คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ❝ babysitter : chapter 2
c h a p t e r 2
มากเกินไปแล้ว
นี่มันมากเกินไปจริงๆ
“คุณจะให้ผมทำจริงๆหรอ”
อูฮยอนถามผู้ชายข้างๆด้วยน้ำเสียงประหม่าในขณะที่ตาก็มองกระดาษสีขาวที่วางอยู่ตรงหน้าแบบหวั่นๆ ไม่มีคำตอบออกจากปากให้กับคำถามของเขา มีแค่มือของอีกฝ่ายที่ดันหลังให้ก้าวไปชิดโต๊ะตัวเตี้ยให้ได้ ..ให้ตายสิ นี่มันบ้ากันไปหมดแล้ว
“คุณซองกยู”
ลากเสียงยาวแล้วขืนตัวไม่ยอมขยับ อูฮยอนจะอ้อนแบบทุกครั้งเวลาไม่อยากทำอะไรซักอย่าง ถึงจะรู้ว่าไอ้ทุกครั้งที่อ้อนไปนั่นไม่เคยสำเร็จเลยก็เถอะ และครั้งนี้ก็คงจะเหมือนกัน
“แค่เซ็นต์ชื่อลงไปมันยากตรงไหนคุณอูฮยอน”
ชิ
เพราะทำอะไรไม่ได้นอกจากแอบเบะปากใส่แล้วยอมๆเขียนชื่อตัวเองลงไปซะ สุดท้ายอูฮยอนเลยต้องมานั่งแกร่วอยู่ข้างเวทีโดยมีกระดาษเอสี่สีขาวแปะอยู่กลางหลังและถูกเขียนด้วยลายมือหวัดๆว่า ผู้เข้าแข่งขันหมายเลข4
ใช่ ผู้เข้าแข่งขัน ไอ้งานที่คิมซองกยูบอกจะให้ทำตอนจับเขายัดใส่รถมาก็คือการมาเป็นหนึ่งในผู้เข้าแข่งขันทั้งห้าคนเนี่ยแหละ แข่งอะไรน่ะหรอ? อย่าให้พูดเลย ปัญญาอ่อนชะมัด ..
‘เทศกาลแข่งกินชิงของเล่นประจำปี’
เขาต้องลงชื่อเข้าแข่งกินบ้าบออะไรนี่เพื่อไปเอาหุ่นยนต์กันดั้มลิมิเตดอิดิชั่นมาให้เด็กเวรนั่นน่ะแหละ
“ยอนๆ ฮารังอยากได้เจ้าเป็ดนั่นด้วย” พูดจบมือป้อมๆก็ชี้ไปที่เป็ดสีเหลืองตาโปนที่นอนนิ่งอยู่บนแท่นของรางวัล เฮอะ คิมฮารังนี่ลูกอูฮยอนมั้ย? ทำไมเขาต้องอุทิศตัวเองเพื่อเด็กนี่ด้วย
“ก็ไปบอกพ่อตัวเองให้มาแข่งสิวะ”
พึมพำกับตัวเองขณะที่พยายามแปะป้ายผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสี่ที่หลุดออกมา เด็กฮารังนั่นหายไปจากกรอบสายตาได้แปปเดียวก็กลับมาใหม่พร้อมใครอีกคน
“ฮารังไปบอกปะป๊าแล้วนะ” พูดจบก็ยิ้มกว้างแบบที่อูฮยอนไม่รู้ว่าเพราะใสซื่อจริงๆหรือตั้งใจกวนประสาทเขากันแน่
คิมซองกยูกอดอกเอียงคอมองเขาอยู่ อูฮยอนรู้สึกว่ามันดูเหมือนนักเลงหัวไม้ในการ์ตูน
“นายจะไม่แข่งหรอ”
อูฮยอนอดยู่หน้าไม่ได้ ..ก็ถ้าเลือกได้ก็ไม่แข่งหรอก ปัญญาอ่อนจะตาย
“ผมตอบว่าไม่แข่งได้มั้ยล่ะ เดี๋ยวคุณก็เอาซองยอลมาขู่ผมอีก”
“ใช่ไง เพราะฉะนั้นนายก็ไม่ต้องโยนมาให้ฉัน เพราะ ฉัน สั่ง ให้ นาย ทำ”
“แต่ ผม ไม่ อยาก ทำ”
“งั้นเดี๋ยวฉันโทรให้ซองยอลมาตัดสินแล้วกันว่าใครต้องทำ”
อูฮยอนตาโตแหกปากร้องเสียงดังแล้วทำหน้าขัดใจใส่อีกคน
“เออ ไปแข่งก็ได้”
และเพราะอย่างนั้น ตอนนี้เขาเลยต้องนั่งรอขึ้นเวทีไปแข่งด้วยอารมณ์ห่อเหี่ยวแบบสุดๆ แล้วแข่งไปก็ไม่รู้จะชนะรึเปล่าดูจากผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนที่หุ่นยังกับนักซูโม่แล้วแววชนะก็เริ่มรำไร เกิดแพ้มือเปล่ากลับไปไอ้คุณซองกยูนั่นได้หาเรื่องฟ้องซองยอลอีกแน่
อ๊า น่ารำคาญ!
Rrrrrrr
โทรศัพท์สั่นครืดๆอยู่บนโต๊ะ ผู้เข้าแข่งขันร่างซูโม่อีกสี่คนที่นั่งล้อมโต๊ะตัวเดียวกันอยู่หันมามองขวับจนอูฮยอนแทบจะทำโทรศัพท์หลุดมือ เขายิ้มแหยๆผงกหัวขอโทษแล้วเดินตัวปลิวห่างออกไปรับสาย
มองชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์แล้วก็อยากกัดลิ้นตัวเองตายซะตรงนั้น
คุณซองกยู
ถ้ากดรับสายก็ต้องโดนขู่ใช่ไหมล่ะ? เพราะงั้นก็ ติ๊ด ตัดสายไปซะ
ต่อจากนั้นคุณซองกยูก็ขึ้นชื่อบนหน้าจอโทรศัพท์อีกประมาณสามครั้งแต่อูฮยอนก็ปล่อยให้โทรศัพท์ตัวเองสั่นอยู่บนตักโดยไม่สนใจจะหยิบมากดรับ ก็อุตส่าห์มาลงแข่งอะไรงี่เง่าๆนี่ให้แล้วไง จะมาตามระรานอะไรกันอีก ตัวเองก็อยูสบายๆนั่งกอดลูกรอของรางวัล(ที่ไม่รู้ว่าจะได้ไหม)ไปสิ
เขาวางโทรศัพท์ไว้ตรงนั้นแล้วเดินขึ้นเวทีตามผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสามที่อยู่ในชุดฟิตเปรี้ยะไปติดๆ กรรมการที่รออยู่บนเวทีพูดเปิดงานแล้วก็อะไรอีกมากมายที่อูฮยอนไม่ได้สนใจฟัง เขากำลังมองหาผู้ชายตัวโตๆในสูทสีดำยืนอุ้มเด็กหน้าตาน่ารักผิดกับนิสัยที่น่าจะยืนอยู่ที่ไหนซักที่ในบริเวณงานงี่เง่านี่ แต่มองจนตาจะเหล่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา
ช่างเถอะ ดีซะอีก แข่งเสร็จเขาจะได้แอบหนีไปวีนกับซองยอลซักยกสองยก
ปัง!
อูฮยอนสะดุ้งจนเกือบตกเก้าอี้ถ้าไม่ได้มือไวเกาะขอบโต๊ะไว้ก่อน ขมุบขมิบปากบ่นกรรมการตัวอ้วนนิดหน่อยที่อยู่ๆก็ยิงปืนขึ้นมาแบบไม่ให้เตรียมตัว แต่ก็มีเวลาบ่นไม่มากเพราะนักซูโม่ทั้งหลายกำลังเขมือบอาหารกองเท่าภูเขาข้างหน้า
อูฮยอนกลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ เขาอยากจะลุกขึ้นเดินลงเวทีไปซะตอนนี้แต่ก็ติดหน้าเหี้ยมๆกับเสียงโหดๆของใครบางคนที่ลอยวนไปวนมาอยู่ในหัวนายลองก้าวลงไปดูสิ แล้วฉันจะได้พานายไปหาซองยอล
โว้ย กินก็ได้วะ!
อาจจะเป็นเพราะแรงอารมณ์เดือดดาลในใจ อูฮยอนจ้วงตักเกี้ยวกุ้งต้มยำในถ้วยใสเร็วจนแทบไม่เคี้ยว เขาโยนถ้วยนั่นทันทีที่หมดแล้วจัดการกับซาลาเปาต่อ .. เขาไม่รู้ว่านักซูโม่อีกสี่คนกินกันหมดรึยัง ไม่รู้แม้กระทั่งอาหารในถาดตัวเองเหลือแค่แป้งทอดสองก้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้สึกตัวอีกทีกรรมการอ้วนตุตะก็เดินตรงปรี่เข้ามาจับข้อมือเขาชูสุดแขนซะแล้ว
“ยินดีด้วยครับ รางวัลที่สองตกเป็นของผู้เข้าแข่งขันหมายเลขสี่ นัมอูฮยอน!”
เห้ย
อูฮยอนอ้าปากค้าง ดึงทิชชู่มาเช็ดปากลวกๆแล้วหันมองอีกสี่คนที่เหลือ ริมสุดเป็นซูโม่กล้ามโตที่คงจะได้ที่หนึ่งเพราะกินหมดเกลี้ยงไม่เหลือกระทั่งฝุ่นแป้งในถาดอาหาร ถัดมาก็เป็นซูโม่หมายเลขสองที่ทำหน้าทรมานใจกับกล้วยหนึ่งหวีและซาลาเปาอีกหนึ่งกอง ต่อไปเป็นซูโม่หมายเลขสามที่เห็นแล้วอูฮยอนอยากจะเข้าไปกอดโอ๋ว่าไม่เป็นไรนะเพราะมันดูไม่น่ารักเท่าไหร่กับผู้ชายตัวโต(เกินไป)นั่งร้องไห้กระซิกๆอยู่ ..แต่เอ่อ น้ำมูกเยิ้มขนาดนั้น เขาปล่อยให้หยุดร้องเองน่าจะดีกว่า คนสุดท้ายที่นั่งทางซ้ายมืออูฮยอนก็ไม่ต้องพูดถึง หายไปไหนแล้วไม่รู้แหละเหลือแต่เก้าอี้โล่งๆกับอาหารในปริมาณเกือบเท่าเดิม
แล้วก่อนที่ซูโม่หมายเลขสามจะหันหน้าเปื้อนน้ำตา(และน้ำมูกมหาศาล)มาหาอูฮยอนก็ลุกขึ้นโค้งกับยิ้มแหยๆแล้วดึงกรรมการมากระซิบข้างหูว่าให้เอาของรางวัลมาได้แล้ว กรรมการดูจะขัดขืนไม่ยอมทำตามในตอนแรกแต่พออูฮยอนทำท่าจะผลักไปหาซูโม่น้ำมูกยืดชายอ้วนก็ร้องโวยวายวิ่งไปหยิบตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองมายัดใส่มือเขาแทบไม่ทัน
นี่เขานิสัยไม่ดีไปรึเปล่า? ไม่รู้แหละ อูฮยอนจะโทษว่านิสัยชอบข่มขู่คนอื่นนี่เขาติดมาจากคิมซองกยูแล้วกัน
พูดถึงคิมซองกยู ตั้งแต่ขึ้นไปบนเวทีก็ยังไม่เห็นเลยแฮะ
เขาเดินกอดตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองไปรอบๆงาน พอเจอตู้โทรศัพท์สาธารณะก็ตรงเข้าไปทันที ยังโชคดีที่มีเหรียญติดตัวอยู่บ้าง เพราะมือถือที่ลืมไว้บนโต๊ะหลังเวทีและหายไปอย่างไร้ร่องรอยทำเขาลำบากน่าดู
-สวัสดีครับ-
แหม น้ำเสียงระรื่น ใช้งานคนอื่นเค้าแล้วหนีไปยังจะมาทำเสียงระรื่นใส่ได้อีกนะ
“สวัสดีครับคุณคิมซองกยู ผมแข่งเสร็จแล้วแล้วก็ได้ตุ๊กตามาให้ฮารังแล้วด้วย แต่ผมไม่เห็นแม้แต่เงาปลายเท้าคุณหรือชายเสื้อฮารังเลยซักนิด ไม่ทราบว่าคุณสองพ่อลูกอยู่ที่ไหนกัน”
เขารัวใส่เป็นชุด พูดเสร็จก็ถอนหายใจเพราะการพูดต่อกันยาวๆลิดรอนแก๊สในปอดได้มากอยู่ คุณซองกยูเงียบไปพักหนึ่ง เขาได้ยินเหมือนเสียงปิดประตู แล้วจากนั้นถึงจะมีเสียงเรียบๆดังมา
-ฉันอยู่จอนจู-
หะ จอนจู?
“จอนจู? คุณไปทำอะไรที่จอนจู แล้ว..คุณจะให้ผมทำยังไงต่อ?” อูฮยอนตัวแข็ง เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ อะไรคือคิมซองกยูและคิมฮารังอยู่ที่จอนจู แล้วอูฮยอนที่เป็นพี่เลี้ยงคิมฮารังอยู่ตอนนี้ละ? หมายความว่าให้เขาเลิกงานได้เลยใช่รึเปล่า? .. ก็ดีน่ะสิ จะได้ไม่ต้องกลัวอำนาจซองยอลมันอีก
แต่อูฮยอนคงคิดผิด
-ของของนายฉันสั่งให้ลูกน้องขนมาหมดแล้ว อีกครึงชั่วโมงเพื่อนฉันจะไปรับนายก็นั่งรถมาเลยแล้วกัน ประมาณหกโมงคงถึงนี่-
“ห เห้ย เดี๋ยวสิ จะให้ผมนั่งรถไปไหน แล้วรถอะไรใครมารับผมจะไปทำอะไรที่ ..”
-หนวกหูน่านัมอูฮยอน เพื่อนฉันชื่อจางดงอูรู้ไว้แค่นี้ก็พอ แล้วอีกสี่ชั่วโมงเจอกัน-
ติ๊ด
ไอ้ ..คิมซองกยู! มันวางสายใส่เขาอีกแล้ว! ยังพูดกันไม่รู้เรื่องเลยนะอยู่ๆก็จะโยนเขาไปนั่นไปนี่ แค่มาทนทรมานแข่งกินยังไม่พออีกรึไงทำไมเขายังต้องทนนั่งขาแข็งอยู่บนรถอีกสี่ชั่วโมงด้วย
โว้ย อีซองยอล กูจะลาออก!
to be continued
ความคิดเห็น