ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fanfiction MHA/BNHA] BattleField Angle 《???×OC》

    ลำดับตอนที่ #1 : 1 - โรงเรียน UA ห้อง 1-A

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 64




    -1-

    โรงเรียน UA ห้อง 1-A





    ถึงแล้วสินะ โรงเรียนยูเอ ห้อง 1-A แผนกฮีโร่


    ดวงตาสีท้องฟ้ามองต้องบานประตูใหญ่ที่ประดับด้วยตัวอักษรเรียบง่ายอย่าง '1-A' ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะสามารถพาตัวเองมาจนถึงจุดนี้ได้


    จะได้เจอกันแล้วนะ อิซึจัง! คัตจัง!


    ครืด


    "คัตจัง! คิดถึงนายจังเลย"


    หญิงสาวร้องออกมาอย่างดีใจ ทันทีที่เห็นใบหน้าของเพื่อนสมัยเด็กของตน ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปกอดคนที่กำลังนั่งบนโต๊ะของตนเองอย่างไม่ทันตั้งตัว


    "หา!? อะไรของยัยนี่วะ"


    บาคุโกผลักคนตรงหน้าออกอย่างหงุดหงิดหลังจากถูกแรงกอดพุ่งเข้าใส่จนเขาแทบหงายหลังตกเก้าอี้


    "โอ๊ะ..." หญิงสาวร้องออกมาเมื่อถูกผลักไปด้านหลังจนเซเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงฉีกยิ้มกว้างให้เขา


    "นายนี่โมโหร้ายขึ้นรึเปล่าเนี่ย"


    เพราะรอยยิ้มและใบหน้าที่แสนจะคุ้นตานั่นทำให้ ดวงตาสีแดงอันดุดันของบาคุโก คัตสึกิเบิกกว้างด้วยความแปลกใจ


    "เธอ ฮานะ..."


    "ใช่แล้ว ฉันเอง โมโดสุ ฮานาบิ กลับมารายงานตัวแล้วจ้า" ฮานาบิพูดพร้อมกับใช้ฝ่ามือตะเบ๊ะให้อีกฝ่าย 


    "เออ รายงานตัวอยู่ตรงนั้นแหละ ไม่ต้องเข้ามากอด" คัตสึกิรีบเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนสมัยเด็กของตนที่พร้อมจะกระโจนเข้าหาเขาได้ทุกเมื่อ


    "ก็คนมันคิดถึงนี่" ฮานาบิทำปากงุบงิบ เมื่อคัตจังของเธอดูจะห่างเหินกับเธอซะเหลือเกิน


    และแน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านั้นทำให้มิเนตะและคามินาริต่างรู้สึกหมั่นไส้ เจ้าบาคุโกนั่นช่างปฏิเสธสาวสวยได้ลง และที่สำคัญคนที่หมอนั่นกำลังปฏิเสธยังได้ชื่อว่าเป็น 'นางฟ้าภาคสนาม' ในการสอบเข้าครั้งที่ผ่านมา


    ทำไมถึงเป็นคนอย่างหมอนี่กันนะ ที่ได้อ้อมกอดของฮานาบิจัง!


    "น่าหมั่นไส้เป็นบ้าเลยเจ้าหมอนี่"


    "นายมันใจร้ายเป็นบ้า" ฮานาบิกอดอกพร้อมกับพ่นลมหายใจ เมื่อพบว่าคัตสึกิดูไม่ท่าทีดีใจเลยสักนิดจริงๆ แต่แล้วเสียงประตูของห้อง 1-A ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง


    ครืด


    "ห้อง 1-A..." 


    "อิซึจัง!! คิดถึงจังเลย" 


    "ค- คุณ..." อิซึคุพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก เมื่อจู่ๆก็ถูกหญิงสาวคนหนึ่งพุ่งเข้ามากอดเขาอย่างไม่ทันตั้งตัวทันทีที่เปิดประตูห้อง 


    เพราะไม่เคยใกล้ชิดหญิงสาวคนไหนมาก่อน ทำให้ตอนนี้ใบหน้าของเขากลายเป็นสีแดงเถือกไปทั่ว จนฮานาบิอดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้


    "อย่าบอกนะว่านายเองก็ลืมฉันแบบคัตจังน่ะ อิซึจัง"


    อิซึจัง?


    อิซึคุทวนคำเรียกนั้นอยู่ในหัว เพียงไม่นานก็ได้คำตอบ เพราะคนที่เคยเขาด้วยชื่อแบบนี้มีอยู่เพียงคนเดียว


    "ฮานะจัง! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันครับ?" อิซึคุเอ่ยถามออกมาด้วยความดีใจ


    "ปิ๊งป่อง! เก่งมากเลยอิซึจัง ฉันเพิ่งกลับมาไม่นานน่ะ"


    "อื้อๆ แต่ว่าใบหน้าแบบนี้แหละที่อยากจะเห็นเวลาเพื่อนกลับมา ไม่ใช่ทำหน้าเป็นข้าวบูด-"


    "นี่เธอว่าฉันเหรอหา!" คัตสึกิพูดอย่างหงุดหงิด พร้อมกับยกเท้าขึ้นมาวางบนโต๊ะดังปึ้ง! ไปทั่วห้อง


    "นี่นายทำแบบนี้ไม่คิดถึงพวกศิษย์เก่าของยูเอบ้างรึไง"


    "แล้วทำไมฉันต้องคิดถึงด้วย แกเป็นใครวะเนี่ย"


    "ฉันอีดะ เทนยะ" อีดะเอ่ยแนะนำตัวก่อนที่สายตาของเขาจะพุ่งตรงกับยังอิซึคุ


    "อ่า ผมมิโดริยะ อิซึคุครับ" อิซึคุเป็นฝ่ายแนะนำตัวบ้างเมื่อเห็นสายตาพุ่งตรงมายังตน


    "ต้องยอมรับจริงๆว่านายเหนือกว่าฉัน รอบสอบเข้าฉันไม่เอะใจเลยสักนิดว่ามีคะแนนช่วยเหลือด้วย แพ้นายแล้วจริงๆ"


    "อะ อ๊ะ คือว่านั่น..."


    "จะว่าไปนอกจากมิโดริยะ ก็มีโมโดสุจังที่สุดเจ๋ง เธอน่ะตั้งหน้าตั้งตารักษาคนที่บาดเจ็บจากตอนสอบเข้าจนแทบไม่ได้ทำคะแนนของตัวเองเลยด้วยซ้ำ เลยได้ชื่อว่า นางฟ้าภาคสนามยังไงล่ะ เสียงหวานละมุนของเธอที่คอยถามว่าเป็นอะไรรึเปล่าคะ ฉันยังจำได้อยู่เลย" มิเนตะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงพร่ำเพ้อ


    "ฮะๆ ก็นะ อัตลักษณ์ของฉันมันคือการฟื้นฟูนี่นา พอเห็นคนบาดเจ็บแล้วมันก็เลยอดไม่ได้น่ะ"


    "นางฟ้า!" คามินาริเสริม ทำให้ฮานาบิได้แต่ยิ้มแห้งๆให้แต่ภายในใจแอบรู้สึกผิดนิดหน่อย เพราะว่าแท้จริงแล้วฮานาบิรู้กติกาการสอบเข้าเป็นอย่างดี ไม่เหมือนเพื่อนของเธอที่ทำไปด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ


    นั่นก็เพราะ 'โมโดสุ ฮานาบิ' แต่เดิมทีเธอไม่ใช่คนของโลกนี้


    ฮานาบิเองก็เป็นแค่เด็กสาวมัธยมปลายคนหนึ่งที่กำลังยืนรอข้ามถนนอยู่หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่เธอมาเยี่ยมคุณยายผู้ปกครองเพียงคนเดียวเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ท่านจะจากโลกนี้ไป


    ในตอนที่เธอกำลังเศร้าอยู่นั้นสายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นรถยนต์ที่ฝ่าสัญญาณไฟแดงพุ่งตรงมายังเด็กชายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เพราะแบบดันขาเจ้ากรรมดันพุ่งออกไปไวกว่าที่จะได้คิด รู้ตัวอีกที เธอก็พบว่าตัวเองก็มาอยู่ในโลกของฮีโร่เสียแล้ว


    ในตอนแรกที่จำความได้ เธอคิดว่า เธอมาเกิดในโลกอีกหลายร้อยปีต่อมาที่มนุษย์มีการวิวัฒนาการจนมีอัตลักษณ์เหมือนในการ์ตูนที่เคยดูเสียอีก แต่คำตอบของเธอก็กระจ่าง ในวันที่ครอบครัวของเธอพาเธอมาทักทายกับเพื่อนบ้านใหม่


    แล้ววันนั้น เป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอกับ 'บาคุโก คัตสึกิ' ในตอนที่อีกฝ่ายยังไม่มีแม้แต่อัตลักษณ์ด้วยซ้ำ แน่นอนว่าเธอตื่นเต้นมากที่ได้พบกับตัวละครในการ์ตูนที่เธอชื่นชอบ และต่อมาเมื่อเข้าเรียนชั้นอนุบาล เธอก็ได้พบกับ 'มิโดริยะ อิซึคุ'


    เพื่อนทั้งสองวัยเด็กของเธอนั้นแสนจะน่ารักจนเธออยากจะอยู่เคียงข้างพวกเขาไปนานๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเวลาต่อมาคัตจังและเธอเริ่มมีอัตลักษณ์ปรากฏขึ้น


    คัตจังมีอัตลักษณ์ระเบิดอย่างที่เธอเคยรู้มา ส่วนเธอนั้น...


    'สุดยอดเลย! ฮานะจัง แผลหายไปหมดเหมือนคุณหมอเลยล่ะ'


    'แต่ฉันไม่ได้อยากเป็นหมอนี่!'


    ฉันอยากเป็นฮีโร่ที่สามารถเคียงข้างไปกับพวกนายได้ต่างหาก


    เด็กหญิงทุบมือกับโต๊ะเพื่อระบายความหงุดหงิด กำปั้นเล็กๆที่กระแทกเข้ากับโต๊ะอย่างแรงนั้นปรากฏรอยช้ำขึ้นแต่เพียงไม่นานก็เลือนหายไป เหมือนตอกย้ำอัตลักษณ์ที่เธอได้มา


    'ถึงจะไม่ได้เท่อย่างคัตจัง แต่ว่าอย่างน้อยฮานะจังก็ยังมีอัตลักษณ์ ส่วนผมน่ะ...'


    อิซึคุวัย 5 ขวบก้มหน้าพร้อมกัดปากตัวเองเหมือนจะร้องไห้ นั่นทำให้ฮานาบิลอบถอนหายใจ ก่อนจะตัดสินใจบางอย่าง


    'ห้ามร้องนะ อิสึจัง ฉันเชื่อว่าอัตลักษณ์อิสึจังจะต้องเป็นอัตลักษณ์ที่สุดยอดแน่'


    'ต- แต่ว่า-'


    'เชื่อสิ! เพราะแบบนั้นถึงอัตลักษณ์ของฉันจะไม่เหมาะกับการเป็นฮีโร่ แต่ฉันก็จะพยายามนะ ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นจนไม่ต้องพึ่งอัตลักษณ์เลย! อิสึจังเองก็ด้วยห้ามยอมแพ้เด็ดขาดเลยเข้าใจไหม'


    'อื้ม! ผมเองก็จะพยายามนะ ฮานะจัง!'


    เพราะอย่างนั้นหลังจากนั้นพอจบอนุบาลเธอจึงเลือกที่จะไม่เข้าโรงเรียนเดียวกับคัตจังและอิสึจัง แต่เข้าโรงเรียนประจำสำหรับปั้นนักกีฬาโดยเฉพาะ แน่นอนว่ากีฬาที่เธอเล็งไว้ก็ไม่พ้นกีฬาประเภทต่อสู้ เพราะว่าถ้าอัตลักษณ์เธอต่อสู้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ร่างกายของเธอเนี่ยแหละเข้าต่อสู้!


    "อ๊ะ นายคนที่ช่วยฉันไว้นี่" เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น ทำให้ฮานาบิหลุดจากภวังค์ความคิดของตนเองก็จะมอง อุรารากะ โอชาโกะที่กำลังคุยกับอิซึคุที่กำลังเลิ่กลั่กจนหน้าแดงก่ำ


    แหม สองคนนี้นี่น่ารักกันจังเลยแหะ


    "ตื่นเต้นจังเลยเนอะว่าอาจารย์ประจำชั้นของเราจะเป็นคนแบบไหน แล้ววันนี้วันแรกจะมีปฐมนิเทศหรือกิจกรรมอะไรให้เราทำไหมนะ" อุรารากะเอ่ยอย่างตื่นเต้นชวนให้รู้สึกเอ็นดู แต่บรรยากาศทักทายเพื่อนร่วมชั้นในเช้าวันแรกนั้นก็จบโดยเสียงแทรกที่ดูไร้เรี่ยวแรงเสียงหนึ่ง


    "ถ้าอยากจะเล่นก็ไปที่อื่น นี่มันโรงเรียนฮีโร่นะ"


    และเสียงที่ดังขึ้นนั้นก็ทำให้ทั่วทั้งห้องเรียนพากันเงียบกริบอย่างไม่ได้นัดหมาย


    "ใช้เวลา 8 วินาทีกว่าจะเงียบกันได้ ฉันไอซาวะ โชตะเป็นอาจารย์ประจำชั้นของพวกเธอ" 


    มาแล้วสินะ การทดสอบที่เธอกังวลเสียยิ่งกว่า การสอบเข้า


    "ใส่นี่แล้วไปรวมตัวกันที่สนามซะ"



    ♡♡♡♡♡



    "การประเมินอัตลักษณ์งั้นเหรอ!"


    "ที่ผ่านมาพวกเธอทดสอบสมรรถภาพโดยไม่ใช้อัตลักษณ์มาโดยตลอดเลยใช่ไหมล่ะ แต่คราวนี้เราจะมาทดสอบสมรรถภาพโดยใช้อัตลักษณ์เข้าช่วยกัน นายได้ที่หนึ่งการสอบปฏิบัติใช่ไหมล่ะ บาคุโก?"


    จากนั้นคัตจังก็ขว้างบอลออกไปได้ไกลกว่า 700 เมตรด้วยอัตลักษณ์ระเบิดของเขา


    "และคนที่ได้ที่โหล่จะต้องถูกไล่ออก"


    มาแล้วไง คำขู่ของไอซาวะเซนเซย์


    ฮานาบิอยากจะยกมือขึ้นมากุมขมับให้กับคำขู่นั่น จริงอยู่ว่าเธอรู้ว่าสุดท้ายไอซาวะเซนเซย์ก็ไม่ได้ไล่ใครออกจากห้องสักคน


    แต่ว่านั่นมันตอนที่เธอไม่ได้อยู่ห้อง 1-A ยังไงล่ะ ถ้าสุดท้ายไอซาวะเซนเซย์เห็นว่าอัตลักษณ์ของเธอไม่เหมาะกับการเป็นฮีโร่แล้วล่ะก็...


    "มาพยายามด้วยกันนะ ฮานะจัง" เสียงของอิซึคุที่ยืนอยู่ด้านข้างทำให้เธอหันไปมอง ก่อนจะพบว่าสีหน้าของคนที่พูดก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าเธอเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเอ่ยเพื่อให้กำลังใจเธอ


    นายเนี่ยเหมาะกับการเป็นฮีโร่จริงๆนั่นแหละ อิซึจัง


    "อื้อ มาทำให้เต็มที่กันนะ!" หญิงสาวเอ่ยอย่างเริงร่าพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างกลับให้เขา และยื่นกำปั้นของตนชนกับอีกฝ่ายเป็นการให้กำลังใจกันและกัน


    "เหอะ" คัตสึกิส่งเสียงออกมาอย่างรู้สึกหงุดหงิด เมื่อมองภาพเพื่อนสมัยเด็กทั้งสองของตนที่คนหนึ่งไร้อัตลักษณ์และอีกคนไม่ได้มีอัตลักษณ์ที่เหมาะกับการเป็นฮีโร่กำลังรวมหัวกันต่อหน้าเขา


    ก็แค่พวกอ่อนแอที่รวมหัวกันแล้วทำไมเขาถึงจะต้องรู้สึกหงุดหงิดแบบนี้กัน?


    "เอาล่ะ การทดสอบแรกวิ่ง 50 เมตร... เริ่ม!"


    ทันทีที่ไอซาวะส่งสัญญาณทุกคนก็เริ่มออกตัวในทันที และแน่นอนว่าคนที่มีอัตลักษณ์ที่ส่งเสริมทางด้านความเร็วก็ทำเวลาได้ดีอย่างไม่ต้องสงสัย


    "ว้าว สุดยอดเลย! นั่นเธอไม่ได้ใช้อัตลักษณ์จริงๆน่ะเหรอ ฮานาบิจัง" อุรารากะเอ่ยอย่างชื่นชม เมื่อเห็นเพื่อนสาวของตนทำเวลาได้ดีจนน่าประทับใจ


    "อื้อ แรงขาล้วนๆเลยล่ะ"


    "ผมก็คิดว่าฮานะจังจะเป็นพวกเดียวกับผมซะอีก" อิซึคุเอ่ยอย่างอ่อนแรง เมื่อการวิ่ง 50 เมตรกินแรงเขาไปพอสมควรและเพื่อนสาวที่หน้าตาซีดเซียวก่อนหน้าทำเวลาได้ช้ากว่าผู้มีอัตลักษณ์ไม่เท่าไหร่ เรียกว่าในคนที่ไม่ได้ใช้อัตลักษณ์ช่วยนั้น เธอทำความเร็วได้มากที่สุดเลยก็ว่าได้


    "ก็ฉันอยู่โรงเรียนนักกีฬามาก่อนนี่ ไม่แปลกหรอกถ้าจะทำเวลาในการทดสอบสมรรถภาพได้ดีกว่าคนทั่วไปน่ะ" ฮานาบิส่งยิ้มแห้งๆให้เขา


    "แต่ว่าอย่างที่ไอซาวะเซนเซย์พูดว่านี่เป็นการทดสอบสมรรถภาพโดยใช้อัตลักษณ์ ไม่มีการทดสอบไหนเลยด้วยซ้ำที่ฉันจะใช้อัตลักษณ์ได้เพราะแบบนั้นก็เลยกังวลอยู่ยังไงล่ะ"


    "เอาล่ะ พวกเธอการทดสอบต่อไป"


    "รีบไปกันเถอะ อิซึจัง ฉันเชื่อนะว่าจะต้องมีสักอันที่นายทำได้ดีแน่ๆเลยล่ะ"


    ฮานาบิทิ้งท้ายคำพูดเอาไว้ให้อิซึคุฮึดสู้ แต่ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบแรงบีบมือหรือกระโดดไกล คะแนนของเขาก็ย่ำแย่เหลือทน


    มันคงดีกว่านี้ถ้าเขาจะสามารถใช้อัตลักษณ์ออกมาได้ แต่ภาพความทรงจำที่ทั้งแขนและขาของเขาต้องยับเยิน เพราะอัตลักษณ์นั้นพาลให้เขารู้สึกกลัว


    "อินฟินิตี้!"


    เสียงเพื่อนร่วมห้องดังขึ้น เมื่อการทดสอบมาถึงการขว้างบอลและอุรารากะก็ใช้อัตลักษณ์ไร้แรงโน้มถ่วงของบอลลอยไปไกลจนไม่มีสิ้นสุด


    แบบนี้ไม่ได้การแล้ว


    "มิโดริยะดูท่าจะไม่ดีแล้ว" อีดะเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นความกังวลของเพื่อนร่วมชั้นยามถือลูกบอลขนาดเท่าฝ่ามือเหมือนคนกำลังคิดหนัก


    "ก็แน่ละ นั่นมันคนไร้อัตลักษณ์" 


    "หา นายไม่รู้สินะว่าเขาทำอะไรตอนสอบเข้า" อีดะว่าขึ้นทันทีเมื่อคัตสึกิเอ่ยว่าอิซึคุเป็นคนไร้อัตลักษณ์ และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่บอลในมือถูกขว้างออกไปพอดี


    "ท- ทำไม" อิซึคุเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อลูกบอลที่เขาตั้งใจใส่พลังในการขว้างตกอยู่ห่างจากฝ่าเท้าออกไปไม่เท่าไหร่


    "ฉันเอาอัตลักษณ์นายออก การสอบเข้านี่มันไม่สมเหตุสมผลเขาซะเลย แม้แต่คนอย่างนายก็สามารถเข้าเรียนได้"


    "คุณ คือ อีเรเซอร์เฮด" เขาเอ่ยอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นดวงตาคู่นั้นของอาจารย์ประจำชั้นเรียน


    "นายควบคุมอัตลักษณ์ไม่ได้ใช่ไหม" ไอซาวะเอ่ยอย่างไม่สนใจว่าอิซึคุจะรู้จักเขาหรือไม่


    "แล้วหลังจากนั้นนายใช้พลังแล้ว จะทำยังไงรอให้คนมาช่วย? พลังของนายไม่เหมาะจะเป็นฮีโร่หรอก มิโดริยะ อิซึคุ"


    เขาเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา และความตรงไปตรงมานั้นเองที่กระแทกใจอิซึคุเข้าอย่างจัง


    "เอาล่ะ ตอนนี้ฉันคืนพลังให้นายแล้ว อยู่ที่นายว่าตัดสินใจยังไง"


    "เหมือนว่าเขาจะได้รับการสั่งสอนนะ" อีดะว่าพลางขยับแว่น


    "แล้วการสั่งสอนนั่นก็ทำให้เขาเติบโตขึ้นไปอีกล่ะ" ฮานาบิเอ่ยพร้อมกับยกยิ้ม


    "เหอะ ยังไงผลก็ออกมาก็คงเหมือนเดิม ในเมื่อหมอนั่นมันคนไร้อัตลักษณ์นี่" คัตสึกิว่าขึ้น แต่ฮานาบิไม่ได้เอ่ยตอบคำพูดนั้น เพราะเธอรู้อยู่แล้วน่ะสิว่า...


    อิซึคุตัดสินใจขว้างบอลออกไปโดยอาศัยแรงจากพลังที่นิ้วเพียงนิ้วเดียว และนั่นทำให้ลูกบอลของเขาถูกขว้างไปได้ไกลกว่า 700 เมตรเช่นกัน


    เขาจะทำได้


    "ร่างของผมยังไม่พัง" อิซึคุหันมาพูดกับไอซาวะเซนเซย์ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างของเพื่อนสมัยของตนที่กำลังพุ่งเข้ามา


    "บอกฉันมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น เดกุ!!" คัตสึกิวิ่งตรงเข้ามาหมายจะคว้าคอเสื้อของอิซึคุมาเค้นถามให้มั่นใจ


    ทำไมจู่ๆหมอนั่น เดกุที่ไร้อัตลักษณ์มาตลอดถึงมีอัตลักษณ์แบบนั้นขึ้นมาได้!


     "ใจเย็นก่อนสิ คัตจัง!" ฮานาบิคว้าไหล่ของคัตสึกิทั้งสองเอาไว้


    "แกหลอกฉันมาตลอดเหรอวะ! เดกุ!!"


    "คือ ผม..."


    "พอเถอะน่า คัตจังนายจะโมโหแล้วอารมณ์เสียใส่อิซึจังแบบนี้ไม่ได้นะ มีอะไรคุยกันดีๆเถอะ" ฮานาบิเอ่ยเตือนอีกฝ่าย ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าคัตสึกิโกรธเพราะอะไร แต่ตอนนี้ทั้งคัตสึกิและอิซึคุต่างก็เป็นเพื่อนของเธอ ไม่ใช่เป็นเพียงตัวละครที่ชอบทั้งสอง เพราะฉะนั้นถ้าเลือกได้เธออยากให้ทั้งสองคนปรับความเข้าใจกันก่อนที่ความบาดหมางจะเท่าทวีมากขึ้นในคาบฝึกพื้นฐานฮีโร่ช่วงบ่าย


    "เธอไม่ต้องมายุ่งได้ไหมวะ น่ารำคาญ!"


    "โอ๊ย!"


    คัตสึกิเหวี่ยงมือของตนเองพร้อมกับจุดระเบิดที่มือของตน เพื่อปัดหญิงสาวออกด้วยอารมณ์โมโห จนร่างของเธอล้มจ้ำเบ้าไปกับพื้นสนาม


    "พอแค่นั้นแหละ บาคุโก" ไอซาวะใช้อาวุธของตนคว้าเขาเอาไว้ในทันที "การทดสอบต่อไปจะเริ่มแล้ว ถ้าช้าฉันจะหักคะแนนนายนะ"


    "ชิ!" คัตสึกิส่งเสียงหงุดหงิด เมื่อไม่สามารถเค้นเอาความจริงออกมาได้ตามที่หวังและต้องข่มอารมณ์โกรธของตนเอาไว้อีกครั้งอย่างน่าหงุดหงิด


    "เป็นอะไรรึเปล่า โมโดสุคุง หมอนั่นแย่จริงๆเลยนะ" อีดะว่าอย่างเป็นห่วงพร้อมกับยื่นมือให้อีกฝ่ายเกาะ พร้อมกับที่อิซึคุวิ่งมาดูเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วง และเสียงของคนเหล่านั้นทำให้ฝีเท้าของคัตสึกิหยุดชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง


    "ไม่เป็นไรหรอก คัตจังแค่ระเบิดเบาๆไล่ฉันเฉยๆน่ะ ดูสิไม่มีแผลเลยเห็นไหม" ฮานาบิอาศัยแขนของอีดะเพื่อลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงหมุนซ้ายหมุนขวาให้เขาเห็นว่าเธอไร้รอยขีดข่วน


    ยัยคนโกหก


    คัตสึกิคิดในใจ เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ออมแรงเลยแม้แต่น้อย ก็อยากหันกลับไปขอโทษอยู่หรอก


    แต่ทำไมยัยนั่นต้องอยู่กับเจ้าเดกุด้วยฟะ!


    ชายหนุ่มพ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินกลับเข้าไปในโรงยิม ก่อนที่เขาจะคุมตัวเองไม่อยู่แล้วกลับไปหาเรื่องพวกนั้นอีกครั้ง


    "ค่อยยังชั่ว ถ้าฮานะจังบาดเจ็บเพราะห้ามคัตจัง ผมต้องรู้สึกผิดแน่ๆ"


    "อะไรของนายล่ะนั่น เพราะฉันไปขวางคัตจังเองต่างหากไม่เห็นจะเกี่ยวกับอิซึจังเลย" ฮานาบิว่าไปตามจริง อันที่จริงระเบิดไปแรงมากแต่เพราะความตกใจทำให้เธอล้ม แน่นอนว่าได้แผลที่ฝ่ามือเล็กน้อยแต่อัตลักษณ์ของเธอก็ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวซะอีก


    จะมีก็แต่คำว่า น่ารำคาญ ที่ออกมาจากปากเขานั่นแหละที่ไม่สามารถรักษาให้มันหายออกไปจากใจได้


    หรือว่าการที่เธอเข้าหาเขาอย่างสนิทสนมมันจะดูน่ารำคาญเกินไปนะ


     ยังไงก็เป็นคนที่ไม่ได้เจอกันมาตั้ง 10 ปีแล้วนี่นา


    "-านะจัง เป็นอะไรรึเปล่า ฮานะจัง?"


    "อ- เอ๊ะ เปล่าหรอกพอดีเผลอคิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ" ฮานาบิรีบเอ่ยเมื่อเห็นดวงตาสีเขียวมองจ้องมาด้วยความเป็นห่วง 


    "จริงสิ ยื่นนิ้วที่นายขว้างบอลเมื่อกี้มาสิ อิซึจัง"


    "อ่า นี่น่ะเหรอ" อิซึคุยื่นนิ้วที่หงิกงอเพราะกระดูกผิดรูปให้เธอ


    "คงเจ็บน่าดูเลยสินะ" เธอว่า ก่อนจะวางมือทาบลงไปบนนิ้วมือของเขา


    เพียงชั่วครู่ที่ฝ่ามือของหญิงสาวทาบทับลงมา อิซึคุก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่แผ่เข้าสู่ปลายนิ้ว พร้อมกับเห็นประกายสีเขียวที่ล้อมรอบฝ่ามือของเพื่อนตน


    "นี่มัน..."


    อิซึคุมองนิ้วของตนที่กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเพียงชั่วพริบตาและเมื่อลองขยับก็พบว่าเขาไม่รู้สึกเจ็บปวดเลยสักนิดเดียว แม้แต่กระดูกที่หักก็ยังกลับคืนสภาพเดิมด้วย


    "อัตลักษณ์ของฉันไม่ได้ทำได้แค่ปิดปากแผลแบบตอนเด็กๆแล้วนะ อิซึจัง จำได้ไหมที่ฉันเคยบอกว่าฉันจะต้องเก่งมากขึ้นไปกว่านี้ ทั้งหมดก็เพื่อเป็นฮีโร่ที่สามารถจะใช้อัตลักษณ์นี้ช่วยเหลือฮีโร่ที่ต่อสู้กับพวกวิลเลินจนได้รับบาดเจ็บได้ยังไงล่ะ ฉันอยากที่จะเป็นฮีโร่แบบนั้นแหละ"


    "อื้อ เข้าใจแล้ว" อิซึคุพยักหน้ารับ คำพูดที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นนั้น


     "ถ้าอย่างนั้นเรามาผ่านการทดสอบนี้ไปด้วยกันให้ได้เลยนะ"


    "ตกลง!"



    ♡♡♡♡♡


    Talk:


    จบตอนแรกแล้วอย่างที่บอกประโยคในการพูดคุยอาจจะไม่เหมือนเดิมนะคะ  เพราะว่าไรท์ขก.แกะคำพูดน่ะค่ะแหะ




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×