คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 : Appear (สิ่งที่ปรากฏ) (แก้ไข)
................................................................................................
3 วัน ถัดจากวันนั้น
กิ๊งก่อง กิ๊งก่อง
ทา คุยะกำลังวุ่นกับการเก็บของจำนวนมากเข้ากระเป๋า วันนี้เป็นวันศุกร์แล้ว หลังจากที่เขาพบกับเด็กผู้ถูกเลือกอีก 11 คนเมื่อ 3 ก่อน วันนี้พวกเขานัดพบกันที่จุดนัดพบเดิม เขาต้องรีบเก็บของไปเพื่อไปพบเจอ พวกโคจิอีก
ขณะที่เก็บหนังสือ ทาคุยะก็รู้สึกเจ็บแปล๊บที่ข้อมือซ้ายขึ้นมา
“อุ้ย..” เขายกข้อมือขึ้นมาดู มันเป็นรอยสีแดงเหมือนโดนขีดจนเป็นแผล รอยนั้นเป็นเส้นโค้งที่ดูเป็นตัวอ่ะไรซักอย่าง
“สงสัยไปขูดกับอ่ะไรมามั้ง” แต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะสนใจมัน เพราะเวลามีไม่มากแล้ว เขายกกระเป๋าขึ้นมาพาดบ่าก่อนตรงไปที่ประตู
“อ่าวทาคุยะ จะรีบไปไหนน่ะ” เพื่อนๆในห้องของทาคุยะเรยกรั้งตัวไว้ในขณะที่ทาคุยะรีบวิ่งออกจากห้องเรียนไป
“อ่อ ขอโทษนะวันนี้ชั้นนัดเพื่อนต่างโรงเรียนไว้น่ะ”แล้วเจ้าตัวก้วิ่งออกไปทันที
…
…
“พวกนาย รอนานมั้ย!”ทาคุยะที่วิ่งเตลิดลงจากรถไฟก่อนจะมาหาพวกโคจิที่ยืนรออยู่แล้ว
“นานเป็นชาติ”
ปึ้ด! เสียงข้างบนนั้นไม่ใช่ใครหากเป็นโคจิ ที่คอยจี้ต่อมประสาททาคุยะ
“โคจิ! ใครถามนาย”ทาคุยะแผดเสียงใส่ด้วยความเคือง คนยิ่งเหนื่อยๆอยู่นะเว้ย มาถึงก้หาเรื่องใส่ตัวเลยเรอะ เดี๋ยวเหอะ
“ก็นายถาม”โคจิชี้ไปยังประโยคที่ทาคุยะทักมาคำแรก
“แต่..”
“พอๆ พอเลย ไปกันได้แล้วย่ะ” อิซึมิเดินเข้ามาแทรกกลาง คว้าอย่างแรงเข้าที่ข้อมือของทาคุยะและโคจิ
“อุ่..” โคจิทำสีหน้าเบี้ยวไปนิดนึง อิซึมิเหล่ตาหันกลับมามอง
“อ่ะไรยะ แค่นี้สำออยเหรอ”อิซึมิ แยกเขี้ยว ที่เจ็บนู่นเจ็บนี่เพื่อทาคุยะไม่ร้องซักแอะ ชั้นทำแค่นี้ร้องโอดโอยจะเป็นจะตาย (มันยังไม่ทันจะร้องออกมาเป็นคำเลย)
โคจิลูบข้อมือป้อยๆ ทาคุยะมองตรงที่โคจิลูบนั้นรู้สึกว่ามัน..
“โคจิ ขอดูแขนหน่อย”ทา คุยะจับแขนโคจิ แล้วเลื่อนถลกแขนเสื้อขึ้น เขาพบว่าที่ข้อมือตรงจุดเดียวกับเขาที่เจ็บแปล๊บระหว่างออกจากห้องนั้น มีรอยเส้นโค้งเหมือนกันแต่ไม่ใช่สีแดงหากเป็นสัน้ำเงินเหมือนข้อมือเขาติด อยู่ แต่ดูเหมือนจะมากกว่านิดหน่อยละมั้ง
ทาคุยะปล่อยแขนโคจิแล้วดึงแขนเสื้อตัวเองขึ้นบ้าง ปรากฏว่ามันมีขนาดเท่ากับโคจิแล้ว
“...” ทาคุยะกับโคจิมองรอยนั้นนิ่งๆ อิซึมิ จุนเปย์ โทโมคิ โคอิจิ ก็ให้ความสนใจเข้ามามอง
“พวกนายนี่หาเรื่องเจ็บตัวที่เดียวกันเหรอ”จุนเปย์มุ่นหัวคิ้วกับความใจกล้าของทาคุยะ
“ปล่าวนะๆ..”รีบ ปฏิเสธเป็นพัลวัน ต่อให้เขาชอบโคจิเขาก้คงไม่บ้าพอที่จะให้ตัวเองเจ็บโดยไร้เหตุผล ที่เดียวกับโคจิ แถม.. เขาไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าไปโดนมาเมื่อไหร่
“เอ้ะ..ถ้ารอยนั่น”โคอิจิ พูดแกมตกใจ ก่อนถกแขนเสื้อขึ้น ก็มีรอยแบบเดียวกันกับโคจิ
“นี่มันอ่ะไรกันน่ะ”โคจิถาม
“ฉันก็ไม่รู้”ทาคุยะส่ายหน้า
“อืมพวกพี่ๆ ถ้าไปหาพวกคุณไทจิไม่ง่ายกว่าเหรอครับ”โทโมคิพูดเปรยออก ทุกคนก็คิดได้ว่า เรื่องนี้ต้องมีสาเหตุที่ไหนซักแห่ง แน่ๆ
“งั้นพวกเราก็รีบไปกันเหอะ”
.
.
“เอ้ะ รอยที่ข้อมือเหรอครับ”โคจิโร่เงยหน้าขึ้นจากโน๊ตบุ๊คอย่างสงสัย
“อื้ม ก็เลยอยากจะรู้ว่าในกลุ่มพวกนายมีใครเป็นบ้าง”ทาคุยะบอก เขาอึดอัดอยากรู้สาเหตุที่เกิดขึ้นเต็มทีแล้ว แถมข้อมือของเขาก้เริ่มแสบแปล๊บๆขึ้นอีก
ทุกคนเริ่มสำรวจข้อมือของตัวเอง บางคนก้พลางตีๆที่ข้อมือ
“ไดสุเกะ เหรอวันนี้ชั้นไม่เจอเค้าเลยนะ”เสียงของไทจิดังขึ้นในระหว่างที่ทุกคนกำลังดูข้อมือทั้งสองข้างของตัวเองอยู่
“เหรอครับ” ทาเครุคอตกอย่างหมดหวัง 3 วันที่ผ่านมานี่ เขาไม่ได้เจอไดสุเกะเลย แม้แต่ที่โรงเรียนไปหาที่บ้านพ่อแม่ของเขาก็บอกว่าไม่อยู
“เป็นอ่ะไรมั้ยทาเครุ”ยามาโตะถามทาเครุ ทาเครุก็ส่ายหัว แต่ในหัวยังคงเป็นห่วง
“แต่ก็แปลกนะไดสุเกะคุงไม่ไปโรงเรียน”ฮิคาริพูดปนกังวลๆ แล้วทาคุยะก็ยื่นหัวเข้ามากลางวงพูด ทำเอาทั้ง 4 ผงะออกไป
“นี่ทั้ง 4 คน ข้อมือมีอ่ะไรผิดปกติมั้ย?”ทาคุยะถามซ้ำครั้งที่ 2
“เอ๋ ข้อมือเหรอ ก็ไม่น...แว๊ก”ไทจิพดไปมือก็ตบเข้าที่ข้อมือดังป๊าปก่อนสะดุ้งร้องออกมา ทาคุยะรีบเงยหน้าเข้ามาดูพร้อมโคจิ
ข้อมือของไทจิมีรอยแบบเดียวกับทาคุยะเป๊ะ!
“หืมเอ๊ะ..ของชั้นก็”ยามาโตะก้มมองข้อมือก่อนเงยหน้าขึ้นมา ข้อมือของยามาโตะก็เป็นรอยสีนำเงินเหมือนกัน
“ของชั้นด้วย”ทาเครุมองข้อมือตัวเองที่มีรอยเส้นโค้งขนาดข้อนิ้วที่ข้อมือตัวเอง
“ชั้นไม่มีนะ ว่าแต่เกิดอ่ะไรขึ้น”ฮิคาริพูดงงๆ
“พวกเราก้ไม่รุ้เหมือนกัน ในกลุ่มชั้นก็มีกันอยู่ 3 คน”ทาคุยะว่าสั้น เขาไม่รุ้และตอนนี้กำลังงงๆสุดเลยยังจะมาถามกลับอีก
ไทจิวิ่งไปหาโคจิโร่ที่นั่งจิ้มโน๊คบุ๊คอยู่เพื่อขอให้ตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ครับ”โคจิโร่รับคำก่อนเริ่มกดแป้นอย่างรวดเร็ว
......
“หาาา ไม่มีเบาะแสอ่ะไรเลย!”ไทจิร้องแว๊กออกมาคนแรกเมื่อพบว่า โคจิโร่ไม่สามารถหาเบาะแสเกี่ยวกับรอยที่ข้อมือนี้ได้เลย
“ครับ เท่าที่ผมหาไม่มีอ่ะไรที่จะใช้เป็นเบาะแสอ้างอิงได้เลย”โคจิโร่ทำหน้ายิ้มแห้งๆ
“คุณเก็นไนอาจจะรุ้เรื่องนี้ก็ได้นะ”โซระแน่ะนำ
“จริงด้วยสิ คุณเก็นไนอาจจะ..”ไทจิพูดไปได้ครึ่งนึง
“ว่าแต่เรื่องนี้ หมายความว่า” ยามาโตะพูดแล้วยกมือขึ้นประสานก่อนเอาคางเกย
“เกี่ยวข้องกับโลกดิจิตอล?”ไทจิไม่อยากจะเชื่อ
“มันก็ไม่แน่ซักหน่อย โลกดิจิตอลมันจบไปเมื่อ 3 เดือนก่อนแล้วนี่” มิยาโกะพูด
“ว่าแต่ดิจิมอนของพวกนายล่ะ?”โคอิจิถาม ตั้งแต่คราวก่อนแล้วรู้สึกเขาไม่เห็นดิจิมอนพวกนั้นเลยแฮะ เห็นแต่ของพวกไดสุเกะ
“อ๋อ เพราะพวกผมต้องไปเรียน จึงฝากแม่ไว้ที่บ้านน่ะครับ ครอบครัวพวกผมรู้กันเป็นส่วนตัว”โคจิโร่ตอบ และพวกทาคุยะก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
เมื่อคิดได้ดังนี้ โคจิโร่จึงเริ่มพรมนิ้วลงบนแป้นเพื่อติดต่อกับคุณเก็นไนในทันที
…
‘ซ่าาา...ครึ่ก...อ่า..ว....ครึ่กๆ พวกเธอ...กึกๆ’โคจิโร่ติดต่อคุณเก็นไนได้แล้วแต่ดูเหมือนสัญญาณจะแย่สุดๆไปเลย
“คุณเก็นไน”โคจิโร่เรียกคนที่อยู่ในจอภาพนั้น แต่จอก็วูบๆ
‘ซ่า...’ จอดับลงไปซะแล้ว
ป๊าปปปป!!
“เย้ย”โคจิโร่สะดุ้งโหยง โน๊คบุ๊คแสนรักของเขาโดนทาคุยะตบเข้าให้เต็มรักโดยไม่หวังผลตอบแทน จอภาพเริ่มรวนก่อนกลับมาชัดอีกครั้ง
‘ไงพวกเธอ’เสียงของคุณเก็นไนดังออกมาจากลำโพง
“ครับคุณเก็นไน พวกผมมีเรื่องอยากจะถาม” โคจิโร่เริ่มคุยกับจอภาพ ทาคุยะก้เอาศอกถองไทจิเบาๆให้ไทจิหันกลับมา
“หืม?”ไทจิหันมาแล้วทำหน้างงๆ
“คุณเก็นไนนี่แก่หงักขนาดนี้เชียว..”ทาคุยะทำหน้ามืด เก็นไนในอุดมคติเขาคือ ชายชาตรีผุ้เก่งกาจดุจอัศวินขี่ม้าขาว (ไปกันใหญ่)
“ก็นะ แต่ก่อนมันก็ใช่”ไทจิยิ้มแหยๆ นึกถึงภาพเก็นไนตอนยังหนุ่ม
“เหรอ..”ทาคุยะทำหน้าผิดหวังสุดๆไปเลย แต่พอจะถามไทจิต่อก็โดนโคจิกระชากคอให้กลับไปมองจอภาพอีกรอบ
‘รอยที่ข้อมืองั้นเรอะ’เก็นไนถาม
“ครับ พอจะทราบข้อมูลไหม”
‘ไหนใครก็ได้ลองยื่นมาใช่ชั้นดูหน่อย’เก็นไนบอกให้ยื่นมือที่มือรอยนั้นไปข้างหน้า ซึ่งทาคุยะกับโคจิก็เป็นคนยื่นออกไปให้ดู
‘โอ้....’เก็นไนครางออกมาเสียงเบา ดวงตาเล็กๆเบิกโพลง
“รู้อ่ะไรงั้นเหรอครับ!”โคจิโร่ยื่นหน้าเข้าไปถามใกล้ๆ
‘….’
“(ตื่นเต้น)”
‘ปล่าวหรอก ชั้นมองไม่ค่อยเห็นน่ะดูอีกทีได้ไหม’เก็นไนยกมือขึ้นเกาหัวเก้อๆ
โธ่ โครม!!
ทุก คนรอบวงล้มกลิ้งลงไปกับพื้น อย่างช่วยไม่ได้ แต่เพื่อการช่วยเหลอืที่ดี ทาคุยะกับโคจิจำต้องยื่นข้อมือออกไปให้ดูอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ก็เลยยื่นให้ดูนานหน่อย
แต่แล้ววินาทีที่รอยแผลของทาคุยะละโคจิเฉียดผ่าน รอยนั่นก็แผลงฤทธิ
แปล๊บ
“โอ้ย/อ้ะ”ทาคุยะกับโคจิชักมือกลับอย่างรวดเร็ว โดยที่คนรอบข้างก็มองอย่างสงสัย
“เกิดอ่ะไรขึ้นเหรอ”จุนเปย์มองทั้งสองคนที่กำข้อมือตัวเองไว้แน
“จู่ๆมันก็รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นมาน่ะ”ทาคุยะพูดตอบเบาๆ
“คุณเก็นไนพอจะรุ้อ่ะไรมั่งมั้ยครับ”โคจิโร่ถามอีกครั้งนึง เก็นไนพยักหน้าแล้วยกมือขึ้นลูบคางๆที่เต็มไปด้วยหนวดเคราหลายๆที
‘อื้ม ให้ชั้นแน่ใจพวกนายที่มีรอยนั่นทุกคน...’
‘มายืนเป็นวงกลมแล้วยื่นแขนข้างที่มีรอยนั่นออกมา’ ด้วยความอยากรุ้ทุกคนจึงปฏิบัติกันอย่างรวดเร็วทันใจ ยามาโตะ ไทจิ ทาเครุ ทาคุยะ โคจิ โคอิจิ ก็มายืนกันเป็นวงกลม
แล้วพวกเขาก็ยื่นแขนข้างที่มีรอยแผลออกมากลางวง
“….”
เงียบ...
“คุณเก็นไน ครับไม่เห็นมี...”โคจิโร่หลังดูปฏิกิริยาแล้วเมื่อไม่มีอ่ะไรเกิดขึ้นก็จะรีบหันไปหาโน๊ตบุ๊คเพื่อที่จะคุยกับคุณเก็นไน
แว๊บบบบบบบ
พูด ไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้น กลางวงก้มีแสงสีขาวกลุ่มหนึ่งรวมตัวกันอยู่ พวกเขารอบวงพยายามที่จะยึดแขนกลับ แต่ทำไม่ได้ แรงของแสงนั่นทำให้พวกเขาต้องเหยียดแขนไว้แบบนั้น แต่ด้วยแสงที่สว่างขึ้นจนแสบตา ทำให้พวกเขาต้องยกมือขึ้นปิดตาเพื่อกันแสง
ยา มาโตะ ไทจิ ทาเครุ ทาคุยะ โคจิ โคอิจิ รู้สึกเหมือนมีอ่ะไรไหลเวียนอยู่ในร่างกาย ก่อนที่มันจะไหลไปรวมที่ข้อมือ ตรงรอยแผลนั้น ก่อนจะปะทุออกมา
“อ๊ากกกกก” พวกเขาร้องออกมาพร้อมกับแสงสีน้ำเงินและแสงสีแดงที่พุ่งออกมาจากข้อมือของ พวกเขา พวกมันขยับราวกับมีชีวิต ก่อนที่จะไปวนรอบๆแสงสีขาว เหมือนรอคอยอ่ะไรซักอย่าง
“อ้ะ ดูนู่น”ฮิคาริชี้ไปบนท้องฟ้า
ทุกคนหันไปดูตามที่ฮิคาริชี้ ตอนนี้แสงนั่นอ่อนลงไปแล้วเพราะแสงที่ออกมาจากข้อมือพวกไทจิและทาคุยะทำให้มองเห็นรอบๆได้แล้ว
สิ่งที่ฮิคาริชี้ มันคือแสงสีแดง ที่พุ่งมาจากระยะไกล
“นั่นมันมาจากทางบ้านไดสุเกะนี่”เคนพูดเสียงดัง ทาเครุพยายามสะกดกั้นความเจ็บปวดที่แล่นริ้วบนข้อมือเปิดตามองแสงที่พุ่งผ่ากลางมาวนรอบแสงสีขาว
แสงดวง นั้น เริ่มหมุนเร็วขึ้น เร็วขึ้น ก่อนจะเกิดประกายสายฟ้าดังเปรี๊ยะ ไฟสีแดงและไฟสีน้ำเงินเริ่มหลอมรวมกับสีขาว ก่อนที่มันจะแตกตัวออกมา
“นั่นมัน…”ไทจิกัดฟันพูดออกมา
“สัญลักษณ์นั่น.../สัญลักษณ์นั่น...”เสียงของทั้งสองฝั่งดังขึ้นพร้อมกัน เพราะสิ่งที่เขาได้เห็นนั้นคือสัญลักษณ์สองแบบคือ สัญลักษณ์ที่เป็นที่ก่อเกิดพลังของโลกดิจิมอนที่พวกไทจิได้ไปอยู่ และสัญลักษณ์ของนักสู้ในตำนานที่พวกทาคุยะเคยได้รับ ก่อนที่สัญลักษณ์สีขาวนั้นจะพุ่งเข้าใส่กลางอกของทั้ง 6 คนในทันที
“อ๊ากกกกกก!!!”ทั้ง 6 คนร้องเสียงหลง ยกมือขึ้นกุมหน้าอกก่อนทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้น แสงสีขาวเส้นสุดท้ายก้พุ่งออกข้างนอกตรงไปยังทางที่มันเคยมา
“แสง..เส้นนั้.น...”ทา เครุที่ใช้มือกุมหน้าอกตัวเองไว้ สายตามองตามแสงสีขาวที่พุ่งออกจากลานไป เขานึกถึงว่า ถ้ามันเป็นของไดสุเกะจริงๆ ตอนนี้เกิดอ่ะไรขึ้นกับไดสุเกะ
แล้ว อาการเจ็บปวดนั้นก็หนักขึ้นไปอีก จนทรงตัวไว้ไม่อยู่ ทั้ง 6 คนลงไปนอนดิ้นทุรนทุรายกับพื้น รู้สึกเหมือนโดนทั้งความร้อนและเข็มพันเล่มทิ่มแทงจนร่างกายทนไม่ไหว
“อั่ก...”ไทจิเหงื่อแตกผลั่ก เขาแสบบริเวณที่แสงพุ่งเข้าใส่และยังร้อนไปทั่วทั้งตัว แล้วฮิคาริก็รีบเดินเข้ามาประคองศีรษะเขาวางบนตัก
เธอเอามือทาบลงบนหน้าผากของไทจิ พบว่ามันร้อนราวกับจะระเบิด ทั้ง 6 คนก็มีอาการแบบเดียวกัน และยังคงกุมหน้าอกด้วยสีหน้าเจ็บปวด
แต่ ทาเครุแม้จะเจ็บปวดที่ตัวอยู่แต่ก็ยังไม่เท่ากับความคิดที่เป็นห่วงไดสุเกะ เมื่อ3วันก่อนก็ตากฝน ที่ผ่านมาก้ไม่ไปโรงเรียน ไดสุเกะหายไปไหน แล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้าไปจะเป็นอ่ะไรบ้าง!!
ไม่มีใครรู้เลยว่าแสงที่พุ่งไปทางบ้านของไดสุเกะนั้น ได้แยกตัวออกเป็นสองสาย สายหนึ่งพุ่งไปที่บ้านไดสุเกะ ส่วนอีกสายหนึ่งก็พุ่งฝ่าอากาศรวมเป็นเนื้อเดียวและหายไป ไม่มีใครทราบได้ว่ามันไปอยู่ที่ไหนแล้วเกิดอ่ะไรขึ้น..
.......................
บ้านโมโตมิยะ
“อึ่กก....” เสียงครางทรมาณดังออกมาจากห้องราวกับสะกดกลั้นอ่ะไรบางอย่าง
“อ๊ากกกกกก”แล้วคนในห้องก็แผดเสียงออกมาดังลั่นอย่างเจ็บปวด ทำให้คนในบ้านตกใจและรีบวิ่งเข้าไปหาเขาในห้องทันที
นั่นคือ
.
.
ห้องของ ไดสุเกะ…
.................................................................................
2 พค 53
แก้ตัวหนังสือ
18 มีนาคม 54
เข้ามาเพิ่มเติมข้อมูลบางส่วน รบกวน ช่วยอ่านเพิ่มเติมกันด้วยก็จะยิ่งดีจ้า
ใครไม่รุ้ว่าเพิ่มเติมไปตรงไหนก็อ่านเข้าไปเหอะ แล้วจะประจักษ์ในภายหลัง นะจ้ะ..
ความคิดเห็น