ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - -ขอล้นหัวใจยัยตัวแสบ- -

    ลำดับตอนที่ #3 : ...โอซาก้า!!...

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 51


         [... บทที่ 3 ...]

               “แม่จะไปโอซาก้าจ้ะ ^^” เอริยืนยัน 
            “-O-” นามิอ้าปากค้าง
            “หุบปากได้แล้วยัยบ๊อง เธออ้าปากค้างแล้วดูเหมือนสัตว์ประหลาด หรือไม่ก็ปลาที่รอฮุบเหยื่อนะ ไม่รู้ตัวรึไง” เสียงของเรียวดังขึ้น นามิรีบหุบปากและค้อนด้วยความหมั่นไส้ ก่อนจะหันไปถามคนเป็นแม่ด้วยท่าทางน้อยอกน้อยใจ
            “ทำไมแม่ไม่บอกหนูคะ” 
            “ก็...” แต่ไม่ทันทีเอริจะตอบ คนที่รู้ก็ถามขึ้นมาว่า
            “เธอไม่รู้รึไงว่าวันนี้แม่เธอจะไปโอซาก้า” 
            “ถ้ารู้แล้วฉันจะถามทำไมเล่า คนอะไรไม่รู้จักคิด” ประโยคสุดท้ายพึมพำเบาๆ ใครบางคนได้ยินประโยคสุดท้ายไม่ชัด จึงถามออกมา
            “อะไรนะ ฉันไม่ได้ยินประโยคสุดท้าย”
            “ช่างมันเหอะ แต่ทำไมแม่ไม่บอกหนูล่ะคะ”
            “อะไรกัน อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆยังไม่รู้เรื่อง แถมยังเป็นเรื่องของแม่เธอด้วย สงสัยจะเป็นพวกโลกส่วนตัวสูงจนไม่รับรู้เรื่องราวอะไรเลย” เรียวพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท
            “ยุ่ง” คนที่ไม่รู้เรื่องหันไปถลึงตาใส่
            “อย่างน้อยก็รู้ดีกว่าลูกแท้ๆอีก” 
            “แม่... แม่บอกคนอื่น แต่แม่ไม่คิดจะบอกลูกสาวตัวเองเลย... ทำแบบนี้กันหนูได้ยังไงคะอย่างน้อยก็บอกเหตุผลมาก็ได้ว่าทำไม” นามิตัดพ้อในตอนต้น และคาดคั้นเอาคำตอบจากแม่ของเธอในตอนท้าย พร้อมปรายตาไปทางเรียวโดยเน้นเสียงตรงคำว่า ‘คนอื่น’ 
            “อย่างน้อยก็ยังบอก ถึงจะเป็นคนอื่นก็เถอะ” ‘คนอื่น’ ย้อน เมื่อเห็นสายตาที่ส่งมา
            “แต่... แม่คิดว่าแม่บอกลูกไปแล้วนะ” ต้นเหตุทำท่าทางงงๆ
            “ไม่จริงค่ะ แม่ยังไม่บอกหนูเลย T^T” 
            “อ๋อ งั้นแม่คงลืมน่ะจ้ะ ขอโทษนะจ้ะ ^_^;” คนลืมพูดด้วยท่าทางยิ้มๆ
            “หน้าระรื่นแบบนั้นหรอคะ ที่เรียกว่าสำนึกผิด -_-;” 
            “โธ่~ ก็คนลืมนี่” 
            “ไม่มีแม่ที่ไหนลืมบอกเรื่องสำคัญขนาดนี้กับลูกสาวหรอก” นามิพูดอย่างน้อยใจ
            “แม่จำเป็นต้องไปจริงๆนี่” เอริถอนหายใจ
            “งั้นเหรอคะ แล้วมีเรื่องอะไรหรอคะแม่” 
            “ที่นั่นมีปัญหาน่ะจ้ะ แม่เลยต้องไปช่วย” 
            “แล้วพ่อ...” นามิทำหน้าสงสัย ที่นั่นมีพ่อของเธออยู่ทั้งคนแล้วนี่ เวลามีปัญหาอะไรพ่อเธอน่าจะจัดการอยู่แล้ว แถมยังมีพี่ชายแท้ๆของเธอที่คอยช่วยอยู่อีกแรง ไม่น่าจะต้องให้ถึงกับตามแม่ของเธอเลย
            “พ่อบอกว่าจะพักเพราะรู้สึกเหนื่อยๆกับงานแถมสุขภาพไม่ค่อยดี แม่ก็เลยจะไปช่วยพ่อน่ะจ้ะ” เอริอธิบายให้นามิฟัง 
            “แล้วพ่อเป็นอะไรมากรึเปล่าคะ” นามิถามด้วยความเป็นห่วง
            “แค่พักผ่อนน้อย และไม่ค่อยได้ออกกำลังกายน่ะจ้ะ” 
            “งั้นก็แล้วไป” นามิพูดด้วยความโล่งอก เพราะปกติพ่อของเธอจะมีสุขภาพแข็งแรง พักหลังๆอย่าว่าแต่ป่วยเลย แค่อุบัติเหตุเล็กๆน้อยๆยังไม่มีด้วยซ้ำ
            “แล้วแม่จะไปกี่วัน กลับวันไหนล่ะคะ” 
            “แหม~ ก็คงอยู่เรื่อยๆจนกว่าพ่อเขาจะดีขึ้นนั่นแหละจ๊ะ”
            “งั้นหนูก็ต้องอยู่นี้คนเดียวงั้นสิ T^T”
            “แค่นี้เอง จากโตเกียวไปโอซาก้านั่งชินคันเซนไป 2 ชม.กว่าๆเอง เสาร์อาทิตย์ลูกก็มาหาพวกเราก็ได้นี่จ้ะ”
            “จริงด้วยสิคะ” นามิทำท่านึกขึ้นได้
            “อะไรหรอจ้ะ”
            “แล้วหนูจะอยู่ยังไงล่ะคะ” 
            “แหม คำถามนี้ตอบง่ายมากเลยจ้ะ เรียว~ ฝากดูแลนามิด้วยนะจ้ะ ^-^” 
            “พะ... พูดเล่นใช่ไหมคะ” 
            “( -_-) (-_- ) ( -_-) เปล่านี่จ้ะ” เอริส่ายหน้าปฏิเสธ
            “T^T ไม่ตลกเลยนะคะแม่ ให้หนูอยู่คนเดียวตามลำพังยังรู้สึกปลอดภัยกว่าให้เรียวดูแลเลย” 
            “นี่! คิดว่าคนอย่างนางุระ เรียว ไม่สามารถดูแลเธอได้รึไง” คนที่ถูกฝากให้ดูแลเธอโวยวาย
            “ใช่” คนที่ต้องถูกดูแลตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ โดยไม่สนใจว่าจะทำลายความรู้สึกคนฟัง
            “T_T ไม่ถนอมน้ำใจกันเลยนะ” เรียวทำน้ำเสียงน้อยใจสุดขีด
            “อย่างนายต้องพูดความจริง ความมั่นใจจอมปลอมของนายจะได้ลดลง” 
            “จอมปลอมอะไรของเธอ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
            “ถามแปลกๆ ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ”
            “แล้วเธอ...”  
            “แม่ล้อเล่นใช่ไหมคะ” นามิตัดบทด้วยการหันไปถามแม่ของเธอที่ยืนยิ้มแปลกๆ   
            “แม่ไม่ได้ล้อเล่นนี่จ้ะ เรียวเขาอยู่กับหนูมาตั้งแต่ยังเล็กๆ น่าจะรู้ใจและช่วยดูแลหนูได้นะ อีกอย่างเขาก็เป็นผู้ชายด้วย” เอริอ้างเหตุผล
            “หนูว่าไปเรียนคาราเต้ดีกว่า จะได้ป้องกันตัวได้” นามิพูดลอยๆเล่นๆ 
            “อย่านะ” คนเป็นแม่รีบห้าม
            “กลัวหนูเจ็บตัวใช่ไหมคะ ^-^” นามิถามด้วยท่าทางดีใจเพราะ (คิด) ว่าเอริเป็นห่วงเธอ 
            “^-^ เปล่าจ้ะ แม่กลัวลูกจะทำร้ายร่างกายเรียว” คำตอบที่ผิดความคาดหมาย (ไปโข) ทำเอานามิร้องเสียงหลงด้วยท่าทางไม่พอใจ
            “แม่คะ! พูดแบบนั้นได้ยังไงคะ” 
            “ทำไมจะพูดไม่ได้ ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องจริง” เรียวพึมพำ เลยโดยค้อนใส่หนึ่งที
            “แม่แค่ล้อเล่นเท่านั้นเองจ้ะ ^_^” ผู้ใหญ่คนเดียวในที่นั้นพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
            “ยังไงก็ตามอย่าลืมล็อกประตู หน้าต่างให้เรียบร้อยด้วยนะจ้ะ... เรียว” เอริทำท่าเหมือนพูดกับนามิ แต่หันไปบอกกับเรียวแทน
            “ไม่งั้นตอนกลางคืนจะถูกฉันย่องไปฆ่าไม่รู้ด้วยนะ” น้ำเสียงนามิบ่งบอกถึงความอาฆาต
            “จ้ะ~ แม่เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยล่ะ” แม่ของคนที่กำลังวางแผนฆ่าพยักหน้า ทำเอาคนที่กำลังจะถูกฆ่าหัวเราะ 
            “แม่คะ...” เด็กสาวเรียกแม่เธอเสียงเขียว
            “ล้อเล่นหน่อยเดียวก็ไม่ได้ ไม่มีอารมณ์ขันซะเลยลูกคนนี้” เอริพูดด้วยท่าทางปลงๆ
            “ใครจะไปมีอารมณ์ขันเหมือนกับคนโปรดของแม่ล่ะ” นามิแดกดันเรียว
            “ยังไงก็ระวังตัวนะ ดูแลตัวเองดีๆล่ะ อย่าอยู่อย่างประมาท บ้านช่องล็อกให้เรียบร้อย มีอะไรก็บอกหรือปรึกษาเรียวก็ได้นะ แต่ถ้าไม่เหมาะ ไม่อยาก ไม่กล้า หรือไม่อะไรก็แล้วแต่ แม่รอคำปรึกษาของลูกอยู่เสมอ” เอริบอกนามิด้วยความเป็นห่วง มือของเธอกำมือของลูกสาวไว้แน่น
            “แล้วเครื่องจะออกกี่โมงคะ” นามิถาม
            “8 โมงครึ่ง” เสียงเรียวตอบกลับมา
            “หนูไปส่งนะคะ” นามิใช้น้ำเสียงขอร้องอย่างไม่สนใจใครอีกคน
            “แต่ลูกต้องไปเรียนนะ” หญิง (ที่ไม่) สาวพูดด้วยความเป็นห่วง
            “ไม่เป็นไรค่ะ” 
            “เอ่อ... งั้นก็ตามใจจ้ะ เรียวไปด้วยกันนะ” เอริหันไปชวนเด็กหนุ่ม 
            “ชวนไปทะ--” นามิตั้งท่าจะแย้งเบาๆ แต่เมื่อแม่ของเธอหันมามอง คำพูดที่เหลือก็ถูกกลืนลงลำคอเพราะรู้ว่าเอริเป็นห่วง  
            “งั้นไปเลยนะคะ จะ 8 โมงแล้ว” นามิตัดบทแล้วหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปหยิบกุญแจรถและกระเป๋านักเรียนแทน

                   ..... สนามบิน ..... 
            “เรียว... ดูแลนามินะ ส่วนนามิก็อย่าแกล้งเรียว อย่าทำตัวเป็นเด็ก ดูแลตัวเองดีๆเพราะเรียวจะไม่สามารถดูแลได้ตลอด ยอมเรียวบ้างนะ อย่าทะเลาะกัน อย่าคิดว่าตังเองเก่ง มีอะไรก็โทรหาแม่ได้ ตั้งใจเรียน ทั้งสองคนต้องช่วยเหลือกัน มีอะไรก็ให้ตัดสินกันด้วยเหตุผล อย่าใช้อารมณ์ แม่ไปละนะ ระวังตัวกันด้วยนะจ้ะ” คนที่กำลังจะขึ้นเครื่องบอกลาซะยืดยาว ซึ่งมันให้ความรู้สึกแปลกๆกับคนฟัง
            “แม่คะ ดูแลตัวเองดีๆ ฝากบอกคิดถึงพ่อและพี่ด้วยนะคะ แล้วอย่าลืมโทรมาหาล่ะ” 
            “ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะดูแลนามิให้เป็นอย่างดีเลยครับ ^-^” เรียวเอ่ยขึ้นเพราะไม่อยากให้เอริเป็นห่วง
            “จ้ะ น้ารู้ว่าเรียวต้องทำอย่างนั้น ^-^” เอริยิ้มรับ
            “โชคดีค่ะแม่ Y-Y” นามิบอกลา น้ำตาของเธอเอ่อขอบตา
            “ไปนะ” รอยยิ้มคือสิ่งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้เห็น ก่อนที่ร่างบางจะหายลับไป...
                                                   - - +++ - -
            “ไปกันเถอะ” นามิชวนเรียว หลังจากที่ยืนดูเครื่องบิน ซึ่งขึ้นบินไปเรียบร้อยแล้ว
            “อืม” เรียวพยักหน้า เด็กสาวจะออกเดิน แต่ก็มีมือยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้พร้อมกับคำพูดที่เหมือนกับเปรยขึ้นว่า
            “เช็ดหน้าเช็ดตาซะ เดินออกไปทั้งๆที่หน้าตาแบบนี้เดี๋ยวฉันก็เดือดร้อนหรอก”
            “ขอบคุณนะ” เด็กสาวยิ้มให้ แต่อีกฝ่ายแค่พยักหน้าและออกเดินไปข้างๆเธอ...

                   .....โรงเรียน.....
                   --- นามิ ---
            “อาซึกะ นามิ ทำไมเธอถึงมาโรงเรียนสาย” อาจารย์ประจำชั้นถามเสียงเรียบ
            “หนูไปสนามบินมาค่ะ แม่ของหนูไปต้องไปต่างประเทศด่วนน่ะค่ะ ก็เลยไม่ได้ลาล่วงหน้า ขอโทษนะคะ” นามิก้มหัวลง
            “ครูจะแน่ใจได้ยังไง ว่าเธอไม่ได้โกหกครู” อาจารย์ประจำชั้นขมวดคิ้ว
            “อาจารย์สามารถโทรไปเช็คที่พ่อของหนูได้เลยค่ะ” นามิรีบบอก
            “เอาเป็นว่าครูเชื่อเธอ เอาล่ะ... ไปเรียนต่อได้แล้ว” อาจารย์ประจำชั้นบอกและอนุญาตให้ไปเรียนต่อได้หลังจากโทรศัพท์ไปเช็คทางฝั่งนู้นเรียบร้อย
            ‘เรียวจะเป็นยังไงบ้างนะ’ นามิคิดในใจอย่างเป็นห่วง และนึกถึงตอนที่เธอกับเรียวแยกกัน ตอนที่ใกล้ถึงโรงเรียนแล้ว
            ‘เธอเดินเข้าไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันค่อยเข้าไป มีเรื่องต้องทำนิดหน่อยน่ะ’ เด็กหนุ่มบอก
            ‘อ้าว... แล้วนายล่ะ‘ 
            ‘เดี๋ยวฉันไป ไม่มีอะไรหรอก’ เรียวเดินแยกไป

                   --- เรียว ---
            “เธอเป็นอะไรมากหรือเปล่า” อาจารย์ประจำชั้นของเรียวถาม หลังจากฟังเรื่อง (โกหก) 
            “เปล่าฮะ” เรียวที่ตอนนี้มีผ้าพันอยู่บริเวณต้นแขนขวาตอบ
            “อืม... งั้นก็ดี แล้วไปเรียนได้” อาจารย์ประจำชั้นพยักหน้า
            “ขอบคุณครับ” เรียวก้มหัวลง ก่อนจะเดินออกไป
                                            - - +++ - -
                   .....เลิกเรียน.....
            “เรียว แขนของนายเป็นอะไรไป” นามิถามตอนที่เดินกลับบ้านด้วยกัน
            “เปล่า” 
            “อ้าว... แล้วทำไมถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ”
            “ช่างฉันเถอะน่า” เรียวใช้น้ำเสียงที่บอกว่ารำคาญ
            “แต่เมื่อเช้าแขนของนายยังดีๆอยู่เลยนี่” นามิพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
            ”เรียว! -_-+” นามิแหว เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มยังเงียบ
            “แค่นี้ไม่ตายหรอก... อีกอย่างมันก็ไกลหัวใจจะตาย กลัวอะไรนักหนา” เรียวบ่น
            “อะไรของนายเนี่ย พอคนเขาเป็นห่วงก็ว่า ถ้าไม่พูดอะไรนายก็ต้องบ่นว่าใจดำ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย” นามิบ่นพึมพำ
            “รีบๆเข้าบ้านดีกว่า แล้วเดี๋ยวขอฝากท้องด้วยนะ” 
            “ย่ะ ถือว่าเห็นแก่คนที่กำลังเจ็บก็แล้วกัน” 
            “ก็รีบๆเข้าดิ ถ้าขืนเธอช้าเลือดคงไปหล่อเลี้ยงแผลไม่พอ ทีนี้แผลของฉันก็ไม่หายกันพอดี” คนเจ็บได้ทีเร่งคนที่เดินอยู่ข้างๆ ด้วยเหตุผลที่ชวนหมั่นไส้ 
            “รู้แล้วน่า” คนถูกเร่งรีบเร่งฝีเท้าให้เดินเร็วขึ้น
            “^_^” คนเจ็บยิ้มจางๆ ขณะที่ทอดสายตามองคนที่ก้มหน้าก้มตาเดินอยู่อย่างเดียว...
                                          - - +++ - -
                   .....วันรุ่งขึ้น.....
            “ยัยบ๊อง” เรียวเขย่าตัวนามิ แต่เด็กสาวขยับตัวนอนต่อ
            “อือ...” 
            “ยัยขี้เซา” เรียวเรียกอีก ด้วยเสียงที่เริ่มดังขึ้นน้ำเสียงนั้นบ่งบอกว่าเริ่มหงุดหงิด
            “อือ... ตื่นแล้วค่ะแม่” คนขี้เซาส่งเสียงตอบแต่นอนต่อ ความอดทนของคนที่นั่งปลุกอยู่ก็เลยขาดสะบั้น 
            “ยัยบ้า!! ลืมตาดูดีๆสิ ฉันไม่ใช่แม่เธอนะ แล้วก็ตื่นได้แล้วมัน - สาย - แล้ว!!!” เด็กหนุ่มตะโกนใส่หูเธอ จนนามิสะดุ้ง ก่อนจะมองเรียวอย่างงุนงง
            “อะไรนะ” 
            “สายแล้วยัยบ๊องขี้เซา ดูนาฬิกาซะ! ฉันไปก่อนแล้วกัน” เรียวพูดแล้วผลุนผลันออกไปอย่างไม่คิดจะอธิบายให้นามิฟังแม้สักคำเดียว ทิ้งให้นามินั่งกระพริบตาอย่างงุนงง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที พร้อมกับคิดในใจว่า
            ‘คอยดูนะ ฉันจะเอาเรื่องนายแน่ กล้าดียังไงเข้าห้องนอนของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต’
                                               
                                                                       ~~ -- +++ -- ~~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×