{story} me in ❛ Sweden ❜

ลำดับตอนที่ #4 : [ 4 . ] Going to Lund. City of bikes. l เที่ยวลุนด์ เมืองแห่งจักรยาน

[ 4 . ] Going to Lund. City of bikes  l เที่ยวลุนด์ เมืองแห่งจักรยาน

 

             ถัดจากเทศกาลมัลเมอร์หนึ่งอาทิตย์เราก็มาเที่ยวลุนด์ต่อค่ะ มากับแด๊ดเหมือนเดิม ระยะทางจากมัลเมอร์ไปลุนด์ไม่ไกลนักประมาณครึ่งชั่วโมงโดยรถยนต์ แถมทั้งสองเมืองนี้ยังเป็นเมืองดังในสวีเดนด้วย เป็นโชคดีของเรามากๆค่ะที่ได้มาอยู่ Skåne เพราะเป็นจังหวัดใหญ่ที่เที่ยวดังๆก็เยอะแถมยังเดินทางง่าย เมืองลุนด์นี่ขึ้นชื่อเรื่องมหาวิทยาลัยค่ะ Lund universitet เป็นมหาวิทยาลัยดังที่มีทั้งคนสวีดิชและคนต่างชาติมาเรียน เราเองก็แอบคิดไว้ว่าถ้าเป็นไปได้จะมาต่อมหาวิทยาลัยที่นี่แต่คงยุ่งยากหน่อย TT แต่เรากับแด๊ดก็ไม่ได้ไปที่มหาวิทยาลัยกันเพราะจุดประสงค์ที่มาที่นี่คือแด๊ดนัดเพื่อนไว้ เริ่มแรกเลยเราไปเดินเล่นในตัวเมืองกัน แต่เพราะมาโดยรถยนต์เลยต้องวนหาที่จอดนานหน่อย ที่สวีเดนนี่ถ้าจอดรถในที่สาธารณะต้องเสียค่าจอดนะคะไม่ฟรีเหมือนที่ไทย เค้าจะมีตู้กดบัตรจอดรถตั้งอยู่ใกล้ๆเราก็ต้องกดแล้วเอามาเสียบไว้หน้ากระจกตำรวจเค้าจะได้ตรวจได้ พอจอดรถเสร็จก็ได้เวลาเดินเล่นซักทีค่ะ 

  
 

คนน้อยมากใช่ไหมคะดูเหมือนเมืองร้าง 555 คนทั้งประเทศสวีเดนมี 9 ล้านคนเอง จำนวนพอๆกับประชากรในกรุงเทพที่เดียวเลยค่ะ มัมเราไม่ยอมเชื่อเราตอนบอกว่าประเทศไทยมี 66 ล้านคน เค้าไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนั้น 55555

Saluhallen ค่ะ เป็นที่ขายของทั่วไปส่วนใหญ่เป็นอาหาร ข้างในมีซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย

 

นี่ด้านในค่ะ เดินเข้ามาก็เจอร้านอาหารไทยเป็นร้านแรกเลย ขายทุกอย่างตั้งแต่อาหารยันเครื่องปรุง

  

 

ร้านอื่นๆค่ะ

            เดินดูเฉยๆไม่ได้ซื้ออะไรเสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่นตามบล็อกถนน แด๊ดพาเราไปร้านหนังสือร้านนึงที่สามารถลงบันไดไปชั้นใต้ดินได้ ข้างล่างก็เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บซากปรักหักพังของตัวเมืองแต่ก่อนค่ะ ขออภัยในความไม่ชัดด้วย ตอนนั้นกล้องมีปัญหามาก T_T

 
ด้านล่างก็มืดๆมีกองหินหลายกอง แล้วก็มุมไว้ให้อ่านประวัติค่ะ ตอนนั้นเรายังอ่านไม่ออกเลยไม่รู้ประวัติเป็นมายังไง

อยู่ข้างล่างนานพอดูเลยค่ะ พอขึ้นข้างบนมาก็ไปเดินกันต่อ เจอร้านไวกิ้งด้วย

 

เราไม่ได้ถ่ายด้านในมา เค้าขายพวกรูปปั้นแกะสลักแล้วก็เครื่องประดับต่างๆที่ทำจากหิน มีดาบมีหมวกไวกิ้ง แล้วก็หุ่นไว้กิ้งตั้งโชว์

            จากนั้นก็ไปนั่งพักรอเวลาที่แด๊ดนัดกับเพื่อนเค้าไว้ อากาศตอนนั้นดีมากเลยค่ะเย็นสบายไม่หนาวไป(สำหรับคนสวีดิช YY)อุณหภูมิประมาณ 21 องศา แต่ยังดีที่พอมีแดด ส่วนใหญ่เค้าก็แต่งตัวกันเหมือนฤดูร้อน เสื้อแขนสั้นกางเกงขาสั้น คนที่นี่แต่งตัวดีค่ะ ยิ่งในฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วงที่อากาศกำลังดีนี่เหมือนเดินแฟชั่นโชว์กันตามท้องถนนเลย เราดูเป็นเด็กกะโปโลมากเวลาเดินผ่านเค้า 5555

อีกเรื่องนึงที่จะเล่าคือเรื่องจักรยานค่ะ อันที่จริงคนสวีดิชก็ปั่นจักรยานกันทุกเมืองอยู่แล้วแต่ในความคิดเราที่ลุนด์นี่จะเยอะเป็นพิเศษ ปั่นกันตามถนนใหญ่ ในซอยเล็ก สวนสาธารณะ เรียกได้ว่าไม่มีที่ไหนไม่เห็นจักรยานเลย ถนนที่นี่ถ้าไม่ใช่ local road จะมีเลนสำหรับให้คนเดินและเลนจักรยานตลอด บางเมืองใหญ่ๆที่คนสัญจรเยอะอย่างมัลเมอร์ก็จะมีเลนสำหรับบัสด้วยค่ะ การคมนาคมที่นี่ถือว่าดีมาก รถไฟส่วนใหญ่จะมาตรงเวลา มีบางครั้งที่เลทไปห้าหรือสิบนาทีเพราะเหตุผลทางการปรับปรุงรางรถไฟ แต่บัสนี่มาตรงเวลาทุกครั้งค่ะ เรายังไม่เคยเห็นบัสคันไหนมาเลทเลย และไม่ว่าบ้านจะอยู่ไกลเข้าไปในซอยลึกแค่ไหนก็จะมีบัสไปถึงเสมอแต่ถ้าเป็นชุมชนไม่ใหญ่คนอาศัยไม่เยอะรอบวิ่งก็อาจจะสองครั้งต่อวัน ถ้าอยากเดินทางเวลาอื่นที่บัสไม่วิ่งก็สามารถโทรจองแท็กซี่ได้ค่ะ แต่แท็กซี่ที่นี่ไม่ใช่จะบอกทางแล้วขับไปส่งได้ทุกที่เหมือนที่ไทย เค้าจะจอดแค่ป้ายบัสเท่านั้นไม่อย่างนั้นผิดกฎ เราเองก็ต้องเดินต่อจากป้ายบัสกลับบ้านเหมือนกันค่ะ คนสวีดิชจะนิยมใช้รถสาธารณะพอๆกับที่นิยมใช้รถยนต์ส่วนตัว แต่ด้วยความที่ประเทศสวีเดนประชากรน้อยเลยไม่มีปัญหารถติด แต่สำหรับเมืองลุนด์แล้วรถยนต์ส่วนตัวไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นบัส จักรยาน และแท็กซี่มากกว่า
 

โรงเก็บจักรยานที่สถานีรถไฟค่ะ มีสองชั้น สถานีรถไฟเมืองอื่นไม่มีโรงให้เก็บจักรยานแบบนี้นะคะ

หลังจากไปเจอเพื่อนแด๊ดเสร็จเรียบร้อยขากลับเราก็แวะไปโบสถ์ดังของลุนด์ก่อน ชื่อภาษาสวีดิชคือ Domkyrka(อังกฤษ: Lund Cathedral) เป็นโบสถ์เก่าแก่และใหญ่มาก ภายในก็เหมือนโบสถ์ทั่วไป แต่จะมีเครื่องตกแต่งพิเศษค่ะ

อย่างแรกคือนาฬิกาเรือนยักษ์ เป็นนาฬิกาที่บอกทั้งเวลา ปฏิทิน และวลีต่างๆเกี่ยวกับดวงจันทร์และดวงอาทิตย์

 

(เครดิตรูปภาพจากวิกิพีเดีย)

อีกอย่างหนึ่งคือรูปปั้นยักษ์ที่ตั้งอยู่ชั้นใต้ดินของโบสถ์ค่ะ อันนี้ตอนเราไปเราหาไม่เจอเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา TT

 

 
ภาพด้านในตัวโบสถ์ค่ะ ใหญ่มากและสวยมาก มีจำลองตัวโบสถ์ด้วย

ทางเดินลงไปชั้นใต้ดินค่ะ

 

ด้านล่างเป็นรูปปั้น แผ่นหิน แท่นสลัก ฯลฯ

            นอกจากนี้ก็เหมือนโบสถ์ทั่วไปแหละค่ะ มีที่น่าตื่นตาตื่นใจอีกคือตัวโบสถ์ด้านนอก

 

 

เนื่องจากโบสถ์ ใหญ่-มาก เราต้องปีนป่ายหามุมอยู่ครึ่งชั่วโมงกว่าจะได้รูปมา 555 แต่ก็สวยคุ้มค่าเหนื่อยจริงๆค่ะ

            ต่อจากนี้ก็กลับบ้านนอนแล้วค่ะทริปวันนี้เหนื่อยมาก แต่ก็ทำให้ลุนด์กลายเป็นเมืองในฝันเราไปเลยเพราะเมืองสวยมากจริงๆ แอบหวังให้ได้โฮสถาวรอยู่ในลุนด์ด้วย 55555