ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Play Boy's GAME (Chanyeol x Baekhyun) | END.

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 8 (แก้ไขแล้ว)

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 56


     CHAPTER  8
    11.11.12

     

     

     

    “ช่วยฉันหน่อย...”เสียงหวานที่เอ่ยเบาๆเรียกให้ชานยอลต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

     

    “นาย...ว่าไงนะ”ชายหนุ่มถามซ้ำกับคนที่รั้งข้อมือของเขาอย่างไม่เชื่อหู

     

    “ฉันบอกว่า...ช่วยฉันหน่อย”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง  ใบหน้าสวยที่ตอนนี้แดงซ่านด้วยฤทธิ์ยาช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างขอร้อง  ชานยอลลอบกลืนน้ำลายลงคอ

     

    มาขออะไรกันในสภาพแบบนี้ล่ะโว๊ย!

     

    ปาร์คชานยอลโวยวายในใจ  ใช่ว่าเขาจะเป็นเด็กสามขวบที่ไม่รู้ความหมายของประโยคขอร้องเมื่อครู่  แต่สภาพของบยอนแบคฮยอนตอนนี้มันช่างพาให้สติสตางค์ของเขากระเจิงจริงๆ

     

    “นาย...แน่ใจนะ?”เสียงทุ้มเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ  มือหนาอีกข้างที่ว่างอยู่ถูกยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างตึงเครียด

     

    แบคฮยอนไม่ตอบแต่ใบหน้าสวยนั้นพยักหน้าขึ้นลงช้าๆแทนคำตอบ  มือเรียวปล่อยข้อมืออีกคยให้เป็นอิสระ

     

    “ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ?”ชานยอลถามซ้ำอีกครั้ง  แบคฮยอนส่ายหน้าเป็นคำตอบ  ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะก้าวขึ้นไปคร่อมตัวอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงทันที

     

    ริมฝีปากหนาประกบเข้ากับริมฝีปากบางจากนุ่มนวลกลายเป็นร้อนแรง  ชานยอลสัมผัสได้ถึงรสจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการของแบคฮยอน  แขนเรียวถูกยกขึ้นโอบรอบลำคอของอีกคนไว้แน่น  คนตัวเล็กเบียดกายเข้าใกล้อีกคนให้มากขึ้นเพื่อรับรสจูบที่แสนหวานนี้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

     

     

     

    ฉากไม่เหมาะสมจ้า

     

     

     

     

    ริมฝีปากหนาจุมพิตเบาๆที่ปรางค์แก้มใสของอีกคน  แบคฮยอนหลับสนิทไปแล้ว  คนตัวเล็กซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา  ใบหน้าไร้เดียงสายามอยู่ในห้วงนิทราของร่างบางทำให้ชานยอลอดยิ้มไม่ได้

     

    เขาคงต้องยอมรับจริงๆว่าแบคฮยอนน่ะน่ารักแค่ไหน...

     

    ...เฉพาะเวลานอนน่ะนะ

     

    นึกแล้วชานยอลก็ต้องกลั้นขำอยู่คนเดียวยามนึกถึงใบหน้าหาเรื่องตอนที่ร่างบางตรงหน้านี้มีสติครบถ้วน  ดวงตาคู่สวยที่ชอบจ้องมองเขาราวกับจะทิ่มแทงให้ตายลงเสียงตรงนั้น  ริมฝีปากบางคู่สวยที่มุมปากมักจะงอลงเสมอเมื่อเห็นหน้าเขา

     

    แต่ดูตอนนี้สิ...

     

    “...ยิ้มอะไรของนายแบคฮยอน”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆราวกับกระซิบ  มือหนาสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้าสวยนั้นก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือแตะเบาๆที่ริมฝีปากนุ่ม

     

    “เฮ้อ.....”ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะทิ้งตัวนอนลงข้างๆใครอีกคนที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วอย่างไม่คิดจะสนใจใคร

     

    เกือบไปแล้ว...ถ้าหากว่าเขาไปช้ากว่านี้สักนิดล่ะก็...

     

    แบคฮยอนคงได้เสร็จไอ้เลวนั่นแน่!

     

     

     

     

     

    “คบกับผมนะ...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง  ดวงตาคมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสวยของลู่หาน

     

    “อ...คือ...”เสียงหวานเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก  ใบหน้าน่ารักของลู่หานขึ้นสีเรื่ออย่างเขินอาย  ดวงตาคู่สวยกรอกไปมาอย่างสับสน

     

    “ค...คือพี่...”เสียงหวานที่เอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักทำให้ชานยอลรู้ว่าบางทีเขาอาจจะรุกเร็วไปหน่อย  ชายหนุ่มเลยเปลี่ยนใบหน้าจริงจังมาเป็นการส่งรอยยิ้มสดใสเหมือนที่เขามักจะทำยามปกติ

     

    “ไม่เป็นไรครับ...พี่ยังไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้ก็ได้...พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกนะครับ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนมือหนาจะค่อยๆเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของอีกคน

     

    “อ๊ะ!  คือพี่ขอโทษนะ!”ลู่หานสะดุ้งกับสัมผัสที่อีกคนมอบให้  เสียงหวานเอ่ยขอโทษเสียงดังก่อนขาเรียวจะรีบวิ่งพาร่างของตัวเองให้ห่างออกไปจากอีกคนทันที

     

    “พี่ลู่หาน!”เสียงทุ้มเอ่ยไล่หลังอีกคนไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว  เพราะแผ่นหลังบางหายลับเข้าไปในตัวสวนสนุกเสียก่อน

     

    “เฮ้อ”ชานยอลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

    ความจริงเขาควรจะต้องไปส่งลู่หานที่บ้านนะเพราะนี่ก็เริ่มจะมืดแล้ว  แต่ขืนไปส่งตอนนี้ลู่หานอาจจะช็อคตายได้  เพราะขนาดเขาแต่แตะตัวเบาๆเจ้าตัวยังสะดุ้งซะขนาดนั้น  อีกอย่างบ้านลู่หานก็อยู่ไม่ไกลจากสวนสนุกนี่เท่าไหร่นัก  แถมตลอดทางยังมีห้างสรรพสินค้าและร้านรวงต่างๆที่คนพลุกพล่าน

     

    มันก็ทำให้เขาหายห่วงละนะ...

     

    ชานยอลตัดสินใจที่จะกลับบ้านเลย  เขาขับรถออกไปตามถนน  เวลาค่ำๆแบบนี้รถรายังคงแล่นกันคึกคักอยู่มาก  เพราะส่วนใหญ่ก็คงจะกลับจากที่ทำงานหรือไม่ก็เพิ่งกลับจากกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจแบบเขา

     

    ดวงตาคมก็ทอดสายตามองสิ่งต่างๆ  กรุงโซลยามค่ำคืนเขาต้องยอมรับเลยล่ะว่าความงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆเลย

     

    หวังว่าแบคฮยอนจะทำตามที่เขาบอกนะ...

     

    ความคิดชะงักกึก  นี่วันนี้เขาขึกถึงคนตัวเล็กเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะ?

     

    สถานการณ์นี้นี่เข้าข่ายอันตรายแล้วนะ!

     

    “ออกไปๆ”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆไล่คนตัวเล็กที่อยู่ในความคิดออกไป

     

    เท้าเหยียบเบรกทันทีที่เห็นสัญญาณไฟจราจรที่เปลี่ยนสี  ชายหนุ่มอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้เพราะไฟแดงที่มันดันมากักตอนรถเขาน่ะสิ  มองเห็นรถคันหน้าที่ตามกันมาติดๆวิ่งฉิวไปอีกฝั่งของแยกได้แล้วก็หงุดหงิด

     

    รถรามากมายจากด้านขวามือของแยกพากันขับผ่านหน้าเขาไปอย่างรีบร้อน

     

    ก็นี่แหละน้าชีวิตในเมืองหลวง...

     

    พลันสายตาก็ราวกับถูกสะกดไว้  เพราะเขาเหลือบไปเห็นรถคันหนึ่งที่แสนคุ้นเคย  ยิ่งมองผ่านกระจกรถเข้าไปยิ่งมั่นใจว่าเจ้าของรถเป็นคนที่เขารู้จักแน่นอน

     

    ชเวมินโฮ...

     

    รถสปอร์ตคันหรูของมินโฮแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สายตาของเขาก็ยังสามารถจับรายละเอียดในรถคันนั้นได้เป็นอย่างดี

     

    เขาเห็น...

     

    ...แบคฮยอน

     

    ไม่นานนักไฟเขียวก็เปิดโอกาสให้รถฝั่งเขาได้เคลื่อนตัวออกไป  ชานยอลรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวตามรถของมินโฮไปทันที

     

    ลางสังหรณ์ของเขามันบอกว่าแบคฮยอนกำลังเจออันตราย!

     

    ชานยอลเหยียบคันเร่งแทบมิด  แต่เขาก็ไม่อาจไล่ตามรถของมินโฮที่ขับผ่านไปนานแล้วได้  รอบตัวของเขาคือย่านการค้าชื่อดังที่มีโรงแรมหรูมากมายตั้งเรียงรายไปหมด

     

    “โธ่เว้ย!”มือหนาทุบพวงมาละยอย่างหัวเสีย  แต่ก็ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะยังเข้าข้างเขาอยู่บาง  โรงแรมที่เขาจำได้ดี...

     

    ที่ประจำของมินโฮนั่นแหละ!

     

    ไม่รอช้าชานยอลรีบขับรถเข้าไปทันที  เขาจอดรถอย่างลวกๆไว้ที่หน้าโรงแรมก่อนจะก้าวลงจากรถอย่างรีบร้อน

     

    “คุณครับ”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกพนักงานที่ประชาสัมพันธ์

     

    “มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ”พนักงานสาวยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มการค้า

     

    “คุณชเวมินโฮพักห้องไหนเหรอครับ”

     

    “ต้องขอโทษด้วยนะคะทางเราไม่สามารถให้ข้อมูลลูกค้ากับคนนอกได้นะคะ”

     

    “งั้นนี่ครับ...ผมเป็นลูกค้าของเขา  เรากำลังจะมาคุยธุรกิจกัน”พูดจบชานยอลก็ส่งนามบัตรของมินโฮให้กับพนักงานสาว  หลังจากที่รื้อๆค้นๆกระเป๋าเงินอยู่นานเขาก็เจอนามบัตรตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังเป็นเพื่อนกัน...

     

    ก็นานมากแล้ว...

     

    พนักงานสาวรับมาดูก่อนจะค้นหารายชื่อลูกค้าในคอมพิวเตอร์ของเธอ  เมื่อได้เลขห้องแล้วชานยอลก็รีบไปทันที

     

    ชั้นบนสุดของโรงแรมที่เงียบสงัดยิ่งทำให้เขาใจเสีย  ไร้คนอาศัยแบบนี้ต่อให้แบคฮยอนร้องขอความช่วยเหลือเขาก็เชื่อว่าไม่มีทางที่ร่างบางจะได้รับความช่วยเหลือหรอก

     

    “...ขอให้ทันเถอะ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆกับตัวเอง  ดวงตาคมก็ไล่มองเลขห้องไปเรื่อยๆจนเจอเข้ากับเลขที่เขาตามหาในที่สุด

     

    เสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากภายในทำให้เขามั่นใจได้ทันทีว่านี่จะต้องเป็นห้องที่เขาตามหาแน่นอน  มือหนาเลื่อนไปบิดลุกบิดประตูออกอย่างรีบร้อน

     

    มันไม่ได้ล็อค...

     

    “ปล่อย!!!”เสียงกรีดร้องดังออกมาทันทีที่ประตูเปิดออก  น้ำเสียงหวานที่เขาจำได้ดีเรียกให้อารมณ์โทสะของเขาพุ่งขึ้นเสียจนแทบควบคุมไม่อยู่

     

    ชเวมินโฮ...ไอ้ระยำนั่น!

     

    ขายาวรีบก้าวพาร่างเจ้าของเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว  ภาพที่ปรากฏทำเอาความโมโหของเขาเพิ่มมากขึ้นเสียจนไม่สามารถควบคุมได้  ร่างสูงของมินโฮกำลังมีความสุขกับร่างกายของคนที่ไร้ทางสู้  สภาพของแบคฮยอนตอนนี้เขามั่นใจว่าไม่ปกติแน่นอน  เพราะแบคฮยอนไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนด้วยซ้ำ

     

    “แก!!!”เสียงทุ้มตะโกนออกมาอย่างเหลืออด  ก่อนจะพุ่งเข้าไปปล่อยหมัดใส่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนอย่างแรงเสียจนมินโฮเซถลาไปด้านหลัง

     

     

     

     

     

    ไม่อยากจะคิดเลย...ถ้าหากเขาไม่บังเอิญไปเห็นเข้าล่ะก็

     

    แบคฮยอนจะเป็นยังไง....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    แสงแดดอุ่นๆส่องลอดผ้าม่านผืนบางเข้ามาภายในห้องทำให้คนที่นอนทอดกายอยู่บนเตียงหลุดออกจากห้วงนิทรา  แรงขยับของคนข้างๆตัวทำให้เขาต้องหันไปมองอย่างเสียไม่ได้  คนตัวเล็กถลกผ้าห่มผืนหนาออกจากตัวเขาเอาไปห่อตัวเองเสียอย่างกับดักแด้  ชานยอลก้มมองสภาพเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วมือหนาก็เลื่อนไปดึงผ้าหม่มาจากอีกคน  ก่อนจะเพิ่มแรงขึ้นเมื่อคนที่ยึดผ้าห่มเขาไปราวกับเป็นของของตัวเองไม่มีทีที่ว่าจะปล่อยเลย

     

    “แบคฮยอน”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคน  มือก็พยายามดึงผ้าห่มกลับมาปิดสภาพของตัวเอง

     

    “ขอผ้าห่มหน่อย”แรงดึงจากอีกคนที่เพิ่มขึ้นทำให้เขามั่นใจว่าอีกคนตื่นแล้วแน่นอน  ชอยหนุ่มเลยตัดสินใจเอ่ยปากขอ

     

    “...”ไร้เสียงตอบรับจากอีกคน  นิ่งเสียจนชานยอลต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

    “นายนี่น้า...”บ่นกับตัวเอง  แขนแกร่งยันตัวเองขึ้นเพื่อที่จะลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า  แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกไปไหนกลุ่มก้อนผ้าห่มก็กลิ้งตัวหันหน้าเข้ามาสบกับเขา  ใบหน้าสวยที่โผล่ให้เห้นแค่ตากำลังขึ้นสิเรื่อ  แบคฮยอนค่อยๆกระเถิบตัวเข้ามาใกล้อีกคนจนในที่สุดใบหน้าสวยก็สัมผัสกับแงอกกว้าของชานยอล  ยังไม่ทันที่ชานยอลจะได้เอื้อมมือไปโอบเอวบางใต้ผ้าห่มนั้น  มนุษย์ผ้าห่มก็กลิ้งตัวหนีเขาอย่างกระทันหันเสียจนตั้งตัวไม่ทัน

     

    ตุบ!

     

    “โอ๊ย!!!!!”เสียงหวานร้องลั่นทันที  บยอนแบคฮยอนที่กลิ้งตัวรุนแรงเกินไปหล่อนตุบลงไปกองกับพื้น  ความเจ็บปวกเก่ากับความเจ็บปวดใหม่นี่มันรวมกันไม่ใช่น้อยๆเลย

     

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ”ปาร์คชานยอลหัวเราะเสียจนท้องแข่ง

     

    “ขำอะไร!!!! เพราะแกนั่นแหละไอ้บ้าเอ๊ย!!!!”ได้ยินเสียงขำอย่างบ้าคลั่งจากคนที่นั่งอยู่บนเตียง  แบคฮยอนก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง  ใบหน้าสวยโผล่พ้นขอบเตียงมาเล็กน้อยแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    “แล้วเจ็บมั๊ยนั่นน่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางกลั้นขำอย่างสุดชีวิต

     

    “ไม่เจ็บมั้งไอ้บ้าแกลองมาโดนบ้างมั๊ยล่ะ!”แบคฮยอนเหวี่ยงใส่ริมฝีปากบางเบะลงอย่างขัดใจ

     

    “...โทษทีฉันไม่ชอบให้ใครจิ้มอ่ะนะ”พูดจบก็เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าสวยของคนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างล้อเลียนทันที

     

    โป๊ก!

     

    “ไปไกลๆก่อนที่ฉันจะตบแกกระบานแยก!”ด้วยความหมั่นไส้แบคฮยอนเลยจัดการเอาหัวโขกอีกฝ่ายไปอย่างแรงเสียจนชานยอลหงายหลัง

     

    “อะ...เฮ้ย!  อะไร?”เสียงหวานเอ่ยถามเสียงหลงเมื่อจู่ๆตัวเขาก็ถูกอุ้มจนลอยขึ้นจากพื้นด้วยฝีมือของคนที่เขาเพิ่งเอาหัวโขกไม่เมื่อครู่

     

    “ก็ไปอาบน้ำไง...เหนียวตัวจะแย่”พูดจบขายาวก็สาวเท้าตรงไปยังห้องน้ำทันที

     

    “ห๊า!!!!  นายจะอาบก็ไปอาบสิวะ  เกี่ยวอะไรกับฉันเล่า!!!!”เสียงหวานโวยวาย  ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อด้วยความเขินอาย

     

    “จะเดินไปอาบเองรึไง?  สภาพแบบนี้อ่ะนะ...”เสียงทุ้มเอ่ย  ก่อนดวงตาคมจะจ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างเยาะเย้ย  และจงใจเน้นย้ำไปที่เรียวขาขาวที่โผล่พ้นผ้าห่มมาเล็กน้อย  หว่างขาขาวที่เต็มไปด้วยอะไรต่อมิอะไรแหละนะ

     

    “ไอ้หื่นเอ๊ย!!!!!!”แบคฮยอนยกมือขึ้นดังหน้าอีกฝ่ายออกห่างจากทิศเมื่อครู่ทันที  ใบหน้าหวานขึ้นสีหนักยิ่งกว่าเดิม

     

    ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ดวงตาคมคู่นั้นมีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้...

     

    บยอนแบคฮยอนไม่อย่าคิดเลย...

     

    เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมแขนเลิกโวยวายแล้ว  ขายาวจึงก้าวต่อทันที  ชานยอลบรรจงวางร่างของแบคฮยอนลงในอ่างอาบน้ำเบาๆเพราะอาการเจ็บปวดของอีกคนคงไม่ใช่น้อยๆแน่

     

    ดวงตาคู่สวยของแบคฮยอนมองตามแผ่นหลังกว้างที่เปลือยเปล่าของชานยอล  ชายหนุ่มกำลังวุ่นวายกับการหาสบู่ยาสระผมอะไรมากมายเตรียมไว้ให้เขา

     

    มันไม่จำเป็นเลยที่ชานยอลจะต้องดูแลเขาขนาดนี้...ทั้งๆที่คราวที่แล้วก็แค่ปล่อยเขาไว้เท่านั้นเอง...

     

    เขายังจำความรู้สึกเมื่อคืนได้ดี...สัมผัสอ่อนโยนของชานยอลยังคงหลงเหลือ

     

    ยอมรับเลยว่าเรื่องเมื่อคืนเขาไม่คิดรังเกียจเลยแม้แต่น้อย...ทำไมนะ?

     

    เขาควรจะต้องโวยวาย...คิดแค้น...ไม่ใช่มานั่งปล่อยให้ชานยอลทำอะไรตามใจแบบนี้...

     

    เมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังถูกจ้องมอง  ใบหน้าหล่อเหลาของชานยอลก็เบือนมาสบกับอีกคน  รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้ราวกับคำปลอบใจอะไรสักอย่างที่แบคฮยอนก็ไม่สามารถหาคำตอบได้  แต่ไม่นานใบหน้านั้นก็หันกลับไปง่วนกับเรื่องที่ทำไว้ต่อ

     

    จู่ๆใบหน้าสวยก็ร้อนขึ้นมาเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆเมื่อครู่

     

    ทำไมล่ะ!

     

    แบคฮยอนนั่งกอดเข่าก่อนจะซบใบหน้าลงกับแขนบางทั้งสองข้างอย่างสับสน...

     

    นี่เขาเป็นอะไรกันแน่นะ

     

    ใครก็ได้บอกเขาที...ทำไมมันถึงรู้สึกอึดอัดเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นทุกครั้งที่นึกถึงรอยยิ้มนั่นนะ...

     

    เขาเกลียดปาร์คชานยอล...

     

    “แบคฮยอน?”เมื่อเห็นว่าคนตัวเล้กเอาแต่ก้มหน้าซบลงกับแขน  ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย

     

    เขาเกลียดเสียงนี้ที่เรียกชื่อเขา...

     

    “เป็นอะไรรึเปล่า...หรือว่ามันเจ็บ?”เมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากอีกคน  มือหนาก็เลื่อนมาสัมผัสไหล่บางเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจ

     

    เขาเกลียดสัมผัสของปาร์คชานยอล...เพราะมันทำให้เขารู้สึกร้อนไปหมด

     

    “เฮ้ย...เป็นอะไรรึเปล่า?”เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบจนน่ากลัวชานยอลเลยตัดสินใจที่จะจับใบหน้าสวยนั้นให้เงยขึ้นมามองเขา

     

    “แบคฮยอน....”เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาขาดห้วงไปเมื่อเห็นใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

     

    “นาย...ร้องไห้?”ชานยอลอุทานออกมาเบาๆอย่างไม่อยากเชื่อ

     

    “ไม่ได้ร้องสักหน่อย!!!!”เสียงหวานเอ่ยปฏิเสธอย่างอู้อี้ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างลวกๆ

     

    เขาเกลียดปาร์คชานยอล...

     

    เพราะปาร์คชานยอลทำให้เขารู้สึกเหมือนทรยศตัวเอง....

     

    “ฉัน...ขอโทษนะ...”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ  ปาร์คชานยอลก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องเอ่ยขอโทษด้วย  เพราะถ้าเรื่องเมื่อคืนล่ะก็แบคฮยอนเป็นคนเอ่ยปากเองด้วยซ้ำ  เขาไม่ได้ผิดเลยสักนิด

     

    แต่สายตาเมื่อครู่ที่มองมาที่เขา...

     

    มันบ่งบอกชัดเจนว่าเขาเป็นต้นเหตุ...

     

    มือหนายกขึ้นไปลูบกลุ่มผมนุ่มของอีกคนเบาๆคล้ายการปลอบใจ  แบคฮยอนก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลยสักครั้ง

     

    “นายจะอาบเองมั๊ย?”เมื่อเห็นว่าตัวเองดูถ้าจะเป็นตัวทำร้ายจิตใจอีกคน  ชานยอลเลยตัดสินใจเอ่ยถามอีกคน

     

    แบคฮยอนส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ  ชานยอลถอนหายใจเบาๆก่อนมือหนาจะเอื้อมไปเปิดฝักบัวข้างๆอ่างอาบน้ำที่คนตัวเล็กนั่งอยู่  ภายในห้องน้ำเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แสนอึดอัด  เพราะต่างคนต่างเงียบ  ได้ยินเพียงเสียงน้ำที่ไหลผ่านร่างกายบางไปเท่านั้น

     

    “...ชานยอล...”ในทึ่สุดเสียงหวานก็เอ่ยขึ้นเบาๆทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี่เสียที

     

    “หืม?”เจ้าของชื่อขานรับก่อนจะเทยาสระผมลงบนเรือนผมสีน้ำตาลของอีกคน  มือหนาออกแรงขยี้ช้าๆอย่างเบามือ

     

    “...นายว่าที่เรามีเรื่องกันมันงี่เง่ามั๊ย?”คำถามที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของร่างบางทำเอามือของเขาที่กำลังขยี้ผมอีกฝ่ายชะงักกึก

     

    “...งี่เง่ามาก”ชานยอลตอบเสียงล้อเลียน  หวังจะให้แบคฮยอนโวยวายแล้วลุกขึ้นมาด่าเขาเหมือนปกติ  แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เป็นแบบนั้น

     

    “...เหรอ...ฉันก็ว่างั้น...”ผลตอบรับกลับมีเพียงแค่เสียงหวานที่เอ่ยเห็นด้วยเบาๆเท่านั้น  ใบหน้าสวยสลดลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    อะไรอีกวะ...

     

    ชานยอลได้แต่คิดในใจอย่างงงๆ  ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนมือหนาจะผลักหัวคนตัวเล็กแรงๆเสียจนเอียงไปข้างหนึ่ง

     

    “นายจะผลักหัวฉันทำไมวะ!”แบคฮยอนหันมาวีดใส่

     

    ชานยอลยักไหล่ให้อย่างไม่ใส่ใจ  เรียกสายตาเขียวปั๊ดจากอีกคนได้เป็นอย่างดี

     

    “กวนนักใช่มั๊ย...”แบคฮยอนกัดฟันถาม  ก่อนมือบางจะลูบเอาฟองจากหัวตัวเองไปป้ายใส่หน้าอีกคนเสียจนเต็มไปหมด

     

    “โอ๊ยๆๆๆ  ฟองเข้าตาแล้วเฮ้ย!”ชานยอลโวยวายก่อนจะรีบถอยหลังให้ห่างจากรัศมีมือของอีกคน

     

    “สมน้ำหน้า...”แบคฮยอนเบะปากล้อเลียนก่อนมือเรียวจะเอื้อมไปจับสายยางเพื่อมาล้างผมของตัวเอง  แต่ก็ไม่ทันมือหนาของอีกคนที่ไวกว่า

     

    “จะเล่นใช่มั๊ยไอ้เตี้ย”พูดจบชานยอลก็หันสายยางไปหาแบคฮยอนทันที  ชายหนุ่มจัดจากฉีดใส่ใบหน้าสวยของอีกคนอย่างไร้ปราณี  ฝ่ายบยอนแบคฮยอนถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่มีหรือคนอย่างบยอนแบคฮยอนจะยอมแพ้  มือเรียวก็เอาแต่ควักน้ำสาดใส่อีกฝ่ายสะเปะสะปะไปหมด  สงครามย่อยๆได้บังเกิดขึ้นในห้องน้ำของปาร์คชานยอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     

    แบคฮยอนหัวเราะออกมาอย่างสะใจเมื่อเห็นปาร์คชานยอลในสภาพที่เปียกไปหมด  ชานยอลหยุดที่จะสาดน้ำใส่หน้าอีกคน  ใบหน้าสวยของแบคฮยอนตอนนี้มันกลับตราตรึงอยู่ในใจเขาเสียจนไม่อาจลืมได้  รอยยิ้มสดใสและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานไร้กังวลใดๆมันทำให้เขาคิดว่า  มันช่างสว่างสไหวราวกับดวงตะวันในยามเช้าจริงๆ

     

    ชานยอลอดที่จะยิ้มตามไปกับภาพนี้ไม่ได้

     

    บางทีที่เขาเลือกที่จะก่อกวนชวนแบคฮยอนทะเลาะ...

     

    เขาอาจจะแค่อยากเห็นภาพแบบนี้กระมัง...

     

    เขาไม่เคยสังเกตเลยว่าเวลาไม่นานที่เขารู้จักแบคฮยอนมา...

     

    ...เขายิ้มไปกี่ครั้งแล้ว

     

     

     

     

     

    แบคฮยอนที่อาบน้ำเสร้จแล้ว  กำลังนั่งรออีกคนอยู่ที่โต๊ะอาหาร  ร่างบางอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงบอกเซอร์ของอีกคน  ชานยอลใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะขุดชุดพวกนี้มาให้เขาได้  ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง  คอนโดระดับกลางๆสำหรับอาศัยอยู่คนเดียว...

     

    “มาแล้ว...”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆก่อนข้าวต้มร้อนๆจะวางลงที่หน้าเขา  แบคฮยอนตาวาวด้วยความหิว

     

    “นายทำเองเหรอ?”

     

    “แน่นอน!”ชานยอลเอ่ยตอบอย่างภาคภูมิใจ

     

    “กินได้แน่ใช่มะ?”แบคฮยอนเบะปากถาม  สายตาที่มองไปยังถ้วยข้าวตัมเริ่มส่อแววไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัด

     

    “งั้นนายก็ไม่ต้องกิน”พูดจบมือหนาก็จัดการเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกห่างจากอีกคน

     

    “เดี๋ยว”มือบางรั้งแขนของอีกคนไว้ด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่ราบเรียบ

     

    “นายอุตส่าทำมาแล้ว...ฉันจะรักษาน้ำใจนายโดยการทนๆกินไปก็แล้วกัน”เสียงหวานเอ่ยอย่างจริงจัง  ก่อนมือเรียวจะจัดการลากถ้วยกลับมาหาตัวเอง  ไม่รอช้าจัดการตักเข้าปากทันที

     

    ชานยอลลอมยิ้มอย่างขบขันในท่าทางวางฟอร์มของแบคฮยอน  ยิ่งเห็นอีกคนตั้งหน้าตั้งตาทางข้าวต้มที่เขาทำอย่างเอร็ดอร่อยแล้วยิ่งขำ

     

    เมื่อกี้ใครบอกว่าทนทนกินนะ...

     

    “ขำอะไร?”เหมือนว่าเขาจะคิดดังไปหน่อยเสียงหัวเราะเบาๆของเขาเลยไปกระทบโสตประสาทของอีกคนเข้าโดยไม่ตั้งใจ

     

    “เปล่าๆ”ชานยอลรีบเอ่ยปฏิเสธ

     

    “ไม่เชื่อ!”เสียงหวานเอ่ยห้วนๆ  แต่ไม่ได้พูดอย่างเดียวน่ะสิ  แบคฮยอนตักต้นหอมผักชีที่โรยหน้าข้าวต้มมาโยนใส่ชานยอลด้วย

     

    “เฮ้ย! นี่อย่าเล่นของกินสิ”ชานยอลเอ่ยดุอีกคน  แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุแบคฮยอนก็เอาแต่ตักผักชีมาโยนใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง

     

    “นี่ๆๆๆๆๆๆ”เมื่อเห็นตัวอีกคนเริ่มมีผักชีเกาะคนตัวเล็กก็หัวเราออกมาอย่างสะใจ

     

    “บยอนแบคฮยอน!”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่ออีกคนลั่น  แบคฮยอนชะงักมือที่กำลังจะโยกผักชีกองสุดท้ายใส่ชานยอลทันที

     

    “นี่!”ชานยอลโยนกองผักชีใส่อีกคนทันทีเป็นการแก้แค้น

     

    และแล้วสงครามผักชีก็เกิดขึ้นที่โต๊ะอาหารของปาร์คชานยอลด้วยประการฉะนี้เอง...

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    เขาว่ากันว่าบางครั้งมิตรภาพมันอาจจะเกิดไม่ค่อยสวยงามเท่าไร...

     

    แต่ยังไงมันก็คือมิตรภาพแหละนะ...

     

    ชานยอลอาสาจะไปส่งแบคฮยอนที่บ้าน  แต่คนตัวเล็กปฏิเสธ  พอเขาถามเหตุผลแบคฮยอนก็ตอบแค่ว่า “อยากโดนพ่อฉันแหกอกมั๊ยล่ะ” ชานยอลก็พยักหน้ารับรู้แล้วไปส่งที่หน้าปากซอยบ้านแทน  เป็นครั้งแรกที่พวกเขาคุยกันดีๆโดยที่ไม่ทะเลาะกันได้เกินสิบนาที

     

    ความจริงแล้วแบคฮยอนไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่คิด...

     

    ก็แค่ดื้อไปหน่อยเท่านั้นแหละ...

     

    หลังจากเหตุการร์วันนั้นเหมือนทุกอย่างมันจะกลับตลาปัดไปเสียหมด  เขากับลู่หานแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย  ขนาดตอนไปซ้อมละคร  จากที่ลู่หานจะมานั่งซ้อมกับเขา  เจ้าตัวกลับไปนั่งกับกลุ่มรุ่นพี่ปีสามแทน  ปาร์คชานยอลเลยได้แต่นั่งอ่านบทละครเพียงลำพัง...

     

    นั่งเหงาอยู่ไม่นานก็มีร่างของใครคนหนึ่งทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ  พอหันไปชานยอลก้แทบจะเอาหัวโขกพื้นเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป

     

    “มองอะไรล่ะ...ก็อ่านไปสิบทละครน่ะ”เสียงหวานเอ่ย แบคฮยอนหันมาทำหน้าดุๆใส่ก่อนจะหันไปสนใจบทละครในมือต่อ

     

    นี่ก็ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่แบคฮยอนมักจะมานั่งเป็นเพื่อนเขาตอนซ้อมละครเสมอ  แต่ใช่ว่าจะได้นั่งกันแค่สองคนหรอกนะ  แน่นอนว่าถ้าแบคฮยอนมา….

     

    “พี่แบคฮยอน!!! อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้สิครับ”

     

    “ก็เห็นนายหลับสบายเลยไม่อยากกวนอ่ะ”แบคฮยอนพูดพลางยักไหล่อย่างไม่สนใจ

     

    ไอ้เด็กคิมจงอินก็ต้องติดมาด้วยทุกครั้ง

     

    ถึงแม้คำพูดคำจาจะไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เขากับแบคฮยอนก็ดูจะสนิทกันดี...ละมั้ง

     

    “ถามจริง...แกไปทำอะไรให้พี่ลู่หานเขาโกรธวะ?”แบคฮยอนกระซิบเสียงเบาทันทีเมื่อจงอินขอตัวไปเข้าห้องน้ำ

     

    “ก็ไม่ได้ทำอะไร....ที่จริงก็นิดหน่อย...”ตอนแรกเสียงทุ้มเอ่ยปฏิเสธแต่พอเห็นสายตาจับผิดอย่างเต็มขั้นจากอีกคนเขาก็เลยจำใจบอกไป

     

    คนอย่างบยอนแบคฮยอนน่ะขัดใจไปก็วุ่นวายเปล่าๆ

     

    “นั่นไงว่าแล้ว! แกน่ะมันอ่อนจริงๆ...จะไปจีบเขาแล้วยังทำให้เขาโกรธอีก  เฮอะ ฉันล่ะเครียดแทนจริงๆ”พอได้ยินว่าชานยอลทำให้ลู่หานโกรธมือเรียวก็ตบเข่าตัวเองฉาดใหญ่ด้วยความมั่นใจ

     

    “เออ...นายมันเก่งเหลือเกิน...สังเกตหน่อยก็ดีนะว่าช่วงนี้มีใครให้นายเดินควงมั๊ยพ่อคนเก่ง”เสียงทุ้มเอ่ยพลางทำหน้าเอือมๆ

     

    “อย่าเพิ่งมาหาเรื่องฉัน...ตกลงว่าไปทำอะไรมา”แบคฮยอนทำเป็นไม่สนใจที่อีกคนพูดเหน็บไว้เมื่อครู่เพราะต่อมอยากรู้ของเขามันทำงานมากกว่า

     

    “ก็...”ชานยอลแกล้งลากเสียงยาวให้อีกคนอยากรู้เล่น

     

    “ก็?”ซึ่งมันก็ดูจะได้ผลดีเพราะใบหน้าที่แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นออกมาอย่างชัดเจน

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “...ฉันขอคบกับพี่ลู่หาน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     TBC.
    TALK.
    สวัสดีวันหยุดนะคะทุกคน  เพชรเอามาลงตามสัญญาน้าาาา ><  ก่อนอื่นขอกรี๊ดแป๊บนะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด  ทำไปบยอนมันน่ารักอย่างเงร้!!!!!!! เขินอ่ะ #เขินอะไร  โอเคเข้าเรื่องๆ  เพชรไปอ่านๆคอมเม้นมามีแต่คนครหา(?)บอกว่าเพชรใจร้ายมากตัดจบได้ทรมาณสุดๆ  จริงอ่ะ? #ยังจะถาม 55555555555  เอาเหอะๆ  มันจะได้น่าติดตามไง  ชอบให้ลุ้นๆอ่ะ อุอุอุ  กำลังคิดอยู่ว่าเอ็นซีมันถี่ไปป่ะวะ  เผลอแป๊บๆอ่าวเอ็นซีอีกแล้ว  ทุกคนว่าไงอ่ะคะ? #หรือหื่นพอกันทั้งคนเขียนคนอ่าน 5555555  เพชรต้องขอโทษทุกคนมากๆเลยนะคะที่อัพได้อย่างเร็วก็อาทิตย์นึง  เรียนหนักมากๆเลย ยังไม่มีที่เรียนก็แบบนี้แหละ  ทุกคนที่เตรียมเอ็นท์ก็อย่าเอาแต่อ่านฟิคนะ  ไปอ่านหนังสือสอบด้วย! ><  พูดเยอะละ  ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ วันอาทิตย์เหมือนเดิม  ขอสปอยนิดนึงว่าตอนหน้าเป็นตอนที่เพชรเขินที่สุดตั้งแต่แต่งมาต้นเรื่องถึงปัจจุบัน คริคริ >3<

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×