ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END)We Found Each Other (Severus Snape X Harry Potter)

    ลำดับตอนที่ #3 : Hello Visitor!! (Rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 60



       นี่อาจจะเป็นการเริ่มต้นของช่วงเวลาแห่งความขี้เกียจก็เป็นได้ กว่าผมจะรวบรวมแรงเพื่อลุกขึ้นจากเตียงได้ก็ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงกว่าๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ขี้เกียจถึงขั้นนี้ เพราะขณะนี้คือเวลาสิบนาฬิกากับอีกสิบห้านาที มันเลยเวลาของอาหารเช้าอย่างแน่นอนบางทีถ้าผมลงไปที่ครัวอาจจะเจออาหารเช้าที่เย็นชืดวางไว้ก็ได้



       การเดินในบ้านบางทีก็ไม่จำเป็นต้องใส่เสื้อในความคิดของผม ป่านนี้ครีเชอร์คงกำลังทำอะไรสักอย่างในห้องของเรกูลัส น้องชายของซิเรียส มันคือที่เดียวที่เจ้าเอล์ฟประจำบ้านที่นี่จะไปอยู่ได้และยังสามารถอยู่ได้ทั้งวันอีกด้วย



       ผมเดินมาถึงห้องข้างๆ ด้วยมารยาทผมจึงเคาะประตูก่อนที่จะเดินเข้าไป เสียงข้อนิ้วกระทบกับประตูไม้หนาไม่ได้ก่อให้เกิดเสียงดังมากนัก แต่ถ้าให้เดาแล้วเขาคงจะได้ยิน...ในกรณีที่ตื่น เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆร่างของชายวัยกลางคนนอนแผ่ภายใต้ผ้าห่มบาง ลมพัดเย็นสบายเพราะเปิดหน้าต่างเอาไว้ ผ้าม่านพลิ้วสะบัดไม่หยุดอยู่กับที่ มีบางอย่างอยู่ข้างหมอนและผมสงสัยมากว่ามันคืออะไร



    ที่ผมมั่นใจเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นคือ...


       หนึ่ง มันคือหนังสือในโลกของผู้วิเศษ หน้าปกสามารถขยับได้ซึ่งแตกต่างจากของมักเกิ้ล 


       สอง เขาซื้อมาจากร้านตัวบรรจงและหยดหมึก ตอนที่เขาไปตรอกไดแอกอนกับผมเมื่อวันก่อน



       ไม่นึกเลยว่าซีเรียสจะสนใจในการอ่านหนังสือด้วย เพราะดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วเขาน่าจะมีงานอดิเรกอย่างอื่นมากกว่าเช่นการตามล่าสัตว์วิเศษแบบนิวท์ สคามันเดอร์ เขาไม่น่าจะจดจ่อกับอะไรได้นานแบบนี้ และหนังสือเล่มนี้ก็มีชื่อเรื่องว่า... ‘การดูแลตัวเองอย่างไรให้ดูสุขภาพดี’... ‘เหมาะสำหรับผู้วิเศษวัยกลางคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย’



       โอ้ว! นี่ต้องเป็นการเข้าใจผิดอะไรสักอย่าง คนที่นอนตื่นบ่ายโมงแบบซีเรียสน่ะหรอเรียกว่าไม่มีเวลา ถ้าจะนอนขนาดนี้มันจะได้ออกกำลังกายตอนไหนกันเล่า เขาขี้เซาเป็นบ้าและที่สำคัญผมต้องลงไปทำอาหารให้เขากินอีกต่างหาก มันทำให้ผมนึกถึงคำพูดเวลาซีเรียสบอกกับผมก่อนจะเข้าครัวเสมอ 'อะไรก็ได้แต่ไม่ใส่หัวหอมใหญ่’



       ผมต้องรีบไปให้อาหารบัคบิคกับเฮ็ดวิกเสียก่อน โดยเฉพาะแม่นกฮูกของผม เอาใจยากและขี้งอนไม่แพ้แม่มดเลยล่ะ ผมเลือกวิธีรูดราวบันไดลงไปชั้นล่างแบบที่มักเกิ้ลเด็กๆชอบเล่นกัน บางครั้งการไม่ใช้เวทมนตร์ก็มีความสุขไปอีกแบบนะ ลองคิดดูสิถ้าคุณลองรูดราวบันไดที่ฮอกวอตส์มันคงจะ...เอ่อ..ขอโทษที ผมว่าที่ฮอกวอตส์มันจะอันตรายไปหน่อย บันไดที่บ้านตัวเองนั่นแหละ ปลอดภัยที่สุดแล้ว



    วันนี้เมนูที่ผมจะทำก็คือมันบด กับ-



    ออด---ออด



       เสียงออดดังขึ้นจากหน้าประตู ทำให้ผมตื่นเต้นว่าผู้มาเยือนนั้นจะเป็นใครกัน ต้องเป็นรีมัสกับท็องส์ ไม่ก็รอน ขาประจำของบ้านนี้แน่ๆ เพราะเรามีนัดดูหนังกันตอนบ่ายนี้ 


       ผมแง้มประตูเล็กน้อยเพราะไม่ได้ใส่เสื้อ กลัวว่าจะบังเอิญเป็นเฮอร์ไมโอนี่ เธอคงไม่อยากเห็นเพื่อนสนิทขี้ก้างที่ไม่ได้แปรงฟันในเวลานี้ 


       ผิดคาดบุคคลที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่ได้อยู่ในรายชื่อท็อปเท็นผู้มาเยือนบ้านเลขที่สิบสองนี้เลยแม้แต่น้อย ผมสีดำประบ่า ชุดคลุมสีเข้มเข้ากันกับเสื้อคอจีน นี่จะต้องเป็นความฝัน...ฝันร้ายสุดๆ


    ศาสตราจารย์เสนปกำลังยืนกอดอกโดยมีประตูเพียงบานเดียวกั้นระหว่างเราสองคนไว้ 


    "จะให้ฉันยืนรออีกนานไหม? พอตเตอร์" ผู้มาเยือนเอ่ยเสียงเรียบๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันทำให้คนฟังเสียวสันหลังวาบ


    "ศาสตราจารย์...คือ..ผ..ผม" 


    "เปิดประตู พอตเตอร์ ข้างนอกแดดมันร้อน" 


       ผมยืนเก้ๆกังๆอยู่นาน จนต้องยอมสายตาอาฆาตที่สามารถเขมือบผมทั้งตัวได้ เขาผลักประตูบานใหญ่เข้ามา ผมรีบไปหลบหลังแจกันดอกไม้เพราะความเขินอาย ถ้าเป็นคนอื่นเห็นผมถอดเสื้อล่ะว่าไปอย่างแต่นี่...จะบอกว่าอย่างไรดี...ผมเขินเสนปมากกว่าทุกคนเสียอีก


       ผมดำขลับสะบัดไปมาทุกครั้งที่เขาหันซ้ายขวา เขากำลังมองบ้านของซิเรียสทุกกระเบียดนิ้ว ทำอย่างกับว่าบ้านหลังนี้ซ่อนมังกรไว้ และสุดท้ายเขาก็หันกลับมาที่ผมอีกครั้ง มีเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอด้วย


    "ไปลากแบล็คลงมาข้างล่างเดี๋ยวนี้ ฉันมีเรื่องจะคุย" ศาสตราจารย์แกล้งทำไม่รู้ไม่เห็นว่าผมกำลังเปลือยท่อนบน สิ่งที่เขาอยากพูดคือให้ไปแต่งตัวให้เรียบร้อยแล้วเรียกซิเรียสลงมา


       เขาหลีกเลี่ยงที่จะวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสรีระของผม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเกลียดชังหรือไม่ถือสากันแน่


       ผมรีบวิ่งขึ้นบันไดในทันที เมื่อกี้ที่วิ่งผ่านแขกผมก็ใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าอกเอาไว้ หวังว่าเขาคงจะไม่เห็นอะไร และผมก็ไม่อยากให้เขาเห็นด้วย


    "จะวิ่งทำไม หายตัวสิพอตเตอร์! ปัดโถ่! กางเกงในเมอร์ลิน" เสนปตะโกนไล่หลังผม


    "ขอโทษครับ ศาสตราจารย์!"


       และผมก็โผล่เข้ามาในห้องของซิเรียสด้วยความรวดเร็ว เจ้าตัวยังคงนอนอยู่ท่าเดิมกับที่เห็นครั้งสุดท้าย แต่นั่นไม่ใช่อะไรที่ผมต้องใจอ่อนด้วย ผมคว้าเสื้อยืดปลายเตียงของเขามาใส่ก่อน


    "เฮ้ ซิเรียสตื่นได้แล้ว" 


    "อือออ" 




    ผมรู้ว่าเขาขี้เซาแต่นี่ไม่ใช่เวลาที่ดีเลย




    "มีอะไร...แฮร์รี่" นัยน์ตาสีน้ำตาลค่อยๆลืมตามองผม เขาใช้แขนข้างหนึ่งค้ำตัวเพื่อลุกขึ้นนั่ง


    "เสนปมาหาคุณ เขากำลังรออยู่ข้างล่าง"


    "น่าสนใจ เมอร์ลินคงไปกระตุ้นต่อมมนุษย์สัมพันธ์ของเซเวอรัสเข้าสินะ" 


       ซิเรียสคว้าเสื้อเชิร์ตจากปลายเตียงมาใส่เช่นเดียวกันกับผม เขาก็นอนถอดเสื้อเหมือนกัน ติดตรงที่ว่าเขาใส่กางเกงใน ส่วนผมใส่กางเกงขายาว 


       การติดกระดุมอาจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่เพิ่งตื่นนอนก็ได้ เช่นเดียวกับการล้างหน้าก่อนจะไปพบแขก ผมยุ่งๆไม่ได้จัดทรงก็ฟ้องว่าเพิ่งตื่นนอนจริงๆ


       เราทั้งคู่หายตัวลงมาที่กลางบ้าน เสนปเลิกคิ้วมองเจ้าบ้าน มือไพ่หลังเดินมาหาซิเรียสส่วนผมก็หลบอยู่หลังพ่อทูนหัวด้วยความกลัว...กลัวอารมณ์ที่แปรปรวนของเสนป


    สายตาเขามองตั้งแต่หัวจรดเท้า มองมาที่ผมแล้วมองหน้าซิเรียสอีกครั้ง

    "คนบ้านนี้ใส่เสื้อผ้านอนไม่เป็นหรือไง แบล็ก"


    "ก็ปรกติไม่ค่อยมีใครมาหาเวลานี้"


    "แล้ว...ฟันก็ยังไม่ได้แปรง...น่ารังเกียจมาก" น้ำเสียงเรียบเฉยอีกแล้ว มันทำให้ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นการพูดเล่นหรือด่าทอกัน มีอย่างนึงที่ผมรู้คือถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ศาสตราจารย์สเนปจะไม่มีวันก้าวขาเยียบบ้านหลังนี้ มันต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่และสำคัญมาก


    "ศาสตราจารย์ใหญ่ให้ฉันมาคุยแทน พอดีท่านมีประชุมที่เดิร์มสแตรงก์ และเรื่องนี้เป็นเรื่อง...ส่วนตัว" นัยน์ตาสีดำจ้องผ่านบ่าของซิเรียส สบตากับผมที่เกาะเสื้ออยู่ด้านหลัง


    "ก็ได้ ผมจะไปอาบน้ำ" 


       ผมไม่ชอบความรู้สึกนี้เลย ผมอยากรู้ว่าสองคนนั้นเขาคุยเรื่องอะไรกันแล้วทำไมศาสตราจารย์ดัมเบิลดอร์ถึงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เรื่องที่สเนปมาคุยนี่เกี่ยวของกับวีรกรรมที่เขาเคยก่อไว้สมัยเรียนหรือเปล่า? หรือจะให้ซิเรียสขึ้นทะเบียนอนิเมจัส?


       แต่อย่างน้อยผมก็ได้เตรียมตัวก่อนที่รอนจะมาถึงไม่กี่ชั่วโมง กว่าพวกผู้ใหญ่จะคุยกันจบก็คงทำอาหารเที่ยงเสร็จพอดี รอนคงอยากกินไก่ทอดมากกว่าอาหารอื่นของมักเกิ้ล 


       ผมเปิดโทรศัพท์เช็ครอบฉายหนังของวันนี้ ผมส่งข้อความบอกรอนและเฮอร์ไมโอนี่ว่าสเนปกำลังอยู่ที่นี่ก่อนที่จะหยิบผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำ เหมือนกับความทรงจำจะเริ่มเข้าที่เข้าทาง กิจกรรมที่ผมตั้งใจจะทำก็ผุดขึ้นมาในหัว


       โถ่ ผมนึกขึ้นได้แล้วว่าลืมทำอะไร ลืมให้อาหารเฮ็ดวิกกับบัคบิคจริงๆด้วย เป็นเพราะมัวแต่ไปยืนต้อนรับสเนป ให้ตายเถอะ...สองตัวนั้นคงหิวแย่!


    TBC.




    Writer's talk

       ตอนที่สามมาแล้วจ้า ไรเตอร์ทิ้งไปนานเพราะติดฟิคเรื่องอื่นนะคะ ไม่ตาย หรือเป็นบุคคลสาบสูญแต่อย่างใด ตอนนี้เอาชีวิตรอดกลับมารีไรต์ฟิคให้ทุกท่านอ่านอีกครั้งแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับแฟนคลับหนึ่งร้อยกว่าคนและอีกสองพันหกร้อยกว่าวิว ไรต์เตอร์มีความสุขมาก ขอบคุณทุกคอมเมนต์ด้วยไรต์เตอร์ดีใจมาก เหมือนเราได้คุยกันจริงๆเลยค่ะ ฝากติดตามต่อด้วยเน้อ~



    Twitter-  

    Nathan Wong (@NathanWong1998)

    https://twitter.com/NathanWong1998











     


     








     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×