ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {story} me in ❛ Sweden ❜

    ลำดับตอนที่ #3 : [ 3 . ] Malmö Festivalen & green country l งานเทศกาลมัลเมอร์ & ประเทศสีเขียว

    • อัปเดตล่าสุด 8 เม.ย. 57


    [ 3 . ] Malmö Festivalen & green country l งานเทศกาลมัลเมอร์ & ประเทศสีเขียว

    200813

     

                ทริปแรกในสวีเดนของเราค่ะ! เรานั่งๆนอนๆอยู่ที่บ้านเกือบหนึ่งอาทิตย์เพราะยังไม่ได้โฮสถาวรเลยยังไม่ได้เวลาไปโรงเรียน โชคดีที่แด๊ดเรามีธุระในตัวเมืองมัลเมอร์เค้าเลยพาเราไปเที่ยวด้วยเราจะได้ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ในบ้าน ช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปีจะมีงานเทศกาลมัลเมอร์หรือ Malmö Festivalen เป็นเทศกาลที่มีการแสดงดนตรี ซุ้มอาหารนานาชาติ และเครื่องเล่นให้ผู้คนได้เที่ยวชมกัน เราไม่ได้เล่นไม่ได้กินอะไรหรอกค่ะ ยังคงรู้สึกว่าทุกอย่างแพงอยู่ (1 โครน = 5 บาทไทยโดยประมาณค่ะ ราคาของก็ตัวเลขพอๆกับที่ไทยแต่คูณห้าเข้าไป เช่นเสื้อยืดสีเรียบตัวละ 199 โครน ก็ประมาณ 1000 บาทไทย T_T) เลยเดินถ่ายรูปอย่างเดียวระหว่างรอแด๊ดทำธุระ

      

      

    บรรยากาศงานค่ะ งานจัดใจกลางมัลเมอร์ติดกันหลายบล็อกถนน ภาพเลยอาจจะดูเหมือนไม่ใช่ที่เดียวกัน 55 

      

    มัลเมอร์เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีคนเยอะอยู่แล้ว แต่พอมีงานเทศกาลคนจะเยอะกว่าปกติ วันธรรมดาคนไม่เยอะขนาดนี้หรอกค่ะดูบางตากว่ามาก

     

    เวทีการแสดงที่จัตุรัส Gustav Adolf ค่ะ มีการแสดงทั่วไปเช่น มายากล ร้องเพลง เต้น ฯลฯ

      

      

    มาถึงโซนที่เตะตาเรามากที่สุด โซนซุ้มอาหารนานาชาติค่ะ x) มีร้านอาหารไทยสองร้าน กลิ่นน่าทานมากแต่หน้าตาไม่ค่อยไทยเท่าไหร่ 55

     

    สุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ มุมฟิก้า

                เดินจนเหนื่อยเราก็ไปซื้อแฟนต้ากระป๋องมาดื่ม พอดื่มหมดก็มีคนถือถุงขยะมาขอกระป๋อง ที่เห็นคนสวีดิชบางคนถือถุงขยะเดินไปมานี่ไม่ได้เดินมาเก็บขยะหรอกค่ะเพราะทุกคนทิ้งลงถังกันหมด แต่เค้าเดินมาเก็บพวกขวดพลาสติกกับกระป๋องน้ำอัดลมเพื่อนำไปแลกเป็นเงิน กระป๋องหรือขวดไหนที่มีเขียนไว้ข้างๆว่า ‘PANT 1’ หมายความว่าสามารถนำไปแลกเงินได้ 1 โครนค่ะ บางขวดใหญ่หน่อยเช่น ขวดน้ำอัดลมขนาดครอบครัวก็อาจแลกได้ 2 โครน เวลาซื้อน้ำอัดลมก็จะมีเขียนไว้ที่ป้ายราคาว่าคิดค่ารีไซเคิล 1 โครน เช่น น้ำอัดลมขนาดปกติราคา 12 โครน แต่เราต้องจ่าย 13 โครนเป็นค่ารีไซเคิล หากไม่นำไปแลกเงินก็เท่ากับว่าเราเสีย 1 โครนไปฟรีๆ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้คนรีไซเคิลขวดกันค่ะ ประเทศสวีเดนจัดเป็นประเทศรักธรรมชาติอันดับต้นๆเลย ตอนเราอยู่บนเครื่องบินมองลงมาก็เห็นแต่สีเขียวเต็มไปหมด รอบสนามบินยังถูกล้อมด้วยต้นไม้เหมือนอยู่ในป่าเลยค่ะ ทุกคนที่นี่ที่เรารู้จักไม่มีใครไม่แยกขยะหรือไม่รีไซเคิลกันซักคน ที่บ้านโฮสถาวรของเรา(ขอเล่าล่วงหน้านิดนึงนะคะ 55)จะมีถุงกระดาษสี่ห้าใบตั้งอยู่ในครัวเอาไว้แยกขยะ ถุงหนึ่งใส่ขยะกระดาษ อีกถุงอะลูมิเนียม อีกถุงพลาสติก ฯลฯ พอเต็มก็เอาไปทิ้งในถังขยะใหญ่ที่ตั้งอยู่ตามซุปเปอร์หรือตามที่รัฐบาลจัดไว้ให้ ขยะทั่วไปที่เป็นเศษเล็กๆน้อยๆ เช่น ทิชชู่ เศษดินสอ เศษผง เค้าจะเอาไปทิ้งลงถังขยะหน้าบ้านแล้วก็จะมีรถขยะมาเก็บ ส่วนพวกเศษอาหารก็เอาไปใส่ท่อหลังบ้านกลายเป็นปุ๋ยต่อไป แด๊ดเคยบอกกับเราว่าจริงๆแล้วเค้าไม่ทำก็ได้ไม่มีใครมาบังคับแต่เค้าอยากทำกันเอง เราฟังแล้วรู้สึกดีมากเลย บ้านเมืองเค้าสะอาดมากก็เพราะทุกคนช่วยกันทั้งนั้น เราชอบที่ทุกคนทำจนเป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องน่ารำคาญที่ต้องคอยแยกขยะหรืออะไร ขนาดถุงพลาสติกใส่ของในซุปเปอร์มาร์เก็ตยังต้องเสียเงินซื้อ 1 โครนเลยค่ะ
     

    มีเรื่องที่เราเคยคิดว่าแปลกในซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย คือเวลานำสินค้าไปคิดเงินจะต้องหยิบมาเรียงเป็นแถวแล้วหันด้านบาร์โค้ดเข้าหาตัวเพราะตัวอ่านบาร์โค้ดหันเข้าหาพนักงานคิดเงิน หรือพูดง่ายๆคือต้องหันด้านบาร์โค้ดให้พนักงานคิดเงินได้ง่ายที่สุดนั่นแหละค่ะ หน้าที่พนักงานคิดเงินก็แค่หยิบสินค้าไปจ่อตัวอ่านบาร์โค้ดโดยไม่ต้องหมุนด้านหาบาร์โค้ดใดๆ เสร็จแล้วปล่อยไปตามสายพานให้ลูกค้าหยิบเอาเอง ไม่มีการใส่ถุงให้เหมือนที่ไทยนะคะเพราะบางคนก็ไม่อยากซื้อถุงให้เปลืองเงินเลยเอาถุงมาจากบ้านแทน แต่ถึงบางคนซื้อถุงด้วยเค้าก็ปล่อยให้เอาสินค้าใส่ถุงเองอยู่ดีแหละค่ะ เราคิดว่าเป็นวิธีที่ดีเหมือนกันเพราะสามารถคิดเงินเสร็จเร็วกว่าที่ไทยเยอะ ตอนนี้เราก็ชินแล้วไปซุปเปอร์ทีไรก็บริการพนักงานคิดเงินเสร็จสรรพ 5555 อีกเรื่องหนึ่งคือเวลาซื้อขนมปังในซุปเปอร์สามารถหยิบมากินได้เลยก่อนนำไปคิดเงิน อันนี้ตอนแรกงงมากค่ะ แด๊ดหยิบขนมปังชีสมาให้เราแล้วบอกลองชิมดูสิ เราก็ถามงงๆ ชิมตอนนี้เลยหรอ? ไม่ต้องรอคิดเงินก่อนหรอ? เค้าก็บอกไม่ต้องกินได้เลย ถ้ากินหมดก่อนก็บอกพนักงานว่าหยิบขนมปังมาด้วยแต่กินหมดไปแล้วแค่นั้น จริงๆอันนี้ทำได้แต่ไม่ค่อยมีคนทำค่ะ เรายังไม่เคยเห็นใครหยิบขนมปังกินในซุปเปอร์เหมือนเราตอนนั้นเลย 555 แต่ถึงแด๊ดบอกว่าทำได้แต่เราก็ไม่ทำอยู่ดี มันรู้สึกแปลกนิดหน่อยเราก็ไม่เคยหิวอะไรขนาดนั้น .__. เรื่องความซื่อสัตย์นี่ไม่ได้เป็นกันทุกคนหรอกค่ะแต่ส่วนใหญ่เป็นกันทั้งนั้น แด๊ดเคยเล่าให้เราฟังว่าถ้าจะตัดต้นไม้ในป่าสาธารณะที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของก็สามารถตัดได้เลยไม่ต้องขออนุญาต แต่ตัดเสร็จแล้วต้องนำต้นใหม่มาปลูก และก็เหมือนเดิมค่ะไม่มีใครบังคับถ้าจะไม่ทำเพราะไม่มีใครเห็น แต่ดูจากจำนวนต้นไม้และจำนวนป่าทั้งสวีเดนแล้วก็ยืนยันได้ว่าเค้านำต้นไม้มาปลูกกันเกือบทุกคน

    นี่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราประทับใจเกี่ยวกับคนสวีดิชและก็คงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยในทุกๆตอน ที่บ้านเมืองเค้าสะอาดเรียบร้อยก็เป็นเพราะคนในประเทศช่วยกันทั้งนั้น เราเองก็อยากเห็นบ้านเราเป็นแบบนี้เหมือนกัน แต่ก็คงไม่สามารถไปสั่งใครหรือทำอะไรได้นอกจากเริ่มที่ตัวเราและเขียนบทความชักจูงแบบนี้แหละค่ะ 5555


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×