คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [ 13 . ] New year storm l พายุปีใหม่
New year storm l พายุปีใหม่
❤
ตามชื่อค่ะสำหรับตอนนี้ มันเป็นพายุในวันปีใหม่จริงๆ หิมะตก(จริงๆ)ในช่วงต้นเดือนมกราคมเกือบๆวันที่ 10 ตกแบบหนาครึ่งแข้งไม่ใช่ตกบางๆโดนฝนแล้วละลายแบบตอนก่อนคริสมาสต์ มีวันนึงเราเดินไปโรงเรียนแล้วหิมะตกพอดี มันเป็นเกล็ดแบบในการ์ตูนเลยค่ะสวยมากๆ พยายามถ่ายแล้วแต่พอโดนตัวมันก็ละลายซะก่อน จะถ่ายจากฟ้าก็มองไม่เห็นอีก TT เราดีใจมากที่หิมะตกซักที ดีใจออกนอกหน้าจนโฮสแซว แต่แล้วมันก็กลายมาเป็นปัญหาค่ะ
ขอเล่าเรื่องเทศกาลปีใหม่ก่อนแล้วกัน เป็นเทศกาลที่คึกคักไม่แพ้คริสมาสต์แต่ดูยังไงก็เห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับคริสมาสต์มากกว่า แต่ยังคงเป็นวันรวมญาติเหมือนเดิม ญาติฝ่ายโฮสมัมเราเดินทางมาพักที่บ้านสี่ห้าวันตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม กินอาหารมื้อพิเศษ(อาหารคริสมาสต์นั่นล่ะค่ะ เหมือนกันเด้ะ555)แล้วพอคืนวันที่ 31 ธันวา ซักห้าทุ่มก็ออกไปข้างนอกกัน วุ่นวายมากๆเพราะเด็กเยอะวิ่งชนกันมั่วซั่วไปหมด แต่ทุกคนก็ใส่เสื้อสะท้อนแสง(คล้ายที่ตำรวจจราจรใส่)นะคะเพื่อป้องกันตัว เวลาไฟรถสาดมาจะได้เห็นว่าเรายืนอยู่ แต่ด้วยความที่เสื้อมันมีจำกัดเด็กเล็กก็เลยได้ใส่ เราที่ดำทั้งตัวตั้งแต่สีผมยันสีกางเกง ขาวอย่างเดียวคือรองเท้าซึ่งก็มองไม่เห็นอยู่ดีเลยไม่ได้ใส่เสื้อสะท้อนแสง ต้องเดินชิดขอบถนนเอา T_T เดินไปซักพักก็เห็นพลุถูกยิงขึ้นฟ้าเต็มไปหมด ไม่ได้เยอะขนาดเวลาฉลองกันที่ไทยหรอกนะคะเพราะบ้านในแถบชานเมืองอย่างบ้านเราอยู่ไกลกัน(มากๆ) เพื่อนบ้านเราที่ใกล้สุดบ้านห่างไปเกือบ 2 กิโลเมตร เลยจะเห็นพลุเป็นหย่อมๆอยู่ลิบๆ เราไม่ได้เอากล้องไปเพราะไม่งั้นต้องสาดแฟลชใส่ทุกคนแน่เลยใช้แค่ไอโฟนถ่ายวีดีโอเอา(ถ่ายมาเยอะมากค่ะแต่สุดท้ายก็หายไปเพราะทำไอโฟนตกโถส้วม TT เอาไว้ตอนหน้าจะเล่าให้ฟังนะ) แล้วพอ 12.00 ตรงบ้านเราก็จุดพลุกันบ้าง เราวิ่งหนีเลยค่ะเพราะเคยจุดพลุที่ไทยแล้วพบว่ามันน่ากลัวมาก กลัวหล่นใส่หัวสุดๆเลยไปยืนให้กำลังใจโฮสข้างถนนแทน 555 แล้วก็เป็นอันเสร็จพิธี เด็กๆง่วงนอนในทันใดเลยเดินกลับบ้านกัน ตลอดทางก็มีเสียงพูด Gott nytt år กัน (สวัสดีปีใหม่) ถึงจะไม่ได้บรรยากาศลึกซึ้งขนาดเทศกาลคริสมาสต์ แต่ก็มีความสุขไม่แพ้กันเลยค่ะ
เราบอกลาทุกคนด้วยคำว่า vi ses nästa år!(เจอกันใหม่ปีหน้า)
แต่ปีหน้าที่เราพูดถึงก็เริ่มต้นไม่สดใสเท่าไหร่ เพราะหลังปีใหม่ประมาณอาทิตย์เดียวพายุก็เข้าสวีเดนเลยค่ะ
วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่เรามีเรียน 9.00-11.30 พอเลิกเรียนเพื่อนก็กลับบ้านนอนกันเหมือนเคย =_= แต่เรานั่งรถไฟไปเที่ยวมัลเมอร์ต่อ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีก็ถึงค่ะ เดินเที่ยวถ่ายรูปนู่นนี่นั่นไปเรื่อย บรรยากาศก็เหมือนกับตอนก่อนคริสมาสต์ ถึงหิมะจะตกหนักกว่าแต่คนก็ไม่ได้เที่ยวน้อยลง หิมะเลยถูกเหยียบจนละลายและดำปี๋เหมือนเดิม เราแพลนไว้ว่าจะขึ้นรถไฟซัก 15.32 เพราะจะไปถึงสถานีที่เมืองเรา 15.49 แล้วบัสเที่ยวสุดท้ายไปบ้านก็ออก 15.55 พอดี
แต่อยู่ๆหิมะก็ตกหนักซะงั้น! ลมพัดแรงจนยืนแทบไม่ไหวเราเลยต้องรีบวิ่งไปสเตชั่นในมัลเมอร์ให้เร็วที่สุด เข้าไปก็ได้ยินเสียงประกาศวุ่นวายไปหมด ตอนนั้นเริ่มฟังออกแล้วค่ะ เค้าบอกว่ามีพายุแรงระดับ 2 พัดเข้าแถบสแกนดิเนเวีย ต้องเลื่อนเวลารถไฟ บางสายก็ต้องหยุดวิ่ง แต่จะมีรถบัสไว้บริการแทน มีข่าวว่าที่นอร์เวย์ลมแรงขนาดที่พัดต้นไม้ใหญ่ล้มเลย(โชคดีที่เราอยู่ทางใต้ซึ่งไกลจากนอร์เวย์พอควร ._.) ตอนนั้นเจอเพื่อนเอเอฟเอสชาวอิตาเลี่ยน 2 คนที่มาแลกเปลี่ยนเหมือนกันพอดีเลยพากันไปดูรอบรถไฟแล้วนั่งรอในสเตชั่น คนเยอะมากตอนนั้นเพราะอยู่ข้างนอกไม่ไหว เรามองลอดประตูอัตโนมัติออกไปนี่แทบมองไม่เห็นอะไรซักอย่างนอกจากพายุหิมะสีขาวพัดหวือๆ เราขึ้นรถไฟเที่ยวเดียวกับเพื่อนพอดีซึ่งเลื่อนเวลาไปออกตอน 16.02 เหลืออีกเกือบชั่วโมงเลยนั่งรอกันแถวๆร้านอาหาร ซักพักก็เปลี่ยนไปเป็น 16.32 แล้วก็เลื่อนอีกจนถึง 17.25 รอนานเลยค่ะทีนี้ เราใจเต้นแรงมากเพราะรู้สึกกลัวที่มันเลื่อนไปเรื่อยเหมือนจะไม่ได้กลับบ้านอีก พายุหิมะนี่ก็เพิ่งเจอครั้งแรก แถมยังไม่ได้อยู่ในบ้าน คิดอย่างเดียวว่าอย่ามาตายในสวีเดนนะ T_T เราส่งข้อความไปให้โฮสว่าติดพายุหิมะอยู่ในมัลเมอร์ อาจถึงบ้านเกือบๆหนึ่งทุ่ม เรามองนาฬิกาตอนนั้นยัง 15.35 อยู่เลยค่ะ
แต่!
อยู่ๆเวลารถไฟขบวนที่เราจะขึ้นก็เปลี่ยนมาเป็น 15.38 ซะอย่างนั้น!
วิ่งสิคะงานนี้ เราเรียกเพื่อนให้ช่วยกันดูว่านั่นเลขขบวนรถเราจริงๆใช่ไหม พอพบว่าใช่ก็วิ่งกันหูตั้งเลยค่ะ วิ่งไปก็บ่นไปว่าบ้ารึเปล่ามาเปลี่ยนอะไรกลับไปกลับมาอย่างนี้ ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติก็คงรอขบวนต่อไป แต่ตอนนั้นใครๆก็ต้องอยากกลับบ้านหนีพายุให้สบายใจกันทั้งนั้น แถมชานชาลาที่ต้องขึ้นยังอยู่ไกลแสนไกลต้องลงบันไดเลื่อนไปอีกต่างหาก เพราะตอนเปลี่ยนเวลารอบแรกเห็นว่ามันยังอีกนานเลยไปเลือกนั่งซะไกล รู้สึกขอบคุณความมีระเบียบของคนสวีเดนที่ยืนชิดขวาบนบันไดเลื่อนกันทุกคนเพราะไม่งั้นเราก็ับเพื่อนคงต้องสไลด์ราวบันไดลงไปไม่งั้นไม่ทัน
คนเบียดกันยังกับรถไฟฟ้าไปสยามเลยค่ะ เรายืนคุยกับเพื่อนซักพักก็ถึงสถานีเลยบอกลากันแล้วเดินออกมา จริงๆแล้วเรารายงานโฮสตลอดว่ามีเที่ยวไหนบ้างแล้วเราขึ้นเที่ยวไหน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนรู้สึกผิดเพราะกลัวโฮสงงถึงมันจะไม่ใช่ความผิดเราก็เถอะ พอลงจากรถไฟก็เห็นรถโฮสจอดรออยู่เลยรีบเดินไปขึ้นเลย ที่บ้านเราพายุยังไม่แรงเท่าที่มัลเมอร์ แต่มันอยู่ใกล้กันแค่ 20 นาทีโดยรถไฟ คาดว่าอีกไม่กี่สิบนาทีคงได้เจอพายุหนักพอกัน
เราบ่นเต็มสตรีมเลยว่ารถไฟมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนเกือบขึ้นไม่ทัน โฮสก็ฟังๆแล้วบอกว่าจริงๆก็ไม่แปลกเท่าไหร่แต่ก็ไม่ใช่จะปกติ บางปีเขาก็เจอพายุแบบนี้กัน แต่ปีนี้แรงกว่าปีอื่นเพราะพายุมันแรงจนเกือบถึงระดับ 3 แล้ว
วันต่อมาเป็นวันเสาร์ที่เราจะโทรหาบ้านที่ไทย คุณแม่ถามใหญ่เลยค่ะว่าสบายดีรึเปล่าเพราะดูข่าวที่ไทยแล้วเขาบอกว่าพายุเข้านอร์เวย์แรงมาก เราเลยบ่นเรื่องรถไฟไปอีกรอบ(5 เดือนที่ผ่านมารถไฟที่นีไม่เคยเลทเกิน 2 นาทีเลยนี่นา) แล้วก็เป็นอันจบ ปลอดภัยดีมีแรงมานั่งบ่นค่ะ 5555
แล้วเจอกันตอนหน้ากับเรื่องซวยๆที่เกิดขึ้นกับไอโฟนที่ถ่ายรูปทุกอย่างไว้ตั้งแต่ไปถึงสวีเดนของเรา TT
ปล. ขอโทษที่ไม่มีรูปอีกแล้วนะคะ รูปปีใหม่มันหายไปกับโถส้วมโฮสหมดเลย -_- มีรูปที่ทุกคนถ่ายกันวันปีใหม่ที่โฮสส่งมาให้แต่มันเห็นหน้าชัดเกินไปเราเลยไม่เอาลงดีกว่าเพราะไม่ได้ขอเขา คนสวีดิชค่อนข้างซีเรียสเรื่องการละเมิดสิทธิ์กันมาก อีกอย่างถึงขอไปโฮสซิสเราก็ขี้อายมากคงไม่อยากให้เราเอาลงอยู่ดี ไม่เป็นไรเนอะ เดี๋ยวตอนหน้ามีแนบรูปแน่ๆค่ะ!
ปล. ตอบคอมเม้นท์ที่ 21 นะคะ เรื่องโปรแกรมที่โรงเรียนเรา(อ้างอิงจากเว็บโรงเรียน http://www.sydgym.se/) มี 5 โปรแกรมใหญ่ๆคือ
- Economic program (เศรษฐศาสตร์ กฎหมาย)
- Aesthetic program(ดนตรี เครื่องเสียง อาร์ท โปรดัคเตอร์ ดีเจ)
- Science program(วิทยาศาสตร์ สวนสัตว์)
- Social science(สังคมศาสตร์ จิตวิทยา)
- Technical program(โปรแกรมเมอร์ เว็บดีไซน์)
แล้วในโปรแกรมหลักทั้ง 5 โปรแกรมนี้ก็จะไปแยกสาขาอีก คล้ายๆเอกในคณะค่ะ
สงสัยอะไรก็โพสถามในคอมเมนท์ได้เลยนะคะ แล้วตอนต่อไปเราจะมาตอบ(สารภาพว่าที่ตอนนี้มาลงเร็วก็เพราะอยากตอบคำถามนี่แหละ มันรู้สึกมีแรงฮึดขึ้นมา55555)
ความคิดเห็น