คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : (OS) Flirting Fancies
“คุณเกรนเจอร์ครับ รัฐมนตรีฝรั่งเศสให้เชิญคุณเข้าประชุมสำคัญที่กำลังจะถูกจัดขึ้นนี้คครับ”
เฮอร์ไมโอนีที่กำลังวุ่นวายกับเอกสารสำคัญมากมายตรงหน้าเงยหน้าขึ้นมองเลขาของเธอที่ยืนอยู่ที่ประตู “ได้จ้ะ ว่าแต่นัดพบกันที่ไหนงั้นเหรอ? ที่ร้านเดิมรึเปล่า” เธอถามขณะที่ก้มหน้าลงจรดปากกาลงเซ็นเอกสารอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเป็นเรื่องค่อนข้างปกติที่รัฐมนตรีจากประเทศต่างๆ มักจะเรียกตัวเธอเข้าพบเพื่อแจ้งกำหนดการสำคัญต่างๆ
“รู้สึกว่าพ่อมดมือปราบอาวุโสจะมีปัญหาอีกแล้วน่ะครับ ท่านรัฐมนตรีก็เลยต้องเรียกคุณเข้าพบเป็นการด่วน” เลขาของเธอยังพูดต่อไป
ซึ่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ต้องผงกหัวขึ้นอีกครั้ง “อีกแล้วงั้นเหรอ ? ประชุมกี่โมงล่ะ ?” เธอถามด้วยน้ำเสียงลุกลนและขมวดคิ้วอย่างกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าว
“สุดสัปดาห์นี่ครับ ถ้าเป็นไปได้”
เฮอร์ไมโอนี่ทำเสียงลอดไรฟันอย่างหัวเสียนิดหน่อยขณะที่ส่ายหน้าพร้อมคิดถึงภาระมากมายในหัว
“มีปัญหาอะไรรึเปล่าครับ คุณเกรนเจอร์”
“อ๋อ ไม่จ้ะ ไม่มีอะไร”
ใช่สิต้องมีแน่ๆ สุดสัปดาห์นี้เธอเพิ่งจะสัญญากับโรสและฮิวโก้ว่าจะอยู่ด้วยตลอด เพราะหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับพวกเขาเลยเพราะติดงาน และครั้งนี้ก็อีกถ้าเธอจะต้องบอกลูกๆ อีกว่าติดงานมันคงจะทำให้พวกเขารู้สึกแย่มาก
“อันที่จริงก็เกี่ยวกับเด็กๆ นั่นแหละ” เธออธิบายต่ออย่างเสียไม่ได้ขณะที่ยืดตัวพิงพนักเก้าอี้พร้อมกับยกมือขึ้นนวดขมับ
เลขาของเธอส่งสายตาสมเพช “ก็เข้าใจครับ”
เฮอร์ไมโอนี่กลอกตามองตามแผ่นหลังของเลขาไป เข้าใจงั้นเหรอ ? หมอนั่นน่ะเหรอจะมาใจ หนุ่มโสดอายุยี่สิบแปดปีที่ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวในลอนดอน อย่าว่าแต่จะมีลูกเลยแค่จะคบหากับใครสักคนเขายังไม่คิดจะทำ
แต่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะมาสนใจเขา ตอนนี้ที่น่าเป็นห่วงคือครอบครัวของเธอจะเป็นยังไง ไม่มีทางที่เธอจะพาโรสและฮิวโก้ไปฝากไว้กับรอน หมอนั่นยุ่งอยู่กับฤดูกาลแข่งขันกับทีมของเขา ส่วนครอบครัววีสลีย์นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอสนิทใจนักอันที่จริงเธอค่อนข้างเกรงใจที่จะต้องไปรบกวนพวกเขาอีกทั้งที่หย่ากับรอนไปแล้ว ส่วนแฮร์รี่แน่นอนว่าฤดูกาลพักผ่อนแบบนี้เขาก็อยู่ต่างประเทศกับจินนี่เพื่อพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนจะกลับมาทำหน้าที่มือปราบมารต่อ เนวิลล์ยิ่งไม่ต้องพูดถึงงานศาสตราจารย์ในฮอกวอตส์นั้นหนักหนามากพอแล้วคงไม่มีเวลามาวิ่งไล่จับเด็กซนสองคน ส่วนลูน่า เฮ้อ คงมีแต่เมอร์ลินที่รู้ว่าเธออยู่ไหน ดังนั้นก็เหลือแค่คนเดียว
เฮอร์ไมโอนี่หยิบปากกาขนนกขึ้นมาจุ่มหมึกและฉีกเอากระดาษส่วนหนึ่งออกจากม้วนเขียนอะไรบางอย่างลงไปก่อนจะเรียกนกฮูกของเธอให้มารับกระดาษไปส่ง
# # # # # # # # # #
ที่อาคารสูงที่สุดใจกลางลอนดอน อาคารที่ถูกก่อสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าสงสัยท่ามกลางอาคารทันสมัยที่สุดที่ห้อมล้อม มันเป็นอาคารที่ถูกสร้างด้วยศิลปกรรมแบบผสมผสานอย่างลงตัวทั้งแบบยุคกลาง วิคเตอเรียนและเอ็ดเวิร์ดแบบเดียวกับสถาปัตยกรรมส่วนใหญ่ในโลกเวทมนตร์ มันคืออาคารของมัลฟอยอินเตอร์ไพรส์
เดรโก มัลฟอยได้นับทรัพย์สินทั้งหมดของพ่อเขาหลังจากที่ถูกตัดสินจำคุกมาเริ่มต้นใหม่ที่นี่ บริษัทของเขาทำงานภายใต้การสนับสนุนเงินตราจากทั้งฝั่งมักเกิ้ลและผู้วิเศษเขาเป็นบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่คนในลอนดอนจะคาดคิดได้ และอุปกรณ์เวทมนตร์ที่ดีที่สุดของลอนดอน แม้จะเป็นเรื่องยากในการเข้าสังคมกับมักเกิ้ลแต่เดรโกเองก็เรียนรู้การทำงานบนเส้นทางของมักเกิ้ลเพื่อส่งเสริมตัวเองให้สูงขึ้นจากบรรพบุรุษมาอยู่บ้าง อย่างเช่นต้นตระกูลของเขาอาร์มันด์ มัลฟอยที่หลอกใช้พระเจ้าวิลเลี่ยมที่หนึ่งจนมีที่ดินมากมายในวิลท์แชร์และเป็นที่ตั้งรกรากของตระกูลมัลฟอยที่มั่งคั่งเป็นต้นมา
การทำงานกับมักเกิ้ลทำให้ส่วนใหญ่การติดต่อสื่อสารจึงมักเกิดขึ้นโดยใช้อินเตอร์เน็ตเสียมากกว่านั่นทำให้เขาค่อนข้างแปลกใจที่จู่ๆ นกฮูกสีน้ำตาลขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่หน้าต่างออฟฟิศ “เมย์นาร์ด แกมาทำอะไรที่นี่กัน” เขาถามมันขณะที่ลูบขนเรียบเป็นมันวาวและแกะเอาจดหมายออกจากขานกฮูกที่เขาเคยรู้จักมันดี ในจดหมายปรากฏลายมือของเฮอร์ไมโอนี่ที่ทำให้เขาคลี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย
เขาอ่านจดหมายอย่างถ้วนถี่ก่อนจะหยิบเอาปากกาคอแร้งขึ้นมาเขียนตอบกลับ “กลับไปบอกคุณเกรนเจอร์นะว่าฉันจะเข้าไปพบเธอเที่ยงนี้”
เมย์นาร์ดทำคอยึกยักเหมือนจะรับปากก่อนจะบินจากไป
# # # # # # # # # #
เฮอร์ไมโอนี่นั่งกัดเล็บอย่างครุ่นคิดเธอหวังว่าเดรโกจะว่างเพราะเป็นไปได้สูงว่าถ้าเขาไม่สามารถทำตามคำขอของเธอได้เธอคงจะต้องผิดนัดรัฐมนตรีฝรั่งเศสเพื่อที่จะได้อยู่กับฮิวโก้และโรส เธอไม่อยากทำให้พวกเขาผิดหวังอีกเพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาคงกำลังตั้งตารอสุดสัปดาห์ของพวกเขาอย่างจดจ่อ และถ้าเธอต้องทำงานอีกและไม่มีใครดูแลพวกเขาแทนได้ ฮิวโก้และโรสคงจะเกลียดเธออีกแน่ๆ เฮอร์ไมโอนี่ฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างห่อเหี่ยว
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นทำเอาเจ้าของเรือนผมเป็นลอนสะดุ้งสุดตัว
ต้องเป็นเขา ฉันไม่ได้นัดใครเป็นพิเศษนอกจากเขาวันนี้
“สวัสดีเกรนเจอร์” เดรโกแทรกตัวผ่านประตูเข้ามาพร้อมกับทักทายเธอด้วยดวงตาเป็นประกายของเขาตามเคย “ได้รับจดหมายตอบกลับจากฉันรึเปล่า?”
“เปล่า บางทีเมย์นาร์ดคงจะไปกลับไปพักผ่อนที่โรงนกฮูกแล้ว คงจะเหนื่อยมากหลังจากกลับจากออฟฟิศของนาย จริงๆ แล้วฉันไม่น่าจะส่งเขาบินไปมาระหว่างโลกมักเกิ้ลและโลกเวทมนตร์เลย ขอโทษนะฉันน่าจะส่งอีเมลล์หานาย”
“ไปกินข้าวกันดีกว่าเกรนเจอร์ ฉันว่าเธอดูเหนื่อยแปลกๆ นี่เพิ่งจะเที่ยงเองนะ”
เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าเดรโกสำหรับกับเอกสารของเธอก่อนจะถอนหายใจออกมาพลางนวดดวงตาที่เมื่อยล้าภายใต้เลนส์สายตา “โอเค” เธอพับงานเอกสารทั้งหมดปิดลงก่อนจะลุกขึ้นและเดินไปคล้องแขนเดรโกที่ตั้งรอไว้ก่อนแล้ว
“คาเฟ่เลอเนจที่เดิมใช่มั้ย” เดรโกถาม
“ตามนั้น”
# # # # # # # # # #
“ว่าแต่มีอะไรจะพูดกับฉันงั้นเหรอ ?” เดรโกถามขณะที่ยกน้ำเลม่อนขึ้นจิบจากหลอด
“ฉันเองก็ไม่ได้อยากจะรบกวนนายหรอกนะ แต่ว่ารัฐมนตรีฝรั่งเศสเรียกให้ฉันเข้าพบสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งฉันก็สัญญากับโรสและฮิวโก้เอาไว้ว่าจะพาพวกเขามาอยู่ด้วยแต่พอเป็นแบบนี้ฉันคงไม่ได้กลับบ้านจนกว่าจะถึงวันอาทิตย์แน่” เธอว่าพลางหลุบตาลงมองมือตัวเองที่วางอยู่บนตัก
เดรโกเลิกคิ้วสูงพร้อมหัวเราะออกมานิดหน่อยอย่างแปลกใจ “จะขอให้ฉันช่วยดูแลลูกของเธอตลอดวันหยุดที่จะถึงนี้งั้นเหรอ ?”
“อย่าคิดว่านายเป็นตัวเลือกแรกและกันคุณผู้ชาย ฉันไม่มีทางเลือกต่างหาก”
“เธอว่าฉันจะทำตามเธองั้นเหรอ” เดรโกแกล้งทำหน้ายู่เหมือนไม่พอใจ
“นะ นะ” เฮอร์ไมโอนี่พยายามอ้อนวอน “ฉันก็รู้สึกแย่แต่ฉันเชื่อใจนายไงถึงได้ขอร้องให้ช่วยเนี่ย” เธอส่งยิ้มให้เขาขณะที่อ้อนวอนต่อ
“โอเค” เขาตอบตกลงง่ายๆ “ฉันเองก็ดูแลพวกเขามาตั้งแต่ยังแบเบาะ จำไม่ได้รึไง? ทำไมแค่นี้จะดูแลไม่ได้ก็แค่เด็กดื้อสองคน”
# # # # # # # # # #
“เดินทางดีๆ นะฮะแม่” ฮิวโก้ตะโกนบอกเธอหลังจากวิ่งเข้าไปในบ้านของเดรโก
เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกดีที่โรสและฮิวโก้เข้าใจเธอ และอย่างที่พวกเขาพูดพวกเขาอยากจะมาเล่นอยู่บ้านลุงเดรโกตั้งนานแล้ว
“รักแม่นะคะ” โรสกอดและหอมแม่ของเธอก่อนจะวิ่งตามฮิวโก้เข้าบ้านไปทิ้งให้เฮอร์ไมโอนี่และเดรโกยืนอยู่ตามลำพังที่หน้าบ้าน
เดรโกที่ซุกมือในกระเป๋ากางเกงและยืนเตะฝุ่นไปมาอยู่นานก็ถือโอกาสพูดบ้าง “คิดว่าเธอน่าจะเดินทางได้แล้ว ไว้เจอกันวันอาทิตย์นะเกรนเจอร์” เขาฉีกยิ้มกว้างให้เธอ “หวังว่าเธอจะไม่มารบกวนฉันจนกว่าจะถึงตอนนั้น”
“หุบปากไปเลยเดรโก” เฮอร์ไมโอนี่หยิกแขนเขาเล่นๆ หลังจากที่โดนคนตัวสูงกวนประสาทส่งท้าย
“รัฐมนตรีฝรั่งเศสนั่นก็คงจะดูแลเธอดี แต่ถ้าไม่ดีฉันจะบอกพอตเตอร์ให้ตามไปเตะตูดมัน” เขาว่า
“ต้องขอบใจมั้ย ?” เธอมองหน้าเขาพร้อมหัวเราะคิกคัก
แต่แล้วเขาก็จริงจังขึ้นมาซะดื้อๆ “ดูแลตัวเองดีนะ รู้มั้ย ? ไม่ต้องห่วงโรสกับฮิวโก้ สนใจเรื่องงานก็พอ อย่าไว้ใจพวกมือปราบให้มากนักพวกนั้นไม่ใช่มือปราบมารอย่างที่เธอรู้จัก”
เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าและก็ต้องตกใจเมื่อจู่ๆ เดรโกก็รั้งเธอเข้าไปกอดไว้ เธอยกแขนขึ้นโอบกอดเข้าตอบและลูบแผ่นหลังเขาเบาๆ “ขอบใจนะเดรโก ขอบใจจริงๆ สำหรับทุกอย่าง”
เดรโกสูดกลิ่นหอมพีชจากเส้นผมนุ่มละมุนก่อนจะค่อยๆ ถอนตัวออก “เจอกันวันอาทิตย์” เขากระซิบบอกเธอ
เฮอร์ไมโอนี่โบกมือลาพร้อมกับรอยยิ้มแห่งความโล่งใจก่อนจะหายหัวไป
# # # # # # # # # #
“เอาล่ะแม่ก็ไปลั้ลลาที่อื่นแล้ว เธออยากจะทำอะไรล่ะโรส” ฮิวโกถามโรสอย่างตื่นเต้นขณะที่กระโดดเด้งดึ๋งไปมาบนเตียงขนาดใหญ่ในห้องพักสำหรับแขก
“ไม่ยู้จิ ทำไมไม่ถามคุณมัลฟอยดูล่ะว่าอนุญาตให้เราทำอะไรได้บ้าง ?” โรสตอบขณะที่ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนและตรงไปยังบันไดแต่ก็ต้องหยุดเท้าไว้ทันทีที่เธอแอบเห็นแม่ของเธอและคุณเดรโกกำลังกอดกัน “เมอร์ลินเป็นพยาน!” เธอกรี๊ดออกมาเบาๆ ขณะที่รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน
“ทำไมเร็วจังเลย” ฮิวโก้เอียงคอถาม “ถามแล้วเหรอ ?”
“ยัง ยังเลย คุณมัลฟอยไม่ว่างน่ะ เข้าใจที่ฉันจะบอกมั้ย ?” โรสกระดุ๊กกระดิ๊กคิ้วของเธออย่างพยายามจะบอกอะไรบางอย่างกับฮิวโก้
“เอ๋...”
“เขากับแม่กำลังกอดกัน ก็แค่นั้นแหละ”
ฮิวโก้ดูจะผิดหวังนิดหน่อยที่ได้ยินแบบนั้น “แค่นั้นเหรอ ? นึกว่าจะกอดจูบอะไรทำนองนั้นซะอีก”
“เอาน่า นี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีนะแม่จะได้ไม่บ้างานเหมือนเดิมอีกถ้าเธอมีแฟนใหม่ บวกกับถ้าเกิดว่าพวกเขาแต่งงานกันขึ้นมาพวกเราจะได้อยู่ที่บ้านคุณมัลฟอยตลอดไปเลยไง!” โรสทิ้งตัวลงกลิ้งเกลือกบนเตียงกว้างๆ ที่เธอไม่ค่อยได้สัมผัสนักอย่างตื่นเต้น
“ก็จริงนะ แต่ว่าเราก็จะไม่ได้เจอพ่ออีกบ่อยๆ น่ะสิ คือหมายถึงว่าฉันรักพ่อนะถึงแม้ว่าเขาจะทิ้งแม่ไป และก็ไม่ชอบอแมนด้าที่จะมาเป็นแม่เลี้ยงด้วย”
“เมอร์ลิน ฉันรู้ๆ เธอก็ไม่ได้แย่นักหรอก เมื่อเทียบกับเมลินด้ากับบีธานีย์” โรสครวญออกมาขณะที่นึกถึงน้องสาวนอกไส้ของเธอที่เกิดกับพ่อของเธอและแม่เลี้ยง เธอไม่ค่อยชอบที่น้องสาวของเธอมีผมสีบลอนด์น่ารักแถมยังไม่มีกระ โดยเฉพาะตอนที่ไปเรียนฮอกวอตส์ยัยสองคนนั้นดันเป็นที่สนใจของเด็กผู้ชายแทบจะทั้งชั้นปีอีกด้วย จริงๆ โรสก็ไม่ได้สนใจนักหรอกว่าสองคนนั้นจะเป็นยังไงถ้าเกิดว่าเธอไม่วิจารณ์สีผมของเธอที่เหมือนกับพ่อและกระที่ตกทอดกันมาทั้งตระกูลวีสลีย์
“ก็จริงน้า” ฮิวโก้เห็นด้วย
สองพี่น้องนอนเอาหัวชนกันอยู่บนเตียงใหญ่เงียบๆ ก่อนที่คุณมัลฟอยของพวกเขาจะโผล่หน้าเข้ามา “ไงเด็กๆ อยากทำอะไรเป็นพิเศษรึเปล่า ? ลุงบอกแม่เธอแล้วว่าจะดูแลพวกเธออย่างดี”
“เราออกไปบินเล่นได้มั้ยฮะ” ฮิวโก้ผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมดวงตาระยิบระยับเขาได้ยินมาว่าลุงมัลฟอยนั้นหลังจากจบจากฮอกวอตส์ก็มีทีมดังๆ มากมายมาทาบทามแต่ว่าเขาอยากจะทำงานธุรกิจมากกว่าจึงปฎิเสธตลอด แต่เท่าที่เขาได้รู้ลุงมัลฟอยของเขาเคยเป็นนักกีฬาควิดดิชที่เจ๋งมากคนหนึ่งในฮอกวตอส์
“ฮิวโก้ ฉันไม่ชอบบินและไม่ชอบควิดดิชด้วย” โรสท้วง
“รู้น่า รู้น่า เธอมันหนอนหนังสือลองไปหาหนังสือมาอ่านดูสิ จะได้ไม่เบื่อ”
โรสกลอกตาที่ทำให้เดรโกที่มองอยู่เงียบๆ รู้สึกว่าเธอช่างเหมือนแม่ของเธอเหลือเกิน “ไม่ล่ะ ฉันอ่านทุกเล่มแล้วและแม่ก็ยังไม่ได้พาไปร้านหนังสือหรือห้องสมุดด้วย”
“อยากไปห้องสมุดมั้ยล่ะ โรส” พี่เลี้ยงของพวกเขาเสนอ “ลุงว่าหนูจะต้องเจอหนังสือดีๆ ที่สนใจสักเล่มสองเล่ม”
“จริงเหรอคะ ?”
ตาของโรสเบิกกว้างพร้อมประกายแห่งความสุขเหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด เฮอร์ไมโอนีก็เป็นโรคติดห้องสมุดนั่นทำให้เธอมักจะมาบ้านเขาบ่อยๆ เพื่อหาหนังสืออ่าน
ตั้งแต่ช่วงที่พวกเขาทำงานร่วมกันในการฟื้นฟูฮอกวอตส์และโลกเวทมนตร์ พวกเขาก็สนิทกันมากขึ้นเธอก็เลยชอบมาอ่านหนังสือจากห้องสมุดใหญ่ๆ ที่บ้านของเขาและก็ชอบเกรงใจไม่กล้าหยิบยืมกลับบ้านไป นั่นทำให้เขาเจอเธอหลับอยู่บนโซฟาทั้งๆที่ยังมีหนังสือคามืออยู่เสมอ
และก็ไม่มีผิดท่าทางของโรสเหมือนแม่ของเธอครั้งแรกที่เข้ามาสู่ห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เรียงรายไปด้วยตู้หนังสือไม้มะฮอกกานีขนาดใหญ่จรดเพดานที่มีหนังสือจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเต็มตู้ ตู้ไม้สีเข้มพวกนี้ดูจะโดดจากบ้านหรูสุดโมเดิร์นของเขาไปสักหน่อยแต่ก็เพราะเฮอร์ไมโอนี่ขอเอาไว้ไม่ให้เขาเปลี่ยนตู้หนังสือเป็นแบบโมเดิร์นเธอว่าหนังสือเหล่านี้ควรจะอยู่แบบดั้งเดิมดีกว่า
โรสเดินไปตามตู้หนังสือที่สูงกว่าเธอหลายเท่า ไล้นิ้วเล็กๆ ไปตามสันหนังของหนังสืออย่างหลงใหลก่อนจะหยุดและหันมาหาเขา “มีนิทานกริมม์มั้ยคะ ? หนูชอบอ่านมาก แม่ก็เหมือนกัน” เสียงของเธอแผ่วเบาลงเมื่อพูดถึงตรงนี้ “แม่เคยชอบอ่านให้ฟังก่อนนอนเมื่อตอนหนูเด็กๆ” โรสเอื้อมมือไปดึงหนังสือเล่มหนึ่งออกมาแต่ก็ชะงักมือไว้ก่อนจะรีบหันมาหาเขาเมื่อตระหนักได้ว่าค่อนข้างไม่มีมารยาทที่หยิบหนังสือโดยไม่ได้ขอ “ขอหนูดูหนังสือพวกนี้นะคะ”
“เอาเลยโรส ไม่ต้องเกรงใจนะลุงรู้ว่าหนูจะดูแลหนังสือพวกนี้เป็นอย่างดีเหมือนแม่ของหนู”
โรสหันกลับเข้าหาตู้หนังสืออีกครั้งอย่างอยากรู้อยากเห็น “แม่อ่านหนังสือของคุณด้วยเหรอคะ”
“แน่นอน แม่ของหนูชอบหนังสือมากกว่าชอบลุงซะอีก” คุณมัลฟอยหัวเราะออกมา “แม่หนูอ่านไปตั้งครึ่งหนึ่งแล้วนะ”
“แค่ครึ่งเดียวเหรอคะ ?” โรสหัวเราะคิกคัก
โรสเป็นนักอ่านเหมือนกับแม่ซึ่งต่างจากพ่อที่ไม่ค่อยชอบอ่านเท่าไหร่ ไม่เหมือนคุณมัลฟอยที่กระหายการอ่านพอๆ กับแม่ของเธอ
“เฮอร์ไมโอนี่มีชีวิตที่ยุ่งมาก หนูก็รู้ใช่มั้ย” เขาอธิบาย “ตั้งแต่ได้เลื่อนขั้นเธอก็ไม่มีเวลามาอ่านที่เหลือต่อ”
“แม่ไม่มีเวลาให้กับอะไรทั้งนั้นแหละค่ะ” โรสพึมพำขณะที่หลุบตามองเท้าของตัวเองยีไปมากับพรมนุ่มๆ
เดรโกรู้ดีว่าโรสรู้สึกยังไง เขาเองก็คิดถึงเฮอร์ไมโอนี่ เขาจึงเดินเข้าไปยังตู้หนังสือและย่อตัวลงโอบกอดโรสเอาไว้ “แม่รักหนูกับฮิวโก้มากนะ เธอทำงานหนักเพื่อจะได้แน่ใจว่าเธอจะสามารถดูแลพวกหนูได้ในอนาคต และเพื่อไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลกเวทมนตร์ ยิ่งตอนนี้เธอต้องต่อกรกับพวกมือปราบที่กระด้างกระเดื่องอีก งานที่แม่ของหนูทำน่ะก็เพื่อปกป้องทุกคนนะ”
“หนูอยากให้แม่ทำงานที่ปลอดภัยกว่านี้ อย่างพวกผู้บำบัด ทำไมแม่ไม่เป็นผู้บำบัดกันล่ะคะ ?”
เดรโกก็สงสัยเหมือนกัน “ลุงคิดว่าทำงานในกระทรวงก็เพราะพ่อกับยายของหนูนะตอนแรก แต่จากนั้นก็คงชอบนั่นแหละอย่างที่รู้กันว่าเฮอร์ไมโอนี่เก่งทุกอย่างถ้าเธอตั้งใจ”
“ยกเว้นควิดดิชค่ะ” โรสท้วงเสียงเจื้อยแจ้วพร้อมหัวเราะจนหัวสั่นคลอน
เดรโกเห็นด้วย ครั้งหนึ่งเขาพยายามจะพาเฮอร์ไมโอนี่บินขึ้นบนฟ้าแต่มันก็ไม่ดีสักเท่าไหร่ทำเอายัยนั่นไม่คุยกับเขาเป็นเดือน “ยัยนั่นไม่เก่งกีฬาอะไรสักอย่าง แถมยังไม่ชอบความสูงอีกด้วย เอาล่ะลุงต้องกลับไปหาฮิวโก้แล้ว เป็นเด็กดีนะโรส” เขายีหัวหลานสาวพร้อมรอยยิ้ม
“ไม่ต้องห่วงค่ะคุณมัลฟอย ห่วงฮิวโก้เถอะค่ะ อันที่จริงแม่ต้องชอบให้เขาบินแต่ว่ารอนชอบพาเขาไปบินและส่งเสริมให้เขาเล่นควิดดิช”
“รอนงั้นเหรอ ?”
“หนูไม่เรียกเขาว่าพ่อค่ะ เขามีครอบครัวของเขาและพวกหนูก็มีแค่แม่ค่ะ”
เดรโกพยักหน้าอย่างเข้าใจ เฮอร์ไมโอนี่ไม่เคยพูดถึงความห่างเหินระหว่างลูกๆ ของเธอกับสามีเก่าอย่างรอน โรสและฮิวโก้เองก็ดูเหมือนจะอยู่ได้โดยไม่มีพ่อแต่เมื่อเอาเข้าจริงแล้ว พอเฮอร์ไมโอนี่ยุ่งกับงานมากขนาดนี้พวกเขาเองก็ดิดถึงการมีพ่ออยู่เหมือนกัน
เขาก้มลงจูบหน้าผากโรสอย่างแผ่วเบาก่อนจะลุกขึ้นยืน
“อ่านให้สนุกนะ โรส”
# # # # # # # # # #
“เราน่าจะมีอะไรพิเศษๆ ให้แม่นะคะ” โรสเอ่ยขึ้นขณะที่พวกเขานั่งกินข้าวเที่ยงกันในวันอาทิตย์
“หือ ? อะไรเหรอ ?” ฮิวโก้ถามทั้งๆ ที่อาหารยังคงเต็มปาก
“อะไรที่ว่าพิเศษล่ะ ?” เดรโกถาม
“หนูอยากจะลองอบขนมให้แม่ค่ะ แต่ว่าแม่ไม่เคยอนุญาตให้เราเข้าครัวเลย แต่ว่า แต่ว่าคุณย่ามอลลี่สอนวิธีทำเค้กแล้วล่ะค่ะ หนูเลยอยากจะลองอบเค้กให้แม่ดู”
“ลุงมีเครื่องทำไอศกรีมของมักเกิ้ล มันยังเป็นรุ่นทดลองอยู่ แต่ว่า...”
“หูวววว ไอติม เราทำไอติมได้มั้ยฮะ ?” ฮิวโก้แทรกขึ้นพร้อมกับโบกน่องไก่ในมือไปมา “ถ้าทำได้จริงๆ นะ ทีนี้เราจะกินไอติมตอนไหนก็ได้ เย้ๆ ปกติแม่จะพาพวกเราไปกินไอติมที่ร้านแต่ไม่เคยซื้อกลับมาบ้านสักที”
“เพราว่าแม่รู้ว่านายจะกินไม่หยุด กินจนหมดน่ะสิฮิวโก้” โรสแหวด้วยน้ำเสียงเหมือนแม่ “แล้วฟันนายก็จะผุ แม่ต้องไม่ให้นายเป็นอย่างงั้นอยู่แล้วคุณตาคุณยายน่ะเป็นหมอฟันนะ จำได้มั้ย ?”
ฮิวโกกลอกตาใส่โรสอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะแทะน่องไก่ต่อ “แต่ว่าเราทำไอติมได้ใช่มั้ยฮะ ลุงเดรโก” เขามองลุงของเขาด้วยดวงตาเป็นประกาย
“แต่ฉันอยากอบเค้กนี่” โรสแง่งอน
“ก็ทำทั้งสองอย่างเลยสิ ทั้งเค้กและไอศกรีม เฮอร์ไมโอนี่คงชอบทั้งหมดนั่นแหละ” เดรโกตามใจหลานๆ
“เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส” ฮิวโก้ตะโกนก่อนจะลุกขึ้นกระโดดไปมาบนเก้าอี้
# # # # # # # # # #
“ไข่ นม แป้ง น้ำตาล...” โรสพึมพำกับตัวเองเพื่อจัดแจงวัตถุดิบบนเคาน์เตอร์ เธอเขย่งบนเก้าอี้ตัวเล็กๆ ที่ใช้ต่อขาให้เธอสูงขึ้นเพื่อชั่งตังวัตถุดิบ
ส่วนอีกด้านที่เคาน์เตอร์หินอ่อน เดรโกก็กำลังช่วยหลานชายตระเตรียมส่วนผสมสำหรับไอศกรีมโดยมีเครื่องทำไอศกรีมรุ่นใหม่ของเขาตั้งอยู่บนเคาน์เตอร์
“โรส พร้อมรึยังงง” เดรโกถามหลานสาวพร้อมกับมองไปยังชามผสม เขาไม่เคยอบขนมมาก่อนและเฮอร์ไมโอนี่ก็ต้องไม่เคยแน่ๆ(ถ้าไม่นับพวกหายนะครั้งก่อนๆ ที่เธอพยายามทำขนมน่ะนะ) เขาก็ได้แต่หวังว่าโรสจะไม่ได้รับการสืบทอดความสามารถแบบนั้นมาจากแม่ของเธอ และน่าจะเก่งเหมือนบ้านพ่อของเธอแทน
“ก็น่าจะพร้อมนะคะ” เธอตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก
“ถ้าเป็นสูตรของมอลลี่ วีสลีย์ ลุงว่าน่าจะอร่อยนะ” เดรโกให้กำลังใจ
โรสพยักหน้ารับก่อนจะค่อยๆ ทยอยผสมส่วนผสมต่างๆ ลงในอ่างผสมและคนด้วยช้อนไม้
“อยากให้ลุงใช้เวทมนตร์ช่วยคนมั้ย ?” เดรโกถามเมื่อสังเกตว่าแขนเล็กๆ ของหลานสาวเริ่มล้า
“ไม่ค่ะ หนูจะทำด้วยตัวหนูเอง” เธอตอบอย่างดื้อรั้นพร้อมสีหน้าจริงจัง
“โอเค โอเค”
ความเงียบเข้าครอบคลุมห้องครัวโดยมีเสียงของโรสบ่นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์และเสียงช้อนกระทบขอบอ่างผสมดังเป็นระยะๆ
# # # # # # # # # #
เฮอร์ไมโอนี่ทรุดตัวลงบนเตียงนอนให้โรงเรียนหลังจากเข้าประชุมครั้งที่สองกับรัฐมนตรีฝรั่งเศส
สำหรับการทำงานในฝรั่งเศสไม่มีอะไรเหนื่อยไปกว่าเรื่องภาษาแม้ว่าจะเคยเรียนมาบ้างหลังจากจบฮอกวอตส์แต่เธอก็ไม่เคยเรียนที่ลึกถึงขนาดจะมาคุยกับคนฝรั่งเศสซะทีเดียว โดยเฉพาะกับทนาย
หลังจากวันเหนื่อยๆ ผ่านพ้นไปเธอแทบจะรอไม่ไหวที่จะกลับไปหาโรสและฮิวโก รวมถึงเดรโกด้วย ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาจะทำอะไรกันอยู่
# # # # # # # # # #
เค้กของโรสอบเสร็จแล้วตอนนี้เธอกำลังง่วนอยู่กับการตกแต่งหน้าเค้กด้วยครีมและผลไม้สุด
ส่วนเดรโกกำลังติดตั้งเครื่องทำไอศกรีม
ซึ่งดูเหมือนว่าก่อนพายุจะมาฟ้าจะสดใสเสมอ...
# # # # # # # # # #
“นี่มันอะไรกันเนี่ย” เฮอร์ไมโอนี่กรีดร้องออกมาพร้อมกับโบกไม้โบกมือและไอไม่หยุด
ทันทีที่เธอมาถึงบ้านทั้งหลังก็ปกคลุมไปด้วยผงแป้งเหมือนหมอกหนาและแอ่งน้ำที่เจิ่งนองไปด้วยกลิ่นวนิลา
“เดรโก โรส ฮิวโก้ อยู่ที่ไหนกันน่ะ” เธอตะโกน
“อยู่นี่ค่ะ แม่ แค่กๆ” โรสตอบรับพร้อมกับไอค่อกแค่กเหมือนกัน
เฮฮร์ไมโอนี่มองเห็นร่างของโรสลางๆ ในหมอกแป้งเธอยกกระเป๋าขึ้นปัดแป้งให้พ่นทาง “เกิดอะไรขึ้นเนี่ย”
เดรโกที่ใบหน้าเปื้อนครีมแต่งหน้าเค้กและเศษผลไม้โผล่หน้าออกมาพร้อมรอยยิ้มเจื่อนๆ “พอดีเครื่องมือมักเกิ้ลทำงานผิดพลาดนิดหน่อย”
ฮิวโก้ค่อยๆ โผล่ออกมาจากด้านหลังของเดรโกโดยที่มือกำชายเสื้อของลุงเอาไว้แน่น “หวัดดีฮะแม่” ตอนนี้ผมของเขาสีเหมือนเดรโกเพราะแป้งที่ปกคลุมเต็มไปหมด
เฮอร์ไมโอนี่มองหน้าลูกชายอย่างคาดโทษ “ความคิดลูกน่ะสิ ใช่มั้ย ?”
“เอ่อ เปล่านะฮะ...”
“ฉันผิดเองแหละ” เดรโกพูดขณะที่ต้อนโรสกับฮิวโก้มาหลบด้านหลัง
“ฉันถามว่าเป็นความคิดของเด็กดื้อพวกนี้ใช่มั้ย ไม่ใช่ความผิดของพวกเขารึเปล่า ?”
พวกเขานิ่งเงียบกันอย่างสำนึกผิดครู่ใหญ่ก่อนที่ฮิวโก้จะพูดขึ้น “ฮะ แม่” เขาก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าสบตาแม่
“เฮอร์ไมโอนี่ อย่าดุเด็กๆ เลย ฉันแนะนำพวกเขาเอง” เดรโกพยายามแก้ต่างด้วยท่าทีมีเหตุผล “เราเพิ่งจะสร้างเครื่องมือใหม่ฉันยังไม่เคยทดลองใช้มาก่อน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เลยเกิดขึ้น หลักฐานก็อย่างที่เห็น” เขายกมือขึ้นปัดแป้งบนหัวให้ร่วงลงไปบ้าง
เฮอร์ไมโอนี่แย้มยิ้มออกมาพร้อมเสียงหัวเราะ “อะไรของนายเนี่ย คิดจะทำอะไรกัน”
“ไอติมฮะ” ฮิวโกตอบเสียงแผ่วก่อนจะรีบหลบหลังลุงเดรโกอีกครั้ง
เฮอร์ไมโอนี่หัวเราะออกมาเสียงดังและต้องใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะหยุดหัวเราะได้ “โถ่เอ้ย สุดท้ายก็เหลือแค่ครีมกับนมบนพื้นงั้นเหรอ โรส ฮิวโก้ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวแม่ทำความสะอาดเอง”
เธอรีบสาวเท้าไปยังอ่างล้างจานเพื่อหยิบฟองน้ำแต่แล้ว... พื้นลื่นๆ ก็ทำให้หญิงสาวลงไปนอนกับพื้นโดยสดุดี
เดรโกรีบวิ่งเข้าไปหาเธออย่างเป็นห่วง “เฮอร์ไมโอนี่เป็นอะไรรึเปล่านเนี่ย” เขาถามขณะที่ยื่นมือให้เธอ
“ก็โอเค แต่เจ็บหลังแหะ” เธอว่าพลางเอื้อมมือไปจับมือเดรโกเอาไว้
ด้วยน้ำหนักของคนสองคนและเดรโกไม่ได้ตั้งหลักให้ดี คนตัวใหญ่ก็เลยลื่นครีมบนพื้นและล้มลงบนตัวของเฮอร์ไมโอนี่ทันที
เดรโกยันตัวไว้ด้วยข้อศอก ใบหน้าห่างจากเธอแค่ไม่กี่คืบเท่านั้น “โทษทีนะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย” เขาพึมพำ
พวงแก้มสาวขึ้นสีแดงด้วยความเขินอายขึ้นมาทันทีพร้อมกับเสียงตอบตะกุกตะกัก “อ่อ เอ่อ โอ โอเค”
ใบหน้าที่ห่างกันไม่กี่นิ้วทำให้เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ดวงตากลมโตของเธอ ขนตางอนยาวเหมือนผู้หญิงของเขา ริมฝีปากที่ยกยิ้มยียวนเสมอของเขา มันดูน่าสัมผัส น่าหลงใหล เหมือนเชิญชวนให้เธอต้องทำอะไรสักอย่าง...
“ทำความสะอาดมั้ย”
“อะไรนะ ?” เฮอร์ไมโอนี่ถามขณะที่ถูกดึงออกจากภวังค์ด้วยคำถามโง่ๆ ของเขา
“ถ้าไม่ สนใจจะขึ้นไปข้างบนและอาบน้ำด้วยกันมั้ยล่ะ ?” เขาก้มลงกระซิบข้างหู
นี่เขาจะบ้าไปแล้วรึไง ? ใช่แน่ๆ รอยยิ้มชั่วร้ายนั่นคือหลักฐานความบ้ากามของเขา อยู่ดีๆ จะมาชวนอาบน้ำอะไร จะบ้าเหรอ ?
สติสัมปชัญญะของเธอสั่นระรัวจนแทบจะขาดผึงเมื่อมองเดรโกค่อยๆ โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ โดยไม่มีทางขัดขืนก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะพยักหน้ารับอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
เขาลุกขึ้นจากพื้นก่อนจะอุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขน “ไปอาบน้ำกัน” เขาว่าก่อนจะส่งยิ้มกวนประสาทอีกรอบ “เสื้อเปื้อนเลอะเทอะไปหมด แถมที่ผมยังมีสไลม์น่าเกลียดอีก”
สไลม์อะไรยะ!?
ความรู้สึกหวิวๆ ในท้องแห้งหายไปทันที แต่ก็ยังดีที่ยังพอสัมผัสความโรแมนติกได้อยู่บ้าง “งั้นนายก็ต้องช่วยล้างออก และก็ซักเสื้อให้ฉันด้วย” เธอบีบจมูกโด่งเป็นสันของเขาเล่นแก้แค้นที่กวนประสาทไม่เข้าเรื่อง
เดรโกก้มหน้าเข้าใกล้เธอก่อนจะกดจมูกเข้ากับแก้มนวลที่เปื้อนแป้งแรงๆ จากนั้นจึงเลื่อนเข้าใกล้ริมฝีปากบางอย่างอ้อยอิ่ง แล้วจึงค่อยๆ ละเลียดชิมรสหวานจากปากของเธออย่างล้ำลึกและนิ่งนาน เป็นจูบครั้งแรกของพวกเขา ครั้งแรกที่เปิดใจให้แก่กัน เป็นจูบที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกมากมายที่ถูกเก็บงำเอาไว้เนิ่นนานหลายปี
เขาผละออกจากเธอพร้อมรอยยิ้มน่าหมั่นไส้ก่อนจะพยายามก้มลงมาหอมแก้มเธออีกครั้ง แต่เฮอร์ไมโอนี่ดันหน้าเขาเอาไว้และกระโดดหนีจากอ้อมแขนของเขา
ทั้งคู่ไล่จับกันไปมาอยู่พักใหญ่ก่อนที่เฮอร์ไมโอนี่จะถูกจับได้ และถูกอุ้มขึ้นห้องนอนไปอย่างง่ายดาย
หลังจากคล้อยหลังทั้งคู่แล้วโรสและฮิวโก้ที่หลบอยู่หลังเคาน์เตอร์ก็โผล่หน้าออกมากระโดดโลดเต้นและแท็กมือกันอย่างดีใจเมื่อทุกอย่างที่คิดเอาไว้เป็นจริงสักที
~ END ~
ความคิดเห็น