ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END)We Found Each Other (Severus Snape X Harry Potter)

    ลำดับตอนที่ #7 : First day at school (Rewrite)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.31K
      161
      13 พ.ค. 60


       วันแรกของการเรียนน่ะเหรอ ค่อนข้างเลวร้ายเลยล่ะ เริ่มต้นด้วยมักเกิ้ลศึกษาและประวัติศาสตร์เวทมนต์ในช่วงเช้า แต่ตอนนี้พวกเราได้แต่นั่งอ้อยอิ่งกินอาหารกันที่ห้องโถงใหญ่อีกสิบนาทีจะต้องเริ่มเรียนวิชาแรกขณะที่รอนกำลังวุ่นอยู่กับเรื่องถุงเท้าที่หายไป


    "ฉันว่าฉันเอาใส่กระเป๋ามาแล้วนะ" น้ำเสียงหงุดหงิดของเพื่อนผมแดงกำลังบอกว่าการเปิดเรียนวันแรกไม่ควรจะเริ่มต้นด้วยเรื่องแบบนี้

    "นายคงจะลืมถุงเท้าอีกข้างไว้ที่บ้าน" (ไม่รู้จะพูดคำไห่นกับเขาดี)

    "แต่แฮร์รี่ ฉันมีถุงเท้าห้าคู่ที่มันพอดีกับการไปเรียนหนึ่งสัปดาห์ แต่ตอนนี้มันเหลือแค่สี่คู่กับอีกครึ่ง ปัญหาใหญ่เลยนะ" รอนยังทำเป็นเรื่องใหญ่

    "ฉันเตรียมมาเผื่อสองคู่ จะให้นายคู่นึงก็ได้" เชมัสยิ้ม

    "แต่ฉันว่านะรอน นายควรจะหัดซักถุงเท้าทุกวันนะ" เฮอร์ไมโอนี่พูดแต่ยังก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสืออยู่ ผมรู้ว่ารอนได้ยินที่เธอพูดแต่เดาได้เลยเขายอมยืมถุงเท้าหนึ่งคู่ของดีนมากกว่านั่งซักมันทุกวันหลังเลิกเรียน

    "แล้วฉันจะทำยังไงกับถุงเท้าไม่มีคู่ที่น่าสงสารล่ะ" รอนยังไม่เลิกคิดเรื่องถุงเท้า

    "ลองเปลี่ยนมันเป็นผ้าพันคอดีไหม" ดีนออกความเห็นบ้างหลังจากเงียบมานาน

    "ขอบคุณนายมากดีน สร้างสรรค์สุดๆ"

    หนุ่มผมแดงโผเข้ากอดเพื่อนสนิทแน่น


    'รอนคงไม่เปลี่ยนถุงเท้าข้างนั้นเป็นผ้าพันคอหรอก..ใช่มั้ย'



       เราเรียนวิชามักเกิ้ลศึกษาเสร็จพร้อมกับการบ้าน ต้องรายงานเกี่ยวกับ'สงครามของพวกมักเกิ้ล'เป็นของแถม ต่อมาก็เป็นศาสตราจารย์บินส์กับวิชาประวัติศาสตร์เวทมนตร์ อย่าถามผมเลยว่าเรียนเรื่องอะไร เพราะทุกคนหลับกันหมด (อ้อ ยกเว้นเฮอร์ไมโอนี่ที่ตั้งใจจดสิ่งที่ศาสตราจารย์พูดทุกคำ) 

       คาบบ่ายตอนนี้ผมกำลังเรียนวิชาแปลงร่างกับซิเรียส เขาสอนพวกเราให้แปลงร่างจากกุญแจเป็นนก เชมัสทำได้เกือบดีเช่นเคย(เพราะเขาร่ายคาถาจนกุญแจระเบิดหายไป) 

    "ดูเหมือนเธอจะต้องการกุญแจดอกใหม่นะ ฟินิแกน" ซิเรียสยื่นกุญแจให้สามดอก(สำหรับเชมัส เผื่อไว้ก็ดี)

    "ศาสตราจารย์แบล็กคะ หนูทำได้แล้วค่ะ" เฮอร์ไมโอนี่ร้องลั่นพร้อมกับนกพิราบที่เกาะบนบ่า

    "ดีมากคุณเกรนเจอร์ วันนี้เราพอแค่นี้นะทุกคน พรุงนี้เราจะเปลี่ยนแมงมุมเป็นเสื้อกัน"


    รอนหน้าซีดทันทีเมื่อซิเรียสพูดจบ เขาพึมพำกับตัวเองอยู่นานว่า'ต้องไม่ใช่แมงมุม ฉันจะไม่ใส่เสื้อนั้นเด็ดขาด'


    "ไปกันเถอะรอน ไปสงบสติอารมณ์กัน" ผมโอบบ่าเพื่อนสนิทพาเขาออกจากห้องให้เร็วที่สุด รอนกลัวแมงมุมเอามากๆถ้าคาบหน้าซิเรียสให้เรียนจริงๆเขาต้องสติแตกแน่ 

    "แฮร์รี่ มานี่หน่อย" ซิเรียสยืนกอดอกอยู่ข้างหลังห้อง



    เขารอให้ทุกคนออกไปก่อน ผมบอกลารอนแล้วสัญญาว่าจะตามไปที่หอคอยกริฟฟินดอร์



       ถือว่าไม่เลวเลยกับการเป็นศาสตราจารย์คนใหม่ที่ฮอกวอตส์ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนอาจจะรวมไปถึงเพื่อนร่วมงานด้วย(ยกเว้นสเนปนะ) ทุกคนในชั้นเรียนชอบเขาสุดๆ มีนักเรียนหญิงส่วนหนึ่งแอบยิ้มหวานให้เขาอีกด้วย 

    "เป็นยังไงบ้าง การเรียนในวันแรก" 


    'เป็นคำถามที่ดี'


    "ผู้หญิงเรเวนคลอแอบส่งสายตาหวานเยิ้มให้รู้สึกยังไงบ้างครับ คุณศาสตราจารย์" ผมแซวเขา


    "มานี่สิ" 


       ผมตกอยู่ในอ้อมกอดของซิเรียส ยิ่งพยายามดิ้นหนีเขายิ่งกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ ผมรู้ว่าเขาเป็นพ่อทูนหัวแต่ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้ในที่สาธาณะแบบนี้ ฮอกวอตส์มีคนผ่านไปผ่านมาตลอดไม่มีทางที่เรื่องนี้จะรอดจากสายตานักเรียนอยากรู้อยากเห็นไปได้ เขาใช้มือสากๆประคองใบหน้าผมไว้ให้สบตากันจากนั้นเขาก็ขยับใบหน้าตัวเองใกล้เรื่อยๆ ริมฝีปากนั้นสัมผัสอ่อนโยน แต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีสักนิด ผมใช้ฝ่ามือตบเข้าที่หน้าของซิเรียสอย่างจังเพื่อเตือนสติว่า'คุณกำลังจูบลูกตัวเองอยู่นะ!'


    "ทำไมคุณทำแบบนี้!" ผมมองเขาด้วยสายตาโกรธเคือง

    "เพราะฉันรู้สึกกับเธอแบบนั้น...ฉันนึกว่าเรารู้สึกเหมือนกันเสียอีก" 
     
    "คุณเป็นพ่อของผม  พ่อทูนหัว!" 
     
       ผมเดินออกจากห้องเรียนแล้วเดินไปให้ไกลที่สุด หนีจากเหตุการณ์ที่ได้เจอเมื่อครู่ มันเลวร้ายมาก คนๆเดียวในครอบครัวที่เหลือทำลายความรู้สึกดีๆภายในไม่กี่วินาที ผมเดินไปแบบไร้จุดหมาย แต่ชนใครบางคนเข้า


    'เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลย กางเกงในเมอร์ลิน!'


    เราตกบันไดทั้งคู่ แล้วผมก็เริ่มรู้สึกตัวอีกครั้ง



    "หัก 50 คะแนน จากกริฟฟินดอร์ ทำให้ฉันต้องเสียเวลาและเจ็บตัว" นักเรียนกริฟฟินดอร์ที่นั่งอยู่ตรงนั้นก้มหน้าดูแขนตัวเองแล้วพูดขึ้น  พอถึงวินาทีที่เราสบตากันมันทำให้ผมแทบช็อค ผมเดินชนตัวเอง...มันหมายถึงผมเดินชนผมอีกคนนึง แต่มันแปลกๆก็ตรงที่คำพูดเนี่ยแหละ(ผมว่าผมเคยได้ยินมาจากใครสักคน)
     

    "เธอไปอยู่ในร่างฉันได้ยังไง พอตเตอร์" ผมอีกคนพูด
     

    'หมายถึงอะไร ผมอยู่ในร่างใครงั้นหรอ...ผมยาวประบ่า เสื้อคอจีนสีดำ ผ้าคลุมสีดำ'


    "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก" 

    'กางเกงในเมอร์ลินผมอยู่ในร่างสเนป ให้ตายเถอะ'


    ผมกับสเนปไม่รอช้าเรารีบวิ่งไปที่ห้องของศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์ทันที
     



    "ศาสตราจารย์!" ผมกับสเนปตะโกนเรียกชื่อดัมเบิ้ลดอร์พร้อมกัน
     
    "อะไรทำให้เธอทั้งสองคนมาอยู่ที่นี่ในเวลาเดียวกันได้ล่ะ" ดัมเบิ้ลดอร์ลุกจากที่นั่งเดินตรงมาทางเรา
     
    "ผมสลับร่างกับศาสตราจารย์สเนปฮะ"
     
    "ใช่ว่าฉันอยากจะอยู่ในร่างเธอหรอกนะพอตเตอร์ !" 

    "อ้อ เข้าใจล่ะ เมื่อ 1500 ปีก่อนมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งแรก ตอนนั้น-" 


    ดัมเบิ้ลดอร์เริ่มอธิบาย แต่สเนปก็พูดขัดเสียก่อน

     
    "จะกลับเป็นปรกติเมื่อไหร่ครับ ศาสตราจารย์" 
     
    "เร็วสุดเท่าที่พบมาก็ สี่เดือน ช้าสุดก็ประมาณ สิบสองปี" 
     
    "แล้วเรื่องควิดิชล่ะฮะ" ผมถามบ้าง
     
    "หัก 20 คะแนน โทษฐานไม่รู้เวลา" สเนปในร่างผมพูด
     
    "ใจเย็น เซเวอรัส เพื่อให้ทุกอย่างเป็นปกติ เธอทั้งคู่ต้องเก็บเรื่องในวันนี้เป็นความลับอย่าให้ใครรู้เด็ดขาด ยกเว้นซิเรียส แบล็ก เขาสมควรรับรู้เรื่องนี้ แฮร์รี่ เธออยู่ในร่างของศาสตราจารย์สเนปเพื่อให้สมบทบาทเธอต้องอยู่ที่คุกใต้ดินสักระยะ ส่วนเธอ เซเวอรัส เธอมีทางเลือกระหว่างนอนที่ห้องนอนของเธอกับพอตเตอร์ หรือ นอนที่หอคอยกริฟฟินดอร์" ดัมเบิ้ลดอร์เสนอทางออก
     
    "นอนที่ห้องนอนตัวเอง และผมจะคอยแก้ตัวกับเพื่อนๆของพอตเตอร์ครับ" สเนปรับข้อเสนออย่างไม่ค่อยยินดีเท่าไหร่

    "เอาล่ะกลับไปทำหน้าที่ ที่อีกฝ่ายสมควรจะทำ อ้อ เรื่องควิดิชยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น เซเวอรัสเธออยู่ในร่างพอตเตอร์ เธอไม่สามารถหักคะแนนบ้านใครได้ เข้าใจนะ" แล้วดัมเบิ้ลดอร์ก็กลับไปนั่งทำงานต่อ  ผมกับสเนปเดินออกมาจากห้องแล้วไปที่ห้องโถงใหญ่สำหรับมื้อเย็น
     
    "อย่าทำฉันขายหน้าพอตเตอร์ ไม่งั้นคืนร่างเดิมเมื่อใหม่ คะแนนบ้านเธอติดลบแน่ๆ" สเนปพูดกับผม แล้วพาร่าง(ของผม) ไปนั่งข้างๆรอนและเฮอร์ไมโอนี่
     

    ผมต้องแกล้งทำแบบนี้ไปอีกเท่าไหร่เนี่ยให้ตายสิ
     



       เวลาอาหารเย็นผ่านไปอย่างเชื่องช้า จนแบบจะนับวินาทีกันเลยทีเดียว   บางทีการเป็นสเนปก็มีข้อดีตรงที่ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามายุ่ง
     

    "แฮร์รี่" ซิเรียส หันหน้ามาหาผม ใช่ผมลืมไปว่าดัมเบิ้ลดอร์บอกซิเรียสเรื่องนี้
     
    "..."

    "ฉันขอโทษ ฉันเป็นพ่อที่ไม่ได้เรื่อง" เขากำลังโน้มน้าวให้ผมยอมคืนดี

    "ซิเรียส ผมยกโทษให้ แต่คุณต้องสัญญาว่าจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก เป็นแค่พ่อ-ลูกแค่นั้น" 
     
    "ขอบคุณที่ยกโทษให้"

    "ผมยกโทษให้ แต่มันไม่ได้หมายความว่า ผมจะลืมมัน" ผมไม่ได้โกรธเขาแล้ว แค่ยังไม่อยากเห็นหน้าตอนนี้ ผมเดินออกจากห้องโถงใหญ่ตรงไปในที่ๆผมควรจะอยู่
     
     
       ผมนั่งรอสเนปที่ห้องส่วนตัว มันมืดมาก บรรยากาศวังเวงสักพักเจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามา (ผมรู้ในทันทีเพราะการเปิดปิดประตูที่เป็นเอกลักษณ์)


    "เราต้องคุยกัน พอตเตอร์" 
     
    "ครับ ศาสตราจารย์"
     
    "ฉันมีสอนบ้านฮัฟเฟิลพัฟ และ เรเวนคลอ ปีสอง ในตอนเช้า ตอนบ่ายคือกริฟฟินดอร์และสลิธีรีน ปีเจ็ด แค่ให้ทำรายงาน แล้วไม่ต้องพูดอะไร ทำตามที่ฉันบอก"
     
    "ครับ เอ่อ ศาสตราจารย์ฮะ แล้วควิดิชผมล่ะ" ผมพยายามพูดบ้าง

    "เราจะคุยเรื่องนั้นกันวันหลัง พอตเตอร์"

    "แต่มันสำคัญมากนะครับ ศาสตราจารย์"

    "หยุดพูดเสียที นอนที่โซฟาไปซะ อย่าวุ่นวาย" แล้วสเนปก็เดินเข้าห้องนอนไป
     
       ผมนั่งทำใจว่ากริฟฟินดอร์คงไม่ได้ถ้วยควิดิชปีนี้แน่นอน แต่สเนปก็พูดผ่านประตู (ควรเรียกว่าตะโกนมากกว่า)

    "พอตเตอร์ อาบน้ำก่อนนอนด้วย ฉันไม่อยากรู้สึกสกปรกก่อนนอน" 
     
    'อะไรกัน ขนาดผมอยู่ในร่างสเนปผมยังแทบจะไม่รู้สึกสกปรกอะไรเลย'
     



    'เดี๋ยวนะ'


     
    'อาบน้ำหรอ?' 



       ผมลืมไปเลย ตามที่ศาสตราจารย์ดัมเบิ้ลดอร์พูดถึงการสลับร่างกันในประวัติศาสตร์ เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย ทำไมผมถึงนึกไม่ออกนะ ผมเดินไปที่ห้องน้ำ หยิบผ้าขนหนูที่พาดไว้แบบกล้าๆกลัวๆ 

       ผมค่อยๆปลดกระดุมเสื้อ และถอดเสื้อผ้าจนหมด(ไม่ได้ตั้งใจเซ็กซี่หรอก แต่ถัาทำเสื้อผ้าสเนปเสียหายคงจะเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ) ผมมองแผงอกตัวเอง ไม่ใช่สิ ของสเนปที่ดูดีจนแทบจะไม่อยากเชื่อ อธิบายไม่ถูก มันต่างจากที่เคยเห็นของซิเรียส แต่ร่างกายสเนปนี่ดูได้สัดส่วนไปหมดตั้งแต่ไหล่จนถึงรอบเอว  

       รูปร่างสูงโปร่ง เหมาะที่จะไปอยู่ตามชายหาดมากกว่าใส่ชุดสีดำเป็นศาสตราจารย์อยู่ที่โรงเรียน หรือถ้าใครต้องการแบบวาดรูปก็ต้องแบบนี้แหละ  เหมือนรูปปั้นเทวดาที่สามารถเห็นได้ทั่วไป  แข็งแรง ทรงพลัง สง่างาม ไม่ใช่กล้ามบึกบึนจนดูคล้ายกับนายแบบกางเกงใน'คาลวิน ไคลน์'ของมักเกิ้ล
     

       ผมตั้งสติอีกครั้ง ทำตัวให้เป็นปกติที่สุด (แต่ไม่สามารถทำให้หน้าแดงๆกลับเข้าสู่สภาพปกติได้) ผมอาบน้ำแบบหลับตา ไม่อยากเห็นอะไรไปมากกว่านี้ 
    รีบอาบน้ำและแต่งตัว (หลับตาอีกเหมือนกัน) แล้วล้มตัวลงนอนที่โซฟา อย่างเงียบๆ ไม่ส่งเสียงอะไรทั้งสิ้น ทบทวนความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกับผมในวันนี้ ตั้งแต่เรื่องที่โกรธกับซิเรียสจนมาถึงเรื่องอาบน้ำในร่างคนอื่น


    มีความคิดนึงกระโดดออกมาจากสมองส่วนที่ลึกที่สุดของผม

       ป่านนี้สเนปคงจะเห็นร่างกายของผมหมดแล้วสินะ (ถ้าเขาไม่ได้หลับตาเหมือนกับผม) ให้ตาย
    เถอะ
    นี่แค่วันแรก เองนะ แล้วผมต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่เนี่ย?

    TBC.



    Writer's talk
       ตอนนี้เป็นที่ไรเตอร์ใช้เวลากับมันนานมาก เขียนได้สักพักก็สติหลุดอีกเสียแล้ว แถมยังมีแฟนที่ชอบชวนคุยให้ไขว้เขวอีก ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาถึงตอนนี้นะคะ//ไหว้แบบนางงาม
       
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×