ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มงกุฎกษัตริย์กรุงศรี

    ลำดับตอนที่ #2 : จากบูรพาสู่ประจิม

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 48


        พ.ศ.2525

        กลางดึกของคืนหนึ่ง ที่วัด……(ไม่ขอเอ่ยนาม แต่อยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา) ชายกลุ่มหนึ่ง ได้ลอบเข้าไปขุดกรุในวัด เพื่อหาสมบัติโบราณ หลังจากขุดไปได้ประมาณ2ชั่วโมงเศษ ก็มีเสียงตะโกนจากลูกมือคนหนึ่ง

        “พี่คงๆ มาดูนี่สิ”

        คง ชายวัย50กว่าๆซึ่งเป็นหัวหน้าทีมขุดเดินไปดู

        “เจอไรวะ” คงถาม

        “ดูสิพี่” ลูกมือคนนั้นตอบ พลางส่งวัตถุชิ้นหนึ่งให้ดู คงรับมาพิจารณาดูแล้วพูดว่า

        “ลักษณะคล้ายมงกุฎเลยว่ะ”

        “ของพระเจ้าอยู่หัวสมัยกรุงเก่ารึเปล่าพี่”

        “ข้าก็ไม่แน่ใจว่ะ แต่ที่ข้าแน่ใจคือ มงกุฎทำด้วยทองแท้อย่างนี้ แถมมีเพชรประดับด้วย ข้าว่าพวกเรารวยเละแน่”

        “เฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ” เสียงกลุ่มผู้ขุดเฮกันเสียงดังสนั่น แต่เฮกันได้ไม่เท่าไหร่ ก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น

        “เฮ้ย พวกมึงเป็นใครวะ มาขุดสมบัติโบราณอย่างนี้ระวังนรกจะกินกบาลเอา” ทีมขุดหันไปมอง เห็นเจ้าของเสียงคือเจ้าอาวาสในวัดแห่งนี้ เดินมาพร้อมกับกรรมการวัด,เด็กวัด3คนและสัปเหร่ออีก1คน นอกจากเจ้าอาวาสแล้วทุกคนมีท่อนไม้และท่อนเหล็กอยู่ในมือกันทุกคน

        “เฮ้ย หลวงพ่อมาแล้วเว้ย ตัวใครตัวมันล่ะ” ทีมขุดคนนึงตะโกนขึ้น แล้วภายในไม่ถึง1นาที ทีมขุดทั้งหมดก็หายไปจากวัดทันที



        “ไอ้แดง มงกุฎนี้เราจะเอาไปขายที่ไหนดีวะ” คงถามแดง ลูกน้องคนสนิทของตนในบ่ายวันต่อมา แดงนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็นึกขึ้นมาได้ จึงพูดว่า

        “มีฝรั่งอเมริกันอยู่คนนึง พูดไทยได้ชื่อโอนีล ได้ข่าวว่ามันมีแม่เป็นคนไทย พ่อมันเป็นจีไอมารบที่เวียดนาม แต่ตั้งฐานทัพอยู่ในไทย ประมาณเกือบ10ปีก่อนตอนไอ้กันยอมแพ้เวียดกง พ่อมันก็พามันกับแม่มันกลับอเมริกา ที่นี้รู้สึกว่ามันได้ไปทำงานกับเศรษฐีคนนึง แล้วตอนนี้มันพาลูกชายเศรษฐีคนนั้นมาเที่ยวที่เมืองไทย ตอนนี้อยู่ที่อยุธยานี่แหละครับ”

        “แล้วมันจะซื้อเหรอ ไอ้มงกุฎอันนี้น่ะ”

        “ต้องซื้อสิครับ เพราะผมรู้มาว่าไอ้เศรษฐีคนนั้นมันกำลังจะเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ประเทศมัน และเป็นพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันออกครับ” คำพูดนี้ของแดงทำให้คงตาลุกวาวทันที

        “เอ็งพูดจริงนะ”

        “จริงสิครับ ผมจะโกหกพี่ทำไม”

        “ดี ข้าชักอยากจะพบไอ้โอนีลของเอ็งแล้วสิ กับไอ้ลูกชายเศรษฐีคนนั้นด้วย”

        “ผมจะติดต่อให้พี่เอง”



        3วันต่อมา

        คง มาไหว้พระในกุฏิของวัดแห่งหนึ่ง เมื่อไหว้เสร็จแล้ว เขานั่งขัดสมาธิรอบุคคลที่นัดเขามาพบในกุฏิแห่งนี้ ซึ่งเขารอประมาณ5นาที ก็มีชาวอเมริกัน2คน คนแรกอายุประมาณ25ปี หน้าตามีเค้าคนเอเชียอยู่ไม่น้อย อีกคนอายุประมาณ31ปี ชายคนแรกทักทายคงเป็นภาษาไทย

        “สวัสดีครับ คุณคือมิสเตอร์คงใช่มั้ยครับ”

        “ใช่ครับ”

        “ผมคือโอนีล คาดว่าคุณคงได้ยินชื่อผมจากมิสเตอร์แดงแล้ว ส่วนนี่คุณแกมเบิล ลูกชายของเจ้านายผม” ชายที่ชื่อแกมเบิลยกมือไหว้คงแบบเกร็งๆ และเอ่ยเป็นภาษาไทยแต่ไม่ค่อยชัดว่า

        “ซาวัดดีคับ”

        “โอ้ คุณแกมเบิลก็พูดภาษาไทยได้เหมือนกันหรือครับ” คงพูดกับแกมเบิล แกมเบิลทำหน้างง หันไปถามโอนีลว่า

        “What’s he saying. (เขาพูดว่าไรเหรอ)”

        “He thinks you can speak Thai. (เขาคงคิดว่าคุณพูดภาษาไทยได้น่ะ)” ก่อนที่โอนีลจะหันไปพูดกับคงว่า

        “เปล่าหรอกครับ เขาพูดภาษาไทยไม่ได้ ผมแค่สอนคำพูดง่ายๆให้กับเขาเท่านั้นเอง”

        “โผมรักคูน” แกมเบิลพูดขึ้นมา คงหัวเราะแล้วพูดว่า

        “แหม รู้ประโยคนี้ด้วย แต่ผมว่าเราเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ เชิญนั่งครับ”

        ทั้ง3นั่งลง โอนีลจึงพูดขึ้นว่า

        “มิสเตอร์คงมีอะไรก็พูดกับคุณแกมเบิลเลยครับ ผมจะเป็นล่ามให้เอง” คงจึงพูดขึ้นว่า

        “คุณแกมเบิลอาจจะทราบแล้วนะครับ ว่าผมไปเจอมงกุฎที่วัดแห่งหนึ่ง และผมรู้ว่าพ่อของคุณกำลังจะเปิดพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมตะวันออก เพราะฉะนั้นมงกุฎอันนี้คุณน่าจะสนใจ ผมว่าเราตกลงราคากันได้นะครับ” พูดจบโอนีลก็แปลเป็นภาษาอังกฤษให้แกมเบิลฟัง แกมเบิลจึงพูดขึ้นว่า

        “May I see your crown please? (ขอผมดูมงกุฎคุณหน่อยได้มั้ย)” โอนีลแปลให้คงฟัง คงจึงหยิบมงกุฎในย่ามมาให้ดู แกมเบิลรับไปดู แล้วพูดว่า

        “It’s so beautiful. I think this crown’s price maybe 5 million bath. (มันสวยจริงๆ ผมคิดว่าราคาน่าจะประมาณ5ล้านบาทได้)” ทันทีที่โอนีลแปลจบ คงก็โพล่งขึ้นมาว่า

        “ไม่ได้ ผมขอ10ล้าน” โอนีลแปลให้แกมเบิลฟัง แกมเบิลก็ตะคอกใส่คงว่า

        “10 million! Are you crazy? 5 million I think it’s too much. (10ล้าน บ้ารึเปล่า 5ล้านก็เกินพอแล้วแล้ว)”

        “ผมบอกว่า10ล้านก็ต้อง10ล้าน”

        “ใจเย็นๆก่อนคุณคง,Relax young master. (ใจเย็นหน่อยเถอะครับคุณหนู)” โอนีลห้ามทั้ง2ภาษา ก่อนจะหันไปบอกแกมเบิลว่า

        “I think the first you should talk with your father. (ผมว่าคุณไปคุยกับพ่อก่อนเถอะ)” แกมเบิลพยักหน้า แล้วบอกคงผ่านโอนีลว่า

        “May I take a photo. (ขอผมถ่ายรูปก่อนละกัน)”



        2สัปดาห์ต่อมา

        พ่อของแกมเบิล หลังจากได้รับฟิล์มที่แกมเบิลส่งไปให้แล้ว ก็โทรศัพท์มาหาแกมเบิลว่าเขายินดีจะซื้อในราคาไม่เกิน8ล้านบาทเท่านั้น แกมเบิลและโอนีลจึงไปตกลงกับคง ซึ่งในที่สุดก็ยอมตกลง พ่อของแกมเบิลจึงโอนเงินเข้าบัญชีของคง ดังนั้นมงกุฎจึงตกเป็นของแกมเบิลในที่สุด โดยเขาได้นำสินค้าใส่เรือขนไปฟลอริด้า ที่ซึ่งพ่อของเขาอาศัยอยู่ อีก3สัปดาห์ต่อมา แกมเบิลและโอนีลก็กลับอเมริกา โดยระหว่างนั่งเครื่องบิน แกมเบิลได้พูดกับโอนีลว่า

        “Next week, My father’s opening the museum. I hope our museum will be interesting. (อาทิตย์หน้า พ่อฉันก็จะเปิดพิพิธภัณฑ์แล้ว ฉันหวังว่ามันจะเป็นที่สนใจนะ)”

        “I hope so young master. (ผมก็หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้นครับ คุณหนู)”

        “After the museum have opened, I will get married with Kathy. (หลังจากเปิดพิพิธภัณฑ์แล้ว ฉันจะแต่งงานกับเคที่)”

        “I’m glad so sir. (ผมดีใจด้วยครับ)”



        1สัปดาห์หลังจากที่ทั้งคู่กลับถึงฟลอริด้า พ่อของแกมเบิลก็จัดพิธีเปิดพิพิธภัณฑ์ Eastern Museumอย่างเป็นทางการ หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นวัฒนธรรมตะวันออกถูกจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ รวมทั้งมงกุฎแห่งราชวงศ์กรุงศรีอยุธยาด้วย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×