ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {KiHong} - Model’s confession

    ลำดับตอนที่ #2 : First Confession

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 106
      0
      11 เม.ย. 58

    Model’s confession.

     

    สารภาพรักครั้งที่ 1

     

     


    It's not right to love you, I know.

    But I can't force myself to forget you.

    You gave color to my life.

    Though I know the time is not right.

     

     

    ประกาศ ขณะนี้เครื่องบินกำลังจะลงจอด ขอให้ผู้โดยสารทุกท่านนั่งประจำที่และสวมเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยด้วยค่ะเสียงประกาศจากทางสายการบินดังขึ้นเพื่อเตือนว่าเครื่องกำลังจะลงจอดแล้ว

     

     

    “เชี่ยละ พี่ยองแจ ผมปวดฉี่อ่ะ” เสียงแปร่งๆของร่างสูงดังขึ้น

     

     

    “เอ้า แล้วมึงมาปวดอะไรตอนนี้วะ ค่อยไปเข้าห้องน้ำที่สนามบิน” เสียงหวานๆของคนเป็นพี่เอ่ยบอกน้อง

     

    “โอ้ย แล้วต้องเอาเข็มขัดมารัดอีกเนี่ยนะ จุนฮง อดทนไว้” ร่างสูงพูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับเบ้หน้าให้ตัวเอง

     

     

    “ขณะนี้เครื่องบินลงจอดถึงพื้นเรียบร้อยแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ใช้บริการ ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ” เสียงประกาศดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับร่างสูงที่เด้งตัวลุกจากเบาะที่นั่งแล้ววิ่งตรงไปที่ทางออก

     

     

     

    “เอ้า แล้วจุนฮงไปไหนหละนั่น” เสียงพี่ใหญ่ในวงถาม เมื่อเห็นว่าอยู่ดีๆคนตัวสูงก็วิ่งออกไปอย่างรีบร้อน

     

     

    “มันปวดฉี่หนะพี่ ปวดตั้งแต่เครื่องกำลังจะลง” เสียงคนที่นั่งข้างๆไอเด็กเจ้าปัญหานั่น เอ่ยบอกหัวหน้าวง

     

     

    “แล้วมันจะรู้มั้ยวะ ว่าต้องไปออกตรงเกทไหน” คราวนี้เป็นเสียงพี่รองที่เอ่ยขึ้นบ้าง

     

     

    “ชิบหายละ...” แต่คราวนี้เป็นเสียงที่ทั้งวงเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

     

     

     

    “เฮ้อออ โล่งสุดๆ” ร่างสูงเอ่ยขึ้นเมื่อทำธุระของตัวเองเสร็จ และกำลังล้างมือ เช็คหน้าเช็คผมของตัวเองก่อนที่จะต้องไปเจอกับกล้องของเหล่าแฟนคลับนับสิบตัวที่มารอรับพวกเขาที่สนามบิน

     

    ร่างสูงก้าวออกมาจากห้องน้ำก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้

     

    แล้วต้องไปออกเกทไหนวะเนี่ยร่างสูงคิดในใจ

     เพราะว่าเขามุ่งมั่นที่จะมาเข้าห้องน้ำมากเกินไปจนไม่ได้ถามพี่ๆในวงก่อนว่าพวกเขาต้องไปที่เกทไหน และนั่นทำให้เขาต้องมายืนเคว้งคว้างอยู่หน้าห้องน้ำแบบนี้

     

    ไอพอด ไอโฟน อะไรไม่มีสักอย่าง อยู่ในกระเป๋าตรงที่นั่งหมด ชิบหายแล้วครับชเวจุนฮง

     

    “นาย เป็นสมาชิกบีเอพีใช่มั้ย” อยู่ๆเสียงเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น ทำให้เขาต้องหันไปมองผู้ที่มาทักทาย

     

    สูง หุ่นดี หล่อ แต่งตัวดี จุนฮงขอสรุปเลยครับว่า เพอร์เฟ็ค!

     

    “เออ ใช่ครับ แล้วคุณ?” ถามออกไป เพราะว่าคนนี้อาจจะเป็นแฟนบอยของพวกเขาก็ได้ เผื่อว่าจะรู้ว่าพวกพี่ๆเขาไปทางไหน

     

     

    “อ๋อ ผมชื่อคิม คิบอม ผมเห็นคุณมาไฟลท์บินเดียวกับผม แล้วคุณยังไม่กลับหรอครับ” เสียงทุ้มนั่นถามขึ้น

     

     

    “เอ่อ พอดีว่าผมหลง” ตอบให้กับคนแปลกหน้ายิ้มๆ พร้อมกับเอามือเกาท้ายทอยแก้เขิน  ซึ่งมันทำให้คนมองยิ้มออกมา

    ผู้ชายอะไรวะ น่ารักชิบคิบอมคิดในใจ

     

     

    “งั้นหรอครับ งั้นเดี๋ยวผมพาไปหาคนในวงคุณเอง” คิบอมพูดพร้อมกับกอดคอคนตัวสูงอีกคนลากไปทางที่เขาเห็นกลุ่มบีเอพีเดินออกมา

     

     

     

     

    “จุนฮงทำไมยังไม่มาอีกนะ โทรศัพท์อะไรก็ทิ้งไว้นี่หมดเลย” ยองแจพูดขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังยืนรอจุนฮงอยู่ตรงทางออกเกทสาม

     

     

    “เฮ้ย นั่นไง แล้วใครวะกอดคอมันมา” หนุ่มเสียงหลักอีกคนของวงพูดขึ้นบ้าง

     

     

    “เฮ้ย พี่ ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าพวกเราต้องออกเกทไหนถ้าไม่ได้คิบอมช่วยพามา ผมก็หลงอ่ะ” คนตัวสูงพูดขึ้นเมื่อเดินมาถึงกลุ่มของตัวเอง

     

     

    “อ่าว คิบอมว่าไง ไม่เจอกันนาน” เสียงทักขึ้นจากพี่ซองจี สไตล์ลิสต์คนเก่งของหกหนุ่ม

     

     

    “สวัสดีครับ พี่ซองจี” คิบอมทักทายตอบ

     

     

    “เอ่อ นายรู้จักกับเจ๊ซองจีด้วยหรอ” เด็กหลงทางที่พึ่งถูกเอาตัวมาส่ง หันไปถามผู้มีพระคุณ และก็เอานิ้วขาวๆชี้ไปชี้มาระหว่างคนสองคน

     

     

    “คิบอมเป็นนายแบบที่ฉันเคยไปดูแลเรื่องเสื้อผ้าให้หนะ  ตอนนี้หล่อใหญ่เลยนะ เมื่อก่อนนายยังดูใสๆแบ้วๆอยู่เลย” สไตล์ลิสต์คนเก่งพูดอธิบายให้ทุกคนที่ตอนนี้คิ้วผูกกันเป็นปมฟัง พร้อมกับหันไปชมคนที่ตอนนี้ยิ้มเขินๆ

     

     

    “แหม่ พี่ ผมก็อยากโชว์ด้านแมนๆบ้างสิครับผมเป็นผู้ชายนะ แล้วอีกอย่างผมก็โตแล้วไม่ใช่เด็กๆ” คิบอมพูดตอบกลับ

     

    “เออนายนี่ดูความคิดเป็นผู้ใหญ่ ไม่เหมือนไอเด็กหัวแดงนี่ ทั้งๆที่ก็อายุเท่าๆกันแท้ๆ ทำไมไอนี่มัน...” อยู่ๆ คนที่ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้องก็หันมามองคนที่กำลังจะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเขา

     

     

    “อะไรเจ๊ พูดให้มันดีๆนะ” คนที่ถูกพาดพิงพูดขึ้นเพื่อดักทางเจ๊คนนี้ที่ชอบแกล้งเขาเสียเหลือเกิน

     

     

    “เปล่าหนิ ช่างเหอะ เออว่าแต่นายทำไมถึงรู้ว่าพวกเราออกเกทไหนหละ” ซองจีหันไปถามคิบอมบ้าง

     

     

    “ก็ผมกลับจากไปเดินแบบที่นิวยอร์ค ไฟลท์เดียวกับพวกพี่แหละ แล้วผมก็เจอหมอนี่ไปเดินเอ๋อๆหน้าห้องน้ำ ผมเห็นว่าเขามากับพี่ผมก็เลยพามา”

     

     

    “อ๋อๆ ขอบใจๆ” สไตล์ลิสต์สาวพูดพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก

     

     

    “เอ่อ พี่ซองจี ผมมีอะไรอยากให้ช่วย” คิบอมใช้โอกาสที่คนตัวขาวหันไปหัวเราะกับสมาชิกในวง หันไปกระซิบซองจี

     

     

    “หืม อะไร”

     

     

    “ผมขอคาทกจุนฮงหน่อยสิ” คิบอมพยายามกระซิบให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากให้คนตัวขาวได้ยิน

     

     

    “หึ ถ้าสนใจก็ขอเจ้าตัวเองสิ ไอเด็กบ้านั่นเฟรนด์ลี่จะตาย แถมยังชอบแฟชั่นอีก” แบค ซองจี พูดตอบกลับพร้อมกับ ตบบ่าคิบอมเบาๆแล้วเดินไปตามเสียงเรียกของพี่คังเมเนเจอร์

     

    คิบอม มึงเกิดป๊อดอะไรตอนนี้ ทีเมื่อก่อนขอเบอร์สาวมาแล้วกี่คนมึงยังขอได้ แล้วนี่แค่ผู้ชายน่ารักๆคนเดียวมึงป๊อดหรอ

     

    เออ

     

    คิดเองตอบเองในใจเสร็จสรรพ

     

    “พวกเรากลับกันเถอะ ทุกคนไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องใช่มั้ย ใครลืมอะไรหรือเปล่า” เสียงพี่คังเมเนเจอร์ดังขึ้น ถามสมาชิกในวง

     

     

    “ไม่มีครับ เรากลับกันเถอะ ผมง่วงนอนจะแย่อยู่แล้วอ่ะ” และก็เป็นเสียงน้องเล็กในวงที่พูดขึ้นมา พร้อมท่าบิดขี้เกียจ

     

    โอ้ย จุนฮง ผู้ชายอะไรวะ น่ารักชิบหาย แถมท่าบิดขี้เกียจเมื่อกี้นะ ตราตรึงใจสุดๆ ผิวขาวๆที่โผล่ออกมาจากชายเสื้อเชิ้ตสีฟ้านั่นมันช่าง... ยังคิดไม่ทันจบ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะความคิดเขาซะก่อน

     

     

    “แล้วเจอกัน ไปละ” คนตัวขาวหันมาบอกด้วยคำพูดเป็นกันเอง หลังจากที่รู้ว่าเขาอายุเท่าๆกัน

     

     

    “อ่ะ เอ่อ อืม”

     

     

    “เฮ้ย จุนฮง เดี๋ยวๆ” คิบอมตัดสินใจแล้ว เอาวะ ด้านได้อายอด

     

     

    “เอ่อ ขอคาทกของนายได้มั้ย เห็นพี่ซองจีบอกว่านายชอบแฟชั่น เผื่อฉันจะชวนนายไปดูเวลาฉันเดินแบบ” คิบอมพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์ของตัวเองไปให้อีกคน

     

     

    “อ๋อ เอาดิๆ ดีเลย อยากไปดูเหมือนกัน” คนตัวขาวพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมกับพิมพ์ไอดีของตัวเองให้กับอีกคน

     

     

    “อ่านี่ แล้วคุยกัน” จุนฮงยื่นโทรศัพท์กลับไปให้เจ้าของ แล้วโบกมือลา

     

     

    “โอเค แล้วคุยกัน”  ว่าที่แฟน  ไอคำข้างหลังนี่ไม่ได้พูดนะ แค่เติมเองในใจ อิอิ

     

    โอ้ย ได้แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ คติด้านได้อายอดนี่มันใช้ได้ดีทีเดียว

     

    แต่ก็ไม่น่าเชื่อนะว่า Love at first sight มันจะมีจริง เหอะๆ เขาคงโดนของอะไรสักอย่างแล้วหละ

     

    ของที่โคตรจะน่ารักที่ชื่อ ชเว จุนฮง  

     

    คิดแล้วก็อดที่จะยิ้มกับตัวเองไม่ได้

     

    ผู้ชายตัวสูง ผิวขาว ผมแดงๆชมพูๆ ปากแดงๆ ยืนหลงอยู่กลางสนามบิน หึ ตลกชะมัด หน้าเหวอๆนั่นมันยังติดตาเขาอยู่เลย

     

    “ ชเว จุนฮง ”

    ร่างสูงอมยิ้มแล้วพึมพำชื่อนั้นอีกครั้งพร้อมกับเดินลากกระเป๋าออกไปอีกทาง

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มาแล้วครับผมมมม ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ลง หลังจากที่ลงอินโทรไป  จุนฮงขี้อ่อยแบบไม่รู้ตัวมากอ่ะ 55555555555 เดี๋ยวความสนิทจะค่อยๆพัฒนาการนะคะ ไม่ต้องตกใจไปว่าทำไมพวกเขาพูดกันสุภาพจัง ฮ่าๆๆๆๆๆ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ จะเม้นต์จะโหวต จะแชร์ หรือ ติดแท็กสครีมกันได้ตามสบายนะคะ

    #คิฮงนายแบบ 

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×