คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : บทที่ ๑๙ : ไม่รับผิดชอบ (๑)
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ แล้วฉันอยู่ที่ไหน แล้วทำไมเธอถึงนอนอยู่กับฉัน แล้ว…” ฐากูรตื่นขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ก็พบว่าตัวเองนอนเปลือยเปล่าอยู่ใต้ผ้าห่ม ข้างๆ เขาคือภคพรที่นอนอยู่ด้วยกัน แล้วคุณเธอก็อยู่ในสภาพเดียวกับเขา เขาจึงเอ่ยถามออกไปรัวๆ เพราะตกใจ เนื่องจากไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาเมาจนจำอะไรไม่ได้เลย
ภคพรแกล้งทำเป็นร้องไห้ฟูมฟายด้วยความเสียใจ
“ฮือๆๆ นี่นายจำไม่ได้เหรอว่าเมื่อคืนนายทำอะไรกับฉันบ้าง โธ่!”
“ฉันทำอะไรกับเธอเหรอ เมื่อคืนฉันเมา ฉันจำอะไรไม่ได้จริงๆ” เขาว่า
อีกฝ่ายยังคงบีบน้ำตาต่อไป
“ใช่สิ นายเมา นายคงไม่รู้หรอกว่าตัวเองทำอะไรกับฉันไว้บ้างเมื่อคืน…เมื่อคืนนายน่ะปู้ยี้ปู้ยำฉัน ฉันพยายามขัดขืนแต่นายก็…ก็…ฮือๆๆ”
“ไม่จริง! ฉันไม่มีวันทำอะไรแบบนั้นกับเธอแน่นอน ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด” ชายหนุ่มไม่เชื่อสิ่งที่ภคพรบอกสักนิดเดียว
“นี่นายจะปัดความรับผิดชอบใช่มั้ย ฉันไม่ยอมนะ เพราะฉันเป็นผู้เสียหาย ฉันสูญเสียพรหมจรรย์ให้กับนายแล้ว นายจะทิ้งฉันไม่ได้”
“ฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เธอบอกมาเลยดีกว่า ว่าเธอต้องการเงินเท่าไหร่”
“นายจะเอาเงินฟาดหัวฉันแทนการรับผิดชอบงั้นเหรอ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัวนะ เพราะฉะนั้นฉันไม่ต้องการเงิน แต่ฉันต้องการให้นายรับผิดชอบ ได้ยินมั้ย” ภคพรบอกความต้องการของตัวเอง
ฐากูรทำหน้าแบบว่ารำคาญ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปคว้าเอากางเกงมาใส่ ปากก็เอ่ยไปว่า
“โธ่เอ๊ย เธออย่าเรื่องมากได้มั้ย รับเงินไปซะมันจะได้จบๆ”
“ถ้ากับนังดุจดาวนายจะไม่พูดแบบนี้เลยใช่มั้ย แต่นายจะรับผิดชอบเลย ฉันพูดถูกใช่หรือเปล่า”
“ใช่! ถ้าฉันได้กับดุจดาวฉันจะรับผิดชอบเลยทันที แต่กับเธอ…”
“กับฉันทำไม…”
“เอาเป็นว่าฉันจะไม่รับผิดชอบเธอนะ แต่ฉันจะเอาเงินชดใช้แทน อ้อ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะโอนเงินให้นะ เธออยากได้เท่าไหร่ก็ส่งตัวเลขจำนวนเงินไปบอกฉันได้เลย ฉันกลับก่อนละ” เมื่อใส่เสื้อเสร็จเขาก็คว้าเอาโทรศัพท์แล้วเดินออกไปจากห้องของภคพรอย่างเร่งรีบ
โดยไม่สนใจเสียงตะโกนเรียกของเจ้าของห้อง
“ฐากูร! นายได้ฉันแล้ว นายจะหนีฉันไปแบบนี้ไม่ได้ ฉันจะไม่ยอม ไม่ยอม ได้ยินมั้ยว่าฉันไม่ยอม โธ่เอ๊ย! ไอ้ฐากูรบ้า” เธอด่าไล่หลังอีกฝ่ายอย่างโมโห
“ฉันจะไม่ยอมเสียตัวให้นายฟรีๆ หรอกนะ ยังไงฉันก็จะทำให้นายรับผิดชอบฉันให้ได้ และเรื่องนี้มันจะต้องถึงหูนังดุจดาว นายกับมันจะไม่มีวันได้สมหวังกันแน่นอน นายจะต้องเป็นของฉันคนเดียวเท่านั้น ใครหน้าไหนก็อย่าหวังที่จะได้นายเป็นสามีเลย คอยดูเถอะ!” เธอเอ่ยอย่างจริงจังจนดูน่ากลัวยิ่งนัก
เพราะเธอปรารถนาที่จะเอาฐากูรเป็นสามีให้ได้ หากเธอไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้เหมือนกัน แล้วสักวันเธอจะทำให้เขารับผิดชอบเธอเอง!
วันนี้คุณหญิงกรองทิพย์มาที่บริษัทเช่นทุกวัน ท่านดูแลบริษัทนี้ตั้งแต่ผู้เป็นสามีจากไปอย่างไม่มีวันกลับ และดูแลได้เป็นอย่างดีเสียด้วย โดยมีวิวัฒน์กับชรัณกรคอยช่วยดูอีกแรง ท่านจึงรู้สึกเบาใจลงไปมาก แต่ถ้าท่านเป็นอะไรบริษัทพิศาลธำรงษ์ เฮ้าส์ ไทยแลนด์ ก็จะตกเป็นของชรัณกรกับธมลวรรณ เพราะเห็นว่าทั้งสองเหมาะสมที่สุดแล้ว
ขณะที่ท่านประธานกำลังนั่งคิดอะไรไปเรื่อยอยู่บนเก้าอี้ทำงานของท่าน ประตูห้องก็ถูกเปิด ท่านหันไปมองคนที่เดินเข้ามาพลางเอ่ยถามว่า
“มาแล้วเหรอ ตาวัฒน์”
“ครับ คุณแม่” วิวัฒน์นั่งลงตรงเก้าอี้นวมหน้าโต๊ะทำงาน ก่อนจะเอ่ยถามมารดาต่อไปอีก “คุณแม่มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ ถึงได้ให้เลขาไปเรียกผมมาพบ”
“ก็นิดหน่อยจ้ะ”
“เรื่องอะไรเหรอครับ”
“แม่อยากจะถามแกว่าโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่แกดูแลอยู่น่ะมันดำเนินงานไปถึงไหนแล้วฮึ!” ผู้เป็นมารดายิงคำถามออกไปทันที
เมื่อวิวัฒน์ได้ยินที่มารดาถามก็ถึงกับหน้าซีดเผือด
“เอ่อ คือผม…”
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอ้ำอึ้งล่ะ” ท่านสงสัย
แต่อีกฝ่ายก็ยังทำเหมือนกระอักอ่วนใจอยู่อีกนั่นละ
“เอ่อ…”
“ว่ายังไงล่ะ ทำไมถึงตอบยากตอบเย็นขนาดนั้น แกมีอะไรที่ไม่อยากบอกแม่หรือเปล่า”
“ปละ เปล่าครับคุณแม่”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบตอบมาสิ ว่าโครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่แกเป็นผู้ดูแลมันดำเนินงานไปได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว อ้อ แล้วใกล้เสร็จหรือยัง” ท่านยังคงถามอีกเพื่อให้ได้คำตอบ
วิวัฒน์ยังไม่ตอบมารดา แต่เขาคิดในใจว่า
‘เอาวะ โกหกอีกครั้งจะเป็นไรไป ที่ผ่านมาก็โกหกไปเยอะแล้วนี่ ครั้งนี้คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง อย่าให้คุณแม่จับได้ก็พอ’
แล้วเขาก็ตัดสินใจบอกมารดา
“เอ่อ คือ…คือตอนนี้โครงการก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ผมดูแลอยู่มันดำเนินงานไปได้แปดสิบเปอร์เซ็นแล้วครับคุณแม่ คาดว่าอีกสี่เดือนก็น่าจะเปิดตัวได้แล้ว คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้พาแม่ไปดูที่ไซต์งานด้วยนะ แม่อยากเห็นตัวคอนโดมิเนียมว่ามันเป็นแบบไหน”
“ไม่ได้ครับคุณแม่” เขาเผลอปฏิเสธเสียงหลง
คุณหญิงกรองทิพย์มองลูกชายด้วยความแปลกใจ
“ทำไมไม่ได้ล่ะ แกมีอะไรที่ยังไม่ได้บอกแม่ใช่มั้ย”
“มะ ไม่ใช่นะครับ คือที่ผมบอกว่าไม่ได้น่ะ ผมหมายถึงว่าผมพาคุณแม่ไปที่นั่นไม่ได้ เพราะแถวไซต์งานฝุ่นมันเยอะ ผมเป็นห่วงคุณแม่ครับ ช่วงนี้คุณแม่ยิ่งสุขภาพไม่ค่อยจะดีอยู่ด้วย ผมเกรงว่าถ้าคุณแม่ไปนั่นแล้วสุขภาพอาจแย่ลง” คิดหาเหตุผลร้อยแปดมาอ้างกับมารดา แถไปได้เรื่อยๆ
ความจริงที่เขาไม่อยากให้มารดาไปที่ไซต์งานก็เพราะว่าเขาสั่งผู้รับเหมาก่อสร้างให้หยุดทำงาน เนื่องจากเงินไม่พอ เพราะเขายักยอกเงินที่ใช้ก่อสร้างเอาไว้ใช้ส่วนตัว ส่วนหนึ่งก็ให้ภรรยา และเหตุนี้เองที่เขาไม่อยากให้มารดาไปเห็นสภาพคอนโดมิเนียมที่ยังสร้างไม่แล้วเสร็จ หากท่านเห็นก็จะต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน เขาจึงต้องหาเหตุผลมาอ้างนั่นละ
“แน่ใจเหรอว่าที่แกไม่อยากให้แม่ไปที่ไซต์งานเพราะแกเป็นห่วงแม่เท่านั้น”
“ครับ ผมเป็นห่วงคุณแม่จริงๆ แล้วอีกอย่าง แถวไซต์งานมันอันตรายมาก ถ้าคุณแม่ไปก็อาจเกิดอันตรายได้ครับ”
“ขอบใจนะที่เป็นห่วงแม่ แม่ไม่ไปแล้วก็ได้จ้ะ”
เมื่อได้ยินที่มารดาเอ่ยวิวัฒน์ก็ถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก จนมารดาต้องถาม
“แกถอนหายใจทำไม”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” ผู้เป็นลูกชายส่ายหน้า
“แล้วไป อ้อ แม่มีธุระจะคุยกับแกแค่นี้ละ แกไปทำงานต่อเถอะ” ท่านบอกลูกชายยิ้มๆ
อีกฝ่ายรีบลุกขึ้นอย่างเร็ว
“ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณแม่” แล้วก็เดินออกไปจากห้องทำงานของมารดาทันที
ท่านประธานมองตามหลังลูกชายไปอย่างสงสัย ก่อนจะเอ่ยกับตัวเองว่า
“ตาวัฒน์เป็นอะไรนะ ทำตัวแปลกๆ เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ปกปิดเราไว้ แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง เราคงคิดมากไปเอง”
แล้วท่านก็จัดการเซ็นเอกสารที่จิรดา ผู้เป็นเลขาขนมาให้เป็นกอง เป็นเอกสารด่วนและสำคัญมาก ดังนั้นท่านจึงต้องรีบเซ็นให้เสร็จภายในวันนี้
ความคิดเห็น