ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fic Digimon] : The Chosen Children [ Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5 : Broken (แตกหัก)

    • อัปเดตล่าสุด 2 พ.ค. 53


    …………………………………………………………………..

     

    เด็กผู้ถูกเลือก? เสียงของ ยางามิ ไทจิ ชายผมสีนำตาลเข้มหน้าตาสะสวย พูดด้วยความฉงน

     

    ใช่ พวกเราเป็นเด็กผู้ถูกเลือกเมื่อ 3 ปีก่อนอิซึมิพยักหน้ารับ

     

    3 ปีก่อน ชั้นไม่เห็นจำได้เลยว่า มีคนอื่นนอกจากพวกเราด้วย!” ไทจิ กำลังไม่เข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า เมื่อ 3 ปีก่อนเขามั่นใจว่า มีแค่พวกเขา 8 คนเท่านั้น (ไม่นับตัวละครเสริม)

     

    โลกดิจิตอลที่พวกนายไป ใช่ที่เดียวกับพวกเรารึเปล่า ทาเคโนอุจิ โซระ สาวน้อยผมสีส้ม ถามด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน

     

    อืม... พวกเราก็ตอบไม่ได้ อิซึมิพูดด้วยนำเสียงเศร้าๆ

     

    ต๊อก ๆ ๆ

     

    เดี๋ยวก่อนครับไทจิซัง เสียงของอิซึมิ โคจิโร่ เด็กชายท่าทางฉลาดหลักแหลมผมสีแดง ดังขึ้นขัด เขาโยกตัวเข้ามาในวงสนทนา เลื่อนโน้ตบุ๊คของเขาไปกลางวง แล้วชี้ให้ดูภาพในจอ

     

    ดูจากเหตูการณ์ที่เล่ามาหลายๆเรื่อง ซึ่งผมก็ตรวจสอบดูหลายๆอย่างแล้ว..”เขาพูดไปพลางก็ทำท่าครุ่นคิด

     

    ผมจึงตรวจดูจากดิจิไวท์ ของพวกเขาทั้งหมด ผลปรากฏว่า เป็นที่ที่เดียวกันครับ โคจิโร่ กดเปลี่ยนข้อมูลของโลกดิจิตอล ให้มารวมกัน พบว่ามันเข้ากันเป๊ะ

     

    แล้วทำไมเราถึงไม่เจอพวกเขาละ อิชิดะ ยามาโตะ ชายผมทองผู้เป็นพี่ของทาเครุ นักร้องเสียงใส ถามกลับ

     

    อืม..จะบอกว่ายังไงดีนะครับ

     

    ประมาณว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกดิจิตอลเวิรล์เมื่อ 3 ปีก่อน มีโลกดิจิตอลซึ่งเป็นโลกคู่ขนาน 2 โลกครับโคจิโร่อธิบาย แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเข้าใจ

     

    หมายความว่าโลกติจิตอลมี 2 ใบงั้นเหรอทาจิคาวะ มีมี่ สาวน้อยผมสีชมพูใส่ชุดทันสมัย ว่า

     

    เอ่อ..มีใบเดียวครับโคจิโร่ยกมือขึ้นเกาหัว

     

    แล้วตกลงมันยังไงล่ะ?คิโดะ โจ รุ่นพี่ที่แก่ที่สุดในวงสนทนา...เอ่อมีจุนเปย์อีกคนนี่!

     

    ก็นั่นแหละครับ มีใบเดียว แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ปั่นป่วนในช่วง 3 ปีก่อน ทำให้โลกดิจิตอลเหมือนแยกกันออกไปอยู่ 2 มิติ ซึ่งแยกด้วยพวกที่ศรัทธารู้จัก สิบ นักรบในตำนาน และโลกที่สงบสุข

     

    โลกที่สงบสุข ที่ที่เราไปมันสงบตรงไหนกันล่ะไทจิยังคงไม่รู้เรื่อง

     

    เอ..ความจริงที่เราไปก็เพราะมันไม่สงบนั่นแหละครับ จากที่โลกจิตอลเวิร์ลแยกออกเป็น 2 มิติเพราะความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นจาก 10 นักรบในตำนาน แต่แล้วการแยกมิติออกเป็นสอง ซึ่งก็คือแบ่งดิจิมอนออกมาด้วย โคจิโร่กดเน้นลงไปบนพื้นดิจิตอลเวิร์ลในแผนที่

     

    แต่การแบ่งแยกนั้นก็ไม่ได้ทำให้ส่งผลสำเร็จ 100% ยังคงมีดิจิมอนชั่วร้ายบางส่วนหลงเหลืออยู่ในโลกที่คิดว่าสงบสุขแล้ว แต่ความจริงยังมีอีกมากมายนั่นก็คือดิจิมอนที่พวกเราผ่านมา ทั้งนี้ก็มาจากเรื่องในสมัยก่อนที่คุณเก็นไนได้เล่าไว้ ไทจิ โซระ มีมี่ โจ ยามาโตะ ฮิคาริ มิยาโกะ เคน ไดสุเกะ อิโอริ พยักหน้าร้องอ้อเข้าใจในความหมาย แต่พวก 04 รึจะเข้าใจ ก็พวกเขาไม่เคยพบคนที่ชื่อเก็นไนนี่

     

    เก็นไนนี่ใครเหรอ ทาคุยะรีบถามเพื่อไม่ให้ค้างคา พวกเขาก็พยักหน้าอยากรู้ด้วย

     

    อ่าว .. พวกคุณไม่ได้ถูกคุณเก็นไนเรียกตัวไปเหรอโคจิโร่เบิกตากว้าง

     

    อื้ม คนที่เรียกพวกชั้นไปน่ะคือ โอฟานีมอน เทพผู้พิทักษ์โลกดิจิตอลน่ะโคจิพูดไปมือก็เอื้อมไปหยิบแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม

     

    โอฟานีมอน..โคจิโร่พึมพำ

     

    โลกดิจิตอลนี่ซับซ้อนวุ่นวายกว่าที่คิดนะไทจิเอียงคอแล้วเอียงคนอีก จนไม่รู้จะเอียงยังไง สุดท้ายก้นที่นั่งอยู่บนท่อก็ไถลร่วงลงมา

     

    ไทจิร่วงลงมาจากท่อ หลับตาปี๋ก่อนท่องพุธโธในใจให้ก้นไม่แหลกตอนกระแทกพื้น ปากก็แผดเสียงซะหมดสภาพ ทุกคนก็รีบหันมามอง

     

    แว๊กก อุ้บ!”เป็นสวรรค์ของไทจิ ที่ยามาโตะรีบกระโจนเข้ามารับก่อนที่จะร่วงกระแทกพื้นสมใจแต่สงสัยจะรีบไปนิดหนึ่งทำให้ล้มตึงไปอีกรอบหลังการรับเจ้าตัวยุ่ง

     

    โครม

     

    ตาไทจิหมุนเป็นอมยิ้มลอลลี่ป๊อป มองคนตรงหน้าเบลอๆ พอเริ่มเห็นก็กอดหมับเข้าให้ สร้างความตกใจให้คนรอบข้างและคนโดนกอดไปพักนึง

     

    ไทจิ..กลัวก็ไม่ว่า แต่ปล่อยก่อนได้ไหม..ยามาโตะพูดเสียงนุ่ม ไทจิที่เพิ่งรู้ว่าทำอ่ะไรลงไปก็รีบคลายมือออกแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งยังทำหน้าแดงฉานให้ชาวบ้านเค้าได้เห็น เรียกเสียงหัวเราะได้เป้นอย่างดี

     

    แต่แล้วก็มีอยู่ 2 คนที่ไม่หัวเราะไปกับเขา แต่หากกลับได้แต่ทำหน้าเศร้า ไดสุเกะมองไทจิด้วยสายตาที่บอกอารมณ์ไม่ได้ ดวงตาติดๆจะแดงๆ ส่วนทาเครุซึ่งมองไดสุเกะอยู่ ก็หรี่ตาลง ดวงตาขุ่นมัว ก่อนจะเบนหน้าหนีแล้วถอนหายใจ

     

    ปัปๆ

     

    เคน..ไดสุเกะหันไปทางมือที่มาตบที่ไหล่ของเขา เคนยิ้มแล้วลูบไหล่ไดสุเกะอีก2-3ที เป็นเชิงว่าไม่เป็นไรนะ

     

    อื้มไม่เป็นไรหรอก...ไดสุเกะก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง ทาเครุเมื่อเห็นเคนเข้าไปช่วยก็ทำสีหน้าเจ็บปวดและคิดว่าตัวเองช่างงี่เง่านัก

     

    พี่คะ แล้วจะทำยังไงต่อฮิคาริเอ่ยปากถามผู้เป็นพี่ชาย

     

    ไทจิทำหน้าเหมือนกินบ๊วยทั้งก้อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหน้าอมมะขามเปรี้ยว

     

    วันนี้ผมว่า มันก็ค่ำแล้วนะ เรากลับบ้านกันก่อน แล้วค่อยมาเจอกันอีกทีดีไหม?โคจิโร่เสนอความคิด ทุกคนเริ่มมองไปรอบๆตัว หลังจากที่พวกเขาคุยกันมันน่าขนาดนี้เชียวเหรอ โคอิจิยกนาฬิกาขึ้นมาดูก็พบว่า ปาไปทุ่มกว่าเสียแล้ว แถมบรรยากาศรอบตัวก็มีเพียงไฟในสนามนี้ที่ให้ความสว่างและ ไฟรอบถนน

     

    อืม..ก็ว่างั้นนะทาคุยะยกมือขึ้นปัดแมลงที่บินผ่าน

     

    งั้นขอชื่อที่ ที่อยู่..ไทจิ พูดกลับทาคุยะพลางล้วงหาเศษกระดาษในกระเป๋า

     

    แล้วก็ขนาดอกเอวสะโพกด้วยนะ^^”ไทจิพูดจบก็ยื่นกระดาษให้ทาคุยะ

     

    อืม.. ห้ะ... ทาคุยะทำท่าจะเขียนก่อนทวนคำพูดของไทจิอีกทีแล้วร้องเสียงหลง ไทจิเมื่อเห็นดังนั้นก็หลุดขำออกมาก๊ากใหญ่

     

    โอ้ยแกล้งคนนี่มันสนุกดีจริงๆทาคุยะอยากรู้ว่าตัวเองโดยแกล้งเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว แต่คนตรงหน้าเขาก็คงไม่ได้จะเอาจริง จะให้ว่าดูจากส่วนสูงแล้ว ก็ไม่ต่างจากเขาไปซักเท่าไหร่ เพียงแต่ไทจิดูสูงกว่าทาคุยะเล็กน้อย ถ้าดูรวมๆกับนิสัยและหน้าตาก้น่ารักไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

     

    ไทจิ อย่าแกล้งเค้าซิยามาโตะตีแขนไทจิเบาๆ เจ้าตัวดีก็หัวเราะก๊ากไม่อายใคร

     

    ระหว่างที่ทาคุยะกำลังเขียนชื่อ เบอร์โทรและนาๆลงไปในกระดาษ คนในกลุ่มสนทนาก็เริ่มกลับกันไปแล้ว โดยที่มีมี่รีบวิ่งกลับไปก่อนเพราะบอกว่า ป๊ากับม๊าจะห่วง โซระเองก็บอกว่าต้องจัดดอกไม้ให้แขก อิซึมิก็บอกว่าจะโชว์ชุดให้พ่อแม่ดู โดยจุนเปย์ก็ตามไป โทโมคิก็กลับไปหาพี่ชาย

     

    งั้นผมไปก่อนนะครับโคจิโร่ปิดโน้ตบุ๊คลุกขึ้นลา ก่อนค่อยๆเดินจากไป อิโอริบอกว่าเดี๋ยวต้องซ้อมเคนโด้ด้วยจึงรีบกลับไปกับมิยาโกะ เคนพูดว่าจะกลับไปกินกับข้าวฝีมือแม่พร้อมครอบครัวแล้ววิ่งออกไป โจต้องไปคืนหนังสือแพทย์ก็กลับไปเช่นกัน

     

    ตอนนี้ก็เหลือ ยามาโตะ ไทจิ ทาเครุ ไดสุเกะ ฮิคาริ ทาคุยะ โคจิ โคอิจิ

     

    แปะๆ

     

    อ่าวฝนตกไทจิเงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้าก่อนจะ

     

    ซ่าาาาาา...

     

    ฝนเม็ดเบ้อเริ่มร่วงลงใส่เต็มหน้าของไทจิ เล่นเอาลงมาสำลักแทบไม่ทัน

     

    ชั้นไม่ได้เอาร่มแค่กๆ มาด้วยนะเฟ้ย อุ่กค่อก  แง่ง!”ไทจิพูดไปสำลักไป ด่าว่าเทพเจ้าสายฟ้าให้โกรธแล้วฟ้าผ่าเล่น แต่ท่าทางน่ารักแบบนั้นเทพเขาคงไม่โกรธ55+

     

    ชั้นมีร่มน่ะยามาโตะรีบหยิบร่มในกระเป๋าออกมากางแล้วเดินไปหาไทจิที่ยังด่าท้องฟ้าอยู่

     

    ด่าแบบนั้นเดี๋ยวฟ้าก็ผ่าหัวหรอก

     

    เปรี้ยง!!!!!!

     

    ฟ้าฝ่าห่างออกไปในระยะ 100 เมตร ทุกคนหมุนคอไปมองต้นไม้ที่รับกรรมต้นนึงจนเกือบเกรียม แต่ยังดีแค่หัวโกร๋น

     

    เอ่อ...ชั้นว่ารีบกลับเหอะยามาโตะพูดเร่ง ไทจิเองก้รีบยัดของเข้ากระเป๋า แล้วกระโดดไปประจำตำแหน่งข้างๆตัวยามาโตะแล้วกอดหมับเข้าที่แขน

     

    ทาเครุ..กลับเองได้ใช่มั้ย ยามาโตะรีบหันไปพูดกับทาเครุ ทาเครุพยักหน้า

     

    อ่าวแล้วไดสุเกะคุงไปไหนแล้วล่ะฮิคาริถามหลังมองไปรอบก็ไม่พบไดสุเกะเสียแล้ว

     

    ไทจิ ยามาโตะ ทาเครุจึงมองไปรอบๆ ไม่เห็นไดสุเกะจริงๆด้วย

     

    เอ่อพวกชั้นขอกลับก่อนนะ ทาคุยะพูดแทรก ทั้ง 3 คนดูอนาถแบบแปลกๆ ร่มคันเดียวของโคจิใช้กัน 3 คน แต่ยังดีที่เป็นร่มใหญ่ พออยู่ 4 คนสบายๆ

     

     อื้ม โชคดีนะ ไทจิโบกมือลา ทุกคนก็ยกมือให้

     

    แปลกจัง เมื่อตะกี้ยังยืนอยู่อยู่เลยฮิคาริยกมือขึ้นลูบหน้าอย่างกังวล

     

    อ่าว..เห็นไดสุเกะบอกว่าวันนี้ลืมพกร่มนี่ไทจิพูดพลางขมวดคิ้ว..ไวกว่าความคิด ทาเครุก็วิ่งออกเลี้ยวไปทางบ้านไดสุเกะแล้ว

     

    อ่าวทาเครุ!”ยามาโตะตะโกนไล่หลังมา แต่ทาเครุไม่สนใจเสียงเรียกนั่น เขายังคงวิ่งต่อไป

     

     

    เฮ้อ...

     

    ทำไมชั้นถึงได้ขี้ขลาดแบบนี้นะ..ไดสุเกะซึ่งวิ่งออกมาตั้งแต่ฝนเริ่มตก แล้วมานั่งตรงสวนสาธารณะระหว่างทางกลับบ้าน

     

    แล้วนี่ชั้นมานั่งตากฝนแบบนี้ทำไม..เขาบ่นพึมพำราวกับว่าไม่ใช่ตัวของตัวเอง

     

    น่าขำจริงๆ..ฮึก..เสียงสะอื้นหลุดลอดออกมาโดยที่เจ้าตัวพยายามกลั้นเอาไว้ ก่อนยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลลงมา

     

     

    แซร่กๆ

     

    เฮือก เสียงใบไม้ที่เสียดสีกันทำเอาไดสุเกะสะดุ้งตัวขึ้นหันไปมองพุ่มไม้ที่กำลังเคลื่อนไหว

     

    ฟึ่บ

     

    ทา..เค..รุ..?ไดสุเกะเรียกชื่อคนตรงหน้าด้วยความยากลำบากจากการสะอื้น

                   

    ไดสุเกะ...ทาเครุเรียกชื่อไดสุเกะด้วยเสียงที่แผ่วเบา คนตรงหน้าเขาที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ยาวไม่เหลือความเข้มแข็งในวันที่ไปยังดิจิตอลเวิร์ลอีกแล้ว

     

    ทาเครุเดินไปข้างๆไดสุเกะ นั่งลงอีกฝั่งของเก้าอี้แต่มือยังคงถือร่มไว้อยู่

     

    อ่ะไรล่ะ..จะมาหัวเราะรึไงไดสุเกะพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ก้มหน้าลงสกัดกั้นก้อนสะอื้นที่ไหลระรอกเข้ามาทำร้ายจิตใจ

     

    ฉันเปล่า...ทาเครุพูดตอบเบาๆ

     

    แล้ว..อึก..มาทำไมไดสุเกะหันไปมองคนที่นั่งอีกฟาก ใบหน้าเปื้อนน้ำตาที่เปียกโชกก็เผยให้คนตรงหน้าได้เห็น แต่เจ้าตัวไม่สนใจ

     

    มาตามหานาย..ทาเครุเจ็บ.. เขาไม่อยากที่จะเห็นคนตรงหน้าร้องไห้ มันทำให้เขาพลอยเศร้าไปด้วย แถมสาเหตุที่คนตรงหน้าร้องนั่นก็..

     

    อย่างนายเนี่ยนะ ฮึๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยไดสุเกะพูดน้ำเสียงขื่นๆ ยกยิ้มเยาะที่มุมปาก

     

    นายร้องไห้ทำไม..ทาเครุถามเสียงเรียบ

     

    หึชั้นไม่ได้อึก..ร้องสักหน่อยฮึกๆ..เจ้าตัวยังคงปากแข็งไม่ยอมรับความจริงทั้งที่มือยังคงปาดน้ำตา

     

    โกหก...ทาเครุว่า

     

    ฮึ ถ้าเป็นนายคิดว่าชั้นร้องทำไมล่ะเจ้าตัวดีต่อให้ร้องไห้ก็ยังคงกวนประสาทไม่เลิก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ทาเครุจะมาหาเรื่องทะเลาะด้วย คนตรงหน้ากำลังเสียใจ

     

    ฉันว่านาย...ชอบพี่ไทจิซินะคำพูดของทาเครุเรียกก้อนสะอื้นก้อนใหญ่ของไดสุเกะได้เป็นอย่างดี ความเข้มแข็งที่สั่งสมมา และ กำแพงที่สร้างขึ้นมากั้นขวางใจ พังทลายลง ไดสุเกะทรุดหน้าลงซบกับฝ่ามือร้องไห้ออกมาไม่หยุด

     

    ทาเครุพยายามเขยิบเข้าไปนั่งข้างๆไดสุเกะ เมื่ออยู่ใกล้ในระยะนึง ก็ยื่นร่มเข้ามาให้ไดสุเกะ

     

    “….ทาเครุไม่รุ้จะพูดอ่ะไร เขาคิดว่าควรจะให้เจ้าตัวอยุ่เงียบๆมากกว่า

     

    ...

     

    ...

     

    เป็นเวลาหลายนาที กว่าไดสุเกะจะร้องไห้เบาลงจนเงยหน้าขึ้นมา

     

    นายไม่ต้องมา...สนใจ...ชั้น..หรอกไดสุเกะค่อยๆทะลักคำพูดออกมาทีละคำ

     

    ไม่ได้หรอก..ทาเครุยกมือขึ้นสัมผัสไหล่ของไดสุเกะเบาๆเป็นแรงปลอบโยน

     

     

    ฮึก..ไดสุเกะ เริ่มจะร้องไห้อีกครั้ง

     

    ความคิดชั่ววูบที่ทาเครุเห็นไดสุเกะเริ่มจะร้องไห้ต่อทำให้เขาพลั้งปากออกไปตามใจคิด

     

    ฉันว่า..นายเลิกชอบพี่ไทจิเค้าเหอะ ด้วยความที่ทาเครุอยากให้ไดสุเกะเลิกจมอยู่กับความเสียใจที่แก้ไขไม่ได้ทำให้ทาเครุไม่รู้ตัวว่าได้พูดคำที่ผิดร้ายแรงออกไป

     

    ก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ตัว.. ทาเครุเบิกตากว้างมองคนตรงหน้า มือค่อยๆหลุดเลื่อนออก

     

    ตาของคนตรงหน้าอย่างคนไร้วิญญาณหลังได้ยินคำพูด ขอบตาแดงเกิดจากการร้องไห้ ทั้งเนื้อตัวยังเปียกปอนไปหมด ริมฝีปากก็ซีดและสั่นน้อยๆ

     

    ไดสุเกะผละตัวไปข้างหลังเล็กน้อย ทาเครุยื่นมือออกไป..

     

    เพี๊ยะ!!”

     

    ...

     

    อย่ามาแตะ... ไดสุเกะปัดมือของทาเครุออกไปก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

     

    ชั้น..ทาเครุอยากจะพูด

     

    ใช่! นายไม่ใช่ชั้นนี่!”ไดสุเกะลุกจากเก้าอี้ ถอยห่างออกไปแล้วพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้น

     

    ไม่นะ

     

    นายไม่เข้าใจอ่ะไรเลย!!!!”ไดสุเกะตะโกนสุดเสียง ก่อนจะหันหลังแล้ววิ่งจากไป

     

     

    ทิ้งให้ ทาเครุ นั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่เหลียวกลับมามอง...

     

     

    ...ทาเครุที่นั่งอยู่ทามกลางสายฝน  อึ้งจนไม่สามารถจะขยับตัวได้

     

    ...นี่...ฉันทำอ่ะไรลงไป... ทาเครุเอื้อนคำพูดที่ติดปาก ก่อนที่น้ำตาที่คลออยู่ขอบตาจะไหลลงมา

                   

    ขนาดคนที่ตัวเองรักเขายังดูแลไม่ได้

     

    ทำไมเขาบ้าแบบนี้...

     

    รู้สึก..เจ็บที่ใจ

     

    ............................................................................

     2 พค 53
    แก้ตัวหนังสือ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×