คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [ special . ] 7 ข้อควรทำเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ
note: เนื่องจากว่างค่ะแล้วกำลังนึกเรื่องเที่ยวอยู่ เลยเขียนขึ้นมาแล้วลงเลย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ X)
7 ข้อควรทำเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ
❤
1. เตรียมเอกสารแสดงตนไปทุกที่
สำคัญมากข้อนี้ อาจจะคิดว่าขี้เกียจแบกไปหรือกลัวมันจะหายระหว่างทาง เราแนะนำให้ถ่ายเอกสารไปก็ได้ถ้าแค่ไปเที่ยวในเมือง เราอยู่สวีเดน 10 เดือนไม่เคยถูดเรียกตรวจเอกสารเลยซักครั้งเดียว มีบ้างที่ต้องใช้วีซ่านักเรียนแสดงตัวไปแต่ไม่เคยถูกเรียกพาสปอร์ตเราเลยไม่เคยพกติดตัว แต่ในกรณีที่ไปเที่ยวเราแนะนำให้พกไปดีกว่า นอกจากจะเซฟตัวเองแล้วยังเพิ่มความมั่นใจได้อีกค่ะว่าถึงหลงทางก็ไม่เป็นเรื่องใหญ่แน่
ปล.ตอนไปเที่ยวเดนมาร์กเราไม่ได้เอาพาสปอร์ตไปเพราะมันใกล้กันมาก แต่เที่ยวไม่ค่อยสนุกเพราะมัวกังวลว่าจะถูกเรียกตรวจเมื่อไหร่ เพราะฉะนั้นเพื่อความมั่นใจก็พกเถอะค่ะจะได้เที่ยวสนุกด้วย
2. โหลดแอพ maps หรือแอพที่บอกตารางเวลารถบัส/รถไฟ
อันนี้สำคัญมากสำหรับเรา แผนที่ในไอโฟนก็ถือว่าโอเคนำทางได้ไม่หลง แต่เราจะโหลด google maps ไว้ด้วยเอาไว้สลับกันใช้ เพราะบางที่ maps ในไอโฟนมันก็หาไม่ละเอียดหรือบางที google maps ก็โหลดช้า ส่วนแอพบอกตารางเดินรถนี่เราไม่รู้ว่ามีทุกประเทศรึเปล่า แต่ที่สวีเดน(จริงๆคือจังหวัดที่เราอยู่) มีแอพชื่อว่า skånetrafiken เป็นแอพที่จะบอกตารางเวลาเดินรถบัส/รถไฟ ในจังหวัด Skåne และอัพเดตตลอด ถ้ามีพายุหรือเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้เวลาเปลี่ยนก็เช็คได้จากแอพเลย ถือว่าสะดวกมากค่ะเพราะเราไม่รู้จะเจอปัญหาอะไร อาจตกรถบัสแล้วไปไม่ทันขึ้นรถไฟเที่ยวสุดท้าย ถ้าเราสามารถเช็คเวลาได้เราก็จะแพลนหาทางออกได้เร็วค่ะ เราใช้แอพนี้ทุกวันเลย
3. เช็ควงเงินในบัญชีและเตรียมเงินสดติดตัวไว้ตลอด
สำหรับเรื่องเช็คเงินในบัญชีเราคิดว่าคงเช็คกันตั้งแต่ก่อนออกจากไทยแล้ว เรื่องเงินสดนี่ต้องพกติดตัวจริงๆค่ะ คือไม่ใช่แค่มีในกระเป๋าเงินแต่ควรมีเหน็บไว้ในกระเป๋ากางเกง เสื้อโค้ทไว้บ้าง แล้วก็ควรเป็นจำนวนเงินที่ใช้ขึ้นรถได้นะคะ ถ้าโดนล้วงกระเป๋าหรือทำกระเป๋าเงินหายอย่างน้อยเราก็สามารถโบกรถไปตั้งตัวที่โรงแรมหรือซื้อข้าวกินได้ซักมื้อนึง
ปล.นอกจากติดตัวแล้วควรมีติดห้องพักไว้ด้วยนะคะในกรณีพักในที่พักที่ไว้ใจได้และพักเป็นเวลานาน นอกจากจะทำให้เรามีเงินตลอดแม้โดนขโมยกระเป๋าแล้วยังทำให้เราไม่ช้อปจนหมดตัวด้วย ก่อนกลับเราเอาเงินที่เหน็บๆไว้ตามตู้เสื้อผ้าหรือลิ้นชักออกมานับดูแล้วเกิน 5000 บาทอีกค่ะ
ปล.แบ่งเงินใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทาง แครี่ออน และกระเป๋าสะพายตอนขึ้นเครื่องก็ดีนะ
4. ไม่ควรแฟชั่นจ๋าเกินไปในวันแรกและวันกลับ
อันนี้เห็นหลายคนใส่บู้ทสวยงาม กางเกงขาสั้น สะพายกระเป๋าจิ๋วๆหลายคนและคิดว่ามันช่างไม่เหมาะเลยค่ะ วันแรกที่ไปถึงหรือวันกลับเราควรใส่ชุดที่เตรียมพร้อมนอนข้างทางที่สุด ไม่ใช่ข้างทางแบบเสื้อผ้าซ่อมซ่อกับกระป๋องคาร์เนชั่นนะ -_- เราหมายถึงชุดที่ใส่แล้วเคลื่อนไหวสะดวก เช่นเสื้อยืดแขนยาวกับสเวตเตอร์ซักตัว เป็นสเวตเตอร์กันฝนยิ่งดีเพราะเบาและกันหนาวได้ด้วย กางเกงก็ยีนส์นี่แหละค่ะคำตอบเดียว หนาและไม่อึดอัด ถุงเท้าซักคู่ แล้วก็รองเท้าผ้าใบ พวกรองเท้าออกกำลังกายจะดีเพราะทน เจออากาศหนาวหรือใส่ย่ำน้ำกาวก็ไม่หลุด ถ้าไปช่วงเริ่มเข้าอากาศหนาวก็เตรียมถุงมือไปด้วยก็ดีค่ะ เวลาหนาวมือนี่มันทรมานจนแทบทำอะไรไม่ได้จริงๆ อีกอย่างคือแครี่ออนหรือกระเป๋าเป้สะพายหลังก็ควรกันน้ำด้วย เผื่อฝนตกจะได้ไม่ต้องห่วงของจะเปียก แล้วในเป้ก็ควรมีดังนี้
-น้ำ 1 ขวด (สำคัญมาก! ถ้าจะให้ดีก็ขนมปังซักก้อน แต่ไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะเราแค่เตรียมตัวไว้ ส่วนใหญ่ไม่มีอะไรร้ายแรงขนาดต้องนอนข้างถนน แต่ก็ไม่ใช่จะเกิดขึ้นไม่ได้)
-เสื้อ 2-3 ตัว + กางเกงนอน (ยีนส์ตัวอื่นไม่ต้องค่ะหนักเปล่าๆ ยีนส์ตัวที่ใส่นั่นแหละใส่ซ้ำได้)
-ถุงเท้า 2-3 คู่
-แปรงสีฟัน ยาสีฟัน
-สมุดจด + ปากกา
-กล่อง + น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ (อันนี้ใครไม่ใส่ไม่ต้องค่ะ 555)
พูดง่ายก็คือของที่ใช้ดำรงชีวิต 1 คืน ส่วนใหญ่จะเตรียมกันไว้ในกรณีที่ไฟล์ทบิน/กระเป๋าเดินทางดีเลย์ข้ามวัน เราเจอไฟล์ทดีเลย์ขากลับ 8 ชั่วโมงต้องนอนโรงแรม ดีที่เตรียมของที่ว่าไปค่ะ ไม่งั้นต้องหาซื้อแถวนั้นซึงก็จะยุ่งยากอีกเพราะประเทศที่เราไปรอเครื่องอยู่นั้นไม่ใช้เงินสวีเดน
แต่พอทุกอย่างลงตัวได้ที่พักเรียบร้อยแล้ววันต่อไปจะแฟชั่นก็ไม่เป็นไรแล้วค่ะ
5. No Hitch-hiking!
ข้อนี้เด็กเอเอฟเอสจะรู้ดีค่ะ หนึ่งในกฎเหล็กเลย นั่นคือ ห้ามโบกรถ อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ย้ำว่าอย่างยิ่ง! เพราะมันเหมือนกับการเอาตัวเองไปขึ้นบนเขียงซะอย่างนั้น เราเคยเห็นผู้หญิงยืนยกป้ายว่าจะไปสต็อกโฮล์มอยู่ข้างถนนเหมือนกัน แต่โฮสไม่จอดรับเพราะเขาเองก็กลัวทางนั้นจะเป็นคนร้ายเหมือนกัน เราไม่มีทางรู้ว่าคนที่ขับรถอยู่นั้นเป็นคนดีรึเปล่า หรือจะทำแค่พาเราไปส่งไหม เพราะฉะนั้นห้ามทำเด็ดขาดเลยค่ะ อันตรายมากๆ
6. ตั้งสติ
ถึงจะไปเที่ยวแต่ก็ไม่ใช่เอาแต่เที่ยวจนลืมมองหน้ามองหลังนะคะ ยิ่งถ้าไปเที่ยวในเมืองหลวงจะมีมิจฉาชีพหรืออะไรที่ร้ายแรงกว่านั้นค่อนข้างเยอะเราก็ต้องมีสติอยู่ตลอด ตาต้องไว ต้องมองว่าใคร ทำอะไร อยู่ตรงไหน มีอะไรผิดปกติไหม เช่นผู้ชายข้างหลังเดินชิดเกิน หรือเดินตามมานานเกินไป หรืออยู่ๆคนก็วิ่งเข้าไปใต้ตึกกันหมด แต่ก็ไม่ใช่สังเกตเขาจนออกนอกหน้านะคะอันนั้นจะเสียมารยาท แค่ดูๆว่ารอบตัวเราปลอดภัยรึเปล่าพอ เราเคยเจอผู้ชายคล้ายมาจากเอเชียกลางเข้ามาคุยด้วย บอกว่ายิ้มสวยจัง นู่นนี่นั่น คือชมๆไปแล้วชวนคุยไปเรื่อย ถ้าเจอแบบนี้ก็ไม่ใช่มัวแต่ดีใจนะคะ (เราแอบดีใจแต่ยังดีที่ดึงสติเร็วค่ะ555) แต่ก็ไม่ต้องขนาดวิ่งหนีออกมา ก็คุยๆไปซัก 2-3 ประโยคแล้วขอตัวเขาว่าเรามีธุระอะไรก็ว่าไป อย่าคุยนานเพราะยิ่งคุยนานเราก็ยิ่งจดจ่อกับการคุย ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ประสงค์ร้ายก็จะหนีลำบากเข้าไปใหญ่
7. เมื่อหลงทาง
สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือตั้งสตินั่นแหละค่ะ อย่าสติแตกลนลาน ควรหาสติตัวเองให้เร็วที่สุดแล้วดูว่ายืนอยู่ที่ไหน มีตึกหรือป้ายอะไรเป็นจุดสังเกตบ้าง พยายามเดินออกถนนใหญ่เพราะจะมีรสบัสหรือป้ายบอกทาง google maps เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดก็ตอนนี้แหละค่ะ แล้วหาทางกลับสเตชั่นให้ได้ เพราะถ้าไปสเตชั่นได้แล้วก็นั่งรถบัส/รถไฟกลับบ้านได้แล้ว ถ้า google maps ยังใช้ไม่ได้ก็โทรหาโฮสเอาให้เค้ามารับหรือบอกทางกลับ เราอยากให้หาทางด้วยตัวเองก่อนค่อยโทรหาโฮส เพราะความสนุกมันอยู่ที่การหลงทางและหาทางกลับนี่แหละค่ะ 555
ส่วนอีกทางออกนึงก็คือถามทางคนแถวนั้นหรือตำรวจ แต่เราไม่แนะนำ อยากให้เก็บไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายเลย เพราะเราไม่สามารถไว้ใจใครได้นอกจากตัวเองค่ะแม้จะเห็นเค้าเป็นตำรวจก็ตาม ยิ่งถ้าไปประเทศอย่างอเมริกาที่ไม่ว่าใครก็ซื้อยูนิฟอร์มตำรวจมาใส่ได้ยิ่งต้องระวัง พึ่งตัวเองไว้ดีที่สุด
ตอนนี้เราคิดได้เท่านี้ เป็นสิ่งที่เราเขียนมาจากประสบการณ์ของตัวเอง อยากให้ทุกคนอ่านไว้ค่ะเผื่อไปเที่ยวที่ไหนจะได้ปลอดภัย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อ้างอิงจากสถานการณ์ที่สวีเดนนะคะซึ่งเป็นประเทศที่ปลอดภัยสูง บางคนไปประเทศที่อันตรายกว่านี้อาจได้เพิ่มมาอีกหลายข้อ แต่เราว่าทั้ง 7 ข้อนี้ก็เป็นพื้นฐานของการไปเที่ยวทุกที่แล้วค่ะ ถ้าทำตามนี้ก็เซฟตัวเองได้ระดับหนึ่งแล้ว แล้วพบกันใหม่ตอนหน้ากับไดอารี่ตอนต่อไปนะคะ!
ความคิดเห็น