ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {infinite fic} ❝ babysitter - gyuwoo&myungyeol

    ลำดับตอนที่ #2 : ❝ babysitter : chapter 1

    • อัปเดตล่าสุด 30 เม.ย. 57


     

    c h a p t e r 1

     

     

     

    ซองยอลสะใจ

     

    ใช่ คงไม่ต้องบอกว่าเรื่องอะไร เห็นนัมอูฮยอนโวยวายทำหน้าบูดแต่เถียงอะไรเหมือนเคยไม่ได้ก็คงตอบคำถามได้ทั้งหมด ไม่ได้จะแก้แค้นหรืออะไรแต่ทุกอย่างมันดันลงล็อคเองนี่

    ลงล็อคที่คนเดลียดเด็กอย่างอูฮยอนอยากเขาช่วยเลี้ยงเด็กวันนั้น ลงล็อคที่อูฮยอนพลั้งมือทำร้ายลูกคุณนายอี ลงล็อคที่บริษัทรับเลี้ยงเด็กชื่อดังของซองยอลโดนคุณนายอีที่ว่าฟ้อง แล้วก็ลงล็อคที่ว่าลูกค้าคนใหม่ล่าสุด..คุณซองกยูนั่นแหละ เพิ่งส่งใบมาหาพี่เลี้ยงเด็กพอดีเป๊ะ

    ผลสรุปเลยเป็นอย่างที่เห็น อูฮยอนได้งานทำที่เขามั่นใจว่าดีกว่าการเป็นพนักงานร้านหนังสือกิ้กก้อกของมันแถมซองยอลยังไม่พลาดลูกค้ากระเป๋าหนักอย่างคิมซองกยูไปด้วย

     

    .. นัมอูฮยอนควรรู้ได้แล้วว่าใครกันแน่ที่ฉลาดกว่ากัน

     

    เป็นอะไร ทำหน้าตาโรคจิต

    ซองยอลสะดุ้งโหยง เสียงที่ดังขึ้นเรียกให้ตกใจจนควบคุมมือตัวเองไม่อยู่ แฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานเป็นตั้งเลยหล่นลงตามแรงโน้มถ่วงโลกเสียงดังโครมโดยที่เจ้าของไม่ได้ตั้งใจ อดเงยหน้ามองไม่ได้เมื่อเสียงที่ดูจะเป็นเสียงเดียวกับที่ทำเขาตกอกตกใจเมื่อกี้กำลังหัวเราะหึหึอยู่ในลำคอ พอเห็นหน้าตาท่าทางคุ้นเคยแบบนั้นอีซองยอลก็แทบจะขว้างแฟ้มบากหน้าซักทีสองที

     

    ว่างมากรึไง บริษัทตัวเองก็มีไม่ไปละหะ ฉันไม่ต้อนรับนายหรอกนะ

    ยกแฟ้มเก็บไปก็บ่นคนมาใหม่ไปด้วย คิมมยองซูเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามโดยที่ยังไม่ได้เชิญแล้วหยิบกาแฟสีเข้มตรงหน้าไปกินเฉย

     

    ..ไอ้เด็กมารยาทแย่

     

    อย่าหลงตัวเองสิฉันไม่ได้มาหานายซักหน่อย

    ซองยอลจะทนไม่ไหวกับสายตาล้อเลียนขบขันแบบนั้น มยองซูหัวเราะกับหน้ายักษ์ของอีกคนก่อนจะบอกจุดประสงค์ที่แท้จริง

     

    พี่อูฮยอนเป็นยังไงบ้าง ได้ข่าวว่าไม่ถูกกับงานใหม่

     

    คงงั้นมั้ง มันก็ไม่ชอบเด็กอยู่แล้ว

    ซองยอลเหล่ตามอง นึกในใจว่าที่คิมมยองซูเคยบอกว่าไม่ได้คิดอะไรคงจะไม่จริง ทั้งที่บริษัทตัวเองก็อยู่ไกลลิบยังอุตส่าห์ถ่อมาหาเขาถึงนี่เพราะอยากรู้ว่าอูฮยอนเป็นยังไงบ้าง ..ถามเด็กอนุบาลยังรู้เลยว่าไอ้ผู้ชายนี่คิดไม่ซื่อกับเพื่อนเขาแน่ๆ

     

    อันที่จริงซองยอลก็ล้อมันมาตั้งแต่สมัยยังเรียนอยู่แล้ว คิมมยองซูที่ดูนิ่งๆไม่เคยเข้าหาใครก่อนแต่ดันชวนอูฮยอนคุยทุกครั้ง แถมยังเรียกพี่อูฮยอนอีกทั้งที่รุ่นพี่โตสุดในโรงเรียนมยองซูไม่เคยจะเติมคำแสดงความเคารพให้เลย จำได้ว่ามีวันนึงที่เขาล้อมันจริงจังจนถึงขั้นวางแผนให้ไปบอกรักเสร็จสรรพ แต่พอถึงเวลาเล่าแผนให้มยองซูฟังเด็กนี่กลับทำหน้ามึนๆมาให้แล้วบอกว่านายสมองกลับรึไงคิดว่าฉันชอบพี่อูฮยอนหรอ ซองยอลเลยอธิบายว่ามันมีปัจจัยไหนบ้างที่ทำให้คิดได้ว่าคิมมยองซูชอบนัมอูฮยอนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังฟังจบมยองซูก็เปลี่ยนไปแค่นหัวเราะ มองตาเขานิ่งแล้วตอบกลับว่าถ้าอย่างนั้นไม่คิดบ้างหรอว่าฉันจะชอบนาย 

     

    .. นับแต่นั้นมาอีซองยอลก็ไม่เคยล้อมยองซูกับอูฮยอนอีกเลย เพราะจะพูดทีไรฉากนี้มันก็รีเพลย์ในหัวแบบห้ามไม่ได้ทุกที

     

    ก็มันน่าขนลุกมั้ยล่ะ

     

    ซองยอล นี่ ได้ยินไหม

     

    หะ หา อะไร

     

    ฉันถามว่าพ่อหรือแม่ของเด็กที่พี่อูฮยอนไปเลี้ยงให้น่ะใคร

     

    ซองยอลส่งสายตาล้อเลียนไปให้จนคนเห็นตีหน้าหน่าย อย่ามาลีลา ถามก็ตอบ

     

    จะอยากรู้ไปทำไม ถ้าเป็นพ่อแล้วจะตามไปหึงรึไง

    เขาเห็นมยองซูขยี้ผมถอนหายใจแบบเหนื่อยจะแก้ตัวสุดฤทธิ์ แล้วซองยอลก็ยิ่งได้ใจ เป่าปากวี้ดวิ้วแซวเด็กหน้านิ่งตรงข้าม ก่อนจะตกใจจนแทบหงายหลังเมื่อหน้านิ่งๆเมื่อกี้เลื่อนมาใกล้จนชิด แขนที่วางไว้บนโต๊ะถูกอีกคนจับกดแน่น สัมผัสเบาจากมือที่ทัดปอยผมให้ก็ยิ่งทำเอาจั๊กจี๋จนต้องย่นคอหนี แต่ก็คงไม่จั๊กจี๋เท่าประโยคสยิวกิ้วข้างหูได้หรอก ..

     

    อยากให้จีบนักใช่ไหม ฉันทำให้ได้ไม่มีปัญหา” 

    แต่บอกไว้ก่อนนะว่าคนที่ฉันจะจีบน่ะไม่ใช่พี่อูฮยอน

     

     

     

     b a b y s i t t e r .

     

     

     

    อู-ฮยอน

     

    ยอน ..ยอน

     

    อูฮยอนครับ นัม-อู-ฮยอน

     

    ยอน คิคิ ..ยอน

     

    ไม่ใช่นะครับ อู-ฮยอน

     

    “#%#$^&@”

     

    ให้ตายเถอะ นี่มันเด็กประถมหรือเด็กอนุบาลวะเนี่ย . .

     

    พอคิดได้ว่าต่อให้ใช้เครื่องช่วยพูดเด็กที่เขาอุ้มอยู่ก็คงไม่มีทางพูดชื่อถูกอูฮยอนเลยล้มเลิกความตั้งใจจะสอนเด็กชายที่เขาต้องดูแลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปให้รู้จักชื่อพี่เลี้ยงตัวเองมาเป็นการหาขนมให้กินจะดีกว่า เด็กน้อยในความดูแลจะได้อารมณ์ดีไม่ตบหน้าเขาเหมือนเมื่อชั่วโมงที่แล้วที่เจอกันครั้งแรก ..เด็กบ้าอะไรอายุห่างกับเกือบยี่สิบปีแถมเขาก็ยังเป็นคนแปลกหน้าแต่ไม่เห็นคิมฮารังจะมีความกลัวเลยซักนิด หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายวิ่งมาขี่คอเขาเองอีก

     

    มันน่าจับไปปล่อยให้โจรมาลักพาตัวนักเชียว

     

    ฮารังกินพัตบิงซูอยู่นี่แปปนะครับ เดี๋ยวฮยองมา

    โยนเด็กตัวเล็กในชุดนักเรียนลายสก็อตดูดีน่าอิจฉากว่าตอนเขาเรียนลงบนโต๊ะไม้ทิ้งไว้พร้อมน้ำแข็งไสถั่วแดงหนึ่งถ้วยแล้วอูฮยอนก็เดินออกมา ล้วงกระดาษแผ่นเล็กจากซอกกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวเองแล้วจัดการหยอดเหรียญตู้โทรศัพท์สาธารณะกดเบอร์ตามตัวเลขที่ถูกเขียนด้วยลายมือหวัดๆ ฟังเสียงรอสายอยู่นานจนเกือบจะวางหูไปแล้วถึงได้มีเสียงผู้ชายทุ้มๆผ่านสายมา

     

    -สวัสดีครับ- 

     

    สวัสดีครับ ผมนัมอูฮยอนที่คุณติดต่อไปให้มาเป็นพี่เลี้ยงฮารังนะครับ

     

    -..........- ปลายสายเงียบ อูฮยอนขมวดคิ้วกดหูโทรศัพท์ให้ชิดเข้ามาอีก เสียงที่ดังมาก็คือเสียงคนอีกหลายคนแย่งกันพูดเหมือนมีการประชุมอะไรซักอย่างอยู่ ..ก็แปลว่าสายไม่ได้ตัดนะสิ แล้วทำไมไม่มีคนตอบวะ

     

    ฮัลโหล ได้ยินไหมครับ

     

    -..........- 

     

    ฮัล ..

     

    -มีปัญหาอะไรก็รีบพูดมาสิครับผมประชุมอยู่- 

     

    อ ..คือ

    แล้วอูฮยอนควรพูดว่าอะไรละ ..มารยาทแย่จริงๆเลยตัวเองเป็นคนจ้างเค้ามาทำงานแท้ๆ อุตส่าห์สละเวลามาให้แล้วมาพูดกันแบบนี้เนี่ยนะ

     

    -ครับ- 

    อีกคนเว้นช่วงให้เขาตอบ อูฮยอนเลยต้องเก็บความหงุดหงิดเอาไว้เพราะประโยคเดียวทีดังก้องในหัว .. ค่าเช่า ค่าเช่า ค่าเช่า ..

     

    ผมไปรับฮารังกลับมาจากโรงเรียนแล้วนะครับ ไม่ทราบว่าคุณ ..เอ่อ อยากให้ผมพาเค้าไปที่ไหนต่อรึเปล่า

     

    -พาฮารังมาที่ทำงานผมแล้วเรื่องอื่นค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันครับ- 

    ตื้ด 

     

    อ่าวเฮ่ย!

     

    คุณครับ! คุณซองกยู!

    ที่ทำงานอยู่ที่ไหนก็ไม่บอก แล้วจะพาไปถูกไหมล่ะ ..ตวัดตามองเด็กเจ้าปัญหาที่นั่งนิ่งกว่าที่คิดจ้วงน้ำแข็งไสเข้าปากไม่หยุดแล้วก็ต้องฟึดฟัดเมื่อนึกพาลไปถึงคนเป็นพ่อที่เขาไม่เคยเห็นหน้า นี่อูฮยอนต้องทำงานกับคนนิสัยแบบนี้เนี่ยนะ อยู่ๆก็โทรไปหาซองยอลตั้งแต่ตีห้าให้เพื่อนรักนั่นโทรมาบอกเขาอีกทีให้เริ่มทำงานได้เลยโดยเริ่มจากการไปรับคิมฮารังมาจากโรงเรียน ซื้อพัตบิงซูให้กินหนึ่งถ้วยและต้องเป็นของเจ้าที่อยู่หน้าสวนสาธารณะข้างโรงเรียนเท่านั้น แล้วก็ปิดท้ายด้วยการพาไปส่งถึงมือคุณพ่อแบบครบสามสิบสองประการ

    ทุกอย่างที่ว่านั่นอูฮยอนทำหมดแล้วเว้นก็แต่ข้อสุดท้ายนี่แหละ ก็ดันบอกมาแค่ที่ทำงานแล้วคิดว่าอูฮยอนจะรู้เองได้รึไงว่าตัวเองทำงานที่ไหนน่ะหะ

     

    เดี๋ยวก็ปล่อยทิ้งไว้ซะเลยนี่

     

    ยอน ปะป๊าอยู่ไหน

    อูฮยอนหันตามเสียงเล็กๆนั่น เดินตรงเข้าไปหาแล้วย่อตัวนั่งให้หน้าอยู่ระดับเดียวกัน

     

    เรียกฮยองด้วยสิครับ ฮยองแก่กว่าฮารังเยอะเลยนะ ฉีกยิ้มใจดีให้เด็กปากแดงที่ยืนเล่นน้ำลายอยู่ตรงหน้า อูฮยอนหยิกแก้มยุ้ยหวังจะเรียกร้องความสนใจแต่มันดันกลายเป็นว่า ..

     

    เพี้ยะ

     

    ยอนหยิกฮารังทำไม ฮารังจะฟ้องปะป๊า

    เห้ย ฮารังตบเขา ไอ้เด็กนี่มันตบเขา

    คว้ามือป้อมๆไว้แล้วดึงเข้าหาตัว อูฮยอนจ้องตาตี่ๆของเด็กน้อยนิ่งระงับอารมณ์ .. แย่ แย่มากๆ ก็เข้าใจอยู่ว่าภรรยาคุณซองกยูอะไรนั่นไม่ได้อยู่เลี้ยงลูกด้วยกัน แต่เพราะอย่างนั้นคนเป็นพ่อก็ต้องยิ่งดูแลลูกไม่ใช่เลยรึไง ปล่อยให้ก้าวร้าวเที่ยวตบหน้าคนอื่นสบายใจเฉิบมาตั้งห้าปีเนี่ยนะ

     

    ฮารังขอโทษฮยองเดี๋ยวนี้เลยครับ

     

    “........” ฮารังทำปากยื่น สะบัดหน้าแล้วยืนเกาพุงต่อเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น ในขณะที่อูฮยอนพยายามหายใจช้าๆ

     

    ฮารัง ขอโทษฮยอง เขากดเสียงต่ำขมวดคิ้วใส่ ฮารังเหลือบตามามองแล้วอูฮยอนถึงได้รู้ว่างานกำลังจะเข้าในอีกไม่ช้า มือป้อมทั้งสองข้างกำลังกดแนบลงกับแก้มตัวเอง ดวงตาคู่เล็กแดงก่ำที่มองมาก็ทำเอาอูฮยอนถลาเข้าไปดึงเด็กน้อยมาซุกอกแทบไม่ทัน

     

    อึก ..

    อูฮยอนปลอบคนไม่เป็นหรอกนะ . .

     

    ฮ ฮึก ..อ ปะป๊า

     

    โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับๆ

    นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เขาพูด เพราะต่อจากนั้นเด็กชายฮารังก็แหกปากร้องไห้เสียงดังจนอูฮยอนกลายเป็นจุดสนใจทันที ช้อนตัวอุ้มฮารังมืออีกข้างก็ลูบหลังลูบหัว อูฮยอนพูดคำว่าหยุดร้องนะครับเด็กดีตลอดทางแข่งกับเสียงแหลมที่ตะโกนใส่หูว่าจะฟ้องปะป๊ามาตลอดทางเหมือนกัน นึกอยากวางเด็กนี่ทิ้งไว้ข้างฟุตบาธแล้วเดินไปตบโต๊ะซองยอลพร้อมพูดกรอกหูมันดังๆเลยว่ากูไม่ทนแล้วเว้ย!

    แต่ก็นั่นล่ะ คำว่าค่าเช่ามันยังค้ำคอเขาอยู่ ..น่าโมโหจริงเชียว ทำไมอูฮยอนไม่ทำงานเก่งๆจะได้รวยแบบเพื่อนมั่งเนี่ย

     

    ฮืออออ ปะป๊า ..ยอนนิสัยไม่ดี ฮารัง ฮึก ..ฮารังจะฟ้องปะป๊า อึก

     

    เอะอะก็จะฟ้องแต่ปะป๊าอยู่นั่นล่ะ ทำไมไอ้พ่อลูกคู่นี้มันนิสัยเสียเหมือนกันขนาดนี้ นี่อูฮยอนควรไปตีพ่อหรือตีลูกดีหะ!

     

     

     

     b a b y s i t t e r .

     

     

     

    งานเข้าจริงๆด้วยแหละ

     

    อูฮยอนกำลังก้มหน้างุด หรี่ตามองปะป๊าของฮารังที่นั่งอยู่บนโซฟาฝั่งตรงข้าม ขาข้างซ้ายใต้กางเกงแส็คเนื้อดีถูกกดทับโดยเด็กน้อยฮารังที่ยื่นปากกอดคอปะป๊าของตัวเองหลังฟ้องเรียบร้อยว่ายอนนิสัยไม่ดีเลยปะป๊าอยู่ดีๆก็มาตบฮารัง ปะป๊าหักเงินเดือนยอนเลย

    ถ้าไม่ติดว่ามีสายตาดุๆส่งผ่านมาอูฮยอนคงเดินไปตบเด็กนั่นจริงๆแบบที่เจ้าตัวพูดแล้วตะโกนใส่หูไปเลยว่าไม่ได้รับเงินเดือนจากพ่อแกเว้ย ..แต่นั่นหมายถึงในกรณีที่คุณซองกยูไม่ได้มองเหมือนเขาไปฆ่าลูกชายตัวเองแล้วแบบนี้น่ะนะ

     

    คุณอูฮยอน เล่าให้ผมฟังมาว่าเกิดอะไรขึ้น

    เจ้าของชื่อเงยหน้าตามเสียงเรียกก็เห็นคิมซองกยูกำลังมองเขาด้วยสายตาที่บอกได้ว่าฉันคิดผิดรึเปล่าที่จ้างนายอูฮยอนเห็นแล้วของขึ้น จะมามองกันด้วยสายตาแบบนั้นได้ที่ไหน ใช่ว่าเขาจะอยากทำซักหน่อยไอ้งานนี่ เจอแต่อะไรน่าหงุดหงิดทั้งวันสู้ไปยืนจัดหนังสือคิดเงินหน้าแคชเชียร์แบบที่อยากยังสนุกกว่าอีก อุตส่าห์สละเวลาตัวเองมาช่วยเลี้ยงเด็กผีนี่ก็ดีแค่ไหนแถมลูกตัวเองก็ไม่ได้เลี้ยงง่ายเลยนะ เจอกันวันแรกก็ใส่ร้ายเขาซะแล้วจะให้ใจดีด้วยได้ยังไง ฟ้องไปได้ว่าตบ ไอ้ที่อูฮยอนทำน่ะเค้าเรียกหยิกต่างหาก ฮึ่ย ถ้าไม่ติดว่าไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าห้องนัมอูฮยอนก็ไม่คิดอยากเลี้ยงหรอกเว้ย!

     

    ว่ายังไง

    คุณซองกยูกดเสียงเข้มในขณะที่เขาได้แต่หงอตัวลงเรื่อยๆ

     

    ไอ้ที่บ่นมาทั้งหมดเมื่อกี้น่ะ ไม่ได้พูดไปซักแอะเดียว ..ก็ดูหน้าคนถามซะก่อนสิ อูฮยอนอยากรู้อยู่เหมือนกันว่าจะตีหน้าขรึมดุกันไปถึงไหน แค่สายตาคมก็กดดันได้มากพออยู่แล้วยังเก๊กเสียงเข้มใส่อีก . .

     

    น่าสงสารฮารังจริง จะรู้บ้างไหมนะว่ามีพ่อเป็นปีศาจกลายพันธุ์อย่างนี้

     

    งั้นผมคงต้องคุยกับซองยอล

    เห้ย

     

    ไม่ได้นะ!

    อูฮยอนพุ่งตัวไปเกาะแขนคนที่กำลังลุกจากโซฟาพร้อมโทรศัพท์เครื่องหรูที่ดูแวบๆเห็นโชว์เบอร์เพื่อนสนิทเด่นหรา ขืนตัวดึงสุดชีวิตไม่ให้โทรศัพท์เครื่องบางแนบใบหูอีกฝ่ายได้เพราะดูแล้วคุณซองกยูคงจะทำจริง

     

    ไม่ได้นะ ค่าเช่าห้องของอูฮยอนละ

     

    ผมขอร้องละคุณห้ามบอกซองยอลเด็ดขาด สัญญาเลยต่อจากนี้ฮารังจะไม่ร้องไห้อีกแม้แต่หยดเดียว

    เขาชูนิ้วสาบานข้างขมับ กัดปากทำหน้าตาน่าสงสารเรียกคะแนนด้วยแต่ดูเหมือนอากัปกิริยาต่างๆจะไม่ทำให้คนข้างหน้าสนใจซักนิด ดูจากสายตาเนือยๆที่มองกัน . .

     

    เอาอีกแล้ว อูฮยอนขอของขึ้นอีกซักทีเถอะ!

     

    นะครับคุณซองกยู

    . . ก็บอกแล้วว่าคำว่าค่าเช่ามันค้ำคอ

     

    คุณซองกยูนิ่งไปซักพัก สายตาดุที่เคยมองกดดันกันดูจะคลายความน่ากลัวลงเมื่อเจ้าของคิดอะไรดีๆได้ ..แต่มันไม่ดีกับอูฮยอนเท่าไหร่เพราะประโยคที่คุณซองกยูพูดต่อมาทำเอาอูฮยอนแทบตาถลน

     

    มาอยู่กับผม

     

    หะ!?

     

    คุณว่าอะไรนะ

     

    ผมบอกให้ย้ายมาอยู่กับผม

     

     คือ ..ให้ผมดูฮารังไปเช้าเย็นกลับดีกว่านะคุณจะได้มีเวลาส่วนตัวอยู่กับลูกคุณบ้างไง

    พูดติดๆขัดๆขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายส่งแรงกดดันผ่านสายตามาให้ อูฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นการ์ตูนเด็กเนิร์ดยืนจิ้มนิ้วอยู่ข้างหน้านักเลงหัวไม้ที่ทำแค่ยืนกอดอกมองต่ำแต่ก็ทำเอาเด็กเนิร์ดอย่างเขาขวัญเสียได้อยู่โขแล้ว

     

    คนตรงหน้าถอนหายใจแรงจนอูฮยอนรู้สึกเหมือนหน้าม้าตัวเองปลิว

     

    งั้นเดี๋ยวผมคุยกับซองยอลเองแล้วกัน

     

    เห้ยไม่ได้ๆๆๆๆ นั่นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย!

    คุณซองกยูหลุดกระตุกยิ้มตอนเขากระโจนไปขวางหน้า แต่ก็ไม่ใช่ยิ้มโลกสดใสหรอกนะมันคือยิ้มดับโลกต่างหาก เห็นหน้าตาแบบนั้นแล้วอูฮยอนก็อยากข่วนซักทีถ้าไม่ติดว่าเขาเป็นรองในทุกๆด้าน หมั่นไส้นักคนแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองถือไพ่สูงกว่ายังจะไล่ต้อนกันให้จนมุม แล้วอูฮยอนจะไม่หงุดหงิดขนาดนี้เลยถ้าคิมซองกยูไม่ทำหน้าตาท่าทางกวนประสาทใส่เขาอยู่

     

    แล้วคุณจะเอายังไง ..มาอยู่กับผม หรือโดนไล่ออกจากงาน

     

    บอกผมมาก่อนสิเหตุผลที่ต้องไปอยู่กับคุณน่ะ

    ซองกยูเลิกคิ้วขึ้นแล้วพาสีหน้าตายๆของตัวเองกลับในนั่งเอนหลังบนโซฟา ยกไวน์จิบด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้กว่าเดิมเป็นทวีคูณ อีกคนปล่อยให้มีความเงียบระหว่างคำถามเขากับคำตอบตัวเองนานเสียจนอูฮยอนจะลุกไปเตะคนขึ้เก๊กอยู่แล้วถ้าไม่ติดว่าในสองวินาทีต่อมาเสียงทุ้มลึกก็ดังขึ้นขัด

     

    ผมอยากให้คุณอยู่ดูฮารังทั้งวัน ..คุณคงรู้ว่าเค้าค่อนข้างขาดความอบอุ่น

    ผมเองก็งานยุ่งมากบางคืนผมแทบไม่ได้นอนด้วยซ้ำ ไม่มีเวลาไปดูแลเค้าหรอก

    เพราะถ้าผมมีผมก็คงไม่จ้างคุณมา

    “..แถมดูแล้วคุณก็น่าจะไม่มีงานทำ คงไม่เสียเวลาเท่าไหร่

    อูฮยอนถลึงตาใส่จังหวะที่อีกฝ่ายไม่ได้มอง ก็ดูปากแบบนี้มันน่าไหมละถ้าไม่ติดคำว่าค่าเช่าห้องนะอูฮยอนจะคว้าขวดไวน์ข้างตัวไปตีแสกหน้าจริงๆด้วย

     

    แล้วขอเถอะ ไอ้ที่มานั่งหัวโด่รับคำสั่งจากเจ้านายอยู่เนี่ยไม่เรียกว่าทำงานรึไง เดี๋ยวก็เสยซะหรอก

     

    แต่ถ้าคุณไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร ผมว่าซองยอล..

     

    เดี๋ยวคุณอย่าเพิ่งสิ!

    อูฮยอนอยากร้องไห้ เกิดมาไม่เคยต้องยอมใครขนาดนี้มาก่อน กับคิมมยองซูรุ่นน้องขวางโลกที่โรงเรียนมัธยมอูฮยอนยังเล่นหัวได้โดยไม่กลัวจะโดนแกล้งกลับซักนิดเลย แล้วคิมซองกยูนี่อะไร กะอีแค่ผู้ชายชอบทำตัวแก่ที่เอาแต่ดุคนอื่นเค้าไปทั่ว กับลูกตัวเองก็ยังดูไม่อ่อนโยนเท่าที่ควรเขาไม่เห็นจำเป็นต้องไปกลัวเลย

     

    ก็แค่ผู้ชายแก่หน้าดุคนนึง ที่กุมเงินค่าเช่าห้องอีกครึ่งนึงของนัมอูฮยอนเท่านั้นเอง . .

     

    ก็ได้ ผมตกลง ผมจะย้ายของเข้ามาวันนี้เลย

     

    คิมซองกยูสิ่งที่เกลียดอันดับหนึ่งเคาะนิ้วกับโต๊ะยกยิ้มพอใจในคำตอบ กุญแจรถสีเงินบนโต๊ะถูกอีกฝ่ายเก็บรวบไปแล้วคนขี้เก๊กก็เดินอ้อมมาดึงมือเขาให้ลุก อูฮยอนถูกยัดใส่รถก่อนคุณพ่อใจยักษ์จะส่งลูกตัวเองมาเหยียบตักทึ้งหัวเขาที่นั่งงงอยู่เบาะหน้า

     

    ยอนเกะกะจัง นี่ที่ฮารังนะ

    เด็กเวร ไปบอกพ่อแกนู่น

     

    คุณจะพาผมไปไหน

    เลิกสนใจเด็กผีข้างหน้าไปถามคนที่ดูน่าจะคุยกันรู้เรื่องมากกว่า แต่ก็เหมือนจะคิดผิดเมื่อคุณซองกยูทำมาแค่ตอบคำถามแบบกำกวมแถมยังชวนให้ตั๊นหน้าซักที

     

    อยู่นิ่งๆไปเถอะน่า ผมมีงานให้คุณทำก็แล้วกัน

     

    เขาเพิ่งค้นพบก็วันนี้ว่าสองสิ่งที่เกลียดที่สุดในโลกคือคิมซองกยูและคิมฮารัง



    to be continued

     

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×