ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (END)We Found Each Other (Severus Snape X Harry Potter)

    ลำดับตอนที่ #10 : Sugar Daddy (Rewrite)

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 60



    "มันจะดีหรอครับ ศาสตราจารย์"


    "อย่าพูดมากน่า"


    "ผมกำลังพูดถึงเราสองคน ที่กำลังละเลยต่อหน้าที่นะครับ สิ่งที่เรากำลังทำอยู่มันผิ-"


    "เธอไม่มีสอน ฉันก็ไม่อยากเรียนก็แค่นั้นแหละ"


        ไม่รู้ว่าผีสางตัวไหนเข้าสิงเซเวอรัสสเนปตั้งแต่เที่ยงวัน ครึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาควรจะพาร่างกายผอมแห้งของผมวิชาแนะแนวทางการอาชีพและปรึกษาปัญหาต่างๆกับศาสตราจารย์แบล็ก (ซิเรียสนั่นแหละ...) แต่เขาเลือกที่จะเดินตรงดิ่งมาที่ห้องพักครูของตัวเองแล้วพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผมออกมาข้างนอกด้วยจนได้


        ถึงแม้ว่าซิเรียสจะรู้ว่าผมและศาสตราจารย์สเนปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ แต่นั่นไม่น่าจะใช่ข้อยกเว้นในการโดดเรียนวันนี้ หรือสองคนนั้นอาจจะเบื่อขี้หน้ากันไปข้าง จนต้องหลบหน้ากัน เพื่อไม่ให้เสียสุขภาพจิตตัวเอง


        ดวงตาสีมรกตของผมแข็งกร้าว คนตรงหน้าชักแม่น้ำทั้งห้าสายเพื่อที่จะได้ออกจากฮอกวอตส์ ณ ขณะนั้น โดยอ้างกฏของโรงเรียนว่า 'ห้ามนักเรียนฮอกวอตส์อยู่นอกโรงเรียนในเวลาเรียน ยกเว้นอยู่ในการควบคุมของศาสตราจารย์' นี่แหละคือสาเหตุหนึ่งที่ไม่ว่าสเนปอยากไปไหนมาไหน เขาต้องพาผมไปด้วยให้ได้ แต่พอนึกขึ้นได้จริงๆเมื่อวานที่คุยกันเขาพูดว่าจะพาไปลอนดอน นั่นทำให้ยิ่งสับสนว่าผมควรจะใช้เวลาราชการไปไหนตามอำเภอในหรือเปล่า?


        เราทั้งคู่แวะตรอกไดแอกอนกันก่อน ร้านตัวบรรจงและหยดหมึกแทบจะเงียบเหงาเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเปิดภาคเรียน แต่ทำให้เราทั้งคู่สามารถเลือกดูหนังสือได้อย่างเต็มที่ สเนปเดินไปทางหนังสือวิชาการ (เป็นหมวดเดียวที่ผมไม่เคยเฉียดเข้าไปบริเวณนั้น) ส่วนตัวแล้วผมมักจะชอบอ่านการ์ตูนมากกว่า มีเสียงซุบซิบจากด้านหลังซึ่งน่าจะเป็นพนักงานของร้านนี้ แอบชี้นิ้วมาทางผมและสเนปที่เดินเข้ามาพร้อมกัน 



    'เวรแล้ว เรื่องนี้คงจะแพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน'



        ผมควรจะแกล้งทำเป็นไม่รับรู้ต่อไป หรือควรจะรีบเข้าไปบอกสเนปดี ขืนเรื่องนี้ถึงหูศาสตราจารย์ที่ฮอกวอตส์ คงจะโดนครหาเรื่องชู้สาวแน่ๆ

        เรื่องเลวร้ายยังถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง สายตาของผมเหลือบไปเห็นผู้ชายผมแดงเดินหลอกล้อกันมาตลอดทาง จนเดินเข้ามาในร้านตัวบรรจงและหยดหมึกที่ผมกำลังยืนอยู่ 


    'เฟร็ดกับจอร์จ!'





    "ศาสตราจารย์ครับ..."


    "..." เขาไม่ได้ยิน


    "ศาสตราจารย์!"


        ไม่ทันแล้ว จอร์จสบตากับผมเข้าเต็มเปา เขาสะดุ้งโหยงเหมือนเจอเงือกบินบนท้องฟ้า ผมดำของผมสะบัดไปมา เพื่อไล่อาการประหม่า สเนปยังยืนอยู่ที่เดิม คู่แฝดวีสลี่ย์คงจะสังเกตเห็นแล้ว ผมรีบวิ่งเข้าไปหาเพื่อแก้สถานการณ์





    "มีธุระอะไรหรอ วีสลี่ย์" ผมยืนกอดอก ต้องคุมเกมให้มากที่สุด


    "เราแค่จะมาคุยกับ แฮร์รี่ครับ" เฟร็ดก้าวเท้าออกมาข้างหน้าขวางระหว่างจอร์จและผม (ในร่างสเนป)


    "พอตเตอร์อยู่ในระหว่างการควบคุมพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด เพราะฉะนั้นห้ามใครพูดคุยทั้งสิ้น"



        สเนปหันหลังกลับมาใบหน้าเรียบเฉย แผลเป็นรูปสายฟ้าตอนนี้ทำให้เขากลายเป็นพวกอันธพาลไปแล้ว



        แขกที่ไม่ได้รับเชิญรีบเดินออกไปนอกร้าน คงเพราะทนความกดดันไม่ไหว...หรือไม่ก็กระจายข่าวให้รอนและจินนี่รู้ว่าศาสตราจารย์สเนปและแฮร์รี่ พอตเตอร์มาเดินเที่ยวตรอกไดแอกอนกันสองคนระหว่างเวลาเรียน



        ผมเดินออกไปนอกร้านมองดูให้แน่ใจว่าจะไม่บังเอิญเจอคนที่รู้จักระหว่างนี้อีก 



        เพราะความดื้อรั้นของเขาแท้ๆ ที่จริงถ้าจะมาซื้อหนังสือทำไมไม่มาตั้งแต่เมื่อวาน เล่นนอนอย่างเอาเป็นเอาตาย นึกว่าจะได้จองโลงศพให้ตัวเองซะแล้ว แถมผมยังต้องนั่งเฝ้าเขาอีก



    'แล้วตูไปนั่งเฝ้าทำไมวะ?' 



        คนๆนึงคงไม่หายไปต่อหน้าต่อตาถ้าไม่ใช่เวทมนตร์ ร่างกายของผมแค่นอนกลางวันบนโซฟาแค่นั้นเอง อย่าพูดถึงเรื่องซ้อมควิดดิชเลย เพราะตั้งแต่ที่ผมตกจากไม้กวาดหลายสัปดาห์ก่อน สเนปก็ห้ามขี่ไม้กวาดก่อนได้รับอนุญาตนับแต่นั้น



    เขาหยิบหนังสืออะไรสักอย่าง



    "ต..ต...ตัวโน๊ตบรรเลง เพลงของมักเกิ้ล?"


    "ข้องใจอะไรหรอ พอตเตอร์?"


    "ไม่เคยรู้มาก่อนว่าศาสตราจารย์เล่นดนตรีได้"


    "และชอบฟังเพลงของมักเกิ้ลมากด้วย เผื่อเธอยังไม่รู้" 



        เอาจริงดิ? ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคนที่ภายนอกดูแข็งทื่ออย่างกับหินจะหาทางออกด้วยบทเพลงช่วยกล่อมเกลาจิตใจ อย่างน้อยเขาก็น่าจะลองเล่นให้ผมดูเป็นบุญตาสักครั้ง เพราะถ้าไม่เล่นตอนนี้ก็เหมือนว่าผมคงไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว ผมก้มตัวสูงๆลงเพื่อดูรายละเอียดให้ชัดเจน เพลงของมักเกิ้ลนี่ส่วนใหญ่เขาเขียนตัวโน๊ตแบบขยับได้เหมือนหนังสือเพลงของผู้วิเศษหรือเปล่า ไม่แน่ก็เป็นแค่ภาพนิ่ง ไม่มีเวทมนตร์อะไรเลย




    'ป๊อก!' 




        ผมรู้ได้เลยว่าร่างสูงของสเนปชนกับคางของตัวเองอย่างจัง โอ๊ย ผมจะต้องโดนติงเรื่องความซุ่มซ่ามแน่ๆ ครั้งก่อนที่ตกไม้กวาดผมเจ็บตัวแค่คนเดียว แต่เมื่อกี้ดันทำคนอื่นเจ็บตัวด้วย ถ้าเขาโกรธคงต้องมีสวดกันยับทั้งคืนแน่ๆ ผมเอามือลูบคางด้วยความเจ็บปวด



    'เอ๋..เดี๋ยวนะ...ทำไมผมถึงต้องเจ็บคางด้วยในเมื่อศีรษะผมมัน...'



        น้ำตาที่ซึมออกมารอบๆ ไม่ได้บิดเบือนภาพที่อยู่ตรงหน้าเลย คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าคือศาสตราจารย์สเนปไม่ผิดเพี้ยน เสื้อคอจีนสีดำ ผมยาว นัยน์ตา...สีเข้มน่าหลงใหลกว่าที่เคยเจอ 


         ผมลูบใบหน้าขอตัวเอง ณ ปัจจุบัน ขยับแว่นตาให้เข้าที่เช็คทุกอย่างให้แน่ใจว่าผมกลับเข้าสู่ร่างเดิมของตัวเองแล้ว นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะเกิดขึ้นได้ในวันนี้ คุณคงจินตนาการไม่ออกหรอกว่าผมอยากกลับเข้าสู่ร่างเดิมมากแค่ไหน แต่รู้สึกว่าจะมึนหัวเล็กน้อย อาจเป็นผลข้างเคียงกับการสลับร่างมั้ง?



    "ยินดีด้วย พอตเตอร์ เธอได้กลับไปนอนที่หอคอยกริฟฟินดอร์ตามเดิมแล้ว"


    "ศาสตราจารย์ครับ?"


    "หือ?"


    "ช่วยเก็บเรื่องนี้ไว้ได้ไหม ผมยังไม่อยากกลับไป"


    "อืม ได้สิเรื่องเล็กน้อย...มีคนอยู่เป็นเพื่อนบ้างก็ดีเหมือนกัน"


    "ขอนอนแค่คืนนี้ก็ได้.."


    "ตามใจเธอเลย จะนอนกี่คืนก็ได้ รู้อะไรไหม? ห้องนอนของฉันมีที่ว่างเสมอ" 



        สเนปอมยิ้ม นั่นถือเป็นสิ่งที่สดใสที่สุดเท่าที่ผมจะเคยเห็น เขาดีกับผมจริงๆแม้ว่าตอนแรกจะปากร้ายไปหน่อยก็เถอะ แต่ถ้าพูดถึงความใส่ใจและความปลอดภัยแล้วเกือบจะถึงขั้นยุงไม่ให้ไต่ ไรไม่ให้ตอมเลย


        คงต้องหาข้ออ้างกับสเนปแล้วว่าทำไมผมถึงไม่อยากกลับไปเจอเพื่อนร่วมบ้านหลังจากไม่เห็นหน้ากันเป็นเดือนๆ เพราะที่จริงแล้วการอยู่กับศาสตราจารย์สเนป เป็นสถานที่เดียวที่ซิเรียสไม่สามารถเข้าออกได้ตามอำเภอใจ 


        'ศาสตราจารย์ครับ ผมอยากบอกว่าสาเหตุที่ผมไม่อยากกลับไปที่หอคอยกริฟฟินดอร์เพราะว่าผมกลัวพ่อทูนหัวตัวเองขืนใจ' หรือ 'ศาสตราจารย์ช่วยไล่ให้ซิเรียสไปไกลๆจากผมได้ไหมครับ' มันต้องมีข้ออ้างที่ดีกว่านี้ ไว้ผมทำใจได้แล้วค่อยเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟังทีหลัง



    "อยากนั่งกินไอติมร้านฟอเตสคิวไหม?"


    "คนจะสังเกตเอานะครับ ว่าเราหนีออกมาจากโรงเรีย-"


    "โรงเรียนเลิกแล้ว ดูเวลาสิ เราไม่ได้ทำผิดกฎ"

        เขาหยิบแว่นกันแดดสีดำออกจากกระเป๋าเสื้อที่ผมใส่อยู่ทุกวันและไม่เคยรู้เลยว่ามีอยู่ กางขาแว่นทั้งสองข้างแล้วใช้นิ้วชี้ขยับให้เข้าที่



    "ไม่ต้องควักเงินสักซีกเกิ้ลเลย 'เด็กเสี่ย' เสี่ยจ่ายให้ทุกอย่างอยู่แล้ว"



    สาบานได้เลยว่าผมได้ยินเสียงหัวเราะจากลำคอด้วย






    'ผมกลายเป็นเด็กเสี่ยไปแล้ว..'



    TBC.



    Writer's talk

        สวัสดีค่ะ ช่วงนี้อัพถี่หน่อยนะ ไฟกำลังมาค่ะก็เลยมีผลงานให้ทุกคนได้อ่านค่ะ จะเปิดผ่านๆแล้วไม่อ่านก็แล้วแต่ค่ะ5555 ตอนนี้การบ้านเริ่มมากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากนี้คงจะไม่ได้อัพถี่ขนาดนี้แล้ว ไรต์เตอร์ขอลาไปปั่นการบ้านก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ.



    Twitter-  

    Nathan Wong (@NathanWong1998)

    https://twitter.com/NathanWong1998





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×