PeaPea
ดู Blog ทั้งหมด

วันแรกกับการตัดสินใจเป็นเด็กแลกเปลี่ยน

เขียนโดย PeaPea
ขอแนะนำตัวก่อนนะจ๊ะ ฉันชื่อ รพี หรือจะเรียกให้สั้นอีกก็ พี ฉันเป็นเด็กแลกเปลี่ยนโครงการเอเอฟเอสรุ่น 52 ไปประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐเมน(ดินแดนแห่งล๊อปเตอร์และกวางมู๊ส)

A Moose. ( The first day, I woke up and then I looked through the window. I saw a moose laid down on my host family backyard.)
มันตัวใหญ่มากกกก....หนักกว่ากวางทั่วไปอีก

เข้าเรื่องดีกว่าเนอะ......
ตอนมอต้น

    ภาษาอังกฤษตอนนั้นนับได้ว่าเป็นวิชาๆนึงที่เกลียดมากกกก จนกระทั่งเราได้เรียนกับครูหมวย ครูผู้ซึ่งได้เป็นครูแลกเปลี่ยนที่เมกาปีสุดท้ายในโครงการเอเอฟเอส ครูหมวยพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมากแล้วก็เล่าเรื่องราวประสบการณ์ที่ครูได้เจอตอนที่ใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาให้ฟัง ตอนนั้นความคิดเราโลดเล่นมาก เหมือนได้ยาดีเข้าไปกระตุ้น จากเด็กที่ไม่เคยตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษก็เริ่มพัฒนาปรับปรุงตัวเองมาเรื่อยๆ แล้วก็ตัดสินใจสอบโครงการเอเอฟเอสครั้งแรกในตอนมอสาม

    เราผ่าด่านสอบข้อเขียนมาได้ นับว่าเราโชคดีมากเพราะว่าวันนั้นอ่านข้อสอบ Reading ไม่รู้เรื่องเลย แถมคิดด้วยว่าคงไม่ผ่านละ หลังจากนั้นเราก็ได้ไปสอบสัมภาษณ์ การสอบครั้งนั้นทำให้เรารู้ตัวเองดีว่า เฮ้ย....เรายังเตรียมตัวไม่พอว่ะ ทำไมล่ะ? ก็ทุกคนมีความสามารถพิเศษกันทั้งนั้นเลย แถมไม่อายด้วยตอนทำกิจกรรมและพูดภาษาอังกฤษ แล้วตอนเค้าประกาศผล เราก็ติดสำรองอันดับที่ 13 ซึ่งไม่มีทางละที่จะได้ไปเมกา แต่พ่อกับแม่ฉันใจดีมาก ที่ยังพาฉันไปรายงานตัวที่อิมแพ็คนนทบุรีเพื่อศึกษาลู่ทางว่าขั้นตอนต่อไปต้องทำอะไรบ้าง

มอ 4

    ฉันสอบเอเอฟเอสอีกครั้ง แล้วก็สอบติดตัวสำรองอันดับ 1 แถมได้โชคอีกคือเอเอฟเอสเมกาตัวจริงสละสิทธิ ฉันจึงเลือกเมกา แต่หลังจากนั้นหนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิดนะ จำได้ว่าต้องโอนตังค์งวดแรกด้วยประมาณ 50,000 บาท เพื่อยืนยันสิทธิ จากนั้นฉันต้องทำเอกสารกองโตซึ่งประกอบด้วย ใบเกรด ข้อมูลสุขภาพ(อันนี้หนักสุดเลย ควรรีบทำแต่เนิ่นๆ) แล้วที่สำคัญคือ Passport คนที่ยังไม่มีแล้วดันได้ตัวสำรองแถมยังไม่ได้เลือกประเทศเนี่ย ไม่จำเป็นต้องรีบทำนะ รอไว้ให้เราได้เลือกประเทศซะก่อนจะดีกว่าเพื่อความมั่นใจ Passport น่ะทำไม่นานแต่ที่นานคือนั่งรอคิว -_-*

   ทำเอกสารทั้งหมดเสร็จก็ช่วงกลางเดือนตุลา ช่วงนั้นเป็นอะไรที่เครียดมากเพราะเพิ่งสอบปลายภาคเสร็จแล้วไปสิงคโปร์ พอกลับมาถึงคิดได้ ซิป....แล้ว เอกสารยังไม่เสร็จ  *แนะนำว่าไม่ควรดองไว้แบบนี้นะ เดี๋ยวจะเครียดเหมือนเรา.....

   ช่วงมกราก็โอนตังค์ แล้ว มีนาก็โอนตังค์งวดสุดท้าย เงินทั้งหมดที่โอนไปคือ 390,000 บาท (รู้สึกว่าปีหลังจากนี้เค้าจะขึ้นอีกนะ) พ่อกับแม่บอกว่า รู้มั้ยตังค์ที่ส่งลูกไปแลกเปลี่ยนครั้งนี้แม่ซื้อรถเก๋งได้เลยนะ ซะนั้นทำปีนั้นให้มีค่าที่สุด ฟังแล้วน้ำตาจะไหลเลย....พ่อแม่รักเรามากขนาดนี้ ถ้างั้นก็ต้องสู้เว้ยยย

    พอ 30 เมษา 56 ก็เข้าค่ายแรก ค่ายนั้นเป็นค่ายที่สนุกที่สุดเลยอ่ะ เจอเพื่อนที่จะร่วมเดินทางไปกับเรา รุ่นพี่ที่โคครน่ารัก แถมพี่ๆทำให้เราคิดว่าพอเรากลับไปแล้ว เราจะมาเป็นพี่ค่ายให้กับรุ่นน้องอีก

    ช่วงมิถุนาก็ไปขอวีซ่า อยากบอกว่ารออยู่ตั้งแต่เช้ายันบ่ายกว่าจะได้เข้าไป พอเข้าไปก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วก็ตรวจของนู่นนี่นั่น ฉันเข้าไปอยู่ในนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง เค้าสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษว่าไปอยู่ที่ไหน ไปทำอะไร บลาๆๆ นับว่าเหนื่อยมากกกกก


   

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น