ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fan Fic Digimon] : The Chosen Children [ Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 3 : Experience (ประสบการณ์ชีวิต)

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 53


    ....................................................................................

                    โคจิและทาคุยะกอดคอกันเดินออกมาจากตู้ชิงช้าอย่างทุลักทุเลด้วยความต่างจากส่วนสูง


                    เอ่อ...


                    พวกเขาไม่ได้ทำอ่ะไรกันหรอกอย่าคิดมาก


                    เรื่องมันผ่านมาเมื่อ 3 นาทีที่แล้ว

                    .

                    .

                    ฉากสุดท้ายที่สองคนเห็นคือ โทโมคิที่กระโดดใส่โคอิจิที่ทำหน้าตกใจ ก่อนจะใช้มือสองข้างจับหน้าของโคอิจิขึ้นมาจูบที่ริมฝีปาก


                    จากท่อนนี้ ความจริงดูเหมือนจะไม่มีอ่ะไรเกิดขึ้นในตู้นี้ แต่ผลปรากฏคือ รู้สึกเหมือนโคจิจะรับความรู้สึกของพี่ที่เป็นฝาแฝดเข้าไปหรือยังไง จู่ๆก็ผมตั้งแล้วหน้าซีดก่อนคู้ตัวลงเบาะ ทาคุยะมองโคจิสลับกับโคอิจิที่ตอนนี้หน้าซีดเหยียดแขนตรง สั่นแขนพึ่บๆแล้วทำตัวสั่นๆ 


                    ทาคุยะตัดใจเลิกมองแล้วนั่งลงข้างๆโคจิ ยกแขนคนข้างๆขึ้นมาพาดไหล่ตัวเองแล้วค่อยๆลูบหลังให้ ก็เหมือนอาการของโคจิจะดีขึ้นบ้าง


                    "ฮื้อออ ม่ายยย!"แต่เสียงของเวรรกรรมก็ยังดังต่อเนื่อง เมื่อโคจิได้ยินก็นําลายแทบฟูมปาก หน้าซีดคอตกอีกครั้ง ทาคุยะรีบดึงตัวขึ้นมากอดแล้วตบปัปๆที่หลังหลายๆที


                    โคจิที่ความจริงก็ดีใจที่ทาคุยะถึงขนาดคว้าตัวเขาไปกอดแทน แต่ไม่รุ้ทำไมเขาถึงเสียวไส้แทนโคอิจิหน้าซีดไปด้วย จนอารมณ์แทนที่จะดีกลับเสื่อมลงๆ ตามสภาพโคอิจิ


                    แล้วเรื่องก็จบลงเมื่อทั้ง 4 คนลงจากชิงช้าสวรรค์ โคจิกับทาคุยะถึงขนาดต้องหามกันออกมา ทาคุยะก็ยันตัวโคจิไว้ม่ให้เอียงไปมากกว่านี้ 


                    "แหมรักกันดีจัง"พนักงานสาวคนนั้นพูดยิ้มๆ ก่อนเปิดตู้ของโคอิจิกับโทโมคิ


                    โทโมคิวิ่งออกมาหน้าตาใสปิ๊ง ผิดกับโคอิจิที่ตอนนี้ เสื้อผ้าหลุดหลุ่ยแทบดูไม่ได้ หน้าซีดจนไม่รู้จะหาอ่ะไรเทียบ ขนาดโคจิยังไม่เท่า เดินออกมาสั่นๆก่อนสะดุดบันไดหนึ่งขั้นจนล้มกลิ้ง


                    "ว้าย เป็นอ่ะไรมั้ยคะ?"แม่คุณยังจะถามอีกสภาพดูไม่ได้แล้วน่ะนะ


                    โคอิจิส่ายหัวแล้วค่อยๆลุกขึ้นเดินมาหาทาคุยะ ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ แต่ก็ต้องหยุดกึกเมื่อเห็นโคจิที่ฟุ่บไหล่ทาคุยะหน้าซีดยืนเอียงๆ


                    "ดีท๊อกซ์ดีมั้ย?"ทาคุยะถามโคอิจิที่พยายามจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ โคอิจิหันมาก็ทำหน้าเหวอเข้าใส่


                    "ดีท๊อกซ์บ้าอ่ะไร ไม่ได้ทำ.."โคอิจิรีบพูด


                    "เหรอ แต่ดูสภาพโคจิสิ"ทาคุยะยันตัวโคจิขึ้นอีกครั้งนึง


                    "โคจิเกี่ยวอ่ะไร?"โคอิจิทำสีหน้าไม่เข้าใจ


                    "ขอทีนะ .. พอดีชั้นกับโคจิไปเห็นตอนที่นายกำลัง..(จูบค่ะจูบ)..กับโทโมคิ"พลันหน้าของโคอิจิก็ขึ้นสีแดงจัดก่อนจะซีดอีกครั้งอย่างเสียวขวัญ


                    "ก็ไม่เห็นเกี่ยวกับโคจินี่"


                    "ไม่รุ้ก็โคจิเขาเห็นนายแล้ว ก็ช๊อคนําลายฟูมปากไปเลย"ทาคุยะบ่น


                    "อ่ะ จริงดิ " แล้วโคอิจิก็แอบขำในใจนิดๆแต่พอนึกไปถึงเรื่องเมื่อครู่ก็ซีดๆ


                    "พี่โค-อิ-จิ----"โทโมคิลากเสียงยาวชวนสยอง โคอิจิหน้าซีดไก่ต้มรอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ คอก็หมุนเหมือนหุ่นยนต์หันไปหาโทโมคิ


                    "อ่ะ..อ่ะไร"


                    "พี่อิซึมิเรียกแล้ว"โทโมคิชี้ไปทางเล่นรถไฟเหาะ ที่อิซึมิกับจุนเปย์กวักมือเรียกหยอยๆอยู่ โทโมคิหันกลับมาคว้าโคอิจิที่หน้าซีดยกกำลังสอง ลากไปหาอิซึมิ ทาคุยะก็กึ่งลากกึ่งจูงโคจิไป

                    .

                    .

                    "พวกนายหายไปไหนกันมาเนี่ย"อิซึมิบ่นพรืดๆ ใส่ไม่ยั้งทันที


                    "พี่ทาคุยะเค้าหิวเลยไปแวะร้านอาหารแถวนี้น่ะฮะแล้วตะกี้ก็ไปขึ้นชิงช้าสวรรค์กันมา"โทโมคิตอบแทนทุกคนอย่างรวดเร็วทันใจ โคจิที่ตอนนี้หายหน้าซีดก็กลับมายืนปกติ แต่คนที่กู่ไม่ค่อยกลับคงเป็นโคอิจิที่ตอนนี้ยังโดนโทโมคิจับแขนไว้อยู่


                    "เหรอ สนุกมั้ย"อิซึมิยิ้มหวานแล้วถามโทโมคิ 


                    "ครับ สนุก มาก"โทโมคิก็ตอบรับเสียงดังจนดูไม่น่าไว้วางใจ ทั้งสองคนก็ซุบซิบกันต่อนิดหน่อยก่อนหัวเราะคิกคักออกมา


                    แล้วโทโมคิก็เดินมาตรงหน้าทาคุยะ


                    "หืมอ่ะไรเหรอโทโม..."ทาคุยะที่มองอย่างสงสัยกำลังจะเอ่ยปากโทโมคิก็จัดการกดหัวทาคุยะลงประทับปากด้วย ก็แค่ริมฝีปากแตะกันธรรมดาๆ แต่ก็ช็อคนะครับท่าน!!


                    จุนเปย์ โคอิจิ โคจิ มองอย่างตะลึงงัน มีอิซึมิที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ราวกับแผนการอ่ะไรสำเร็จ


                    ความจริงก็ไม่ได้อยากจะว่าอ่ะไรเพราะก็ถือว่าโทโมคิก็ยังเด็ก แต่โคจิก็ฉุนกึ๊กๆก้าวเข้ามาดึงคอเสื้อของโทโมคิลากออกไปห่างๆทาคุยะที่ค้างแน่นิ่งไปแล้ว


                    "นี่ จะทำอ่ะไรห้ะ"โคจิก้มตัวลงต่อปากต่อคำกับโทโมคิ โทโมคิที่โดนดึงเสื้อออกมาก็เงยหน้าขึ้นมองโคจิ 


                    "ก็ แบบนี้" โทโมคิยกมือขึ้นจับคอกดหัวโคจิลงมาแล้วจูบลงไปที่ริมฝีปากอีก จุนเปย์กับโคอิจิตาถลนไปแล้ว ส่วนอิซึมิเริ่มคว้ามือถือขึ้นมาถ่ายรูป ทาคุยะที่ใจลอยไปเมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็แทบล้มตึง  เดินดุ่มๆไปดึงเสื้อโทโมคิให้ผละออกมาอีกรอบ


                    "โทโมคิ..ไม่สนุกนะ"ทาคุยะลดเสียงตําพูดเสียงเครียด โทโมคิมองทาคุยะตาแป๋วเหมือนไม่ได้รู้สึกรุ้สาอ่ะไร 


                    โคจิที่ยังมึนๆกับเหตุการณ์เมื่อครู่ก็เดินมาข้างๆทาคุยะแล้วจับกดหัวโทโมคิไว้ไม่ให้ทำอ่ะไรได้อีก แต่เจ้าตัวดีกลับยิ้มออกมาให้เห็น


                    กึก..


                    "แหม พวกนายความจริงแล้วก็อยากนี่"อิซึมิเดินมาโผล่ด้านหลังเมื่อไหร่ไม่รู้ทาคุยะกับโคจิที่กำลังจะหันกลับไปก็โดนอิซึมิคว้าหมับเข้าที่หัวทั้งคู่ ก่อนโยกหัวโคจิลงแล้วยกหัวทาคุยะขึ้น แล้วโขกเข้าหากันดัง จ้วฟ...


                    จุนเปย์กับโคอิจิที่อ้าปากค้างทำอ่ะไรไม่ถูกไปแล้ว กลับอ้าปากกว้างกว่าเดิมจนโทโมคิแทบเอามือแหย่ลงไปโดยไม่โดนฟันได้แล้วทั้งตะลึงกับภาพตรงหน้า ที่แถมยังหลายฉาก ทั้งสายตาคนรอบข้างที่มองมาซะอีก


                    โคจิกับทาคุยะที่กำลังตะลึงงันกับสิ่งที่อิซึมิทำก็ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด ริมฝีปากของทั้งสองสัมผัสกันอยู่ยั่งงั้น อิซึมิเองก็ถ่ายรูปสนุกมือ จนคนแถวนั้น


                    "แม่เขาจูบกันแหละ.."เด็กน้อยคนนึงพูดขึ้น


                    "อย่าไปมองเขาลูกไม่ดี"แล้วแม่ลูกอ่อนก็พาลูกจรลีไปทันที แต่ก็ไม่ช่วยให้ทาคุยะกับโคจิเคลื่อนไหวได้ จุนเปย์กับโคอิจิที่อ้าปากค้างจนพอแล้วก็รีบวิ่งกรูเข้าไปกระชากออกจากกันทันที


                    ปรากฏว่าวิญญาณทั่งคู่หลุดลอยไปไกลเสียแล้ว


                    "เฮ้ยโคจิๆ"โคอิจิตบหน้าโคจิอีกหลายๆทีก่อนโคจิจะคืนสติได้ ก่อนจะลมออกหูจนหน้าแดงแปร๊ด ทางทาคุยะเมื่อได้สติก็ก้มหน้าก้มตาไม่พูดอ่ะไรเลย


                    "โถพี่ ที่ผมทำก็แค่เล่นๆไม่เห็นต้องเครียด"โทโมคิหรี่ตาพูดแบบคนร้อยเล่ห์เหลี่ยม


                    "ผมไม่ได้สนใจพี่ทั้งสองหรอก"


                    "?"โคอิจิกับจุนเปย์ตีหน้างงแทน ทั้งโคจิและทาคุยะไม่สามารถรับรู้ในขณะนี้


                    "ที่ผมสนใจน่ะ"โทโมคิเดินไปหาโคอิจิที่ยังยืนตบหน้าโคจิอยู่


                    โทโมคิเดินผ่ากลางคนทั้งคู่แล้วกระชากคอเสื้อโคอิจิลงมาจูบเป็นครั้งที่สอง โคจิที่เกือบจะคลายเริ่มทำหน้าหลายอารมณ์อีกครั้งก่อนจะหงายหลัง ทาคุยะรีบวิ่งไปยันตัวไว้ทันก่อนที่จะล้มลง


                    จูบครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน ดูจากฉากไม่รุ้ว่าโทโมคิทำอ่ะไรไปบ้าง รุ้แค่ว่าเห็นหน้าของโคอิจิเปลี่ยนหลายสีมาก จนแทบจะเป็นสีรุ้ง ตั้งแต่ ฟ้า แดง เหลือง เขียว ส้ม ม่วง อิซึมิคว้ามือถือขึ้นมาถ่ายอีกแชะนึง ก่อนจะยกนิ้วให้โทโมคิหนึ่งที


                    โทโมคิปล่อยโคอิจิออก จึงวิ่งกลับไปยืนข้างๆอิซึมิ เพื่อดูภาพในมือถือ


                    โคจิหายใจรวยระรินหน้าซีดซี้แหง่กอยู่กับพื้นโดยพิงทาคุยะไว้ โคอิจิกำลังโดนทดสอบการมีชีวิตอยู่โดยจุนเปย์พยายามตบหน้าเรียกสติ


                    "เอาล่ะพวกเราไปเล่นรถไฟเหาะกันเหอะ"อิซึมิปิดมือถือลงจับมือโทโมคิวิ่งไปทางรถไฟเหาะ


                    "เดี๋ยวซิอิซึมิจังง"จุนเปย์หันไปเรียกอิซึมิแต่คงไม่ทันแล้วเพราะวิ่งไปจองบัตรเรียบร้อย


                    ทาคุยะจึงกึ่งลากจูงโคจิไปอีกรอบ จุนเปย์ก็หามโคอิจิไป วันนี้เป็นวันที่อนาถที่สุดเท่าที่เจอมา ยิ่งมาเจอในสวนสนุกอีกสายคนรอบๆที่มองมาจึงเป็นสายตาที่ทิ่มแทงไม่ใช่น้อย เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่คนโล่งๆเสียด้วย แต่ก็ไม่เยอะจนน่าขนลุก

                    .

                    .

                    ระหว่างรอคิวเข้าเล่นรถไฟเหาะ พวกเขาก็ได้ยินเสียงถกเถียงของคนกลุ่มนึง


                    "ทำไมชั้นต้องนั่งรถไฟเหาะข้างนาย ห๊ะ!"เสียงต้นเรื่องมาจากเด็กชายคนนึงผมสีนําตาลม่วง ถึงผิวอาจจะไม่ขาวแต่หน้าตาออกไปทางน่ารักมากกว่าแต่คิ้วขมวดทำให้ดูหดหู่ไปหน่อย บวกกับกำลังเถียงกับเด็กชายอีกคนซึ่งผมสีทองใส่หมวกและ หน้าตาดี


                    "แปปเดียวมันไม่ตายหรอกนะ โมโตมิยะ ไดสุเกะ"เด็กชายผมสีทองเรียกเด็กชายผมนําตาลม่วงว่า ไดสุเกะ


                    "นายไม่ตายแต่ชั้นจะตายเฟ้ย ทาคาอิชิ ทาเครุ"คนที่ชื่อไดสุเกะเถียง เด็กชายผมทองที่ชื่อ ทาเครุกลับอย่างเอาเป็นเอาตาย


                    "เออซี่ ชั้นมันไม่ใช่ ยางามิ ฮิคาริ หรือ อิจิโชจิ เคน นี่น่า"คนที่ชื่อทาเครุก็พูดเสียงห้วนกลับ ทำ        เอาคนที่ชื่อไดสุเกะโกรธจนหน้าแดงไปเลยทีเดียว


                    "ทั้งสองคนอย่าเถียงกันน่า"มีเด็กสาวน่ารักใส่แว่นผมสีม่วงเข้ามาห้ามทัพของทั้งสอง


                    "อย่ามาห้ามน่า อิโนอุเอะ มิยาโกะ !"เด็กสาวผมม่วงถอยผงะในทันที แล้วเด็กสาวผมสีนําตาลหน้าตาน่ารักก็เดินถมึงทึงเข้ามาแทรก


                    "ไดสุเกะ ทาเครุ !! หยุดได้แล้ว"เธอออกเสียงเพียงเท่านี้ทั้งคู่ก็หยุดเงียบ


                    "ฮิคาริจัง..."เด็กชายผมนำตาลม่วงที่ชื่อไดสุเกะทำท่าทางผิดหวัง เด็กชายที่ชื่อทาเครุเบนหน้าไปทางอื่น


                    "นั่นสิครับพวกคุณสองคนเลิกเถียงกันได้แล้ว"เด็กชายที่ตัวเล้กกว่าใครเพื่อน ผมสีนําตาลทรงกะลาพูดค้านเสริมแต่ก็มีเด็กชายผมสีน้าเงินบ๊อบสไลด์หน้าติดหวานๆ คว้าไหล่ไว้แล้วสั่นหัว


                     คุณเคน..เด็กน้อยทำหน้าสลด


                    "ฮิดะ อิโอริ..."เด็กสาวที่ชื่อฮิคาริหันไปพูดเสียงค่อย


                    แต่ที่น่าแปลกคือ ในมือของทุกคนอุ้มตุ๊กตาไว้คนละหนึ่งตัวแถมหน้าตาไม่เหมือนกันเลยซักตัว แล้วก็ไม่เคยเห็นขายที่ไหนด้วย


                    แล้วก็เป็นเรื่องบังเอิญอีก ที่หลังจากที่เห็นตอนต่อแถวแล้วพวกเขาทั้งสองกลุ่มก็ได้นั่งเล่นรถไฟเหาะในรอบเดียวกันโดยพวกเขานั่งอยู่ฝั่งหลัง แต่ก็เห็นคนที่ชื่อไดสุเกะกับทาเครุนั่งข้างกันแบบไม่สบอารมณ์


                    พวกเราทุกคนจัดแจงใส่เข็มขัดให้แน่น พวกคนข้างหน้าต่างพากันกอดตุ๊กตากันหนึบ แต่ทำไมหน้าตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนนะตุ๊กตาพวกนั้น แต่ไม่เคยเห้นมีขาย


                    เมื่อจัดแจงเสร็จ รถไฟเหาะก็ค่อยๆเคลื่อนตัวไปข้างหน้าแล้วทิ้งตัวลงทางลาดทันที


                    "กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"เสียงของเด็กสาวผมม่วงที่ชื่อมิยาโกะและเด็กสาวผมสีนําตาลที่ชื่อฮิคาริร้องขึ้นมาพร้อมกัน แต่สีหน้าดูสนุกและสะใจสุดๆแบบหลุดโลกไปเลย


                    "เหวออออออออ" เด็กชายผมนําตาลม่วง หลุดเสียงออกมาก่อนยกมือขึ้นอุดปาก เด็กชายผมทองที่เก็บหมวกลงแล้ว ก้หันไปหัวเราะนิดหน่อยก็ได้รับเขกจากเด็กชายผมนำตาลม่วงไปเลย


                    ส่วนฝั่งพวกทาคุยะก็


                    "แว๊กกกกกก ว๊ากกกกก กร๊ากกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆๆ" เสียงประสานจนฟังดูน่าเกลียด เสียงแรกเรียกของทาคุยะที่ตกใจในความเร็ว เสียงที่สองเสียงของจุนเปย์ เสียงที่สามคือเสียงของโทโมคิ เสียงที่สี่เป้นเสียงของอิซึมิที่หัวเราะจนหมดความสวยไปเลยทีเดียว


                    ส่วนโคจิกับโคอิจิที่ไม่มีปัญญาจะแหกปากหรือให้ตายก็ไม่แหก แต่ก็หน้าซีดไปตามๆกัน รถไฟเหาะนั้นก็ช่างใจดีหมุนแล้วหมุนอีกจนของข้างในท้องของทาคุยะแทบขย้อนออกมาวิ่งเล่นข้างนอก


                    เมื่อหมดรอบรถไฟเหาะทุกคนก็ลงมาด้วยใบหน้าอิดโรยยกเว้นอิซึมิกับโทโมคิ


                    "ถ้าชั้นแปลงร่างเป็นอังคุมอนตรงนี้ได้นะชั้นกระโดดเหนี่ยวยัยอิซึมิแล้ว"ทาคุยะบ่นพึมพำ ซึ่งโคจิกับโคอิจิก็พยักหน้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง


                    "ถ้าชั้นแปลงเป็นวู้ฟมอน/เลอเวมอนได้ชั้นก็กระโดดทึ้งโทโมคิแล้ว"สองพี่น้องคู่นี้ตอบได้ตรงกันดีมาก สงสัยเป้นเพราะเหตุการณ์ที่พึ่งผ่านมา


                    จุนเปย์ตาที่หมุนเป็นลูกข่างก็ยังพาตัวเองเดินไปหาอิซึมิได้อย่างสวยงาม

                    อิซึมิต่างก้พรำต่างๆนาๆกับโทโมคิไปขณะที่ถอดเข็มขัดออก


                    ระหว่างที่กำลังท่องบทเคียดแค้นกันอยู่ จู่ๆตุ๊กตาในมือของกลุ่มคนที่นั่งข้างหน้าก็กระโดดลงมากลางวงพวกเขาที่ยืนอยู่

     

                     แล้ว อ้วก!!


                    "เฮ้ยยยย!!!"

    .........................................................................
    4 พค 53
    แกตัวหนังสือ(ชูนิ้วด้วยรอบนี้ แก้ครบแล้ว)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×