ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Online love you บังเอิญรักเธอซะแล้ว

    ลำดับตอนที่ #1 : เพื่อนใหม่ [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 21 มิ.ย. 52


    1

    ก๊อก แกร๊กๆๆ

    ��������������� เสียงปุ่มกดคีย์บอร์ดหน้าจอคอมพิวเตอร์ดังรั่วติดกันอย่างถี่ยิบและเป็นแบบนี้อยู่นานหลายชั่วโมงโดยที่เจ้าตัวก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าเล่นมานานเท่าไหร่แล้ว

    ��������������� มีน….สาวน้อยผมหน้าม้าสีดำสนิทยาวสลวยไปถึงกลางหลังดวงตาสีดำรับกับใบหน้าที่ขาวเนียน เธอหันไปมองนาฬิกาตรงฝาผนังห้องนอนก่อนจะหันกลับมาพิมพ์ก๊อกแกร๊กแล้วยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับShutdownเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้งานอย่างหนักมาเป็นเวลานานเกือบตลอดทั้งวันลง

    ��������������� “เดี๋ยวเย็นนี้จะมาเล่นอีก >_<” เธอหันไปพูดใส่คอมฯที่เพิ่งจะได้เลิกปิดไปเมื่อสักครู่แล้วเอามือลูบๆคลำๆอย่างถะนุถนอมจากนั้นก็หยิบกุญแจห้องออกไปข้างนอก

    …………………………………………………………………………………………………………………………………

    กริ๊งๆ กริ๊งๆ

    ��������������� ฉันยืนกดกริ๊งอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่โตมโหฬารของพิ้งค์เพื่อนสนิทที่สุดของฉันอยู่นานสองนานก็ยังไม่มีใครออกมาเปิดประตูให้เข้าไปข้างในเสียทีหลังจากที่ยืนกดจนเมื่อยมือฉันก็ล้มเลิกความตั้งใจแล้วเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋าหยิบมือถือออกมาโทรหาพิ้งค์

    ��������������� ให้ตายสิT^Tเป็นคนนัดคนอื่นมาหาตัวเองที่บ้านแท้ๆแต่กลับไม่ออกมาต้อนรับเลย

    ��������������� ฉันกดค้นหาเบอร์พิ้งค์ที่เพิ่งโทรเข้ามาเมื่อไม่กี้ชั่วโมงก่อน

    ~ภาวะโลกละละละละเลิฟ ยู มันช่างสดใส na na na น่าดู~

    ��������������� เสียงรอสายของพิ้งค์ที่เล่นเอาฉันอยากจะวีนใส่จริงๆเลย เออมันสดใสแน่ถ้าจะช่วยออกมาเปิดประตูให้ฉันเข้าไปข้างในปาเข้าไปครึ่งเพลงแล้วยังไม่ยอมรับเลย เฮ้อT_T~ ภาวะโลกร้อนจริงๆด้วย

    [ ฮัลโหลๆ ]

    หน๊อยรับสักทีนะย่ะ

    “นี่พิ้งค์!ทำไมแกไม่รับซะพรุ่งนี้เลยล่ะปล่อยให้รอเป็นชาติเลยนะย่ะ ร้อนก็ร้อนจะตายอยู่แล้วเนี่ย ถ้าแกไม่ออกมารับฉันหน้าบ้านตอนนี้แกตายแน่!

    [อ้าวนี่มาถึงนานแล้วเหรอมีน ทำไมไม่กดกริ่งล่ะฮะ]

    ยังค่ะ ยังไม่รู้ความผิดของตัวเอง

    “ฉันกดจนมือฉันรั่วหมดแล้วย่ะ! นี่ถ้ายังไม่ยอมออกมาเปิดประตูบ้านให้ฉันแกเละแน่”

    [ อ๋อลืมไปเลยพอดีอยู่ในห้องแอร์มันเก็บเสียงอ่ะแกเลยไม่ได้ยิน แม่บ้านลาคลอดอีกอ่ะ ]

    “ยังไงก็ช่างเถอะตอนนี้ฉันจะละลายเหมือนโฟร์มดอยู่แล้วรีบๆออกมาเปิดสักที”

    [ เออๆได้ๆบ่นเป็นคนแก่เลยวุ้ย ]

    อ๊ายยย เมื่อกี้แอบหลอกว่าฉันอีก T^T ยังไม่แก่สักหน่อยยัยบ้า

    สักพักพิ้งค์ก็เดินออกมาจากบ้านหลังมหึมาด้วยเสื้อผ้าสบายๆเสื้อลายสก็อตคอปก กางเกงขาสี่ส่วนสีครีมออกน้ำตาลๆผมก็ซอยเซทมาอย่างดีสบายๆอย่างคนรวยไง

    พิ้งค์เพื่อนสนิทของฉันที่คบกับมาสิบปีและเป็นลูกผู้ดีมีเงิน เพราะพ่อของเธอเป็นถึงทูตระหว่างประเทศบ้านเลยหลังใหญ่โตโอฬารขนาดนี้ทางเดินระหว่างเข้าบ้านนั้นเป็นสวนหย่อมมีต้นไม้ใหญ่แซมกับดอกไม้ดูแล้วสบายตาพื้นทางเดินปูด้วยหินขัดอย่างดี เสียงน้ำตกขนาดกลางที่ถูกสั่งจัดมาเป็นพิเศษตั้งอยู่ตรงมุมอ่านหนังสือสร้างบรรยากาศในการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดีตัวบ้านที่ใหญ่โตจนโอเว่อนั้นสร้างขึ้นสไตล์ยุโรปเน้นความหรูหรา อลังการ เป็นองค์ประกอบ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างและตกแต่งบ้านเป็นสไตล์ตะวันตก เฟอร์นิเจอร์ในบ้านนั้นทั้งชุดโซฟา โต๊ะกลาง เป็นการคุมโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ให้เข้ากัน เพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยกที่มีเอกลักษณ์และมีความสง่างามอยู่ในตัวของมันเอง มีสระว่ายน้ำอยู่ในบ้านและห้องฟิตเนตครบครัน

    พูดได้ว่าถ้าฉันได้อยู่ที่นี่คือไม่ต้องการจะไปที่ไหนอีกแล้วเพราะนิสัยติดบ้านแบบฉันที่นี่คือสวรรค์ดีๆนี่เองซึ่งปัจจุบันฉันก็แทบไม่อยากไปไหนแล้วแค่มีคอมฯของกินและโทรทัศน์ก็พอแล้วล่ะหุหุ

    ฉันกับพิ้งค์เพื่อนรักที่สุดกำลังนั่งดูโทรทัศน์จอพลาสม่าขนาด 60นิ้วกันอย่างสนุกสนาน ในห้องนั่งเล่น ที่ติดแอร์ไว้เย็นเฉียบยิ่งกว่าคอนโดฯที่ฉันพักอยู่เสียอีก

    “พิ้งค์งั้นวันนี่แกก็อยู่บ้านคนเดียวนะสิ” ฉันถามขึ้นหลังจากที่ละครล่องเรือหารักจบไป

    “ใช่ วันนี่ฉันไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนฉันเลยโทรตามแกมานอนเป็นเพื่อนฉันไง>O<” ยัยพิ้งค์ยิ้มเริงร่าทันที

    - -^ ทำไมแกไม่บอกฉันก่อนฮะ ฉันไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเลยนะ”

    “ใส่เสื้อผ้าฉันแทนก็ได้นิ ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”

    - - แกมั่นใจเหรอว่าฉันจะใส่Sizeแกได้อ่ะพิ้งค์ -3-ตั้งแต่คบกันมาฉันใส่เสื้อผ้าแกทีเดียวแล้วเข็ดเลยนะT^T

    ��������������� ฉันยังจำได้ดีวันนั้นฉันมีประกวดร้องเพลงที่อำเภอแล้วกรรมการก็ดันให้เปลี่ยนชุดด้วยเพราะมีคะแนนการแต่งกายฉันไม่ได้เตรียมอะไรมาเลยนอกจากตัว หัวใจ และเสียงอันไพเราะพิ้งค์เลยสั่งให้คนขับรถไปเอาเสื้อผ้าเธอมาให้ฉันใส่ตอนใส่เสร็จก็ไม่ได้คิดอะไรแต่พอขึ้นไปร้องสักพักกระโปรงก็ปริออกมาT^Tวันนั้นเป็นวันที่น่าอายมากที่สุดเลย

    ��������������� “นั้นมันตอนม.1นะ>.<แกจะเก็บมาใส่ใจทำไมจะเข้ามหาลัยอยู่แล้วนะ” พิ้งค์ปลอบฉันก่อนจะพูดต่อ “งั้นเดี๋ยวเราไปเอาเสื้อผ้าที่ห้องแกก็ได้อยากจะขับรถที่พ่อทิ้งไว้ก่อนจะไปทำงาน>_<

    ��������������� “เออๆ พ่อแกเนี่ย เมื่อวานเพิ่งจะเจอวันนี้ก็ไปทำงานอีกแล้วเหรอแกเลยกลายเป็นหนูร่าเริงตอนแมวไม่อยู่เลย”

    ��������������� “พ่อแกก็เหมือนกันนั้นแหละ ฮ่าๆ”

    ��������������� เราสองคนหัวเราะกันอย่างสนุกสนานในเรื่องพ่อๆแม่ของพวกเราสองคนเสียไปทั้งคู่ทำให้โตขึ้นมาในการปกครองดูแลของพ่อที่เป็นมนุษย์บ้างานเหมือนกัน

    ��������������� บรืนน~

    ��������������� “อ๊ากๆ TOT

    ��������������� ฉันตะโกนโหวกเหวกโวยวายจนลิ้นไก่กับลูกคอจะกระเด้งออกมาจากปากอยู่แล้วโดยฝีมือของยัยพิ้งค์เพื่อนรัก!

    ��������������� “แกขับดีๆหน่อยจะได้ไหมT^T” ฉันเตือนเพื่อนที่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ฟังอะไรแล้ว

    ��������������� ฉันคิดผิดแน่ๆเลยที่มานั่งรถของพิ้งค์TT

    ��������������� “ก็ขับดีแล้วนะตอนนี้กำลังตั้งสมาธิอยู่อย่าชวนคุยน่ะ! ไอ้รถคันนี้จะยังไงกันนะฟะ”

    ��������������� T/\Tรู้แล้วจ้า~ ฉันน่าจะห้อยพระไว้ที่คอด้วยนะวันนี้

    ��������������� กรี๊ดดดดดดดด!ใครก็ได้หยุดยัยนี่ที Help me please!!

    ��������������� กว่าจะมาถึงคอนโดฯได้เล่นเอาหัวใจจะวายต้องขอบคุณสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายทั้งปวงที่ให้ลูกได้มีชีวิตต่อไปขากลับฉันสาบานเลยว่าจะไม่นั่งรถไปกับยัยพิ้งค์เด็ดขาด

    ��������������� ฉันรีบขึ้นมาหยิบเสื้อผ้าแล้วก็ของใช้ส่วนตัวบางอย่างใส่กระเป๋าโดยที่บอกให้พิ้งค์รออยู่ข้างล่างสงบสติอารมณ์หน่อยแล้วจากนั้นฉันก็วิ่งตรงดิ่งไปหาพิ้งค์ทันทีเพราะกลัวจะรอนาน

    ปึก!

    ��������������� จู่ๆก็มีผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาชนไหลฉันเข้าอย่างจังทำให้ฉันกระเด็นไปชนกับประตูห้องของคนอื่นเสียงดังสนั่นพร้อมกับกระเป๋าที่ตอนนี้มันกระเด็นไปดังตุ๊บอยู่ทางฝั่งตรงข้ามฉันเงยหน้าขึ้นทำตาขวางทันทีแต่พอสบตาเขาเข้าไปก็พบว่า……..O_O หล่อ!!>O< กรี๊ดดด ผู้ชายคนตรงหน้าหล่อมากๆไม่สิน่ารักต่างหากหน้าหวานมากตัวสูงประมาณร้อยเจ็ดสิบกว่าๆได้มั้งหน้าใสไร้สิวใดๆ เขาทำหน้างงๆกับอาการเคลิ้มๆของฉันแล้วรีบเข้ามาพยุงฉันขึ้นทันที

    ��������������� >//<อุ๊ยเขินจัง

    ��������������� “เป็นอะไรไหมครับ ต้องขอโทษจริงๆพอดีผมรีบไปหน่อย ^^” เขาถามขึ้น

    ��������������� “ไม่หรอกคะ^^ฉันเองก็มัวแต่รีบเหมือนกัน” ฉันตอบ

    ��������������� >O<ว๊ายสุภาพบุรุษมากมาย

    ��������������� “งั้นผมต้องขอโทษอีกทีนะครับ” เขากล่าวขอโทษก่อนจะเดินทึกทักไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้ามาให้ฉัน “นี่ของคุณครับ ถ้าอย่างนั้นต้องขอตัวก่อนะครับ” พูดจบแล้วเขาก็เดินจากไปอย่างเงียบๆ

    ��������������� จะละลายแล้ว ใจเต้นตึกตั๊กๆ

    ��������������� “มาแล้วๆๆ^O^” ฉันเดินตรงมาหาพิ้งค์ที่กำลังฟังเอ็มพีสามอยู่อย่างสบายใจ

    ��������������� “เร็วดีจริงๆเลย เพิ่งจะฟังเพลงไปได้แค่ครึ่งเดียวเอง” พิ้งค์พูดด้วยท่าทางเสียดาย

    ��������������� เร็วบ้าอะไรกันฉันเพิ่งจะชนกับคุณหน้าหวานไป -^-

    ��������������� -o-เพลงมันเพราะมากเลยเหรอ ทำหน้าเสียดายขนาดนั้นอ่ะ” ฉันถามด้วยความสงสัย

    ��������������� >O<เพลงของออนไลน์ไงมีนออกมาใหม่ล่าสุดเลยนะ^3^ ทางเว็บไซต์แฟนคลับเพิ่งส่งมาให้เมื่อกี้นี่เอง”

    ��������������� “เหรอ-*- ออนไลน์ไหนอ่ะพิ้งค์ไม่เคยรู้จักเลยหน้าใหม่เหรอ รู้จักแต่เขื่อน”

    ��������������� “อ๊ายบ้านนอกมากเลยมีน ออนไลน์ที่เขาเล่นหนังใหญ่ไง เรื่องม.3ปี4 ผมรักคุณอะ”

    ��������������� “อ๋อเหรอ -^-” ฉันพูดประชด แล้วเดินขึ้นรถไป โดยลืมไปว่าT^Tหายนะมันอยู่ข้างหน้า

    ��������������� กรี๊ดดดดดดดดดดดด!ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่นะTOT!! ขับดีๆหน่อยสิ อ๊ากก

    ��������������� ฉันมาถึงบ้านของพิ้งค์อย่างปลอดภัยอีกครั้งคราวนี้อยากจะใส่พระจริงๆขึ้นมาแล้วนะให้ตายยังไงฉันก็ไม่ขึ้นรถที่ยัยนี่ขับเป็นรอบที่สามแล้วเพี้ยง

    ��������������� หลังจากที่ฉันอกสั่นขวันแขวนอยู่หลายรอบก็เลยงอนยัยพิ้งค์ทำให้ยัยนั่นยกคอมฯให้ฉันเล่นคนเดียวเลย เย้ๆๆ(ปกติบ้านมันก็มีคอมฯหลายเครื่องอยู่แล้วนี่นา T^Tโดนหลอกให้หายโกรธเฉยเลย) ฉันรีบกุลีกุจอกระโดดขึ้นเตียงนอนของพิ้งค์แล้วเปิดโน้ตบุ๊ก ออนเอ็มเอสเอ็นทันที

    ��������������� “แกเนี่ยชอบเล่นเอ็มจริงๆเลยนะ” พิ้งค์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จทักขึ้น

    ��������������� “เคยได้ยินไหมว่าเราคู่กัน ฮ่าๆๆ” ฉันบอกอย่างสบายใจ

    ��������������� “นี้ๆ ฉันหิวแล้วอ่ะ เดี๋ยวฉันไปหาอะไรมากินแล้วกันเฮ้อแม่บ้านไม่อยู่มันแย่อย่างนี้เอง แกรอก่อนนะจะหาอะไรมาให้กินอ๋อ!แล้วอย่าลืมออนเอ็มเอ็สเอ็นเผื่อฉันด้วยนะ อิอิ”

    ��������������� พิ้งค์พูดจบก็วิ่งออกจากห้องไป-o-มีเพื่อนน่ารักก็ดีอย่างนี้แหละคะรอกินอย่างเดียวฮ่าๆเดี๋ยวเพื่อนหาให้

    ดิ้งๆ ดิ้งๆ

    ��������������� เสียงเอ็มของฉันดังขึ้นบ่งบอกว่าเชื่อมโยงเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าจะมีคนแอดเมลล์มา(Add mailคือการนำ อีเมลล์ของคนที่อยากจะคุยด้วยไปAddในอีเมลล์ของเราเพื่อขอเป็นเพื่อน และรอฝ่ายนั้นตอบตกลงรับเราเป็นเพื่อน)ฉันกดรับอย่างไม่รีรอ >O<เพราะการได้คุยกับเพื่อนใหม่เป็นอะไรที่วิเศษสุดๆฉันเคยเอาอีเมลล์ของฉันไปโพสไว้ในเว็บไซต์หาเพื่อนต่างๆถึงมันจะรู้สึกว่าอันตรายแต่ถ้าฉันไม่ไปพบและเจอหน้าก็ไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วแค่คุยเพื่อความบันเทิงเฉยๆ

    ��������������� เมื่อฉันกดรับอีกฝั่งเป็นเพื่อนก็ดูเหมือนเขาจะออนไลน์อยู่พอดี >O<โชคดีจริงๆ ทักเลยดีกว่า

    ห้องสนทนาของ ::Meenni Meenni:: กับ Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟ)

    ::Meenni Meenni:: Says: ดีจ้า

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ดีคร้าฟใครเหรอคร้าฟ?

    ::Meenni Meenni:: Says: เธอแอดเมลล์เราไม่ใช่เหรอ แต่ก็ช่างเหอะ เรามีนจ้า

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: อ้าวเหรอ งั้นขอโทษทีนะ

    ::Meenni Meenni:: Says: ไม่เป็นไรๆเธอชื่ออะไรเหรอ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: เรียกออนเฉยๆล่ะกันนะคร้าฟ

    ::Meenni Meenni:: Says: อ๋อ จ้าผู้ชายเหรอ ?

    ::Meenni Meenni:: Says: เงียบไปเลย L

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: อ่อ อื้มผู้ชาย ขอโทษทีนะ นึกออกพอดีเลยว่าแอดเมลล์เธอไปตอนไหน

    ::Meenni Meenni:: Says: นึกออกแล้วเหรอ สงสัยเอามาจากที่เราโพสเมลล์ไว้ทางเว็บฯหาเพื่อนแน่ๆ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: 555+ ไม่ใช่ๆเราไปอ่านเจอที่ไดอารี่ที่เธอเขียนน่ะ

    ::Meenni Meenni:: Says: จริงเหรอ ใน www.sabuyjai-diary.com *เหรอ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ใช่ๆๆ เขียนได้แปลกมาเลยนะอ่านแล้วรู้สึกดีมากๆเลย

    ::Meenni Meenni:: Says: อ๋อ ฮ่าๆ นั้นก็ตั้งนานแล้วนะ ยังไม่ได้ไปอัพเลย

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: อัพอีกสิ เราว่าอ่านแล้วเป็นกำลังใจมากๆเลยนะ

    ::Meenni Meenni:: Says: เรื่องที่เราพยายามจะเข้าแข่งประกวดออกแบบเสื้อเนี่ยนะ อ่านแล้วเป็นกำลังใจ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ฮ่าๆ ใช่ๆๆ ขนาดท้องเสียยังดิ้นรนเลย

    ::Meenni Meenni:: Says: ชมสินะนั้นฮ่าๆ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: ชมนะสิฮ่าๆงั้นเดี๋ยวเรามานะ

    ::Meenni Meenni:: Says: :P จ้า

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Busy

    ��������������� ฉันเล่นเอ็มเอ็สเอ็นจนเพลินเลยลืมไปเลยว่ากำลังนั่งรออาหารมื้อเย็นจากพิ้งค์อยู่

    -*-ไปนานเหมือนกันนะเนี่ย

    พอบ่นไปได้สักพักประตูห้องก็เปิดออกพร้อมกับกินหอมๆของมาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้น พิ้งค์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าหิวจนไส้จะกิ่วแล้ว ก่อนจะว่างไว้บนโต๊ะที่ใช่รับแขก(เว่อมากค่ะ) ฉันเลยรีบไปหยิบมาทานก่อนที่จะอืดเหมือนในโฆษณาพิ้งค์หยิบชามของตัวเองไปทานตรงโต๊ะหน้าโทรทัศน์ แถวเตียงนอน(ห้องนอนพิ้งค์มีโทรทัศน์สองเครื่อง) ฉันก็ไปนั่งกินข้างๆพิ้งค์แล้วเราสองคนก็ช่วยกันโซยมาม่าไปคนล่ะชาม จนอิ่ม

    “นี่แกไม่ได้ออนเอ็มเอ็สเอ็นให้ฉันด้วยเหรอ” หลังจากกินเสร็จพิ้งค์ก็ไปนอนจ้องหน้าโน๊ตบุ๊ก

    “ลืมไปเลยอ่ะ”ฉันตอบแล้วหยุดซดน้ำมาม่า

    “ไม่เป็นไรๆเดี๋ยวฉันจะดูออนไลน์วันนี้เขาออกรายการแฉดารา อ้าวมีคนตอบเอ็มแกอะมีน”

    “อ่อ เอ่อรู้แล้วๆ” ฉันพูดจบก็วิ่งไปนั่งจอที่หน้าจอเหมือนเดิม

    ห้องสนทนาของ ::Meenni Meenni:: กับ Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟ)

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: เราไปนอนก่อนนะ

    ::Meenni Meenni:: Says: อ้าวเหรอ อื้องั้นฝันดีนะ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: คราฟฝันดีเช่นกัน แล้วอย่าลืมอัพไดอารี่อีกนะ

    Online (งานยุ่งจนหัวหมุนแล้วคร้าฟฟ) Says: Offline

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×