คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : CHAPTER 18
CHAPTER 18
8.2.13
ถึงแม้ว่าการแข่งขันที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อสองวันก่อนเขาจะไม่ได้เป็นฝ่ายที่รับชัยชนะมา แต่แบคฮยอนกลับรู้สึกสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ก่อนหน้านี้เขายอมรับว่าเขารู้สึกผิดกับลู่หานมาตลอด และพร้อมจะยอมรับทุกการกระทำที่ลู่หานจะมอบให้เขา
...แต่ความจริงแล้วเขาทำไม่ได้...ไม่เคยทำได้เลย...
...เมื่อมันมีตัวแปรคือปาร์คชานยอล...
แบคฮยอนจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์เครื่องหรูที่อยู่ในมืออย่างครุ่นคิด มือเรียวสไลด์เพื่อปลดล้อคหน้าจอแสดงให้เห็นรายชื่อที่เขาเปิดทิ้งไว้หลายครั้ง แบคฮยอนช่างใจนิ้วเรียวก็ยกค้างไว้ไม่ยอมกดโทรออกเสียที และแล้วแบคฮยอนก็ล็อคหน้าจออีกรอบ
“เฮ้อ แล้วจะชวนยังไงดีวะ...”ริมฝีปากอิ่มเบะลงอย่างน่ารักก่อนเจ้าตัวจะเอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มของตนอย่างใช้ความคิด
...พรุ่งนี้ก็วันปีใหม่แล้ว...วันสุดท้ายที่จะได้อยู่เกาหลี...
ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองนาฬิกาเรือนหรูที่บอกเวลากว่าสามทุ่มแล้ว แบคฮยอนยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้ง ริมฝีปากอิ่มผ่อนลมหายใจยาวก่อนจะต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเจ้าโทรศัพท์ในมือดันแผดเสียงร้องลั่นเสียจนเขาตะครุบไว้แทบไม่ทัน
“ฮ...ฮัลโหล”เสียงหวานกรอกลงไปตามสาย
(นี่ฉันเองนะ...) เสียงทุ้มของคนที่อยู่ในห้วงคำนึงเอ่ยขึ้นเรียกเอารอยยิ้มบางๆจากริมฝีปากอิ่มได้เป็นอย่างดี
“อือ...”
(แผลเป็นไงบ้าง...ที่แก้มน่ะ หายบวมรึยัง) น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยถามเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเรียกเอารอยยิ้มของคนโดนเป็นห่วงฉีกกว้างขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“หายแล้ว...กลับมาขยับได้เหมือนเดิม”
(อือก็ดีแล้ว...ฉันอยากไปหานายจริงๆเลยแบคฮยอน) ชานยอลเอ่ยเสียงออดอ้อนก่อนจะต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อได้ยินคำตอบเดิมๆจากคนตัวเล็ก
“พ่อฉันอยู่บ้านนะ...”
(ฉันอยากไปดูให้แน่ใจว่านายหายแล้วจริงๆ) พูดแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาอีกรอบอย่างปลงตก
“ก็มาสิ...”แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้ชานยอลหูผึ่ง
(นายว่าอะไรนะ)เสียงปลายสายที่ถามย้ำมาอย่างประหลาดใจเรียกเสียงหัวเราะคิกคักจากคนตัวเล็กได้เป็นอย่างดี แบคฮยอนกลิ้งตัวไปมาบนที่นอนอย่างอารมณ์ดีก่อนจะกรอกเสียงลงไปช้าๆ
“ฉันบอกว่าก็มาสิ...พรุ่งนี้ปีใหม่แล้วนะ นายว่างรึเปล่า...มากินข้าวที่บ้านฉันสิ...”
(ฉันไปได้แน่เหรอ? เห็นปกตินายเอาพ่อมาอ้างตลอด) เสียงปลายสายที่เอ่ยออกมาอย่างงอนๆเรียกเอาแบคฮยอนต้องรีบพูดปลอบใจเป็นการใหญ่
“ก็นี่พ่อฉันเป็นคนชวนไง...จะมามั๊ย?”ท้ายประโยคที่เอ่ยถามเสียงแข็งออกแนวบังคับมากกว่าต้องการคำตอบ
(ไปสิ....กี่โมงล่ะ)
“สายๆก็ได้ มากินข้าวเที่ยงไง....ฉันจะพาทัวร์บ้าน ถ้าพ่ออนุญาตล่ะก็นะ...”เสียงหัวเราะใสๆดังขึ้นอย่างมีความสุข
ทั้งสองคุยกันอีกพักใหญ่ก่อนจะวางสายไป ดวงตาคู่สวยจ้องมองโทรศัพท์ในมือด้วยหัวใจที่เต้นระรัว พรุ่งนี้เป็นวันปีใหม่ทั้งทีบางทีเขาน่าจะลองทำอะไรที่ไม่เคยทำนะ
...หวังว่าปีใหม่นี้จะมีแต่เรื่องดีๆนะ....
.
.
.
.
.
ชายวัยกลางคนกำลังนั่งดื่มด่ำกับรสชายามเช้าที่แสนสดใส ชาร้อนๆท่ามกลางอากาศหนาวๆแบบนี้มันช่างรู้สึกดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ ดวงตาคมก็กวาดตาไล่อ่านตัวหนังสือบนหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมือคร่าวๆ วันนี้ก็ราวกับจะเป็นวันธรรมดาที่ไม่มีอะไรน่าสนใจ ข่าวคราวเดิมๆที่ไม่น่าสนใจ เพียงแต่มีบางเรื่องที่มันพิเศษมากหน่อย...
“นมคร้าบ!!!”เสียงตะโกนเรียกใสๆที่ดังลงมาก่อนที่เจ้าของเสียงจะวิ่งทั่กๆลงบันไดใหญ่ของบ้านมาอย่างไม่กลัวลื่นเรียกเอาคนถูกเรียกต้องรีบวิ่งออกมาจากห้องครัวด้วยความเป็นห่วง
“คุณแบคฮยอนอิฉันบอกกี่ทีแล้วคะว่าอย่าวิ่งลงบันได! มันอันตรายนะคะ!”เสียงดุของแม่นมคนสวยเรียกให้แบคฮยอนต้องยู่หน้าลงเล็กน้อย คนตัวเล็กเดินเข้าไปสวมกอดร่างนุ่มนิ่มของหญิงวัยกลางคนตรงหน้าอย่างออดอ้อน
“มาอ้อนแบบนี้อยากได้อะไรอีกล่ะคะคุณหนูของนม”มือเล็กลูบหัวคนที่กำลังออดอ้อนตนอยู่ด้วยความเอ็นดู
...ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่แบคฮยอนก็ยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาของเธอเสมอ...
“คือ...”แบคฮยอนเอ่ยเสียงเบา มือบางก็ยกขึ้นป้องปากอย่างที่อยากให้ได้ยินกันสองคน ดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปมองใบหน้าเรียบเฉยของผู้เป็นพ่อที่กำลังจับจ้องอยู่กับหนังสือพิมพ์อย่างหวาดระแวง
“...วันนี้เพื่อนจะมาบ้านน่ะครับ...ผมอยากทำอาหารให้เขากิน แต่ผมทำไม่เป็น...นมสอนผมหน่อยได้มั๊ยครับ...”เสียงหวานเอ่ยเบาๆด้วยสีหน้าจริงจัง คิ้วเรียวสวยนั่นขมวดมุ่นจนคนโดนขอร้องอดที่จะเอ่ยแซวไม่ได้
“...คุณแบคฮยอนสุดขี้เกียจลุกขึ้นมาทำอาหารให้นี่จะใช่เพื่อนแน่เหรอคะ...บอกนมมาตรงๆดีกว่าว่าเพื่อนหรือแฟน...ฮิฮิ”คำเอ่ยแซวของผู้สูงวัยกว่าเรียกให้ใบหน้าสวยขึ้นสีจางๆได้อย่างน่ารัก
“แฟนอะไรครับนม!”พูดจบก็ต้องรีบตะครุบปากตัวเองทันที ดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปมองผู้เป็นพ่ออีกครั้ง ก็เห็นว่ายังคงนิ่ง แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
“แหมๆ ไม่ใช่แฟนก็ได้ค่ะ...นมเนี่ยเชื้อเชื่อเลยนะคะ”
“นมอ่ะ...”แบคฮยอนเบะปากลงอย่างออดอ้อนเรียกเอาแม่นมคนสวยอดที่จะเอื้อมมือไปหยิกแก้มขาวๆนั่นด้วยความหมั่นเขี้ยวไม่ได้
“โอเคค่ะนมไม่ล้อแล้วก็ได้...แล้วอยากจะทำอะไรล่ะคะ”
“ไปคุยกันในครัวนะครับ...”แบคฮยอนบอกก่อนจะดันแผ่นหลังเล็กของแม่นมให้เดินเข้าครัวไปก่อนที่พ่อเขาจะระแคะระคาย
...เดี๋ยวบ้านได้พังก่อนชานยอลจะมาแน่ๆ...
มือหนาที่ถือหนังสือพิมพ์อยู่ลงมือลง ดวงตาคมกร้านโลกก็จ้องมองแผ่นหลังบางของลูกชายและแม่นมที่เดินเข้าไปในครัวอย่างครุ่นคิด บางทีความสัมพันธ์ของปาร์คชานยอลและลูกชายเขามันคงจะไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดาอย่างที่เจ้าตัวพูดก็ได้
...เขาไม่ได้รังเกียจถ้าลูกชายของเขาจะมีแฟนเป็นผู้ชาย แต่คนที่จะมาดูแลแบคฮยอนแทนเขาจะต้องดีพอไม่อย่างนั้นเขาคงไม่สามารถปล่อยให้ใครมาดูแลคนที่เป็นแก้วตาดวงใจของเขาได้หรอก...
...นายดีพอรึเปล่าปาร์คชานยอล...
เสียงหัวเราะสดใสดังขึ้นตลอดการทำอาหารอย่างทุลักทุเลนี้ แบคฮยอนตัดสินใจที่จะทำอะไรที่มันกลางๆอย่างอาหารเกาหลี เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าอันที่จริงแล้วชานยอลชอบทานอะไร เอาที่เคยกินท่าจะดีที่สุด...
หญิงวัยกลางคนจ้องมองร่างบางของคุณหนูตัวเล็กด้วยความเอ็นดู แบคฮยอนกำลังตั้งใจหั่นผักอย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงแม้มันจะเป็นแค่การหั่นผักแต่สำหรับคนที่มีคนคอยทำให้มาตลอดชีวิตอย่างแบคฮยอนมันคงไม่ง่ายเท่าไหร่ ยิ่งเห็นรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากอิ่มนั่นตลอดเวลาไม่ว่าจะหันผิดหั่นถูกยังไงยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าคนที่ได้รับต้องเป็นคนที่สำคัญไม่แพ้ใครแน่นอน
...เธอหวังว่าคนรับมันจะรู้ว่าสิ่งที่ได้ไปมันมีค่าแค่ไหน...
“โอ๊ย!”เสียงหวานที่อุทานออกมาเรียกให้เธอหลุดออกจากภวังค์
“ตายแล้วคุณแบคฮยอน!”เธออุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อเห็นนิ้วเรียวสวยของคุณหนูมีเลือดสีแดงไหลออกมา
แบคฮยอนได้แต่ยิ้มแหยๆส่งไปให้แม่นมที่ดูจะเจ็บยิ่งกว่าเขาเสียอีก เขากำลังหั่นผักอยู่ดีๆนั่นแหละเพียงแต่ใจลอยไปหน่อยถึงได้หั่นโดนนิ้วตัวเองเข้า ยังดีที่เรียกสติมาได้ทันนะ ไม่อย่างนั้นจะยังมีนิ้วใช้อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้...
“โถ่คุณหนูของนม เดี๋ยวนมทำเองดีกว่าค่ะ”มือเล็กเอื้อมไปคว้ามีดและผักมาเพื่อจะหั่นแทน เห็นคุณหนูเจ็บอย่างนี้เธอไม่อยากจะให้ทำต่อเลยจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับ...ผมอยากทำเอง”แบคฮยอนฉีกยิ้มกว้างให้ก่อนมือเรียวจะเอื้อมไปคว้าของกลับมาทำต่อเอง
“จะดีเหรอคะ”
“ดีที่สุดเลยครับ!”
“ถ้าอย่างนั้นอย่าเพิ่งทำอะไรนะคะ เดี๋ยวอิฉันจะทำแผลให้ก่อน...”หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมาเบาๆกับความดื้อรั้นของคนตรงหน้า เห็นความตั้งใจขนาดนี้เธอเองก็ไม่อยากจะขัดสักเท่าไหร่
“ครับผมมมม”แบคฮยอนรับคำเสียงใสก่อนจะวางอุปกรณ์ต่างๆไว้บนโต๊ะตามที่แม่นมได้สั่งเอาไว้
หลังจากที่ทำแผลแล้วแบคฮยอนก็ลงมือหั่นผักทั้งหมดจนเสร็จ ถึงแม้จะทุลักทุเลยิ่งกว่าเดิมก็เถอะ ขั้นตอนถัดมาก็คือการต้มน้ำสำหรับทำซุปหางวัว ดูเหมือนการต้มน้ำจะเป็นสิ่งที่แบคฮยอนทำได้ดีที่สุดในวันนี้รึเปล่านะ
...หวังว่านะ...
“โอ๊ย!”
“คุณหนูคะ!!!”แล้วก็เป็นอีกครั้งที่มีเสียงร้องอุทานเล็ดรอดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวยที่ใครๆก็ชื่นชมนั่น
“เป็นอะไรคะ!”หญิงวัยกลางคนวางทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าลงทันทีก่อนจะรีบเข้าไปดุอีกคนที่น่าเป็นห่วงที่สุด
“อ...ไม่เป็นไรครับ มือไปโดนหม้อน่ะครับ”แบคฮยอนยิ้มแหยๆให้แม่นมอีกครั้ง มือเรียวข้างที่ไม่ได้เจ็บก็กุมมืออีกข้างไว้แน่น ความแสบร้อนที่ยังคงหลงเหลือทำให้เขามั่นใจว่ามือคงจะพองแน่ๆ
“โธ่ดูสิ อิฉันบอกแล้วนี่คะว่าจะทำเอง คุณหนูก็ดื้อ...รีบเอาไปผ่านน้ำก่อนเถอะค่ะ”มือเล็กรีบคว้ามือเรียวของคนเจ็บตรงไปที่อ่างล้างจานทันที
“เดี๋ยวที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอิฉันเถอะค่ะ”เสียงหวานที่เอ่ยขึ้นเต็มไปด้วยความห่วงใยจนแบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะต้องฉีกยิ้มให้แทนการปฏิเสธ
“นมครับ...ผมอยากทำให้เขาก่อนที่ผมจะไม่ได้ทำน่ะครับ...”
...ไปแคนาดาเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับเมื่อไหร่...
“ผมก็อยากทำให้เขาด้วยความรู้สึกเดียวกับที่นมอยากทำให้ผมน่ะครับ...”
“ให้ผมทำนะครับนม...”รอยยิ้มบางๆถูกส่งไปให้ผู้สูงวัยกว่า หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆ
...ดูถ้าเธอห้ามไปก็คงไม่ทำให้อะไรดีขึ้นล่ะมั้ง...
“ก็ได้ค่ะคุณหนู...แต่สัญญากับนมข้อนึงนะคะ...”
“ครับ?”
“...ระวังอย่างให้เจ็บตัวอีกนะคะ”
“คร้าบบบบบ”แบคฮยอนรับคำเสียงใสก่อนแขนเรียวจะยกขึ้นโอบรอบตัวของแม่นมไว้แน่นอย่างออดอ้อน
...เธอวังว่าความสุขแบบนี้จะอยู่กับคุณหนูที่รักของเธอนานๆนะ...
.
.
.
.
.
มือหนาคว้าเสื้อเชิ้ตที่ตนคิดว่าดูดีที่สุดออกมาจากตู้เสื้อผ้าก่อนจะจัดการสวมมันอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมจ้อมองใบหน้าหล่อเหลาที่สะท้อนอยู่ในกระจกอย่างสำรวจ ชานยอลจัดการเซ็ตผมให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะหมุนไปมาเพื่อตรวจความเรียบร้อย ฉีกยิ้มกว้างให้ตัวเองในกระจกอีกทีเพื่อความมั่นใจ
...สิ่งสำคัญสำหรับความประทับใจครั้งแรกคือ ดูดีทุกมุม...
ว่าแล้วก็อดที่จะฉีกยิ้มกว้างขึ้นมาอีกรอบไม่ได้เมื่อคิดได้ว่าจะได้เข้าไปเหยียบในบ้านของคนตัวเล็กเสียที เขาจะใช้โอกาสนี้เข้าไปฝากเนื้อฝากตัวกับพ่อของแบคฮยอนซะเลยแล้วกัน
“แบคฮยอน...พ่อนายชอบคนแบบไหนนะ...”ได้แต่พึมพำกับตัวเอง มือหนาก็จัดการเก็บกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋ากางเกงให้เรียบร้อย
...ถึงแม้จะยังบอกตอนนี้ไม่ได้ว่าเขาและแบคฮยอนอยู่ในฐานะอะไร...
...แต่อย่างน้อยให้คนเป็นพ่อไว้ใจในฐานะเพื่อนไปก่อนก็น่าจะดีกว่า...
ออดดดดดดดด!
เสียงออดที่ดังขึ้นเรียกให้มือหนาที่กำลังหยิบกุญแจรถต้องชะงักมือ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย วันนี้มันไม่น่าจะมีใครมาหาเขานะ เพราะเขาเองก็แคนเซิลนัดทั้งหมดไปแล้ว...
“ครับ...”ท้ายประโยคขาดหายไปทันทีที่มือหนาเปิดประตูออกมาพบกับใครบางคนที่หน้าประตู
“พี่ลู่หาน...”เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมาสบกับเขา ริมฝีปากบางที่แห้งผากขยับขึ้นลงอย่างต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่มีเสียงที่เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน
“พี่มีอะไรครับ...ตอนนี้ผมไม่ว่างคุย...”เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมานั้นเรียบเย็นจนน่าใจหาย เรียกเอาหยาดน้ำใสๆเริ่มก่อตัวขึ้นที่หน่วยตาของคนฟัง ฟันคมขบลงที่ริมฝีปากบางเบาๆอย่างช่างใจ
“ค...คือ...”เสียงหวานอ้ำอึ้ง
“เข้ามาข้างในก่อนเถอะครับ...”เห็นอีกคนเอาแต่ยืนอ้ำอึ้งอยู่นานชานยอลเลยตัดสินใจชวนเข้ามานั่งในห้องดีกว่าไปยืนตากอากาศหนาวๆด้านนอกนั่น
“ค...คือ วันนี้วันปีใหม่...พี่เลยอยากชวนนายไปทานข้าวที่บ้านน่ะ”ลู่หานรวบรวมความกล้าได้ในที่สุด มือบางทั้งสองข้างกอบกุมกันแน่นอย่างลุ้นระทึกกับคำตอบของอีกคน
“ขอโทษครับวันนี้ผมมีนัดแล้ว...”แต่เสียงทุ้มที่เอ่ยตอบกลับมามันทำให้ความหวังทั้งหมดของร่างบางพังทลายลงจนหมดสิ้น ดวงตากลมโตเงยขึ้นมาสบกับใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยของอีกฝ่ายอย่างอ้อนวอน
“แค่ครั้งเดียวนะชานยอล...ได้โปรด...”หยาดน้ำใสๆที่คลอหน่วยตามาเนิ่นนานค่อยๆไหลรินลงมาจากดวงตาคู่นั้นช้าๆ
“ขอโทษจริงๆครับ...ผมมีนัดกับ...”
ครืดดด ครืดดดด
ยังไม่ทันจะได้เอ่ยจบประโยค โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋ากางเกงก็สั่นครืดคราดจนเขาต้องหันไปให้ความสนใจ ดวงตาคมจ้องมองที่หน้าจอก่อนจะต้องฉีกยิ้มกว้างออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
‘ไอ้ลูกหมาบยอน calling…’
“ครับ”เสียงทุ้มกรอกลงไปตามสายหลังจากที่หันมาขอตัวไปคุยโทรศัพท์ไม่ห่างจากผู้มาเยือนมากนัก
(นายอยู่ไหนแล้ว?)
“ขอโทษทีฉันยังอยู่บ้านอยู่เลย...”
(นี่นาย! มันจะเที่ยงแล้วเห็นมั๊ย? รีบๆมาเดี่ยวนี้เลย...ถ้าพ่อฉันรอนานไม่รับประกันนะว่านายจะได้มาเหยียบบ้านฉันอีกรึเปล่าน่ะ!!) เสียงหวานที่แหวออกมาตามสายจนชายหนุ่มต้องยกหูออกห่าง ชานยอลหัวเราะออกมาเบาๆอย่างมีความสุขจนอีกคนที่ได้แต่เฝ้ามองอดที่จะอิจฉาคนปลายสายไม่ได้
...นายไม่เคยหัวเราะให้พี่แบบนี้เลยชานยอล...
...ไม่ว่านายกำลังคุยกับใครอยู่...คนคนนั้นกำลังทำให้พี่อิจฉา...
“แบคฮยอนอา~ เดี๋ยวฉันจะรีบไป...”ชื่อของใครบางคนที่ลอยเข้ามากระทบโสตประสาทเรียกให้ดวงตาของลู่หานสั่นระริก มือบางกำเข้าหากันแน่นอย่างข่มอารมณ์...
...เป็นอีกครั้งที่เขาได้รู้ว่าแบคฮยอนได้ในสิ่งที่เขาเสียไป...
“ชานยอล!”เสียงหวานที่เอ่ยเรียกเขาเสียงดังทำเอาชานยอลตะครุบไมค์โทรศัพท์ไว้แทบไม่ทัน ดวงตาคมเหลือบไปมองยังที่มาของเสียงก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ในมือบางคู่นั้น
“พี่ลู่หาน!”ชานอยลอุทานชื่ออีกคนออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นอีกคนค่อยๆก้าวเข้ามาใกล้เขาเรื่อยๆ ดวงตาคู่สวยของลู่หานจ้องตรงมายังเขาด้วยความว่างเปล่า ฝ่ามือเล็กกำแน่นที่ด้ามมีดอันใหญ่ในครัวของเขา
(ชานยอล? มีอะไรรึเปล่า? ฮัลโหล?) เสียงหวานที่ปลายสายเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเรียกเอาชายหนุ่มรู้สึกตัว มือหนายกหูโทรศัพท์ออกห่างเพื่อจะวางสายไม่ไห้อีกคนได้รับรู้เรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ไม่ต้องวาง!”ลู่หานเอ่ยสั่งเรียกเอามือหนาชะงักค้างไว้ที่เดิม
(ส...เสียงเมื่อกี้...พี่ลู่หานเหรอ? นายอยู่กับพี่ลู่หานเหรอชานยอล...) เสียงปลายสายที่เอ่ยออกมาสั่นไหวจนเขาใจหาย ชายหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร มือหนาก็พยายามปิดไมค์โทรศัพท์ไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“บอกแบคฮยอนไปว่านายไปไม่ได้...นายต้องไปกับฉัน...ไม่งั้น...”ปลายมีดที่เคยชี้ตรงมาที่ชานยอลค่อยๆเบนเขาไปหาคนถือ ปลายแหลมแตะเบาๆที่ข้อมือขาวโลหิตสีแดงก็ซึมออกมาช้าๆ
“พี่ลู่หาน...ผมว่า...”ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยจบประโยค มือบางก็ย้ำให้ปลายมีดกดลึกลงไปที่ผิวขาวนั่นอีกจนหยาดเลือดที่ไหลรินออกมามีปริมาณมากขึ้น
“พูด....”
(ชานยอล? ฮัลโหลนายได้ยินฉันมั๊ย? ตอบหน่อยสิ เงียบไปแบบนี้ฉันใจไม่ดีนะ เฮ้ปาร์คชานยอล!) ชานยอลขบกรามแน่น ยิ่งได้ยินน้ำเสียงแสนเป็นห่วงของอีกคนยิ่งทำให้ลมหายใจติดขัด ดวงตาคมเหลือบไปมองอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ลู่หานไม่ได้ลดแรงที่กดมีดนั่นลงไปแม้แต่น้อย ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไรโลหิตสีแดงสดก็ยิ่งไหลออกมามากขึ้นเท่านั้น
(ชานยอล? ฮัลโหล? ถ้านายยังไม่ตอบฉันจะวางแล้วนะ...)
“ฉันอยู่นี่...”เสียงทุ้มที่กรอกลงไปพยายามรักษาน้ำเสียงให้นิ่งที่สุดทั้งๆที่หัวใจของเขาตอนนี้มันอึดอัดราวกับถูกบีบด้วยมือที่มองไม่เห็นยังไงอย่างงั้น
(โธ่เอ๊ยกว่าจะตอบนะไอ้บ้า! ปล่อยฉันพูดคนเดียวเหมือนคนบ้าอยู่ตั้งนาน...แล้วนี่จะเอาไงเนี่ย อีกสิบนาทีเที่ยงนะ บึ่งมาเดี๋ยวนี้เลย...อย่าให้พ่อฉันรอนานนะ...เข้าใจเปล่า...)
“ขอโทษนะแบคฮยอน...แต่ฉันคงไปไม่ได้แล้ว...”เสียงหวานที่เอาแต่บ่นเขาฉอดๆหยุดชะงักลงทันทีที่เขาเอ่ยจบประโยค
(นายว่าอะไรนะ?)
“ฉัน....ฉันคงไปไม่ได้แล้วแบคฮยอน”ชานยอลพยายามรักษาน้ำเสียงให้นิ่งที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทั้งๆที่ตอนนี้เขาอยากร้องไห้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
...เขากำลังจะทำให้แบคฮยอนเสียใจ...
...เขาเป็นคนที่ไม่เคยรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับใครได้เลย...
(นายมีอะไรรึเปล่า?) น้ำเสียงหวานที่เอ่ยถามมาตามสายเบาหวิวจนแทบขาดใจ เขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังพยายามข่มอารมณ์...
...เช่นเดียวกับเขา...
“พี่ลู่หานเขาจะจบแล้ว พี่เขาบอกว่าจะไปเรียนต่อเมืองนอก...ก่อนจะไปเขาเลยอยากเลี้ยงข้าวฉันสักมื้อก่อนที่จะไม่ได้เลี้ยง...”แต่ละคำพูดที่เอ่ยออกไปมันช่างยากลำบากเสียจริง ยิ่งเห็นอีกฝ่ายเงียบไปแบบนี้เขายิ่งใจไม่ดี
(...แล้วถ้าฉัน...) น้ำเสียงสั้นเครือของคนปลายสายที่ขาดหายไปเรียกให้ชานยอลต้องถามซ้ำอีกครั้งอย่างไม่แน่ใจ
“นายพูดว่าอะไรนะแบคฮยอน...”
(ไม่มีอะไรหรอก...)
“ฉันขอโทษนะ...ไว้คราวหน้านะแบคฮยอน”
(...มันไม่มีคราวหน้าแล้วปาร์คชานยอล...) สิ้นเสียงอีกฝ่ายก็ตัดสายไปทันที...
...ชานยอลอยากจะคิดว่าแบคฮยอนอาจจะกำลังงอนแบบเด็กๆ...เลยพูดแบบนั้นออกมา...
...แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าคนตัวเล็กไม่ใช่คนนิสัยแบบนั้น...
...มันอาจจะไม่มีคราวหน้าสำหรับเขาแล้วก็ได้....
...โอกาสสุดท้ายของเขาหมดลงแล้ว...
มือหนาลดโทรศัพท์ออกจากหูช้าๆก่อนจะปล่อยมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ใยดี ชานยอลทรุดตัวนั่งลงที่โซฟากลางห้องอย่างหมดแรง ขอบตาของเขาร้อนผ่าว...ประโยคสุดท้ายที่อีกคนเอ่ยนั่นมันทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้น มันเหมือนถูกบีบจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ยิ่งได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆก่อนที่จะถูกตัดสายมันยิ่งทำให้เขาอยากร้องไห้...
มือบางละมือออกจากด้ามมีดช้าๆก่อนจะปล่อยมันทิ้งลงพื้นด้วยความรู้สึกแปลกๆ ดวงตากลมโตทอดมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่ง ชานยอลกำลังก้มหน้าลงฝ่ามือหนาทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาปิดใบหน้าเพื่อปกปิดน้ำตาที่กำลังจะไหลรินออกมา
“ช...ชานยอล...”ลู่หานเอ่ยเรียกชื่ออีกคนก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปใกล้...
...สภาพไร้เรี่ยวแรงของคนตรงหน้าเรียกเอาความรู้สึกผิดแล่นปราดไปทั่วใจ...
...นี่เขาทำอะไรลงไป...
“ชานยอล...”เอ่ยเรียกอีกครั้งแต่สิ่งที่ได้รับกลับยิ่งตอกย้ำความเลวของตัวเอง
“...สมใจพี่รึยัง?”น้ำเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมานั้นสั่นเครือเสียจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“ชานยอล...พี่...”ขาเรียวที่กำลังก้าวเข้าใกล้อีกคนหยุดชะงัก ลู่หานอ้ำอึ้ง...
...อยากจะขอโทษ...
...แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าการเอ่ยคำขอโทษมันช่างยากลำบากเหมือนในเวลานี้มาก่อนเลย...
“คือ...พี่...”
“พี่กลับไปเถอะครับ...ผมอยากอยู่คนเดียว...”
...โอกาสของทุกคนหมดลงแล้ว...
...และอาจไม่มีวันได้รับอีกเป็นครั้งที่สอง...
แบคฮยอนจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์นิ่ง ดวงตาคู่สวยหมองลงอย่างเห็นได้ชัด อาการไม่ค่อยดีของลูกชายที่นั่งร่วมโต๊ะเรียกให้ผู้เป็นพ่อต้องเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“เกิดอะไรขึ้นแบคฮยอน...”แค่ได้ยินเสียงทุ้มแสนอบอุ่นของผู้เป็นพ่อเท่านั้น น้ำตาที่คิดว่ากักเก็บไว้ได้ดีแล้วก็ไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“เขาไม่มาแล้วครับพ่อ....”เสียงหวานที่เอ่ยออกมาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน หยาดน้ำใสๆที่ไหลออกจากดวงตาคู่สวยพาเอาคนจ้องมองทำอะไรไม่ถูก
“คุณหนูคะ!”เสียงสะอื้นที่เล็ดลอดออกมาเรียกเอาแม่นมที่เพิ่งออกมาจากครัวรีบวิ่งรี่ตรงมาหาคุณหนูของเธอทันที
“ฮึก...ฮือ...นมครับ...”แบคฮยอนเอ่ยเรียกผู้สูงวัย แรงสะอื้นพาเอาประโยคขาดๆหาย คนตัวเล็กโถมตัวเข้ากอดร่างนุ่มนิ่มของหญิงที่เปรียบเหมือนมารดาของตนแน่น มือเล็กของแม่นมยกขึ้นลูบเรือนผมสีน้ำตาลนุ่มเบาๆอย่างต้องการปลอบโยน
“พาแบคฮยอนขึ้นไปที่ห้องก่อนเถอะ...”ยิ่งเห็นน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาและแรงสะอื้นจนตัวโยนของลูกยิ่งพาเอาหัวใจของคนเป็นพ่อแห้งเหี่ยว
แม่นมรับคำก่อนจะพาร่างบางของคุณหนูขึ้นไปที่ห้องนอน ดวงตาคมกร้านโลกมองตามแผ่นหลังบางของลูกชายขึ้นไปจนสุดทาง เขาจ้องมองอาหารหน้าตาน่ากินทั้งหมดที่ตั้งเรียงรายอยู่บนโต๊ะอย่างเก็บอารมณ์
...นายจะชดใช้น้ำตาของลูกฉันยังไงปาร์คชานยอล...
.
.
.
.
.
หนึ่งวันของปาร์คชานยอลผ่านไปอย่างไร้ความหมาย...
เขาทำได้เพียงแค่หมกตัวอยู่ภายในห้องเท่านั้น มือหนาก็กระหน่ำกดโทรออกหาอีกคนไม่ยั้ง แต่ทุกครั้งก็ได้ผลลัพธ์เดิมๆ
‘ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...’
เคร้ง!
โทรศัพท์เครื่องหรูถูกโยนลงพื้นอย่างไม่ใยดี ขอบตาของเขารู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาอีกครั้ง แขนแกร่งถูกเจ้าของยกขึ้นก่ายหน้าผากอย่างคนใช้ความคิด
...หรือเขาควรจะไปหาที่บ้าน?
...แต่ไปก็ใช่ว่าอีกคนจะยอมเจอเขาเสียเมื่อไหร่ล่ะ...
...แต่มันก็ดีกว่าไม่คิดจะทำอะไรเลยไม่ใช่เหรอ?...
...เรื่องเมื่อวานนี้เขาผิดเต็มๆ...
คิดได้ดังนั้นชายหนุ่มก็กระเด้งตัวขึ้นจากที่นอนทันที ชานยอลแต่งตัวแบบลวกๆมือก็คว้าเอาสิ่งที่นึกได้ในตอนนั้นติดมือมาเท่านั้น
ใช้เวลาไม่นานนักรกยนต์คันหรูก็แล่นปราดเข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเหล็กดัดบานใหญ่ ชานยอลรีบก้าวลงจากรถก่อนจะเดินไปกดออดทันที
“มาพบใครครับ?”เสียงแหบๆของชายชราคนหนึ่งเอ่ยขึ้นผ่านอินเตอร์คอมที่หน้าประตู
“ผมมาหาแบคฮยอนครับ”
“ให้เรียนว่าใครมาขอพบครับ?”
“ชานยอลครับ...ปาร์คชานยอล...”
ชายวัยกลางคนผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งจิบชายามบ่ายอยู่ที่ศาลาพักผ่อนที่กลางสวน ดวงตาคมก็กวาดสายตาไปตามหนังสือพิมพ์ที่อยู่ในมืออย่างตั้งใจ
“ท่านครับ...มีคนมาขอพบคุณหนูครับ”เสียงเอ่ยรายงานอย่างนอบน้อมของคนรับใช้คนหนึ่งเรียกให้มือที่ถือหนังสือพมพือยู่ต้องลดมือลงเพื่อมาให้ความสนใจกับข่าวที่เพิ่งได้รับมานี่แทน
“ก็บอกเขาไปสิว่าแบคฮยอนไม่อยู่บ้าน...”เจ้าของบ้านเอ่ยราบเรียบอย่างไม่คิดอะไร
“เขาบอกว่าเขาชื่อปาร์คชานยอลครับ...”มือที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบแก้วชาขึ้นมาจิบชะงักทันทีที่ได้ยินชื่อของใครบางคน
“ไปเชิญเขาเข้ามาที่ห้องรับแขก....”สิ้นเสียงทรงอำนาจที่เอ่ยสั่ง คนรับใช้ก็ขอตัวออกไปทำตามคำสั่งทันที
“คังอิน...”ชายวัยกลางคนเอ่ยเรียกบอดี้การ์ดหนุ่มร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังให้เดินเข้ามาใกล้
“เอาปืนแล้วตามฉันไปที่ห้องรับแขก...”
“รับทราบครับ...”
ขายาวก้าวพาร่างของตนเดินเข้ามาภายในบ้านตามคำเชิญ ไม่นานนักคนรับใช้ก็พาเขามาหยุดอยู่ที่ห้องรับแขก ชานยอลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตามคำแนะนำของคนรับใช้ของบ้านเพื่อรอพบกับใครอีกคนที่เขาต้องการเจอมากที่สุดในตอนนี้
แกร๊ก!
เสียงกระทบของโลหะที่ดังขึ้นเรียกให้เขาต้องหันไปตามที่มาของเสียง ดวงตาคมเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อหันไปทางด้านหลังหน้าผากของเขาก็สัมผัสเข้ากับโลหะเย็นๆจากคนตรงหน้า
“สวัสดีปาร์คชานยอล...”เสียงทุ้มทรงอำนาจเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเรียกเอาชายหนุ่มเสียวสันหลังวาบ
“สวัสดีครับ...”
“คงไม่ต้องบอกใช่มั๊ยว่าฉันเป็นใคร...”ผู้สูงวัยกว่าเอ่ยหยั่งเชิงก่อนมือหนากร้านโลกจะลดอาวุธลง เจ้าของบ้านเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาตัวยาวตรงข้ามกับแขกผู้มาเยือน
“ฉันไม่อ้อมค้อมแล้วกันนะ...เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า...”ชายวัยกลางคนทิ้งแผ่นหลังพิงกับพนักโซฟาอย่างสบายๆ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มบางๆผิดกับคำพูดที่เอื้อนเอ่ยออกมาลิบลับ
“เลิกยุ่งกับแบคฮยอนซะ”
TBC.
TALK. นี่เอามาลงก่อนกำหนดเลยนะคะ 55555555555 พอดีมีเด็กบางคนเอามีดไปจ่อคอในทวิตเตอร์ให้เอามาลงค่ะ 55555555 #แซะ เอาล่ะสิ...คุณพ่อบยอนเข้ามาขัดขวางแล้วนะชานแบค เจอเรื่องเยอะจุงเบย เมื่อไหร่คู่นี้จะได้รักกันซะทีนะ ;___; กลัวดราม่ามั๊ย? เพชรจะบอกว่าไม่ต้องกลัวค่ะ มันไม่มีดราม่าแล้วววววววว จริงๆนะ *0* ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะเดินทางเข้าสู่สายฟิคใสๆค่ะ #เชื่อป่ะ #ไม่เชื่อเหรอ โถ่ 5555555555 นี่พูดจริงๆนะ ไม่เชื่อก็รออ่านตอนต่อไปแล้วกันค่ะ! คนที่สนใจรวมเล่มอย่าลืมจองกันนะคะเพราเพชรคิดไว้ว่าจะไม่ทำมาเผื่อขายทีหลังค่ะ จะทำเท่าจำนวนคนสั่งนี่แหละ จะบอกว่ามีของแถมด้วย 55555 จะลุ้นของแถมยังไงเดี๋ยวมาแจ้งพร้อมกับรายละเอียดอีกทีค่ะ จอได้ถึง 15 กพ. นี้นะคะ อย่าลืมจองกันล่ะ เอาไว้เจอกันตอนหน้าค่ะ บ๊ายบาย *0*
ความคิดเห็น