คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนใหม่ [100%]
1
ก๊อก แกร๊กๆๆ
��������������� เสียงปุ่มกดคีย์บอร์ดหน้าจอคอมพิวเตอร์ดังรั่วติดกันอย่างถี่ยิบ� และเป็นแบบนี้อยู่นานหลายชั่วโมงโดยที่เจ้าตัวก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าเล่นมานานเท่าไหร่แล้ว
��������������� มีน
.สาวน้อยผมหน้าม้าสีดำสนิทยาวสลวยไปถึงกลางหลัง� ดวงตาสีดำรับกับใบหน้าที่ขาวเนียน เธอหันไปมองนาฬิกาตรงฝาผนังห้องนอนก่อนจะหันกลับมาพิมพ์ก๊อกแกร๊กแล้วยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับShutdownเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้งานอย่างหนักมาเป็นเวลานานเกือบตลอดทั้งวันลง
��������������� “เดี๋ยวเย็นนี้จะมาเล่นอีก >_<” เธอหันไปพูดใส่คอมฯที่เพิ่งจะได้เลิกปิดไปเมื่อสักครู่แล้วเอามือลูบๆคลำๆอย่างถะนุถนอม� จากนั้นก็หยิบกุญแจห้องออกไปข้างนอก
กริ๊งๆ กริ๊งๆ
��������������� ฉันยืนกดกริ๊งอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่โตมโหฬารของพิ้งค์เพื่อนสนิทที่สุดของฉันอยู่นานสองนานก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้เข้าไปข้างในเสียที� หลังจากที่ยืนกดจนเมื่อยมือฉันก็ล้มเลิกความตั้งใจ� แล้วเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบมือถือออกมาโทรหาพิ้งค์
��������������� ให้ตายสิT^Tเป็นคนนัดคนอื่นมาหาตัวเองที่บ้านแท้ๆแต่กลับไม่ออกมาต้อนรับเลย
��������������� ฉันกดค้นหาเบอร์พิ้งค์ที่เพิ่งโทรเข้ามาเมื่อไม่กี้ชั่วโมงก่อน
~ภาวะโลกละละละละเลิฟ ยู มันช่างสดใส na na na น่าดู~
��������������� เสียงรอสายของพิ้งค์ที่เล่นเอาฉันอยากจะวีนใส่จริงๆเลย เออมันสดใสแน่ถ้าจะช่วยออกมาเปิดประตูให้ฉันเข้าไปข้างใน� ปาเข้าไปครึ่งเพลงแล้วยังไม่ยอมรับเลย เฮ้อT_T~ ภาวะโลกร้อนจริงๆด้วย
[ ฮัลโหลๆ ]
หน๊อยรับสักทีนะย่ะ
“นี่พิ้งค์!ทำไมแกไม่รับซะพรุ่งนี้เลยล่ะ� ปล่อยให้รอเป็นชาติเลยนะย่ะ ร้อนก็ร้อนจะตายอยู่แล้วเนี่ย ถ้าแกไม่ออกมารับฉันหน้าบ้านตอนนี้แกตายแน่!”
[อ้าว� นี่มาถึงนานแล้วเหรอมีน ทำไมไม่กดกริ่งล่ะฮะ]
ยังค่ะ ยังไม่รู้ความผิดของตัวเอง
“ฉันกดจนมือฉันรั่วหมดแล้วย่ะ! นี่ถ้ายังไม่ยอมออกมาเปิดประตูบ้านให้ฉันแกเละแน่”
[ อ๋อลืมไปเลย� พอดีอยู่ในห้องแอร์มันเก็บเสียงอ่ะแกเลยไม่ได้ยิน แม่บ้านลาคลอดอีกอ่ะ ]
“ยังไงก็ช่างเถอะ� ตอนนี้ฉันจะละลายเหมือนโฟร์มดอยู่แล้วรีบๆออกมาเปิดสักที”
[ เออๆได้ๆบ่นเป็นคนแก่เลยวุ้ย ]
อ๊ายยย เมื่อกี้แอบหลอกว่าฉันอีก T^T ยังไม่แก่สักหน่อยยัยบ้า
สักพักพิ้งค์ก็เดินออกมาจากบ้านหลังมหึมาด้วยเสื้อผ้าสบายๆ� เสื้อลายสก็อตคอปก กางเกงขาสี่ส่วนสีครีมออกน้ำตาลๆ� ผมก็ซอยเซทมาอย่างดี� สบายๆอย่างคนรวยไง
พิ้งค์เพื่อนสนิทของฉันที่คบกับมาสิบปีและเป็นลูกผู้ดีมีเงิน เพราะพ่อของเธอเป็นถึงทูตระหว่างประเทศ� บ้านเลยหลังใหญ่โตโอฬารขนาดนี้� ทางเดินระหว่างเข้าบ้านนั้นเป็นสวนหย่อม� มีต้นไม้ใหญ่แซมกับดอกไม้ดูแล้วสบายตา� พื้นทางเดินปูด้วยหินขัดอย่างดี เสียงน้ำตกขนาดกลางที่ถูกสั่งจัดมาเป็นพิเศษตั้งอยู่ตรงมุมอ่านหนังสือสร้างบรรยากาศในการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี� ตัวบ้านที่ใหญ่โตจนโอเว่อนั้นสร้างขึ้นสไตล์ยุโรปเน้นความหรูหรา อลังการ เป็นองค์ประกอบ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งบ้านเป็นสไตล์ตะวันตก เฟอร์นิเจอร์ในบ้านนั้นทั้งชุดโซฟา โต๊ะกลาง เป็นการคุมโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากัน เพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยกที่มีเอกลักษณ์และมีความสง่างามอยู่ในตัวของมันเอง �มีสระว่ายน้ำอยู่ในบ้านและห้องฟิตเนตครบครัน�
พูดได้ว่าถ้าฉันได้อยู่ที่นี่คือไม่ต้องการจะไปที่ไหนอีกแล้วเพราะนิสัยติดบ้านแบบฉันที่นี่คือสวรรค์ดีๆนี่เอง� ซึ่งปัจจุบันฉันก็แทบไม่อยากไปไหนแล้วแค่มีคอมฯของกิน� และโทรทัศน์ก็พอแล้วล่ะหุหุ
ฉันกับพิ้งค์เพื่อนรักที่สุดกำลังนั่งดูโทรทัศน์จอพลาสม่าขนาด 60นิ้วกันอย่างสนุกสนาน ในห้องนั่งเล่น ที่ติดแอร์ไว้เย็นเฉียบยิ่งกว่าคอนโดฯที่ฉันพักอยู่เสียอีก
“พิ้งค์งั้นวันนี่แกก็อยู่บ้านคนเดียวนะสิ” ฉันถามขึ้นหลังจากที่ละครล่องเรือหารักจบไป
“ใช่ วันนี่ฉันไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน� ฉันเลยโทรตามแกมานอนเป็นเพื่อนฉันไง>O<” ยัยพิ้งค์ยิ้มเริงร่าทันที
“- -^ ทำไมแกไม่บอกฉันก่อนฮะ ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลยนะ”
“ใส่เสื้อผ้าฉันแทนก็ได้นิ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“- - แกมั่นใจเหรอว่าฉันจะใส่Sizeแกได้อ่ะพิ้งค์ -3-� ตั้งแต่คบกันมาฉันใส่เสื้อผ้าแกทีเดียวแล้วเข็ดเลยนะT^T”
��������������� ฉันยังจำได้ดีวันนั้นฉันมีประกวดร้องเพลงที่อำเภอ� แล้วกรรมการก็ดันให้เปลี่ยนชุดด้วยเพราะมีคะแนนการแต่งกาย� ฉันไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนอกจากตัว หัวใจ และเสียงอันไพเราะ� พิ้งค์เลยสั่งให้คนขับรถไปเอาเสื้อผ้าเธอมาให้ฉันใส่� ตอนใส่เสร็จก็ไม่ได้คิดอะไรแต่พอขึ้นไปร้อง� สักพักกระโปรงก็ปริออกมาT^Tวันนั้นเป็นวันที่น่าอายมากที่สุดเลย
��������������� “นั้นมันตอนม.1นะ>.<� แกจะเก็บมาใส่ใจทำไม� จะเข้ามหาลัยอยู่แล้วนะ” พิ้งค์ปลอบฉันก่อนจะพูดต่อ “งั้นเดี๋ยวเราไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องแกก็ได้� อยากจะขับรถที่พ่อทิ้งไว้ก่อนจะไปทำงาน>_<”
��������������� “เออๆ พ่อแกเนี่ย เมื่อวานเพิ่งจะเจอวันนี้ก็ไปทำงานอีกแล้วเหรอ� แกเลยกลายเป็นหนูร่าเริงตอนแมวไม่อยู่เลย”
��������������� “พ่อแกก็เหมือนกันนั้นแหละ ฮ่าๆ”
��������������� เราสองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานในเรื่องพ่อๆ� แม่ของพวกเราสองคนเสียไปทั้งคู่ทำให้โตขึ้นมาในการปกครองดูแลของพ่อที่เป็นมนุษย์บ้างานเหมือนกัน
��������������� บรืนน~
��������������� “อ๊ากๆ TOT”
��������������� ฉันตะโกนโหวกเหวกโวยวายจนลิ้นไก่กับลูกคอจะกระเด้งออกมาจากปากอยู่แล้ว� โดยฝีมือของยัยพิ้งค์เพื่อนรัก!
��������������� “แกขับดีๆหน่อยจะได้ไหมT^T” ฉันเตือนเพื่อนที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ฟังอะไรแล้ว
��������������� ฉันคิดผิดแน่ๆเลยที่มานั่งรถของพิ้งค์TT
��������������� “ก็ขับดีแล้วนะ� ตอนนี้กำลังตั้งสมาธิอยู่อย่าชวนคุยน่ะ! ไอ้รถคันนี้จะยังไงกันนะฟะ”
��������������� T/\Tรู้แล้วจ้า~ ฉันน่าจะห้อยพระไว้ที่คอด้วยนะวันนี้
��������������� กรี๊ดดดดดดดด!ใครก็ได้หยุดยัยนี่ที Help me please!!
��������������� กว่าจะมาถึงคอนโดฯได้เล่นเอาหัวใจจะวาย� ต้องขอบคุณสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงที่ให้ลูกได้มีชีวิตต่อไป� ขากลับฉันสาบานเลยว่าจะไม่นั่งรถไปกับยัยพิ้งค์เด็ดขาด
��������������� ฉันรีบขึ้นมาหยิบเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวบางอย่างใส่กระเป๋าโดยที่บอกให้พิ้งค์รออยู่ข้างล่างสงบสติอารมณ์หน่อย� แล้วจากนั้นฉันก็วิ่งตรงดิ่งไปหาพิ้งค์ทันทีเพราะกลัวจะรอนาน� �
ปึก!
��������������� จู่ๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาชนไหลฉันเข้าอย่างจัง� ทำให้ฉันกระเด็นไปชนกับประตูห้องของคนอื่นเสียงดังสนั่นพร้อมกับกระเป๋าที่ตอนนี้มันกระเด็นไปดังตุ๊บอยู่ทางฝั่งตรงข้าม� ฉันเงยหน้าขึ้นทำตาขวางทันที� แต่พอสบตาเขาเข้าไปก็พบว่า
..O_O หล่อ!!>O< กรี๊ดดด ผู้ชายคนตรงหน้าหล่อมากๆไม่สิน่ารักต่างหากหน้าหวานมาก� ตัวสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบกว่าๆได้มั้ง� หน้าใสไร้สิวใดๆ �เขาทำหน้างงๆกับอาการเคลิ้มๆของฉันแล้วรีบเข้ามาพยุงฉันขึ้นทันที
��������������� >//<อุ๊ยเขินจัง
��������������� “เป็นอะไรไหมครับ ต้องขอโทษจริงๆพอดีผมรีบไปหน่อย ^^” เขาถามขึ้น
��������������� “ไม่หรอกคะ� ^^ฉันเองก็มัวแต่รีบเหมือนกัน” ฉันตอบ
��������������� >O<ว๊ายสุภาพบุรุษมากมาย
��������������� “งั้นผมต้องขอโทษอีกทีนะครับ” เขากล่าวขอโทษก่อนจะเดินทึกทักไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ามาให้ฉัน “นี่ของคุณครับ ถ้าอย่างนั้นต้องขอตัวก่อนะครับ” พูดจบแล้วเขาก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ
��������������� จะละลายแล้ว ใจเต้นตึกตั๊กๆ
��������������� “มาแล้วๆๆ^O^” ฉันเดินตรงมาหาพิ้งค์ที่กำลังฟังเอ็มพีสามอยู่อย่างสบายใจ
��������������� “เร็วดีจริงๆเลย เพิ่งจะฟังเพลงไปได้แค่ครึ่งเดียวเอง” พิ้งค์พูดด้วยท่าทางเสียดาย
��������������� เร็วบ้าอะไรกัน� ฉันเพิ่งจะชนกับคุณหน้าหวานไป -^-
��������������� “-o-เพลงมันเพราะมากเลยเหรอ ทำหน้าเสียดายขนาดนั้นอ่ะ” ฉันถามด้วยความสงสัย
��������������� “>O<เพลงของออนไลน์ไงมีน� ออกมาใหม่ล่าสุดเลยนะ^3^ ทางเว็บไซต์แฟนคลับเพิ่งส่งมาให้เมื่อกี้นี่เอง”
��������������� “เหรอ-*- ออนไลน์ไหนอ่ะพิ้งค์� ไม่เคยรู้จักเลยหน้าใหม่เหรอ รู้จักแต่เขื่อน”
��������������� “อ๊ายบ้านนอกมากเลยมีน ออนไลน์ที่เขาเล่นหนังใหญ่ไง เรื่องม.3ปี4 ผมรักคุณอะ”
��������������� “อ๋อเหรอ -^-” ฉันพูดประชด แล้วเดินขึ้นรถไป โดยลืมไปว่าT^Tหายนะมันอยู่ข้างหน้า
��������������� กรี๊ดดดดดดดดดดดด!ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่นะTOT!! ขับดีๆหน่อยสิ อ๊ากก
��������������� ฉันมาถึงบ้านของพิ้งค์อย่างปลอดภัยอีกครั้ง� คราวนี้อยากจะใส่พระจริงๆขึ้นมาแล้วนะ� ให้ตายยังไงฉันก็ไม่ขึ้นรถที่ยัยนี่ขับเป็นรอบที่สามแล้วเพี้ยง
��������������� หลังจากที่ฉันอกสั่นขวันแขวนอยู่หลายรอบก็เลยงอนยัยพิ้งค์� ทำให้ยัยนั่นยกคอมฯให้ฉันเล่นคนเดียวเลย เย้ๆๆ(ปกติบ้านมันก็มีคอมฯหลายเครื่องอยู่แล้วนี่นา T^Tโดนหลอกให้หายโกรธเฉยเลย) ฉันรีบกุลีกุจอกระโดดขึ้นเตียงนอนของพิ้งค์แล้วเปิดโน้ตบุ๊ก ออนเอ็มเอสเอ็นทันที
��������������� “แกเนี่ยชอบเล่นเอ็มจริงๆเลยนะ” พิ้งค์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จทักขึ้น
��������������� “เคยได้ยินไหมว่าเราคู่กัน ฮ่าๆๆ” ฉันบอกอย่างสบายใจ
��������������� “นี้ๆ ฉันหิวแล้วอ่ะ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมากินแล้วกัน� เฮ้อแม่บ้านไม่อยู่มันแย่อย่างนี้เอง แกรอก่อนนะจะหาอะไรมาให้กิน� อ๋อ!แล้วอย่าลืมออนเอ็มเอ็สเอ็นเผื่อฉันด้วยนะ อิอิ”
��������������� พิ้งค์พูดจบก็วิ่งออกจากห้องไป� -o-มีเพื่อนน่ารักก็ดีอย่างนี้แหละคะ� รอกินอย่างเดียวฮ่าๆเดี๋ยวเพื่อนหาให้�
ดิ้งๆ �ดิ้งๆ
��������������� เสียงเอ็มของฉันดังขึ้นบ่งบอกว่าเชื่อมโยงเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าจะมีคนแอดเมลล์มา(Add mailคือการนำ อีเมลล์ของคนที่อยากจะคุยด้วยไปAddในอีเมลล์ของเราเพื่อขอเป็นเพื่อน และรอฝ่ายนั้นตอบตกลงรับเราเป็นเพื่อน)� ฉันกดรับอย่างไม่รีรอ >O<เพราะการได้คุยกับเพื่อนใหม่เป็นอะไรที่วิเศษสุดๆ� ฉันเคยเอาอีเมลล์ของฉันไปโพสไว้ในเว็บไซต์หาเพื่อนต่างๆ� ถึงมันจะรู้สึกว่าอันตรายแต่ถ้าฉันไม่ไปพบและเจอหน้าก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว� แค่คุยเพื่อความบันเทิงเฉยๆ
��������������� เมื่อฉันกดรับอีกฝั่งเป็นเพื่อน� ก็ดูเหมือนเขาจะออนไลน์อยู่พอดี >O<โชคดีจริงๆ ทักเลยดีกว่า
ห้องสนทนาของ ::Meenni Meenni:: กับ Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟ)
::Meenni Meenni:: Says: ดีจ้า
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ดีคร้าฟ� ใครเหรอคร้าฟ?
::Meenni Meenni:: Says: เธอแอดเมลล์เราไม่ใช่เหรอ �แต่ก็ช่างเหอะ เรามีนจ้า
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: อ้าวเหรอ งั้นขอโทษทีนะ
::Meenni Meenni:: Says: ไม่เป็นไรๆ� เธอชื่ออะไรเหรอ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: เรียกออนเฉยๆล่ะกันนะคร้าฟ�
::Meenni Meenni:: Says: อ๋อ จ้าผู้ชายเหรอ ?
::Meenni Meenni:: Says: เงียบไปเลย L
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: อ่อ อื้มผู้ชาย ขอโทษทีนะ นึกออกพอดีเลยว่าแอดเมลล์เธอไปตอนไหน
::Meenni Meenni:: Says: นึกออกแล้วเหรอ สงสัยเอามาจากที่เราโพสเมลล์ไว้ทางเว็บฯหาเพื่อนแน่ๆ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: 555+ ไม่ใช่ๆเราไปอ่านเจอที่ไดอารี่ที่เธอเขียนน่ะ
::Meenni Meenni:: Says: จริงเหรอ �ใน �www.sabuyjai-diary.com �*เหรอ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ใช่ๆๆ เขียนได้แปลกมาเลยนะ� อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลย
::Meenni Meenni:: Says: อ๋อ ฮ่าๆ นั้นก็ตั้งนานแล้วนะ ยังไม่ได้ไปอัพเลย
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: อัพอีกสิ เราว่าอ่านแล้วเป็นกำลังใจมากๆเลยนะ
::Meenni Meenni:: Says: เรื่องที่เราพยายามจะเข้าแข่งประกวดออกแบบเสื้อเนี่ยนะ อ่านแล้วเป็นกำลังใจ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ฮ่าๆ ใช่ๆๆ ขนาดท้องเสียยังดิ้นรนเลย
::Meenni Meenni:: Says: ชมสินะนั้นฮ่าๆ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ชมนะสิฮ่าๆ� งั้นเดี๋ยวเรามานะ
::Meenni Meenni:: Says: :P จ้า
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Busy
��������������� ฉันเล่นเอ็มเอ็สเอ็นจนเพลิน� เลยลืมไปเลยว่ากำลังนั่งรออาหารมื้อเย็นจากพิ้งค์อยู่
�-*-ไปนานเหมือนกันนะเนี่ย
พอบ่นไปได้สักพัก� ประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับกินหอมๆของมาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้น พิ้งค์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าหิวจนไส้จะกิ่วแล้ว ก่อนจะว่างไว้บนโต๊ะที่ใช่รับแขก(เว่อมากค่ะ) ฉันเลยรีบไปหยิบมาทานก่อนที่จะอืดเหมือนในโฆษณา� พิ้งค์หยิบชามของตัวเองไปทานตรงโต๊ะหน้าโทรทัศน์ แถวเตียงนอน(ห้องนอนพิ้งค์มีโทรทัศน์สองเครื่อง) ฉันก็ไปนั่งกินข้างๆพิ้งค์แล้วเราสองคนก็ช่วยกันโซยมาม่าไปคนล่ะชาม จนอิ่ม
“นี่แกไม่ได้ออนเอ็มเอ็สเอ็นให้ฉันด้วยเหรอ” หลังจากกินเสร็จพิ้งค์ก็ไปนอนจ้องหน้าโน๊ตบุ๊ก
“ลืมไปเลยอ่ะ”� ฉันตอบแล้วหยุดซดน้ำมาม่า
“ไม่เป็นไรๆเดี๋ยวฉันจะดูออนไลน์� วันนี้เขาออกรายการแฉดารา อ้าวมีคนตอบเอ็มแกอะมีน”
“อ่อ เอ่อรู้แล้วๆ” ฉันพูดจบก็วิ่งไปนั่งจอที่หน้าจอเหมือนเดิม
ห้องสนทนาของ ::Meenni Meenni:: กับ Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟ)
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: เราไปนอนก่อนนะ
::Meenni Meenni:: Says: อ้าวเหรอ อื้องั้นฝันดีนะ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: คราฟฝันดีเช่นกัน แล้วอย่าลืมอัพไดอารี่อีกนะ
Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: Offline
ความคิดเห็น