คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 2
คิดผิด...
บอกได้คำเดียวว่ามันคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตของปาร์คชานยอล!!!
ดวงตาคมเหลือบมองอีกคนที่กำลังขัดกำแพงอย่างเอาเป็นเอาตายเล็กน้อย เหมือนว่าคนถูกมองจะรู้สึกตัวใบหน้าสวยจึงเบือนมาสบกับใบหน้าหล่อเหลาของเขา ก่อนริมฝีปากบางจะยกยิ้มอย่างผู้เหนือกว่า ดวงตาคู่สวยพราวระยิบด้วยความสะใจ!
การที่ออกมาจากห้องน้ำนั่นคือสิ่งที่คิดผิดจริงๆ!
ชานยอลเลิกสนใจใบหน้ากวนอารมณ์ของอีกคนแล้วหันมาให้ความสนใจกับการทำความสะอาดกำแพงและพื้นทางเดินที่ทอดยาวไปจนถึงอีกอาคารหนึ่ง
ต่างคนต่างจมอยู่ในความคิดของตน ทำให้การทำความสะอาดครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่นกว่าที่ควร ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เต็มใจที่จะยอมรับมันเพราะเหนื่อยจากการทะเลาะกันแล้ว
“เฮ้อ~”แบคฮยอนพ่นลมหายใจยาว ดวงตาคู่สวยกวาดมองไปบนกำแพงที่ตอนนี้กลับมามีสีขาวสะอาดอย่างที่มันควรจะเป็นแล้ว
ความเงียบที่ได้ยินแม้เสียงถอนหายใจเบาๆของตัวเองทำให้บยอนแบคฮยอนรู้สึกตัว อากาศเย็นเริ่มปกคลุมไปทั่วบริเวณ ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มแล้ว ไร้เงาของพระอาทิตย์เหมือนก่อนหน้านี้มีเพียงแค่แสงไฟจากหลอดนีออนบนเพดานทางเดินเท่านั้นที่ให้ความสว่างแก่พวกเขา
แบคฮยอนแอบมองใบหน้าเคร่งขึมของอีกคนที่กำลังนั่งขัดกำแพงส่วนสุดท้ายที่เปื้อนอยู่ ร่างบางพ่นลมหายใจพรูก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปหาทันที
เงาดำที่พาดทับร่างของเขาบดบังแสงสว่างสังเคราะห์จากหลอดนีออดเรียกให้มือใหญ่ชะงักก่อนเจ้าของมือจะหันไปมองเจ้าของเงา
“จะช่วย...”เสียงหวานเอ่ยสั้นๆทั้งๆที่ไม่มองหน้าก่อนจะหย่อนตัวนั่งยองๆลงให้เสมอกับเขา ในมือเรียวมีผ้าขี้ริ้วดำๆผืนหนึ่งที่ผ่านการใช้งานมาอย่างหนักมาด้วย ชานยอลลอบมองอีกคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดกำแพงที่ทั้งเขาและอีกคนดูจะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้มันเละเทะอย่างนี้
บางทีบยอนแบคฮยอนอาจจะไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่เขาคิดก็ได้...
จ้องมาตั้งนานก็เพิ่งจะสังเกตเห็นรอยเปื้อนสีดำๆเป็นปื้นๆที่แก้มใสของอีกคน การกระทำมักเร็วกว่าความคิดเสมอ...
มือใหญ่เลื่อนไปใกล้แก้มใสหมายจะเช็ดรอยเปื้อนดำๆตำหนิเพียงหนึ่งเดียวที่มีบนใบหน้าสวยนั้นออก...
ด้วยผ้าขี้ริ้วน่ะนะ!!
“เฮ้ย!”แบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีสัมผัสเย็นๆสัมผัสเข้าที่แก้มข้างขวา ดวงตาสวยตะวัดมองอีกคนโดยอัตโนมัติก่อนจะต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือใหญ่ที่ยื่นค้างมาด้านหน้าแถมในมือนั่นยังมีผ้าขี้ริ้วมอมแมม
ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าไอ้เย็นๆที่โดนหน้าเขาเมื่อครู่มันคืออะไร!
“เฮ้ย!”รอบนี้กลับเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงเสียเองที่ร้องลั่น เพราะไอ้คนที่เขาเอาแต่จ้องอย่างลืมตัวดันเอาผ้าขี้ริ้วเน่าๆปาใส่หน้าเขาเสียเต็มแรง
“ทำอะไรของนายน่ะ!”เสียงทุ้มเอ่ยถามดวงตาคมเบิกกว้าอย่างตกใจ
“ฉันต่างหากที่ต้องถามว่านายทำอะไร! เอาผ้าขี้ริ้วมาป้ายหน้าฉันนี่หมายความว่าไงห๊ะ!”เสียงหวานแหว แบคฮยอนลุกขึ้นเต็มความสูงก่อนดวงตาสวยจะจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ
“ก็เห็นหน้าเปื้อนเลยหวังดีจะเช็ดให้”สาบานได้ว่าปาร์คชานยอลไม่ได้กวนตีนแต่อย่างใด...
“ด้วยผ้าขี้ริ้วเนี่ยนะ! บ้ารึเปล่าไอ้เสาไฟฟ้า!”
“คนเขาหวังดีนะเนี่ยไอ้ลูกหมา!”เอ่ยจบก็โยนผ้าขี้ริ้วที่อีกคนปามาคืนไปให้ แบคฮยอนรีบรับแทบไม่ทัน...นี่ถ้าเขารับไม่ทันมันคงเข้าหน้าไปแล้วนะเนี่ย!
และแล้วทั้งสองฝ่ายก็ปาผ้าขี้ริ้วใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร...
ที่บอกว่าแบคฮยอนอาจจะไม่เลวร้ายน่ะเรื่องจริง...
แต่มันโคตรเลวร้ายเลยต่างหาก!!! ชานยอลคอนเฟิร์ม!
“เพราะนายแท้ๆเลยไอ้เสาไฟฟ้า...”ปากก็บ่นไปมือก็ออกแรงขยี้ผ้าขี้ริ้วที่อยู่ในมือเพื่อทำความสะอาดไป แบคฮยอนอดที่จะแค้นเคืองไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะใครบางคนแถวนี้มันดันประกาศสงครามไม่ดูเวร่ำเวลาล่ะก็ การทำความสะอาดกำแพงและทางเดินคงไม่ต้องใช้เวลาสิ้นเปลืองแบบนี้หรอก!
“อย่ามาโทษกันสิไอ้ลูกหมา...แล้วใครกันล่ะที่เล่นโยนผ้าขี้ริ้วแบบไม่ดูเวลากันน่ะ...ฉันเลยต้องกลับบ้านสามทุ่มเลยเนี่ย”เสียงทุ้มเอ่ยเถียง มือใหญ่ก็กำลังล้างถังใส่น้ำอย่างลวกๆ
“เฮอะ!”แบคฮยอนส่งค้อนวงใหญ่ไปให้อีกคนทีนึงก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับการซักผ้าต่อ นี่ถ้ามือสวยๆของเขาเปื่อยจนสาวไม่แลล่ะก็จะรับผิดชอบยังไงห๊ะปาร์คชานยอลไอ้เสาไฟฟ้า!
ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็ซักผ้าเสร็จ แบคฮยอนจัดการตากผ้าไว้กับขอบอ่างล้างอุปกรณ์ให้เรียบร้อย ดวงตาคู่สวยเหลือบไปเห็นห้องพักนักกีฬาก็เพิ่งนึกออก ประกาศรายชื่อนักกีฬาตัวจริง!
ว่าแล้วก็เดินลิ่วๆไปดูทันที ได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยถามแว่วๆ แต่แบคฮยอนก็ไม่คิดจะสนใจ ขาเรียวพาร่างของตัวเองมาหยุดอยู่ที่บอร์ดข้างๆประตู กระดาษแผ่นใหญ่ถูกนำมาติดไว้ ร่างบางจัดการกวาดสายตาไปทั่วแผ่นกระดาษเพื่อหาชื่อของตัวเองทันที แต่...
มันไม่มีชื่อของเขา!!!
ดวงตาสวยเบิกกว้าก่อนที่แบคฮยอนจะเริ่มเอานิ้วมาช่วยในการไล่หารายชื่อของตัวเอง แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็ไม่เจอชื่อของเขาเลยสักครั้ง!
ถ้าใครผ่านมาแถวนั้นในตอนนี้จะเห็นแบคฮยอนกำลังทำร้ายบอร์ดประกาศอย่างบ้าคลั่ง ถ้าแงะออกมาเหยียบได้ล่ะก็...บอร์ดนี้คงเต็มไปด้วยรอยเท้าของบยอนแบคฮยอนไปแล้ว!
“หึหึ”เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอดังขึ้นจากด้านหลัง หยุดอาการบ้าคลั่งของแบคฮยอนได้เป็นอย่างดี ใบหน้าสวยหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยสายตาพิฆาต ซึ่งอีกคนก็ทำเพียงแค่ยักคิ้วรับเท่านั้น
ฮึ่ย! หมั่นไส้!
ทำไมน่ะเหรอก็เพราะว่าทุกคนที่เป็นตัวจริงติดหมดยกเว้นเขาคนเดียว โดยมีไอ้บ้าเสาไฟฟ้าที่ยืนหน้าเอ๋ออยู่ตรงนี้นี่แหละที่มาแย่งตำแหน่งเขาไป!
“จะไปไหนก็ไปเลยไป! จะมายืนทำหน้าเอ๋อใส่ฉันหาสวรรค์วิมานอะไรไม่ทราบฮึไอ้เสาไฟฟ้า!”บยอนแบคฮยอนไม่ได้พาลแต่หมั่นไส้!
“เอ้าพาลซะด้วย...นี่หวังดีกะจะกลับบ้านเป็นเพื่อนนะเนี่ย ปากหมาอย่างงี้กลัวคนเค้าจะดักกระทืบกลางทางจนโรงเรียนเสียชื่อ ในฐานะนักเรียนที่ดีเลยจะป้องกันไว้ก่อน...”พูดจบริมฝีปากได้รูปก็แสยะยิ้มอย่างยียวน
“นายว่าใครปากหมาห๊ะไอ้เสาไฟฟ้า!!!!”
บยอนแบคฮยอนคนหล่อกำลังอารมณ์แปรปรวนอย่างถึงที่สุดกรุณาอยู่ให้ห่างในระยะห้าเมตรเป็นอย่างต่ำ...
“เปล่าว่า...ฉันกำลังพูดความจริง แล้วนี่จะกลับมั๊ย? ไม่กลับก็ไม่เป็นไรนะ...เดี๋ยวอาจจะมีใครใจดีไปส่งนายก็ได้...”ชานยอลพูดก่อนดวงตาคมจะทำเป็นมองซ้ายขวาบนล่างอย่างสำรวจ
“ใคร?”แบคฮยอนเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด
“ก็....”
“?”
“...เจ้าที่แถวนี้ไง!”พูดจบร่างสูงก็หมุนตัวแล้วก้าวเร็วๆจากไปทันที ทิ้งไว้แต่อีกคนที่สตันไปเรียบร้อยแล้ว...
“ปาร์คชานยอล!!!”ชานยอลลอบยิ้มกับอีกคนที่รีบวิ่งทั่กๆมาหาเขาแทบไม่ทัน เด็กหนุ่มแค่ลองหยอดๆเสียหน่อยไม่คิดว่าอีกคนจะเก็บเอาไปคิดจริงจังเสียขนาดนั้น ดูได้จากใบหน้าสวยที่ตอนนี้ซีดเผือดแถมยังหันซ้ายหันขวาราวกับคนระแวงอะไรสักอย่าง
เอ่อ...ปาร์คชานยอลแอบรู้สึกผิดเล็กๆ เพราะดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของแบคฮยอนจริงๆ...
จริงๆแล้วที่บอกว่ากลัวใครดักกระทืบน่ะพูดเล่น...กลัวว่าอีกคนจะโดนดักฉุดเสียมากกว่า...บยอนแบคฮยอนอาจจะไม่ใช่คนที่หน้าหวานจนอาจจะทักผิดว่าเป็นผู้หญิง แต่ในสายตาเขาก็ยังจัดว่าสวยอยู่ดี... เขาเคยสงสัยว่าอะไรที่ทำให้สาวๆติดคนหน้าสวยจนถึงขนาดที่ทำให้ได้ฉายาว่าเพลย์บอย...บางทีอาจจะเป็นเพราะนิสัยดันไปสะกิดต่อมความเป็นแม่ล่ะมั้ง คิดแล้วก็ขำเบาๆกับความคิดของตัวเอง
“...นายขำอะไร?”เสียงหวานติดจะไม่พอใจเอ่ยถามออกมาเบาๆ ขณะที่ขาที่ไม่ยาวนักก็ยังคงพยายามสาวเท้าตามเขาให้ทันอยู่ดี เห็นว่าอีกคนลำบากไม่น้อยชานยอลเลยตัดสินใจลดระยะการก้าวเท้าของตัวเองลง
“เปล่า”เอ่ยตอบอีกคนเบาๆ แต่แอบกลั้นยิ้ม
หมับ!
ขายาวชะงักกึกเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ดึงชายเสื้อจากด้านหลัง ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับไปมองที่มาทันที มือเรียวสวยของอีกคนเอื้อมาจับชายเสื้อของเขาไว้ทั้งที่เว้นระยะห่างจากตัวเขาจนสุดแขน ใบหน้าสวยก้มลงอย่างไม่ต้องการให้เห็นหน้า แต่ผิวขาวที่ซับสีเรื่อก็ทำให้เขาเผยยิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิด
“...โทษที”เสียงหวานเอ่ยเบาๆเพียงแค่นั้น แต่ปาร์คชานยอลก็ไม่ได้สาวความอะไรต่ออีก เขาเงียบแล้วเริ่มออกเดินอีกครั้ง อีกคนก็เดินตามมาเงียบๆเช่นกัน
ผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ แต่ตอนนี้ทั้งสองคนก็เดินพ้นเขตโรงเรียนมาสักพักแล้ว คืนนี้เป็นคืนเดือนมืดพระจันทร์ดวงงามเลยหมดโอกาสที่จะได้เผยโฉมให้ใครต่อใครได้เห็น มีเพียงแสงสว่างจากไฟถนนเท่านั้นที่ทำให้เขาสามารถมองทางเห็น
“บ้านอยู่ที่ไหน?”ชานยอลหยุดเดินและเป็นเวลาเดียวกับที่อีกคนปล่อยมือออกจากชายเสื้อของเขา
“...”
“ให้ไปส่งมั๊ย?”เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนเงียบ นี่เขารู้สึกผิดที่ไปจี้จุดอ่อนของแบคฮยอนจริงๆนะ!
“...เดี๋ยวกลับได้”เสียงหวานเอ่ยขึ้นเรียบๆ แต่ดวงตาก็ยังคงมองซ้ายขวาเลิกลั่กเหมือนคนขี้ระแวงเหมือนเดิม ริมฝีปากบางเม้มแน่นเสียจนซีดขาว
เห็นอย่างงี้ปล่อยกลับบ้านคนเดียวไม่ได้แหง...เดี่ยวเจออะไรแปลกๆแล้วเป็นลมตายกลางทางจะแย่เอา...
“เดี๋ยวไปส่ง...”
“ไม่จำเป็น”
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทันทีที่เขาเอ่ยจบประโยค ร่างสูงของเด็กหนุ่มอีกคนที่เขาจำได้ดีว่าเป็นเพื่อนร่วมทีมของแบคฮยอนเอ่ยขึ้น
“จงอิน...”เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยออกมาเบาๆ
คิมจงอินอยู่ในชุดเสื้อกล้ามตัวเก่าและกางเกงขาสั้นสำหรับนอน ในมือมีถุงพลาสติกขนาดเล็กใบหนึ่ง คาดว่าคงไปซื้อของมา
“เดี๋ยวพี่กลับกับผมก็ได้...พ่อพี่แทบจะถล่มซอยหาพี่แล้วเนี่ย...”พูดจบคนพูดก็สาวเท้าเข้ามาหาแบคฮยอนที่กำลังยืนเอ๋ออยู่ทันที มือหนาคว้าข้อมือบางก่อนจะออกแรงดึงให้เดินตามตนไปยังทิศที่ต้องการทันที
ชานยอลได้แต่มองตามแผ่นหลังบางของอีกคนที่ถูกดึงให้เดินลิ่วๆห่างออกไปทุกที ส่วนคนดึงก็ยังไม่วายหันมาส่งสายตาไม่พอใจบางอย่างให้เขาเสียอย่างนั้น ซึ่งปาร์คชานยอลเข้าใจความหมายของสายตานั้นเป็นอย่างดี...
หวง....
.
.
.
.
.
ตึง! โครม!
เสียงอึกทึกครึกโครมยังคงดังออกมาต่อเนื่องจากภายในห้องชมรมห้องหนึ่งของโรงเรียน แบคฮยอนได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อกอย่างหวาดผวา...เขาค่อนข้างมีความหลังฝังใจกับชมรมนี้เล็กน้อย
‘ชมรมฮับคิโด’
ศิลปะการต่อสู้ชนิดหนึ่งของเกาหลีที่ถือว่าเป็นสุดยอด แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่าที่ควร เพราะมันเล่นจริงเจ็บจริง มีแต่พวกไม่รักตัวเองเท่านั้นที่เลือกชมรมนี้...แต่เขารักตัวเองสุดๆ!
ครืด!
เสียงเลื่อนประตูเปิดเรียกให้แบคฮยอนหลุดออกจากภวังค์ ดวงตาคู่สวยได้แต่กระพริบมองคนเปิดประตูปริบๆ...เอ่อ...ต้องก้มลงมองเล็กน้อย
“แบคกี้!!!!”เอ่ยเรียกเสียงดังสนั่นลั่นโลก ก่อนเจ้าของเสียงร่างติดจะอวบจะโถมตัวเข้าหาเขาด้วยความรักใคร่เสียเต็มแรง ซึ่งแบคฮยอนก็เอี้ยวตัวหลบได้ทัน ทำให้คนที่โผมาเต็มแรงล้มลงไปกองกับพื้นทันที แต่ไม่นานก็ลุกขึ้นมาได้สำเร็จแล้วคว้าตัวเขาเข้าไปกอดทันที
“อ้าวพี่แบคฮยอน...จะกลับมาชมรมเราแล้วใช่ป่ะ?”เสียงเป็ดๆที่ทักขึ้นอย่างคุ้นเคยทำให้แบคฮยอนต้องเหลือบมองเล็กน้อย เซฮุนในชุดฝึกซ้อมกำลังยืนเท้าประตูแล้วส่งยิ้มยียวนมาให้เขา
มีอีกเรื่องที่ทุกคนควรจะรู้...บยอนแบคฮยอนคนหล่อเคยอยู่ชมรมไม่รักตัวเองอย่างฮับคิโดมาแล้ว!
“พ...พี่ซิ่วหมิน...ผมหายใจไม่ออก...”เสียงหวานเอ่ยเบาๆ เมื่อรู้สึกว่าอีกคนจะรัดแน่นเกินไปแล้ว!
“อ...อ่าวโทษทีเผลอใช้ท่าไปซะแล้ว”คนอายุมากกว่าหัวเราะแหะๆก่อนจะปล่อยให้คนในอ้อมกอดมีลมหายใจต่อไป
“เข้าไปข้างในก่อนเถอะ...”เป็นเซฮุนที่เอ่ยขึ้นทำให้ซิ่วหมินจัดการลากเขาเข้าไปในชมรมทันที
แบคฮยอนมองสถานที่ที่คุ้นเคยด้วยความรู้สึกมากมาย ถึงเขาจะลาออกไปด้วยเหตุผลเห่ยๆ...แต่ยังไงคนที่นี่ก็ยังต้อนรับเขาเสมอ...
“ว่าไงพี่?”เซฮุนเอ่ยถาม ใบหน้าหล่อเหลากำลังแสดงอาการสงสัยอย่างเต็มที่
“คือ...จะเป็นไรมั๊ยถ้าฉันจะกลับมาเล่นฮับคิโด...”ในที่สุดแบคฮยอนก็เอ่ยสิ่งที่เขานอนคิดทั้งคืนออกไป
“...”ทุกคนที่นั่งฟังอยู่พากันเงียบกริบโดยมิได้นัดหมาย นั่นยิ่งทำให้แบคฮยอนใจแป้วเพิ่มเข้าไปอีก
“ได้ดิ”เสียงเอ่ยเบาๆจากคนที่ได้ชื่อว่ากัปตันชมรมเอ่ยขึ้น เรียกให้ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“นั่นดิทำไมจะไม่ได้อ่ะพี่”เซฮุนก็พยักหน้าเห็นด้วย
“เย้~”ซิ่วหมินโผตัวเข้ากอดแบคฮยอนทันที
“งั้นเข้าชมรมวันนี้เลยได้มั๊ย?”แบคฮยอนเอ่ยถาม ซึ่งทุกคนในที่นั้นก็พากันพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย
“ไม่ได้!!!”เสียงทุ้มที่ตะโกนลั่นมาจากหน้าประตูชมรมเรียกให้ทุกคนต้องหันไปมอง
“บยอนแบคฮยอนเป็นทรัพยากรบุคคลที่มีค่าของชมรมบาส...ฉันจะไม่ยกให้ใครเด็ดขาดโดยเฉพาะชมรมนี้!”คริสเอ่ยนิ่งด้วยใบหน้าที่กำลังเครียดเขม็ง
“พี่แบคฮยอนถ้าพี่อยากเป็นตัวจริงล่ะก็ผมยกตำแหน่งให้เลย แต่อยู่ชมรมเราเหอะ”คิมจงอินเอ่ยออกมาพร้อมกับทำหน้าง้องแง้งเหมือนเด็กสามขวบไม่มีผิด
“...แค่ไม่ได้เป็นตัวจริงถึงกับย้ายชมรมหนีเลยเหรอ? นายนี่ป๊อดจริงๆ”ปาร์คชานยอลเอ่ยนิ่งๆ แต่ใบหน้ากลับกวนบาทาเสียแทบทนไม่ไหว
ก็ไอ้เสาไฟฟ้าตัวไหนล่ะที่มาแย่ตำแหน่งเขาไปน่ะ! กล้าพูดเชียวนะ!
“ชมรมนี้มันทำไม?”กับตันชมรมฮับคิโดเอ่ยขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินไปประจันหน้ากับกัปตันชมรมบาสทันที
“เพราะกำลังแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้ไง...หวงจื่อเทา”คริสเอ่ยเรียบๆ เรียกสายตาไม่พอใจจากกัปตันชมรมได้อย่างไม่ยากเย็น
ฝ่ายคิมจงอินก็เอาแต่จ้องมองแบคฮยอนราวกับจะสามารถลากร่างบางที่นั่งจ๋อมอยู่นี่กลับไปได้ด้วยสายตาอย่างไรอย่างนั้น ปาร์คชานยอลก็เอาแต่ส่งยิ้มกวนประสาทมาให้จนคิ้วเรียวสวยของแบคฮยอนเริ่มกระตุกยิกๆ
“อะไรอ่ะพี่ยอล?”เซฮุนเอ่ยถามคนรู้จักอีกคนที่เดินเข้ามาด้วย
จะว่าไปแล้วที่ไอ้เซฮุนเมินเขาคราวนั้นยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ!
“...มาเก็บหมาหลง”หน้านิ่ง...
แต่คิ้วของบยอนแบคฮยอนกลับกระตุกยิกๆ จากประสบการณ์ที่เกี่ยวพันกับมันตั้งแต่เมื่อวานทำให้เขาได้รู้ว่า ‘หมาหลง’ ที่ว่าน่ะ มันหมานถึงเขาล้านเปอร์เซ็นต์!
“ปาร์คชานย...”
“เอะอะอะไรกันเหรอ?”ยังไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้ง้างปากด่าอีกคน เสียงหวานๆราวกับนางฟ้าของปวงชนก็เอ่ยถามขึ้น ก่อนจะตามมาด้วยร่างบางของใครอีกคนที่พวกเขารู้จักกันดี ผู้จัดการชมรมคนงาม พี่ลุ่หาน!!!
“เปล่าครับพี่ลู่หาน...พวกผมแค่กำลังปรึกษากันเรื่องย้ายชมรมน่ะครับ...”เป็นแบคฮยอนที่เอ่ยตอบแทน เพราะทุกคนต่างเกรงกลัวสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ใบหน้างามราวกับนางฟ้านั่นกันทุกคน จะมีก็แต่แบคฮยอนเท่านั้นแหละที่พูดคุยได้อย่างสนิทใจ
“เหรอ? ก็เบาๆกันหน่อยนะมันรบกวนชมรมข้างๆ...แล้วนั่น...”ละไว้ในฐานที่เข้าใจ ทุกสายตาพากันหันไปมองตามสายตาของลู่หาน
“อ่อ...นี่ปาร์คชานยอลเด็กใหม่ที่เขาพูดถึงกันน่ะ...”น้ำเสียงเหี้ยมๆของคริสเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงประหม่าๆเสียงอย่างนั้น ชายหนุ่มเอาศอกกระทุ้งสีข้างของอีกคนที่เอาแต่ยืนสตันทำหน้าเอ๋ออยู่เบาๆเพื่อเรียกให้กลับมาสู่โลกความจริง
“อ...เอ่อ...สวัสดีครับ ปาร์ชานยอลครับ...”ชานยอลเอ่ยออกมาเสียงตะกุกตะกักอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“สวัสดีชานยอล...พี่ชื่อลู่หานยินดีที่ได้รู้จักนะ...”เสียงหวานเอ่ยเบาๆก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานหยดย้อยไปให้เหมือนที่มักจะส่งให้ทุกคนเป็นปกติ แต่...
ปาร์คชานยอลโดนแอคแทคเข้าไปเต็มๆ!
ใบหน้าหล่อเหลานิ่งค้างทันทีที่ได้รับรอยยิ้มนางฟ้า...
ซึ่งเห็นแล้วมันก็ขัดลูกกะตาของบยอนแบคฮยอนอย่างแรง!!
“เอาเป็นว่าผมจะอยู่ฮับคิโดแล้วกันนะ...พอดีช่วงนี้มีเคราะห์เจอเปรตตามรังควานน่ะครับ..”พูดแล้วก็เหลือบไปมอง ‘เปรต’ ที่ว่า จนใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังเคลิ้มฝันกับรอยยิ้มนางฟ้าตึงเปรี้ยขึ้นมาทันที
“งั้นก็ดีสิ...พวกนายก็กลับไปได้แล้วมีซ้อมไม่ใช่เหรอ?”ลู่หานส่งยิ้มหวานไปให้ทุกคนรอบวงอย่างทั่วถึง ซึ่งไม่มีใครขัดลู่หานได้หรอก ทุกคนเลยจรลีกลับไปยังที่ที่ควรอยู่ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนอย่างไรอย่างนั้น
ลู่หานยิ้มเล็กน้อยอย่างพอใจก่อนจะเดินกลับเข้าไปเตรียมน้ำสำหรับคนในชมรมตอนพักทันที ทำเอาคนที่เหลือพากันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก โดยเฉพาะซิ่วหมินที่ดูเหมือนจะขาดออกซิเจนนานไปหน่อย แก้มกลมๆนั้นถึงได้กลายเป็นเขียวๆม่วงๆไปซะงั้น
“โชคดีจริง...ขอบคุณนายนะแบคกี้”ซิ่วหมินยิ้มแหยๆก่อนจะเอ่ยออกมา เซฮุนและเทาเองก็พยักหน้าเห็นด้วย
ที่พวกเขาเกรงกลัวลู่หานกันแบบนี้มันมีเหตุผลอยู่...ลู่หานคืออดีตกัปตันชมรมฮับคิโด! แถมสมัยนั้นยังเป็นสมัยที่ชมรมฮับคิโดรุ่งเรืองที่สุด! การันตีโดยถ้วยรางวัลมากมายที่วางโชว์กันให้สลอนในชมรมนี่แหละ! จริงๆตอนนี้ก็ควรจะยังได้เป็นกัปตันอยู่...แต่เมื่อปีที่แล้วเขาดันประสบอุบัติเหตุร้ายแรงทำให้ไม่สามารถใช้แรงงานขาอย่างหนักๆได้ เจ้าตัวเลยเต็มใจที่จะผันตัวมาเป็นผู้จัดการอย่างเต็มใจ เพราะจะได้เป็นโค้ชให้ได้สะดวกๆ! นรกชัดๆ!
ภายใต้ใบหน้าสวยราวกับนางฟ้านั่นกลับแฝงไปด้วยความแข็งแกร่งมหาศาล พวกเขาเลยแอบตั้งฉายาให้กันอย่างลับๆ(ขืนรู้ก็ตายยกชมรมดิ)ว่า ‘นางฟ้าสงคราม’ อืม...ดูเข้ากันดีไม่ใช่เหรอ?
.
.
.
.
.
“มาทำไม?”บยอนแบคฮยอนเอ่ยถามเสียงเครียด ใบหน้าสวยจ้องมองอีกคนด้วยสายตาที่เรียกว่าไม่พอใจอย่างถึงที่สุด
“ต้องบอกนายด้วยเหรอ?”เสียงทุ้มเอ่ยตอบ ปาร์คชานยอลก็ยังคงกวนบาทาอย่างคงเส้นคงวาเหมือนเดิม
“ก็นี่มันชมรมฉัน”แบคฮยอนเอ่ย
“กล้าพูดเนอะ...แล้วชมรมบาสล่ะ?”
“นั่นก็ชมรมฉันเหมือนกัน...”
“จับปลาสองมือนี่นาย...”ปาร์ชานยอลเอ่ยขึ้นก่อนจะยักคิ้วมาให้อีกคนอย่างยียวน
“เอ๊ะ! นี่นาย...”แบคฮยอนทำท่าจะเถียงกลับ แต่มันก็นึกไม่ออก!
นับวันยิ่งคุยกับไอ้เสาไฟฟ้านี่มากเท่าไหร่ก็ยิ่งประสาทกิน!
“ฮึ่ย! ช่างมันเหอะ! มีธุระอะไรก็รีบๆจัดการให้เสร็จแล้วก็ไสฟันเยอะๆของนายกลับไปได้แล้วไอ้เสาไฟฟ้า!”พูดจบก็สะบัดมือไล่อย่างรังเกียจ
“อย่างกับฉันอยากเห็นหน้านายนานๆงั้นแหละ...หลบไปให้พ้นๆจากประตูได้แล้วนายน่ะ ถ้าอยากกินกระดูกนักล่ะก็ ถังเศษอาหารหลังโรงเรียนมีให้นายแน่นอนไอ้หมาน้อย...ไม่ต้องมาอ้อนเจ้านายแบบฉันหรอกนะ...”ยักคิ้วให้ข้างหนึ่งเป็นอันว่าจบสูตร
บยอนแบคฮยอน K.O.!!
“ฮึ่ย!”บยอนแบคฮยอนที่กำลังหงุดหงิดเหนือโลกเลยจัดการเดินปึงปังกลับเข้าไปซ้อมกับคนในชมรมต่อ ซึ่งความรุนแรงของการซ้อมเพิ่มขึ้นเป็นเลเวลสี่!
“...พี่ลู่หาน”เสียงทุ้มที่คุ้นเคยเอ่ยเสียงอ่อนเสียงหวานอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เรียกให้เรดาร์สอดรู้สอดเห็นของบยอนแบคฮยอนเริ่มทำงานทันที ใครมาก็จับเหวี่ยงไปงั้นๆแต่หูก็ยังฟังบทสนทนาระหว่างนางฟ้าและเสาไฟต่อไป
“หือ?...อ้าว ชานยอล”มือบางที่กำลังง่วนอยู่กับการรินน้ำใส่แก้วเตรียมไว้ให้คนในชมรมชะงักกึก ก่อนเจ้าของจะหันมามองคนเรียกแล้วส่งยิ้มหวานมาให้เป็นการทักทาย
“เอ่อ...คือ...”เจอรอยยิ้มยิ้มนางฟ้าแอคแทคเข้าไป ขนาดชานยอลยังไปไม่เป็นเลยทีเดียว
“มีอะไรรึเปล่า?”เสียงหวานเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าไอ้เด็กตรงหน้านี้ยังเอาแต่อ้ำๆอึ้งๆไม่ยอมพูดอะไรออกมาเสียที
“...คือผม....”เสียงทุ้มเอ่ยเบาๆอย่างประหม่า เรียกให้ต่อมอยากรู้อยากเห็นของบยอนแบคฮยอนทำงานหนักยิ่งขึ้นไปอีก
“...ผมช่วยแล้วกันครับ...”ในที่สุดชานยอลก็เอ่ยมันออกมาจนได้ ถึงแม้จะไม่ใช่สิ่งที่อยากจะพูดจริงๆก็เถอะ!
“...ขอบคุณนะ”เสียงหวานเอ่ยก่อนจะหันกลับไปรินน้ำต่อ โดยมีชานยอลเป็นลูกมืออย่างดี ดวงตาคมของปาร์คชานยอลลอบมองเสี้ยวหน้าสวยของอีกคนอย่างสำรวจ เรือนผมสีน้ำตาลอ่อนขับใบหน้านวลให้หวานขึ้น ประกอบกับดวงตากลมโตจมูกโด่งรั้นและริมฝีปากบางสวย ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าคนคนนี้น่ารักมากขนาดไหน...
“ชานยอล...น้ำ!”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนเรียกให้เด็กหนุ่มร่างสูงหลุดออกจากภวังค์ ก่อนจะรีบวางเหยือกน้ำแทบไม่ทัน เขาเผลอมองอีกคนนานไปเสียจนน้ำที่รินอยู่นั้นมันล้นออกมาเสียมากโข
“ไม่เป็นไร...หลบออกไปยืนที่แห้งๆก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปเอาผ้ามาเช็ด...”พูดจบลู่หานก็กระวีกระวาดออกไปทันที
“เฮ้อ~”ชานยอลได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างไม่เข้าใจตัวเอง เจอคนสวยๆมาก็มาก แถมยังสอยติดไม้ติดมือมาได้ทุกครั้ง แต่ไม่มีครั้งไหนเลยจริงๆที่เขาจะรู้สึกทำตัวไม่ถูกแบบนี้!
“อ่อนว่ะ...”เสียงหวานเอ่ยออกมาลอยๆไม่ไกลนักเรียกให้ปาร์คชานยอลต้องหันกลับไปมอง บอยนแบคฮยอนกำลังลอยหน้าลอยตายืนบิดขี้เกียจอยู่ที่เดิม แต่หางตาสวยนั่นมันชำเลืองมองเขา!
มันจะหยามกันไปหน่อยมั้งบยอนแบคฮยอน!
“ชานยอลหลบไปหน่อยพี่จะเช็ดน้ำน่ะ...”ลู่หานกลับมาพร้อมทั้งในมือเรียวสวยมีผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่ง ชานยอลเขยิบถอยหลังให้อีกคนได้เช็ดน้ำสะดวกขึ้น ซึ่งเมื่อถอยหลังก็กลายเป็นว่าเขยิบเข้าไปใกล้แบคฮยอนมากขึ้น
“ไหนพี่ซูโฮบอกว่ามีสาวติดตรึมไง...แค่จะบอกชอบพี่ลู่หานยังไม่สามารถอ่ะ...อ่อน!”บยอนแบคฮยอนเอ่ยเบาๆให้ได้ยินกันแค่สองคน ใบหน้าสวยโยกไปมาอย่างไม่ใส่ใจ ริมฝีปากบางเบะออกน้อยๆคล้ายจะเยาะเย้ย ซึ่งมันเรียกให้ปาร์คชานยอลเริ่มที่จะเดือดปุดๆ
“นายนั่นแหละที่อ่อน...พอฉันมาสาวๆของนายก็วิ่งแจ้นมาหาฉันไม่ใช่เหรอ?”ชานยอลพูดเบาๆก่อนจะยักคิ้วให้อย่างท้าทาย
“ไอ้!...”เหมือนจะเผลอพูดดังไปหน่อย คนแถวนั้นหลายๆคนจึ้งพากันหันมามองเป็นตาเดียว แบคฮยอนได้แต่สงยิ้มแหยๆไปให้ ก่อนจะตวัดสายตากลับมาจิกปาร์คชานยอลทันที
“แล้วจะได้รู้กันว่าใครกันแน่ที่อ่อน...บยอนแบคฮยอน”พูดทิ้งไว้แค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปหาอีกคนที่เริ่มรินน้ำใส่แก้วต่อ
“เอ๊ะ!”เสียงหวานอุทานออกมาเบาๆอย่างตกใจเมื่อกำลังจะหยิบแก้วใบหนึ่งขึ้นมาเรียงในถาด แต่ดันมีมือใหญ่ของใครบางคนเอื้อมมาคว้ามันไว้เหมือนกัน ทำให้มือของเขาตกอยู่ภายใต้การกอบกุมของอีกคน แบคฮยอนทำเป็นไม่สนใจ ยังเอาแต่ซ้อมต่อไป ใครมาก็จับเหวี่ยงๆๆทั้งๆที่หางตายังแอบชำเลืองมองเหตุการณ์นั้น
จะทำยังไงต่อล่อปาร์คชานยอล!
“ช...ชานยอล?”ลู่หานเอ่ยเรียกชื่ออีกคนอย่างงงงวย
“พี่ลู่หานครับ...”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นช้าๆ ดวงตาคมที่มักมีรอยขี้เล่นแต่ตอนนี้เต็มไปด้วยความจริงจัง ลู่หานราวกับถูกสะกด เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่การหลบดวงตาสีนิลสวยคู่นั้น
“...ผมชอบพี่ครับ...ให้โอกาสผมได้รู้จักพี่ได้มั๊ยครับ?”ประโยคสุดท้ายเปลี่ยนเป็นเอ่ยกระซิบที่ข้างๆใบหูบางเรียกให้ใบหน้าหวานซับสีเรื่อได้ไม่ยาก
“อ...เอ่อ...”
“โอ๊ยๆๆๆๆ!!!”ยังไม่ทันได้ตอบอะไรเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดก็ดังขึ้นขัดความอยากรู้อยากเห็นของคนทั้งชมรมเสียก่อน สายตาของคนทั้งห้องจึงพากันจับจ้องไปยังจุดกำเนิดเสียงทันที
“เฮ้ยๆๆๆ! พี่แบคฮยอนจะฆ่ากันเหรอนั่นน่ะ!!”เซฮุนเอ่ยออกมาอย่างตกใจก่อนจะรีบวิ่งเขาไปห้ามทันที แบคฮยอนที่สายตามัวแต่มองเหตุการณ์สารภาพรักสายฟ้าแล่บของไอ้หนุ่มนักบาสก็เพิ่งจะรู้สึกตัว ตอนนี้เขากำลังบิดแขนคู่ซ้อมคนหนึ่งเต็มแรงทั้งๆที่ร่างของผู้โชคร้ายยังติดอยู่ใต้เท้าของตัวเอง
“เฮ้ย! ขอโทษทีพอดีลืมตัว”มือเรียวรีบปล่อยให้อีกคนเป็นอิสระก่อนที่จะรีบละล่ำละลักขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
“องค์ลงเหรอพี่?”เซฮุนเอ่ยแซวก่อนจะรีบเข้ามาดูอาการของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทันที แต่แบคฮยอนก็ไม่ได้สนใจคำพูดของเซฮุนแต่อย่างใดดวงตาคู่สวยเอาแต่จับจ้องไปยังคู่ที่อยู่กลางห้อง
“พ...พี่ขอตัวก่อนนะ”ลู่หานรีบดันร่างของอีกคนออกก่อนจะขอตัวออกไปจากสถานการณ์แสนอึดอัดนี่ทันที
ชานยอลก็ยอมปล่อยให้อีกคนจากไปแต่โดยดี ดวงตาสีนิลคู่คมเบือนกลับมาสบกับดวงตาสวยของอีกคน คิ้วหนายักให้หนึ่งทีอย่างท้าทายก่อนจะเดินหมายออกไปจากชมรม แต่ก็ยังไม่วายแวะประกาศสงครามเบาๆกับคนหน้าสวยให้รู้กับเพียงแค่สองคนเท่านั้น
“ถ้าฉันจีบพี่ลู่หานติด...นายจะยอมรับความจริงมั๊ยล่ะว่าอ่อนกว่าฉัน...”ว่าแล้วก็เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี ทิ้งไว้แต่บยอนแบคฮยอนที่กำลังหน้าตึงคิ้วกระตุก และตีนกระดิกอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น!
รอบนั้นสอยอดีตกิ๊กไป...
ยังจะมีหน้ามาลองดีกับนางฟ้าของเขา(?) อีกงั้นเหรอ!
ขอประกาศไว้ตรงนี้เลยนะว่าคนอย่างบยอนแบคฮยอนไม่ยอมยกพี่ลู่หานคนงามให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น...โดยเฉพาะไอ้เสาไฟฟ้าหน้าเอ๋ออย่างปาร์คชานยอล!
“เข้ามาเล้ย!!!!”แล้วทั้งห้องซ้อมก็ได้แต่พากันหวาดผวาการเป็นคู่ซ้อมกับบยอนแบคฮยอน ต่างพากันตั้งฉายาให้คนหน้าสวยแต่โคตรอันตรายไว้ในใจอีกคน
สงครามของเรามันเพิ่งจะเริ่มขึ้นเท่านั้นปาร์คชานยอล!
ความคิดเห็น