คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : CHAPTER 12
CHAPTER 12
28.12.12
เหล่านักเรียนชายในชุดเครื่องแต่งกายประหลาดกำลังนั่งวิพากษ์วิจารณ์ชุดของเพื่อนกันอย่างเมามันส์ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนสอดส่องหาร่างของคนที่เขากำลังตามหาอยู่ ก่อนจะพบชานยอลยืนหันหลังให้เขาอยู่ไม่ไกลจากห้องน้ำมากนัก
“ชานยอล...”เอ่ยเรียกเสียงหวานจนคนที่หันหลังให้ต้องหันกลับมาให้ความสนใจ
“พี่ลู่หาน...อ...ชุดนี้เข้ากับพี่มากเลยครับ”เสียงทุ้มเอ่ยชมอีกคนด้วยความประหลาดใจ ใครจะไปคิดว่าลู่หานในชุดเจ้าหญิงจะเหมาะกันขนาดนี้
ลู่หานอยู่ในชุดกระโปรงยาวถึงข้อเท้าสีม่วง อัญมณีสีสวยประดับทั่วทั้งชุด อีกทั้งวิกผมยาวสีทองที่ดัดลอนสวยนั่นอีก ราวกับเจ้าหญิงที่หลุดออกมาจากเทพนิยายเลยทีเดียว
ได้รับคำชมซึ่งๆหน้าคนถูกชมก็ก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย มือบางถูกยกขึ้นมาปิดแก้มใสทั้งสองข้างเพื่อปิดบังรอยแดงที่พาดผ่านใบหน้าของตน
“ออกมา!!!!!”เสียงตวาดจากห้องน้ำเรียกให้คนทั้งห้องหันไปให้ความสนใจได้อย่างไม่ยาก ไม่ทันจะต้องเดาว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่เป็นใคร ก็เห็นร่างกลมๆของมินซอกผลุบเข้าผลุบออกอยู่ที่ประตูแว่บๆ
“ไม่!!!!”แล้วก็มีเสียงปฏิเสธอย่างแข็งขันตามมา ก็คงจะไม่ต้องเดาอีกเช่นกันเพราะน้ำเสียงนี่รู้จักกันดีเหลือเกิน เพื่อนๆบางคนถึงกับส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ปีที่แล้วที่จับแบคฮยอนลองชุด เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นเช่นกัน
“แบคฮยอน!!!! ออกมา!!!!”
“ไม่!!!!!”
“จะออกดีๆหรือต้องให้พี่ใช้กำลัง!!!!”
“พี่มินซอกอ่า....สงสารผมเถอะ นะ นะ น้า...”เมื่อเห็นว่าไม้แข็งดูจะไม่ได้ผลเจ้าของเสียงเลยเปลี่ยนมาใช้ไม้อ่อนแทน
“ไม่!”เมื่อได้ยินคำอ้อนวอนของอีกคนริมฝีปากบางของมินซอกก็เหยียดยิ้มก่อนจะตอบเสียงดังฟังชัดตัดกำลังใจกันแบบสุดๆ
“มานี่เลย!”พูดจบมินซอกก็จัดการกระชากตัวอีกคนจนหลุดออกมาจากห้องน้ำได้เป็นผลสำเร็จ
ใบหน้าสวยของแบคฮยอนตอนนี้กำลังงอง้ำราวกับเด็กน้อยที่โดนขัดใจไม่มีผิด มือเรียวอีกข้างที่ไม่ได้โดนผู้กำกับใจโหดจับไว้ก็เอาแต่ดึงชายกระโปรงที่มันสั้นเสียจนเขากลัวว่าอะไรๆจะโผล่ออกมา!
“ไปนั่งรวมกับคนอื่นเลย...เดี๋ยวจะรันคิวหน่อย”มินซอกปล่อยข้อมือบางของแบคฮยอนให้เป็นอิสระก่อนจะชี้ไปยังกลุ่มงคนที่นั่งรวมกันอยู่ที่กลางห้อง
แบคฮยอนก็ได้แต่เดินปึงปังตรงไปยังกลุ่มนั้นอย่างขัดใจเท่านั้น ดวงตาทุกคู่จับจ้องมายังเขาเป็นตาเดียวเรียกเอาแบคฮยอนขนลุกเกรียวทั้งตัว
“มองอะไร!”เสียงหวานแหวขึ้นก่อนใบหน้าสวยจะขึ้นสีด้วยความอาย เหล่าเพื่อนๆพากันลงความเห็นว่าจะท้าทายอำนาจมืดโดยการร่วมกันจ้องร่างบางที่ยังคงยืนอยู่เป็นจุดสนใจนั่นต่อไป...ก็จะไม่ให้มองได้ไงเล่า!
ร่างเพรียวบางที่กำลังเดินหน้ามุ่ยมานั้นตอนนี้อยู่ในชุดเดรสสั้นสีทองเข้ารูป ปลายเดรสสั้นเลยเข่ามาเกือบครึ่งขาโชว์เรียวขาสวยภายใต้ถุงน่องที่ไม่ค่อยมีคนได้เห็นมากนัก เรือนผมสีน้ำตาลน่าหลงใหลถูกสวมทับด้วยวิกผมสีน้ำตาลอ่อนยาวสลวยที่ถูกรวบมาพาดไว้ที่ลาดไหล่บางด้านเดียว หน้าผากมนประดับด้วยสร้อยคล้องที่ติดอัญมณีรูปเสี้ยวจันทร์สีอัมพันประกายระยิบขับให้ใบหน้าสวยนั้นขาวผ่องดูหน้าหลงไหลขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
คงจะงดงามราวกับเทพธิดาแห่งดวงจันทร์เป็นแน่...หากเจ้าตัวไม่ทำหน้ามุ่ยแบบพร้อมที่จะฆ่าคนแบบนั้นน่ะนะ
“บอกให้เลิกมองไง!”เสียงหวานยังคงโวยวายไม่เลิก แบคฮยอนทิ้งตัวลงนั่งยองๆเพราะกระโปรงมันสั้นและตัดสินใจที่จะไม่หันหน้าไปเผชิญสายตาหลายสิบที่จ้องมาทางเขา แต่ดูเหมือนการหันหลังจะไม่ได้ช่วยเลย เพราะชุดของเขานั้นเว้าหลังอีกทั้งวิกผมยาวที่ถูกเจ้าตัวรวบไปไว้ด้านหน้าด้วยความรำคาญ แผ่นหลังขาวเนียนจึงได้ปรากฎแก่สายตาทุกผู้ทุกนางในห้อง
คิ้วเข้มของปาร์คชานยอลขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิด ยิ่งมองไปเห็นแผ่นหลังขาวๆของใครสักคนที่มันดึงดูดสายตาก็ยิ่งหงุดหงิด
ไม่รู้จักระวังตัวบ้างเลยให้ตายเถอะ!
ชายหนุ่มทำท่าจะเดินเข้าไปบอกหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อให้คนตัวเล็กรู้ตัว แต่แล้วก็มีแรงบีบหนักๆที่มือของเขา ใบหน้าหล่อเหลาเบือนกลับมาสบกับเจ้าของแรง ลู่หานกำลังจ้องมองใบหน้าของเขาด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับเต็มไปด้วยแรงกดดัน ชานยอลจึงตัดสินใจที่จะฉีกยิ้มกลับไปขัดตาทัพเสียหน่อย ซึ่งมันก็ช่วยให้แรงบีบนั้นหายไป แต่มือบางก็ยังคงกอบกุมมือของเขาเอาไว้
ชานยอลเบือนหน้ากลับไปก่อนสายตาจะไปประสานเข้ากับดวงตาคมของคิมจงอิน ราวกับคิดเรื่องเดียวกันอยู่ เด็กหนุ่มผิวแทนพยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินเข้าไปหาเป้าหมายที่นั่งหน้ามุ่ยไม่สนใจใครอยู่กลางห้องทันที
“ฮึ?”เสียงหวานอุทานขึ้นมาอย่างประหลาดใจเมื่อจู่ๆก็มีผ้าคลุมผืนใหญ่ร่อนลงมาคลุมตัวเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า หันไปด้านหลังก็เจอเจ้าของผ้าคลุมกำลังส่งยิ้มยียวนมาให้เขาเหมือนเดิม
“อะไรจงอิน”เอ่ยถามด้วยความสงสัย แต่มือเรียวก็กระชับผ้าคลุมผืนนั้นให้คลุมรอบตัว
“ก็ชุดพี่มันดูจะหนาวไปหน่อย กลัวพี่หนาวเลยเอาผ้ามาคลุมให้”เอ่ยเบาๆทั้งรอยยิ้มก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอีกคน
“ก็...หนาวแหละ ขอบคุณ”พูดจบก็ฉีกยิ้มกว้างให้อย่างน่ารักเสียจนคนได้รับแทบจะลืมทางกลับบ้าน
การรันคิวแสดงเป็นไปได้ด้วยดี นักแสดงทุกคนแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะฉากไหนๆ แบคฮยอนยอมรับความสามารถในการเฟคของตัวเองก็ครั้งนี้นี่แหละ ทั้งๆที่แค่เห็นหน้าปาร์คชานยอลก็อย่างจะพุ่งเข้าไปถีบสักสี่ห้าที แต่เขาก็สามารถอดทนกับมันและแสดงได้ดี...หรือโตไปเขาจะเดินเข้าสู่เส้นทางสายบันเทิงดี?
แบคฮยอนพับเสื้อผ้าสำหรับใส่แสดงลงในกล่องประจำให้เรียบร้อยก่อนจะยกไปวางไว้ที่หลังเวที พลันดวงตาคู่สวยก็เหลือบไปเห็นร่างสูงๆของใครบางคนกำลังเดินเข้ามาใกล้ คนตัวเล็กถอนหายใจอย่างเอือมระอาก่อนขาเรียวจะสาวเท้าพาร่างของตัวเองออกจากตรงนั้นทันที
“แบคฮยอน!”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกพร้อมกับมือหนาที่คว้าข้อมือบางไว้ได้ในที่สุด แบคฮยอนถอนหายใจอีกทีก่อนจะหมุนตัวกลับมาประจันหน้ากับอีกฝ่าย
“ฉันจะกลับบ้าน”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างราบเรียบ ข้อมือบางก็พยายามบิดออกจากการกอบกุมของอีกคน
“เรามีเรื่องต้องคุยกัน”ชานยอลเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เราไม่มีอะไรต้องคุยกัน”
“แบคฮยอน...”
“อะไร...”คนตัวเล็กจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างยียวน ปาร์คชานยอลถอนหายใจก่อนจะค่อยๆปล่อยให้ข้อมือบางเป็นอิสระ แบคฮยอนเลิกคิ้วแต่ก็ไม่ได้ต่อความอะไร ร่างบางหมุนตัวกลับเตรียมจะเดินออกไปทันที
“เฮ้อ...ไอ้เราก็หวังดีจะคุยเรื่องรถซะหน่อย...แต่ดูท่าเจ้าของจะไม่ค่อยต้องการเท่าไรนะ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นลอยๆ แต่จงใจให้อีกคนได้ยิน ขาเรียวที่กำลังจะก้าวออกไปชะงักกึก ก่อนคนตัวเล็กจะค่อยๆหนกลับมามองเขา ใบหน้าสวยงอง้ำด้วยความขัดใจ เขารู้ว่าแบคฮยอนน่ะรักรถคันนั้นแค่ไหน คุยดีๆไม่ยอมก็ต้องหาเรื่องให้มาคุยนั่นแหละ
“ขึ้นรถเลย”ชานยอลเอ่ยอย่างมีชัยพร้อมกับยักคิ้วให้อีกคนหนึ่งที แบคฮยอนได้แต่เดินปึงปังตามไปเท่านั้นแหละ!
.
.
.
.
.
“แล้วแฟนนายไปไหนซะล่ะ?”เสียงหวานเอ่ยถามหลังจากที่รถเคลื่อนออกจากโรงเรียนมาได้สักพัก ก็เห็นช่วงนี้ตัวติดกันอย่างกับปาท่องโก๋
“พี่ลู่หานเขาติดเรียนร้องเพลง”ชานยอลเอ่ยตอบนิ่งๆ ไม่ได้คิดอะไรกับคำถามของอีกคน แต่แบคฮยอนนั่นแหละที่หมั่นไส้กับคำตอบขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ
แหม...รู้รายละเอียดกันดีจริงนะ
“จะคุยได้รึยัง?”เสียงหวานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ติดจะหงุดหงิดหลังจากที่ตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกันแล้วมีเพียงความเงียบเท่านั้น
“เข้าไปคุยในห้องสิ”ชานยอลเอ่ยก่อนจะเปิดประตูห้องของตนให้อีกคนได้เดินเข้าไป ดวงตาคู่สวยของแบคฮยอนจ้องมองเขาอย่างช่างใจแต่สุดท้ายก็ยอมเดินเข้าไปด้วยดี
“จะคุยอะไร?”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างหงุดหงิด ไอ้บ้านี่จะทำอะไรให้มันยุ่งยากมากมาย แค่จะคุยเรื่องรถทำไมจะต้องมาถึงบ้านด้วยก็ไม่รู้!
“ฉันไปตามรถนายได้แล้ว...”พูดจบก็ชูกุญแจให้อีกคนดู แบคฮยอนตาโตขึ้นมาในบัดดล ดวงตาคู่สวยที่กำลังพราวระยับอย่างถูกใจทำให้เขาอดที่จะแกล้งไม่ได้
ตอนแรกก็ว่าจะให้ดีๆอ่ะนะ...แต่พอเห็นทำหน้าทำตาแบบนั้นแล้วรู้สึกอย่างแกล้งชะมัด
หวืด!
แบคฮยอนเอื้อมมืออกมาหวังจะคว้าเอากุญแจรถของตัวเองกลับมาแต่แล้วอีกคนก็รีบชักเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงไป รอยยิ้มเยาะเย้ยถูกส่งมาให้เรียกเอาคิ้วบางกระตุกยิกๆ
“เอาคืนมาได้แล้วปาร์คชานยอล!”เสียงหวานแหวเข้าให้ก่อนจะพยายามพุ่งตัวเข้าไปแย่งคืนมา
“นี่คนเค้าอุส่าห์ลำบากหามาคืนนะ...ไหนล่ะของตอบแทน”ชานยอลเลิกคิ้วให้อีกคนอย่างยียวนเลยได้รับค้อนวงโตกลับมาเป็นของตอบแทน
“อะไร?”แบคฮยอนเอ่ยถามเสียงเข้มก่อนจะต้องชะงักเล็กน้อยเมื่ออีกคนชโงกหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าตนอย่างกะทันหัน
ชานยอลยักคิ้วอย่างผู้เหนือกว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้างทรงเสน่ห์
แต่แบคฮยอนกลับคิดว่ามันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด!
ไอ้งี่เง่า!!!!!
ไอ้หูกาง!!!!
ไอ้หน้าเอ๋อ!!!
ไอ้สูง...ไอ้...ไอ้ โว๊ยยยย!!!!!
กร่นด่าเจ้าของห้องไปในใจมือก็จัดการไถไม้ถูพื้นไปทั่วพื้นไม้ปาร์เก้สุดหรูของคอนโดชื่อดังใจกลางเมือง...จะอะไรก็ช่าง! แต่เขาต้องมาเป็นขี้ข้าทั้งกวาด ถู ซักผ้า โดยที่เจ้าของห้องมันนั่งกระดิกตีนกินขนมอยู่บนโซฟาสบายใจ! แล้วยังมีหน้ามาสั่งอีกนะ!
“เอ้า...ตั้งใจถูหน่อยสิ...ตรงนั้นมันยังไม่สะอาดเลย”พูดจบก็เคี้ยวขนมตุ้ยๆอย่างน่าหมั่นไส้
บยอนแบคฮยอนโง่เอง! โง่ที่ไปยอมทำตามมันเพราะน้องหนูของเขานี่แหละ! ฮึ่ย!
ฟึดฟัดกับตัวเองไปก็ตั้งหน้าตั้งตาถูต่อไปอย่างตั้งใจ ไม่นานนักพื้นปาร์เก้ก็เงางามราวกับเพิ่งขัดมันใหม่ แบคฮยอนกระพือคอเสื้อของตัวเองเพราะการออกแรงมากๆมันทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น เข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อต้องจ้างแม่บ้านหลายคน!
เพราะถูพื้นมันใช่พลังงานมากขนาดนี้น่ะสิ!
ดวงตาสวยเหลือบไปมองอีกคนที่กำลังนั่งดูทีวีอย่างสบายใจแล้วก็ถอนหายใจ...
ถ้าเขาถอดกางเกงเหลือแต่บ๊อกเซอร์ตัวเดียวมันจะน่าเกลียดมั๊ย?
ไม่ต้องเสียเวลาหาคำตอบเพราะความร้อนมันรุกราญจนต้องยอมแพ้ แบคฮยอนเลยจักการถอดกางเกงนักเรียนขายาวของตนก่อนจะพับๆแล้วเอาไปพาดไว้ที่เป้นักเรียนของตนเอง ดวงตาคู่สวยเหลือบไปมองตะกร้าผ้าใส่แล้วที่ตั้งตระหง่านอยู่หน้าห้องน้ำราวกับเยาะเย้ยเขา
คนตัวเล็กถอนหายใจก่อนจะเดินไปหยิบตะกร้าขึ้นมาแล้วมองหาเครื่องซักผ้า...
แล้วไหนล่ะเครื่องซักผ้า?
ไหนล่ะเครื่องซักผ้าน่ะ!!!!!
“เครื่องซักผ้าอยู่ไหน?”เสียงหวานตะโกนถามอีกคนที่นั่งอยู่บนโซฟา
“ไม่มี”เสียงทุ้มเอ่ยตอบราวกับเป็นเรื่องปกติ แต่มันทำให้บยอนแบคฮยอนวิญญาณหลุดออกจากร่าง
ไม่มีเครื่องซักผ้าเนี่ยนะ!!!!
“แล้วฉันจะซักยังไง!!!”เสียงหวานแหวลั่นห้อง
“ก็มือสิ!”ชานยอลตอบทั้งๆที่ตาก็ยังคงจ้องอยู่ที่จอสี่เหลี่ยม
ชายหนุ่มลอบยิ้มอย่างสนุกสนานเมื่อได้ยินเสียงถอนหายใจดังๆแล้วก็เสียงเดินปึงปังจากไป เขาไม่ได้โกหกแต่อย่างใด แต่ห้องเขาไม่มีเครื่องซักผ้าจริงๆเพราะปกติเขาก็ส่งซักที่ร้านด้านล่าง แต่ถ้าผงซักฟอกก็คิดว่าน่าจะมีนะ
แค่นึกถึงใบหน้าสวยที่กำลังงอง้ำด้วยความหงุดหงิดก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
แบคฮยอนเวลาโมโหน่ะ...น่ารักจะตายไป
“โว๊ยยยยยยย ไอ้บ้าเอ๊ย!”เสียงหวานโวยวายก่อนจะคว้าเอากาละมังใบใหญ่จากห้องเก็บของมา จัดการเปิดน้ำลงไปอย่างอารมณ์เสีย
“ทำไมผู้ดีมีตังค์อย่างฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยวะ!”บ่นไปแต่สายตาก็สอดส่องมองหาผงซักฟอกต่อไป มือเรียวเอื้อมมือไปคว้าเอากระปุกขนาดกลางหนึ่งกระปุกที่วางอยู่ใต้อ่างล้างหน้า
“เจอละ”แบคฮยอนอุทานออกมาอย่างถูกใจมือเรียวตักผงซักฟอกออกมาช้อนหนึ่งเตรียมที่จะเทลงไปในกาละมัง แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก...
...ว่าแต่ปกติเขาใส่อะไรก่อนผ้าหรือว่าผงซักฟอก?
“ช่างมัน!”พูดจบก็เทผงซักฟอกลงไปในกาละมังจนหมดช้อน
มือบางจุ่มลงไปในน้ำเย็นๆก่อนจะตีเบาๆให้เริ่มเกิดฟอง แบคฮยอนถอนหายใจเฮือกอย่างรำคาญใจ
แล้วนี่เขาจะมาทำอะไรแบบนี้ทำไมเนี่ย...
บ่นไปนั่นแต่มือก็ยังทำงานงกๆ...
เดี๋ยวๆ...
ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าตัวเองทำตัวเหมือนป้าแก่แม่หม้ายที่ขี้บ่นแต่เขาบอกให้ทำอะไรก็ทำหมดแบบนี้วะ!
“โว๊ยยยยยยยยย!!!!”มือบางทั้งสองข้างจัดารตีน้ำอย่างบ้าคลั่ง ถ้าฟองเกิดขึ้นตามแรงตีนะ...เขาคงจมทะเลฟองตายไปแล้วล่ะ!
“อะไร...”ฝ่ายปาร์คชานยอลที่กำลังดื่มด่ำกับรายการทีวีแสนสนุก เสียงร้องโวยวายก็ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้เขาต้องรีบวิ่งมาดูก่อนที่เจ้าของเสียงจะทำลายล้างห้องน้ำของเขาเสียก่อน
แต่สภาพตอนนี้ก็ไม่ค่อยต่างจากทำลายเท่าไหร่...
บยอนแบคฮยอนในชุดล่อแหลมกำลังตีฟองอย่างบ้าคลั่งจนมันกระเด็นเลอะไปหมด ตามตัวของร่างบางถูกเกาะกุมไปด้วยฟองไม่เว้นแม้กระทั่งจมูกโด่งรั้นที่มีฟองจุดเล็กๆเกาะอยู่...
ดูๆไปแล้วยิ่งเหมือนลูกหมาเข้าไปใหญ่...
“ขำอะไร!”ความคิดนั้นเรียกเสียงหัวเราะของชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี เลยเจอลูกหมาในความคิดของเขาค้อนเข้าให้
“รู้ตัวมั๊ยว่าตอนนี้หน้านายฮาขนาดไหน?”เอ่ยถามอย่างกวนประสาท มือหนาก็ยกขึ้นปิดปากกลั้นขำอย่างเต็มที่ อากับกริยานั้นเรียกความหมั่นไส้จากบยอนแบคฮยอนได้เป็นอย่างดี
ขำนักใช่มั๊ย?!
เขาว่ากันว่าหัวเราะที่หลังดังกว่านะปาร์คชานยอล!
“เฮ้ย!”สิ้นความคิดมือบางก็ควักฟองจากกาละมังซักผ้าสาดใส่คนที่ยืนขำอยู่หน้าประตูทันที เล่นเอาชานยอลโยกตัวหลบเป็นพัลวัน แต่อนิจจา...พอปาร์คชานยอลหลบไอ้เจ้าฟองสีขาวมันเลยกระเด็นกระดอนออกไปนอกห้องน้ำน่ะสิ!
“เฮ้ยพอๆๆ! ห้องเลอะหมด!”มือหนาทั้งสองข้างยกขึ้นมาอย่างยอมแพ้
“มาช่วยซักผ้า...ไม่งั้นห้องนายจะกลายเป็นทะเลฟอง!”พูดจบก็ทำท่าจะสาดฟองต่อเรียกเอาเจ้าของห้องร้องห้ามแทบไม่ทัน
สรุปว่าทั้งเจ้าของห้องทั้งคนที่ถูกใช้ก็มาช่วยกันนั่งซักผ้าอย่างเสียไม่ได้
ชานยอลลอบมองใบหน้าหวานที่ฉายแววจริงจังอย่างหลงใหล คิ้วเรียวขมวดมุ่นอย่างตึงเครียด เขาเชื่อว่าแบคฮยอนคงไม่เคยทำงานแบบนี้แน่นอน อดที่จะยิ้มบางๆกับสีหน้าหลากหลายที่คนตัวเล็กเปลี่ยนไปเปลี่ยนมายามซักผ้าไม่ได้...
แปะ!
“อี๋!!!!!!”ซึ้งกับตัวเองอยู่ได้ไม่นานก็เป็นอันต้องหมดอารมณ์เพราะอะไรบางอย่างลอยมาแปะที่หน้าของเขาพร้อมกับเสียงร้องอย่างรังเกียจของบยอนแบคฮยอน ชานยอลค่อยๆดึงไอ้เจ้าอะไรบางอย่างออกมาดูแล้วก็พบว่ามันคือ...
กางเกงในของเขาเอง...
“บยอนแบคฮยอน”เสียงทุ้มกดเสียงเอ่ย ดวงตาคมจ้องมองอีกคนอย่างเอาเรื่อง เห็นใบหน้าหวานเอาแต่โบ้ยมาที่กางเกงในของเขาราวกับว่าตัวเองไม่ผิด
ไม่ผิดน่ะไม่ผิด...ถ้ามันไม่ได้ถูกโยนมาแปะบนหน้าเขาแบบนี้น่ะนะ!
“กล้ามากนะ!”สิ้นเสียงทุ้มราวกับการประกาศสงคราม เจ้าของห้องที่เคยเป็นห่วงเรื่องความเลอะเทอะของห้องตัวเองบัดนี้กลับเป็นหนึ่งในผู้ที่ร่วมก่อความวุ่นวายและความเลอะเทอะให้กับห้องตัวเองไปเสียอย่างนั้น
กว่าการซักผ้าจะผ่านพ้นไปก็เรียกได้ว่าทั้งสองคนเสียแรงกันไปเยอะทีเดียว ชานยอลช่วยยกตะกร้าเสื้อผ้าเปียกออกมาไว้ที่ระเบียงเพื่อตากให้แห้ง
มือเรียวของแบคฮยอนหยิบเสื้อผ้าเปียกมาตากบนราวเล็กๆอย่างเก้ๆกังๆ ลมเย็นๆพัดผ่านร่างกายเรียกให้ขนลุกไปหมด ท้องฟ้ามืดเร็วกว่าปกติเพราะย่างเข้าฤดูหนาวแล้ว
“อะไร”เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นปาร์คชานยอลเริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองออก แก้มขาวขึ้นสีเรื่อน้อยๆด้วยความกระดากอาย
“ตากไง...ก็นายเล่นซะเปียกขนาดนี้เดี๋ยวฉันก็เป็นปอดบวมตายกันพอดี”ยกยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาใกล้อีกคนช้าๆ มือหนาก็ยังคงปลดกระดุมต่อไปจนครบทุกเม็ด
“อ...อะไร”เสียงหวานเอ่ยตะกุกตะกัก ดวงตาคู่สวยพยายามเบือนไปทางอื่นเพื่อซ่อนความเขินอายของตัวเอง แต่มันก็ดูจะยากเหลือเกิน มองด้านบนก็เจอใบหน้าเจ้าเลห์ที่ทำให้หนาวสันหลัง มองล่างก็เจอเข้ากับหน้าท้องที่ประดับไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตนักเรียนของอีกคนเข้าไปเต็มๆ
“เป็นอะไรฮึ...แบคฮยอน...”เสียงทุ้มของคนขี้แกล้งกระซิบเบาๆที่ข้างใบหูบางก่อนใบหน้าหล่อเหลาจะค่อยๆโน้มเข้ามาใกล้...
ยิ่งเห็นว่าแก้มขาวนั้นซับสีเรื่อแค่ไหนก็ยิ่งอยากแกล้ง...
ชานยอลรู้สึกว่าตัวเองเหมือนโรคจิต...แต่ถ้าได้รังแกคนตัวเล็กตรงหน้าไปเรื่อยๆแบบนี้ล่ะก็ เขาคงต้องยอมเป็นโรคจิตแล้วกระมัง...
จมูกโด่งสัมผัสกับปลายจมูกของอีกคนเบาๆ ก่อนริมฝีปากได้รูปจะค่อยๆเคลื่อนเข้าไปใกล้ริมฝีปากบางช้าๆ...
ออดดดดดดดดดด!
เสียงออดช่วยชีวิตดังขึ้นเรียกให้แบคฮยอนได้สติ มือเรียวดันแผงอกกว้างของร่างสูงให้ออกห่างจากตนก่อนจะรีบวิ่งไปที่หน้าประตูทันที
“เดี๋ยวฉันเปิดให้!”เสียงหวานตะโกนบอกหลังจากที่หนีออกมาจากสถานการณ์แสนอันตรายนั่น
แบคฮยอนพยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้เป็นปรกติ แต่ถึงอย่างนั้นรอยแดงจางๆก็ยังคงหลงเหลืออยู่บนใบหน้าสวยอยู่ดี ชานยอลเดินตามมาช้าๆอดที่จะขำกับท่าทางของคนตัวเล็กที่พายามปรับสีหน้าไม่ได้ มือเรียวเอื้อมไปจับลูกบิดก่อนจะออดแรงบิดแล้วเปิดประตูอย่างรวดเร็วเพราะไม่อยากให้แขกของเจ้าของห้องรอนาน
ภาพของผู้มาใหม่ทำให้แบคฮยอนแทบหยุดหายใจ...
พี่ลู่หาน...
.
.
.
.
.
เขารู้สึกไม่สบายใจ...
ลู่หานรู้สึกว่าไม่อยากจะแยกจากชานยอลเพราะมันทำให้เขาระแวงไปหมด ตอนแรกเขาไม่คิดว่าจะรู้สึกอะไรแบบนี้dy[เด็กคนหนึ่งที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามาสรภาพรักกับเขา แต่เพราะเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน ลู่หานรู้สึกสนุกและมีความสุขอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมาเนิ่นนาน
เขาเลยรู้สึกว่า...
เขาชอบเด็กคนนี้เข้าแล้วจริงๆ
เขาเริ่มไม่สบายใจมาสักพักแล้ว...ไม่สิ ต้องบอกว่าตั้งแต่แรกเลยต่างหาก...
เขาสงสัยในความสัมพันธ์ของชานยอลและแบคฮยอน...
บางครั้งทั้งสองคนก็ดูเกลียดกันมากจนทะเลาะกันแทบทุกครั้งที่เจอหน้ากัน...แต่ก็ดูเป็นห่วงเป็นใยในเวลาเดียวกัน...
ถ้าชานยอลไม่ออกปากขอคบกับเขา...เขาคงจะคิดว่าทั้งสองคนจะต้องชอบๆกันอยู่แน่ๆ
แต่ถึงแม้เขากับชานยอลจะคบกันแล้วแต่ความรู้สึกที่คิดว่าสองคนนั้นมีอะไรบางอย่างก็ไม่ได้ลดน้อยลง...มันกลับเพิ่มมากขึ้นเสียด้วยซ้ำ
ยิ่งเห็นสายตาที่ชานยอลมองแบคฮยอน หรือคำพูดคำจาที่ดูเหมือนจะแง่งอนของแบคฮยอนยิ่งทำให้เขาสงสัยเข้าไปอีก...
แต่เขาคิดว่าชานยอลคงจะเป็นสุภาพบุรุษมากพอที่จะไม่หักหลังเขา...เพราะงั้นพักเรื่องเครียดๆแบบนี้ไว้ก่อน...
คิดได้ดังนั้นริมฝีปากบางก็แย้มรอยยิ้มบางๆก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเบเกอรรี่เล็กๆแห่งหนึ่งที่ข้างทาง นาฬิกาแขวนผนังเรือนสวยบอกเวลากว่าหกโมงเย็นแล้ว หวังว่าชานยอลคงจะอยู่บ้านนะ...
ลู่หานเลือกบราวนี่น่าตาน่ากินสักสองสามก้อนหวังจะเอาไปฝากแฟนหนุ่มของตัวเอง แค่นึกถึงว่าอีกคนจะยิ้มแบบไหนถ้าได้กิน ใบหน้าหวานก็ฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขไม่แพ้กัน
เขาเคยไปบ้าน...ไม่สิคอนโดของชานยอลมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เขากลับจำทางได้เป็นอย่างดี...
ที่เขาบอกว่าเราจะจำสิ่งที่เรารักหรือสนใจมากๆได้โดยไม่ต้องท่องท่าทางจะจริงกระมัง...
คิดแล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆอย่างมีความสุขไม่ได้
หลังจากขึ้นรถเมล์มาสักพักเขาก็มาถึงซอยคอนโดของชานยอล ยอดสูงของตึกหรูหราที่เขาคุ้นเคยปรากฏให้เห็นเรียกเอากัวใจดวงน้อยเต้นตึกตักด้วยความตื่นเต้น
เขามาเซอร์ไพร์สแบบนี้ชานยอลจะว่ายังไงนะ?
คิดแล้วก็ชักอยากจะเห็นใบหน้าหล่อเหลานั่นว่าจะเหรอหราแค่ไหนขึ้นมาทันที
เดินไปพลางฮัมเพลงไปอย่างอารมณ์ดี อยากรู้จังว่าตอนนี้ชานยอลกำลังทำอะไรอยู่?
คงไม่ได้นั่งดูละครเหมือนพวกป้าแก่ๆหรอกนะ?
นึกภาพชานยอลอินกับละครน้ำเน่าแล้วก็อดที่จขำออกมาเสียงดังไม่ได้ คงจะเป็นภาพที่หาดูได้ยากทีเดียวล่ะ
ไม่นานนักเขาก็มาหยุดอยู่หน้าประตูห้องที่คิดว่าน่าจะเป็นของชานยอล ร่างบางสูดหายใจเข้าลึกๆจนเต็มปอด ก่อนจะรวบรวมความกล้าแล้วมือบางก็เคลื่อนไปด้านหน้าเพื่อที่จะกดออดเรียกเจ้าของห้อง...
ออดดดดดดดดดดด!
ถ้าชานยอลเปิดประตูออกมาเขาจะโผตัวเข้ากอดอีกคนทันทีเลยล่ะ!
ไม่ปล่อยให้เขารอนานนักบานประตูก็ค่อยๆแง้มเปิดออก ลู่หานคลี่ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข...
แต่ใบหน้าของคนที่เปิดประตูกลับไม่ใช่คนที่เขารอคอย...
“แบคฮยอน...”เสียงหวานเอ่ยเรียกชื่ออีกฝ่ายเบาหวิว ไม่นานนักคนที่เขาต้องการพบก็เดินตามอีกคนมาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม...มีความสุขที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา...
แต่เมื่อเห็นว่าเขาคือผู้ที่มาเยี่ยมเยือยใบหน้านั้นก็เปลี่ยนมาเป็นตึงเครียดทันที
เขาไม่อยากจะคิด...
ไม่อยากรู้สึกแบบนี้...
ภาพของแบคฮยอนในชุดไม่เรียบร้อย...เรียกได้ว่าล่อแหลมสุดๆ กับชานยอลที่เดินตามด้วยท่อนบนที่เปลือยเปล่า...
ราวกับมีก้อนแข็งๆจุกอยู่ที่ลำคอ หายใจไม่ออก...
ความปวดร้าวที่แล่นริ้วขึ้นไปจนถึงดวงตา...ร่างทั้งร่างไร้เรี่ยวแรง ลืมไปแม้กระทั่งสาเหตุของการมา
กล่องเค้กสีสวยร่วงกระทบพื้นราวกับภาพช้า ร่างบางของผู้มาใหม่ที่ดวงตากลมโตนั้นคลอไปด้วยน้ำตาจ้องมองมาที่ชานยอลด้วยความรู้สึกมากมาย ก่อนขาเรียวนั่นจะพาร่างของตัวเองวิ่งออกไปทันที
“พี่ลู่หาน!”เสียงทุ้มเอ่ยไล่หลังอีกคนไปแต่ดูเหมือนมันจะไม่สามรถหยุดอีกคนได้
“ชานยอล! จะไปไหน?”แบคฮยอนเอ่ยถาม เขาเองก็ยังคงอึ้งและทำอะไรไม่ถูกกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่เหมือนกัน
“ฉันจะไปตามพี่ลู่หาน...นี่ก็ดึกแล้วแถวนี้มันเปลี่ยว ฉันเป็นห่วงเขา”พูดจบก็ไม่รอการรับคำจากอีกคนเลยสักนิดเดียว มือหนาคว้าเอาเสื้อโค้ทตัวยาวที่แขวนไว้ข้างประตูมาสวมก่อนจะวิ่งออกไปทันที
ทิ้งไว้เพียงร่างบางที่ได้แต่ทวนประโยคนั้นนิ่ง...
‘ฉันเป็นห่วงเขา’
แล้วไม่ห่วงฉันบ้างเหรอ...ปาร์คชานยอล?
เพียงแค่คิดก็รู้สึกร้อนๆที่หน่วยตา แบคฮยอนสะบัดหัวไล่ความคิดบ้าบอก่อนจะเดินไปเพื่อเก็บของกลับบ้านทันที แต่ดูเหมือนร่างกายของเขามันทรยศไปหมด
ทั้งๆที่อยากจะรีบเก็บของให้เสร็จกับไปกินนมอุ่นๆของนมแท้ๆ...
แต่ร่างกายกลับไร้เรี่ยวแรง...หยิบจับอะไรก็แทบจะหลุดมือทุกครั้ง
“...ฮึก…”
ทั้งๆที่อุตส่าห์พยายามไล่ความคิดบ้าๆนั่นออกไปเพื่อที่จะไม่ต้องเห็นตัวเองอ่อนแอ...แต่ทำไมน้ำตาถึงไหลออกมาไม่หยุด...
“ไร้สาระน่าบยอนแบคฮยอน”เสียงหวานเอ่ยกับตัวเองก่อนจะแต่งตัวให้เรียบร้อย มือบางถูกยกชึ้นปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ
เขาไม่เข้าใจเลย...
ไม่เข้าใจอาการแบบนี้ของตัวเองเลย...
มันชักจะถลำลึกเกินไปแล้ว...บยอนแบคฮยอน
.
.
.
.
.
“คุณแบคฮยอนคะ!”เสียงของแม่นมเอ่ยเรียกอีกคนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นร่างบางของคุณหนูตัวน้อยเดินเข้ามาในบ้านอย่างรีบๆ ใบหน้าสวยที่มักจะสดใสเสมอบัดนี้กลับเต็มไปด้วยน้ำตา...
เจ้าของชื่อไม่สนใจเสียงที่เอ่ยเรียกไว้ แบคฮยอนตั้งหน้าตั้งตาเดินขึ้นห้องทันที ทำเอาแม่นมวิ่งตามขึ้นไปแทบไม่ทัน
แบคฮยอนโยนกระเป๋าทิ้งไว้ข้างเตียงอย่างไม่ใยดี ร่างบางทิ้งตัวลงบนเตียงกว้างอย่างไร้เรี่ยวแรง ซุกใบหน้านองน้ำตาของตนไว้กับหมอนใบนุ่มหวังให้หมอนใบใหญ่ช่วยซึมซับน้ำตาและความรู้สึกปวดร้าวนี่ไปให้หมด
ทั้งๆที่สั่งตัวเองให้หยุดทำตัวงี่เง่าแบบนี้แต่มันกลับหยุดไม่ได้...ตลอดทางที่นั่งแท็กซี่กลับมาเขาไม่สามารถหยุดร้องได้เลย ไม่ว่าจะพยายามสลัดภาพแผ่นหลังกว้างของชานยอลที่เร่งรีบออกไปตามใครอีกคนด้วยความเป็นห่วงเท่าไร...แต่ก็ดูภาพนั้นมันก็ยิ่งปรากฏชัดขึ้นในหัวราวกับกรอเทปซ้ำ
“...ฮึก...ออกไปซะที!..”มือบางทุบลงที่หมอนอย่างหัวเสีย ทำไมร่างกายของเขาถึงไม่เหมือนของเขาแบบนี้
“คุณแบคฮยอนคะ....”เสียงของผู้หญิงที่เปรียบสเมือนแม่แท้ๆที่เอ่ยเรียกจากหน้าประตู...แค่ได้ยินน้ำตาก็ยิ่งไหล
“โธ่...คุณหนูของนม...เกิดอะไรขึ้นคะ?”หญิงวัยกลางคนเอ่ยถามก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างบางที่เอาแต่สะอื้นจนตัวโยน
“นมครับ...”แบคฮยอนเอ่ยเรียกเสียงสั่นก่อนร่างบางจะลุกขึ้นโผเข้ากอดอีกคนไว้แน่น
“...ทำไมผมถึงรู้สึกเหมือนหายใจไม่ออกครับนม...ฮึก...ทำไมถึงรู้สีกเหมือนถูกบีบในอกแบบนี้ครับ...”น้ำเสียงหวานที่เอ่ยถามอู้อี้เจือไปด้วยความเจ็บปวดจนคนที่เปรียบสเมือนแม่แท้ๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนๆที่หน่วยตา
“...ไม่เป็นไรนะคะคนเก่งของนม...ถ้ามันอึดอัดขนาดนั้นก็ระบายออกมานะคะ...”เธอเอ่ยอย่างอบอุ่นก่อนมือเล็กที่กร้านโลกจะบรรจงลูบเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนของอีกคนราวกับปลอบใจ
“...ฮึก...ฮือ...ฮือ...”ราวกับความรู้สึกทั้งหมดระเบิดออกมา ไม่มีคำปลอบใดๆนอกจากนั้น ไม่มีแม้ถ้อยคำระบาย...มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดเท่านั้นที่ดังไปทั่วห้อง
...อยากจะหนีจากความรู้สึกที่ไม่เคยเจอนี่เหลือเกิน...
TBC.
TALK. ดราม่ามั๊ย? ไม่ดรามาใช่มั๊ย.... ถ้าดราม่าจะดีมากนะะะะ แต่อีเพชรแต่งดราม่าไม่เป็นอ่ะ TT ความจริงตอนแต่งนี่เกือบร้องไห้นะ แต่พิมพ์ออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช่ป่ะ? ขอเวลาฝึกปรือก่อนนะคะ
เข้าเรื่องเต๊อะะ ขอโทษค่าาาาาาาา หายหัวไปนานมากกกก บอกว่าจะไปแต่งโปรเจค...แต่งนะ แต่มันยังไม่ถึงไหนเลย กลายเป็นว่าได้อัพเพลย์บอยเกมส์ก่อนซะงั้น -..- พรุ่งนี้เพชรจะหนีเที่ยวนะคะ 55555555 ถ้าเป็นไปได้นี่อยากจะอัพอีกซักตอนเป็นการไถ่โทษแต่จะทันรึเปล่าไม่รู้ เพราะอาทิตย์หน้าเพชรยังไปแรดอยู่เชี่ยงใหม่อยู่เลย คงจะไม่ได้ลง 5555555
ตอนนี้ค่อนข้างเครียดกับโปรเจคค่ะ กลัวแต่งไม่ทันจุงเบยยยยย TT ใครมีไอเดียอะไรเมนชั่นไปบอกในทวิตได้เลยนะคะ ตันมากจริงๆ TT ฮรือออออออ สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณนักอ่านทุกท่านเหมือนเดิมค่ะ ถึงจะอัพช้าแต่ก็ยังติดตามกันเนอะ #มากอดที ใครอยากคุยนี่เมนชั่นมาได้เลยนะจริงๆ ไม่หยิ่งค่ะไม่หยิ่ง >< บ๊ายบายยยยยย
ความคิดเห็น