ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { Lodae } - We're different.

    ลำดับตอนที่ #2 : We’re Different… 1

    • อัปเดตล่าสุด 13 ธ.ค. 57


    We’re Different… 1

     

                เช้าวันเสาร์ที่อากาศเย็นสบาย พร้อมกับแสงแดดที่ส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ร่างสูงที่นอนอยู่บนเตียงขยับตัวไปมาเล็กน้อยและค่อยๆลืมตาขึ้น

                เขานอนนิ่งอยู่พักใหญ่เพื่อคิดถึงสิ่งที่จะทำวันนี้ และค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นจากที่นอนอันแสนอบอุ่นและเข้าห้องน้ำไป พร้อมกับไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปหาอีกคน

                วันนี้อย่าลืมมาดูผมนะ

     

                บรรยากาศภายในงานคอนเสิร์ตเล็กๆของวงSKY วงดนตรีแสนโด่งดังของมหาวิทยาลัยเกียร์นั้นเป็นไปอย่างครึกครื้น เหล่านักศึกษาทั้งหญิงและชายต่างก็พากันมาที่ลานกลางแจ้งของมหาวิทยาลัยเพื่อรอคอยการแสดงของวงSKY เสียงพูดคุยจ้อกแจ้กจนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร แสงแฟลชที่สาดใส่ผู้คนเพื่อบันทึกภาพกับสถานที่และบรรยากาศภายในงาน ทำให้การแสดงในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นงานใหญ่ของมหาวิทยาลัยเลยก็ว่าได้

               

    “พี่ครับ จุนฮงมาหรือยัง?” หนึ่งในนักดนตรีของวงSKY ถามขึ้นเมื่อยังไม่เห็นrapperของวง

    “นั่นสิยองแจ พี่ยังไม่เห็นมันเลยนะ เฮ้ย นั่นไง ตายยากจริงไอเด็กนี่ แล้วดูสิ รถใหม่สินะ ขยันเปลี่ยนรถเป็นว่าเล่นเลยนะมันหนะ” เสียงของฮิมชานพี่ใหญ่สุดในวงเอ่ยขึ้นพลางชี้ไปที่น้องเล็กสุดในวงที่ตอนนี้กำลังก้าวลงจากรถlamborGHini GAllardo GT3 fl2 สีดำสนิท

    “โทษทีครับพี่ พอดีรถติดนิดหน่อย” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์ทองในชุดเชิ้ตสีขาวแขนยาว เดินก้าวตรงมายังหลังเวทีที่สมาชิกในวงรออยู่

    “ไม่เป็นไรหรอก วันนี้นายดูดีนะ มีอะไรหรือเปล่าเนี่ย” คนเป็นพี่ใหญ่ที่สุดในวงถามขึ้น

    “ก็นิดหน่อยครับ พี่ครับจำพี่แดฮยอนได้ใช่มั้ยครับ ที่เรียนหมออยู่ปีสี่หนะ คนที่ผมกำลังคุยอยู่อ่ะ”

    “อืมจำได้สิ ทำไมหรอ อย่าบอกนะว่านายจะใช้โอกาสนี้ขอเค้าเป็นแฟนหนะ” ฮิมชานพูดพร้อมส่งสายตารู้ทันมาให้

    “พี่นี่รู้ดีจริงนะครับ ถูกต้อง เพราะฉะนั้นพี่ๆต้องช่วยผมนะ ผมจะใช้เพลงYes,you ของstanding eggนะครับ    พี่ฮิมชานเล่นกีตาร์ให้ผมหน่อยนะ แล้วก็พี่ยองแจช่วยผมร้องด้วย” จุนฮงพูดพลางส่งสายตาอ้อนๆไปให้พี่ทั้งสองทำให้ยองแจและฮิมชานปฏิเสธไม่ลง

     

    แสงไฟภายในงานค่อยๆดับลงและร่างสามร่างของสมาชิกวงSKY ค่อยๆปรากฏขึ้นบนเวที พร้อมกับเสียงกรี๊ดของสาวๆแฟนคลับดังขึ้น

    คอนเสิร์ตดำเนินไปอย่างสนุกสนาน เรียกเสียงกรี๊ด และรอยยิ้มของผู้ชมได้เป็นอย่างดี รวมทั้งบทสนทนาที่มาแทรกเป็นระยะๆก็ทำให้คอนเสิร์ตไม่น่าเบื่อเกินไป สมกับที่เป็นวงมืออาชีพ

    “เป็นไงครับทุกคน คอนเสิร์ตของเราวันนี้จะเป็นคอนเสิร์ตสบายๆต้อนรับฤดูหนาว ฟังเสียงหวานๆของพี่ยองแจแล้วก็ตัดด้วยเสียงแร๊ปสุดเท่ของผมนี่มันดีจริงๆใช่มั้ยครับ” เสียงจากแร๊ปเปอร์ ชเวจุนฮง หรืออีกชื่อที่หลายคนในมหาวิทยาลัยรู้จักคือ เจลโล่ เอ่ยขึ้นทักทายแฟนคลับของเขาหลังจากจบเพลงที่ห้า

    “หลงตัวเองจริงนะเจลโล่ คนเค้าอยากมาฟังเสียงแหบเสน่ห์ของพี่ต่างหากจริงมั้ยครับ” ฮิมชานพูดพร้อมกับหันไปหาแฟนๆที่อยู่ด้านล่าง  และก็ไม่แปลกที่จะได้รับเสียงกรี๊ดตอบกลับมา

    “พอเลยสองคนนี้ อย่าแย่งตำแหน่งกันเลย I’m number one.”ยองแจพูดขึ้นมา เรียกเสียงกรี๊ดได้อย่างดังกระหึ่ม

    “ฮ่า ฮ่า เป็นไงๆ” ยองแจไหวไหล่อย่างไม่สนใจอีกสองคนที่เหลือ

    “เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าครับ เอาเป็นว่าตอนนี้ยังไงก็เข้าหน้าหนาวแล้วทุกคนระวังเรื่องสุขภาพกันด้วยนะครับ แล้วก็มาฟังเพลงของเราด้วย เพราะว่าเพลงของเราจะช่วยทำให้คุณอบอุ่นขึ้น” ร่างสูงของจุนฮงพูดพลางมองไปหาคนที่เขาอยากให้มางานนี้ที่สุด และก็เห็นคนที่ตัวเองหาอยู่กับกลุ่มเพื่อนอีกสองสามคนที่แถวสามด้านซ้ายซึ่งตรงกับที่เขายืนอยู่พอดี

    และบทเพลงก็ดำเนินไปจนถึงเพลงสุดท้าย

    “ทุกคนครับ วันนี้เจลโล่ของเรามีเซอร์ไพรสให้คนบางคนด้วย ช่วยเอาใจช่วยเค้าด้วยนะครับ” ฮิมชานพูดจบก็เดินไปหยิบกีตาร์จากหลังเวทีที่เตรียมไว้มาเล่น

    “เอ่อ วันนี้ผมจะร้องเพลงนะครับ ฮ่า ฮ่า ทุกคนคงเคยได้ยินแต่เวลาผมแร๊ปใช่มั้ยครับ ผมก็ร้องเพลงได้นะ อาจจะไม่เพราะเท่าไร แต่ก็ช่วยทนฟังด้วยนะครับ” ถึงปากจะพูดเหมือนให้ทุกคนฟัง แต่สายตาส่งไปถึงคนที่นั่งตรงกับเขา

    และบทเพลงก็ดังขึ้น

    오늘 고백할 거야 그러니까 도와줘 

    เอาหละวันนี้ผมจะสารภาพมันแล้ว ดังนั้นคุณต้องช่วยผมนะ

     

    머리부터 발끝까지 이상한 있나 봐줘

    ช่วยดูให้หน่อยว่าตั้งแต่หัวจรดเท้า ผมดูดีแล้วใช่มั้ย?

     

    셔츠가 어울리면 니트로 바꿔 입고 올까

    เสื้อเชิ้ตตัวนี้ที่ใส่มันโอเคหรือเปล่า? หรือผมควรจะเปลี่ยนไปใส่สเวทเตอร์แทนดี

     

    어떻게 말하면 좋을까 네가 먼저 들어줘

    อ่า ผมจะพูดมันออกไปยังไงดีนะ? คุณช่วยฟังมันเป็นคนแรกได้หรือเปล่า

     

    Just like you girl Just like you girl 정말 아직도 모르겠니 

    ผมชอบคุณ ผมชอบคุณนะ นี่คุณไม่รู้จริงๆหรอ?

     

    Girl Just like you girl 얼마나 말해야겠니

    เฮ้ ผมชอบคุณนะ ผมจะต้องพูดมันอีกมากแค่ไหนกัน

     

    첫눈에 반했다고 운명이라고 우겨볼까

    ผมควรจะพูดว่ามันเป็นรักแรกพบ หรือว่ามันเป็นพรหมลิขิตดีนะ

     

    오랫동안 좋아했다고 그냥 솔직하게 말할까

    หรือผมควรจะพูดออกไปตรงๆเลย พูดว่าผมชอบคุณมาตั้งนานแล้ว

     

    네가 그녀라면 어떻게 거야 모른 할거야 웃어 넘길 거야

    แล้วถ้าเป็นคุณหละ คุณจะทำยังไง? คุณจะเมินเฉยหรือหัวเราะแก้เก้อกัน

     

    그래 지금 말야 이상은 돌려 말하기 싫어

    เฮ้อก็คุณนั่นแหละ ผมไม่อยากพูดไปมากกว่านี้แล้วนะ

     

    Just like you girl Just like you girl 정말 아직도 모르겠니 

    ผมชอบคุณ ผมชอบคุณนะ นี่คุณไม่รู้จริงๆหรอ?

     

    Girl Just like you girl 얼마나 말해야겠니

    เฮ้ ผมชอบคุณนะ ผมจะต้องพูดมันอีกมากแค่ไหนกัน

     

    Just like you girl Just like you girl 말고 누가 있겠어

    ผมชอบคุณ ผมชอบคุณ ผมจะต้องการใครไปมากกว่านี้อีกละ

     

    Girl Just like you girl 네가 아니면 되겠어

    เฮ้ ผมชอบคุณ ผมชอบใครไม่ได้จริงๆถ้าไม่ใช่คุณ

     

    Just like you girl Just like you girl 말고 누가 있겠어

    ผมชอบคุณ ผมชอบคุณ ผมจะต้องการใครไปมากกว่านี้อีกละ

     

    Girl Just like you girl 네가 아니면 되겠어

    เฮ้ ผมชอบคุณ ผมชอบใครไม่ได้จริงๆถ้าไม่ใช่คุณ

     

    Girl Just like you girl I like you girl only you girl.

            เฮ้ ผมชอบคุณนะ ผมชอบคุณ แค่คุณคนเดียวเท่านั้น

    และเสียงร้องของนักร้องจำเป็นก็จบลงพร้อมกับร่างสูงที่เดินไปหยุดอยู่หน้าคนคนหนึ่งที่ตอนนี้ทั้งคู่ถูกไฟสปอร์ตไลท์ฉายอยู่

    “เป็นแฟนกับผมได้มั้ยครับ” เสียงของผมเอ่ยขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบกริบราวกับทุกคนกำลังลุ้นคำตอบของคนตรงหน้าผมอยู่

    “...”

    “อืม” เสียงที่ติดออกจากทุ้มนุ่มพูดขึ้นเบาๆ แล้วจากนั้นเสียงกรี๊ดก็กลับมาดังอีกครั้งหนึ่ง

    “ยินดีกับน้องเล็กของเราด้วยนะครับ มีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะที แถมคนนี้ไม่ใช่เล่นๆนะครับว่าที่คุณหมอเชียวนะครับ ทีนี้เจลโล่ก็จะไม่มีฉายาเจ้าชู้แล้วสินะออกสื่อขนาดนี้” ยองแจเอ่ยขึ้นหลังจากฉากหวานๆจบลงไป

    “นั่นสินะครับ วันนี้คอนเสิร์ตเล็กๆของพวกเราก็จบลงแล้วนะครับ ขอขอบคุณทุกคนมากเลยที่มากันวันนี้ ขอให้เดินทางกลับกันอย่างปลอดภัยนะครับ แล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะครับ บ๊ายบายย” แล้วแสงไฟบนเวทีก็ดับลงพร้อมกับร่างของสมาชิกทั้งสามคนที่หายไป

     

    พี่แดฮยอนครับ ผมรออยู่ที่ทางออกสามนะครับ มาหาผมหน่อยนะกดส่งข้อความไปพร้อมกับมองหาอีกคน

    “ทำแสบมากนะ เดี๋ยวจับฉีดยาซะให้เข็ด” เสียงทุ้มนุ่มที่แสนคุ้นเคยดังมาจากข้างหลังของเขา เขาหันกลับไปและก็พบว่าคนที่ทำให้เขาตื่นเต้นในการร้องเพลงกำลังพูดส่งยิ้มอย่างเขินๆมาให้เขา

    “กลับบ้านกันเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่งนะ” คนตัวสูงพูดพลางจับมืออีกคนพาไปที่รถคันหรู

    “วันนั้นที่ฉันเห็นไม่ใช่คันนี้นี่” เสียงของแดฮยอนเอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ

    “ก็นี่พึ่งเอามาวันนี้ไงครับ” ยิ้มกวนๆส่งไปให้พร้อมกับ เปิดประตูรถให้

    “รวยจริงนะ”

    “ก็นิดนึง” ร่างสูงพูดพลางเปิดเพลงคลอไปพร้อมกับรถคันหรูที่ขับออกไปตามทาง

     

     

    “ถ้านายถึงบ้านแล้วโทรหาด้วยนะ คืนนี้ฉันอาจจะต้องไปขึ้นวอร์ดต่อถ้าเพื่อนเรียกอะนะ” แดฮยอนพูดพร้อมกับก้าวเข้าไปในบ้าน

    “อื้อ อย่าทำงานหนักมากนะ เป็นห่วง กลัวแฟนบอบช้ำ” เสียงขี้เล่น ที่เหมือนติดจะไม่ชอบใจเล็กน้อยที่อีกคนบอกว่าอาจจะต้องไปขึ้นวอร์ดเอ่ยพร้อมกับก้มลงมามองหน้าอีกคนชัดๆ

    ดวงตาที่เขาหลงใหลเพราะมันเหมือนลูกแมวมองกลับมาตาปริบๆพร้อมกับผลักหน้าเขาออก

    “กลับบ้านไปได้แล้ว” และเสียงเอ่ยปากไล่เบาๆ พร้อมกับปิดล็อกประตูรั้ว

    “ฝันดีนะครับ เดี๋ยวถึงบ้านแล้วจะบอก” ร่างสูงเอ่ย และรอจนแดฮยอนเข้าบ้านไป

    รถหรูขับออกมาจากบ้านของอีกคน และมุ่งไปสู่คอนโดหรูย่านใจกลางเมือง อย่างรวดเร็ว เพราะอาจจะดึกแล้วถนนเลยโล่งมาก ร่างสูงปล่อยความคิดของตัวเองให้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนสุดท้ายก็มาถึงคอนโด

     

     

    ถึงบ้านแล้วนะ นอนยัง?ส่งข้อความไปหาอีกคนทันทีที่เดินเข้ามาถึงในห้องของตัวเอง

    อื้อ ยังไม่นอนเพื่อนโทรเรียกให้ไปขึ้นเวรแทน เบื่ออ่ะ Lสักพักข้อความตอบกลับก็ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขา

    สู้ๆนะลูกแมว อิอิเขากดส่งข้อความพร้อมกับเดินไปนอนเล่นบนเตียง

    ใครลูกแมวไม่ทราบครับ

    ก็แดฮยอนไง แดฮยอนเป็นลูกแมวของเจลโล่ J

    นายนี่มันเด็กน้อยจริงๆ ฉันไปทำงานละนะ นอนพักผ่อนเยอะๆหละ พรุ่งนี้มีเรียนเช้าไม่ใช่หรอ ฝันดีนะ

    อื้อ ตั้งใจทำงานนะ ฝันดีครับและนี่ก็เป็นข้อความสุดท้ายสำหรับวันนี้ที่เขาทั้งสองคนได้คุยกัน ก่อนที่ร่างสูงจะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่ออาบน้ำ

     

     

    กริ๊งงงงง!!!

    เสียงนาฬิกาปลุกสีเงินคลาสสิคบอกเวลาตื่นดังขึ้นบนหัวเตียง

    ร่างสูงเอื้อมมือขาวๆขึ้นไปควานหาแหล่งกำเนิดเสียงและกดปิดเพื่อลดความรำคาญและสิ่งที่มารบกวนการนอนอย่างเป็นสุขของเขา

    และเสียงของนาฬิกาปลุกเรือนที่สองก็ดังขึ้นหลังจากที่เขาปิดนาฬิกาเรือนแรกไปได้ประมาณสิบนาที

    และก็เป็นอีกครั้งที่ร่างสูงกดปิดมัน

    ‘Take my hand
    Let's see where we wake up tomorrow
    Best laid plans
    Sometimes are just a one night stand

    I'll be damned
    Cupid's demanding back it's arrow
    So let's get drunk on our tears’

                และเสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น พร้อมกับมือเรียวเอื้อมไปหยิบมันขึ้นมาและกดรับ

                “ฮัลโหล” เสียงงัวเงียเอ่ยกรอกลงไป

                “นี่ไอขี้เซา ตื่นได้แล้ว” เสียงหวานๆคุ้นๆดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา เสียงนี้มันทำให้เขายิ้มทั้งที่ยังหลับตาอยู่บนเตียง

                “อื้อ โทรมาปลุกแต่เช้าเลยนะ ง่วงอยู่เลยอะ” พูดตอบกลับไปพร้อมลุกขึ้นนั่งและมอออกไปนอกหน้าต่างยามเช้า

                “ขอเดาว่านาฬิกามันปลุกนายไปสองรอบแล้ว” เหมือนอีกคนคอยมานั่งดูเขาอยู่ในห้องถึงได้พูดถูกขนาดนี้

                “ฮ่ะ ฮ่า แมวนี่เก่งจังนะ อืมๆ เดี๋ยวไปอาบน้ำแล้ว  จะให้ไปรับมั้ย” ร่างสูงยังถามต่อพร้อมกับเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่หน้าห้องน้ำ

                “ไม่ต้องๆ เดี๋ยวไปกับเพื่อน” ปลายสายตอบกลับมา

                “อืมๆ เจอกันที่มอ.นะ” และจากนั้นสายก็ตัดไป และนั่นคือบทสนทนายามเช้าของเขาทั้งสองคน

     

     

                ยามเช้าของมหาวิทยาลัย เริ่มมีนักศึกษามาแล้วบ้างประปรายพร้อมกับหมอกจางๆของการเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว

                เขาจองแดฮยอนกำลังนั่งกินน้ำเต้าหู้ของร้านดังหน้ามอ.อยู่อย่างอ่อนล้า เพราะพึ่งเสร็จจากการขึ้นเวรที่วอร์ด  สำหรับเขาการดื่มน้ำเต้าหู้ร้อนๆอร่อยๆยามเช้า ถือได้ว่าเป็นการฟื้นพลังให้กับเขา เพราะว่าเขาเป็นนักศึกษาแพทย์ เขาเลยไม่ค่อยมีเวลาที่จะได้พักผ่อน  แต่ตั้งแต่จุนฮงเข้ามา จุนฮงก็ดีกับเขาทุกอย่าง ซื้อนั่นซื้อนี่มาให้ และดูแลอย่างดี และนั่นก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่าจุนฮงแคร์เขาแค่ไหน

                จุนฮงเป็นรุ่นน้องในคณะนิเทศศาสตร์ สาขาศิลปะการแสดง ที่เขาเจอในโรงพยาบาล เพราะตอนนั้นจุนฮงไม่สบายมากเพราะไม่ได้กินข้าวเนื่องจากต้องไปถ่ายแบบทั้งวัน และยังเป็นโรคกระเพาะอยู่แล้วทำให้อาการหนัก

                นี่ผมลืมบอกไปจุนฮงหนะ นอกจากจะเป็นแร๊ปเปอร์วงSKYที่แสนจะเป็นที่ชื่นชอบของคนทั้งมหาวิทยาลัยแล้ว เด็กนั่นยังเป็นนายแบบอีกต่างหาก  เพราะหุ่นที่สูงขาวและดูแมนนั่น บวกกับโครงหน้าหล่อๆที่ใครๆต่างก็หลงใหลนั่นทำให้จุนฮงมีแฟนคลับมากทั้งในมหาลัยและข้างนอก เพราะงั้นจุนฮงก็เลยไม่ค่อยมีเวลากินข้าวหรือนอนเท่าไหร่

                แต่มันก็ไม่ต่างจากผมหรอกจริงไหม

                แล้วนี่เมื่อไหร่จุนฮงจะมาหละเนี่ย  เข้าไปรอในมอ.ก่อนดีกว่า

     

     

                หลังจากที่แดฮยอนเข้าไปรอในมอ.ไม่นาน รถคันหรูก็แล่นผ่านเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัย พร้อมกับหลายสายตาที่มองตามรถคันหรูไป เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่จะรวยขนาดนี้ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือจุนฮงอย่างไม่ต้องสงสัย

               

                “รอนานมั้ยเนี่ย นี่เหยียบสุดฤทธิ์เลยนะ กลัวแมวรอนาน” เสียงอันคุ้นเคยของจุนฮงดังขึ้นพร้อมกับมือเรียวที่ยกขึ้นมาลูบหัวเขาเบาๆ

                “นานมาก นานจนกินน้ำเต้าหู้หมดไปแล้วเนี่ย” ร่างบางชูแก้วน้ำเต้าหู้ที่หมดไปแล้วให้ดู พร้อมกับเอ่ยว่าร่างสูง

                “โอ๋ๆ ขอโทษ แล้วนี่ทำไมยังอยู่ชุดนี้ อย่าบอกนะว่ายังไม่ได้นอนหรอแดฮยอน” ร่างสูงมองแดฮยอนอย่างจับผิด

                “อืม พึ่งลงเวรมา แต่ไม่เป็นไรหรอก ไหวน่า”ร่างบางปัดมือเรียวที่กำลังจับคางของตัวเองหันไปหันมาเพื่อสังเกตใบหน้าของแมวน้อยของเขา

                “หน้าโทรมมากครับคุณหมอ ตาดำเป็นหมีแพนด้าเชียว ไปนอนหน่อยดีมั้ย คอนโดผมใกล้ๆนี่เอง ผมไม่อยากให้แฟนตัวเองเป็นลมไประหว่างการนั่งเรียนเรกเชอร์คาบแรกนะครับ” ร่างสูงก้มลงมาให้ระดับหน้าของตัวเองอยู่เสมอกับคนที่นั่งอยู่

                “ก็บอกว่าไหวไง นั่งก่อนดิ ไม่ไปไหนทั้งนั้นอะ เช้านี่เรียน Anatomy ด้วยไม่อยากขาด ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่า”  ร่างบางพูดพลางทำสีหน้าจริงจัง

                “อืม แล้วแต่  คาบแรกนี่ผมก็เรียนแอคติ้งด้วย อาจารย์โหดสุดๆ” ร่างสูงนั่งพลางบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อย

    บทสนทนาของทั้งคู่ดำเนินไปเรื่อยๆจนถึงเวลาเข้าเรียนในภาคเช้า และทั้งคู่ก็แยกกันไป

     

    การเริ่มต้นความรักที่สวยงามนั้นเป็นเรื่องปกติของหลายๆคู่  ทุกอย่างล้วนเป็นสีชมพูในโลกของคนทั้งคู่ แต่จะมีสักกี่คู่ที่ความรักจะเป็นสีชมพูไปได้ตลอด

     

                บทหนทางที่จะไปถึงจุดหมายอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอไป อาจจะมีหลุมมีบ่อ มีทางแยก หรือมีขวากหนามขวางทาง แต่สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์คน ก็เหมือนกับความรักที่ต้องมีทะเลาะ มีรักกันปานจะกลืนกิน มีพบกัน และมีจากลา

               

     

                เจลโล่คิดยังไงกับเรื่องราวของความรักคะเสียงหวานของพิธีกรสาวในการสัมภาษณ์ครั้งนี้เอ่ยถามขึ้น

               

                “อืม สำหรับผมหรอ ความรักเป็นสิ่งที่ล้ำค่านะ เพราะคนที่เรารักทำให้เราอยากมอบแต่สิ่งดีๆให้กับเค้า แต่ก็นะครับความรักมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะทะเลาะกันบ้างจริงมั้ยครับ เพราะงั้นผมว่ามันมีหลายรสชาตินะ แล้วก็ความรักหนะ เป็นสิ่งที่ดี เพราะงั้นดูแลความรักและคนรักของคุณให้ดีๆกันนะครับ”

     

                                                                            บทสัมภาษณ์ ชเว จุนฮง  

      นักศึกษาชั้นปีที่สอง คณะนิเทศศาสตร์

                                                                            นิตยสารมหาวิทยาลัยเกียร์


     

     

     

    Talk : แท็กในทวิตเตอร์  #ลดดฟร  ไปเล่นกันเยอะๆ ทวงฟิคอะไรงี้ก็ได้นะ
       ตอนนี้หวานมดจะขึ้น พี่โล่แลดูฮอตมากเลยเนอะ แล้วมันจะเข้ากับคุณหมอแดฮยอนคนธรรมดามั้ยเนี่ย
    ดูๆกันไปเนอะ
    ทวิตไรท์: @xT_rek ฟอลมาคุยกันได้นะฮะ ไม่กัดจ้าา
    อย่าลืมเม้นต์เล็กๆน้อยๆเป็นกำลังใจให้ไรท์นะคะ จุ๊บจุ๊บ

               

     

    SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×