คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 8 (แก้ไขแล้ว)
“ช่วยฉันหน่อย...”เสียงหวานที่เอ่ยเบาๆเรียกให้ชานยอลต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“นาย...ว่าไงนะ”ชายหนุ่มถามซ้ำกับคนที่รั้งข้อมือของเขาอย่างไม่เชื่อหู
“ฉันบอกว่า...ช่วยฉันหน่อย”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าสวยที่ตอนนี้แดงซ่านด้วยฤทธิ์ยาช้อนตาขึ้นมองเขาอย่างขอร้อง ชานยอลลอบกลืนน้ำลายลงคอ
มาขออะไรกันในสภาพแบบนี้ล่ะโว๊ย!
ปาร์คชานยอลโวยวายในใจ ใช่ว่าเขาจะเป็นเด็กสามขวบที่ไม่รู้ความหมายของประโยคขอร้องเมื่อครู่ แต่สภาพของบยอนแบคฮยอนตอนนี้มันช่างพาให้สติสตางค์ของเขากระเจิงจริงๆ
“นาย...แน่ใจนะ?”เสียงทุ้มเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ มือหนาอีกข้างที่ว่างอยู่ถูกยกขึ้นมาลูบใบหน้าตัวเองอย่างตึงเครียด
แบคฮยอนไม่ตอบแต่ใบหน้าสวยนั้นพยักหน้าขึ้นลงช้าๆแทนคำตอบ มือเรียวปล่อยข้อมืออีกคยให้เป็นอิสระ
“ไม่เปลี่ยนใจแน่นะ?”ชานยอลถามซ้ำอีกครั้ง แบคฮยอนส่ายหน้าเป็นคำตอบ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะก้าวขึ้นไปคร่อมตัวอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงทันที
ริมฝีปากหนาประกบเข้ากับริมฝีปากบางจากนุ่มนวลกลายเป็นร้อนแรง ชานยอลสัมผัสได้ถึงรสจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการของแบคฮยอน แขนเรียวถูกยกขึ้นโอบรอบลำคอของอีกคนไว้แน่น คนตัวเล็กเบียดกายเข้าใกล้อีกคนให้มากขึ้นเพื่อรับรสจูบที่แสนหวานนี้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
ริมฝีปากหนาจุมพิตเบาๆที่ปรางค์แก้มใสของอีกคน แบคฮยอนหลับสนิทไปแล้ว คนตัวเล็กซุกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา ใบหน้าไร้เดียงสายามอยู่ในห้วงนิทราของร่างบางทำให้ชานยอลอดยิ้มไม่ได้
เขาคงต้องยอมรับจริงๆว่าแบคฮยอนน่ะน่ารักแค่ไหน...
...เฉพาะเวลานอนน่ะนะ
นึกแล้วชานยอลก็ต้องกลั้นขำอยู่คนเดียวยามนึกถึงใบหน้าหาเรื่องตอนที่ร่างบางตรงหน้านี้มีสติครบถ้วน ดวงตาคู่สวยที่ชอบจ้องมองเขาราวกับจะทิ่มแทงให้ตายลงเสียงตรงนั้น ริมฝีปากบางคู่สวยที่มุมปากมักจะงอลงเสมอเมื่อเห็นหน้าเขา
แต่ดูตอนนี้สิ...
“...ยิ้มอะไรของนายแบคฮยอน”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆราวกับกระซิบ มือหนาสัมผัสแผ่วเบาที่ใบหน้าสวยนั้นก่อนจะใช้นิ้วหัวแม่มือแตะเบาๆที่ริมฝีปากนุ่ม
“เฮ้อ.....”ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกก่อนจะทิ้งตัวนอนลงข้างๆใครอีกคนที่เข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้วอย่างไม่คิดจะสนใจใคร
เกือบไปแล้ว...ถ้าหากว่าเขาไปช้ากว่านี้สักนิดล่ะก็...
แบคฮยอนคงได้เสร็จไอ้เลวนั่นแน่!
“คบกับผมนะ...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างจริงจัง ดวงตาคมจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาสวยของลู่หาน
“อ...คือ...”เสียงหวานเรียบเรียงคำพูดไม่ถูก ใบหน้าน่ารักของลู่หานขึ้นสีเรื่ออย่างเขินอาย ดวงตาคู่สวยกรอกไปมาอย่างสับสน
“ค...คือพี่...”เสียงหวานที่เอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักทำให้ชานยอลรู้ว่าบางทีเขาอาจจะรุกเร็วไปหน่อย ชายหนุ่มเลยเปลี่ยนใบหน้าจริงจังมาเป็นการส่งรอยยิ้มสดใสเหมือนที่เขามักจะทำยามปกติ
“ไม่เป็นไรครับ...พี่ยังไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้ก็ได้...พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกนะครับ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนมือหนาจะค่อยๆเอื้อมไปสัมผัสใบหน้าของอีกคน
“อ๊ะ! คือพี่ขอโทษนะ!”ลู่หานสะดุ้งกับสัมผัสที่อีกคนมอบให้ เสียงหวานเอ่ยขอโทษเสียงดังก่อนขาเรียวจะรีบวิ่งพาร่างของตัวเองให้ห่างออกไปจากอีกคนทันที
“พี่ลู่หาน!”เสียงทุ้มเอ่ยไล่หลังอีกคนไปแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะแผ่นหลังบางหายลับเข้าไปในตัวสวนสนุกเสียก่อน
“เฮ้อ”ชานยอลถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ความจริงเขาควรจะต้องไปส่งลู่หานที่บ้านนะเพราะนี่ก็เริ่มจะมืดแล้ว แต่ขืนไปส่งตอนนี้ลู่หานอาจจะช็อคตายได้ เพราะขนาดเขาแต่แตะตัวเบาๆเจ้าตัวยังสะดุ้งซะขนาดนั้น อีกอย่างบ้านลู่หานก็อยู่ไม่ไกลจากสวนสนุกนี่เท่าไหร่นัก แถมตลอดทางยังมีห้างสรรพสินค้าและร้านรวงต่างๆที่คนพลุกพล่าน
มันก็ทำให้เขาหายห่วงละนะ...
ชานยอลตัดสินใจที่จะกลับบ้านเลย เขาขับรถออกไปตามถนน เวลาค่ำๆแบบนี้รถรายังคงแล่นกันคึกคักอยู่มาก เพราะส่วนใหญ่ก็คงจะกลับจากที่ทำงานหรือไม่ก็เพิ่งกลับจากกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจแบบเขา
ดวงตาคมก็ทอดสายตามองสิ่งต่างๆ กรุงโซลยามค่ำคืนเขาต้องยอมรับเลยล่ะว่าความงดงามไม่แพ้เมืองอื่นๆเลย
หวังว่าแบคฮยอนจะทำตามที่เขาบอกนะ...
ความคิดชะงักกึก นี่วันนี้เขาขึกถึงคนตัวเล็กเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วนะ?
สถานการณ์นี้นี่เข้าข่ายอันตรายแล้วนะ!
“ออกไปๆ”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆไล่คนตัวเล็กที่อยู่ในความคิดออกไป
เท้าเหยียบเบรกทันทีที่เห็นสัญญาณไฟจราจรที่เปลี่ยนสี ชายหนุ่มอดที่จะหงุดหงิดไม่ได้เพราะไฟแดงที่มันดันมากักตอนรถเขาน่ะสิ มองเห็นรถคันหน้าที่ตามกันมาติดๆวิ่งฉิวไปอีกฝั่งของแยกได้แล้วก็หงุดหงิด
รถรามากมายจากด้านขวามือของแยกพากันขับผ่านหน้าเขาไปอย่างรีบร้อน
ก็นี่แหละน้าชีวิตในเมืองหลวง...
พลันสายตาก็ราวกับถูกสะกดไว้ เพราะเขาเหลือบไปเห็นรถคันหนึ่งที่แสนคุ้นเคย ยิ่งมองผ่านกระจกรถเข้าไปยิ่งมั่นใจว่าเจ้าของรถเป็นคนที่เขารู้จักแน่นอน
ชเวมินโฮ...
รถสปอร์ตคันหรูของมินโฮแล่นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่สายตาของเขาก็ยังสามารถจับรายละเอียดในรถคันนั้นได้เป็นอย่างดี
เขาเห็น...
...แบคฮยอน
ไม่นานนักไฟเขียวก็เปิดโอกาสให้รถฝั่งเขาได้เคลื่อนตัวออกไป ชานยอลรีบหักพวงมาลัยเลี้ยวตามรถของมินโฮไปทันที
ลางสังหรณ์ของเขามันบอกว่าแบคฮยอนกำลังเจออันตราย!
ชานยอลเหยียบคันเร่งแทบมิด แต่เขาก็ไม่อาจไล่ตามรถของมินโฮที่ขับผ่านไปนานแล้วได้ รอบตัวของเขาคือย่านการค้าชื่อดังที่มีโรงแรมหรูมากมายตั้งเรียงรายไปหมด
“โธ่เว้ย!”มือหนาทุบพวงมาละยอย่างหัวเสีย แต่ก็ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะยังเข้าข้างเขาอยู่บาง โรงแรมที่เขาจำได้ดี...
ที่ประจำของมินโฮนั่นแหละ!
ไม่รอช้าชานยอลรีบขับรถเข้าไปทันที เขาจอดรถอย่างลวกๆไว้ที่หน้าโรงแรมก่อนจะก้าวลงจากรถอย่างรีบร้อน
“คุณครับ”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกพนักงานที่ประชาสัมพันธ์
“มีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ”พนักงานสาวยิ้มตอบด้วยรอยยิ้มการค้า
“คุณชเวมินโฮพักห้องไหนเหรอครับ”
“ต้องขอโทษด้วยนะคะทางเราไม่สามารถให้ข้อมูลลูกค้ากับคนนอกได้นะคะ”
“งั้นนี่ครับ...ผมเป็นลูกค้าของเขา เรากำลังจะมาคุยธุรกิจกัน”พูดจบชานยอลก็ส่งนามบัตรของมินโฮให้กับพนักงานสาว หลังจากที่รื้อๆค้นๆกระเป๋าเงินอยู่นานเขาก็เจอนามบัตรตั้งแต่สมัยที่พวกเขายังเป็นเพื่อนกัน...
ก็นานมากแล้ว...
พนักงานสาวรับมาดูก่อนจะค้นหารายชื่อลูกค้าในคอมพิวเตอร์ของเธอ เมื่อได้เลขห้องแล้วชานยอลก็รีบไปทันที
ชั้นบนสุดของโรงแรมที่เงียบสงัดยิ่งทำให้เขาใจเสีย ไร้คนอาศัยแบบนี้ต่อให้แบคฮยอนร้องขอความช่วยเหลือเขาก็เชื่อว่าไม่มีทางที่ร่างบางจะได้รับความช่วยเหลือหรอก
“...ขอให้ทันเถอะ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเบาๆกับตัวเอง ดวงตาคมก็ไล่มองเลขห้องไปเรื่อยๆจนเจอเข้ากับเลขที่เขาตามหาในที่สุด
เสียงเอะอะโวยวายดังออกมาจากภายในทำให้เขามั่นใจได้ทันทีว่านี่จะต้องเป็นห้องที่เขาตามหาแน่นอน มือหนาเลื่อนไปบิดลุกบิดประตูออกอย่างรีบร้อน
มันไม่ได้ล็อค...
“ปล่อย!!!”เสียงกรีดร้องดังออกมาทันทีที่ประตูเปิดออก น้ำเสียงหวานที่เขาจำได้ดีเรียกให้อารมณ์โทสะของเขาพุ่งขึ้นเสียจนแทบควบคุมไม่อยู่
ชเวมินโฮ...ไอ้ระยำนั่น!
ขายาวรีบก้าวพาร่างเจ้าของเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว ภาพที่ปรากฏทำเอาความโมโหของเขาเพิ่มมากขึ้นเสียจนไม่สามารถควบคุมได้ ร่างสูงของมินโฮกำลังมีความสุขกับร่างกายของคนที่ไร้ทางสู้ สภาพของแบคฮยอนตอนนี้เขามั่นใจว่าไม่ปกติแน่นอน เพราะแบคฮยอนไม่มีแรงแม้แต่จะขัดขืนด้วยซ้ำ
“แก!!!”เสียงทุ้มตะโกนออกมาอย่างเหลืออด ก่อนจะพุ่งเข้าไปปล่อยหมัดใส่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกคนอย่างแรงเสียจนมินโฮเซถลาไปด้านหลัง
ไม่อยากจะคิดเลย...ถ้าหากเขาไม่บังเอิญไปเห็นเข้าล่ะก็
แบคฮยอนจะเป็นยังไง....
.
.
.
.
.
แสงแดดอุ่นๆส่องลอดผ้าม่านผืนบางเข้ามาภายในห้องทำให้คนที่นอนทอดกายอยู่บนเตียงหลุดออกจากห้วงนิทรา แรงขยับของคนข้างๆตัวทำให้เขาต้องหันไปมองอย่างเสียไม่ได้ คนตัวเล็กถลกผ้าห่มผืนหนาออกจากตัวเขาเอาไปห่อตัวเองเสียอย่างกับดักแด้ ชานยอลก้มมองสภาพเปลือยเปล่าของตัวเองแล้วมือหนาก็เลื่อนไปดึงผ้าหม่มาจากอีกคน ก่อนจะเพิ่มแรงขึ้นเมื่อคนที่ยึดผ้าห่มเขาไปราวกับเป็นของของตัวเองไม่มีทีที่ว่าจะปล่อยเลย
“แบคฮยอน”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคน มือก็พยายามดึงผ้าห่มกลับมาปิดสภาพของตัวเอง
“ขอผ้าห่มหน่อย”แรงดึงจากอีกคนที่เพิ่มขึ้นทำให้เขามั่นใจว่าอีกคนตื่นแล้วแน่นอน ชอยหนุ่มเลยตัดสินใจเอ่ยปากขอ
“...”ไร้เสียงตอบรับจากอีกคน นิ่งเสียจนชานยอลต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“นายนี่น้า...”บ่นกับตัวเอง แขนแกร่งยันตัวเองขึ้นเพื่อที่จะลุกไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แต่ยังไม่ทันที่จะได้ลุกไปไหนกลุ่มก้อนผ้าห่มก็กลิ้งตัวหันหน้าเข้ามาสบกับเขา ใบหน้าสวยที่โผล่ให้เห้นแค่ตากำลังขึ้นสิเรื่อ แบคฮยอนค่อยๆกระเถิบตัวเข้ามาใกล้อีกคนจนในที่สุดใบหน้าสวยก็สัมผัสกับแงอกกว้าของชานยอล ยังไม่ทันที่ชานยอลจะได้เอื้อมมือไปโอบเอวบางใต้ผ้าห่มนั้น มนุษย์ผ้าห่มก็กลิ้งตัวหนีเขาอย่างกระทันหันเสียจนตั้งตัวไม่ทัน
ตุบ!
“โอ๊ย!!!!!”เสียงหวานร้องลั่นทันที บยอนแบคฮยอนที่กลิ้งตัวรุนแรงเกินไปหล่อนตุบลงไปกองกับพื้น ความเจ็บปวกเก่ากับความเจ็บปวดใหม่นี่มันรวมกันไม่ใช่น้อยๆเลย
“ฮ่าๆๆๆๆๆ”ปาร์คชานยอลหัวเราะเสียจนท้องแข่ง
“ขำอะไร!!!! เพราะแกนั่นแหละไอ้บ้าเอ๊ย!!!!”ได้ยินเสียงขำอย่างบ้าคลั่งจากคนที่นั่งอยู่บนเตียง แบคฮยอนก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าสวยโผล่พ้นขอบเตียงมาเล็กน้อยแสดงความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
“แล้วเจ็บมั๊ยนั่นน่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางกลั้นขำอย่างสุดชีวิต
“ไม่เจ็บมั้งไอ้บ้าแกลองมาโดนบ้างมั๊ยล่ะ!”แบคฮยอนเหวี่ยงใส่ริมฝีปากบางเบะลงอย่างขัดใจ
“...โทษทีฉันไม่ชอบให้ใครจิ้มอ่ะนะ”พูดจบก็เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ใบหน้าสวยของคนที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างล้อเลียนทันที
โป๊ก!
“ไปไกลๆก่อนที่ฉันจะตบแกกระบานแยก!”ด้วยความหมั่นไส้แบคฮยอนเลยจัดการเอาหัวโขกอีกฝ่ายไปอย่างแรงเสียจนชานยอลหงายหลัง
“อะ...เฮ้ย! อะไร?”เสียงหวานเอ่ยถามเสียงหลงเมื่อจู่ๆตัวเขาก็ถูกอุ้มจนลอยขึ้นจากพื้นด้วยฝีมือของคนที่เขาเพิ่งเอาหัวโขกไม่เมื่อครู่
“ก็ไปอาบน้ำไง...เหนียวตัวจะแย่”พูดจบขายาวก็สาวเท้าตรงไปยังห้องน้ำทันที
“ห๊า!!!! นายจะอาบก็ไปอาบสิวะ เกี่ยวอะไรกับฉันเล่า!!!!”เสียงหวานโวยวาย ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อด้วยความเขินอาย
“จะเดินไปอาบเองรึไง? สภาพแบบนี้อ่ะนะ...”เสียงทุ้มเอ่ย ก่อนดวงตาคมจะจ้องมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนอย่างเยาะเย้ย และจงใจเน้นย้ำไปที่เรียวขาขาวที่โผล่พ้นผ้าห่มมาเล็กน้อย หว่างขาขาวที่เต็มไปด้วยอะไรต่อมิอะไรแหละนะ
“ไอ้หื่นเอ๊ย!!!!!!”แบคฮยอนยกมือขึ้นดังหน้าอีกฝ่ายออกห่างจากทิศเมื่อครู่ทันที ใบหน้าหวานขึ้นสีหนักยิ่งกว่าเดิม
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ดวงตาคมคู่นั้นมีอิทธิพลกับเขามากขนาดนี้...
บยอนแบคฮยอนไม่อย่าคิดเลย...
เมื่อเห็นว่าคนในอ้อมแขนเลิกโวยวายแล้ว ขายาวจึงก้าวต่อทันที ชานยอลบรรจงวางร่างของแบคฮยอนลงในอ่างอาบน้ำเบาๆเพราะอาการเจ็บปวดของอีกคนคงไม่ใช่น้อยๆแน่
ดวงตาคู่สวยของแบคฮยอนมองตามแผ่นหลังกว้างที่เปลือยเปล่าของชานยอล ชายหนุ่มกำลังวุ่นวายกับการหาสบู่ยาสระผมอะไรมากมายเตรียมไว้ให้เขา
มันไม่จำเป็นเลยที่ชานยอลจะต้องดูแลเขาขนาดนี้...ทั้งๆที่คราวที่แล้วก็แค่ปล่อยเขาไว้เท่านั้นเอง...
เขายังจำความรู้สึกเมื่อคืนได้ดี...สัมผัสอ่อนโยนของชานยอลยังคงหลงเหลือ
ยอมรับเลยว่าเรื่องเมื่อคืนเขาไม่คิดรังเกียจเลยแม้แต่น้อย...ทำไมนะ?
เขาควรจะต้องโวยวาย...คิดแค้น...ไม่ใช่มานั่งปล่อยให้ชานยอลทำอะไรตามใจแบบนี้...
เมื่อรู้สึกได้ว่ากำลังถูกจ้องมอง ใบหน้าหล่อเหลาของชานยอลก็เบือนมาสบกับอีกคน รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้ราวกับคำปลอบใจอะไรสักอย่างที่แบคฮยอนก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ แต่ไม่นานใบหน้านั้นก็หันกลับไปง่วนกับเรื่องที่ทำไว้ต่อ
จู่ๆใบหน้าสวยก็ร้อนขึ้นมาเมื่อนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มบางๆเมื่อครู่
ทำไมล่ะ!
แบคฮยอนนั่งกอดเข่าก่อนจะซบใบหน้าลงกับแขนบางทั้งสองข้างอย่างสับสน...
นี่เขาเป็นอะไรกันแน่นะ
ใครก็ได้บอกเขาที...ทำไมมันถึงรู้สึกอึดอัดเหมือนหัวใจจะหยุดเต้นทุกครั้งที่นึกถึงรอยยิ้มนั่นนะ...
เขาเกลียดปาร์คชานยอล...
“แบคฮยอน?”เมื่อเห็นว่าคนตัวเล้กเอาแต่ก้มหน้าซบลงกับแขน ชายหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยถามออกไปด้วยความสงสัย
เขาเกลียดเสียงนี้ที่เรียกชื่อเขา...
“เป็นอะไรรึเปล่า...หรือว่ามันเจ็บ?”เมื่อไม่ได้รับการตอบรับจากอีกคน มือหนาก็เลื่อนมาสัมผัสไหล่บางเพื่อเป็นการเรียกร้องความสนใจ
เขาเกลียดสัมผัสของปาร์คชานยอล...เพราะมันทำให้เขารู้สึกร้อนไปหมด
“เฮ้ย...เป็นอะไรรึเปล่า?”เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบจนน่ากลัวชานยอลเลยตัดสินใจที่จะจับใบหน้าสวยนั้นให้เงยขึ้นมามองเขา
“แบคฮยอน....”เสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาขาดห้วงไปเมื่อเห็นใบหน้าสวยที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
“นาย...ร้องไห้?”ชานยอลอุทานออกมาเบาๆอย่างไม่อยากเชื่อ
“ไม่ได้ร้องสักหน่อย!!!!”เสียงหวานเอ่ยปฏิเสธอย่างอู้อี้ก่อนมือเรียวจะยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างลวกๆ
เขาเกลียดปาร์คชานยอล...
เพราะปาร์คชานยอลทำให้เขารู้สึกเหมือนทรยศตัวเอง....
“ฉัน...ขอโทษนะ...”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆ ปาร์คชานยอลก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงต้องเอ่ยขอโทษด้วย เพราะถ้าเรื่องเมื่อคืนล่ะก็แบคฮยอนเป็นคนเอ่ยปากเองด้วยซ้ำ เขาไม่ได้ผิดเลยสักนิด
แต่สายตาเมื่อครู่ที่มองมาที่เขา...
มันบ่งบอกชัดเจนว่าเขาเป็นต้นเหตุ...
มือหนายกขึ้นไปลูบกลุ่มผมนุ่มของอีกคนเบาๆคล้ายการปลอบใจ แบคฮยอนก็เอาแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาเลยสักครั้ง
“นายจะอาบเองมั๊ย?”เมื่อเห็นว่าตัวเองดูถ้าจะเป็นตัวทำร้ายจิตใจอีกคน ชานยอลเลยตัดสินใจเอ่ยถามอีกคน
แบคฮยอนส่ายหน้าเบาๆเป็นคำตอบ ชานยอลถอนหายใจเบาๆก่อนมือหนาจะเอื้อมไปเปิดฝักบัวข้างๆอ่างอาบน้ำที่คนตัวเล็กนั่งอยู่ ภายในห้องน้ำเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แสนอึดอัด เพราะต่างคนต่างเงียบ ได้ยินเพียงเสียงน้ำที่ไหลผ่านร่างกายบางไปเท่านั้น
“...ชานยอล...”ในทึ่สุดเสียงหวานก็เอ่ยขึ้นเบาๆทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี่เสียที
“หืม?”เจ้าของชื่อขานรับก่อนจะเทยาสระผมลงบนเรือนผมสีน้ำตาลของอีกคน มือหนาออกแรงขยี้ช้าๆอย่างเบามือ
“...นายว่าที่เรามีเรื่องกันมันงี่เง่ามั๊ย?”คำถามที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากปากของร่างบางทำเอามือของเขาที่กำลังขยี้ผมอีกฝ่ายชะงักกึก
“...งี่เง่ามาก”ชานยอลตอบเสียงล้อเลียน หวังจะให้แบคฮยอนโวยวายแล้วลุกขึ้นมาด่าเขาเหมือนปกติ แต่ครั้งนี้มันกลับไม่เป็นแบบนั้น
“...เหรอ...ฉันก็ว่างั้น...”ผลตอบรับกลับมีเพียงแค่เสียงหวานที่เอ่ยเห็นด้วยเบาๆเท่านั้น ใบหน้าสวยสลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อะไรอีกวะ...
ชานยอลได้แต่คิดในใจอย่างงงๆ ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนมือหนาจะผลักหัวคนตัวเล็กแรงๆเสียจนเอียงไปข้างหนึ่ง
“นายจะผลักหัวฉันทำไมวะ!”แบคฮยอนหันมาวีดใส่
ชานยอลยักไหล่ให้อย่างไม่ใส่ใจ เรียกสายตาเขียวปั๊ดจากอีกคนได้เป็นอย่างดี
“กวนนักใช่มั๊ย...”แบคฮยอนกัดฟันถาม ก่อนมือบางจะลูบเอาฟองจากหัวตัวเองไปป้ายใส่หน้าอีกคนเสียจนเต็มไปหมด
“โอ๊ยๆๆๆ ฟองเข้าตาแล้วเฮ้ย!”ชานยอลโวยวายก่อนจะรีบถอยหลังให้ห่างจากรัศมีมือของอีกคน
“สมน้ำหน้า...”แบคฮยอนเบะปากล้อเลียนก่อนมือเรียวจะเอื้อมไปจับสายยางเพื่อมาล้างผมของตัวเอง แต่ก็ไม่ทันมือหนาของอีกคนที่ไวกว่า
“จะเล่นใช่มั๊ยไอ้เตี้ย”พูดจบชานยอลก็หันสายยางไปหาแบคฮยอนทันที ชายหนุ่มจัดจากฉีดใส่ใบหน้าสวยของอีกคนอย่างไร้ปราณี ฝ่ายบยอนแบคฮยอนถึงแม้จะมองไม่เห็นแต่มีหรือคนอย่างบยอนแบคฮยอนจะยอมแพ้ มือเรียวก็เอาแต่ควักน้ำสาดใส่อีกฝ่ายสะเปะสะปะไปหมด สงครามย่อยๆได้บังเกิดขึ้นในห้องน้ำของปาร์คชานยอลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แบคฮยอนหัวเราะออกมาอย่างสะใจเมื่อเห็นปาร์คชานยอลในสภาพที่เปียกไปหมด ชานยอลหยุดที่จะสาดน้ำใส่หน้าอีกคน ใบหน้าสวยของแบคฮยอนตอนนี้มันกลับตราตรึงอยู่ในใจเขาเสียจนไม่อาจลืมได้ รอยยิ้มสดใสและเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานไร้กังวลใดๆมันทำให้เขาคิดว่า มันช่างสว่างสไหวราวกับดวงตะวันในยามเช้าจริงๆ
ชานยอลอดที่จะยิ้มตามไปกับภาพนี้ไม่ได้
บางทีที่เขาเลือกที่จะก่อกวนชวนแบคฮยอนทะเลาะ...
เขาอาจจะแค่อยากเห็นภาพแบบนี้กระมัง...
เขาไม่เคยสังเกตเลยว่าเวลาไม่นานที่เขารู้จักแบคฮยอนมา...
...เขายิ้มไปกี่ครั้งแล้ว
แบคฮยอนที่อาบน้ำเสร้จแล้ว กำลังนั่งรออีกคนอยู่ที่โต๊ะอาหาร ร่างบางอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงบอกเซอร์ของอีกคน ชานยอลใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะขุดชุดพวกนี้มาให้เขาได้ ดวงตาคู่สวยกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง คอนโดระดับกลางๆสำหรับอาศัยอยู่คนเดียว...
“มาแล้ว...”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆก่อนข้าวต้มร้อนๆจะวางลงที่หน้าเขา แบคฮยอนตาวาวด้วยความหิว
“นายทำเองเหรอ?”
“แน่นอน!”ชานยอลเอ่ยตอบอย่างภาคภูมิใจ
“กินได้แน่ใช่มะ?”แบคฮยอนเบะปากถาม สายตาที่มองไปยังถ้วยข้าวตัมเริ่มส่อแววไม่ไว้วางใจอย่างเห็นได้ชัด
“งั้นนายก็ไม่ต้องกิน”พูดจบมือหนาก็จัดการเลื่อนถ้วยข้าวต้มออกห่างจากอีกคน
“เดี๋ยว”มือบางรั้งแขนของอีกคนไว้ด้วยใบหน้าและน้ำเสียงที่ราบเรียบ
“นายอุตส่าทำมาแล้ว...ฉันจะรักษาน้ำใจนายโดยการทนๆกินไปก็แล้วกัน”เสียงหวานเอ่ยอย่างจริงจัง ก่อนมือเรียวจะจัดการลากถ้วยกลับมาหาตัวเอง ไม่รอช้าจัดการตักเข้าปากทันที
ชานยอลลอมยิ้มอย่างขบขันในท่าทางวางฟอร์มของแบคฮยอน ยิ่งเห็นอีกคนตั้งหน้าตั้งตาทางข้าวต้มที่เขาทำอย่างเอร็ดอร่อยแล้วยิ่งขำ
เมื่อกี้ใครบอกว่าทนทนกินนะ...
“ขำอะไร?”เหมือนว่าเขาจะคิดดังไปหน่อยเสียงหัวเราะเบาๆของเขาเลยไปกระทบโสตประสาทของอีกคนเข้าโดยไม่ตั้งใจ
“เปล่าๆ”ชานยอลรีบเอ่ยปฏิเสธ
“ไม่เชื่อ!”เสียงหวานเอ่ยห้วนๆ แต่ไม่ได้พูดอย่างเดียวน่ะสิ แบคฮยอนตักต้นหอมผักชีที่โรยหน้าข้าวต้มมาโยนใส่ชานยอลด้วย
“เฮ้ย! นี่อย่าเล่นของกินสิ”ชานยอลเอ่ยดุอีกคน แต่ยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุแบคฮยอนก็เอาแต่ตักผักชีมาโยนใส่เขาอย่างบ้าคลั่ง
“นี่ๆๆๆๆๆๆ”เมื่อเห็นตัวอีกคนเริ่มมีผักชีเกาะคนตัวเล็กก็หัวเราออกมาอย่างสะใจ
“บยอนแบคฮยอน!”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกชื่ออีกคนลั่น แบคฮยอนชะงักมือที่กำลังจะโยกผักชีกองสุดท้ายใส่ชานยอลทันที
“นี่!”ชานยอลโยนกองผักชีใส่อีกคนทันทีเป็นการแก้แค้น
และแล้วสงครามผักชีก็เกิดขึ้นที่โต๊ะอาหารของปาร์คชานยอลด้วยประการฉะนี้เอง...
.
.
.
.
.
เขาว่ากันว่าบางครั้งมิตรภาพมันอาจจะเกิดไม่ค่อยสวยงามเท่าไร...
แต่ยังไงมันก็คือมิตรภาพแหละนะ...
ชานยอลอาสาจะไปส่งแบคฮยอนที่บ้าน แต่คนตัวเล็กปฏิเสธ พอเขาถามเหตุผลแบคฮยอนก็ตอบแค่ว่า “อยากโดนพ่อฉันแหกอกมั๊ยล่ะ” ชานยอลก็พยักหน้ารับรู้แล้วไปส่งที่หน้าปากซอยบ้านแทน เป็นครั้งแรกที่พวกเขาคุยกันดีๆโดยที่ไม่ทะเลาะกันได้เกินสิบนาที
ความจริงแล้วแบคฮยอนไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่คิด...
ก็แค่ดื้อไปหน่อยเท่านั้นแหละ...
หลังจากเหตุการร์วันนั้นเหมือนทุกอย่างมันจะกลับตลาปัดไปเสียหมด เขากับลู่หานแทบไม่ได้เจอหน้ากันเลย ขนาดตอนไปซ้อมละคร จากที่ลู่หานจะมานั่งซ้อมกับเขา เจ้าตัวกลับไปนั่งกับกลุ่มรุ่นพี่ปีสามแทน ปาร์คชานยอลเลยได้แต่นั่งอ่านบทละครเพียงลำพัง...
นั่งเหงาอยู่ไม่นานก็มีร่างของใครคนหนึ่งทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ พอหันไปชานยอลก้แทบจะเอาหัวโขกพื้นเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป
“มองอะไรล่ะ...ก็อ่านไปสิบทละครน่ะ”เสียงหวานเอ่ย แบคฮยอนหันมาทำหน้าดุๆใส่ก่อนจะหันไปสนใจบทละครในมือต่อ
นี่ก็ผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วที่แบคฮยอนมักจะมานั่งเป็นเพื่อนเขาตอนซ้อมละครเสมอ แต่ใช่ว่าจะได้นั่งกันแค่สองคนหรอกนะ แน่นอนว่าถ้าแบคฮยอนมา….
“พี่แบคฮยอน!!! อย่าทิ้งผมไว้แบบนี้สิครับ”
“ก็เห็นนายหลับสบายเลยไม่อยากกวนอ่ะ”แบคฮยอนพูดพลางยักไหล่อย่างไม่สนใจ
ไอ้เด็กคิมจงอินก็ต้องติดมาด้วยทุกครั้ง
ถึงแม้คำพูดคำจาจะไม่ค่อยน่าฟังเท่าไหร่แต่ก็ต้องยอมรับว่าตอนนี้เขากับแบคฮยอนก็ดูจะสนิทกันดี...ละมั้ง
“ถามจริง...แกไปทำอะไรให้พี่ลู่หานเขาโกรธวะ?”แบคฮยอนกระซิบเสียงเบาทันทีเมื่อจงอินขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
“ก็ไม่ได้ทำอะไร....ที่จริงก็นิดหน่อย...”ตอนแรกเสียงทุ้มเอ่ยปฏิเสธแต่พอเห็นสายตาจับผิดอย่างเต็มขั้นจากอีกคนเขาก็เลยจำใจบอกไป
คนอย่างบยอนแบคฮยอนน่ะขัดใจไปก็วุ่นวายเปล่าๆ
“นั่นไงว่าแล้ว! แกน่ะมันอ่อนจริงๆ...จะไปจีบเขาแล้วยังทำให้เขาโกรธอีก เฮอะ ฉันล่ะเครียดแทนจริงๆ”พอได้ยินว่าชานยอลทำให้ลู่หานโกรธมือเรียวก็ตบเข่าตัวเองฉาดใหญ่ด้วยความมั่นใจ
“เออ...นายมันเก่งเหลือเกิน...สังเกตหน่อยก็ดีนะว่าช่วงนี้มีใครให้นายเดินควงมั๊ยพ่อคนเก่ง”เสียงทุ้มเอ่ยพลางทำหน้าเอือมๆ
“อย่าเพิ่งมาหาเรื่องฉัน...ตกลงว่าไปทำอะไรมา”แบคฮยอนทำเป็นไม่สนใจที่อีกคนพูดเหน็บไว้เมื่อครู่เพราะต่อมอยากรู้ของเขามันทำงานมากกว่า
“ก็...”ชานยอลแกล้งลากเสียงยาวให้อีกคนอยากรู้เล่น
“ก็?”ซึ่งมันก็ดูจะได้ผลดีเพราะใบหน้าที่แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นออกมาอย่างชัดเจน
“...ฉันขอคบกับพี่ลู่หาน”
TALK. สวัสดีวันหยุดนะคะทุกคน เพชรเอามาลงตามสัญญาน้าาาา >< ก่อนอื่นขอกรี๊ดแป๊บนะ กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด ทำไปบยอนมันน่ารักอย่างเงร้!!!!!!! เขินอ่ะ #เขินอะไร โอเคเข้าเรื่องๆ เพชรไปอ่านๆคอมเม้นมามีแต่คนครหา(?)บอกว่าเพชรใจร้ายมากตัดจบได้ทรมาณสุดๆ จริงอ่ะ? #ยังจะถาม 55555555555 เอาเหอะๆ มันจะได้น่าติดตามไง ชอบให้ลุ้นๆอ่ะ อุอุอุ กำลังคิดอยู่ว่าเอ็นซีมันถี่ไปป่ะวะ เผลอแป๊บๆอ่าวเอ็นซีอีกแล้ว ทุกคนว่าไงอ่ะคะ? #หรือหื่นพอกันทั้งคนเขียนคนอ่าน 5555555 เพชรต้องขอโทษทุกคนมากๆเลยนะคะที่อัพได้อย่างเร็วก็อาทิตย์นึง เรียนหนักมากๆเลย ยังไม่มีที่เรียนก็แบบนี้แหละ ทุกคนที่เตรียมเอ็นท์ก็อย่าเอาแต่อ่านฟิคนะ ไปอ่านหนังสือสอบด้วย! >< พูดเยอะละ ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ วันอาทิตย์เหมือนเดิม ขอสปอยนิดนึงว่าตอนหน้าเป็นตอนที่เพชรเขินที่สุดตั้งแต่แต่งมาต้นเรื่องถึงปัจจุบัน คริคริ >3<
ความคิดเห็น