ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บอดี้การ์ดสาวจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #2 : ความซวยที่เกิดขึ้น

    • อัปเดตล่าสุด 20 มี.ค. 49


    "ฮัลโล" รินลนีรับโทรศัพท์อย่างคนอารมณ์ดีเช่นกัน



    "นี่บ่ายนี้ว่างไหม"





    "เอ ว่างหรือไม่ว่างดีน๊า"




    "เอ แล้วจะว่างหรือไม่ว่างดีละ" นิชดาตอบกลับอย่างอารมณ์ดี




    "นี่ตกลงจะว่างไหม วันนี้ฉันอารมณ์ดีขี้เกียจต่อปากต่อคำ"




    "เฮ้ย นี่แกผีเข้าหรือนอนน้อยไปเปล่าเนี้ย เห็นบ่นว่าเซ็งเมื่ออาทิตท์ที่แล้ว"




    "ก็คนมันมีความสุขนิ"




    "ความสุขบ้าแกสิ คนไม่มีงานทำเนี้ยนะมีความสุข"




    "เออ อย่าพูดมากเลยเดี๋ยวเจอกันที่ร้านเดิมมีอะไรค่อยถาม"




    ว่าแล้วหญิงสาวก็ปิดโทรศัพท์มือถือไม่ทันที่อีกฝ่ายจะถามไปมากกว่านี้
    โธ่เอ้ยวางไปซะแล้ว ยังไม่รู้เรื่องไร้เลย รินลนีบ่นงึมงำด้วยความอยากรู้อยากเห็น






    ร้านที่จัดตกแต่งในสไตล์คลาสสิคแล้วแฝงไปด้วยแบบไทยๆที่ทำให้นิชดาต้องหลงไหล ถึงแม้ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อแต่มันก็ไม่แพงอย่างที่คิด และอย่างนี้นี่เองเราจึงเห็นคนที่ทุกระดับชั้นมาแวะเวียนมาที่ร้านแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ, พนักงานรับเหมาก่อสร้าง, แม่ค้าและอื่นๆอีกมากมายโดยที่ร้านแห่งนี้จะมีคอนเส็พของการไม่แบ่งชนชั้น แม้ร้านหรูๆแบบนี้ก็สามารถมารับประทานได้ด้วยราคาที่เป็นกันเอง






    พนักงานเสิร์ฟยื่นเมนูมาให้หญิงสาว




    "จะรับอะไรดีค่ะ" เธอยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง





    "ขอเป็นน้ำส้มคั้นก่อนนะค่ะ เดี๋ยวจะสั่งอาหารทีหลัง"




    "ค่ะ รอสักครูนะค่ะ"





    รถเก๋งคันหรูที่มาจอดเทียบอยู่อีกฝากหนึ่งของร้าน ทำให้หญิงสาวต้องชะเง้อมองออกไป





    "ว่าไงย่ะ รอนานไหม" รินลนีพูดเสียงแจ่มใสพลางมองไปที่เพื่อนสาว






    "ก็ดีนะ แต่ฉันมีข่าวดีกว่านี้อีก" หญิงสาวพูดแกมอมยิ้มไปให้อีกฝ่าย







    "ว่ามาสิ แต่ถ้าให้เดาฉันว่าต้องเป็นเรื่องงานขูดๆเขียนของเธอแน่เลย"






    "แหม สมกับที่คบกันมานานนะแก คืองี้ฉันติดหนึ่งในสิบจากเรื่องที่ฉันแต่งละ"






    "ก็ดีแล้วนิว่าแต่ได้ทีเท่าไหร่ละ"





    หญิงสาวยิ้มอย่างจางๆก่อนจะตอบว่า "ที่ 10อ่ะ"





    อีกฝ่ายหนึ่งปล่อยก๊ากออกไปทันที





    "นี่หัวเราะไรล่ะ ไม่ตลกนะ" เจ้าหล่อนทำท่างอน นี่ตกลงฉันจะดีใจหรือเสียใจดี้เนี่ย





    "เออ เอาละยังไงมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แล้วเมื่อไหร่แกจะไปสมัครงานจริงๆจังๆซักทีละ"





    "ก็กำลังหาอยู่เหมือนกันนะ "





    "ฉันว่าแกน่าจะไปสมัครงานที่เซนเตอร์ทาวดูนะ ฉันเห็นเค้าประกาศรับสมัครงานรู้สึกว่าจะเป็นด้านเดียวกับที่แกจบมานะ"





    "เหรองั้นเดี๋ยวฉันลองไปสมัครดู"





    "ต้องให้ได้นะแก ทำตัวให้มันจริงจังกับชีวิตมั่งเรื่องความฝันต้องมาก่อนความจริง"





    ถึงแม้ว่ารินลนีจะเป็นคนที่ขี้เล่นแต่ถ้าหากเป็นเรื่องเอาจริงเอาจังกับงานแล้วละก็เรียกได้ว่าเธอเป็นคนที่อดทนพร้อมที่จะสู้กับทุกอย่างเลยทีเดียว งานของรินลนีทำอยู่นี้ก็เป็นงานที่ดีระดับหนึ่ง เธอเป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์อยู่รีไทส์ รีสอร์ท






    หลังจากที่พูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว หญิงสาวทั้งคู่ก็ได้หัวเราะร่ากับสิ่งต่างๆในอดีตตอนที่อยู่มหาลัย สองสาวเพื่อนซี้ไปดื่มกันต่อที่ผับเล็กๆแห่งหนึ่งในใจกลางกรุง เสียงดนตรีขับกล่อมทำให้ทั้งคู่ต้องเคลิบเคลิ้มไปกับจังหวะของเสียงเพลง




    !!โอ้ย!! ร่างของนิชดาได้ไปชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่เธอคุ้นตาเหลือเกิน
    เอ๊ะ นี่มันอีตาบ้าที่เราเจอเมื่อวันก่อนนิ แม้ว่าจะอยู่ในความมืดแต่หญิงสาวก็จำได้อย่างแม่นยำกับสายตาที่เย็นชาดวงนั้น




    เธอเป็นฝ่ายว่าก่อนเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเฉย





    "นี่คุณเดินยังเนี่ย ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือบ้างเลย" การขอโทษของเธอคงไม่มีอีกแล้วในเมื่อครั้งนี้เธอไม่ใช่ฝ่ายที่ไปชนเขาก่อน




    ชายหนุ่มขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยอาการเมา แต่ด้วยเสียงเจี้ยวจ้าวเมื่อครู่นี้พวังแห่งการหลับไหลก็หมดไป





    "ก็คุณไม่ดูเองนี่" อาการเมาจัดของเค้า ทำให้หลายต่อหลายคำพูดออกไปอย่างไม่รู้ตัว





    "หานี่นายว่าไงนะ นายเดินไม่ดูใครแล้วมาชนฉันไม่ขอโทษไม่พอ กลับยังมาว่าฉันอีกเหรอ" ตอนนี้เธอหน้าแดงจัด ไม่นึกว่าผู้ชายมารยาททรามคนนั้นนอกจากจะไม่มีมารยาทแล้วยังปากจัดอีก






    "แล้วไงล่ะ แล้วคุณจะทำมายยยย" อาการเดินโซซัดโซเซของเขาบ่งบอกได้ชัดถึงพวกที่ทองไม่รู้ร้อน ทำให้ตอนนี้หน้าของเจ้าหล่อนแดงขึ้นมาเป็นสองเท่า





    ฉันขอสักหมัดเถอะนะ!!





    ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะตั้งตัวหมัดอันน้อยๆก็ชกไปที่เบ้าตาของอีกฝ่าย





    หญิงสาวกลับมานั่งที่โต๊ะอย่างอารมณ์ดี ก่อนที่เจ้าหล่อนจะแม้มที่ริมฝีปากอย่างผู้มีชัย




    "นี่ฉันต้องกลับแล้วนะ จะกลับพร้อมกันไหม" รินลนีกล่าวกับเพื่อนสาว




    "ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวฉันก็จะกลับแล้ว"




    "เออ งั้นก็ตามใจแล้วเจอกันนะป่าน"




    หลังจากที่เพื่อนสาวของเธอกลับเรียบร้อยแล้ว เธอจึงลุกขึ้นเพื่อเตรียมตัวจะเช็คบิลล์  โต๊ะที่ไม่ห่างจากเธอนักส่งสายตาให้เจ้าหล่อนอย่างหยดย้อยพร้อมกับกระพิบตาให้ทิ้งท้าย





    งานนี้ฉันกลับดีกว่า จ่ายเช็คเสร็จเธอก็รีบก้าวท้าวยาวๆเพื่อที่จะออกไปจากตรงนั้นทันที






    เธอรีบบึ่งรถออกไปด้วยความรีบร้อน ด้วยสันชาตญานทำให้เจ้าหล่อนรู้สึกว่าอะไรบางอย่างกำลังคืบคานมาอย่างไม่ค่อยปลอดภัยนัก เวลาตอนนี้เกือบเที่ยงคืนของนักท่องราตรีทั้งหลายที่สนุกเริงร่าไปกับเสียงเพลง





    "ฮัลโล เออๆเดี๋ยวไป" เสียงโทรศัพท์ของบอร์ดีการ์ดมืออาชีพอย่างธีรเดชต้องรีบไปกับคำสั่งของอีก
    ปลายสาย เขารีบเร่งในการเดินถนนไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า






    !!!!เอี๊อด!!!! หญิงสาวผู้ซึ่งรีบเร่งจากการติดตามของใครบางคน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เจ้าหล่อนได้ไปชนเข้ากับร่างร่างหนึ่ง





    ตายแล้วฉันจะทำไงดีล่ะเนี่ย





    "นายครับผมว่าเรากลับก่อนดีกว่า ท่าทางเธอจะชนคนเข้าแล้วละครับ"





    "งั้นกลับก่อนดีกว่า ฉันไม่อยากมีปัญหา"




    รถที่แล่นตามหญิงสาวมานั้นเลี้ยวกลับไป โดยไม่สนใจว่าคนตรงหน้านั้นจะมีชะตากรรมอย่างไร
    โธ่ นี่มันเรื่องบ้าอะไร ทำไมฉันถึงต้องซวยอย่างนี้นะ!!
    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×