ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Online love you บังเอิญรักเธอซะแล้ว

    ลำดับตอนที่ #2 : เธอน่ารัก [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ค. 52


    2

    ��������������� หลังจากที่ออนออกไปฉันก็ไปเล่นเอ็มเอ็สเอ็นกับคนอื่นที่เคยคุยด้วยประจำฉันมีเพื่อนเกือบพันกว่าคนเวลาคุยทีก็เหมือนจะสับรางไม่ทันคนไหนที่คุยด้วยแล้วไม่ถูกใจก็บล็อกไป(บล็อกคือ การล็อคอีเมลล์ของคนนั้นไว้เวลาที่เราออนไลน์อีกฝั่งหนึ่งเขาจะไม่รู้ว่าเราออนไลน์จะดูเหมือนเราออฟไลน์ไว้ตลอด) แต่ก็ใช่ว่าฉันจะตั้งหน้าตั้งตาเล่นเสมอไป บางทีก็เปิดดูข่าวมาอัพเดตสมองบ้าง

    ��������������� "อ๊ายยมาแล้วๆรายการแฉดารา >3" พิ้งค์ที่เห็นเงียบไปนานอยู่ๆก็กรี๊ดขึ้นมา

    ��������������� "-*- โหยตกใจหมดเลย นึกว่าเขื่อนมาหาแน่ะ ไหนๆขอดูใบหน้าของอีตาออนไลน์ที่แกคลั่งไคล้นักหนาหน่อย" ฉันว่า

    ��������������� ถ้าเป็นเขื่อนนะฉันจะกระโดดกอดโทรทัศน์ไปเลยโฮะๆ

    ��������������� ทันทีที่รายการแฉดารายามดึกอะไรของยัยพิ้งค์ร้องเพลงเปิดรายการจบลง ��พิธีกรชายหญิงสองคนก็ออกมายืนยิ้มแป้นแนะนำตัวกันอย่างเฮฮาแล้วจากนั้นก็บอกว่าจะมีเซอร์ไพรแฟนๆทางบ้าน

    ��������������� =__=เมื่อไหร่ฉันจะได้เห็นอีตาออนไลน์อะไรนี่สักทีล่ะ

    ��������������� "เอาล่ะคะวันนี้เราเชิญดาราหน้าใหม่ขวัญใจสาวๆทั้งหลายมาด้วยนะ ได้ยินมาว่าเขาคนนี้เพิ่งแสดงหนังเป็นเรื่องแรกด้วย แล้วก็ทำเงินได้ดี" พิธีกรสาวพูดขึ้นแบบเก็บอาการไม่อยู่

    ����������� "อ๋อหนังที่เกี่ยวกับรักของวัยรุ่นใช่ไหมๆจะสนุกเหรอ" พิธีกรชายที่หน้าตาเหมือนหม่ำจ๊กม๊กถามกลับ

    ����������� "ใช่ๆ เนี่ยลูกของดิฉันคะเพิ่งไปดูมานะโอ๊ย บ่นใหญ่เลยว่าสนุกสุดๆ ^^ เอาอย่างนี้ดีกว่าไปถามกับเจ้าตัวเขาเองเลยว่าสนุกไหม ฮ่าๆดีไหมๆ เดี๋ยวเพื่อนๆทางบ้านจะรอกันนาน"

    ��������������� เพิ่งจะรู้เหรอฮะ - -^

    ��������������� "ขอเชิญพบกับน้องออนไลน์ จากภาพยนตร์เรื่อง ม.3ปี4 ผมรักคุณคะ!"

    สองพิธีกรผายมือไปตรงกลางแท่นที่ยืนอยู่กลางห้องมีควันที่เกิดจากน้ำแข็งแห้งระเหยขึ้นมาฟุ้งไปหมด แล้วเผยให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่บ่นแท่นบุคคลที่มีชื่อว่าออนไลน์

    "นี่ไงๆอ๊ายยออนไลน์แต่งตัวน่ารักอีกแล้ว"พิ้งค์หันมาพูดกับฉันแล้วเอานิ้วชี้ไปที่หน้าจอโทรทัศน์

    "O_Oคนนี้เหรอที่ชื่อออนไลน์" ฉันถามขึ้นด้วยความตกใจ

    กรี๊ดดดด>O<นั้นมันผู้ชายที่ชนฉันจนไหล่หลุดกระแทกจั่มเบ่ากับพื้นนี่นา ว๊ายๆๆO(>.<)O

    "ใช่คนนี้แหละ>O<น่ารักมากใช่ไหมล่ะ"

    "คือ...."

    "หือ อะไรของแก-*-"

    "ฉันเคยเจอผู้ชายคนนี้ตอนที่ฉันกลับไปเอาของที่ห้องน่ะสิ >O< เพิ่งเจอกันวันนี้เองอ๊ากกกก" ฉันร้องตะโกนออกมาอย่างไม่เกรงใจคนข้างบ้านเพราะรู้ว่าห้องนอนของพิ้งเก็บเสียงได้(ขนาดกดกริ่งยังไม่ได้ยินเลยT^T)

    "อย่ามาตลกฉันก็ไปพร้อมแกนะยังไม่เห็นเจอเลย แกบ้าเปล่าO_O" พิ้งค์ละสายตาจากจอโทรทัศน์แล้วหันมามองหน้าฉันแบบว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เพื่อนรักคนนี้พูด

    "จริงๆนะ>O<ฉันเคยโกหกแกเหรอๆ"

    "ไม่เคยอะ -.- แล้วแก..."

    "หือ???"

    ">O<ได้จับมือออนไลน์ไหมอะ อ๊ากกกกกกก แกมันโชคดีมากเลย แล้วเขาไปทำอะไรที่นั้นอะ>O<" พิ้งค์ที่เงียบไปสักพักเมื่อกี้ก็โวยวายตื่นเต้น สังเกตได้เลยยัยนี่มือสั่นมาก

    "ก็เขาบอกเขารีบเลยชนฉันล้มน่ะแล้วก็ยื่นมือมาช่วยพยุงฉันขึ้นฮ่าๆๆ"

    "งั้นแสดงว่าที่อยู่ใหม่ที่เขาย้ายโดยไม่บอกแฟนคลับก็คือที่คอนโดฯเดียวกับแกน่ะสิว๊ายๆใช่แน่เลยสงสัยต้องไปสืบๆ"

    "=__=ใจเย็นๆนะฉันว่าคงไม่ใช่หรอก"

    "ฮ่าๆใครจะไปรู้"

    แล้วเราสองคนก็นั่งดูรายการแฉดาราพร้อมกับนั่งวิพากษ์วิจารณ์ออนไลน์กันจนกระทั่งหลับฉันออนเอ็มเอ็สเอ็นทิ้งไว้อย่างนั้นทั้งคืนเพราะว่าลืมปิด Zzzz ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนธรรมดาอย่างฉันจะเจอแจ๊คพ็อตได้ใกล้ชิดดาราแบบมือสัมผัสมือ^^ สุภาพบุรุษมากๆด้วยเฮ้อ

    [ OnlineSpecial ]

    สวัสดีครับผม ออนไลน์ ดาราน้องใหม่ในตอนนี้ตั้งแต่เข้าวงการมาชีวิตก็ดูเหมือนจะวุ่นวายมาก ไม่มีเวลา ไม่มีความเป็นส่วนตัว และที่สำคัญผมไม่มีคำว่าที่ส่วนตัวด้วยเพราะจู่ๆก็มีคนมากมายมายืนโวยวายอยู่หน้าห้องแต่เช้า ให้ตายสิ ! เวลาจะพักผ่อนของผมยังไม่มีเลย ผมเลยหาเช่าคอนโดฯห้องหนึ่งที่ไม่ดังและไม่เป็นที่สะดุดตามากนักแล้วผมก็เจอคอนโดฯแห่งหนึ่งที่มันตรงตามความต้องการของผมมันเป็นคอนโดฯที่ไม่เก่าไม่ใหม่สภาพมันยังดูดีอยู่คนไม่พลุกพล่าน ไม่สะดุดตา เยี่ยมเลย!

    ผมให้ทางบริษัทจัดการเรื่องที่พักใหม่ของผมแล้วเย็นนี้ผู้จัดการส่วนตัวก็บอกให้ย้ายไปได้เลยแต่ต้องขนพวกเฟอร์นิเจอร์ไปเองเพราะทางนู่นมีแค่ที่นอนให้อย่างเดียว ปัญหามันก็เลยอยู่ที่ว่าผมเป็นพวกบ้าสมบัติน่ะสิ T T ต้องหาคนมาช่วยขนของที่บ้านซะแล้ว

    ตอนนี้ผมอยู่ในบ้านของตัวเองที่เต็มไปด้วยข้าวของมากมาย(ขนาดคิดว่าไม่ต้องขนอะไรไปเยอะแล้วนะ) ที่เอาออกมาเลือกว่าจะเอาไปดีไหม =__= ผมเพิ่งโทรไปทางบริษัทว่าให้หาคนมาช่วยผมยกของสักสองคนทางนู่นบอกผมว่าตอนนี้ทุกคนกำลังเตรียมงานคอนเสิร์ตอยู่ แต่ก็จะพยายามหามาให้ T^Tผมภาวนาว่าน่าจะหามาให้หน่อยนะยกตู้คนเดียวไม่ไหว

    "อื้มเอาตู้ไปด้วย=__=; หนักเป็นบ้าเลย T^Tเป็นดาราที่ผู้จัดการไม่สนใจ" ผมที่กำลังคิดจะยกตู้เสื้อผ้า ที่มีขนาดเล็กสุดให้บ้านนั้นบ่นขึ้นมาอย่างเหนื่อยใจ

    ติ่งน่องๆ!ติ่งน่องๆ!

    ��������������� เสียงกดอ๊อดดังติดๆกันทำให้ผมละสายตาจากเจ้าตู้เสื้อผ้าเจ้าปัญหาแล้ววิ่งไปดูว่าใครมา

    ��������������� "มาแล้วครับๆๆ"

    ติ่งน่องๆ!ติ่งน่องๆ!

    ��������������� "รอแป๊บนึงๆ-*-กดถี่จริงๆเลย" ผมบ่นอุ๊บอิ๊บ

    ��������������� พอวิ่งไปถึงประตูหน้าบ้านที่เป็นประตูอลูมิเนียมอย่างดี ก็พบกับผู้หญิงสองคนดูอายุไล่เลี่ยกับผม - -^ พวกเธอมาทำอะไรเนี่ยแฟนคลับเหรอ!

    ��������������� "มาหาใครครับ ^^" ผมยิ้มทักทายไปที่พวกเธอสองคนในใจขออย่าให้เป็นแฟนคลับแต่ส่วนมากนิยายมันจะไม่เป็นอย่างที่เราขอ

    ��������������� "มาหาพี่ออนไลน์คะ^^ บริษัทให้พวกเราสองคนมาช่วยพี่ออนไลน์ยกของอ่ะคะ" ผู้หญิงผมซอย ดัดพูดขึ้น

    ��������������� ห๊า! โอ้พระเจ้าไม่ใช่แฟนคลับ แต่เป็นคนมาช่วยผมยกของ! ผู้หญิง!

    ��������������� "-*- แล้วไม่มีผู้ชายเหรอครับ" ผมหันซ้ายหันขาว ก่อนจะพบว่า ไม่มี....

    ��������������� "ไม่มีผู้ชายหรอกมากันแค่นี้แหละจะให้ช่วยอะไรก็บอกเลยยืนแบบนี้มันร้อน - -^" ผู้หญิงผมตรงยาวทรงนักเรียนพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

    ��������������� "อ๋อ เข้ามาก่อนสิๆ" ผมเปิดประตูให้เข้ามาแล้วระหว่างนั้นก็ถามชื่อของเธอทั้งสอง "แล้วนี่ชื่ออะไรกันบ้างล่ะ"

    ��������������� "ชื่ออันคะๆ กับพี่อีกคนชื่อพี^^" น้องอันพูดขึ้น

    ��������������� "อ๋อ พีนี่อายุเท่าไหร่เหรอ"

    ��������������� "เท่ากับนายนั้นแหละจะให้ยกอะไรๆ" พีพูดเมื่อเข้ามาถึงในบ้าน

    ��������������� T^T น่ากลัวจังเลย ผมจะโดนฆ่าตายไหม

    ��������������� พวกเราช่วยกันยกนู่นยกนี่ น้องอันกับผมช่วยกันยกลัง บอกว่าให้โทรเรียกรถขนส่งมาช่วยยกอีกแรง ทำไมผมนึกไม่ออกนะT^Tอายจัง แล้วหลังจากนั้นรถขนส่งก็มาถึง ผมกับผู้ช่วยทั้งสองก็จัดการข่าวของจนเสร็จ ถึงจะเป็นผู้หญิงก็เหอะ >.<แรงพวกเธอเยอะชะมัดเลยช่วยพนักงานยกตู้ที่ใหญ่กว่าพวกเธออย่างไม่บ่นเลย

    ��������������� เมื่อทุกอย่างเสร็จลงผมก็ไปเลิกย้ายไปอยู่ห้องเล็กๆที่ไม่ใช่บ้านT^Tปกติแม่ผมทำงานหนักมากกับพ่อบางทีก็ไปต่างจังหวัด ผมเลยอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆเฮ้อ งานเยอะๆแบบนี้ปวดหัวจังเลย

    ��������������� ผมให้พนักงานขนส่งจัดห้องให้เลยแบบพร้อมจะอยู่เหลือเชื่อว่าที่นี่จะกว้างขนาดนี้ห้องนี้กว้างมากจริงๆ ภายในห้องนี้มีทุกสิ่งเหมือนคอนโดฯทั่วไปนั้นแหละเพียงแต่มันกว้างมากเท่านั้นเอง

    ��������������� ผมนอนกลิ่งอยู่บนเตียงอย่างสบายใจในสถานที่พักผ่อนแห่งใหม่จากนั้นก็เปิดโน้ตบุ๊กตัวโปรดแล้วป้อนรหัสผ่านต่ออินเตอร์เน็ตทันทีทางคอนโดฯปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตไว้เพียงแต่ต้องมีรหัสผ่านเท่านั้นถึงจะใช้ได้ จากนั้นผมก็เข้าไปดูอะไรเรื่อยเปื่อยที่วันนี้ผมมีเวลาว่างมานั่งเล่นคอมฯเพราะว่าไม่มีตารางงาน>O<มีความสุขชะมัดเลย

    ��������������� ทันใดนั้นเองขณะที่ผมกำลังเข้าไปอ่านข่าวสารเกี่ยวกับตัวเองในเว็บ www.sabuyjai-diary.comก็ไปสะดุดตาเข้ากับหัวข้อไดอารี่ชื่อว่า 'ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นแด่วๆต่อไป'

    ��������������� ฮ่าๆเป็นหัวข้อที่พิลึกมากสำหรับผม และอะไรโดนใจให้ผมเผลอกดเข้าไปอ่านทั้งๆที่ผมขี้เกียดอ่านเรื่องพวกนี้อย่างกับอะไร แปลกใจกับตัวเองเหมือนกันเลยต้องลองอ่านดู

    ��������������� My diaryMeenni Meenni Date. 25/12/51 Time. 2:09 am

    ��������������� เฮ้อวันนี้ทำตัวน่าเกลียดสุดๆเลย T^T ให้ตายสิ!ทั้งๆที่มันเป็นวันที่ฉันเฝ้าคอยมาแสนนานกับการประกวดออกแบบเสื้อผ้าตอนรับปีใหม่TOTฉันเลยทำเรื่องที่น่าอายที่สุดจะบรรยายแต่ขอบรรยายดีกว่าเรื่องมีอยู่ว่าวันนี้ฉันท้องเสีย เพราะว่าเมื่อวานไปกินส้มตำปลาร้าร้านเจ๊ใหญ่หน้าปากซอยกับพิ้งค์มา ปูแกอร่อยมากเลยเมื่อวานออกเปรี้ยวๆด้วยนะแหมสงสัยแอบบีบมะนาวมาหนักฉันเลยซดใหญ่เลย พอมาวันนี้มันเลยทำพิษออกฤทธิ์ทันใจตอนไปรายงานตัวพอดีฉันเลยกระเสือกกระสนพยายามกลั่นความรู้สึกเพื่อไปรายงานตัว >_< แต่มันไม่ไหวเพราะว่าปวดท้องมาก T^Tในที่สุดเลยเป็นลม แถมทับกรรมการอีก แต่ฉันไม่ยอมแพ้หรอกปีหน้าเอาใหม่สู้ๆ จบข่าวขอบคุณค่ะ

    ��������������� ป.ล. ใครที่ว่างๆแอดเมลล์มาคุยกันนะ meenni-kapuchino@hotmail.com *

    ��������������� "ฮ่าๆ ^O^ตลกเป็นบ้าเลย อืมเป็นการเขียนที่แปลกดี อืม....จะแอดไปคุยด้วยดีไหมนะ" ผมพูดกับตัวเองอย่างชั่งใจแต่ในที่สุดผมก็แอดเมลล์เธอจนได้

    ��������������� หลังจากที่เล่นคอมฯจนเพลินผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือก่อนจะนึกได้ว่ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า เลยเตรียมตัวไปหาอะไรมากิน โดยการใส่หมวกปิดบังใบหน้า

    ��������������� ผมเดินเข้าร้านสะดวกซื้อเล็กๆที่อยู่หน้าปากทางเข้าดอนโดฯ(คอนโดฯอยู่ในซอย)หยิบนู่นหยิบนี้ใส่ในตะกร้ากันหิวยามดึกด้วยทำแต่งานไม่ค่อยได้กินอาหารดีๆกับเขาเลยเมื่อซื้อของเต็มสองตะกร้าพูนผมก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาเตอร์

    ติ๊ดๆ

    ��������������� "ทั้งหมด 567บาทครับ" พนักงานเงยหน้าเบลอๆขึ้นมาแล้วบอก

    ��������������� "ครับ" ผมตอบพร้อมกับพยักหน้า

    ��������������� อ่าว _*_เห้ยเงิน กระเป๋าเงินหายไปไหน >O<

    ��������������� กรุกกักๆ~

    ��������������� ผมค้นหากระเป๋าสตางค์ด้วยท่าทีขยุกขยิกๆ

    ��������������� "เอ่อ =__=;;;ห้องน้ำอยู่ทางนู่นนะครับทางซ้าย ไม่ต้องฝืนหรอกครับ" พนักงานที่เห็นท่าทางของผมก็พูดขึ้น

    ��������������� "อ่า...."ผมไม่เคยเจอกับสถาณการณ์แบบนี้เลยเออๆออๆกับเขาไป "อ๋อ พอดีผมไปกินส้มตำปลาร้าร้านเจ๊ใหญ่มาเลยปวดท้องนะต้องขอตัวสักพักนะครับ"

    ��������������� "อ๋อฮ่าๆๆ เชิญครับๆเดี๋ยวจะไม่ทัน"

    ��������������� T^Tโอ๊ยเกิดมาเพิ่งจะน่าอายก็วันนี้นั้นแหละต้องรีบวิ่งออกประตูหลังแล้วไปเอากระเป๋าสตางค์ที่ห้อง

    ��������������� ผมรีบวิ่งกลับมาที่คอนโดฯที่ระยะอยู่ห่างกันไม่มากนัก ขณะนั้นเอง

    ปึก!

    จู่ๆผมก็วิ่งไปชนผู้หญิงคนหนึ่งเข้าอย่างจังทำให้เธอกระเด็นไปชนกับประตูห้องของคนอื่นเสียงดังสนั่นพร้อมกับกระเป๋าที่ตอนนี้มันกระเด็นไปดังตุ๊บอยู่ทางฝั่งตรงข้ามผมก้มลงไปมองหญิงสาวที่กำลังทำตาขวางแล้วพยุงเธอขึ้นมาก่อนจะไปก็พบว่า........O_O น่ารัก!! ผู้หญิงตรงหน้าผมน่ารักมากๆ

    ��������������� "เป็นอะไรไหมครับ ต้องขอโทษจริงๆพอดีผมรีบไปหน่อย ^^" ผมถามขึ้น

    ��������������� "ไม่หรอกคะ^^ฉันเองก็มัวแต่รีบเหมือนกัน"

    ��������������� นี้เธอเห็นหน้าผมแล้วไม่ตื่นเต้นหรือกรี๊ดออกมาบ้างหรอกเหรอ =__=แปลกจังแฮะ

    ��������������� "งั้นผมต้องขอโทษอีกทีนะครับ" ผมกล่าวขอโทษก่อนจะเดินทึกทึกไปหยิบกระเป๋าอะไรบางอย่างไปให้เธอ "นี่ของคุณครับ ถ้าอย่างนั้นต้องขอตัวก่อนะครับ" พูดจบแล้วผมก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ

    ��������������� ใจผมจะละลาย-//-ตาเธอมีเสน่ห์จัง

    ��������������� หลังจากนั้นผมก็ไปหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วไปจ่ายเงินแต่ยังไม่วายโดยพนักงานแซว ' อย่าลืมทานเกลือแร่เยอะๆนะครับ' พอทานอะไรเสร็จเรียบร้อยผมก็เบนสายตาไปที่โน้ตบุ๊กแล้วเริ่มออนเอ็มเอ็สเอ็นทันทีเมื่อออนได้ไม่นานก็มีคนมาทักผม

    ��������������� ใครกันเนี่ย แต่ผมก็ตอบกลับอย่างงงๆ

    (กรุณากลับไปอ่านบทสนทนาในบทที่หนึ่ง http://writer.dek-d.com/pee_zaz/writer/viewlongc.php?id=511834&chapter=1)

    ��������������� ผมให้เธอเรียกผมว่าออนเพราะว่าผมไม่อยากเปิดเผยตัวจริงกลัวว่าเธอจะคุยกับผมแปลกไปเพราะว่าผมเป็นดารา มีนเธอเป็นคนที่คุยสนุกดีอย่างน้อยไดอารี่เธอก็ช่วยผมไว้ได้เยอะอยากคุยกับเธอต่อนะ แต่สงสัยผมคงต้องออกซะก่อนเพราะงานเข้าแล้วครับ โทรศัพท์มันสั่นอีกแล้ว เฮ้อวันนี้วุ่นวายจริงๆเลย

    [The end Online Take]

    ป.ล. * E-mailนี่ใช้เพื่อแต่งนิยายเท่านั้นนะจ๊ะ ห้ามแอด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×