ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {KiHong} - Model’s confession

    ลำดับตอนที่ #4 : Third Confession

    • อัปเดตล่าสุด 24 มี.ค. 59


    คำสารภาพที่ 3

     

     

    “คิดไรอยู่วะ นั่งทำหน้าคิ้วชนกันมาตั้งแต่ในงานละ” เมื่อทั้งคู่เดินออกมา คิบอมก็หันไปถามคนที่เดินมาข้างกัน

     

    “เปล่าหรอก ช่างเหอะ ไม่เป็นไร กูคงเหนื่อยมั้ง” จุนฮงตอบปัด

     

    “เออๆ งั้นมึงก็กลับเหอะ เดี๋ยวเดินไปส่ง ป่านนี้รถเมล์น่าจะยังมีอยู่” คิบอมพูดตอบ ไม่อยากเซ้าซี้อีกคนเท่าไหร่ เพราะรู้ว่าอีกคนคงยังไม่พร้อมที่จะเล่าอะไรให้เขาฟังเท่าไหร่นัก

     

    เมื่อทั้งคู่เดินมาถึงป้ายรอรถ คิบอมก็ยืนพิงป้ายรถเมล์มองหน้าไอคนตัวขาวที่ยังทำหน้ามุ่ยไม่หาย

     

    “จุนฮง” เสียงทุ้มต่ำ เรียกอีกคน ทำให้จุนฮงต้องเงยหน้าจากพื้นดินมามองคนที่มองอยู่ก่อนแล้ว

     

    “ห้ะ? ทำไม?”

     

    มือหนาแตะที่คิ้วที่ขมวดกันเป็นปมของอีกฝ่ายแล้วนวดเบาๆ ทำให้คนตัวขาวชะงักไปเล็กน้อย

     

    “กูแค่ไม่อยากเห็นมึงเครียด กูอยากเห็นหน้าทะเล้นๆ สดใสๆของมึงมากกว่าหน้าคิดมากคิ้วผูกกันเป็นโบว์ขนาดนี้”

    ร่างสูงเว้นวรรคคำพูดไปสักพักแล้วพูดต่อ

     

    “กูเป็นห่วงมึงนะ”

     

    “...”

    จุนฮงนิ่งไป จนอีกคนต้องเอ่ยออกมาอีกรอบ พร้อมสัมผัสจากมือหนาที่จับมาที่ไหล่ของตัวเอง แล้วออกแรงจับให้หันไปทางถนนเบื้องหน้า

     

    ก่อนจะออกแรกผลักเบาๆ พร้อมกระซิบข้างหูคนที่สติยังเข้าร่างไม่เต็มร้อย

     

    รถมาแล้ว กลับบ้านดีๆนะ  

     .

     .

    .

    .

    รถเมล์เคลื่อนตัวออกมานานแล้ว แต่บทสนทนาเมื่อครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวชเวจุนฮง

     

    กูเป็นห่วงมึงนะ

               

    ไหนจะลมหายใจเมื่อตอนที่อีกคนมากระซิบข้างหูนั่นอีก นึกแล้วก็อดใจเต้นไม่ได้ แต่ว่าใจเต้นกับเพื่อนเนี่ยนะ บ้าไปแล้วชเวจุนฮง คิดพลางส่ายหัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันช่วยทำให้เขาไม่คิดมากเรื่องโจทก์เก่าอีก

    จุนฮงหยิบหูฟังขึ้นมาใส่ พลางมองไปยังอาคารต่างๆข้างทางที่เริ่มปิดไฟ เพราะเริ่มดึกแล้วพนักงานต่างๆก็กลับกันหมด

    นั่งฟังเพลงและคิดอะไรเพลินๆ ไม่นาน ร่างสูงก็มาหยุดยืนอยู่ที่ประตูหอพักของตัวเอง ขายาวก้าวเข้ามาในบ้านที่สมาชิกกำลังรวมตัวกันบริเวณห้องนั่งเล่น

    “กลับมาแล้วหรอ จุนฮงมานั่งดูรีรันงานแฟชั่นวันนี้สิ มีแต่แฟชั่นเก๋ๆ นายน่าจะชอบนะ” พี่รองของวงเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นเขาเข้ามาในบ้าน

     

    “ไม่หละครับ ผมพึ่งไปดูมา ขอตัวนะครับ เหนื่อยมากเลย” จุนฮงพูดโดยไม่ได้สนใจสีหน้าคนฟังทั้งห้าคนที่ตอนนี้มองหน้ากันตาปริบๆ พร้อมกับความสงสัยว่า

     

    มันไปมาตอนไหน และไปกับใคร

     

    “เฮ้อออ” ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องแล้วล้มตัวลงบนเตียงทันที ใบหน้าแนบไปกับหมอนสีขาวนุ่มนิ่ม เจ้าตัวเอาหน้าถูไปมากับหมอนแล้วก็ถอนหายใจอีกรอบก่อนจะลุกขึ้นนั่ง

     

    กูถึงบ้านแล้วนะ ขอบคุณที่พาไปเที่ยว วันหลังเลี้ยงข้าวกูอีกนะพิมพ์ข้อความในโปรแกรมแชทแล้วกดส่งออกไปหาอีกคนที่วันนี้อยู่กับเขาทั้งวัน

     

    เออๆ ถึงบ้านก็ดีแล้ว ได้ทีแล้วเอาใหญ่เลยนะมึง แต่ความจริงเลี้ยงมึงทั้งชีวิตกูก็โอเค…’

    อีกคนตอบกลับมาทันที

     

    “หึหึ มึงพูดแล้วนะ” ร่างสูงพึมพำ พร้อมกับแคปหน้าจอไว้ แล้วส่งข้อความตอบกลับไปว่า

     

    มึงพูดแล้วนะ กูแคปไว้เป็นหลักฐานแล้วด้วย

     

     

    ร่างสูงของอีกคนส่ายหัวเบาๆกับความกวนประสาทและนิสัยเด็กๆของอีกคน เขาอุตส่าห์แอบหยอดไป ไม่เขินบ้างหรือไงนะ

     

    คิบอมเก็บโทรศัพท์หลังจากที่อีกคนบอกจะไปอาบน้ำ คืนนี้ของเขายังอีกยาวไกล งานเลี้ยงนายแบบกำลังรอเขาอยู่

     .

     .

    .

    .

    ร่างสูงออกมาจากห้องน้ำในสภาพหัวเปียกมีหยดน้ำเกาะตามใบหน้าและเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสีดำที่ตัดกับผิวขาวผ่อง

    ครีมต่างๆถูกหยิบมาใช้บำรุงผิวหน้า การเป็นนักร้องนี่ทำให้เขาหันมาสนใจผิวพรรณขึ้นเยอะมาก และเพราะว่าเขายังอยู่ในวัยที่เป็นสิว เขาจึงต้องใช้เวลากับเรื่องนี้เยอะสักหน่อย

    หลังจากใช้เวลากับครีมหลายขวดบนโต๊ะ ชเวจุนฮงก็กลับมานอนเล่นบนเตียง ร่างสูงนอนคิดอะไรไปเรื่อย จนได้ยินเสียงแจ้งเตือนแอพลิเคชั่นจากโทรศัพท์นั่นแหละ เขาจึงได้หยิบมันขึ้นมาดู

    รูปถ่ายของเขาในวันนี้ถูกส่งมาจากชื่อที่คุ้นเคย พร้อมกับคำทักทาย

     

    ไม่คิดว่าจะได้เจอนายวันนี้นะ

     

    “หึ” ร่างสูงมองข้อความที่ถูกส่งมาพร้อมกับ แสยะยิ้ม แล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

     

    พูดแบบนี้มันต่างอะไรกับการบอกผมว่ายังไม่ตายอีกหรอครับ

     

    ชเวจุนฮง ฉันไม่ได้อยากชวนนายทะเลาะนะ อย่ามาหาเรื่องกัน

     

    ปล่อยมันผ่านไปไม่ได้หรอ อย่ามายุ่งกับชีวิตผมอีกไม่ได้หรอครับขอบตาของร่างสูงเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นมาดื้อๆ

     

    หึหึ เด็กน้อย นายหนีฉันไม่ไหนไม่รอดหรอก แล้วเจอกันนะเด็กน้อยของฉัน

     

    จบข้อความนั้นจุนฮงก็ซบหน้าลงกับฝ่ามือตัวเอง ปล่อยน้ำตาให้ไหลลงมาเมื่อยามนึกถึงความเจ็บปวดที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจากคนคนนั้น คนใจร้ายที่ไม่เคยสนใจความรู้สึกของเขาสักนิด

    เขานี่มันโง่จริงๆรักคนแบบนั้นไปได้อย่างไรกันนะ

     .

     .

     .

     .

     .

    “ว่าไงพ่อนายแบบดีเจ” เสียงทักทายจากคนในวงดังขึ้นเมื่อเขานั่งลงในวงสนทนา

     

    “ก็ดี” เขาตอบพร้อมกับหยิบแก้วน้ำส้มมาดื่ม

     

    “เตรียมฉลองสละโสดได้แล้วมั้งงงคุณนายแบบไฟแรง”  

     

    “ฮิ้ววววววว” เรียกเสียงโห่แซวได้จากนายแบบทุกคนในโต๊ะ

     

    คงไม่เร็วๆนี้หรอกร่างสูงตอบ โดยใบหน้าไม่ได้ยิ้มแย้มเท่าไหร่นัก

     

    “อ่าว ทำไมวะ” เป็นแจฮยอกที่เอ่ยถามออกมา

     

    “ก็ไม่รู้สิ ช่างเหอะๆ กินต่อๆ” คิบอมพูดโดยไม่ให้คนอื่นได้ถามอะไรอีก เพราะเขาก็ยังไม่แน่ใจในความสัมพันธ์หรืออะไรทั้งนั้น

    เขาก็ยังไม่มั่นใจนักหรอกว่าเขาชอบจุนฮงจริงๆหรือเปล่า เพราะก็พึ่งรู้จักกันไม่นาน แต่ว่าไอเด็กนั่นมันมีอะไรบางที่ทำให้เขาอดห่วงไม่ได้ ความร่าเริง ความซน ความดื้ออีกทั้งความขี้อ้อนของเด็กนั่นก็ทำให้เขารู้สึกอยากอยู่ใกล้ๆ อยากคอยดูแล

     

    คิบอมคิดถึงตอนที่บอกอีกฝ่ายว่าเขาชอบรอยยิ้ม หน้าทะเล้นๆของอีกคนมากกว่าหน้าที่ดูไม่สดใสคิ้วขมวดนั่นก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาชอบลักยิ้มน้อยๆของอีกคนมากจริงๆ เห็นแล้วอยากจะเอามือไปจิ้ม แล้วหยิกแก้มขาวๆที่เหมือนซาลาเปานั่นสักที ถ้าเจอครั้งหน้า เขาคงต้องแกล้งไอเด็กยักษ์นั่นซะหน่อยแล้วหละ

     .

    .

    .

    .

    .

     


    “ไอคุณโรมครับ มัวแชทกับสาวที่ไหนอยู่ครับ กับคงกับข้าวนี่ไม่คิดจะทำให้กูกินเลยใช่ไหม กลับมาก็นั่งกดโทรศัพท์เลยนะ กูนั่งมองมึงมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ”

     

    “กูไม่ได้คุยกับสาว กูคุยกับแฟนเก่า” เสียงของคนที่ถูกเรียกว่าโรมตอบกลับมา

     

    “แฟนเก่าคนไหนของมึงอีกอ่ะ เด็กไอดอลนั่นอ่ะหรอ” อีกคนถาม

     

    “อืม”

     

    “มึงไปแกล้งอะไรเค้าอีกหละ” อีกฝ่ายที่คิดว่าการสนทนาครั้งนี้จะยาวทนไม่ไหวเลยเดินไปหยิบขนมขบเคี้ยวมากินรองท้องไปก่อน

     

    “เด็กมันน่าแกล้ง กูก็เลยทำอะไรนิดหน่อย” โรมตอบพร้อมกับเลื่อนดูรูปของอีกคนที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ตอนนี้ที่เขาถ่ายมาได้วันนี้

     

    “แกล้งเค้ามาก ระวังมึงจะโดนเองบ้าง ช่างเรื่องของมึงเถอะ รีบๆไปทำกับข้าวให้กูได้แล้วโว้ยไอโรมมม หิวจนจะกินมึงเข้าไปได้แล้ว” คนพูดบ่นเป็นหมีกินผึ้งแล้วเดินไปนั่งรอในครัว ทิ้งให้อีกคนนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง พร้อมกับใบหน้าของคนที่อยู่ในหัวข้อสนทนาเมื่อสักครู่ที่ลอยเข้ามาในหัว

    .

    .

    .

     .


    “ว่าไงลูกชาย ทำไมวันนี้ตื่นเช้าได้หละ” เสียงทุ้มของพี่ใหญ่ในวงเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นเด็กหนุ่มเดินออกมาจากห้อง พร้อมขยี้หัวจนผมฟูไม่เป็นทรง

     

    “เป็นอะไรทำไมตาบวมด้วย วันนี้อดไปเที่ยวแน่ๆไอหนู” พี่ใหญ่ของวงพูดขึ้นโดยที่สายตายังจดจ่อกับข่าวในทีวีตรงหน้า

     

    “พี่ครับ คนเราจะมีเหตุผลที่จะรักใครคนนึงกี่เหตุผลกันครับ” ร่างสูงนั่งลงข้างๆคนเป็นพี่ก่อนจะหยิบหมอนอิงมากอด แล้วเหม่อสายตาไปอย่างไร้จุดหมาย

     

    “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ แต่ว่าบางทีอาจจะไม่มีเหตุผลเลยก็ได้นะ แค่เคมีตรงกันมันก็สปาร์คได้แล้ว”

     

    “ผมขออีกคำถามนึงนะครับ” เด็กหนุ่มพูดต่อ และได้รับการตอบรับโดยการพยักหน้าตอบจากอีกฝ่าย

     

    “ทำไมคนเรายังจำ และยังรักอีกคนที่ทำไม่ดีกับเราหละครับ”

     

    “นายต้องแยกคำว่ารัก กับคำว่าจำนะ นายอาจจะแค่ยังจำความรู้สึกเหล่านั้น จำภาพของช่วงเวลาดีๆเหล่านั้นที่เคยใช้ด้วยกันกับใครสักคนได้ แต่ไม่ได้แปลว่านายจะยังรักเค้าอยู่ หรืออาจจะเป็นเพราะสมองของเรายังคงเลือกจะจำส่วนที่ดีของเขาโดยไม่สนใจว่าเขาจะทำร้ายจิตใจเราไปแล้วแค่ไหนก็ได้ หรืออาจจะเป็นความเคยชินที่เคยมีเค้าแต่พอไม่มีมันก็รู้สึกคิดถึงใช่มั้ยหละ”

     

    “เฮ้อออ นั่นสินะครับ ขอบคุณนะพี่ ผมขอไปหาอะไรกินก่อน ในตู้มีอะไรกินมั้ยพี่” ร่างสูงลุกขึ้นยืน พร้อมบิดขี้เกียจ

     

    “รามยอนสองห่อ” เสียงทุ้มตอบกลับมาโดยไม่ลังเล และเพราะเหตุผลนี้เขาเลยต้องมานั่งจิบกาแฟดูข่าวเช้าอยู่นี้ไง รามยอนกับตอนเช้าดูจะไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่นัก ถึงแม้เขาจะชอบรามยอนก็เถอะ

     

     

    “หึหึ งั้นหรอครับ” ร่างสูงหัวเราะเบาๆแล้วเดินหายเข้าไปในครัว ทิ้งบทสนทนาเมื่อสักครู่ให้จางไปพร้อมกับควันหอมกรุ่นของกาแฟในแก้ว

     



                                                                      ..............................................

     

    Puppy’s love always breaks someone’s heart and leaves us pain , when the time past it will be just a memory.

     

     

     

     



     

                     

     

     

    สวัสดีค่ะ ลืมกันไปหรือยังง เรากลับมาแล้ว กลับมาพร้อมโมเม้นต์ของคู่นี้ด้วย ฮี่ๆๆ เราคิดถึงคู่นี้มากๆเลย ตอนนี้ก็มีหวานเศร้าซึ้งปนกันไป ถ้าใครลืมเราแนะนำให้กลับไปอ่านใหม่ ฮ่าๆ ตอนนี้เรามีเวลาว่างแล้ว ว่างไปอีกนานเลย เราจะอัพให้จบนะคร้าบบบ ทุกคนโปรดอย่าสาปแช่งเรา ยังไงก็ฝากฟิคคู่แปลกคู่นี้ด้วย สำหรับใครเมนจุนฮงหรือไม่เมนก็ได้ หรือใครชอบคู่นี้ก็อ่านได้ 555555 เหมือนเดิมครับผม พูดคุย/ทวงฟิค ได้ที่

    Twitter : @xT_rek หรือ #คิฮงนายแบบ #คิฮง

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×