ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟราว กราเด้ สวนดอกไม้

    ลำดับตอนที่ #1 : สวนกุหลาบ

    • อัปเดตล่าสุด 4 มี.ค. 56


    กุหลาบ


    ความหมายของกุหลาบ


         กุหลาบแดงและกุหลาบขาว เมื่อรวมกันแล้ว ก็จะสื่อให้รู้ว่า “สองเราจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน”
     
         กุหลาบสีชมพู ก็จะหมายถึง ความงดงาม และความอ่อนโยนที่มีให้แก่กัน
     
         กุหลาบสีเหลือง ก็จะบ่งบอกเป็นความนัยว่า “ขอเป็นชู้ทางใจ” หรือ อาจจะหมายถึงความสุข สนุกสนาน และความร่าเริง
     
         กุหลาบสีส้ม เป็นการบอกความในใจถึงความรัก และสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาด้วยกัน
     
         กุหลาบแดงเข้ม ก็จะแทนคำว่า “เธอช่างสวยเหลือเกิน”
     
         กุหลาบสีขาว ก็จะแทนคำว่า “ฉันรักเธอด้วยใจที่บริสุทธิ์ และไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทน”
     
         กุหลาบตูม ที่มีทั้งใบและหนามแหลมนั้นก็จะบอกให้รู้ว่า “ถึงแม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอเองก็คงไม่ปฏิเสธ”
     
         กุหลาบตูมที่ลิดใบทิ้งหมดแล้ว ก็จะแสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง จะน่ากลัวไปหมด
     
         กุหลาบตูมที่ลิดหนามออกและทิ้งไปหมดแล้วนั้นก็จะแสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอยู่มากมาย
     
         กุหลาบตูมสีแดง ซึ่งก็จะแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา
     
    กุหลาบตูมสีขาว ซึ่งก็จะแสดงถึงความมีเสน่ห์และเป็นที่น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องของความรัก
     
         กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก ก็จะเหมือนกับดอกสวยที่แอบรักอยู่ฝ่ายเดียว
     
         กุหลาบบานสีแดง ก็จะบ่งบอกให้รู้ว่า “ฉันรักเธอเข้าแล้ว”
     
         กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว นั่นก็คือเขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า “ความรักของเรานั้นจบลงไปแล้ว”
     
         กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว ก็จะแทนและให้ความหมาย “และเสน่ห์ของเธอนั้นมันก็เริ่มจืดจางลงแล้ว”
     
         กุหลาบไร้หนาม เพื่อที่จะสื่อให้รู้ว่า “เธอเองช่างมีเสน่ห์น่าหลงใหลแม้ยามแรกพบมากเหลือหลาย”
     
         กุหลาบดอกเดียวนั้นก็เพื่อจะแทนความหมาย  ”แม้แต่ความรักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็ยังมีความมั่นคงกับเธอเพียงผู้เดียว”

    ตำนานกุหลาบ

    กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม  บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความลี้ลับอีกอย่างหนึ่ง

    การเป็นมงคลของกุหลาบ

                    คนไทยโบราณส่วนใหญ่ก็ได้เชื่อกันว่าถ้าหากว่าบ้
    านใดได้ปลูกต้นกุหลาบไว้ประจำบ้าน ก็จะทำให้คนในบ้านมีคุณค่าแห่งชีวิตที่สูง นั่นก็เพราะกุหลาบได้รับการยกย่องให้เป็นราชินีแห่งอุทยาน เนื่องจากดอกมีรูปร่างและสีสันที่สวยงาม และนอกจากนี้คนไทยโบราณยังเชื่อกันอีกว่า ถ้าหากว่าบ้านใดปลูกต้นกุหลาบไว้ประจำบ้านก็จะทำให้เกิดความสง่าและภาคภูมิ เพราะกุหลาบดอกใหญ่ในขณะชูช่อบานและดูโดดเด่นนั้น ก็จะเห็นเป็น
    ดอกไม้ที่สง่าแก่บุคคลทั่วไปนั่นเองค่ะ

    --------------------------------------
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×