คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : CHAPTER 4 (แก้ไขแล้ว)
“...คราวนี้ฉันเอาจริง...”สิ้นเสียงทุ้มที่เอ่ยออกมาอย่างเหลืออด ร่างสูงก็โถมตัวเข้าไปหาอีกฝ่ายทันที ริมฝีปากได้รูปประกบจูบเข้ากับริมฝีปากบางสวยของอีกคน ดวงตาคู่สวยเบิกกว้าด้วยความตกใจก่อนมือเรียวจะพยายามดันแผงอกกว้างของอีกฝ่ายให้ออกห่างจากตัว แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผลเอาซะเลย เพราะเขายังคงถูกอีกคนจู่โจมด้วยรสจูบที่รุนแรงเหมือนเดิม
เมื่อเห็นว่าอีกคนเริ่มหมดลมหายใจ ปาร์คชานยอลก็ค่อยๆละจูบออกมา ใบหน้าสวยของบยอนแบคฮยอนแดงก่ำ ดวงตาคู่สวยจิกมองด้วยความโมโห
“ทำบ้าอะไรของแก!!!!”เสียงหวานแว๊ดถาม
“จูบไง...แค่นี้ไม่รู้รึไง?”ปารืคชานยอลตอบหน้าตาย เรียกให้คิ้วของแบคฮยอนกระตุกยิกๆ
“ฉันหมายถึงแกจะมาจูบฉันทำบ้าอะไร???!!!”ตะโกนถามมือเรียวก็ยกขึ้นมาถูริมฝีปากตัวเองด้วยความขยะแขยงเหลือคณา
“...ตอนออกจากร้านเห็นส่งจูบมาให้ฉันไม่ใช่เหรอไง นึกว่าอยากได้มากฉันเลยใจดีให้ฟรีๆเลยนะ”พูดจบก็ยักคิ้วให้หนึ่งทีเป็นอันครบ
“เหอะ! จูบแกน่ะให้ฟรีพร้อมบ้านและรถฉันยังไม่เอาเลยเหอะ! แหวะ! จะอ้วก!”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างดูถูก แต่ความหมายของประโยคมันดันกระแทกใจอีกคนเข้าไปเต็มๆ
...ปากดีนักใช่มั๊ยบยอนแบคฮยอน!...
“ปากดีให้ไดจนจบนะ...อยาเคลิ้มกับจูบฉันก็แล้วกัน!”สิ้นเสียงเหมือนโดนแรงโทสะควบคุม มือหนารอบเอาข้อมือบางทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกันด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือก็จัดการกระชากเสื้อเชิ้ตตัวหรูขอกอีกคนออกจนกระดุมร่วงกระจาย
“พักผ่อนซะ...”เสียงทุ้มเอ่ยสั่งเป็นเสียงสุดท้ายที่แบคฮยอนได้ยิน ก่อนที่เขาจะเข้าสู่ห้วงนิทราพร้อมกับความอบอุ่นที่ทาบทับร่างกาย
.
.
.
.
.
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบร่างที่กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน แพขนตายาวกระพริบถี่ๆสองสามครั้งก่อนที่ดวงตาสวยจะค่อยๆเปิดขึ้น อาการมึนๆที่ศรีษะเรียกให้คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันทันที ลมหายใจร้อนๆที่ออกจากปลายจมูกทำให้เขารู้ว่าอาการไม่ค่อยสู้ดีนัก
...นี่เขาป่วย?
“อ๊ากกกกกกกก!!!!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมกับที่มือเรียวดึงทึ้งผมตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
...รู้สึกว่าเหมือนฝันอะไรแปลกๆ บยอนแบคฮยอนฝันว่าตัวเองมีอะไรกับผู้ชาย...แถมไอ้ผู้ชายคนนั้นมันดันเป็นปาร์คชานยอล!!!!
“บ้า...ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆบยอนแบคฮยอน!!!!”แขนเรียวค่อยๆยันร่างกายของตัวเองขึ้นแต่แล้วก็ต้องทรุดลงที่เดิมเพราะอาการปวดหนึบๆที่สะโพกมน
...ปวดสะโพก?
...หรือว่า
“ม่ายยยยยยย!!!!”มือเรียวเริ่มทึ้งหัวตัวเองอีกครั้ง ร่างบางดิ้นไปมาอย่างรับไม่ได้
“ด....เดี๋ยวสิ บางทีนายอาจจะลื่นเปลือกกล้วล้มหัวฟาดพื้นความจำเสื่อมว่าตูดก็กระแทกด้วยก็ได้นะ”ว่าแล้วก็เริ่มลูบๆใบหน้าที่เต้มไปด้วยเหงื่อของตัวเองอย่างต้องการปลอบใจ
“ทำไมหนาวจังวะ....”บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะกระชับผ้าห่มให้สูงขึ้นแต่...
...ล....แล้วเสื้อไปไหน?
...กางเกงด้วย?
มือบางตวัดผ้าห่มผืนหนาที่ห่อคลุมร่างกายออก ก่อนจะก้มลงไปดูพบว่าร่างของตัวเองเปลือยเปล่า....แถม...
รอยแดงๆพวกนี้มันอาร้ายยยยยย!!!!!
“ม่ายยยยยยยย!!!!”เป็นอีกครั้งที่เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งดังสนั่นไปทั่วห้อง
เหตุการณ์ต่างๆเมื่อวานเริ่มไหลย้อนกลับมาราวกับกรอเทปซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นสัมผัสที่หลงเหลือหรือแม้แต่น้ำเสียงของตัวเองที่หลุดออกไป ใบหน้าหวานขึ้นสีเรื่อด้วยความอาย
ชิบหายแล้วบยอนแบคฮยอน!
แกร๊ก!
เสียงเปิดประตูเรียกให้แบคฮยอนที่กำลังนอนจิตตกต้องหันไปให้ความสนใจ ร่างสูงของใครบางคนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถุงพลาสติกอีกสองสามใบ
“อ่าว ตื่นแล้วเหรอ?”ปาร์คชานยอลเอ่ยถามหน้าตาย ก่อนจะเดินหายเข้าไปในครัว ไม่นานนักเขาก็กลับมาพร้อมกับถ้วยสองใบ แบคฮยอนได้แต่มองชานยอลด้วยใบหน้าตะลึง
นี่ตกลงบยอนแบคฮยอนคนหล่อเสียตัวให้ผู้ชายจริงๆเหรอเนี่ย!!!!
แถมไอ้ผู้ชายคนนั้นมันยังเป็นไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อปาร์คชานยอลนี่อีก!
เสียชื่อ...เสียชื่อหมดบยอนแบคฮยอน!!!
“ต้องเช็คเอ้าท์ก่อนหกโมงนะ แต่ฉันว่านายคงกลับก่อน กินข้าวต้มนี่กินยาแล้วก็นอนซะ ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก่อนหกโมงด้วยล่ะ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเรียกให้แบคฮยอนหลุดออกจากภวังค์
“นาฬิกาปลุก?”
“เดี่ยวฉันจะกลับแล้ว พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน คนอย่างนายคงกลับเองได้ หรือต้องให้ไปส่ง?”ชานยอลเอ่ยถามก่อนจะยักคิ้วอย่างยียวนให้ในท้ายประโยค
“ไม่ต้อง!!!”แบคฮยอนกระชากเสียงตอบ ถ้าถามว่าสภาพนี้กลับเองได้มั๊ย คำตอบคือไม่! แต่ยังไงก็ไม่ให้ไอ้บ้านี่ไปส่งแน่ๆล่ะ!
เสียชื่อหมด!!
“ก็ดี”ชานยอลพูดก่อนตัวเองจะเริ่มลงมือทานอาหารที่อุตส่าออกไปซื้อมาทันที
แบคฮยอนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวก่อนมือบางจะค่อยๆพยุงร่างลุกขึ้นอย่างยากลำบากเพราะความเจ็บปวด เสียงร้องโอดโอบจึงดังออกมาให้ได้ยินเป็นระยะ
ฝ่ายชานยอลที่กำลังนั่งทานข้าวต้มอย่างสบายอกสบายใจ พอได้ยินเสียงโอดโอยของอีกคนก็อดที่จะหันไปให้ความสนใจไม่ได้ ยอมรับว่าเมื่อวานเขาโมโหมาก แต่จริงๆแล้วเขาอาจจะทำเกินไปก็ได้ จากประสบการณ์เมื่อวานบอกให้เขาได้รู้เลยว่า...บยอนแบคฮยอนยังไม่เคยเป็นของใครมาก่อน และตอนนี้ก็เป็นของเขา...
ชานยอลถอนหายใจอย่างปลงๆก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นไปช่วยอีกคน อย่างน้อยก็ให้กินข้าวกินยาอะไรให้เสร็จๆจะได้ไม่ต้องอยู่เห็นหน้ากันนานนัก ยิ่งเวลาร้องโอดโอยในสภาพแบบนี้แล้วมัน...
ยิ่งเหมือนลูกหมาโดนทิ้งเข้าไปใหญ่!!!!
เห็นแล้วอนาถ!
“ไม่ต้อง!”เสียงหวานปฏิเสธทันทีที่เห้นฝ่ามือใหญ่ยื่นมาด้านหน้าตน มือเรียวปัดมืออีกคนออก ก่อนจะพยายามยันตัวลุกขึ้นอีกครั้ง แต่มันก็ยังคงไม่สำเร็จเหมือนเดิม
“ไง? ทำเป็นเก่ง”ชานยอลเอ่ยขึ้นลอยๆ ก่อนจะได้รับค้อนวงโตจากคนที่ทำเป็นเก่ง แบคฮยอนพ่นลมหายใจออกมาอย่างไม่พอใจ แต่มือเรียวก็เอื้อมไปจับมืออีกคนไว้เป็นหลักยึดเหนี่ยว ชานยอลช่วยประคองร่างของอีกคนให้ลูกขึ้นช้าๆก่อนจะใช้ผ้าห่มผืนหนาพันร่างกายให้อย่างลวกๆ ก่อนจะส่งรอยยิ้มอย่างผู้ชนะมาให้เขา
...ฝากไว้ก่อนเถอะปาร์คชานยอล!!!!
.
.
.
.
.
“อ้าว วันนี้พี่แบคฮยอนไม่มาเหรอครับ?”เสียงเป็ดๆอันมีเอกลักษณ์ของโอเซฮุนเอ่ยถามอีกคนที่กำลังนั่งหน้าเอ๋ออยู่ที่โต๊ะของตัวเอง
“ไม่รู้...ป่วยมั้ง”เสียงทุ้มของปาร์คชานยอลเอ่ยตอบ
...เขาน่ะรู้อยู่แก่ใจว่าทำไมแบคฮยอนถึงยังไม่มา แต่เชื่อเหอะคนอย่างบยอนแบคฮยอนน่ะยังไงวันนี้ก็ต้องมา!
ครืดดดดดดดด~
เสียงเปิดประตูห้องอย่างแรงทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง บยอนแบคฮยอนในชุดนักเรียนที่เรียร้อยกว่าปกติ ไหนยังจะผ้าพันคอผืนหนากับหน้ากากปิดหน้านั่นอีก ใบหน้าหวานขึ้นสีน้อยๆเพราะพิษไข้ที่มี เสียงสูดน้ำมูกฟืดฟาดเป็นระยะยิ่งยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเขาป่วยจริงๆ
“โหยยยยย แรร์มากอ่ะ นี่พี่แบคฮยอนป่วยจริงๆใช่มั๊ย?”โอเซฮุนที่มาวุ่นวายที่ห้องรุ่นพี่เอ่ยถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ แบคฮยอนเป็นคนที่สุขภาพแข็งแรงมาก หาได้ยากมากหากจะเห็นเขาป่วยสักครั้ง ซึ่งครั้งนี้มันก็เห็นได้ชัด ถือว่าเป็นเรื่องที่หาดูได้ยาก
“เปล่าฉันสบายดีไอ้เป็ด”แบคฮยอนเอ่ยตอบเสียงแหบก่อนจะไอเบาๆเป็นการปิดท้าย
“อ่าวแล้วแต่งตัวแบบนี้ทำไม?”โอเซฮุนยังคงทำตัวใสซื่อ
“ประชดโว๊ยยยย!!!”เสียงหวานที่ตอนนี้แหบแห้งแหวเข้าให้ ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดโยนกระเป๋าเป้ใบหรูลงบนโต๊ะของตัวเอง ก่อนจะเดินกะเพลกๆไปนั่งประจำที่เพื่อรอเรียนคาบแรก
“พี่แบคฮยอนเจ็บขาเหรอ? เดินเป๋อ่ะพี่”เซฮุนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะการเดินที่ไม่มั่นคงของอีกคน แต่คำถามมันกลับไปจี้ใจดำของแบคฮยอนเข้าเต็มๆ ใบหน้าหวานที่แดงเรื่อเพราะพิษไข้ยิ่งแดงหนักขึ้นไปอีกเมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเดินเป๋! แบคฮยอนเหลือบหางตาไปมองไอ้ตัวต้นเหตุ ชานยอลกำลังพยายามกลั้นขำอย่างสุดชีวิต
...ใช่สิ! ฉันมันฝ่ายเสียหายนี่!!!
“เปล่า! พอดีโดนมดกัดตูด!”เสียงหวานที่ตอนนี้แหบแห้งกระชากเสียงตอบ
“โห~ ดูท่ามดจะเป็นมดยักษ์นะพี่ ดูดิกัดทีเดินเป๋เลย”โอเซฮุนก็ยังคงใสซื่อต่อไป เสียงหลุดหัวเราะมาเป็นระยะๆจากด้านหลังเรียกให้คิ้วของแบคฮยอนกระตุกยิกๆ ทั้งยังอาการปวดหนึบๆที่ศรีษะยิ่งสร้างความหงุดหงิดให้เขาอีกเป็นเท่าตัว
“ก็ไม่ยักษ์เท่าไหร่หรอก...ใหญ่กว่านิ้วก้อยฉันนิดนึง!”แบคฮยอนพูดก่อนจะเหลือบตาไปมองทางด้านหลัง เสียงหัวเราะของปาร์คชานยอลหายไปแล้ว เหลือแต่ใบหน้าบึ้งตึงที่จ้องมองเขากลับมาเช่นกัน
“อ...เอ่อ อาจารย์ก็ใกล้จะเข้าแล้วงั้นผมกลับก่อนละกัน”ดูเหมือนรังสีมาคุที่ถูกปล่อยออกมาเซฮุนจะสัมผัสได้ เขาเลยขอตัวออกไปจากบริเวณอันตรายนี่เสียก่อน
“เล็กแค่นั้นแต่ก็ทำให้นายครางได้แล้วกันบยอนแบคฮยอน”เสียงทุ้มของคนโดนพาดพิงเอ่ยกระซิบเบาๆที่ข้างหูของคนป่วย
“เหอะ!”แบคฮยอนส่งเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ ดวงตาคู่สวยหันมาจิกอีกคนราวกับจะฆ่าเสียตรงนั้น
อีกอย่างที่ทุกคนยังไม่รู้...
บยอนแบคฮยอนและปาร์คชานยอล...
นั่งเรียนข้างๆกัน!
.
.
.
.
.
“เฮ้ยตกลงเรื่องละครจะเอาไงวะ?”เสียงเพื่อนคนหนึ่งในห้องเอ่ยขึ้นถามความเห็น
“ละครอะไร?”ชานยอลที่ได้ยินจึงหันไปเอ่ยถามเพื่อนอีกคนที่ยู่ใกล้ๆ
“อ๋อ...นายเพิ่งย้ายมานี่นะ ก็อีกสองเดือนมันจะถึงวันงานโรงเรียนน่ะ โรงเรียนเรากับโรงเรียนในเครืออีกสองแห่งจะจัดงานร่วมกัน แล้วแต่ละโรงเรียนก็จะแสดงละครกันโรงเรียนละเรื่อง เป็นประเพณีแบบนี้มานานแล้วน่ะ...แต่พวกปี 3 เป็นคนรับผิดชอบ พวกเราปี 2 ก็ได้แค่สเนอความคิดไปนั่นแหละ”เพื่อนอีกคนเอ่ยตอบ
“แต่ฉันว่าปีนี้ชานยอลมีโอกาสเป็นพระเอกว่ะ”เสียงเพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ขณะที่มือของเขาก็กำลังปรับสายกีตาในมือ
“ทำไมถึงคิดงั้น?”เสียงทุ้มของชานยอลเอ่ยถาม มือหนาก็วุ่นวายกับการทำความสะอาดเครื่องดนตรี
“ได้ข่าวว่าแกไปแอบกิ๊กกับพี่ลู่หานเหรอ~”เพื่อนคนนั้นเอ่ยอย่างล้อเลียน
“เฮ้ยจริงอ่ะ”
“ชานยอลกิ๊กกับพี่ลู่หานเหรอ!!!”
ตึ๊ง!!!
เสียงกระแทกคีย์เปียนโนดังสนั่นห้องเรียนดนตรี จนทุกคนต้องรีบเอามือปิดหูกันเป็นพัลวัน ทุกสายตาก็พากันจับจ้องไปที่แหล่งกำเนิดเสียง บยอนแบคฮยอนที่วันนี้ป่วย กำลังเล่นเปียนโนแสนไพเราะคลอให้ทุกคนฟังเล่นๆราวกับว่าเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ทุกคนก็รู้ว่าเสียงเมื่อครู่มาจากเปียนโนตัวเดียวตรงกลางห้องอย่างแน่นอน
“มันเป็นอะไรของมันวะ?”
“สงสัยไม่พอใจที่เราพูดเรื่องละครปีที่แล้วแหง”
“เรื่องอะไรเหรอ?”ปาร์คชานยอลเอ่ยถามพลางตีหน้าใสซื่อ
“นึกแล้วก็ขำว่ะ...โรงเรียนเราเป็นโรงเรียนสหก็จริงนะ แต่พวกรุ่นพี่คิดอะไรกันก็ไม่รู้ เอาแบคฮยอนไปเป็นนางเอก!!! นายก็รู้ใช่มั๊ยว่านิสัยแบคฮยอนเป็นยังไง ยอมรับแหละว่ามันหน้าสวยกว่าสาวๆบางคนอีก แต่นิสัยน่ะ...เถื่อนอย่าบอกใคร! ตอนแรกมันก็จะไม่เล่นหรอกแต่พอเอาพี่คริส...กัปตันทีมบาสมาเล่นเป็นพระเอกนะ พี่เขาไปเกลี้ยกล่อมอีท่าไหนไม่รู้มันถึงยอมเล่นน่ะ แต่ยอมรับเลยล่ะว่าวันนั้นแบคฮยอนสวยมาก!”พอสิ้นประโยคพวกเด็กเก่าที่ดูเหมือนจะอยู่ในเหตุการณ์ก็พากันทำหน้าเคลิ้มกันไปตามๆกัน
“น่าเสียดายว่ะชานยอล...แกน่าจะเห็น”เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยอย่างเสียดายก่อนจะตบเข่าฉาดใหญ่
...หึ เขาไม่เสียดายหรอก เพราะตอนที่แบคฮยอนสวยที่สุดน่ะเขาเห็นมาแล้ว...
ใบหน้าหล่อเหลาเบือนไปสบกับอีกคนที่เลิกเล่นเปียนโนพอดีโดยบังเอิญ สายตาแปลกๆที่ปาร์คชานยอลส่งมาให้มันทำให้แบคฮยอนต้องหันหน้าหนีด้วยความรู้สึกบางอย่าง
“นั่นแหละเอาเป็นว่าฉันเสนอชานยอลเป็นพระเอกกับพี่ลู่ห่นเป็นนางเอกดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ”เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนคนที่เหลือจะเริ่มหัวเราะ ชานยอลยกยิ้มตามเพื่อนๆคนอื่น
...ฉันจะคอยดูว่านายจะขัดขวางฉันไปได้ถึงเมื่อไหร่นะ บยอน แบคฮยอน...
TBC.
TALK. สวัสดีคนอ่านทุกท่านนะคะ อีเพชรกลับมาพร้อมกับเอ็นซี อุอุ วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายอีเพชรเลยปล่อยผีซะหน่อย เอาฟิคมาลงละกัน ตอนนี้เป็นตอนล่าสุดที่แต่งไว้ หลังจากนี้ก็ต้องรอกันอีกสักพักแหละนะ แต่วันนี้ค่อนข้างฟิตอ่ะ เดี๋ยวจะแต่งตอนต่อไปเก็บไว้ ถ้าทันก็อาจจะเอามาลงได้ไวหน่อย แต่เพชรคิดว่าไม่น่าจะทันนะเพราะอาทิตย์หน้าคือนรกแกทแพท ยังไงก็ต้องอ่านแหละ TT เอาใจช่วยกันด้วยน้าาา ถ้าขี้เกียจอ่านก็จะมานั่งแต่งฟิค -..- (ใครจะสอบอย่าเอาเยี่ยงอย่าง) ฮ่าๆๆๆๆ ไปละ วันนี้ฝอยเยอะมากอ่ะ ใครมีอะไรสงสัย อยากคุย ทวงฟิค อะไรก็แล้วแต่ ติดต่อได้ที่ @pppetchhh นะจ๊ะ
ความคิดเห็น