คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 8 : Hotel (พบ..ที่โรงแรม)
.................................................................................
“ไปเที่ยว?” ไดสุเกะทวนสิ่งที่ทาเครุเพิ่งพูดออกมา
ตอนนี้พวกเขาทั้ง 2 คนออกมาจากโรงเรียนแล้วและกำลังพากันเดินกลับบ้าน
“อื้ม พี่อิซึมิเค้าชวนมา”ทาเครุตอบ มือก็ลูบหน้าบริเวณที่โดนไดสุเกะตะปปเข้าจนแดงฉานเต็มเงื้อมมือ อย่างน่าสงสารและน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด
“แล้วไปที่ไหน”
“ไม่รู้” พูดคำว่าไม่รู้คำเดียวก็โดนไดสุเกะตะปปเข้าที่แก้มอีกข้าง
“โอ้ย! ไดสุเกะมันเจ็บนะ”ทาเครุน้ำตาซึม ยกมือขึ้นกุมหน้าของตัวเองทั้งสองข้าง มองคนตรงหน้าที่ยืนยิ้มแยกเขี้ยวเป็นปีศาจกลายร่างเขม็ง
“ไปเที่ยวแต่ไม่รู้ว่าที่ไหนเนี่ยนะเจ้าบ้า”ไดสุเกะแยกเขี้ยวยกชี้นิ้วด่าทาเครุปาวๆทั้งๆที่เจ้าตัวไม่ได้ทำอ่ะไรผิดเลย
“ก็เขาไม่ได้บอกนี่”
“เฮ้อช่างเหอะ”ไดสุเกะชักหน่ายู่อย่างเซงอารมณ์ กระชากเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
เมื่อถึงทางแยก พวกเขาก็ร่ำลากัน
“โชคดีนะ ไดสุเกะ แล้วเจอกัน”ทา เครุเอ่ยคำลาเรียบง่าย เขาคิดว่าจะไม่ทำอ่ะไรให้มันเกินเลยพอดีไปมากกว่านี้อีกแล้ว คิดว่าแบบนี้มันคงจะดีกับตัวเขาและไดสุเกะมากกว่า
“อื้มแล้วเจอกัน..”ไดสุเกะก้มหน้าลง ก่อนจะเดินออกไป
ทาเครุมองไดสุเกะพักนึงก็เดินออกไปบ้าง
“ฉัน..” เสียงของไดสุเกะดังขึ้นเบา ทาเครุหยุดเดินแล้วจึงหันกลับไปมอง ไดสุเกะที่ยังหันหลังอยู่เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย
“ฉันจะตัดใจ! ต้องให้เวลาชั้นนะ!!”แล้วไดสุเกะก็ถีบตัววิ่งออกไป ซึ่งทาเครุก็มองอึ้งๆจนกระทั่งไดสุเกะวิ่งหายลับไปจากสายตา
“ฮึ”ทาเครุผ่อนลมหายใจเบาๆ.. หรือว่าเขา..จะเปลี่ยนใจ..ดีมั้ยนะ?
....
วันต่อมาทุกคนก็ได้รับโทรศัพท์จากอิซึมิ เกี่ยวกับสถานที่ที่จะไป
ที่ ที่อิซึมิเลือกคือโรงแรมริมทะเล ที่หนึ่ง โดยอิซึมิบรรยายว่าที่นั่นทั้งบรรยากาศและอาหารหรือแม้แต่ห้องพักก็เลิศหรู ไฮโซและเพียบพร้อมให้ทั้งหมด แถมยังติดกับชายทะเลทำให้พักผ่อนหย่อนใจได้เต็มที่ อิซึมิจึงขอให้โคจิโร่ช่วยจองที่พักผ่านทางอินเตอร์เน็ตให้ทั้งหมด 8 ห้อง ไม่พอยังบีบบังคับให้โคจิโร่จองห้องสวีทอีกต่างหาก
แต่ ยังไม่หมดแค่นั้น เธอยังจัดห้องให้พวกเราทุกคนครบทุกห้องด้วย แบบบีบบังคับว่าคำสั่งชั้นเหนือกว่าคำพูดของพวกนาย ทาคุยะคิดว่าอิซึมิอายุมากกว่า 3 เดือนแล้วใหญ่นักรึ!
เพื่อความชัวร์อิซึมิได้นัดทุกคนมาคุยกันในวันศุกร์
ตลอดเวลาก่อนที่จะถึงวันศุกร์ เขากับไดสุเกะก็อยู่ด้วยกันดี แบบเมื่อสมัยก่อน น่าจะบอกว่าดีกว่าด้วยซ้ำ
....
วันศุกร์แล้วจ้า (ไวเหมือนขี้ฮก-ก็คนเขียนขี้ฮกไง)
“อ่าว ไดสุเกะ หายไปไหนมาตั้งหลายวันน่ะ”ไทจิรีบทักไดสุเกะที่เดินเข้ามาในลานทันที ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนเขาก็ไม่เห็นหัวไดสุเกะเลย
วันนี้ ยามาโตะไม่ได้มาด้วยเพราะมีนัดซ้อมวงดนตรีเพื่อเปิดเพลงใหม่ ทาเครุก็บอกไดสุเกะล่วงหน้าไว้แต่ก็อดห่วงไม่ได้ จึงเหลือบมองสีหน้าไดสุเกะเล็กน้อย โชคดีที่ไดสุเกะไม่ได้แสดงสีหน้าอ่ะไร
“ไดสุเกะ เขาไม่สบายน่ะค่ะ”ฮิคาริบอกไทจิ ไทจิก็ตกเป็นการใหญ่ลุกขึ้นมาลูบคลำหัวตบท้ายตีหัว ไดสุเกะอย่างดูเชิง
“จริงสิเป็นอ่ะไรมากรึเปล่า”ไทจิพูดด้วยความเป็นห่วง แต่กับตัวไดสุเกะคงไม่ดีซักเท่าไหร่แน่ๆ ไดสุเกะยังคงไม่แสดงสีหน้าอ่ะไรจนไทจิตรวจสภาพความเรียบร้อยเสร็จ
“เอ่อ..”ไดสุเกะค่อยๆอ้าปาก
“เปนอ่ะไรมั้ย”ไทจิถามซ้ำ
“แหะ ก้ไม่เป็นไรค้าบ” ไดสุเกะพูดออกมาติดตลก ดวงตาเยิ้มไปหมด (ไหนว่าตัดใจ!) ทาเครุทำหน้าเหวอเมือ่เห็นสีหน้าของไดสุเกะ แต่เหมือนไทจิจะไม่ผิดสังเกต
“ไม่สบายก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แต่มีอย่างนึงที่น่าแปลกมากเลย”ไดสุเกะพูดออกมาต่อพลางยกมือขึ้นเกาหน้า ทาเครุคิดว่าสงสัยเขินไทจิอยู่เป็นแน่ เหอๆ
“แปลก?”ไทจิทวน
“เท่าที่จำได้ ช่วงวันศุกร์..คิดว่าเป็นช่วงเย็นๆล่ะมั้ง”
“ตอนนั้นผมก็นอนอยู่ในห้อง แต่จู่ๆผมก็รู้สึกเจ็บที่ข้อมือ”ไดสุเกะพูดไปพลางครุ่นคิด ฟังจากเหตุการณ์ทำให้ทุกคนหันมามองไดสุเกะเป็นตาเดียว
“เอ่อ..พูดอ่ะไรผิดง่ะ”ไดสุเกะเหล่ซ้ายเหล่ขวาอย่างหวาดๆ
“เล่าต่อซิ”ไทจิว่า
“ครับ รู้สึกมันเหมือนการตูนนะ แต่ผมก็เบลๆอยู่ก็มองไม่ค่อยชัด ที่แน่ๆเหมือนมีแสงสีแดงพุ่งออกมาจากข้อมือ จากนั้นก็มีแสงสีขาวพุ่งกลับเข้ามาหา”ไดสุเกะเริ่มขมวดคิ้วกับตาของคนรอบข้างที่โตขึ้นเรื่อยๆ
“ผมก็รู้แค่ว่าหลังแสงสีขาวพุ่งเข้ามาหาก็ปวดจนสลบไป..เอ่อทำไมทำหน้าแบบนั้น”ไดสุเกะหน้านิ่วลงทำไมทุกคนมองเหมือนเขาเป็นตัวประหลาดแบบนั้นล่ะ..
“มีอ่ะไรอีกมั้ย?”ไทจิรีบถามต่อ
“เอ่อแล้ว พอผมตื่นขึ้นมาอีกทีก็..”ไดสุเกะไม่ทันได้พูดให้จบ ทาเครุก็เดินเข้ามาหาแล้วจับที่คอเสื้อ ไดสุเกะสะดุ้งขึ้นมาสุดตัว
“จะทำอ่ะ../โทษทีนะ” ทาเครุพูดแทรกไดสุเกะ
“ห๊ะ!”ไดสุเกะทำสีหน้าเหมือนคนโดนฉุด แล้วทาเครุก็กดคอเสื้อของไดสุเกะลง
…
“เอ่อนี่มัน..”ได สุเกะพูดตะกุกตะกัก สิ่งที่ทุกคนเห็นบริเวณอกของไดสุเกะคือ สัญลักษณ์ดิจิเมนทัล แห่งความกล้าหาญ มิตรภาพ และปาฏิหาริย์ ทั้งสามสิ่งไขว้กันอยู่แบบพวงกุญแจเลยทีเดียว กล้าหาญอยู่ฝั่งซ้ายมิตรอยู่ฝั่งขวาและปาฏิหาริย์อยู่ตรงกลางเป็นวงเล็กๆ เหมือนจะล๊อคทั้งสองสัญลักษณ์ไว้
“ไดสุเกะ นี่นาย..”ทา เครุกล้ำกลืนคำพูด ไม่อยากจะเชื่อคนที่เป็นเจ้าของแสงสีแดงในคราวนั้นเป็นไดสุเกะจริงๆเหรอ เนี่ย ทุกๆคนในที่นี้เองก็ไม่คิดว่ามันจะเป๊ะขนาดนี้ แต่เจ้าของสัญลักษณ์นั่นก็คิดไปอีกเรื่อง
“ชั้นไม่ได้สักมันน้าาา”ไดสุเกะร้องเสียงหลงปฏิเสธเป็นการใหญ่
“แล้วใครว่านายสัก..”ทาเครุปล่อยคอเสื้อแล้วถอยออกมา ยกมือไดสุเกะขึ้นแล่วร่นถุงมือออก ที่ข้อมือของไดสุเกะมี เลข 0 สีแดง ติดอยู่เหมือนกัน
ทาเครุเองก็ดึงแขนเสื้อขึ้นแล้วเอา เลข 0 สีน้ำเงินของเขาไปเทียบ ไดสุเกะเบิกตากว้าง
“นาย...”ไดสุเกะ เหลือกตามองทาเครุ
“นายเป็นคนสักงั้นเหรอ!”ไม่รุ้ว่าคนพูดมันไม่รุ้หรือมันโง่กันแน่ที่พูดแบบนี้ออกมา
โครม!
ทุกคนในลานล้มกลิ้งลงไปกับพื้น
ทาเครุยกมือขึ้นกุมขมับ ก่อนจะกดคอเสื้อตัวเองลงบ้าง
“คิดจะทำอ่ะไร”ไดสุเกะเริ่มถอยหนี ทาเครุก็ใช้มืออีกข้างคว้าไว้ก่อน
“ใครจะทำอ่ะไร คิดไปไหน นี่ต่างหาก”ทาเครุพูดขำๆก่อนจะให้ดูสัญลักษณ์แห่งความหวังที่อยู่ที่เดียวกันกับไดสุเกะ ไดสุเกะมองแล้วก็ทำหน้าตาเหลอหลาไปมองคนอื่นๆ
ไท จิ ทาคุยะ โคจิ โคอิจิ ก้โชว์เลข 0 ที่ข้อมือแบบเดียวกันให้ไดสุเกะดู เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า 3 วิ ก่อนจะก้มหน้าลงพื้น 3 วิ แล้วจึงเงยหน้ากลับมาตำแหน่งเดิม
“เทรนใหม่เหรอพี่!” ไดสุเกะพูดออกมาแบบคนโง่อีกแล้ว คราวนี้ทาเครุตบหน้าผากตัวเองดังเพี๊ยะ
“พวกชั้นก็โดนแบบเดียวกับนาย วันนั้นและเวลาที่นายโดน”โคจิพูดสั้นแต่ฟังเข้าใจ ไดสุเกะเหมือนคนวิญญาณโง่หลุดไปแว๊บนึงก่อนจะกลับมาเป็นแบบเดิม
“นี่มันเรื่องอ่ะไรกัน?”ไดสุเกะเป็นคนถามขึ้นมาบ้าง
“พวกผมก็ไม่ทราบครับ หาเบาะแสก็ไม่ได้แถมคุณเก็นไนยัง..”โคจิโร่ผิดหวังกับการติดต่อกับคุณเก็นไนเพราะตั้งแต่วันนั้นมาเขาก้ติดต่อไม่ได้อีกเลย
“หมายความว่าเกี่ยวกับโลกดิจิตอลงั้นเหรอ?”ไดสุเกะ กำลังสับสน
“ก็ประมาณนั้นล่ะมั้งครับ”โคจิโร่ตอบ
… เงียบ ...
“พวกนายเนี่ย คุยเป็นแต่เรื่องซีเรียสเหรอยะ!”อิซึมิตะโกนออกมาเสียงดัง
“เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก้จะไปเที่ยวกันทั้งทีทำตัวให้มันคึกคักหน่อย”มิยาโกะตะโกนออกมาบ้าง
“น่ะ..นั่นสิครับ”อิโอริเห็นด้วย
“อืมจริงด้วยสิ” ไทจิพึมพำ
“งั้นเรามาคุยกันเรื่องที่เที่ยวพรุ่งนี้เหอะ”อิซึมิเสนอ
“ว่าแต่ โรงแรมที่จะไปนี่..” เคนคิดจะเอ่ยถาม แต่ก็ไม่แน่ใจ อิซึมิเหลือบมามองเมื่อเห็นเคนดูหนิมๆแต่หน้าตาดีก็กระโดดไปโอบไหล่
“เป็นโรงแรมที่ชั้นเคยไปเมื่อตอนประถมน่ะ พ่อแม่พาไปถึงจะเป็นแค่โรงแรม3ดาวแต่ก็บริการดีมากเลยนะ”อิซึมิร่ายยาว เคนที่โดนโอบไหล่อย่างไม่ทันตั้งตัวก็หน้าแดงแจ๋
“แหมๆน่ารักจริงเชียว”ไม่ทันที่อิซึมิจะได้แกล้งอ่ะไรเคนไปมากกว่านี้ ก็โดนมิยาโกะสะกิดเข้าที่ไหล่
“หืม”อิ ซึมิหันไปมองอย่างไม่ทุกข์ร้อน แต่มิยาโกะแยกเขี้ยวใส่..อิซึมิเข้าใจความหมายทันที เธอคลายมือที่โอบไหล่เคนออก ก่อนจะไปหันส่งสายตาท้าทายใส่แกล้งๆ
เคน ที่รอดพ้นจากเงื้อมมือนางมารก็รี่เข้าไปนั่งข้างๆอิโอริ น่าจะเรียกว่าหลบหลังอิโอริมากกว่ามั้ง เคนทำตัวหดลีบเป็นเส้นด้ายพยายามพันติดอิโอริให้มากที่สุด
“เอ่อคุณเคนไม่เป็นไรนะครับ”อิโอริพูดไม่ออก เคนทำเข้าที่ไหล่แล้วหดหัวลดเหมือนเห็นเขาเป็นโล่กำบัง
อิซึมิไม่สนใจมิยาโกะอีกต่อไป
“เรื่องห้องชั้นจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้วนะ” อิซึมิส่งสายตาไปกระแทกหน้าโคจิอย่างแรงจนโคจิต้องเบี่ยงหัวเพื่อหลบสายตานั้น
“แต่ชั้นไม่บอกหรอกเดี๋ยวถึงที่พักก็รู้เอง ชั้นขอให้เราติดชื่อหน้าห้องไว้ให้เลย”เป็นโรงแรมที่สนิทอ่ะไรกันยั่งงี้ แบบนี้ไปขอเป็นของตัวเองเลยดีกว่าไหม
ต่อ จากนี้อิซึมิก็ได้ร่ายยาวเกี่ยวกับกฎการอยู่ที่โรงแรมนั้นอย่างละเอียด เหมือนกับว่า เธอเป็นเจ้าของโรงแรมหรือผู้ตั้งกฎ ยังไงยังงั้น
จาก นั้นอิซึมิก้นัดเวลาและสถานนีรถไฟที่จะไป สรุปคือ 8 โมงเช้าวันเสาร์ ด้วยสาเหตุที่ฮิคาริบอกว่าถ้าไปกันเช้าๆจะได้ถึงตั้งแต่บ่าย แล้วจะได้จัดของลงห้องทันมาเล่นน้ำตอนเย็น
..........................
ทา คุยะรีบยัดของเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็วในตอนเช้า เมื่อคืนหลังเขากลับมาอาบน้ำที่บ้าน เขาก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงโดยคิดว่านอนซักพัก แล้วก็หลับยาว เมื่อตื่นขึ้นมาก้พบว่า ตอนนี้ 7.30 แล้ว
ทา คุยะโจ้ง(โยน)สัมภารกมากมายลงกระเป๋าเดินทาง ทั้งเสื้อผ้าสำหรับ 3 วัน ชุดว่ายน้ำและของกระจุกกระจิกอื่นๆ อ้อไม่ลืมเกมกดด้วยนะ เมื่อยัดของเสร็จทาคุยะก็ลากของลงไปจากห้องทันที
“อ่าวพี่ทาคุยะ จะไปไหนน่ะ” คัมบาระ ชินยะ น้องของทาคุยะที่กำลังกินข้าวเช้าอยู่ถาม
“เออใช่พี่ลืมบอกไป วันนี้พี่ต้องไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะวันอังคารจะกลับนะ”ทาคุยะพูดไปใส่รองเท้าไป
“แม่อนุญาตแล้วเหรอพี่”
“บอกแม่ให้ด้วยแล้วกัน มีปัญหาอ่ะไรก็โทรมานะพี่ไปละ”ทาคุยะพูดจบก็ลุกขึ้นลากกระเป๋าออกไปทางสถานีรถไฟที่นัดไว้ ขณะนี้เวลา 7.50 น. !
…
“แฮ่กๆๆ รอนานมั้ย”ทาคุยะวิ่งออกมาจากรถตรงไปยังจุดที่เขานัดเจอกัน ก็พบว่ายืนอยู่กันพร้อมหน้าแล้ว สงสัยเขาจะเป็นคนที่มาสายคนเดียวแฮะ
“ทำไมต้องเป็นนายที่มาสายทุกทีเลย ทาคุยะ”โคจิถามจี้ต่อมประสาท
“แล้วนายุ่งอ่ะไรเล่า ยื่อ”ถึงเขาจะเลทก็เลทไป 5 นาทีเท่านั้นเองนะ!
“ชั้นว่าไทจิช้าแล้วนะ”ยามาโตะพูดเป็นเชิง ไทจิกับทาคุยะหันไปฆาตโทษยามาโตะเงียบๆ ยามาโตะจึงรีบหุบปากตัวเองและเงียบไป
“ไหนๆก็มากันครบแล้วไปจองตั๋วกัน”ฮิคาริเดินนำออกไป
พวก เขาทั้ง 16 คนนั่งอยู่บนรถไฟ (สายไหนก็ช่างเหอะ) ไปยังโรงแรมที่อิซึมิจองไว้ 3 วัน 3 คืน การนั่งรถไฟดูโล่งๆและเงียบๆ เพราะเป็นช่วงเช้า และเป็นวันหยุด ความรู้สึกมันผิดกับตอนนั่งบน เทรนมอน เลยแฮะ ไม่กระชากรุนแรง พอนึกแล้วก็เสียวก้น เหอๆ ทาคุยะคิดในใจ
ขณะนี้เวลา 11.45
ถึงที่หมายแล้ว! แต่ต้องออกจากสถานนีรถไฟก่อนนะ.. ทุกคนก็ลากกระเป๋าเดินทางออกจากสถานีรถไฟ
“แถวนี้อากาศสนชื่นจริงๆเลยนะ”โคอิจิพูดยิ้มๆ
“นั่นสิ ได้กลิ่นลมทะเลด้วย”โคจิพูดเสริม
“นั่นไงโรงแรมที่ว่า”อิซึมิ ชี้ให้ดูหัวโรงแรมที่โผล่พ้นต้นไม้สูงใหญ่ออกมา เห็นแค่หัวโรงแรมก็ดูเหมือนว่าจะดูหรูไม่ใช่เล่น 3 ดาวแน่นะอิซึมิ..
…
“ยินดีต้อนรับค่ะ คุณคือคนที่จองห้องกับทางเราไว้ใช่มั้ยคะ”พนักงานสาวในโรงแรมเอ่ยอย่างสุภาพ ทุกๆคนมองไปรอบๆภายในโรงแรม อย่างสนใจ
ที่นี่กว้างชะมัด! สะอาดอีกด้วย แถมการตกแต่งก็สวยสบายตา บรรยากาศก็ยังดีอีก ติดชายทะเลด้วยล่ะ มีกลิ่มหอมอ่อนๆด้วย เอ่อนี่ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่น่ะ.. ความคิดของหลายๆคนปนมั่ว แต่ความคิดสุดท้ายคือของไดสุเกะ (ก็มันจริง กลัวแพงนี่-ไดสุเกะ)
“นี่ค่ะ กุญแจห้องของชั้น 3 เบอร์ห้อง 301-308 นะคะ”พนักงานสาวยื่นกุญแจทั้งพวงให้อิซึมิ โรงแรมที่นี่มีอยู่ 5 ชั้นมีชั้นละ 8 ห้องซึ่งวกเขาก็จองชั้น 3 ไปทั้งหมดเลยทีเดียว
“แล้วใครนอนห้องไหน”ไทจิถาม
“อื้ม...แปปน้า”อิซึมิล้วงกระเป๋ากรโปรงก่อนจะหยิบสมุดจดออกมาเปิดดู เธอเล่นจดเอาไว้เลย
“ไทจินอนกับยามาโตะ ห้อง 301” อิซึมิเริ่มพูด ห้องแรกที่อิซึมิพูดไดสุเกะก้ค้างเติ่งไปเลย ทาเครุรีบตบๆที่ไหล่ของไดสุเกะให้กลับมาสู่ความเป็นจริงโดยไว
“โคจิโร่นอนกับพี่โจห้อง 302”
“น้อง(?)เคนนอนกับน้องอิโอริห้อง 303”
“ทาคุยะนอนกับโคจิห้อง 304”ทาคุยะกับโคจิสะดุ้งก่อนจะหันไปมองหน้ากันนิดหน่อย
“โคอิจินอนกับโทโมคิห้อง 305”โคอิจิหน้ามืด..แต่โทโมคิกำลังยิ้มราอย่างสะใจ
“น้องทาเครุนอนกับน้องไดสุเกะห้อง 306”ทาเครุที่กำลังลูบหลังให้ไดสุเกะเงยหน้าขึ้นมางงๆ
“มิยาโกะนอนกับฮิคารินะ ห้อง 307” แล้วจุนเปย์ก็กำลังคิดว่า..
“ส่วนชั้นจะนอนห้องเดียวกับจุนเปย์เอง แต่!!” มีแต่ด้วย จุนเปย์สะอึก
“มันเป็นเตียงสวีทแบบนอนสองคนเพราะฉะนั้นนายต้องลงไปนอนที่พื้น”อิซึมิชี้หน้าจุนเปย์ จุนเปย์หน้าซีดไปถนัดตา แต่ทุกคนก้ซีดได้อีกกับคำว่าเตียงสวีท..มันดูน่ากลัวไม่ใช่น้อยๆเลยนะ
อิ ซึมิเดินไปยื่นกุญแจให้คนแต่ละห้อง โดยยื่นให้ ยามาโตะ โจ เคน โทโมคิ ทาเครุ มิยาโกะ ก่อนจะเดินไปยื่นให้โคจิแล้วพูดให้พอได้ยินกันสองคน
“เอาล่ะโคจิ ฉันเปิดโอกาสให้นายแล้ว รุกทาคุยะให้เต็มที่เลย ชั้นเชียร์อยู่นะ”
……………………………………………………………………………
สัญลักษณ์ น้องได มีเยอะ และมีความหมายแน่นอน
แต่ ดูเหมือน การออกบทของตัวละครจะเป็น ความพอใจส่วนบุคคลของคนแต่ง แต่ไม่ต้องกลัวว่าบทตัวไหนจะน้อยจนน่าน้อยใจคนเขียนก็วางเรื่องให้แต่ละตัว ได้ออกบทในคราต่อไป อย่าคิดว่าหวานจนมดขึ้นเป็นอย่างเดียวละ... ระวังมีมารหัวขนออกมาแล้วจะทำให้ความรักเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ....(นี่คือคำแถลง)
1 พค 53
แก้ตัวหนังสือChapter 8 : Hotel (พบ..ที่โรงแรม)
ความคิดเห็น