คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ของสำคัญ
เช้าวันใหม่ของชาว The Gang!!! วันนี้เป็นวันหยุด ชาว The Gang!!! จึงขอลางาน ไม่แก้ปัญหาของคนอื่นสักวัน และวันนี้ทั้งสามคน จึงพร้อมใจกัน ไปเที่ยวสวนสนุก!!! (ขั้วโลกใต้มีสวนสนุก???) (อย่าลืนนะ ที่นี่คือ SM) (มีอะไรบ้าง ที่ไม่มีอยู่ที่นี่ ฮ้า!!!!!) และเหตุที่ไปสวนสนุกก็เพราะ ลูเซียได้บัตรฟรีมา
วันนี้ทั้งสามคนจึงนัดกันตอนแปดโมง ทางประตูทางเข้า แต่เมื่อมีนาไปถึง คนที่อยู่ไม่ได้มีแค่สองคน แต่มีสามคน!!!
“นายมาได้ไง?” มีนาชี้หน้าคนที่มาเพิ่ม ราวกับคนที่มาเพิ่มนั้นเป็นสัตว์ประหลาด
“ทำไมฉันจะมาได้ ในเมื่อบัตรฟรี เป็น-ของ-ฉัน” เคิร์ทผู้อย่างชัดถ้อยชัดคำ โดยเฉพาะ สามคำสุดท้าย ถูกต้อง!!!คนที่มาเพิ่ม คือ เคิร์ท เจ้าชายซาตาน นั่นเอง
“เรื่องนี้อั๊วไม่เกี่ยวน้า” หลิง-หลิงพูดทันที เพราะเธอรู้ว่าเพื่อนเธอจะได้ก่อสงคราม กับบุคคลที่มาเพิ่มเป็นแน่แท้
“คือว่า คุณเคิร์ทได้บัตรฟรีมานะค่ะ แล้วบัตรก็หมดอายุวันนี้ คุณเคิร์ทเลยให้บัตรฟรีมา เพราะคุณเคิร์ทติดธุระนะค่ะ” ลูเซียพูดยังไม่ทันจบ เคิร์ทก็พูดแทรก
“แต่เผอิญเจ้าของนัด ดันยกเลิกนัด ฉันเลยว่าง แล้วเผอิญเหลือบัตรฟรีอีกใบ ฉันเลยมาใช้บัตร ก่อนที่บัตรจะหมดอายุ แล้วเผอิญมาเจอลูเซีย กับหลิง-หลิง ก็แค่นั้น”
“แล้วทำไมนายไม่เข้าไปเล่นก่อน มายืนหน้าประตูหาพระแสงเลเซอร์อะไรตรงนี้” มีนาพูดอย่างอดทนอดกลั้น
“เผอิญฉันอยากเห็นคนสองเพศ ใส่ชุดไปเที่ยวบ้าง เลยมายืนดู” เคิร์ทตอบแบบกวนตีน (ดูท่าเจ้าตัวอยากกวนตีนจริงๆอ่ะ)
“อั๊วว่าเราไปเล่นเครื่องเล่นกันได้แล้วมั้ง ประตูเปิดนานแล้วนะ” หลิง-หลิงพูด เมื่อเธอเห็นผู้คนทยอยตัวกันเข้าประตู
มีนาเดินนำเข้าประตู เธอไม่ต่อล้อต่อเถียงกับเคิร์ทต่อ สร้างความประหลาดใจให้คนสามคนที่อยู่ข้างไม่น้อย (มากเลยแหละ) หลังจากที่ตั้งสติได้แล้ว เพื่อนสาวทั้งสองคนจึงรีบวิ่งตามไป ส่วนชายหนุ่มค่อยๆเดินตาม เพราะ เอาแต่ครุ่นคิดเกี่ยวกับพฤติกรรมแปลกๆของมีนา
หลังจากที่ทั้งสี่คนเล่นกันอย่างสนุกสนานตลอดช่วงเช้า ทั้งสี่คนจึงพากันมาหาข้าวเที่ยงกิน เพื่อจะได้ไปเล่นต่อ
“อ๊ะ!!! สร้อยคอของลื๊อหายไปไหนแล้วนะ อาลูเซีย” หลิง-หลิงถาม เมื่อเห็นสร้อยคอของลูเซียหายไป
“เอ๋!!!” ลูเซียร้องด้วยความสงสัย พลางลูบที่ลำคอของตน
“อ้าก!!! สร้อยคอของฉัน หายไปไหน หายไปไหน” ลูเซียร้องเสียงหลง เมื่อรู้สึกตัวว่าสร้อยคอเส้นสำคัญของตนหายไป พลางวิ่งวุ่นมองหาสร้อยคอเส้นสำคัญ
“เฮ้!!! ลูเซีย เธอทำสร้อยคอตก” มีนาเดินเข้ามา แล้วคืนสร้อยคอให้ลูเซีย
“ขอบคุณมากนะ ถ้าหายไปฉันแย่แน่” ลูเซียพูดอย่างดีใจ
“ถ้าสำคัญนัก ก็อย่าทำหายอีก” เคิร์ทพูด หลังจากผลักประตูร้านอาหารเข้ามา
“หมอนี่นะเดินไปเข้าห้องน้ำ แล้วเจอสร้อยคอตกอยู่ แล้วจำได้ว่าเป็นของเธอนะ” มีนาพูด แถลงข้อสงสัย
“เราจะรู้ว่าสิ่งที่เรามีอยู่สำคัญแค่ไหน ก็ตอนที่เราจำเป็นต้องใช้มัน ไม่ก็มันหายสาบสูญไปเนี่ยแหละน้า” มีนาพุด เมื่อเธอนึกได้ถึงของสำคัญสิ่งหนึ่ง ที่เธอมิอาจได้มันกลับคืน
“อั๊วว่าเรารีบกินข้าวเถอะ จะได้ไปเล่นกันต่อ” หลิง-หลิงพูด (เห็นแก่เล่นจริง)
เมื่อทั้งสี่คนกินข้าวเสร็จ ก้ไปเล่นกันจนสวนสนุกปิด ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันกลับ
“เอ๊ะ!!! ท่านผู้อำนวยการงั้นเหรอ” มีนาพูดขึ้น เมื่อเธอได้ยินสัญญาณเรียกตัวประธานชั้นปี
“มีเรื่องอะไรกันนะ” มีนาพูดอย่างสงสัย พลางเปลี่ยนทิศทางเดินจากกลับบ้าน ไปเป็นโรงเรียน
“ฉันไปด้วย” เคิร์ทพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง เพราะตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะสามทุ่มแล้ว กว่าจะเดินไปถึงโรงเรียน วิญญาณโรงเรียนคงจะออกลาดตระเวนแล้ว (อืม!!! นิสัยดีเหมือนกันนะเนี่ย ว่าแต่นายรู้ได้ยังไงว่าหลังสามทุ่ม วิญญาณโรงเรียนจะออกมาลาดตระเวน มันเป็นความลับนะ) (ความลับของฉัน ไม่ต้องมายุ่ง)
“อืม” มีนาตอบกลับ (ไม่น่าเชื่อ ทำไมถึงยอมเนี่ย) (ฉันกลัวครูเดวิลนะสิ มีหมอนี่อยู่ อย่างน้อยก้ไม่ได้ถูกกักคนเดียว)
เมื่อทั้งคู่ไปถึงโรงเรียน ประตูโรงเรียนไม่ได้ปิดเหมือนทุกวัน วิญญาณโรงเรียนก้ไม่ได้ออกมาลาดตระเวนสักตัวเดียว เมื่อเคิร์ทเห็นถึงกับแปลกใจเล็กน้อย แต่สักครู่เดียวก็พอเดาออก ว่าผู้อำนวยการคงสั่งไม่ให้วิญญาณโรงเรียนออกมาเพ่นพ่านในบริเวณนี้
เมื่อทั้งคู่เดินไปถึงห้องผู้อำนวยการ ก็พอดีกับที่ประธานชั้นปีที่ 1 กำลังเดินเข้าห้องผู้อำนววยการ มีนาจึงเดินเข้าไปพร้อมกับประธานรุ่นน้อง เคิร์ทจึงยืนรออยู่ข้างนอก
“เอาละ มากันครบแล้วนะ” ผู้อำนวยการกล่าว
“ฉันจะบอกพวกเธอว่า ตอนนี้ทางโรงเรียนได้กำหนดวันที่เข้าค่ายมาแล้ว นี่คือกำหนดการ แต่ละชั้นปีไปเหมือนกัน และสถานที่ที่ไป ทางโรงเรียนขอเก็บเป็นความลับ” ผู้อำนวยการพูดถึงสาเหตุที่เรียกประธานชั้นปีมากลางดึกกลางดื่น
“ฉันอยากให้พวกเธอไปบอกคนในดูแลของพวกเธอถึง การเข้าค่ายครั้งนี้ด้วย และฉันมีอีกสิ่งหนึ่งจะให้พวกเธอ” ผู้อำนวยการพูด พลางก้มตัวลงไปหยิบสิ่งของบางอย่าง ของที่มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม มีอยู่หกด้าน มีขนาดประมาณหนึ่งฝ่ามือ ของสิ่งนั้นก็คือ ลูกบาศก์นั่นเอง ผู้อำนวยการหยิบลูกบาศก์มาทั้งหมดสามลูก
“นี่คือของที่ฉันจะให้พวกเธอ ลูกบาศก์พวกนี้พวกเธอห้ามทำหายเด็ดขาด ลูกบาศก์นี้จะมีของอยู่ภายในพวกเธอต้องเปิดมันให้ออก แต่ถ้าพวกเธอทำมันหาย นั่นหมายถึงอนาคตของพวกเธอจะไม่ประสบความสำเร็จใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ของเตือนพวกเธอเอาไว้ ห้าม!!!ทำหายเด็ดขาด” ผู้อำนวยการกล่าว
“แต่ท่านผู้อำนวยการครับ พวกเราจะเปิดลูกบาศก์พวกนี้ได้ยังไง” ประธานชั้นปีที่ 3ถามขึ้น
“นั่นคือสิ่งที่พวกเธอต้องหา” ผู้อำนวยการกล่าว
“แต่ท่านครับ ลูกบาศก์พวกนี้ไม่มีช่องใส่กุญแจ หรือรอยต่อเลยนะครับ” ประธานชั้นปีที่ 1 กล่าวขึ้น เมื่อเขามองดูลูกบาศก์อย่างพินิจพิเคราะห์เสร็จ
“เพราะการเปิดลูกบาศก์นี้ไม่สามารถเปิดได้ด้วยกุญแจนะสิ” ผู้อำนวยพูด เพื่อเฉลยข้อสงสัย
“งั้นมันเปิดได้ด้วยอะไรหล่ะค่ะ” ประธานชั้นปีที่ 2 ถามขึ้นบ้าง
“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันอยากให้พวกเธอหา” ผู้อำนวยการกล่าวซ้ำ เป็นครั้งที่สอง
“ใบ้หน่อยได้มั๊ยครับ” ประธานรุ่นน้องมีนา ถามขึ้น
“ใบ้อย่างงั้นเหรอ... อืม.... เอาเป็นว่า ฉันจัดการเข้าค่ายขึ้น เพราะเหตุผลบางอย่าง และที่ฉันให้ลูกบาศก์พวกเธอก็เพราะเหตุผลบางอย่าง ทุกอย่างล้วนเกี่ยวเนื่องกัน เหมือนสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ มีน้ำ จึงมีไฟ เพราะมีไฟ จึงมีน้ำ มีกลางวัน จึงมีกลางคืน เพราะมีกลางคืน จึงมีกลางวัน มีผืนดิน จึงมีผืนฟ้า และผืนน้ำ เพราะมีผืนฟ้า จึงมีผืนดิน และผืนน้ำ และเพราะมีผืนน้ำ จึงมีผืนดิน และผืนฟ้า เหตุที่มีการเข้าค่าย เพราะมีลูกบาศก์ เหตุที่มีลูกบาศก์ เพราะมีการเข้าค่าย” ผู้อำนวยการเผยคำใบ้อันยาวเหยียด ให้เหล่าประธานชั้นเรียนฟัง หากไม่ตั้งใจฟังให้ดีๆ คงจับใจความไม่ได้
“นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเธอควรกลับบ้านไปพักผ่อนได้แล้ว” ผุ้อำนวยการพูดตัดบท
มีนา เคิร์ท และเหล่าประธานจึงเดินกลับบ้านอย่างไม่มีทางเลือก
ระหว่างทางกลับมีนาได้เล่าถึงสิ่งที่ผู้อำนวยการได้มอบให้ และคำใบ้ที่พูดอำนวยการพูดถึง คราวนี้แม้ว่ามีนา และเคิร์ทจะเข้าใจคำใบ้ทั้งหมด แต่สิ่งที่พวกเขาไม่ทราบ คือ กุญแจที่ใช้เปิดลูกบาศก์ แม้ว่าวันรุ่งขึ้นลูเซีย และหลิง-หลิงจะมาช่วยคิดด้วยก็ตามที
ความคิดเห็น