจ นั่นก็คือเพื่อนร่วมลัทธิคนใหม่นั่นเอง  แพงกี้เพื่อนซี้ที่ลงทุนใช้เงินเก็บทั้งหมดเพื่อไปเจอโฮกี้ถึงเกาหลี  กับเพื่อนอีกคนกิ๊ก  หัวหน้าทัวร์ของเรา 

                    วันนี้เป็นวันที่หนึ่งของการเดินทาง  ผู้คนมากมายต่างพากันมารับมาส่ง  ฉันได้แต่หันซ้ายหันขวา  เมื่อไหร่เพื่อนจะมากันสักทียืนรอจนจะลากงอกอยู่แล้ว  พอรอนานๆไม่ไหวฉันก็เลยแบกกระเป๋าไปซีน  การซีนกระเป๋าคือการกันกระเป๋าแตกหรือพังเสียหาย  เพราะกระเป๋าของฉันเป็นไฟเบอร์ซึ่งแตกง่ายพังง่าย  นึกภาพถึงตอนห่อของกันกระแทกจะเห็นภาพชัดเจนขึ้น  พอซีนเสร็จฉันที่กำลังจะไปนั่ง  ก็ถูกเรียกสกัดไว้ทันที  ด้วยเพื่อนร่างสูง

                    "เอ้ยยย  ทำไมมาเร็วจังวะแก"  กิ๊ก  บุคคลที่สูงมากที่สุดในกลุ่มเอ่ยทักทาย 

                    "มาช้าจังอะยืนรอตั้งนาน  กำลังจะหย่อนก้นนั่งก็ดันมาซะได้"  ฉันพูด

                    "อันรโยงงงเพื่อนชาวลัทธิบ้าเกาหลี!"  เสียงดังแซงโค้งมาแต่ไกล  ไม่ใช่ใครแพงกี้นั่นเอง 

                    ฝูงชนต่างพากันหันเหให้ความสนใจกับเธอ  จะบ้าตาย

                    "จะตะโกนเสียงดังทำไมเนี่ย"  กิ๊กบ่น  "แต่งตัวนี่ร้อนไหมเนี่ย...แต่ที่เกาหลีเขาว่าหนาวก็นะ  ใส่ไปเถอะ"  แพงกี้ พยักหน้าหงึกๆ  "พาสปอร์ตพร้อมนะทุกคน  ของอะไรไม่มีลืมนะ"

                    และเมื่อทุกคนพร้อมเราจึงก้าวเข้าสู่กระบวนการและขึ้นตอนต่างๆ  ก่อนที่จะขึ้นเครื่อง  เครื่องของเราขึ้นสี่ทุ่ม ห้าสิบห้า  แน่นอนว่าอาจดีเลย์ด้วยนิดหน่อย  ขั้นตอนแรกเราลากกระเป๋าไปโหลด  ซึ่งสายการบินนี้กำหนดว่าไม่เกินยี่สิบห้ากิโล สิ่งที่ต้องยื่นให้คือใบจองตั๋วทางอินเตอร์เน็ต  เรียกว่า E-Ticket   กิ๊กปริ้นมาให้พวกเราเรียบร้อย  และส่งยื่นพร้อมพาสปอร์ต  พนักงานชายรับพาสปอร์ตพร้อมกับถามชื่อของพวกเราทีละคน  พร้อมยกกระเป๋าขึ้นไปชั่งน้ำหนักบนสายพาน  เมื่อผ่านครบสามคนแล้ว  พวกเราก็ไปสแกนกระเป๋าที่จะนำขึ้นเครื่อง  แน่นอนว่าของห้ามคือของเหลว  สารเคมีที่เป็นอันตราย  ของมีคม  เหล็ก  แต่ดูเหมือนใครบางคนกำลัง...

                    ติ๊ดดดดดด

                    "กรี้ดดดดดด  อิตู๊ดดดดดด  จะร้องทำไมTOT "  เสียงดังกระชากโสตประสาทไม่ใช่ใครอื่นไกล

                    พรึบ !

                    เจ้าหน้าที่สองคนเดินตรงดิ่งมายังแม่นางแพงกี้ทันที  ดูเหมือนเธอจะตื่นมาก  เพราะมาครั้งแรกก็เจอซะแล้ว  อุปสรรค  เธอรีบรื้อค้นกระเป๋าทันที  หน้าตามึนงงเหมือนตูพกอะไรที่น่ากลัวมารึเปล่า =[]=;;; เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอข้า  เชิญเพื่อนฉันไปค้นต่ออีกโต๊ะหนึ่งด้านนอก  ในที่สุดก็เจอกับเจ้าของเสียงติ๊ด 

                    กระไกร...ขลิบผ้า

                    "แม่ T^T  กระเป๋าตัดเย็บแม่เป็นเรื่องซะแล้ว  โอ๊ะ  พี่คะจะเอากรรไกรหนูไปไหน"  แพงกี้หน้าตื่นวิ่งตามไปถามพี่พนักงาน  เมื่อพี่พนักงานหยิบกรรไกรออกจากกระเป๋าแล้วเหมือนจะหายไปกับมัน

                    "อันนี้เอาขึ้นเครื่องไม่ได้นะครับ  ต้องโหลดลงเครื่อง  น้องต้องเลือกระหว่างกรรไกรกับ..."

                    "ทิ้งมันเลยค่ะพี่อย่าช้า"  แพงกี้ไม่รอฟังให้จบ  เพราะดูแลมันจะยุ่งยากเธอเลยบอกปัดๆไป  แต่ก็แอบเสียดาย  เธอทำเบ้ปากเล็กน้อย  แต่ก็บอกช่างมันเถอะ

                    ด่านต่อไปด่านสุดท้าย  คือการสแกนพาสปอร์ต  ประตูเล็กๆจะเปิดให้ไปยังด่านสุดท้าย  คือยืนให้ตรงกับจุดที่เขากำหนดไว้  จากนั้นก็มองไปที่กล้องหน้าตรง  นิ้วชี้สแกน  แล้วประตูด่านสุดท้ายก็จะเปิดออกทันที

                    ในที่สุดฉันก็จะได้บินดิ่งตรงสู่ประเทศเกาหลี  เพื่อไปหาอุปป้าแล้ว  รอก่อนนะจุนจิน  ฉันกำลังจะไปหา!

                    "ซารางอุปป้า  ฉันจะพูดยังไงดีว่ะเนี่ย  ถ้าเจอโฮกี้  อุป้าเราจะได้เจอกันแล้วนะ  TT^TT"  แพงกี้พูด  เธอตื่นเต้นประหนึ่งว่าพวกศิลปินมานั่งอยู่ตรงหน้า

                    พวกเราถือตั๋วกับพาสปอร์ตไปนั่งรอขึ้นเครื่อง  มีพนักงานของสายการบินยืนต้อนรับอยู่ เธอฉีกตั๋วใบยาวออกแล้วจะเหลือมาให้เก็บสะสมไว้เป็นใบเล็กๆ  ซึ่งบอกหมายเลขที่นั่ง

                    ในตัวเครื่องนั้นเมื่อเดินเข้ามาจะเป็นนั่งแบบริมหน้าต่างสาม  กลางสี่แถวยาวเรียงหน้ากระดาน  พวกเราได้ที่นั่งฝั่งติดริมกระจก  แอร์สายการบินนี้สวยจริงอะไรจริง  เธอยิ้มทักทายพวกเราพร้อมบอกว่าในคาดเข็มขัดให้เรียบร้อย  เครื่องกำลังจะขึ้นแล้ว ฉันที่นั่งริมนอก  แพงกี้นั่งกลาง  กิ๊กนั่งริมหน้าต่าง 

                    ฉันหย่อนตัวลงบนเก้าอี้สีเทาอย่างช้าๆ  ด้วยความเหนื่อยล้ากับการเดินทางแสนยาวนาน ที่จะยาวติดต่อกันถึงห้าชั่วโมง...

                    "บะบายไทยแลนด์"  ฉันกระซิบ  เช่นเดียวกับแพงกี้และกิ๊ก

                    "กรี้ดดดด  เครื่องจะขึ้นแล้ว  TOT แม่จ๋าอวยพรให้ลูกด้วย"

                    เธออออ  จะตะโกนทำไมเนี่ยยยย  ฉันคิดว่าการไปเกาหลีครั้งนี้  คงเป็นอะไรที่วุ่นวายสุดๆไปเลย  ฉันคิดว่า...นะ

    - - - - - - - - - - - - - - - - - -
    © Tenpoints!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×