คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : CHAPTER 3
ปัง!
เสียงปิดประตูดังก้องไปทั่วโสตประสาทของปาร์คชานยอล และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก!
บยอนแบคฮยอนปิดประตูชมรมใส่หน้าเขาวันละสามร้อยรอบมาได้ติดต่อกันสามวันแล้ว!
“ที่บ้านไม่สอนมารยาทนายบ้างรึไงไอ้หมาน้อย!”เสียงทุ้มตะโกนข้ามบานประตูไปเพื่อให้อีกคนได้ยิน มือก็พยายามง้างเปิดประตูชมรมออกมาให้ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกคนเอาแรงมากมายมาจากไหน ไอ้เจ้าประตูจอมปัญหานี่ถึงได้ไม่ขยับสักกะมิลเดียว!
“สอนเว้ย! แต่ไม่จำเป็นต้องใช้กับนายไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!”เสียงด่าตอบโต้กลับมาทำให้ปาร์คชานยอลมั่นใจว่าแรงวัวแรงความอย่างนี้เป็นของบยอนแบคฮยอนจริงๆ
เขาล่ะสงสัยนัก...ตัวแค่นั้นไปเอาแรงมาจากไหนเยอะแยะ!
“แบคกี้มายืนขวางประตูทำไม?”
“เฮ้ย!”
ครืดดดดดดดดดด~
โครม!
เสียงหวานๆของนางฟ้าประจำใจดังขึ้นเรียกให้แบคฮยอนที่กำลังดึงประตูอย่างสุดฤทธิ์สะดุ้งตัวโยน มือเรียวเผลอปล่อยให้บานประตูได้เลื่อนไปยังทิศทางที่มีแรงมากระทำอย่างที่มันควรจะเป็น ส่งผลให้คนกระทำล้มตึงลงไปกองกับพื้นตามแรงที่ตัวเองใส่ไปเต็มที่ทันที
ชานยอลรีบลุกขึ้นยืนปัดฝุ่นดินตามตัวแล้วส่งยิ้มหวานกลับมาให้ผู้มาใหม่ทันที
“อ้าวชานยอล...มีอะไรเหรอ?”ลู่หานแอบขำน้อยๆกับเด็กหนุ่มตัวสูงที่กำลังยืนมองเขาด้วยใบหน้าเขินอายกับเหตุการณ์เมื่อครู่นี้
“คือพรุ่งนี้วันหยุดพี่ลู่หานว่างมั๊ยครับ?”บยอนแบคฮยอนหูผึ่งทันทีที่ไอ้เสาไฟฟ้าเริ่มเปิดประเด็น
“พรุ่งนี้เหรอ? ก็ว่างนะ...ทำไมเหรอ?”คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยอย่างคนใช้ความคิด ก่อนที่เสียงหวานจะเอ่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้มหวานเรียกคะแนนความชอบจากชานยอลได้อีกมากโข
“มีร้านไอศกรีมเปิดใหม่ใกล้สถานนีรถไฟ...พี่อยากไปกินสักหน่อยมั๊ยครับ?”เสียงทุ้มเอ่ยถาม ใบหน้าหล่อเหลาบรรจงส่งรอยยิ้มหวานมาให้ลู่หานอย่างออดอ้อน
“พี่ลู่หาน ผมอยากกินไอติมอ่ะ ไปกันเหอะ...ยังไงไอ้...เอ๊ย! ชานยอลก็เลี้ยงอยู่แล้วล่ะ!”บยอนแบคฮยอนตีหน้าใสซื่อทำเสียงไร้เดียงสาก่อนจะพูดกับนางฟ้าคนงามเหมือนเด็กที่อยากกินไอติม(ซึ่งมันอยากกินจริงๆ)
“ชานยอลจะเลี้ยงงั้นเหรอ? งั้นดีเลย ไปกันหลายๆคนจะได้สนุก!”ลู่หานพูดก่อนริมฝีปากบางจะฉีกยิ้มกว้างอย่างถูกใจ
“ครับ”ชานยอลรับคำก่อนจะแอบชำเลืองมองไปยังร่างบางของอีกคนที่กำลังยืนส่งยิ้มเยาะเย้ยมาให้เขาอย่างหน้าหมั่นไส้
...ร้ายนักนะบยอนแบคฮยอน...
...ข้อควรระวังอีกข้อที่ปาร์คชานยอลพึงระวัง...
...อย่าชวนใครออกเดตเมื่อมีบยอนแบคฮยอนอยู่แถวนั้นเด็ดขาด! ไม่งั้นจะมีหมาฝาก(?)ติดไปด้วยแน่ๆ!...
.
.
.
.
.
“นายจะแต่งมาเต็มยศทำไม?”เสียงหวานๆที่แสนจะยียวนกวนประสาทสำหรับปาร์คชานยอลดังขึ้นทันทีที่เขาเดินเข้ามาถึงจุดนัดพบ
บยอนแบคฮยอนในชุดลำลองดูภูมิฐาน เสื้อเชิ้ตลายทางสีแดงขาวกางเกงสเลคพับขาสีน้ำตาลอ่อน ประกอบกับรองเท้าหนังสีน้ำตาลมันวาบ แล้วไหนจะแว่นกันแดดแบรนด์เนมนั่นอีก...
...ยังมีหน้ามาบอกว่าเขาเต็มยศอีกเหรอ?
“ก่อนออกจากบ้านนี่ส่องกระจกบ้างมั๊ย? มาทานไอติมนะไม่ได้เดินแฟชั่นโชว์”ริมฝีปากบางๆนั่งยังคงเอาแต่พ่นคำเหน็บแนมเขา ชานยอลได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ ร่างสูงอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขาเดปสีดำรองเท้าผ้าใบคู่โปรด ด้านนอกสวมทับด้วยเสื้อโค้ทยาวสีน้ำตาลอ่อนเพื่อป้องกันอากาศที่เริ่มจะเย็นตัวลงบ้างแล้ว
“เกาะคนอื่นเค้ามากินแล้วยังจะบ่นอะไรอีกไอ้เตี้ยหมาตื่น”สรรพนามของบยอนแบคฮยอนที่ถูกเลื่อนขั้นแล้วเรียบร้อยเรียกให้ดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงต้องตะหวัดมองด้วยความไม่พอใจ
“ใครเตี้ยวะไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!”
“พุ่มไม้ข้างๆนายไง...”ตอบหน้าตายเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ
...ปาร์คชานยอลบรรลุแล้วว่าการที่จะต่อสู้กับบยอนแบคฮยอนต้องเอาหน้าตายเข้าชนเท่านั้น!
“ฉันไม่ได้เตี้ยเว้ย! ขนาดฉันน่ะมาตรฐานชายเกาหลี...แกมันสูงเกินไปตะหาก!”เสียงหวานแหวออกมาอีกชุดใหญ่โดยไม่ได้สนใจเลยว่าจะมีผู้คนหันมามองพวกเขาหรือไม่
...ทำหน้าตายใส่ เดี๋ยวบยอนแบคฮยอนมันก็ร้อนตัวยอมรับเองนั่นแหละ!
“มาตรฐานลูกหมาใช่มั๊ย?”ถามหน้าตายอีกรอบ
“ไอ้!”หมดคำด่าแล้วจริงๆ บยอนแบคฮยอนได้แต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันจ้องหน้าเอ๋อๆมึนๆของอีกคนเท่านั้น
“มากันเร็วจัง”เสียงหวานๆที่ดังขึ้นไม่ไกลนัก หยุดสงครามย่อมๆที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้าได้อย่างชะงัก
“อ้าว....ทำไมพวกนายแต่งตัวดีจังล่ะ อย่างงี้ฉันดูเหมือนคนใช้ไปเลยสิ”ลู่หานเอ่ยก่อนจะพองลมที่แก้มอย่างน่ารัก
....ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ปาร์คชานยอลและบยอนมีความคิดเห็นตรงกัน...
...แต่งยังไงลู่หานก็น่ารักทั้งนั้นแหละ!
“ไม่หรอกครับพี่...ผมว่าพี่แต่งสบายๆแบบนี้ดูน่ารักดีออกครับ ไม่เหมือนบางคนที่จัดมาซะเต็มแต่ก็งั้นๆ...”พูดเสียงอ่อนเสียงหวานก่อนจะเหลือบไปมองอีกคนที่ว่าด้วยหางตา
“ใช่ครับ...ผมว่าพี่น่ารักจริงๆแหละครับ ไม่เหมือนใครบางคนที่เหน็บแนมเรื่องการแต่งตัวของคนอื่นแต่ไม่มองตัวเองเลยน่ะครับ...”พูดจบก็ทำเป็นมองต่ำ เจอเข้ากับดวงตาสวยของคนที่ถูกพาดพิงราวกับมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่อย่างบ้าคลั่ง
“เอ่อ...พี่เริ่มหิวแล้วล่ะ เราไปกันเลยดีกว่านะ”เมื่อเห็นเมฆครึ้มแห่งสงครามที่กำลังเคลื่อนคล้อยเข้ามาใกล้ ลู่หานจึงเอ่ยปากเพื่อทำให้บรรยากาศมันดีขึ้นกว่าเดิมอีกสักหน่อย
“ทำหน้าเป็นหมาปวดฉี่เลยนะนาย”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนจะเหลือบมองคนที่นั่งอยู่เก้าอี้ข้างๆตน ใบหน้าสวยของบยอนแบคฮยอนกำลังย่นยู่ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ปาร์คชานยอลไม่อาจทราบได้
“นายบอกว่าใครเหมือนหมานะไอ้ยีราฟ!”แล้วก็เป็นอนิจจาของโลกที่บยอนแบคฮยอนจะต้องตอบโต้กลับมาด้วยอาการที่เรียกว่าเหวี่ยงเหมือนเดิม
“นั่นสิแบคกี้...นายเป็นอะไรรึเปล่า หน้าตาไม่ค่อยดีเลยนะ?”ลู่หานที่หันมาสังเกตใบหน้าสวยของรุ่นน้องก็อดที่จะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้
“อ่า...งั้นผมขอตัวแป๊บนึงนะครับพี่ เดี๋ยวกลับมา...”เมื่อเห็นลู่หานพยักหน้าให้เป็นการอนุญาตบยอนแบคฮยอนก็จัดการระเห็จตัวเองพุ่งเข้าห้องน้ำทันที
…ที่ทำหน้ายู่ก็เพราะว่าเขาปวดฉี่น่ะสิ!
แต่ลางสังหรณ์มันบอกว่าอย่าละสายตาจากไอ้เสาไฟฟ้าเด็ดขาดไม่งั้นล่ะก็เป็นเรื่องแน่!
“พี่ลู่หาน...”เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอีกคนทันทีที่เห็นร่างบางของ กขค. เดินลับสายตาไป
“หือ?”เสียงหวานขานรับ ดวงตากลมจ้องมองคนเรียกด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัย
ฉึก!
ปาร์คชานยอลโดนรังสีโมเอะทิ่มแทง!
“ไปกันเถอะครับ”ชานยอลเอ่ยก่อนเด็กหนุ่มจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง สร้างความงงงวยให้กับอีกคนที่เพิ่งจะหย่อนตัวนั่งที่เก้าอี้ได้ไม่นานเป็นอย่างมาก
“ไปไหน?”
“เดตครับ!”พูดจบมือหนาก็คว้าข้อมือบางของอีกคนก่อนจะออกแรงยื้อให้อีกคนลุกตามตนเองมา ซึ่งมันก็ได้ผลเป็นอย่างดี ลู่หานยอมปล่อยให้อีกคนลากไปตามที่ต้องการ
“แล้วแบคกี้ล่ะ?”
“แบคฮยอนเขาอยากให้เราไปเดตกันครับนี่เป็นแผนของเขา!”พูดเองแหลเองแบบสดๆ เมื่อเห็นใบหน้าหวานของอีกคนซับสีเรื่อปาร์คชานยอลก็เผยยิ้มกว้างอย่างพออกพอใจ
...ลุกเสียหมา(?)น่ะเคยได้ยินมั๊ยบยอนแบคฮยอน!!!!
เลวมาก!!!!!
หลังจากที่ทำธุระส่วนตัวเสร็จบยอนแบคฮยอนก็รีบพาตัวเองกลับมายังโต๊ะของพวกเขาทันที แต่เมื่อกลับมาถึงไอ้โต๊ะนั่นมันกลับว่างเปล่าน่ะสิ!
ไม่ต้องเดาอะไรให้มากความบยอนแบคฮยอนก็หยั่งรู้ได้ทันที...
ฝีมือปาร์คชานยอลแน่นอน!
คิดว่าจะหนีเขาพ้นงั้นเหรอ?
แค้นนี้ต้องชำระน่ะเคยได้ยินมั๊ยปาร์คชานยอล!!!
.
.
.
.
.
ย่านการค้าชื่อดังใจกลางเมืองกำลังคลาคล่ำไปด้วยผู้คน บ้างก็พากันออกมาจับจ่ายซื้อของใช้จำเป็นเข้าบ้าน บางคนก็ใช้ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวผ่อนคลายกำเพื่อนฝูง ร่างสูงของใครบางคนกำลังก้าวขายาวๆอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้สนใจคนที่ตนเองลากมาด้วยเลยแม้แต่นิดเดียว
“ชานยอล...เดินช้าๆหน่อยได้มั๊ย?”เสียงหวานปนเสียงหอบเอ่ยขึ้นเบาๆจากด้านหลังทำให้ชานยอลเพิ่งรู้สึกตัว ขายาวๆของเด็กหนุ่มจึงลดระยะการก้าวลงมากเพื่อให้อีกคนก้าวเท้าตามทันได้อย่างไม่เหนื่อยมากนัก
“โอ๊ะ!”เสียงหวานของคนข้างๆอุทานขึ้นเรียกให้ชานยอลต้องหันไปให้ความสนใจ ใบหน้าหวานกำลังหันไปให้ความสนใจกับอะไรบางอย่างที่วางขายอยู่ข้างทาง ดวงตาคู่สวยพราวระยิบด้วยความตื่นตาตื่นใจ
“นี่ๆ...ชานยอลนายดูนี่สิ!”พูดจบมือเล็กก็คว้าสร้อยคอเส้นสวยที่ประดับไปด้วยจี้รูปดาวน่ารักขึ้นมาให้เขาดู
“น่ารักมั๊ย?”ลุ่หานเอ่ยถามเสียงใส ดวงตากลมจ้องมองเด็กหนุ่มร่างสูงปริบๆอย่างรอคำตอบ ชานยอลอดที่จะยิ้มไปกับความน่ารักของอีกคนไม่ได้
“ผมว่าก็งั้นๆอ่ะ...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเรียบๆเรียกให้ใบหน้าหวานงอง้ำลงอย่างเห็นได้ชัด
“...พี่ลู่หานน่ารักกว่าตั้งเยอะ”ชานยอลพูดก่อนมือใหญ่จะเอื้อมไปสัมผัสกับปอยผมด้านข้างขางคนตัวเล็กกว่าอย่างหลงใหล นัยน์ตาสีนิลสวยจ้องตรงไปยังดวงตาสีน้ำตาลอ่อนของอีกคนจนเจ้าของต้องเบือนหน้าหนีด้วยความเก้อเขิน
ลู่หานค่อยๆวางสร้อยเส้นนั้นลงที่เดิมก่อนจะเดินก้มหน้าก้มตาออกไปจากตรงนั้นทันที ชานยอลมองตามแผ่นหลังบางของอีกคนที่ห่างออกไปช้าๆก่อนริมฝีปากได้รูปจะเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู
...ยิ่งมองเขาก็ยิ่งรู้สึกว่าลู่หานน่ารักน่าทะนุถนอมไม่เหมือนกับ...
แล้วนี่จะไปคิดถึงใบหน้ากวนๆของไอ้ลูกหมาทำไมเนี่ย!
“เท่าไหร่ครับ?”หลังจากที่ตบตีกับความคิดของตัวเองเสร็จแล้วปาร์คชานยอลก็จัดการหันไปถามราคาสร้อยคอเส้นสวยกำแม่ค้าทันที
“...เดตกับพี่ลู่หานนะปาร์คชานยอล”พูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะยิ้มกว้างแล้ววิ่งตามร่างบางของอีกคนไปทันที
“ฮะๆๆๆ เหมาะกับนายมากเลย!”เสียงหวานเอ่ยไปหัวเราะไปอย่างสดใส มือเรียวเอื้อมมือไปจัดการกับหมวกรูปยีราฟหน้าตาตลกที่อยู่บนหัวของอีกคนให้เข้าที่
...ผู้ชายที่หน้าเหมือนยีราฟกำลังใส่หมวกยีราฟ...
ฟึ่บ!
“นี่แน่ะ!”ชานยอลจัดการคว้าหมวกรูปหมูสีชมพูน่ารักน่าชังสวมลงบนหัวของคนที่เอาแต่หัวเราะเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“อะไรอ่ะ?”เสียงหวานเอ่ยถามก่อนจะคว้าหมวกลงมาดู
“หน้าเหมือนพี่เลย...ฮ่าๆๆๆๆ”ว่าแล้วก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งแต่เสียงหัวเราะก็ต้องหายไปกระทันหันเมื่อมีแรงหนักๆมาเตะเข้าที่หน้าแข้งของเขา
“ชานยอลอ่ะ!”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างงอนๆก่อนจะง้างเท้าแตะเข้าไปที่หน้าแข้งอีกข้างของปาร์คชานยอลไม่เบานัก เล่นเอาเด็กหนุ่มหน้าเขียวไปได้เหมือนกัน
เออ! เขาลืมไปว่าพี่ลู่หานเป็นอดีตกับตันชมรมฮับคิโด้!
“ว้าว~ นั่นไอติมนี่!”เสียงหวานร้องลั่นก่อนนิ้วเรียวจะชี้ไปยังรถขายไอศกรีมที่กำลังถูกรุมล้อมไปด้วยเด็กตัวเล็กๆ ชานยอลที่กำลังเดินกะเพลกๆเพราะความเจ็บปวดที่หน้าแข้งยังไม่หายไปเลยได้แต่ส่งยิ้มแหยๆไปให้อีกคน
เป็นเวลานานพอสมควรที่ชานยอลจะฝ่ากลุ่มเด็กตัวเล็กๆเข้าไปได้ ไม่ใช่แทรกไม่ได้นะแต่กลัวเดินเข้าไปตรงๆเข่าจะไปกระแทกหัวเด็กน้อยเข้าสักคนน่ะสิ!
“ช้าจัง....”ลู่หานที่นั่งรอเด็กตัวสูงไปซื้อไอศกรีมพอเห็นร่างโย่งๆเดินกลับมาก็เบะปากบ่นน้อยๆอย่างน่ารัก
“...ขอโทษครับก็คนมันเยอะอ่ะ”ชานยอลเอ่ยขอโทษเบาๆก่อนจะยื่นไอศกรีมในมือให้อีกฝ่าย
“ไม่รู้ล่ะ...ฉันรอนานมากเพราะงั้นต้องโดนทำโทษ!”เสียงหวานเอ่ยเสียงเด็ดขาด ใบหน้าน่ารักนั้นตีหน้าจริงจังอย่างที่ตนพูด
แต่ปาร์คชานยอลกลับมองว่ามันน่ารัก....
งั่ม!
ริมฝีปากเล็กจัดการขโมยไอศกรีมของอีกคนเข้าปากทันทีที่พูดจบ
“เฮ้ย!!! พี่เอายอดมันไปเหรอ???”ปาร์คชานยอลร้องลั่นเมื่อเห็นว่าไอศกรีมส่วนที่อยู่ในปากของร่างบางนั้นคือยอดของไอศกรีมที่แสนอร่อยของเขา
โถ่!! นี่ปาร์คชานยอลเล็งมานานมากเลยนะ
“สม!”พูดจบก็จัดการกินยอดไอศกรีมของตัวเองทันทีป้องกันการถูกขโมยไปโดยอีกฝ่าย
“ร้ายนักนะพี่ลู่หาน!”ชานยอลเอ่ยขึ้นก่อนจะอ้าปากงับเอาไอศกรีมของคนตัวเล็กหายไปเกือบครึ่ง! ดวงตาสวยเบิกกว้างก่อนริมฝีปากบางจะเบะออกเล็กน้อยอย่างไม่พอใจ
“ชานยอลนั่นแบคฮยอนรึเปล่าน่ะ!”เสียงหวานเอ่ยออกมาอย่างตกใจ นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังด้านหลังของเขา
เมื่อมีชื่อของมารความรักของเขาดังขึ้นจากอีกคนปาร์คชานยอลก็หันไปสนใจอย่างเสียไม่ได้ แต่เมื่อหันไปก็พบเพียงความว่างเปล่า... หรือว่า!!?
งั่ม!
ไอศกรีมของปาร์คชานยอลหายไปอีกกว่าครึ่งด้วยฝีมือของคนสวยที่มาด้วยกัน ใบหน้าสวยแสดงออกมาว่าไอศกรีมนั้นอร่อยนักหนาเพื่อเป็นการเยาะเย้ยอีกฝ่าย
“เล่นอย่างนี้ใช่มั๊ยพี่ลุ่หาน!”และแล้วทั้งสองก็แย่งไอศกรีมของอีกคนกินกันอย่างสนุกสนานโดยไม่สนใจเลยว่าผู้คนที่สวนสาธารณะนั้นจะมองพวกเขายังไง
ปาร์คชานยอลแค่คิดว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุข...เท่านั้นแหละ
.
.
.
.
.
อยู่ไหนวะ?!
อย่าให้เจอนะ! การเดตโง่ๆต้องโดนทำลายแน่นอน!
บยอนแบคฮยอนรับประกันเลย!
ถ้าใครเดินผ่านย่านการค้าชื่อดังใจกลางเมืองล่ะก็จะพบกับสิ่งมีชีวิตประหลาดที่กำลังเดินบ่นคนเดียวเหมือนลูกหมาหิวนม(?)
บยอนแบคฮยอนกำลังหงุดหงิดงุ่นง่านระยะสุดท้าย...
เพราะอะไรน่ะเหรอ?
ก็ไอ้เสาไฟฟ้าหน้าโง่มันพาพี่ลู่หานคนงามของเขาหนีหายไปไหนก็ไม่รู้น่ะสิ!
ตั้งแต่เช้าเขาก็เดินตามหาสองคนนั้นทั่วไปหมด ร้อนก็ร้อน เมื่อยก็เมื่อย ตอนนี้แถมให้อีกอย่างคือหิว!
โว๊ย!!!! รู้มั๊ยว่าเรื่องกินน่ะมันเรื่องใหญ่ของบยอนแบคฮยอนเลยนะเว้ย!
ใจก็อยากจะตามหาพวกนั้นนะ...อยากจะไปขัดขวางความสุขของปาร์คชานยอลจริงๆ!
แต่กองทัพต้องเดินด้วยท้อง!
ก็เหมือนบยอนแบคฮยอนที่ถือคติว่าอิ่มท้องก่อนอย่างอื่นที่หลัง!
คิดจบดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงก็กวาดสายตาไปทั่วเพื่อสอดส่องหาร้านอาหารที่ต้องตาต้องใจและถูกปากทันที
พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับร้านอาหารอิตาลี่หรูหราที่บรรยากาศน่านั่ง...
ไม่รอช้าขาเรียวพาร่างตัวเองเดินตรงไปทันที
แบคฮยอนกวาดสายตาไปรอบๆเพื่อหาที่นั่ง แต่แล้วก็ต้องชะงักกึกเมื่อหันไปเห็นคนสองคนที่กำลังนั่งทานข้าวอยู่ที่โต๊ะที่อยู่มุมร้าน...
ปาร์คชานยอลและพี่ลุ่หาน!!!
หึหึ...แกเสร็จแน่ไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋อ!
บยอนแบคฮยอนหัวเราะหึหึในลำคออย่างชั่วร้ายจนคนแถวนั้นเริ่มพากันถอยห่าง ร่างบางทิ้งตัวลงนั่นที่โต๊ะไม่ไกลจากโต๊ะของเป้าหมายมากนัก
“น้องครับ...ไอ้เอ๊ย! คุณผู้ชายโต๊ะนั้นสั่งเครื่องดื่มอะไรครับ?”เสียงหวานเอ่ยถามบริกรหนุ่มที่เดินมารับออเดอร์
“น้ำพันซ์ครับ...”บริกรหนุ่มเอ่ยตอบอย่างงงๆ
“งั้นขอน้ำพันซ์แก้วนึงครับ”บริกรหนุ่มรับออเดอร์ก่อนจะเดินหายเข้าไปภายในร้าน มือเรียวคว้ากระดาษทิชชู่บนโต๊ะและปากกาจากกล่องส่งความคิดเห็นมาก่อนจะเริ่มเขียนอะไรบางอย่างลงไป เขียนไปหัวเราะไปจนลูกค้าโต๊ะอื่นเริ่มลุกหนีอย่างหวาดผวา
ไม่นานนักเครื่องดื่มที่เขาสั่งก็มาถึง บริการหนุ่มโค้งให้เขาหนึ่งครั้งก่อนจะขอตัวออกไป บยอนแบคฮยอนมองแก้วน้ำพันซ์สีสวยแล้วริมฝีปากสวยก็แย้มรอยยิ้มถูกใจ
“เสร็จแน่ไอ้เอ๋อ...”บ่นพึมพำกับตัวเองก่อนจะคว้าบรรดาเครื่องปรุงและเครื่องโรยหน้าต่างๆที่วางไว้บนโต๊ะมาประโคมใส่แก้วน้ำพันซ์สีสวยตรงหน้าทันที
“น้องๆ...”เสียงหวานเอ่ยเรียกบริกรหนุ่มที่อยู่ใกล้ๆก่อนจะยื่นกระดาษทิชชู่สองแผ่นที่ตนเขียนไว้ให้กับบริการคนนั้น
“รบกวนเอาน้ำพันซ์นี่ไปให้คุณผู้ชายโต๊ะนั้นนะ...แล้วน้องก็พูดตามนี้...ส่วนใบนี้ส่งให้คุณผู้ชายคนนั้นนะครับ ขอบคุณครับ”พูดจบมือเรียวก็ควักเอาธนบัตรออกมาสองสามใบ บริกรหนุ่มที่ตอนแรกดูจะงงๆรีบรับปากทันที
ดวงตาคู่สวยภายใต้แว่นกันแดดราคาแพงจ้องมองแผ่นหลังของบริกรหนุ่มที่เดินห่างจากเขาไปเรื่อยๆด้วยความเบิกบานใจ...
ที่เหลือก็รอดูผลงานละ!
“ขอโทษครับ...”เสียงเอ่ยจากบริกรหนุ่มดังขึ้นเรียกให้สองคนที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนานต้องหันไปให้ความสนใจ
“...ทางร้านมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคู่รักครับ...ซื้อน้ำพันซ์หนึ่งแก้วแถมฟรีหนึ่งแก้วครับ...”บริกรหนุ่มค่อยๆวางแก้วน้ำพันซ์สีสวยลงบนโต๊ะก่อนจะขอตัวออกมา
“...เค้าว่าเราเป็นคู่รักกันน่ะครับ”ชานยอลเอ่ยก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้างจนเห็นฟันครบทุกซี่
“...เค้าแค่เข้าใจผิดไปเองนั่นแหละ!”ลู่หานเอ่ยแก้ก่อนใบหน้าหวานจะเสมองไปทางอื่นเมื่อเจอกับรอยยิ้มทะแล้นของอีกคน
“แต่ผมอยากเป็นจริงๆนะ...จะได้กินน้ำพันซ์ฟรีบ่อยๆ”พูดแล้วก็ยกแก้วน้ำพันซ์ฟรีขึ้นมากระดกอย่างถูกใจ
“...นายนี่มัน...”
ปูดดดดดด!!!!
ยังไม่ทันที่จะเอ่ยได้จบประโยคก็เป็นอันต้องหยุดชะงัก เพราะน้ำพันซ์มันพุ่งเข้าเต็มหน้า...
จากปากของปาร์คชานยอลน่ะนะ!!
“พี่ลู่หาน!!!”ชานยอลร้องเสียงหลงเมื่อพบว่าตัวเองทำอะไรลงไป กำลังจะเอื้อมไปหยิบทิชชู่มาเช็ดหน้าให้อีกคนแต่ลู่หานก็ยกมือห้ามเป็นเชิงว่าไม่เป็นไร เด็กหนุ่มเลยจัดการคว้าทิชชู่ใกล้ๆมาหมายจะเช็ดปากตัวเอง แต่แล้วก็ต้องชะงักกึกกับอะไรบางอย่างที่อยู่บนทิชชู่นั้น...
‘น้ำพันซ์ออริกาโน่ซอสมะเขือเทศและเครื่องปรุงตะวันตกสูตรใหม่สำหรับนายอร่อยมั๊ยปาร์คชานยอล’
ชานยอลรีบหยิบทิชชู่อันใหม่มาเช็ดปากให้เรียบร้อยก่อนดวงตาคมจะสอดส่องไปทั่วร้านด้วยสายตาเกรี้ยวกราด
พลันสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับโต๊ะหนึ่งทึ่อยู่ไม่ห่างมากนัก บยอนแบคฮยอนกำลังลังส่งยิ้มหวานจ๋อยจนคนทั้งร้านพากันหลงไหลมาให้เขา มือเรียวยกขึ้นโบกไปมาเป็นเชิงทักทาย ริมฝีปากบางสวยขยับไร้เสียงซึ่งเขาพอจับใจความได้ว่า
‘ไฮ~ น้ำพันซ์อร่อยมั๊ย?’
ไม่ต้องถามก็รู้ว่าคนต้นคิดน่ะเป็นใคร ชานยอลทำท่าเหมือนจะเดินเข้าไปอย่างหาเรื่อง แต่นิ้วเรียวกลับชี้มาที่โต๊ะเขาแล้วทำหน้าตาล้อเลียน ชานยอลหันกลับไปก็พบว่าลู่หานกำลังมองเขาด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยจนน่ากลัว
ตายห่า...
หันกลับไปอีกคนบยอนแบคฮยอนก็เดินยิ้มหวานออกนอกร้านไปแล้ว แต่ยังไม่วายหันมาโบกไม้โบกมือลาแถมด้วยการส่งจูบกลับมาให้อีกต่างหาก! เรียกเอาคิ้วและตีนของปาร์คชานยอลกระตุกยิกๆเลยทีเดียว
“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างวันนี้ด้วยนะครับ...วันหลังผมขอโอกาสแก้ตัวใหม่นะครับ...พอดีวันนี้ผมมีเรื่องจำเป็นต้องไปก่อนพี่ลู่หานกลับเองได้ใช่มั๊ยครับ?”พูดจบก็ไม่รอให้อีกคนได้ตอบมือหนาควักเงินมาวางไว้บนโต๊ะแล้ววิ่งออกจากร้านไปทันที ทิ้งไว้แต่ลู่หานที่ได้แต่นั่งงงอยู่คนเดียวเท่านั้น
บยอนแบคฮยอนครั้งนี้มันจะเกินไปแล้ว!
สงสัยต้องสั่งสอนซะบ้างแล้วว่าลิมิตมันอยู่ตรงไหน!!!
.
.
.
.
.
.
บยอนแบคฮยอนกำลังเดินกลับด้วยใบหน้าเบิกบานเป็นที่สุด การได้แก้แค้นปาร์คชานยอลเล็กๆน้อยๆมันทำให้ชีวิตของเขาช่างสดใสเสียจริง ป่านนี้ปาร์คชานยอลต้องกำลังก้มหัวขอโทษพี่ลู่หานเป็นการใหญ่แน่ๆ!
หมับ!
บยอนแบคฮยอนที่กำลังเดินผิวปากสบายใจสะดุ้งสุดตัวทันทีเมื่อมีอะไรบางอย่างมาฉุดข้อมือบางของเขาเอาไว้
“...ไอ้เอ๋อ!”เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เพราะเมื่อเขาหันกลับมาดูว่าใครที่ดึงข้อมือของเขาเอาไว้ ดันกลับมาเจอใบหน้าเอ๋อๆของไอ้เสาไฟฟ้าคู่ปรับเสียอย่างนั้น
“จะไปไหน...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมารอดไรฟันอย่างเก็บอารมณ์เมื่อคนตัวเล็กที่โดนเขาฉุดรั้งไว้กำลังพยายามสะบัดแขนออกจากการกอบกุมอย่างเอาเป็นเอาตาย ขาเรียวก็พยายามลากร่างตัวเองออกให้ห่างๆเขาทันที
“...จะกลับบ้านแล้ว....”เสียงหวานเอ่ยอุบอิบก่อนมือเรียวอีกข้างที่ว่างอยู่จะพยายามแกะมือเขาออกจากข้อมือของตน
“จะรีบไปไหน...ไปคุยกันก่อนสิ...”เสียงทุ้มเอ่ยด้วยน้ำเสียงแกมสั่ง มือหนาคว้าข้อมืออีกข้างของแบคฮยอนที่พยายามช่วยแกะมือเขามาจับไว้แน่น ก่อนจะออกแรงลากให้อีกคนตามมา ซึ่งมันก็ง่ายดายเหลือเกิน...
ตลอดทางบยอนแบคฮยอนก็เอาแต่ขัดขืนปาร์คชานยอลก็เอาแต่ลาก จนในที่สุดทั้งคู่ก็มาหยุดอยู่ที่โรงแรมหรูใจกลางเมืองแห่งหนึ่ง
ร...โรงแรม!!!!
“...มาที่นี่ทำไม?!”บยอนแบคฮยอนตะโกนถามอีกฝ่ายตาโตจนลูกตาแทบถลน
“ก็หาที่คุยไงบยอนแบคฮยอน...”ชานยอลเอ่ยเสียงเหี้ยมเรียกเอาคนตัวเล็กเสียวสันหลังวาบพยายามดิ้นออกจากการกอบกุมของอีกฝ่ายแต่มันก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี
ชานยอลลากแบคฮยอนไปยังห้องพักที่เขาเพิ่งจองไว้เมื่อครู่ทันทีโดยมีการขัดขืนและโหวกเวกโวยวายของอีกคนเป็นแบกกราวน์มิวสิค(?)
“โอ๊ย!”ทันทีที่เข้าห้องชานยอลก็เหวี่ยงคนตัวเล็กลงบนเตียงจัดการล็อกประตูห้องให้เรียบร้อย มือหนาจัดการปลดกระดุมเสื้อโค้ตตัวยาวของตนออกเพราะอุณหภูมิภายในห้องนั้นอุ่นกว่าด้านนอก
“...ชานยอล?”แบคฮยอนเอ่ยเรียกชื่ออีกคนด้วยน้ำเสียงที่เริ่มไม่นิ่งเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังเดินก้าวฉับๆเข้ามาหาตัวเองที่แอ้งแม้งอยู่บนเตียง ใบหน้าหล่อเหลานั้นเรียบเฉยอย่างที่ไม่สามารถเดาอารมณ์ได้เลย
แบคฮยอนรีบยันตัวขึ้นและลงจากที่นอนแต่ก็ไม่ทันอีกคน เพราะมือหนาเอื้อมมาคว้าข้อเท้าของเขาไว้ก่อนจะลากเขากลับมาบนเตียงได้อย่างง่ายดาย เมื่อเห็นว่าไม่ได้ผลดวงตาคู่สวยก็เริ่มกวาดสายตาไปทั่วห้องเพื่อหาทางหนีทีไล่ทันที
“ไม่ต้องคิดจะหนีหรอกนะ...นายหนีไม่พ้นหรอก...”เสียงทุ้มเอ่ยขู่
“...ก...ก็ลองดูเด่ะ!”แต่บยอนแบคฮยอนก็ยังเป็นบยอนแบคฮยอน ขอให้ได้ปากเก่ง สถานการณ์ไหนก็ไม่เกี่ยงทั้งนั้น
“...คราวนี้ฉันเอาจริง...”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างมั่นคงไม่ได้มีกระแสล้อเล่นแต่อย่างใด
ตอนนี้ในหัวของบยอนแบคฮยอนมีแต่ตัวอักษรวิ่งไปมา...จับใจความได้ว่า...
ชิบหายยยยยยยยยย!!!!
TALK.
ความคิดเห็น