ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO] Play Boy's GAME (Chanyeol x Baekhyun) | END.

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2

    • อัปเดตล่าสุด 9 ก.ย. 55


     CHAPTER  2

     9.9.12

     

     

     






    คิดผิด...

     

    บอกได้คำเดียวว่ามันคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของปาร์คชานยอล!!!

     

     

     

     

    ดวงตาคมเหลือบมองอีกคนที่กำลังขัดกำแพงอย่างเอาเป็นเอาตายเล็กน้อย  เหมือนว่าคนถูกมองจะรู้สึกตัวใบหน้าสวยจึงเบือนมาสบกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา  ก่อนริมฝีปากบางจะยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า  ดวงตาคู่สวยพราวระยิบด้วยความสะใจ!

     

    การที่ออกมาจากห้องน้ำนั่นคือสิ่งที่คิดผิดจริงๆ!

     

    ชานยอลเลิกสนใจใบหน้ากวนอารมณ์ของอีกคนแล้วหันมาให้ความสนใจกับการทำความสะอาดกำแพงและพื้นทางเดินที่ทอดยาวไปจนถึงอีกอาคารหนึ่ง

     

    ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตน  ทำให้การทำความสะอาดครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นกว่าที่ควร  ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เต็มใจที่จะยอมรับมันเพราะเหนื่อยจากการทะเลาะกันแล้ว

     

    “เฮ้อ~”แบคฮยอนพ่นลมหายใจยาว  ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปบนกำแพงที่ตอนนี้กลับมามีสีขาวสะอาดอย่างที่มันควรจะเป็นแล้ว

     

    ความเงียบที่ได้ยินแม้เสียงถอนหายใจเบาๆของตัวเองทำให้บยอนแบคฮยอนรู้สึกตัว  อากาศเย็นเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ  ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มแล้ว  ไร้เงาของพระอาทิตย์เหมือนก่อนหน้านี้มีเพียงแค่แสงไฟจากหลอดนีออนบนเพดานทางเดินเท่านั้นที่ให้ความสว่างแก่พวกเขา

     

    แบคฮยอนแอบมองใบหน้าเคร่งขึมของอีกคนที่กำลังนั่งขัดกำแพงส่วนสุดท้ายที่เปื้อนอยู่  ร่างบางพ่นลมหายใจพรูก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาทันที

     

    เงาดำที่พาดทับร่างของเขาบดบังแสงสว่างสังเคราะห์จากหลอดนีออดเรียกให้มือใหญ่ชะงักก่อนเจ้าของมือจะหันไปมองเจ้าของเงา

     

    “จะช่วย...”เสียงหวานเอ่ยสั้นๆทั้งๆที่ไม่มองหน้าก่อนจะหย่อนตัวนั่งยองๆลงให้เสมอกับเขา  ในมือเรียวมีผ้าขี้ริ้วดำๆผืนหนึ่งที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักมาด้วย  ชานยอลลอบมองอีกคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดกำแพงที่ทั้งเขาและอีกคนดูจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้มันเละเทะอย่างนี้

     

    บางทีบยอนแบคฮยอนอาจจะไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่เขาคิดก็ได้...

     

    จ้องมาตั้งนานก็เพิ่งจะสังเกตเห็นรอยเปื้อนสีดำๆเป็นปื้นๆที่แก้มใสของอีกคน  การกระทำมักเร็วกว่าความคิดเสมอ...

     

    มือใหญ่เลื่อนไปใกล้แก้มใสหมายจะเช็ดรอยเปื้อนดำๆตำหนิเพียงหนึ่งเดียวที่มีบนใบหน้าสวยนั้นออก...

     

     

    ด้วยผ้าขี้ริ้วน่ะนะ!!

     

    “เฮ้ย!”แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีสัมผัสเย็นๆสัมผัสเข้าที่แก้มข้างขวา  ดวงตาสวยตะวัดมองอีกคนโดยอัตโนมัติก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือใหญ่ที่ยื่นค้างมาด้านหน้าแถมในมือนั่นยังมีผ้าขี้ริ้วมอมแมม

     

    ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไอ้เย็นๆที่โดนหน้าเขาเมื่อครู่มันคืออะไร!

     

    “เฮ้ย!”รอบนี้กลับเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงเสียเองที่ร้องลั่น  เพราะไอ้คนที่เขาเอาแต่จ้องอย่างลืมตัวดันเอาผ้าขี้ริ้วเน่าๆปาใส่หน้าเขาเสียเต็มแรง

     

    “ทำอะไรของนายน่ะ!”เสียงทุ้มเอ่ยถามดวงตาคมเบิกกว้าอย่างตกใจ

     

    “ฉันต่างหากที่ต้องถามว่านายทำอะไร! เอาผ้าขี้ริ้วมาป้ายหน้าฉันนี่หมายความว่าไงห๊ะ!”เสียงหวานแหว  แบคฮยอนลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนดวงตาสวยจะจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ

     

    “ก็เห็นหน้าเปื้อนเลยหวังดีจะเช็ดให้”สาบานได้ว่าปาร์คชานยอลไม่ได้กวนตีนแต่อย่างใด...

     

    “ด้วยผ้าขี้ริ้วเนี่ยนะ!  บ้ารึเปล่าไอ้เสาไฟฟ้า!

     

    “คนเขาหวังดีนะเนี่ยไอ้ลูกหมา!”เอ่ยจบก็โยนผ้าขี้ริ้วที่อีกคนปามาคืนไปให้  แบคฮยอนรีบรับแทบไม่ทัน...นี่ถ้าเขารับไม่ทันมันคงเข้าหน้าไปแล้วนะเนี่ย!

     

    และแล้วทั้งสองฝ่ายก็ปาผ้าขี้ริ้วใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร...

     

    ที่บอกว่าแบคฮยอนอาจจะไม่เลวร้ายน่ะเรื่องจริง...

     

     

    แต่มันโคตรเลวร้ายเลยต่างหาก!!!  ชานยอลคอนเฟิร์ม!

     

     

     

     

     

    “เพราะนายแท้ๆเลยไอ้เสาไฟฟ้า...”ปากก็บ่นไปมือก็ออกแรงขยี้ผ้าขี้ริ้วที่อยู่ในมือเพื่อทำความสะอาดไป  แบคฮยอนอดที่จะแค้นเคืองไม่ได้  ถ้าไม่ใช่เพราะใครบางคนแถวนี้มันดันประกาศสงครามไม่ดูเวร่ำเวลาล่ะก็  การทำความสะอาดกำแพงและทางเดินคงไม่ต้องใช้เวลาสิ้นเปลืองแบบนี้หรอก!

     

    “อย่ามาโทษกันสิไอ้ลูกหมา...แล้วใครกันล่ะที่เล่นโยนผ้าขี้ริ้วแบบไม่ดูเวลากันน่ะ...ฉันเลยต้องกลับบ้านสามทุ่มเลยเนี่ย”เสียงทุ้มเอ่ยเถียง  มือใหญ่ก็กำลังล้างถังใส่น้ำอย่างลวกๆ

     

    “เฮอะ!”แบคฮยอนส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อีกคนทีนึงก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับการซักผ้าต่อ  นี่ถ้ามือสวยๆของเขาเปื่อยจนสาวไม่แลล่ะก็จะรับผิดชอบยังไงห๊ะปาร์คชานยอลไอ้เสาไฟฟ้า!

     

    ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็ซักผ้าเสร็จ  แบคฮยอนจัดการตากผ้าไว้กับขอบอ่างล้างอุปกรณ์ให้เรียบร้อย  ดวงตาคู่สวยเหลือบไปเห็นห้องพักนักกีฬาก็เพิ่งนึกออก  ประกาศรายชื่อนักกีฬาตัวจริง!

     

    ว่าแล้วก็เดินลิ่วๆไปดูทันที  ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยถามแว่วๆ  แต่แบคฮยอนก็ไม่คิดจะสนใจ  ขาเรียวพาร่างของตัวเองมาหยุดอยู่ที่บอร์ดข้างๆประตู  กระดาษแผ่นใหญ่ถูกนำมาติดไว้  ร่างบางจัดการกวาดสายตาไปทั่วแผ่นกระดาษเพื่อหาชื่อของตัวเองทันที  แต่...

     

    มันไม่มีชื่อของเขา!!!

     

    ดวงตาสวยเบิกกว้าก่อนที่แบคฮยอนจะเริ่มเอานิ้วมาช่วยในการไล่หารายชื่อของตัวเอง  แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็ไม่เจอชื่อของเขาเลยสักครั้ง!

     

    ถ้าใครผ่านมาแถวนั้นในตอนนี้จะเห็นแบคฮยอนกำลังทำร้ายบอร์ดประกาศอย่างบ้าคลั่ง  ถ้าแงะออกมาเหยียบได้ล่ะก็...บอร์ดนี้คงเต็มไปด้วยรอยเท้าของบยอนแบคฮยอนไปแล้ว!

     

    “หึหึ”เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอดังขึ้นจากด้านหลัง  หยุดอาการบ้าคลั่งของแบคฮยอนได้เป็นอย่างดี  ใบหน้าสวยหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยสายตาพิฆาต  ซึ่งอีกคนก็ทำเพียงแค่ยักคิ้วรับเท่านั้น

     

    ฮึ่ย!  หมั่นไส้!

     

    ทำไมน่ะเหรอก็เพราะว่าทุกคนที่เป็นตัวจริงติดหมดยกเว้นเขาคนเดียว  โดยมีไอ้บ้าเสาไฟฟ้าที่ยืนหน้าเอ๋ออยู่ตรงนี้นี่แหละที่มาแย่งตำแหน่งเขาไป!

     

    “จะไปไหนก็ไปเลยไป!  จะมายืนทำหน้าเอ๋อใส่ฉันหาสวรรค์วิมานอะไรไม่ทราบฮึไอ้เสาไฟฟ้า!”บยอนแบคฮยอนไม่ได้พาลแต่หมั่นไส้!

     

    “เอ้าพาลซะด้วย...นี่หวังดีกะจะกลับบ้านเป็นเพื่อนนะเนี่ย  ปากหมาอย่างงี้กลัวคนเค้าจะดักกระทืบกลางทางจนโรงเรียนเสียชื่อ  ในฐานะนักเรียนที่ดีเลยจะป้องกันไว้ก่อน...”พูดจบริมฝีปากได้รูปก็แสยะยิ้มอย่างยียวน

     

    “นายว่าใครปากหมาห๊ะไอ้เสาไฟฟ้า!!!!

     

    บยอนแบคฮยอนคนหล่อกำลังอารมณ์แปรปรวนอย่างถึงที่สุดกรุณาอยู่ให้ห่างในระยะห้าเมตรเป็นอย่างต่ำ...

     

    “เปล่าว่า...ฉันกำลังพูดความจริง  แล้วนี่จะกลับมั๊ย?  ไม่กลับก็ไม่เป็นไรนะ...เดี๋ยวอาจจะมีใครใจดีไปส่งนายก็ได้...”ชานยอลพูดก่อนดวงตาคมจะทำเป็นมองซ้ายขวาบนล่างอย่างสำรวจ

     

    “ใคร?”แบคฮยอนเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย  คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด

     

    “ก็....”

     

    “?”

     

    “...เจ้าที่แถวนี้ไง!”พูดจบร่างสูงก็หมุนตัวแล้วก้าวเร็วๆจากไปทันที  ทิ้งไว้แต่อีกคนที่สตันไปเรียบร้อยแล้ว...

     

    “ปาร์คชานยอล!!!”ชานยอลลอบยิ้มกับอีกคนที่รีบวิ่งทั่กๆมาหาเขาแทบไม่ทัน  เด็กหนุ่มแค่ลองหยอดๆเสียหน่อยไม่คิดว่าอีกคนจะเก็บเอาไปคิดจริงจังเสียขนาดนั้น  ดูได้จากใบหน้าสวยที่ตอนนี้ซีดเผือดแถมยังหันซ้ายหันขวาราวกับคนระแวงอะไรสักอย่าง

     

    เอ่อ...ปาร์คชานยอลแอบรู้สึกผิดเล็กๆ  เพราะดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของแบคฮยอนจริงๆ...

     

    จริงๆแล้วที่บอกว่ากลัวใครดักกระทืบน่ะพูดเล่น...กลัวว่าอีกคนจะโดนดักฉุดเสียมากกว่า...บยอนแบคฮยอนอาจจะไม่ใช่คนที่หน้าหวานจนอาจจะทักผิดว่าเป็นผู้หญิง  แต่ในสายตาเขาก็ยังจัดว่าสวยอยู่ดี...  เขาเคยสงสัยว่าอะไรที่ทำให้สาวๆติดคนหน้าสวยจนถึงขนาดที่ทำให้ได้ฉายาว่าเพลย์บอย...บางทีอาจจะเป็นเพราะนิสัยดันไปสะกิดต่อมความเป็นแม่ล่ะมั้ง  คิดแล้วก็ขำเบาๆกับความคิดของตัวเอง

     

    “...นายขำอะไร?”เสียงหวานติดจะไม่พอใจเอ่ยถามออกมาเบาๆ  ขณะที่ขาที่ไม่ยาวนักก็ยังคงพยายามสาวเท้าตามเขาให้ทันอยู่ดี  เห็นว่าอีกคนลำบากไม่น้อยชานยอลเลยตัดสินใจลดระยะการก้าวเท้าของตัวเองลง

     

    “เปล่า”เอ่ยตอบอีกคนเบาๆ  แต่แอบกลั้นยิ้ม

     

    หมับ!

     

    ขายาวชะงักกึกเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดึงชายเสื้อจากด้านหลัง  ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับไปมองที่มาทันที  มือเรียวสวยของอีกคนเอื้อมาจับชายเสื้อของเขาไว้ทั้งที่เว้นระยะห่างจากตัวเขาจนสุดแขน  ใบหน้าสวยก้มลงอย่างไม่ต้องการให้เห็นหน้า  แต่ผิวขาวที่ซับสีเรื่อก็ทำให้เขาเผยยิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิด

     

    “...โทษที”เสียงหวานเอ่ยเบาๆเพียงแค่นั้น  แต่ปาร์คชานยอลก็ไม่ได้สาวความอะไรต่ออีก  เขาเงียบแล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง  อีกคนก็เดินตามมาเงียบๆเช่นกัน

     

    ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้  แต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็เดินพ้นเขตโรงเรียนมาสักพักแล้ว  คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดพระจันทร์ดวงงามเลยหมดโอกาสที่จะได้เผยโฉมให้ใครต่อใครได้เห็น  มีเพียงแสงสว่างจากไฟถนนเท่านั้นที่ทำให้เขาสามารถมองทางเห็น

     

    “บ้านอยู่ที่ไหน?”ชานยอลหยุดเดินและเป็นเวลาเดียวกับที่อีกคนปล่อยมือออกจากชายเสื้อของเขา

     

    “...”

     

    “ให้ไปส่งมั๊ย?”เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเงียบ  นี่เขารู้สึกผิดที่ไปจี้จุดอ่อนของแบคฮยอนจริงๆนะ!

     

    “...เดี๋ยวกลับได้”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเรียบๆ  แต่ดวงตาก็ยังคงมองซ้ายขวาเลิกลั่กเหมือนคนขี้ระแวงเหมือนเดิม  ริมฝีปากบางเม้มแน่นเสียจนซีดขาว

     

    เห็นอย่างงี้ปล่อยกลับบ้านคนเดียวไม่ได้แหง...เดี่ยวเจออะไรแปลกๆแล้วเป็นลมตายกลางทางจะแย่เอา...

     

    “เดี๋ยวไปส่ง...”

     

     

    “ไม่จำเป็น”

     

     

    เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเอ่ยจบประโยค  ร่างสูงของเด็กหนุ่มอีกคนที่เขาจำได้ดีว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมของแบคฮยอนเอ่ยขึ้น

     

    “จงอิน...”เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยออกมาเบาๆ

     

    คิมจงอินอยู่ในชุดเสื้อกล้ามตัวเก่าและกางเกงขาสั้นสำหรับนอน  ในมือมีถุงพลาสติกขนาดเล็กใบหนึ่ง  คาดว่าคงไปซื้อของมา

     

    “เดี๋ยวพี่กลับกับผมก็ได้...พ่อพี่แทบจะถล่มซอยหาพี่แล้วเนี่ย...”พูดจบคนพูดก็สาวเท้าเข้ามาหาแบคฮยอนที่กำลังยืนเอ๋ออยู่ทันที  มือหนาคว้าข้อมือบางก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามตนไปยังทิศที่ต้องการทันที

     

    ชานยอลได้แต่มองตามแผ่นหลังบางของอีกคนที่ถูกดึงให้เดินลิ่วๆห่างออกไปทุกที  ส่วนคนดึงก็ยังไม่วายหันมาส่งสายตาไม่พอใจบางอย่างให้เขาเสียอย่างนั้น  ซึ่งปาร์คชานยอลเข้าใจความหมายของสายตานั้นเป็นอย่างดี...

     

     

     

    หวง....

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    ตึง!  โครม!

     

    เสียงอึกทึกครึกโครมยังคงดังออกมาต่อเนื่องจากภายในห้องชมรมห้องหนึ่งของโรงเรียน  แบคฮยอนได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อกอย่างหวาดผวา...เขาค่อนข้างมีความหลังฝังใจกับชมรมนี้เล็กน้อย

     

    ชมรมฮับคิโด

     

    ศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งของเกาหลีที่ถือว่าเป็นสุดยอด  แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร  เพราะมันเล่นจริงเจ็บจริง  มีแต่พวกไม่รักตัวเองเท่านั้นที่เลือกชมรมนี้...แต่เขารักตัวเองสุดๆ!

     

    ครืด!

     

    เสียงเลื่อนประตูเปิดเรียกให้แบคฮยอนหลุดออกจากภวังค์  ดวงตาคู่สวยได้แต่กระพริบมองคนเปิดประตูปริบๆ...เอ่อ...ต้องก้มลงมองเล็กน้อย

     

    “แบคกี้!!!!”เอ่ยเรียกเสียงดังสนั่นลั่นโลก  ก่อนเจ้าของเสียงร่างติดจะอวบจะโถมตัวเข้าหาเขาด้วยความรักใคร่เสียเต็มแรง  ซึ่งแบคฮยอนก็เอี้ยวตัวหลบได้ทัน  ทำให้คนที่โผมาเต็มแรงล้มลงไปกองกับพื้นทันที  แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาได้สำเร็จแล้วคว้าตัวเขาเข้าไปกอดทันที

     

    “อ้าวพี่แบคฮยอน...จะกลับมาชมรมเราแล้วใช่ป่ะ?”เสียงเป็ดๆที่ทักขึ้นอย่างคุ้นเคยทำให้แบคฮยอนต้องเหลือบมองเล็กน้อย  เซฮุนในชุดฝึกซ้อมกำลังยืนเท้าประตูแล้วส่งยิ้มยียวนมาให้เขา

     

    มีอีกเรื่องที่ทุกคนควรจะรู้...บยอนแบคฮยอนคนหล่อเคยอยู่ชมรมไม่รักตัวเองอย่างฮับคิโดมาแล้ว!

     

    “พ...พี่ซิ่วหมิน...ผมหายใจไม่ออก...”เสียงหวานเอ่ยเบาๆ  เมื่อรู้สึกว่าอีกคนจะรัดแน่นเกินไปแล้ว!

     

    “อ...อ่าวโทษทีเผลอใช้ท่าไปซะแล้ว”คนอายุมากกว่าหัวเราะแหะๆก่อนจะปล่อยให้คนในอ้อมกอดมีลมหายใจต่อไป

     

    “เข้าไปข้างในก่อนเถอะ...”เป็นเซฮุนที่เอ่ยขึ้นทำให้ซิ่วหมินจัดการลากเขาเข้าไปในชมรมทันที

     

    แบคฮยอนมองสถานที่ที่คุ้นเคยด้วยความรู้สึกมากมาย  ถึงเขาจะลาออกไปด้วยเหตุผลเห่ยๆ...แต่ยังไงคนที่นี่ก็ยังต้อนรับเขาเสมอ...

     

    “ว่าไงพี่?”เซฮุนเอ่ยถาม  ใบหน้าหล่อเหลากำลังแสดงอาการสงสัยอย่างเต็มที่

     

    “คือ...จะเป็นไรมั๊ยถ้าฉันจะกลับมาเล่นฮับคิโด...”ในที่สุดแบคฮยอนก็เอ่ยสิ่งที่เขานอนคิดทั้งคืนออกไป

     

    “...”ทุกคนที่นั่งฟังอยู่พากันเงียบกริบโดยมิได้นัดหมาย  นั่นยิ่งทำให้แบคฮยอนใจแป้วเพิ่มเข้าไปอีก

     

    “ได้ดิ”เสียงเอ่ยเบาๆจากคนที่ได้ชื่อว่ากัปตันชมรมเอ่ยขึ้น  เรียกให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ

     

    “นั่นดิทำไมจะไม่ได้อ่ะพี่”เซฮุนก็พยักหน้าเห็นด้วย

     

    “เย้~”ซิ่วหมินโผตัวเข้ากอดแบคฮยอนทันที

     

    “งั้นเข้าชมรมวันนี้เลยได้มั๊ย?”แบคฮยอนเอ่ยถาม  ซึ่งทุกคนในที่นั้นก็พากันพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย

     

     

     

    “ไม่ได้!!!เสียงทุ้มที่ตะโกนลั่นมาจากหน้าประตูชมรมเรียกให้ทุกคนต้องหันไปมอง

     

    “บยอนแบคฮยอนเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของชมรมบาส...ฉันจะไม่ยกให้ใครเด็ดขาดโดยเฉพาะชมรมนี้!”คริสเอ่ยนิ่งด้วยใบหน้าที่กำลังเครียดเขม็ง

     

    “พี่แบคฮยอนถ้าพี่อยากเป็นตัวจริงล่ะก็ผมยกตำแหน่งให้เลย  แต่อยู่ชมรมเราเหอะ”คิมจงอินเอ่ยออกมาพร้อมกับทำหน้าง้องแง้งเหมือนเด็กสามขวบไม่มีผิด

     

    “...แค่ไม่ได้เป็นตัวจริงถึงกับย้ายชมรมหนีเลยเหรอ?  นายนี่ป๊อดจริงๆ”ปาร์คชานยอลเอ่ยนิ่งๆ  แต่ใบหน้ากลับกวนบาทาเสียแทบทนไม่ไหว

     

    ก็ไอ้เสาไฟฟ้าตัวไหนล่ะที่มาแย่ตำแหน่งเขาไปน่ะ!  กล้าพูดเชียวนะ!

     

    “ชมรมนี้มันทำไม?”กับตันชมรมฮับคิโดเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง  เดินไปประจันหน้ากับกัปตันชมรมบาสทันที

     

    “เพราะกำลังแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ไง...หวงจื่อเทา”คริสเอ่ยเรียบๆ  เรียกสายตาไม่พอใจจากกัปตันชมรมได้อย่างไม่ยากเย็น

     

    ฝ่ายคิมจงอินก็เอาแต่จ้องมองแบคฮยอนราวกับจะสามารถลากร่างบางที่นั่งจ๋อมอยู่นี่กลับไปได้ด้วยสายตาอย่างไรอย่างนั้น  ปาร์คชานยอลก็เอาแต่ส่งยิ้มกวนประสาทมาให้จนคิ้วเรียวสวยของแบคฮยอนเริ่มกระตุกยิกๆ

     

    “อะไรอ่ะพี่ยอล?”เซฮุนเอ่ยถามคนรู้จักอีกคนที่เดินเข้ามาด้วย

     

    จะว่าไปแล้วที่ไอ้เซฮุนเมินเขาคราวนั้นยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ!

     

    “...มาเก็บหมาหลง”หน้านิ่ง...

     

     

    แต่คิ้วของบยอนแบคฮยอนกลับกระตุกยิกๆ  จากประสบการณ์ที่เกี่ยวพันกับมันตั้งแต่เมื่อวานทำให้เขาได้รู้ว่า  หมาหลงที่ว่าน่ะ  มันหมานถึงเขาล้านเปอร์เซ็นต์!

     

    “ปาร์คชานย...”

     

     

    “เอะอะอะไรกันเหรอ?”ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้ง้างปากด่าอีกคน  เสียงหวานๆราวกับนางฟ้าของปวงชนก็เอ่ยถามขึ้น  ก่อนจะตามมาด้วยร่างบางของใครอีกคนที่พวกเขารู้จักกันดี  ผู้จัดการชมรมคนงาม  พี่ลุ่หาน!!!

     

    “เปล่าครับพี่ลู่หาน...พวกผมแค่กำลังปรึกษากันเรื่องย้ายชมรมน่ะครับ...”เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยตอบแทน  เพราะทุกคนต่างเกรงกลัวสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้างามราวกับนางฟ้านั่นกันทุกคน  จะมีก็แต่แบคฮยอนเท่านั้นแหละที่พูดคุยได้อย่างสนิทใจ

     

    “เหรอ?  ก็เบาๆกันหน่อยนะมันรบกวนชมรมข้างๆ...แล้วนั่น...”ละไว้ในฐานที่เข้าใจ  ทุกสายตาพากันหันไปมองตามสายตาของลู่หาน

     

    “อ่อ...นี่ปาร์คชานยอลเด็กใหม่ที่เขาพูดถึงกันน่ะ...”น้ำเสียงเหี้ยมๆของคริสเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงประหม่าๆเสียงอย่างนั้น  ชายหนุ่มเอาศอกกระทุ้งสีข้างของอีกคนที่เอาแต่ยืนสตันทำหน้าเอ๋ออยู่เบาๆเพื่อเรียกให้กลับมาสู่โลกความจริง

     

    “อ...เอ่อ...สวัสดีครับ  ปาร์ชานยอลครับ...”ชานยอลเอ่ยออกมาเสียงตะกุกตะกักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

     

    “สวัสดีชานยอล...พี่ชื่อลู่หานยินดีที่ได้รู้จักนะ...”เสียงหวานเอ่ยเบาๆก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานหยดย้อยไปให้เหมือนที่มักจะส่งให้ทุกคนเป็นปกติ  แต่...

     

     

     

    ปาร์คชานยอลโดนแอคแทคเข้าไปเต็มๆ!

     

    ใบหน้าหล่อเหลานิ่งค้างทันทีที่ได้รับรอยยิ้มนางฟ้า...

     

     

     

    ซึ่งเห็นแล้วมันก็ขัดลูกกะตาของบยอนแบคฮยอนอย่างแรง!!

     

    “เอาเป็นว่าผมจะอยู่ฮับคิโดแล้วกันนะ...พอดีช่วงนี้มีเคราะห์เจอเปรตตามรังควานน่ะครับ..”พูดแล้วก็เหลือบไปมอง เปรตที่ว่า  จนใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังเคลิ้มฝันกับรอยยิ้มนางฟ้าตึงเปรี้ยขึ้นมาทันที

     

    “งั้นก็ดีสิ...พวกนายก็กลับไปได้แล้วมีซ้อมไม่ใช่เหรอ?”ลู่หานส่งยิ้มหวานไปให้ทุกคนรอบวงอย่างทั่วถึง  ซึ่งไม่มีใครขัดลู่หานได้หรอก  ทุกคนเลยจรลีกลับไปยังที่ที่ควรอยู่ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น

     

    ลู่หานยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปเตรียมน้ำสำหรับคนในชมรมตอนพักทันที  ทำเอาคนที่เหลือพากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก  โดยเฉพาะซิ่วหมินที่ดูเหมือนจะขาดออกซิเจนนานไปหน่อย  แก้มกลมๆนั้นถึงได้กลายเป็นเขียวๆม่วงๆไปซะงั้น

     

    “โชคดีจริง...ขอบคุณนายนะแบคกี้”ซิ่วหมินยิ้มแหยๆก่อนจะเอ่ยออกมา  เซฮุนและเทาเองก็พยักหน้าเห็นด้วย

     

    ที่พวกเขาเกรงกลัวลู่หานกันแบบนี้มันมีเหตุผลอยู่...ลู่หานคืออดีตกัปตันชมรมฮับคิโด!  แถมสมัยนั้นยังเป็นสมัยที่ชมรมฮับคิโดรุ่งเรืองที่สุด!  การันตีโดยถ้วยรางวัลมากมายที่วางโชว์กันให้สลอนในชมรมนี่แหละ!  จริงๆตอนนี้ก็ควรจะยังได้เป็นกัปตันอยู่...แต่เมื่อปีที่แล้วเขาดันประสบอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้ไม่สามารถใช้แรงงานขาอย่างหนักๆได้  เจ้าตัวเลยเต็มใจที่จะผันตัวมาเป็นผู้จัดการอย่างเต็มใจ  เพราะจะได้เป็นโค้ชให้ได้สะดวกๆ!  นรกชัดๆ!

     

    ภายใต้ใบหน้าสวยราวกับนางฟ้านั่นกลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งมหาศาล  พวกเขาเลยแอบตั้งฉายาให้กันอย่างลับๆ(ขืนรู้ก็ตายยกชมรมดิ)ว่า นางฟ้าสงครามอืม...ดูเข้ากันดีไม่ใช่เหรอ?

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    .

     

    “มาทำไม?”บยอนแบคฮยอนเอ่ยถามเสียงเครียด  ใบหน้าสวยจ้องมองอีกคนด้วยสายตาที่เรียกว่าไม่พอใจอย่างถึงที่สุด

     

    “ต้องบอกนายด้วยเหรอ?”เสียงทุ้มเอ่ยตอบ  ปาร์คชานยอลก็ยังคงกวนบาทาอย่างคงเส้นคงวาเหมือนเดิม

     

    “ก็นี่มันชมรมฉัน”แบคฮยอนเอ่ย

     

    “กล้าพูดเนอะ...แล้วชมรมบาสล่ะ?”

     

    “นั่นก็ชมรมฉันเหมือนกัน...”

     

    “จับปลาสองมือนี่นาย...”ปาร์ชานยอลเอ่ยขึ้นก่อนจะยักคิ้วมาให้อีกคนอย่างยียวน

     

    “เอ๊ะ!  นี่นาย...”แบคฮยอนทำท่าจะเถียงกลับ  แต่มันก็นึกไม่ออก!

     

    นับวันยิ่งคุยกับไอ้เสาไฟฟ้านี่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งประสาทกิน!

     

    “ฮึ่ย!  ช่างมันเหอะ!  มีธุระอะไรก็รีบๆจัดการให้เสร็จแล้วก็ไสฟันเยอะๆของนายกลับไปได้แล้วไอ้เสาไฟฟ้า!”พูดจบก็สะบัดมือไล่อย่างรังเกียจ

     

    “อย่างกับฉันอยากเห็นหน้านายนานๆงั้นแหละ...หลบไปให้พ้นๆจากประตูได้แล้วนายน่ะ  ถ้าอยากกินกระดูกนักล่ะก็  ถังเศษอาหารหลังโรงเรียนมีให้นายแน่นอนไอ้หมาน้อย...ไม่ต้องมาอ้อนเจ้านายแบบฉันหรอกนะ...”ยักคิ้วให้ข้างหนึ่งเป็นอันว่าจบสูตร

     

     

     

    บยอนแบคฮยอน K.O.!!

     

    “ฮึ่ย!”บยอนแบคฮยอนที่กำลังหงุดหงิดเหนือโลกเลยจัดการเดินปึงปังกลับเข้าไปซ้อมกับคนในชมรมต่อ  ซึ่งความรุนแรงของการซ้อมเพิ่มขึ้นเป็นเลเวลสี่!

     

    “...พี่ลู่หาน”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  เรียกให้เรดาร์สอดรู้สอดเห็นของบยอนแบคฮยอนเริ่มทำงานทันที  ใครมาก็จับเหวี่ยงไปงั้นๆแต่หูก็ยังฟังบทสนทนาระหว่างนางฟ้าและเสาไฟต่อไป

     

    “หือ?...อ้าว ชานยอล”มือบางที่กำลังง่วนอยู่กับการรินน้ำใส่แก้วเตรียมไว้ให้คนในชมรมชะงักกึก  ก่อนเจ้าของจะหันมามองคนเรียกแล้วส่งยิ้มหวานมาให้เป็นการทักทาย

     

    “เอ่อ...คือ...”เจอรอยยิ้มยิ้มนางฟ้าแอคแทคเข้าไป  ขนาดชานยอลยังไปไม่เป็นเลยทีเดียว

     

    “มีอะไรรึเปล่า?”เสียงหวานเอ่ยถาม  เมื่อเห็นว่าไอ้เด็กตรงหน้านี้ยังเอาแต่อ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที

     

    “...คือผม....”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆอย่างประหม่า  เรียกให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของบยอนแบคฮยอนทำงานหนักยิ่งขึ้นไปอีก

     

    “...ผมช่วยแล้วกันครับ...”ในที่สุดชานยอลก็เอ่ยมันออกมาจนได้  ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่อยากจะพูดจริงๆก็เถอะ!

     

    “...ขอบคุณนะ”เสียงหวานเอ่ยก่อนจะหันกลับไปรินน้ำต่อ  โดยมีชานยอลเป็นลูกมืออย่างดี  ดวงตาคมของปาร์คชานยอลลอบมองเสี้ยวหน้าสวยของอีกคนอย่างสำรวจ  เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนขับใบหน้านวลให้หวานขึ้น  ประกอบกับดวงตากลมโตจมูกโด่งรั้นและริมฝีปากบางสวย  ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าคนคนนี้น่ารักมากขนาดไหน...

     

    “ชานยอล...น้ำ!”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนเรียกให้เด็กหนุ่มร่างสูงหลุดออกจากภวังค์  ก่อนจะรีบวางเหยือกน้ำแทบไม่ทัน  เขาเผลอมองอีกคนนานไปเสียจนน้ำที่รินอยู่นั้นมันล้นออกมาเสียมากโข

     

    “ไม่เป็นไร...หลบออกไปยืนที่แห้งๆก่อนนะ  เดี๋ยวพี่ไปเอาผ้ามาเช็ด...”พูดจบลู่หานก็กระวีกระวาดออกไปทันที

     

    “เฮ้อ~”ชานยอลได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง  เจอคนสวยๆมาก็มาก  แถมยังสอยติดไม้ติดมือมาได้ทุกครั้ง  แต่ไม่มีครั้งไหนเลยจริงๆที่เขาจะรู้สึกทำตัวไม่ถูกแบบนี้!

     

    “อ่อนว่ะ...”เสียงหวานเอ่ยออกมาลอยๆไม่ไกลนักเรียกให้ปาร์คชานยอลต้องหันกลับไปมอง  บอยนแบคฮยอนกำลังลอยหน้าลอยตายืนบิดขี้เกียจอยู่ที่เดิม  แต่หางตาสวยนั่นมันชำเลืองมองเขา!

     

    มันจะหยามกันไปหน่อยมั้งบยอนแบคฮยอน!

     

    “ชานยอลหลบไปหน่อยพี่จะเช็ดน้ำน่ะ...”ลู่หานกลับมาพร้อมทั้งในมือเรียวสวยมีผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่ง  ชานยอลเขยิบถอยหลังให้อีกคนได้เช็ดน้ำสะดวกขึ้น  ซึ่งเมื่อถอยหลังก็กลายเป็นว่าเขยิบเข้าไปใกล้แบคฮยอนมากขึ้น

     

    “ไหนพี่ซูโฮบอกว่ามีสาวติดตรึมไง...แค่จะบอกชอบพี่ลู่หานยังไม่สามารถอ่ะ...อ่อน!”บยอนแบคฮยอนเอ่ยเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน  ใบหน้าสวยโยกไปมาอย่างไม่ใส่ใจ  ริมฝีปากบางเบะออกน้อยๆคล้ายจะเยาะเย้ย  ซึ่งมันเรียกให้ปาร์คชานยอลเริ่มที่จะเดือดปุดๆ

     

    “นายนั่นแหละที่อ่อน...พอฉันมาสาวๆของนายก็วิ่งแจ้นมาหาฉันไม่ใช่เหรอ?”ชานยอลพูดเบาๆก่อนจะยักคิ้วให้อย่างท้าทาย

     

    “ไอ้!...”เหมือนจะเผลอพูดดังไปหน่อย  คนแถวนั้นหลายๆคนจึ้งพากันหันมามองเป็นตาเดียว  แบคฮยอนได้แต่สงยิ้มแหยๆไปให้  ก่อนจะตวัดสายตากลับมาจิกปาร์คชานยอลทันที

     

    “แล้วจะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่อ่อน...บยอนแบคฮยอน”พูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปหาอีกคนที่เริ่มรินน้ำใส่แก้วต่อ

     

    “เอ๊ะ!”เสียงหวานอุทานออกมาเบาๆอย่างตกใจเมื่อกำลังจะหยิบแก้วใบหนึ่งขึ้นมาเรียงในถาด  แต่ดันมีมือใหญ่ของใครบางคนเอื้อมมาคว้ามันไว้เหมือนกัน  ทำให้มือของเขาตกอยู่ภายใต้การกอบกุมของอีกคน  แบคฮยอนทำเป็นไม่สนใจ  ยังเอาแต่ซ้อมต่อไป  ใครมาก็จับเหวี่ยงๆๆทั้งๆที่หางตายังแอบชำเลืองมองเหตุการณ์นั้น

     

    จะทำยังไงต่อล่อปาร์คชานยอล!

     

    “ช...ชานยอล?”ลู่หานเอ่ยเรียกชื่ออีกคนอย่างงงงวย

     

    “พี่ลู่หานครับ...”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นช้าๆ  ดวงตาคมที่มักมีรอยขี้เล่นแต่ตอนนี้เต็มไปด้วยความจริงจัง  ลู่หานราวกับถูกสะกด  เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่การหลบดวงตาสีนิลสวยคู่นั้น

     

    “...ผมชอบพี่ครับ...ให้โอกาสผมได้รู้จักพี่ได้มั๊ยครับ?”ประโยคสุดท้ายเปลี่ยนเป็นเอ่ยกระซิบที่ข้างๆใบหูบางเรียกให้ใบหน้าหวานซับสีเรื่อได้ไม่ยาก

     

    “อ...เอ่อ...”

     

     

    “โอ๊ยๆๆๆๆ!!!ยังไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นขัดความอยากรู้อยากเห็นของคนทั้งชมรมเสียก่อน  สายตาของคนทั้งห้องจึงพากันจับจ้องไปยังจุดกำเนิดเสียงทันที

     

    “เฮ้ยๆๆๆ!  พี่แบคฮยอนจะฆ่ากันเหรอนั่นน่ะ!!”เซฮุนเอ่ยออกมาอย่างตกใจก่อนจะรีบวิ่งเขาไปห้ามทันที  แบคฮยอนที่สายตามัวแต่มองเหตุการณ์สารภาพรักสายฟ้าแล่บของไอ้หนุ่มนักบาสก็เพิ่งจะรู้สึกตัว  ตอนนี้เขากำลังบิดแขนคู่ซ้อมคนหนึ่งเต็มแรงทั้งๆที่ร่างของผู้โชคร้ายยังติดอยู่ใต้เท้าของตัวเอง

     

    “เฮ้ย!  ขอโทษทีพอดีลืมตัว”มือเรียวรีบปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระก่อนที่จะรีบละล่ำละลักขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่

     

    “องค์ลงเหรอพี่?”เซฮุนเอ่ยแซวก่อนจะรีบเข้ามาดูอาการของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทันที  แต่แบคฮยอนก็ไม่ได้สนใจคำพูดของเซฮุนแต่อย่างใดดวงตาคู่สวยเอาแต่จับจ้องไปยังคู่ที่อยู่กลางห้อง

     

    “พ...พี่ขอตัวก่อนนะ”ลู่หานรีบดันร่างของอีกคนออกก่อนจะขอตัวออกไปจากสถานการณ์แสนอึดอัดนี่ทันที

     

    ชานยอลก็ยอมปล่อยให้อีกคนจากไปแต่โดยดี  ดวงตาสีนิลคู่คมเบือนกลับมาสบกับดวงตาสวยของอีกคน  คิ้วหนายักให้หนึ่งทีอย่างท้าทายก่อนจะเดินหมายออกไปจากชมรม  แต่ก็ยังไม่วายแวะประกาศสงครามเบาๆกับคนหน้าสวยให้รู้กับเพียงแค่สองคนเท่านั้น

     

    “ถ้าฉันจีบพี่ลู่หานติด...นายจะยอมรับความจริงมั๊ยล่ะว่าอ่อนกว่าฉัน...”ว่าแล้วก็เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี  ทิ้งไว้แต่บยอนแบคฮยอนที่กำลังหน้าตึงคิ้วกระตุก  และตีนกระดิกอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น!

     

    รอบนั้นสอยอดีตกิ๊กไป...

     

    ยังจะมีหน้ามาลองดีกับนางฟ้าของเขา(?) อีกงั้นเหรอ!

     

    ขอประกาศไว้ตรงนี้เลยนะว่าคนอย่างบยอนแบคฮยอนไม่ยอมยกพี่ลู่หานคนงามให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น...โดยเฉพาะไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋ออย่างปาร์คชานยอล!

     

    “เข้ามาเล้ย!!!!”แล้วทั้งห้องซ้อมก็ได้แต่พากันหวาดผวาการเป็นคู่ซ้อมกับบยอนแบคฮยอน  ต่างพากันตั้งฉายาให้คนหน้าสวยแต่โคตรอันตรายไว้ในใจอีกคน

     

    สงครามของเรามันเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้นปาร์คชานยอล!

     

     














    TBC.
    TALK. กลับมาอีกครั้งพร้อมตอนที่สอง อุอุ จะบอกว่าจะอัพเร็วได้ก็แค่ช่วงนี้แหละเพราะมันเป็นตอนที่แต่งไว้แล้ว  -      -  พอเลยไปก็จะเริ่มเข้าสู่ระยะ จำศีล...  เรื่องนี้ไม่ดองหรอกแต่อัพช้ามากกกกก~ #คนอ่านปาดคอ  แต่เค้าจะพยายามอัพให้ได้นะ #มุ่งมั่น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×