ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Super Junior] Loveless

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2

    • อัปเดตล่าสุด 9 ธ.ค. 52



    ภาพตรงหน้าผมคือผู้ชายคนนึงที่หน้าตาสวยเหมือนกับผู้หญิง ผมคงไม่เชื่อว่านี่คือผู้ชายถ้าเขาไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาและสวมกางเกงอยู่ ใบหน้าสวยหวานที่น่าหลงใหลแต่แววตานั้นทำให้ผมรู้สึกขนลุกเล็กน้อย

     

     

    คุณฮีชอลฝนยังตกอยู่นะครับ ชายคนที่ช่วยผมไว้พยายามเอ่ยท้วงแต่ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่ก็ไม่ได้สนใจ สายตานั้นจ้องมองมาที่ผม

     

     

    นายชื่ออะไร ฮีชอลเอ่ยถามเด็กหนุ่ม

     

     

    ค..คิบอม เขาพยายามขยับปากพูดอย่างยากเย็น 

     

     

    ........

     

     

    ........

     

     

    คิบอม..นายมาอยู่กับฉันมั๊ย?” ฮีชอลเอ่ยปากบอกความต้องการในที่สุด

     

     

    ค..คุณฮีชอล ฮันเกิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แม้แต่คิบอมเองก็ตกใจและไม่เข้าใจร่างบางว่าต้องการอะไร

     

     

    มือเรียวถูกยื่นมาตรงหน้าผม ผมสบตากับคนตรงหน้า..ภายใต้แววตาที่แข็งกระด้าง..วูบนึงผมเห็นความอ่อนแอในดวงตาคู่นั้น เพราะความรู้สึกบางอย่าภายในหัวทำให้ผมยื่นมือไปจับกับคนตรงหน้า

     

     

    แล้วฮีชอลก็ยิ้มออกมา..เป็นรอยยิ้มแรกที่ฮันเกิงได้เห็นหลังจากคุณผู้หญิงเสียไป รอยยิ้มบริสุทธิ์ที่เขาหลงรัก...

     

     

     

    บนรถ

     

     

    ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนรถทุกคนต่างเงียบสนิทไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งถึงบ้าน เมื่อรถจอดสนิทฮันเกิงก็เดินมาเปิดประตูให้เจ้านายหน้าสวย ฮีชอลก้าวลงจากรถแล้วหันไปเรียกคิบอมให้ลงมา

     

     

    นี่คือบ้านของฉัน..ไม่ซิ..ของท่านประธาน ฮีชอลพูดประชด คิบอมพลางทำหน้าสงสัย

     

     

    ฮันเกิง บอกให้แม่บ้านไปจัดห้องให้คิบอมด้วย ฮีชอลหันไปสั่งฮันเกิงแล้วจึงหันหน้ามาพูดกับคิบอม

     

     

    อาบน้ำให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจะไปหาที่ห้อง พูดจบก็หันหลังเดินเข้าบ้านไปปล่อยให้ฮันเกิงจัดการต่อ

     

     

    เอาล่ะ ฉันชื่อฮันเกิงนะ เดี๋ยวฉันจะพานายไปดูห้องเอง ฮันเกิงกล่าวแนะนำตัวแล้วเดินนำทางคิบอมไป

     

     

    อ..เอ่อ เดี๋ยวครับ คิบอมเรียกฮันเกิงไว้

     

     

    หืมม ฮันเกิงหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าคิบอมด้วยความสงสัย

     

     

    ขอบคุณคุณฮันเกิงอีกครั้งนะครับที่ช่วยผมไว้ คิบอมโค้งขอบคุณฮันเกิงอย่างจริงใจ

     

     

    เฮ้ ไม่หรอกคนที่นายควรขอบคุณจริงๆคือคุณฮีชอลต่างหากล่ะ ฉันแค่ทำตามที่เขาสั่งแค่นั้นเอง

     

     

    เอ๋

     

     

    ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม..ช่างเหอะ เข้าบ้านได้แล้วและนายก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณฮันเกิงหรอกนะ เรียกฉันว่าฮันเกิงเฉยๆก็ได้ ฮันเกิงตบบ่าคิบอมเบาๆรู้สึกถูกชะตาด้วย

     

     

    ไม่ได้หรอกครับยังไงคุณฮันเกิงก็เป็นผู้มีพระคุณกับผม คิบอมพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนฮันเกิงนึกขำ

     

     

    เอ๊า ตามใจนาย

     

     

     

    ห้องนอน

     

     

    คิบอมไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่เป็นเรื่องจริง เขาไม่ได้กำลังฝันไปอยู่ใช่ไหม ในชีวิตนี้คิบอมไม่เคยคิดว่าจะได้มาอยู่บ้านที่ใหญ่โตขนาดนี้แล้วก็มีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเอง ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่มีแม้แต่ครอบครัวหรือแม้กระทั่งสถานที่ที่เรียกว่าบ้าน

     

     

    แอ๊ด

     

     

    พออยู่ได้ไหม ฮีชอลถามแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆคิบอมบนเตียง มือเรียวเปิดกล่องพยาบาลที่ถือมาด้วยหยิบสำลีออกมา

     

     

    ได้ครับ ออกจะใหญ่ไปด้วยซ้ำ คิบอมตอบไปตามความเป็นจริง ขณะที่ฮีชอลกำลังทำแผลบนหน้าให้เขา

     

     

    นายเรียนหนังสือรึเปล่า

     

     

    ผมไม่ได้เรียนมหาลัยหรอกครับ คิบอมพูดพลางทำหน้าเศร้า ฮีชอลที่ทำแผลชะงักมือไปชั่วครู่

     

     

    ไว้ฉันจะพานายไปสมัครเรียน

     

     

    จ..จริงนะครับคิบอมหันไปถามฮีชอลด้วยความตื่นเต้น

     

     

    ฉันจะโกหกนายไปทำไม

     

     

    คุณฮีชอลครับผมขอถามอะไรคุณหน่อยคิบอมจับมือฮีชอลที่กำลังแปะพลาสเตอร์แล้วมองหน้าอย่างจริงจัง

     

     

    เรียกฉันว่าฮีชอล ฮีชอลไม่สนใจในท่าทีจริงจังของคิบอมแต่ยังคงทำแผลให้ต่อไป

     

     

    ฮีชอลไม่คิดจะถามผมหน่อยหรอครับว่าผมเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงมีเรื่องกับพวกนั้น

     

     

    ฮีชอลสบตาคิบอมแล้วพูดด้วยเสียงที่หนักแน่น

     

     

    ฉันไม่สนว่านายจะเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงมีเรื่องกับพวกนั้นแต่จากนี้ไปจำไว้แค่ว่านายเป็นคนของฉัน พูดจบฮีชอลก็ส่งยิ้มมาให้ผม

     

     

    แต่ผมอยากบอกนี่ครับ คิบอมพูดเสียงอ่อย อย่างน้อยผมจะได้สบายใจ

     

     

    อย่าทำหน้าแบบนั้นซิ อยากเล่าก็เล่าแต่นอนเล่าได้มั๊ย ฮีชอลถามพร้อมกับเอนตัวลงนอนอย่างสบายใจ

     

     

    ม..มันจะดีหรอครับ

     

     

    เอ๊ะ ฉันว่าดีก็ต้องดีซิ ฮีชอลพูดอย่างเอาแต่ใจแล้วฉุดแขนคิบอมให้นอนลงไปด้วย เสร็จก็จัดการพลิกตัวหันตะแคงข้างจ้องหน้าคิบอม

     

     

    เล่ามาซิ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เช้าวันต่อมา

     

     

    วันนี้ฉันไม่ไปมหาลัยนะ ฮีชอลพูดขึ้นระหว่างทานอาหารเช้า คิบอมที่นั่งอยู่กับฮันเกิงที่ยืนข้างๆหันมามองหน้ากันอย่างงงๆแล้วหันไปมองฮีชอลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม

     

     

    ต..แต่..ฮันเกิงพยายามเอ่ยแย้ง

     

     

    ให้คนเตรียมบีเอ็มไว้ให้ฉัน ฉันจะขับคันนั้น ส่วนคันที่ขับอยู่ทุกวันนายขับไปมหาลัยได้ฉันอนุญาต ฮีชอลพูดต่อเรื่อยๆเหมือนไม่ได้ยินเสียงฮันเกิงที่พยายามแย้ง

     

     

    ครับ สุดท้ายฮันเกิงก็ต้องรับคำเหมือนทุกๆครั้งอย่างเสียไม่ได้เพราะไม่มีทางที่ใครจะห้ามคนอย่างฮีชอลได้ ถ้าฮีชอลอยากได้ฮีชอลก็ต้องได้!!!

     

     

    กินข้าวเสร็จแล้วตามไปด้วย ฉันจะรออยู่ที่รถฮีชอลหันไปพูดกับคิบอมหลังทานข้าวเสร็จแล้วจึงลุกออกไป

     

     

    เมื่อฮีชอลลุกไปได้ซักพักคิบอมก็รีบรวบช้อนตามทันที

     

     

    อ้าว อิ่มแล้วหรอ ฮันเกิงท้วงเมื่อเห็นคิบอมทานข้าวไปแค่นิดเดียว

     

     

    ผมว่าให้ฮีชอลรอคงไม่ดีมั้งครับ

     

     

    ฮึๆ ใช่ไม่ดีแน่ๆ นั่นคือข้อนึงที่นายควรจะรู้ไว้ว่าคุณฮีชอลไม่ชอบรอแม้ว่าจะพูดว่ารอก็ตาม

     

     

    งั้นผมคงต้องรีบไปแล้วล่ะครับ คิบอมผงกหัวลาฮันเกิงแล้วรีบเดืนตามฮีชอลออกไป

     

     

     

    บนรถ

     

     

    เราจะไปไหนกันหรอครับคิบอมเริ่มเปิดบทสทนาเมื่อนั่งรถมาได้พักนึง

     

     

    ก็จัดการเรื่องของนายให้เรียบร้อยไงล่ะ

     

     

    เรื่องของผม?”

     

     

    อย่าถามมากน่า ฮีชอลทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอพร้อมกับกรอกตาไปมาอย่างหน่ายๆ

     

     

    เกือบๆ40นาทีรถคันหรูก็จอดลงหน้าคอนโดมีชื่อที่อยู่ใกล้ๆกับมหาลัยของฮีชอล ร่างบางเปิดประตูลงจากรถโดยไม่สนใจคิบอมที่นั่งงงอยู่ในรถแม้แต่น้อย ฮีชอลหันมามองหน้าอีกฝ่ายพลางทำตาดุใส่

     

     

    จะไม่ลงหรือไงหา

     

     

    ได้ยินดังนั้นคิบอมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งตามฮีชอลที่เดินนำหน้าลิ่วเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว

     

     

    แฮ่กๆ ร..เรามาที่นี่ทำไมครับ คิบอมที่วิ่งตามมาทันแล้วถามด้วยความสงสัยในขณะที่มือก็กุมหน้าอกไว้พยายามผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ ฮีชอลหันมามองหน้าคิบอมแล้วพูดเสียงดังฟังชัดใส่หน้า

     

     

    มา-ซื้อ-ห้อง-ให้-นาย คิบอมหน้าเหวอทันทีที่ฟังจบ ฮีชอลอธิบายต่อ เผื่อไว้เวลาท่านประธานมาบ้าน

     

     

    เอ่อ..ท่านประธานนี่ใครหรอครับเขาได้ยินฮีชอลพูดถึงท่านประธานตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ก็ไม่รู้ซักทีว่าหมายถึงใคร

     

     

    พ่อฉันเอง ฮีชอลตอบเสียงแข็งทำหน้าไม่พอใจเวลาพูดถึงคนที่เป็นพ่อ

     

     

    เลิกถามแล้วก็เลือกห้องซะ ฮีชอลจบเรื่องแล้วยัดแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับคอนโดใส่มือคิบอม

     

     

    เกือบๆชั่วโมงกว่าทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ห้องของคิบอมอยู่ชั้นบนสุดของคอนโดกินบริเวณพื้นที่ทั้งชั้น ความจริงจะเรียกว่าห้องก็ไม่ถูกนักเพราะมันใหญ่เกินกว่าที่จะเรียกว่าห้องได้ อีกทั้งยังมีห้องมากมายหลายห้องไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องดูหนังฟังเพลง ห้องทานอาหารสารพัดห้องแม้แต่ห้องดูดาวก็ยังมี คนที่เลือกก็ไม่ใช่คิบอมแต่เป็นฮีชอล ทั้งๆที่ตอนแรกบอกจะให้คิบอมเลือก พอคิบอมบอกว่าใหญ่ไปฮีชอลก็แย้งว่าเผื่อฉันมาอยู่ด้วย ถึงฮีชอลจะมาอยู่ด้วยแต่ขนาดของห้องมันก็ยังใหญ่เกินอยู่กัน2คนอยู่ดี แต่เอาเถอะใครจะไปห้ามคิมฮีชอลได้

     

     

    นี่กุญแจของนายเอาไป ฮีชอลยื่นกุญแจห้องให้คิบอมส่วนอีกพวงก็เก็บไว้กับตัวเอง ต่อไปก็..พานายไปสมัครเรียน ฮีชอลมองตามตารางที่จดไว้ในสมุดอย่างครุ่นคิด อืม..แล้วก็พานายไปซื้อของต่อ พูดเองเออเองเสร็จสรรพก็สตาร์ทรถออกมุ่งหน้าไปยังมหาลัยทันที

     

     

    เดี๋ยวนะครับ แล้วเขาจะรับผมหรอคิบอมสงสัย เข้ามหาลัยมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆไหนจะต้องสอบ ต้องคัดเลือกแถมเขายังจะมาเข้ากลางคันอีกคงวุ่นวายน่าดู

     

     

    อย่ามาดูถูกฉันนะ อย่างน้อยการเป็นลูกท่านประธานมันก็มีดีเหมือนกัน ฮีชอลยักไหล่น้อยๆประกอบคำพูด พ่อของเขาเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของมหาลัยการที่จะยัดใครเข้ามหาลัยกลางคันสักคนจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร


    TBC 

    nu eng 



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×