ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Play Boy's GAME (Chanyeol x Baekhyun) | END.

    ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 6 | complete.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.8K
      20
      27 ต.ค. 55

     CHAPTER  6
    25.10.12 | 50% + 27.10.12 | 100%

     

     

     

     

     

    เขาว่ากันว่าเกลียดอะไรจะได้อย่างนั้นสินะ....

     

    สงสัยว่าเขาคงเกลียดปาร์คชานยอลมากน่าดูมันถึงได้ตามหลอกหลอนเขาอย่างกับเปรตขอส่วนบุญ!

     

    ฮึ่ย! คนหล่อเซ็ง!

     

    “พี่แบคฮยอน?”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นมาจากข้างตัวเรียกให้แบคฮยอนต้องหันไปสนใจ

     

    “อะไรเหรอไค?”

     

    “พี่ฟังที่ผมอธิบายอยู่ป่ะเนี่ย?”

     

    “โทษทีๆนายช่วยอธิบายใหม่อีกรอบหน่อยสิ”แบคฮยอนหันไปยิ้มแหยๆให้กับรุ่นน้องคนสนิท

     

    เสียงทุ้มที่กำลังอธิบายอย่างตั้งใจแทบจะไม่เข้าหูเขาเลยด้วยซ้ำ  เพราะตอนนี้ดวงตาคู่สวยของแบคฮยอนยังคงจับจ้องไปที่คนสองคนด้านหน้าเวที  ปาร์คชานยอลกำลังหัวเราะร่าเริงกับลู่หานราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรระหว่างกัน

     

    ...แกลืมไปแล้วใช่มั๊ยว่าพ่นน้ำใส่หน้าพี่ลู่หานเขาไว้น่ะ แทนที่จะขอโทษกลับเอาเวลาไป...

     

    ใบหน้าสวยขึ้นสีทันทีที่ตนเองเผลอนึกเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมา  มือสวยยกบทละครมาปิดหน้าไว้เพราะไม่อยากให้ใครเห็น

     

    ...ย๊ากกกกก  บยอนแบคฮยอนนายกำลังคิดอะไรอยู่!!!!!!

     

    “พี่?”ฝ่ายไคที่ตอนแรกเอาแค่ก้มหน้าก้มตาต่อบทละครให้อีกคนเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบผิดปรกติก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมาดูไม่ได้  สายตาคมจ้องมองตามดาวงตาคู่สวยที่ตอนนี้ไม่ได้มองเขาแม้แต่นิดเดียว  มันกลับเอาแต่จับจ้องไปที่ใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าเวที  ใบหน้าสวยของคนเป็นรุ่นพี่ขึ้นสีอย่างน่ามอง  แต่คิมจงอินก็เลือกที่จะเบือนหน้าหนี...

     

    ...เพราะสายตาของคนตรงหน้าไม่ได้มองเขาเลยสักนิด

     

    แบคฮยอนใช้เวลาก่นด่าตัวเองในใจสักพักก็ดูเหมือนว่าเขาจะกลับมาเป็นปรกติ  เพื่อไม่ให้วอกแวกคิดอะไรไร้สาระอีกเขาเลยตัดสินใจที่จะตั้งหน้าตั้งตาท่องบทละครในมือไปถึงจะไม่อยากเล่นก็เถอะ!

     

     

     

     

     

    “พี่ลู่หานครับ”เสียงทุ้มของคนข้างๆเอ่ยเรียกชื่อทำให้ร่างบางที่กำลังขำกับมุกของคนข้างๆนี้ต้องหยุดหัวเราะแล้วหันกลับมาให้ความสนใจ

     

    “เอ่อ...คือ...”ใบหน้าหล่อเหลาของคนอายุน้อยกว่าหลุบต่ำลง  ชานยอลรู้สึกว่าเขาไม่กล้าพูดออกไป  ความจริงแล้วมันก็แค่คำง่าย ก็แค่ขอโทษกับความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ...ละมั้ง

     

    “มีอะไรเหรอชานยอล?  ถ้าจะขอโทษเรื่องเมื่อวันก่อนล่ะก็ไม่ต้องหรอก”พูดแล้วก็ส่งรอยยิ้มหวานให้อีกคนอย่างอบอุ่น

     

    “พี่ไม่โกรธเหรอครับ?”ชานยอลเอ่ยถาม ลู่หานราวกับอ่านใจเขาได้ว่าตอนนี้เขากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่

     

    “โกรธสิ...”คำตอบเรียบๆจากอีกคนทำให้ชานยอลหน้าเจื่อน

     

    “โกรธมากด้วยนะ...แต่ไม่ใช่เรื่องที่นายพ่นน้ำใส่หรอก แต่พี่โกรธที่นายทิ้งพี่ไว้ต่างหาก!”พูดจบคนน่ารักก็พองลมที่แก้มอย่างน่ารักจนชานยอลอดไม่ได้ที่จะต้องเอื้อมมือไปจิ้มอย่างเสียมารยาท  แต่ทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาซะอย่างนั้น

     

    “โอเคหมดเวลาแล้ว  มาลองเทสบทกันหน่อยนะ!”เสียงโหดๆที่ดังผ่านลำโพงภายในโรงยิมเรียกให้ทุกคนที่แยกย้ายกันออกไปนั่งท่องบทต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ส่วนฝ่ายอื่นๆก็ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อไป

     

    “เริ่มจากฉากที่ 3 นะ...ชานยอลกับลู่หาน”ขายาวก้าวขึ้นไปบนเวทีก่อนที่จะเดินนำอีกคนไปยังจุดแสตนบายที่ได้คุยกันไว้

     

    “พร้อมยัง?...โอเคเอาเลย”สิ้นสัญญาณเริ่มต้นลู่หานก็เดินผ่านหน้าชานยอลเหมือนในบทด้วยท่าทางสง่างามราวกับเป็นเจ้าหญิงจริงๆ  มินซอกผู้กำกับตัวกลมอดที่จะตาวาวไม่ได้

     

    คราวนี้แหละ...ละครเรื่องนี้จะต้องได้รับการกล่าวถึง!

     

    “อ๊ะ!”เสียงอุทานดังขึ้นจากเจ้าหญิงแห่งเมืองใหญ่ก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลงในอ้อมแขนของชายหนุ่มสามัญคนหนึ่งที่เดินสวนมา

     

    “เจ้า...เป็นอะไรรึเปล่า”เสียงทุ้มที่เอ่ยถามเต็มไปด้วยความห่วงใย  ดวงตาที่จ้องตรงไปยังคนในอ้อมแขนก็แสดงออกมาได้ดีเสียงจนไม่อาจละสายตาจากละครฉากนี้ได้

     

    “อ...เอ่อ  ข...ข้าไม่เป็นอะไร  ขอบคุณท่านมาก”ลู่หานเอ่ยเสียงตะกุกตะกักก่อนที่ใบหน้าสวยจะขึ้นสีน้อยๆอย่างเขินอาย  เรียกเอารอยยิ้มกว้างจากผู้กำกับได้เป็นอย่างดี

     

    “เอาล่ะพอได้! เจ๋งมากเลยพวกนาย  ดูได้อารมณ์มาก  แต่ลู่หานฉันขอแบบหยิ่งๆถือตัวกว่านี้หน่อยนะ...ส่วนชานยอล  เอาเท่กว่านี้อีกหน่อย  แต่ที่เหลือพวกนายก็โอเคแล้วล่ะ”มินซอกเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่แก้มกลมๆดันขึ้นไปเสียจนตาปิด ชานยอลและลู่หานมองหน้ากันก่อนจะยิ้มบางๆให้อย่างอดปลื้มไม่ได้

     

    จบไปขาไปเป็นดาราดีมั๊ยนะ

     

    ชานยอลได้แต่คิดในใจ...

     

    “เอาล่ะตอไปฉากแรก...แบคฮยอน!”เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยง

     

    ...ทำไมมันมาถึงเขาเร็วนักล่ะ!

     

    แบคฮยอนลากเก้าอี้มาหนึ่งตัวใช้ประกอบฉากตามที่เขียนไว้ในบท  ร่างบางทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้อย่างประหม่า

     

    การถูกคนอื่นจ้องมองน่ะเขาชินซะแล้วนะ  แต่ไอ้การที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้ต่อหน้าคนอื่นนี่ไม่ถนัดหรอก!

     

    อีกอย่างเขาดันได้รับบทเป็นผู้หญิงใครจะไปอยากเล่นเล่า!!!

     

    เล่นห่วยๆให้พี่มินซอกเปลี่ยนตัวนักแสดงนั่นแหละดีที่สุด!

     

    คิดได้อย่างนั้นริมฝีปากบางก็ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ...คราวนี้แหละได้เปลี่ยนตัวเขาออกจริงๆแน่!

     

    “อ...เฮ้ออออออ...วันนี้เจ้ามนุษย์นั่นจะเป็นยังไงนะ...สงสัยจังว่าเขากำลังทำอะไรอยู่...”

     

    “พอๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!”เสียงสั่งหยุดรัวๆที่ดังขึ้นจากลำโพงโรงยิมเรียกรอยยิ้มร้ายที่แอบซ่อนของแบคฮยอนได้เป็นอย่างดี

     

    พี่มินซอกคนคิดว่าเขาไม่เหมาะจะเล่นแล้วก็เปลี่ยนตัวไปเลย...นั่นแหละดี!

     

    “ทำอะไรของนายน่ะบยอนแบคฮยอนนนนนนนน!!!”รุ่นพี่ตัวเล็กโวยวายก่อนจะทึ้งผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง

     

    “...พี่มินซอกครับผมทำเต็มที่แล้วนะ  แต่เล่นไม่ได้จริงๆอ่ะ”แบคฮยอนทำหน้าสำนึกผิดอย่างถึงที่สุด...หลอกๆอ่ะนะ

     

    “บยอนแบคฮยอน...ไม่ต้องมาทำเป็นตีหน้าเศร้าเลยนะ ปีที่แล้วนายยังเล่นได้เลย!”มินซอกตะโกนใส่ไมค์ด้วยดวงตาที่ลุกวาว

     

    “แต่บทนี้ผมเล่นไม่ได้จริงๆนะ”แบคฮยอนเอ่ยเสียงอ่อนส่งวายตาวิ้งๆไปให้อย่างออดอ้อน

     

    “นายเล่นได้สิ! ดูอย่างชานยอลสิเค้ายังเล่นได้เลย!

     

    ดูอย่างชานยอลสิ...

     

    ดูอย่างชานยอลสิ...

     

    ดูอย่างชานยอลเรอ?!?!?!?!?!

     

    แบคฮยอนเหลือบสายตาไปมองเจ้าของชื่อ  ดวงตาคมของชานยอลเบือนมาสบกับคนที่อยู่บนเวทีก่อนใบหน้าหล่อเหลานั่นจะยกยิ้มอย่างเยาะเย้ย

     

    จะเอาใช่มั๊ยปาร์คชานยอล!!!!!

     

    “พี่มินซอก!!! เอาใหม่อีกรอบครับ!”เสียงหวานโผล่งขึ้นกลางบล้องทั้งๆที่เขายังพูดไปทันจบ  เจ้าของชื่อได้แต่กระพริบตาปริบๆมองอีกคนที่กำลังยืนไฟลุกอยู่บนเวที

     

    ตอนนี้บยอนแบคฮยอนกำลังมุ่งมั่นกับการเข้าถึงบทละครจนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าความจริงแล้วเขาตั้งใจจะทำอะไร

     

    ผู้กำกับตัวกลมฉีกยิ้มกว้างอย่างพอใจที่นางเอกของเขาในที่สุดก็เครื่องติดซะที  ทุกคำพูดทุกท่าทางหรือแม้แต่การแสดงออกทางสีหน้ามันช่างได้อารมณ์จริงๆ

     

    ที่นี้แหละละครเรื่องนี้ดังแน่!!!!

     

     

     

     

     

    ย๊ากกกกกกกก....นี่เขาทำอะไรลงไปเนี่ย!!!!

     

    เหมือนจะเพิ่งมารู้ตัวก็สายเกินไปเสียแล้ว  หลังจากที่เดินลงมาจากเวทีก็เหมือนว่าแบคฮยอนจะเริ่มสำนึกตัวได้ว่าจริงๆแล้วเขาไม่ควรจะเล่นให้มันดีไม่ใช่เหรอ!!!!!!!

     

    “แบค...อารมณ์เสียอะไรมาล่ะถึงได้กระดกเอาๆแบบนี้น่ะ”เสียงนุ่มของบาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อสังเกตุเห็นว่าวันนี้ลูกค้าประจำของเขาชักจะดื่มมากเกินไปแล้ว

     

    “ไม่มีอะไรหรอกครับ...ผมแค่เซ็งๆอ่ะ”ตอบปัดๆก่อนมือเรียวจะยกแอลกอฮอล์แก้วใหญ่เข้าปาก

     

    “แล้วนี่หายหน้าหายตาไปเกือบเดือนมีอะไรรึเปล่า?”ซูโฮเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง  สำหรับเขาแล้วแบคฮยอนก็เหมือนกับน้องชายแท้ๆนั่นแหละ

     

    “ก็ไอ้บ้านนั่นน่ะสิ...มันเรียนที่เดียวกับผม!”พูดจบก็ซัดเข้าไปอีกแก้ว

     

    “ชานยอลน่ะเหรอ?”

     

    “ครับ...ผมล่ะเกลียดมันจริงๆเลย...”พูดแล้วก็เบะปากอย่างน่ารักซะจนซูโฮอดไม่ได้ที่จะต้องบีบจมูกโด่งรั้นนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    “เราก็อย่าไปยุ่งกับเขาสิ...ไม่ชอบเขาก็ปล่อยเขาไว้ไม่ต้องไปยุ่งนั่นแหละดีที่สุด...เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อนนะ”รอยยิ้มอบอุ่นถูกส่งมาให้ก่อนที่เจ้าของมันจะเดินไปรับออเดอร์ลูกค้าคนอื่นๆที่เริ่มทยอยกันเข้ามาแล้ว

     

    แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะกระดกเครื่องดื่มสีอัมพันนั่นเข้าปากไปอีกหลายแก้ว...

     

    เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้รู้แต่ว่าบางทีเขาคงจะดื่มหนักไปหน่อยเพราะตอนนี้เขารู้สึกมึนหัวและหนังตาหนักๆแล้ว  ใบหน้าสวยซบลงกับแขนบางของตนก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือเรือนหรูขึ้นมาดูเวลา...

     

    เที่ยงคืน...

     

    เขาควรจะกลับบ้านได้แล้วไม่งั้นล่ะก็พ่อเขาคงได้ระเบิดซอยบ้านแน่ๆ

     

    “พี่ซูโฮเช็คบิลด้วยครับ”เสียงหวานที่แว่วผ่านเข้ามาในโสตประสาทเรียกให้คนที่กำลังง่วงกับการเช็ดแก้วต้องหันไปให้ความสนใจ

     

    “ดีแล้วที่คิดได้ว่าควรจะกลับบ้าน...ให้พี่โทรเรียกเซฮุนมาพากลับมั๊ย?  สภาพเราดูไม่ค่อยไหวเลยนะแบคฮยอน”พี่ชายผู้แสนดีเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ได้รับการส่ายหัวแทนคำตอบ

     

    “โอเคกลับเองได้แน่นะ?”

     

    “ครับ”เสียงหวานยังคงหนักแน่น  รอยยิ้มกว้างที่ส่งมาให้ยังเหมือนเดิมก็ช่วยให้ซูโฮสบายใจไปอีกหน่อยล่ะนะ

     

    “งั้นรอพี่แป๊บนึง”พูดจบก็หายเข้าไปทางหลังร้านเพื่อจัดการตรวจสอบราคาที่คนตัวเล็กต้องจ่ายในวันนี้

     

    “ทั้งหมดก็...”แบคฮยอนพยักหน้ารับรู้ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเพื่อจ่ายเงิน  มือเรียวหยิบบัตรเครดิตใบหรูออกมาแต่ยังไม่ทันที่จะได้จ่ายก็มีมือของใครคนหนึ่งมากันไว้เสียก่อน

     

    “เดี๋ยวผมจ่ายให้เองครับ”ยังไม่ทันที่จะได้โต้เถียงอะไรผู้มาใหม่ก็ชิงจ่ายตัดหน้าไปเสียก่อน

     

    “อ...เอ่อ  ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมจ่ายเอง”แบคฮยอนเอ่ยปฏิเสธ  แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็มีเพียงแค่รอยยิ้มจากอีกฝ่ายเท่านั้น

     

    “ให้ผมเลี้ยงคุณเถอะครับ”เสียงทุ้มนั่นเอ่ยตอบกลับมา

     

    “ขอบคุณมากนะครับ...ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”เมื่อเห็นว่าจะต่อความก็เสียเวลาแบคฮยอนเลยตัดสินใจปล่อยให้ผู้มาใหม่ได้เลี้ยงเขาตามที่ต้องการ  ก่อนจะขอตัวกลับบ้านอย่างที่ตนตั้งใจไว้

     

    อาการมึนศีรษะของเขาดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นแต่เขาคิดว่ามันยังไม่หนักหนามากมายถึงขนาดกลับบ้านไม่ได้

     

    แบคฮยอนพยายามเดินให้ตรงที่สุดเท่าที่ทำได้  เขายังมีสตินะแต่ไม่รู้ว่าจะมีไปอีกนานมั๊ยนี่สิ...

     

    “โอ๊ยทำไมฉันจอดรถไว้ไกลขนาดนั้นเนี่ย”บ่นกำตัวเองเบาๆแต่ขาเรียวก็ยังพาร่างของเจ้าของมันตรงไปยังที่หมายได้เป็นอย่างดี

     

    เหลือระยะทางอีกไม่มากกว่าจะถึงรถของตนแต่ร่างบางก็ต้องชะงักฝีเท้าไว้ก่อน  ชายฉกรรจ์สามสี่คนกำลังยืนหน้าเหี้ยมอยู่ที่รถของเขา  สายตาจ้องตรงมาที่แบคฮยอนอย่างเอาเรื่อง

     

    อะไรอีกวะเนี่ย!?

     

    “มีอะไรครับ?”แบคฮยอนเอ่ยถามเขาแอบมองลอดแว่นกันแดดราคาแพงมาแต่ก็พบว่าไม่ใช่คนที่เขาเคยรู้จัก

     

    “เฮ้ยแกน่ะ...จอดรถเนี่ยดูตาม้าตาเรือมั๊ยห๊ะ?”ชายคนหนึ่งกระชากเสียงถาม

     

    “อะไรของคุณครับ?”เสียงหวานเอ่ยถามอย่างพยายามให้มันสุภาพที่สุด เขาไม่อยากมีเรื่องด้วยสภาพนี้เขาไม่มีแรงจะไปต่อยใครหรอก

     

    “เฮอะ...แกรู้มั๊ยว่าตรงนี้ปกติมันที่ใคร? แกมาจอดตรงนี้แล้วรถลูกพี่พวกฉันจะไปจอดที่ไหน?!”ชายคนเดิมเอ่ยขึ้นก่อนจะสาวเท้าเข้ามาใกล้ทำให้แบคฮยอนรู้ได้ทันทีว่าไม่อยากจะมีเรื่องจริงๆ  ด้วยขนาดตัวที่ห่างจากเขามากขนาดนี้

     

    นี่คนหรือยักษ์วะครับ?!

     

    “ก็จอดที่อื่นไงครับ..เนี่ยข้างๆก็ว่างอยู่”สาบานได้ว่าบอยแบคฮยอนไม่ได้อยากจะกวนตีนแต่อย่างใด  แต่หลังจากที่เขากวาดสายตามองไปรอบๆแล้วก็พบว่าลานจอดรถของผับชื่อดังแบบนี้มันกว้าเสียจนจอดกันไม่หวาดไม่ไหวหรอก

     

    “เฮ้ยกวนตีนเหรอวะ!”เสียงทุ้มตวาดใส่ก่อนจะคว้าคอเสื้อของแบคฮยอนจนร่างบางปลิวไปตามแรง

     

    “...”แบคฮยอนเลือกที่จะเงียบเพราะสถานการณ์ชักเริ่มไม่ค่อยดีเสียแล้ว

     

    “ฉันจะให้แกดูว่าผลของการกวนตีนเป็นยังไง...เฮ้ยจัดเลย!”ชายหนุ่มคนนั้นเอ่ยเสียงรอดไรฟันก่อนจะหันไปสั่งประโยคหลังกับลูกน้องที่เหลือ  แบคฮยอนมองตามคนพวกนั้นไปชายสองคนค่อยๆหยิบมีดพับออกมาจากกระเป๋าแล้วเดินตรงไปที่รถของเขา

     

    เฮ้ย!!!  อย่าบอกนะว่า!!!

     

    ครืดดดดดดดด

     

    เสียงโลหะเสียดสีดังขึ้นติดต่อกันจนเสียวฟันแต่ดูเหมือนมันจะไม่เข้าหูร่างบางเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้ดวงตาของเขาเอาแต่จับจ้องไปยังรอยขีดเป็นทางยาวที่ลากผ่านรถสปอร์สีเหลืองคู่ใจ

     

    “แก.....ไอ้โล้น...”เสียงหวานเอ่ยรอดไรฟันอย่างพยายามข่มอารมณ์ 

     

    นี่กะว่าจะไม่มีเรื่องนะ...แต่บังอาจมาแตะต้องน้องหนูของเขาแบบนี้นี่บยอนแบคฮยอนไม่ยอมหรอกนะเว้ย!

     

    “แกกล้ามากนะไอ้โล้น....ฉันจะให้แกดูว่าผลของการรังแกน้องหนูของฉันมันจะเป็นยังไง!”สิ้นเสียงหน้าผากมนก็กระแทกเข้ากับหน้าผากของอีกฝ่ายอย่างแรงเสียจนคนตัวใหญ่ต้องคลายมือที่กำคอเสื้อของอีกฝ่ายไว้

     

    “อึก!”ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัวเรียวขาสวยก็ตวัดฟาดแข้งใส่ใบหน้าของเขาอย่างไร้ความปราณีทันที

     

    “แกไม่ตายดีแน่ไอ้โล้น...โทษตัวเองเถอะที่หาเรื่องฉันวันที่อารมณ์ไม่ดีแบบนี้!”หมัดหนักๆใส่เข้าไปซ้ำที่เดิมอย่างแรงเรียกเอาเลือดไหลออกจากมุมปากของคนโดนได้มากทีเดียว

     

    “แก!!!”ลูกน้องคนอื่นๆเมื่อเห็นว่าลูกพี่โดนอัดเสียลงไปกองกับพื้นต่างก็พากันกรูเข้ามาหวังจะแก้แค้น

     

    แบคฮยอนถอดแว่นกันแดดออกก่อนจะพับเก็บใส่กระเป๋ากางเกงไว้อย่างเรียบร้อย  ร่างบางโยกหัวหลบหมัดแรกที่อีกฝ่ายปล่อยมาก่อนจะใช้เท้าซ้ายยันหน้าท้องอย่างแรงเสียจนคนที่โดนหงายท้องลงไปนอนกับพื้น 

     

    มือเรียวจัดการปลดเนคไทที่ตัวเองแต่มาซะดิบดีกะว่าจะมาล่าเหยื่อแก้เซ็ง  แทนที่จะได้เจอลูกแกะน้อยแสนน่ารักวันนี้กลับเจอแต่ปลาบู่ ปลาช่อนอะไรก็ไม่รู้

     

    เฮอะ! คนหล่อเซ็ง!

     

    ดูเหมือนความเซ็งของแบคฮยอนจะมากอยู่เพราะร่างบางเอาแต่ไล่อัดไล่เตะไอ้พวกที่กวนใจเสียจนสะบักสะบอม

     

    “แฮ่ก...เฮ้ออออออออ...ค่อยอารมณ์ดีหน่อย  ต้องขอบใจพวกแกนะที่ทำให้ฉันได้มีอะไรแก้เซ็ง!”ตื้บคนอื่นจนพอใจแล้วบยอนแบคฮยอนก็รีบเดินจ้ำๆกับไปดูน้องหนูของเขาทันที

     

    “ฮืออออออ  ดูดิเป็นรอยอย่างโหดร้าย...ปะป๊าแก้แค้ให้หนูแล้วนะ  กลับบ้านกันเถอะ”มือเรียวล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบกุญแจรถออกมาเตรียมจะไข  แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเขาสังเกตเห็นเงาที่ทาบทับจากด้านหลัง

     

    ปึก!

     

     

    ความเจ็บปวดแล่นริ้วมาจากท้ายทอยบวกกับอาการมึนงงของฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้เขาไม่สามารถฝืนยืนได้อีกต่อไป  ร่างทั้งร่างหล่นวูบลงไปกองกับพื้นพร้อมกับสติที่หายไป

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ปวดหัว...

     

    อือเสียงหวานดังลอดผ่านริมฝีปากบางออกมาเบาๆ

     

    มือบางถูกยกขึ้นสัมผัสเบาๆที่ท้ายทอยของตน  แบคฮยอนต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บปวดที่ยังคงหลงเหลือ

     

    แพขนตายาวกระพริบถี่ๆสองสามครั้งเพราะต้องสู้กับแสงจ้า  ภาพเพดานห้องปรากฏสู่สายตา  ดวงตาสวยกวาดมองไปรอบๆตัว

     

    ที่นี่ที่ไหน?...

     

    “ตื่นแล้วเหรอครับ?”เสียงทุ้มเสียงหนึ่งเอ่ยทักอยู่ไม่ไกลนัก  น้ำเสียงนุ่มทุ้ม...เหมือนว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนนะ  หากแต่มันยังไม่ถึงขาดเรียกว่าคุ้นเคย...

     

    “คุณ?”เมื่อสายตาหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเจ้าของเสียง  ริมฝีปากบางก็อดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยออกมาดัวยความแปลกใจ

     

    นี่มัน...คนที่เจอที่ผับ?

     

    “รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ”ใบหน้าหล่อเหลานั่นส่งรอยยิ้มมาให้อย่างอบอุ่น

     

    “ดีขึ้นแล้วครับ...”แบคฮยอนเอ่ยตอบก่อนที่แขนเรียวจะค่อยๆยันร่างของตนให้ลุกขึ้นนั่ง

     

    “แล้วนี่ผมมาที่นี่ได้ยังไง”หลังจากที่เขากวาดสายตาไปรอบๆห้องแล้วเขาก็มั่นใจว่ามันไม่ใช่ที่ที่เขาเคยมาอย่างแน่นอน

     

    “ที่นี่บ้านผมเองครับ...”เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยตอบ

     

    “ก่อนอื่นผมต้องขอโทษคุณแทนลูกน้องผมด้วยนะครับที่ไร้มารยาทกับคุณแบบนั้น  ผมออกไปก็เจอคุณสลบอยู่ข้างรถ...ไม่รู้จะพาไปไหนเลยพาตัวคุณมาพักผ่อนที่บ้านผมก่อน...”เจ้าของบ้านรีบเอ่ยอธิบายทันทันทีที่เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยของอีกคน

     

    “ผมชเวมินโฮครับ...ยินดีที่ได้รู้จัก”มือหนายื่นออกมาด้านหน้าเพื่อเป็นการทำความรู้จักกับคนที่กำลังนั่งหน้ามึนอยู่บนเตียง

     

    “อ...ผมแบคฮยอน...บยอนแบคฮยอนครับ  ขอบคุณที่ช่วยเหลือครับ”มือเรียวยื่นไปจับกับมืออีกคนอย่างเก้ๆกังๆ

     

    “ตอนนี้ก็สายแล้วคุณจะทานอะไรมั๊ยครับ  ผมจะได้ให้แม่บ้านจัดให้”มินโฮเอ่ยถาม

     

    “ไม่เป็นไรครับ...เดี๋ยวผมกลับเลยดีกว่า...อ๊ะ!”แบคฮยอนเอ่ยปฏิเสธอย่างสุภาพก่อนจะอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

     

    “รถผม!

     

    “อ๋อ...ถ้าคุณหมายถึงเจ้าแลมบูสีเหลืองล่ะก็ผมให้คนพาเข้าศูนย์แล้วล่ะครับ...ต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ”ชายหนุ่มเอ่ยขอโทษก่อนจะก้มหัวให้เป็นการใหญ่

     

    “อ...เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ...”แบคฮยอนตอบเสียงเบา

     

    ฉันอัดนายต่อจากลูกน้องนางเลยดีมั๊ยไอ้กบ?

     

    “ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปส่งคุณแล้วกันนะครับ”

     

    “ม...ไม่..”

     

    “งั้นก่อนอื่นคุณก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงไปทานอาหารเช้าก่อนแล้วกันนะครับ...มีใครอยู่ข้างนอกมั๊ย! เตรียมผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าให้แขกด้วย!”ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้เอ่ยปฏิเสธอะไร คนรู้สึกผิดก็พูดเองเออเองเสียหมด แล้วก็เดินออกไปสั่งงานแม่บ้านหายไปอย่างรวดเร็ว

     

    “..ไม่เป็นไร...ครับ...เฮ้อออออออ”แบคฮยอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างปลงๆ

     

    คนแบบนี้นี่รับมือยากสุดๆ

     

    ไม่นานนักสาวใช้ที่ได้รับคำสั่งเมื่อสักครู่ก็กลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าใส่สบายหนึ่งชุดและผ้าเช็ดตัว  แบคฮยอนรับมาก่อนจะก้มหัวให้สาวใช้คนนั้นแทนคำขอบคุณแล้วหายเข้าไปในห้องน้ำทันที

     

    ทำตามความหวังดีของไอ้กบนั่นก็ดูจะไม่ได้เสียหายอะไรล่ะนะ...

     

     

     

     

     

    ผลัวะ!

     

    ร่างหนาของชายฉกรรจคนหนึ่งเซถลาไปตามแรงหมัดของผู้เป็นนาย

     

    “...น...นายครับ”น้าเสียงแหบพร่าถูกเอ่ยออกมาอย่างหวาดกลัว

     

    “ทำบ้าอะไรของแกวะ! แกเกือบจะทำให้เหยื่อของฉันหลุดมือไปนะเว้ย!”เสียงทุ้มตะโกนออกมาอย่างเหลืออด

     

    “ขออภัยครับ...พวกผมไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นคนที่นายสนใจ  มันมาจอดรถในที่ของนายพวกผมเลยอยากจะสั่งสอนมันเท่านั้นครับ...”ชายหนุ่มเอ่ยแก้ตัวก่อนจะขบกรามแน่นเมื่อนึกถึงใบหน้าหวานที่มองมายังพวกตนอย่างยียวน

     

    คอยดูเถอะพ้นมือนายเมื่อไหร่จะอัดให้เละเลย!

     

    “...พวกแกจำไว้ให้ดีนะ...อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก...ไม่งั้นพวกแกได้กินลูกตะกั่วเป็นอาหารมื้อสุดท้ายแน่! ไป! ออกไปให้พ้นๆซะ!”ผู้เป็นนายเอ่ยออกมาอย่างข่มขู่ก่อนมือหนาจะสะบัดไล่ออกไปไม่ให้รกหูรกตา

     

    ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้หัวโต๊ะอย่างหงุดหงิด  แต่เขาก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้สดใสทันทีที่เห็น แขกเดินลงมาจากบันได

     

    “เสื้อผ้าพอจะใส่ได้มั๊ยครับ?”เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นก่อนจะบรรจงส่งรอยยิ้มหวานไปให้อีกคนอย่างตั้งใจ

     

    “...มันใหญ่ไปหน่อยแต่ก็พอได้แหละครับ...”แบคฮยอนได้แต่ยิ้มแหยๆรับรอยยิ้มหวานชวนขนลุกของไอ้กบหน้าหล่อตรงหน้า

     

    “ต้องขอโทษด้วยนะครับ...นี่เป็นเสื้อผ้าของน้องชายผมน่ะครับ...เล็กสุดเท่าที่พอจะมีแล้วล่ะครับ”

     

    มินโฮบรรจงหยอดรอยยิ้มหวานหยดไปให้อีกคน...ความจริงแล้วเสื้อผ้าพวกนี้เขามีเตรียมไว้เผื่อยามจำเป็นที่ต้องพา ใครเข้าบ้านแบบนี้...แต่ไม่คิดว่าแบคฮยอนจะตัวเล็กกว่าที่เขาคิดไว้มานัก...

     

    “เชิญครับ”ชายหนุ่มลุกออกจากเก้าอี้ของตัวเองก่อนจะเดินมาเลื่อนเก้าอี้ของอีกคนออกให้อย่างมีมารยาท

     

    “ขอบคุณครับ”แบบคฮยอนยิ้มแหยๆให้อีกคนอย่างไม่รู้จะทำหน้ายังไง

     

    ชัดเลย...

     

    นี่ไอ้หมอนี่มันกำลังจีบเขาใช่มั๊ย?

     

    แบคฮยอนถลกแขนเสื้อที่มันยาวกว่าแขนเข้าขึ้นก่อนจะเริ่มทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย  ทานไปได้สักพักก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมาที่เขา  ใบหน้าสวยเงยขึ้นมาพบกับสายตาของชเวมินโฮที่กำลังจ้องมองมาที่ตน  ดวงตาคู่สวยไล่มองตามสายตาของอีกคนจนพบกับ...

     

    มือบางรีบวางช้อนซ้อมแล้วจัดการรวบคอเสื้อที่กว้างจนย้วยลงมาทันที  แบคฮยอนจัดการผูกคอเสื้อไว้อย่างลวกๆที่ด้านหลัง  ใบหน้าหวานขึ้นสีเล็กน้อยด้วยความอาย

     

    เขาไม่เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้เลยจริงๆ!

     

    อยากจะรีบๆไปให้พ้นๆจากไอ้บ้านี่เต็มแก่แล้วเว้ย!

     

    “ขอบคุณสำหรับอาหารครับ”เสียงหวานเอ่ยก่อนจะจัดการรวบช้อนซ้อมให้เรียบร้อย

     

    “จะไปกันเลยมั๊ยครับ?”มินโฮเอ่ยถามพลางลุกขึ้นยืน

     

    “เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้ครับ...”แท็กซี่ก็มีครับคุณ...

     

    “อย่าเลยครับ...ผมอยากจะไถ่โทษที่ลูกน้องผมทำไมดีกับคุณไว้น่ะครับ”เสียงทุ้มเอ่ย

     

    “ไม่เป็นไรจริงๆครับ”แบคฮยอนเอ่ยปฏิเสธ น้ำเสียงเริ่มไม่พอใจเล็กน้อย

     

    “ให้ผมไปส่งเถอะครับ”พูดจบมือหนาก็ฉวยเอาข้อมือบางไปกอบกุมไว้ก่อนจะรีบลากอีกคนไปยังรถสปอร์ตคันหรูที่จอดอยู่หน้าบ้านทันที

     

    “นี่คุ...!

     

    “เชิญครับ”ยังไม่ทันที่จะได้ต่อว่าอีกคนเขาก็ถูกลากมาจนถึงรถแล้วอีกทั้งมินโฮยังจัดการเปิดประตูให้อย่างเสร็จสรรพ

     

    “เฮ้ออออ”แบคฮยอนถอนหายใจออกมาอย่างเซ็งๆแต่เขาก็ก้าวขึ้นไปนั่งตรงเบาะข้างคนขับอย่างเสียมิได้

     

    มินโฮปิดประตูให้ร่างบางที่ก้าวขึ้นไปบนรถก่อนตัวเองจะเดินไปนั่งประจำที่คนขับ  รอยยิ้มเล็กๆปรากฏขึ้นที่มุมปากของร่างสูง...

     

    “ให้ผมไปส่งที่ไหนครับ”มินโฮเอ่ยถามอีกคนที่เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง

     

    “ส่งป้ายรถเมล์ก็พอครับ...”แบคฮยอนตอบเสียงเรียบ

     

    “ได้ยังไงครับ...ผมต้องส่งคุณให้ถึงบ้านสิครับ”มินโฮเอ่ยก่อนจะส่งรอยยิ้มให้แบคฮยอนอีกครั้งอย่างไม่สนใจใบหน้าเรียบเฉยที่ได้กลับมาเป็นการตอบแทน

     

    ให้แกไปส่งที่บ้านก็แย่สิ!

     

    “งั้นไป...”แบคฮยอนบอกทางไปตามที่ตนบอก  แน่นอนว่าเขาไม่บอกทางไปบ้านของเขาอย่างแน่นอน  แบคฮยอนบอกทางไปหน้าปากซอยโรงเรียนต่างหาก!

     

    เขาเองก็ขี้เกียจขึ้นแท็กซี่เหมือนกัน...

     

    “ขอบคุณที่มาส่งนะครับ”เสียงหวานเอ่ยขอบคุณทันทีที่รถหยุด  มือเรียวปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะเอื้อมไปเปิดประตูแต่ก็ถูกมือหนารั้งเอาไว้ก่อน

     

    “เดี๋ยวก่อนครับแบคฮยอน...นี่นามบัตรผมครับ  เอาไว้เผื่อคุณสอบถามเรื่องรถของคุณน่ะครับ...”เสียงทุ้มเอ่ยก่อนจะยื่นนามบัตรของตนไปตรงหน้าอีกคน

     

    “ขอบคุณครับ...”แบคฮยอนเอ่ยขอบคุณก่อนจะรีบเปิดประตูลงจากรถไปทันที

     

    “ด...เดี๋ยวครับ...”เมื่อเห็นว่าอีกคนดูถ้าว่าจะไม่ได้ยินที่ตนพูดมินโฮจึงเปิดประตูตามออกไปทันที

     

    “คุณ...คุณครับ! แบคฮยอน!”บยอนแบคฮยอนพยายามก้าวขาสั้นๆของตัวเองให้ยาวที่สุดเท่าที่ทำได้  ผิวปากชมนกชมไม้ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงกบร้องที่กำลังตามมาจากด้านหลัง

     

    หมับ!

     

    บยอนแบคฮยอนอยากกลับไปเกิดใหม่ก็คราวนี้แหละ! พระเจ้านะพระเจ้าทำไมถึงไม่ให้ขายาวๆกับเขามานะ!

     

    “อะไรอีกครับ”เสียงหวานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่พอใจ

     

    “ถ้าคุณมีปัญหาอะไรโทรหาผมได้เลยนะครับ  ผมยินดีช่วยคุณนะครับแบคฮยอน”มินโฮเอ่ยเสียงนุ่มก่อนจะเปลี่ยนจากการเกาะกุมข้อมือมาเป็นจับมือบางนั้นไว้แทน

     

    “ข...ขอบคุณมากครับ...ปล่อยสิครับ”แบคฮยอนเอ่ยขอบคุณแบบปัดๆก่อนจะพยายามแงะมือหนานั้นออกไป  แต่ดูมันจะไร้ผลเสียเหลือเกิน

     

    “นี่คุณ...!

     

    “บยอนแบคฮยอน?”ก่อนที่จะได้ต่อว่าคนน่ารำคาญก็มีเสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกชื่อเขาเสียก่อน

     

    “ชานยอล?”ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความแปลกใจทันทีเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงเรียกนั้นเป็นใคร

     

    “นายมาทำอะไรตรงนี้นี่มันเข้าเรียนไปแล้วนะ...แล้วชุดนั่น...”ชานยอลมองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า  แบคฮยอนอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นที่เลยเข่ามาเล็กน้อย  ผมที่ยุ่งเหยิงราวกับคนเพิ่งตื่นนอนยิ่งทำให้คิ้วได้รูปขมวดเป็นปมเข้าไปใหญ่

     

    “คือว่าเมื่อ...!

     

    “เมื่อคืนแบคฮยอนไปนอนกับฉันที่บ้านน่ะ”ยังไม่ทันจะได้ตอบก็ถูกคนที่กอบกุมมือบางอยู่ตอนนี้ชิงตอบออกไปเสียก่อน

     

    ดวงตาคู่สวยตวัดมองคนเรียงประโยคผิดอย่างเอาเรื่อง  แต่ก็ได้รับเพียงแค่รอยยิ้มหวานกลับมาเท่านั้น

     

    วันนี้วันอะไรวะ...นี่จะไม่มีใครยอมให้เขาพูดได้จบประโยคเลยเรอะ!!

     

    “...ชเวมินโฮ...”เสียงทุ้มครางชื่ออีกคนออกมาแผ่วเบาทำให้แบคฮยอนอดไม่ได้ที่จะต้องหันกลับมาให้ความสนใจ

     

    “ว่าไงชานยอล...ไม่ได้เจอกันนานนะ”มินโฮเอ่ยก่อนจะค่อยๆปล่อยมือบางของแบคฮยอนให้เป็นอิสระ  ขายาวพาร่างของตัวเองไปยืนเผชิญหน้ากับชานยอล  ดวงตาคมของทั้งสองฝ่ายต่างจ้องมองกันอย่างไม่ยอมแพ้

     

    “นาย...มาทำอะไรที่นี่”ชานยอลเค้นเสียงถามรอดไรฟัน

     

    “นี่คือคำทักทายสำหรับเพื่อนเก่าเหรอชานยอล?”มินโฮถามก่อนจะยิ้มอย่างเยาะเย้ย

     

    “นาย...คิดจะทำอะไรแบคฮยอน”ชานยอลเอ่ยถามเสียงกระซิบเพื่อไม่ให้คนที่กำลังยืนทำหน้างงอยู่ไม่ไกลได้ยิน

     

    “หึ...ก็เหมือนที่ผ่านๆมานั่นแหละ...”มินโฮกระซิบตอบก่อนจะผละออกมาจากชานยอล

     

    “ไปก่อนนะครับแบคฮยอน...อย่าลืมโทรหาผมนะครับ”หันไปส่งยิ้มโบกมือลาให้กับแบคฮยอนแล้วก็เดินขึ้นรถไป

     

    “ประสาทป่ะวะ?”แบคฮยอนบ่นเบาๆก่อนจะตัดสินใจเดินตรงไปเพื่อกลับบ้านทันทีโดยไม่คิดจะหันกลับมาสนใจกับอีกคนที่กำลังยืนจ้องมองมาที่ตนเขม็งอยู่เลย

     

    “แบคฮยอน...”ชานยอลเอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงจริงจัง  มือหนาคว้าข้อมือบางไว้เมื่ออีกคนไจ้ทันทีที่ตั้งท่าจะเดินหนี

     

    อะไรวะ! ทำไมวันนี้มีแต่คนดึงมือวะ!

     

    “อะไร”แบคฮยอนเอ่ยตอบเสียงห้วนก่อนจะพยายามชักข้อมือกลับ  แต่นั่นก็ทำให้ชานยอลเพิ่มแรงบีบมากขึ้นเท่านั้น

     

    “นาย...ไปทำอะไรกับหมอนั่น”ชานยอลเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

     

    เขารู้จักคนอย่างมินโฮดี...รู้ว่ามันอยากจะทำอะไร

     

    “มันเรื่องของฉัน  ปล่อยได้รึยังฉันรีบ”มือเรียวพยายามแกะมือของตัวเองออกจากการเกาะกุม

     

    “นายยังไม่ตอบฉันเลยนะบยอนแบคฮยอน!

     

    “มันก็เรื่องของฉัน! นายจะอยากรู้ไปทำไม!”ชานยอลขึ้นเสียงมามีหรือคนอย่างบยอนแบคฮยอนจะยอมโดนตะคอกเพียงฝ่ายเดียว

     

    “นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะบยอนแบคฮยอน! ตอบมาว่าไปทำอะไรมา!”ชานยอลเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือบางจนขึ้นเป็นรอยแดง  แต่แบคฮยอนก็กัดฟันทน เขาจะไม่ปล่อยให้เสียงร้องโอดครวญออกมาต่อหน้าคนอย่างปาร์คชานยอลหรอก

     

    “ปล่อย! นายมีสิทธิอะไรมาซักไซร้เรื่องส่วนตัวของฉันแบบนี้ไม่ทราบ!”แบคฮยอนตะคอกกลับอย่างเหลืออด

     

    มีอย่างที่ไหนจู่ๆก็มาตะคอกๆใส่แบบนี้ เฮอะ! ท่าจะบ้า!

     

     

     

     

    “มีสิทธิอะไรน่ะเหรอ? ก็ก็ความเป็น 'ผัว' นายไงไอ้เตี้ยหมาตื่น!"

















    TBC.

    TALK. กราบงามๆค่ะ! ก่อนอื่นเพชรต้องขอโทษทุกคนเลยที่ไม่สามารถเอามาลงได้อย่างที่บอก  แต่เค้าพยายามแต่งแล้วนะ บังเอิญเจอเรื่องกระทบกระเทือนจิตใจแต่เช้าเลยนอยด์ แต่ตอนนี้หายแล้วค่าาาาาา ><  เอาล่ะเข้าเรื่องๆ  หึหึ  จากที่อ่านคอมเม้นตอนห้าสิบเปอร์เซ็น ไม่มีใครสงสัยในตัวพ่อหนุ่มนิรนามที่ผับเลยสินะ  ทุกคนสนใจแต่ไอ้โล้นหมดเลย  พ่อหนุ่มมินโฮนี่แหละตัวเด็ด! #สปอย 555555555555555  ตอนนี้ทุกคนกำลังงง เอ๊ะ อ๊ะ อ่าว อะไรกัน อะไรๆๆๆๆๆๆ ความจริงเบื่องหลังกบต่างดาวคืออะไร?!?!?! .............ม่ายบอกกกกก ติดตามกันต่อไปค่าาาาา สำหรับตอนหน้าเพชรยังไม่แน่ใจว่าจะเอามาลงอีกเมื่อไหร่นะคะ  แต่ช่วงนี้ยังปิดเทอมอยู่ว่างๆระหว่างปั่นวิวยูทูปก็จะนั่งแต่งฟิคล่ะ!

    คอมเม้นต์เริ่มเยอะแล้วเนอะ  ไว้มีโอกาสว่างๆสักตอนเพชรจะมาตอบคอมเม้นต์ทุกคนนะคะ  ขอบคุณทุกคนที่ติดตามฟิคมึนๆเรื่องนี้มาจนถึงตอนนี้นะคะ  ยังไงก็อยากให้ติดตามกันต่อไปเนอะ  ต่อจากนี้(ช่วงปิดเทอม)เพชรจะพยายามอัพให้ถี่กว่าเดิมนะคะ  ใครว่างฝากโปรโมตด้วยนะ  เห็นแบนเนอร์ยัง? ในที่สุดก็มีแล้ว  ใครมีฟิคอะไรอยากแลกแปะไว้ได้เลยนะคะเดี๋ยวเพชรแปะให้  ถ้าอยากคุยยังไงก็ตามไปทวิตได้เลยนะจ๊ะ เพชรสิงทั้งวันแหละ 5555555555  บ๊ายบายค่ะทุกคนเจอกันตอนหน้านะ ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×