ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    NEW FRIEND...ก็แค่เพื่อนใหม่ [Yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : 1:แรกพบเจอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 603
      6
      2 มี.ค. 56

    search- free theme . howto } rhythm

    1:แรกพบเจอ
    เห็นเธอ ก็ทักทาย

    13 May 2013

     

                    เสียงดังจ้อกแจ้กจอแจในโรงอาหารดูเป็นเรื่องปกติสำหรับวันแรกของการเปิดปีการศึกษาใหม่ของโรงเรียน ทุกคนพูดคุยกันในเรื่องต่างๆ ที่ไปพบเจอะเจอมาตอนปิดเทอม เล่าให้เพื่อนฟังถึงอะไรหลายๆอย่าง พวกผู้ชายก็อาจจะคุยกันเรื่องกีฬาเรื่องเกมส์ ส่วนผู้หญิงน่ะหรอ .. คงไม่พ้นเรื่องนินทา ทั้งๆที่เปิดเรียนวันแรกแท้ๆ

    คิดแล้วก็หน่ายใจ ทำไมผมต้องมานั่งกร่อยคนเดียวในโรงอาหารที่โคตรคึกครื้นแบบนี้วะ ผมควรจรลีหนีไปจากที่นี่หรือหาเพื่อนคุยดี ที่พอรู้จักก็คงจะมี แต่ให้คุยก็ไม่มีเรื่องให้คุยหรอก ไอ้ที่สนิทก็มีอยู่คนเดียว ป่านนี้ก็คงลั้ลลาเป็นหมากระเป๋าอยู่บนห้อง ทางที่ดีผมควรกินข้าวให้หมดเร็วๆ แล้วขึ้นห้องบ้างดีกว่านะ น่าเบื่อจริงๆบรรยากาศแบบนี้

    “เอ่อเรานั่งด้วยได้ปะ..” แต่ระหว่างที่ผมกำลังจะกินมาราธอน ..เอ่อ รีบกินน่ะแหละ ก็มีเสียงดังมาจากฝั่งตรงข้ามซะก่อน ผมเงยหน้าจากจานไปมองหน้ามันและเหลือบมองดูรอบๆตัว โต๊ะว่างก็มี ทำไมต้องมาโต๊ะนี้ “ไม่อยากนั่งคนเดียว นั่งด้วย ขอบใจ” เหมือนมันจะเข้าใจที่ผมจะสื่อเลยตอบกลับมาและทำการหน้าด้านนั่งลงฝั่งตรงข้ามทันที จะไล่ก็คงไม่ได้เดี๋ยวหาว่าหยิ่งอีก แล้วอีกอย่างถ้าโดนสวนมาว่า เก้าอี้โรงอาหารใครจะนั่งตรงไหนก็ได้คงมีเรื่องกันตาย

    เรากินข้าวกันอย่างเงียบๆ ท่ามกลางโรงอาหารที่เสียงดังไม่ต่างจากตอนแรกเท่าไหร่ ผมเป็นคนพูดมากนะเวลาอยู่กับเทสต์  แต่เวลาอยู่กับคนอื่นก็ไม่รู้จะต้องทำตัวยังไง เลยเงียบผิดปกติ หลายคนมองว่าผมหยิ่ง เข้ากับคนยาก ซึ่งก็เถียงได้ไม่เต็มปากสักที มันไม่เชิงหยิ่ง ผมแค่เข้ากับคนไม่เก่ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ แต่ล่ะคนย่อมมีความคิดที่แตกต่างกันไปอยู่แล้ว

    “จะไม่ชวนคุยกันหน่อยหรอ” หมอนั่นพูดขึ้นมา ทำหน้ากวนตีนซะด้วย

    “ก็ไม่เห็นมีเรื่องให้คุย ” ผมตอบไปเสียงเรียบพร้อมกับกินข้าวต่อ ไม่สนใจมันอีก แต่คำพูดต่อมาของมันก็แทงใจดำเต็มๆ อารมณ์ที่เบื่อๆก็เริ่มจะเปลี่ยนป็นหงุดหงิด

    “หรอ หน้ามึง เอ่อ.. ดูเหวี่ยงๆนะ เอ่อ..คือหมายถึง….

    “หน้าปกติกูก็เป็นงี้ ไม่พอใจก็ไปนั่งกับคนอื่น”ผมมองค้อนมันและเหวี่ยงใส่มัน ทั้งๆที่มันยังพูดไม่จบประโยคน่ะแหละ เผลอขึ้นกู-มึงใส่ไปด้วย ก็เหมือนปมด้อย.. ไม่ชอบให้ใครมาพูด

    “เฮ้ยๆ ทำไมต้องเหวี่ยงขนาดนี้วะ แค่พูดเฉยๆ กูก็แค่…….คิดว่ามึงไม่พอใจที่กูมานั่งด้วยนี่หว่า” มันบ่นอุบอิบแต่ก็เหมือนว่าผมไปจุดไฟอะไรให้มันก็ไม่ปาน .. เพราะจากที่ดูอะเลิร์ทแล้วนั้นมันก็ยิ่งระริกระรี้ชวนคุยต่อทันที “มึงชื่ออะไร”

    “เตอร์” ตอบไปแบบคนไม่คิดอะไร แต่นี่มัน ม.หกแล้วไม่ใช่หรอ  แม้จะเข้าถึงคนยากขนาดไหน แต่ผมก็รู้จักชื่อเพื่อนทั้งระดับนะ แล้วอย่างมันซึ่งเป็นคนเข้าถึงง่ายขึ้นแอดวานซ์ ผมว่ามันน่าจะรู้ชื่อคนทั้งโรงเรียนเลยก็ได้นะ หรือมันรู้จักทุกคน แต่ยกเว้นผมหรอวะ(?)

    “กูชื่อน็อต” มันบอกชื่อทั้งๆที่ยังไม่ได้ถาม จะว่าไปหน้ามันก็ไม่ค่อยคุ้นอะนะ แต่งช่างมันเถอะ เพราะตอนนี้ ผมกินข้าวหมดแล้ว สะพายกระเป๋าขึ้นหลัง มือหนึ่งถือจาน อีกมือดันตัวเองขึ้นจากโต๊ะ เตรียมจะก้าวขาออก แล้วก็ค้างไว้ที่เตรียม เพราะมันเอาอีกแล้วครับ

    “หยุดก่อนๆ กูกำลังจะกินหมด รอด้วยดิ” พอพูดเสร็จ น็อตมันก็รีบกินข้าว กินน้ำเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นมาภายในสองสามวิ ทีแรกก็กะจะไม่สนใจหรอกนะ แต่ก็ไม่ได้อยากเป็นคนใจดำขนาดนั้น มันอุตส่าห์รีบยัดลงไปขนาดนั้น

     

    “มึงไม่มีเพื่อนหรือไงห๊ะ” พอเดินออกมาจากโรงอาหาร ผมก็ถามสิ่งที่ค้างอยู่ในใจตั้งแต่มันลงมานั่งด้วยทันที ทั้งๆที่มันก็ดูเป็นคนมนุษย์สัมพันธ์ดี แต่ทำไมต้องมาวุ่นวายกับผมก็ไม่รู้

    “มึงจะเดินไปไหน” คำถามที่ไม่เกี่ยวกับประโยคข้างต้นถูกตอบมาจากปากมัน มึงได้ยินกูพูดรึเปล่าวะน่ะ?

    “ห้องกูดิ มึงก็ไปหาเพื่อนมึงได้ละ ตามอยู่ได้” รำคาญน่ะรำคาญเข้าใจมั้ย

    “ไปไม่ถูก” เสียงอุบอิบเหมือนบ่นคนเดียวแต่ผมกลับได้ยินอย่างชัดเจนเพราะเดินอยู่ข้างๆกัน

    “หือ” ผมวางเครื่องหมายคำถามไว้บนหน้าตัวเอง ก่อนหันกลับไปมองหน้ามันอย่างงงๆ

    “เพิ่งย้ายมา”

    “ย้ายตอนม.หกเนี่ยนะ” เส้นใหญ่ดีนี่

    “อือ ก่อเรื่องไว้” และน็อตมันก็เหมือนจะเข้าใจที่ผมจะสื่อ เพราะพอผมพยักหน้าด้วยสีหน้าแปลกๆ(สีหน้าแห่งความเสือกน่ะครับ) มันก็เล่าต่อทันที “กูหมั่นไส้ลูกผอ.ไง ชอบทำใหญ่ หาเรื่องพวกกู คิดว่ากูไม่กล้าไง”

    “แค่ต่อยกันถึงกับโดนไล่ออกเลยหรอวะ” หรือว่าเพราะเป็นลูกผอ. แต่ก็ไม่น่าจะเกี่ยวนะ ยังไงก็ผิดทั้งคู่ไม่ใช่หรอ

    “ใครบอกมึงว่าแค่ต่อย พวกกูไม่ได้ต่อยกัน” ได้ยินดังนั้นเลยหันไปมองหน้ามันประมาณว่า แล้วมึงทำอะไร “เผาโรงเรียน”

    อะ..อะ..ไอเหี้ยวัยรุ่นเดี๋ยวนี้มันอารมณ์โหดร้ายกันขนาดนี้เลยหรอแล้วไอการตอบหน้าตาเฉยๆนั่นคืออะไร หรือข่าวเมื่อเดือนที่แล้ว คือมันงั้นหรอ กู.. ควรหนีมันมั้ย ทำได้แต่คิดแต่ขาก็ไม่ยอมขยับทำได้แค่มองหน้ามันอย่างอึ้งๆเท่านั้น พอมันเห็นเท่านั้นแหละ….

    ขำก๊าก... ชัดเลย หลอกกู

    “มึงเชื่อด้วยอะ ฮะๆ หลอกง่ายว่ะ เวอร์ขนาดนี้ยังจะเชื่ออีกหรอวะ โอ๊ย ฮ่าๆ” เกือบตกบันไดแหนะเมื่อกี๊ คิดได้แล้วก็ตบหัวมันไปสักที โทษฐานกวนตีน

    คุยกันมาสักพัก ผมก็หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้อง แล้วหันไปบอกมัน “ห้องมึงอะ ลงไปชั้นนึง ห้องริมขวาอะ มองๆเลขห้องข้างบนเอาละกัน กูไปละ”

    จากที่คุยกันมาทำให้รู้ว่ามันย้ายบ้านเลยต้องย้ายโรงเรียน เมื่อเช้าพ่อมันมาส่ง แต่เย็นนี้ต้องกลับเอง มันอยู่ห้องหก บลาบลาบลา นี่ผมรู้เรื่องมันยิ่งกว่ารู้เรื่องตัวเองอีกมั้ง แค่จากหน้าโรงอาหารมาขึ้นตึกเรียนชั้นสี่เองนะ..

    “เดี๋ยวดิ เบอร์ๆ ไลน์ก็ได้ วอทแอพ คาคาโอะ เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ เล่นไรมั่งขอหน่อย” มันร่ายยาวถึงโปรแกรมแชทสารพัด แต่ด้วยความขี้เกียจตอบ เลยควักไอโฟนในกระเป๋ากางเกงให้มันดูแทน น็อตมันก็จิ๊ปากนิดหน่อย แล้วก็เปิดไปจิ้มอยู่สี่ห้าที ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาทำหน้าเอือมๆใส่

    “ใช้ไอโฟนทั้งที มึงคิดจะเล่นแต่เกมหรอ” คนปฏิสัมพันธ์ไม่ค่อยมีแบบกูจะให้ไปคุยอะไรกับใครเยอะแยะล่ะ

    “เอาเบอร์มึงมา” ผมบอกมันหน้าตาย และทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดมัน ที่จริงก็ไม่ได้ให้เบอร์ใครง่ายๆ เบอร์คอนแทคในโทรศัพท์ก็มีไม่ถึง 20 เบอร์เลยมั้ง ส่วนที่มันเคยไล่รายชื่อมาก็เล่นแค่ไลน์ ไอเทสต์บังคับให้เล่นหรอกถึงโหลดมา

    พอมันบอกผมเสร็จก็กดโทรออก รอหน้าจอเปลี่ยนสักพัก แล้วก็กดวางก่อนจะเข้าห้องมาหาไอ้เพื่อนตัวแสบที่ไม่มาสนใจใยดีเพื่อนสุดที่รักแบบผม ปล่อยน็อตไว้หน้าห้อง และพอหันกลับมาอีกที ก็พบว่ามันไม่อยู่แล้ว คงตามหาห้องตัวเองน่ะแหละ

    ผมไม่ได้ข้องใจอะไรในตัวมัน เพราะมันเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่คนที่เข้ามาทักผม ผมมีเพื่อนไม่เยอะ และที่สนิทที่สุดก็คงจะมีแค่คนเดียว ไหนๆก็หลวมตัวคุยกับมันไปแล้วมีเพื่อนสนิทเพิ่มอีกคนก็ดีขึ้นมาหน่อยล่ะมั้ง

    ................................................................................................................




    -เป็ดโปร-
    พบกันแล้ว... ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยค่ะ v________v 
    ภาษาเน่าเกินรับได้นี่ขอโทษเลย 555555555555 เรื่องนี้ยอมรับจริงๆ 
    ยินดีต้อนรับกลับสู่หน้านิยาย -w- เราไปเปลี่ยนนามปากกามาด้วย 55555555555

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×