คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่2
ภาพตรงหน้าผมคือผู้ชายคนนึงที่หน้าตาสวยเหมือนกับผู้หญิง ผมคงไม่เชื่อว่านี่คือผู้ชายถ้าเขาไม่ได้อยู่ในชุดนักศึกษาและสวมกางเกงอยู่ ใบหน้าสวยหวานที่น่าหลงใหลแต่แววตานั้นทำให้ผมรู้สึกขนลุกเล็กน้อย
“คุณฮีชอลฝนยังตกอยู่นะครับ” ชายคนที่ช่วยผมไว้พยายามเอ่ยท้วงแต่ชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใหม่ก็ไม่ได้สนใจ สายตานั้นจ้องมองมาที่ผม
“นายชื่ออะไร” ฮีชอลเอ่ยถามเด็กหนุ่ม
“ค..คิบอม” เขาพยายามขยับปากพูดอย่างยากเย็น
“........”
“........”
“คิบอม..นายมาอยู่กับฉันมั๊ย?” ฮีชอลเอ่ยปากบอกความต้องการในที่สุด
“ค..คุณฮีชอล” ฮันเกิงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แม้แต่คิบอมเองก็ตกใจและไม่เข้าใจร่างบางว่าต้องการอะไร
มือเรียวถูกยื่นมาตรงหน้าผม ผมสบตากับคนตรงหน้า..ภายใต้แววตาที่แข็งกระด้าง..วูบนึงผมเห็นความอ่อนแอในดวงตาคู่นั้น เพราะความรู้สึกบางอย่าภายในหัวทำให้ผมยื่นมือไปจับกับคนตรงหน้า
แล้วฮีชอลก็ยิ้มออกมา..เป็นรอยยิ้มแรกที่ฮันเกิงได้เห็นหลังจากคุณผู้หญิงเสียไป รอยยิ้มบริสุทธิ์ที่เขาหลงรัก...
บนรถ
ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนรถทุกคนต่างเงียบสนิทไม่มีใครพูดอะไรจนกระทั่งถึงบ้าน เมื่อรถจอดสนิทฮันเกิงก็เดินมาเปิดประตูให้เจ้านายหน้าสวย ฮีชอลก้าวลงจากรถแล้วหันไปเรียกคิบอมให้ลงมา
“นี่คือบ้านของฉัน..ไม่ซิ..ของท่านประธาน” ฮีชอลพูดประชด คิบอมพลางทำหน้าสงสัย
“ฮันเกิง บอกให้แม่บ้านไปจัดห้องให้คิบอมด้วย” ฮีชอลหันไปสั่งฮันเกิงแล้วจึงหันหน้ามาพูดกับคิบอม
“อาบน้ำให้เรียบร้อย เดี๋ยวฉันจะไปหาที่ห้อง” พูดจบก็หันหลังเดินเข้าบ้านไปปล่อยให้ฮันเกิงจัดการต่อ
“เอาล่ะ ฉันชื่อฮันเกิงนะ เดี๋ยวฉันจะพานายไปดูห้องเอง” ฮันเกิงกล่าวแนะนำตัวแล้วเดินนำทางคิบอมไป
“อ..เอ่อ เดี๋ยวครับ” คิบอมเรียกฮันเกิงไว้
“หืมม” ฮันเกิงหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าคิบอมด้วยความสงสัย
“ขอบคุณคุณฮันเกิงอีกครั้งนะครับที่ช่วยผมไว้” คิบอมโค้งขอบคุณฮันเกิงอย่างจริงใจ
“เฮ้ ไม่หรอกคนที่นายควรขอบคุณจริงๆคือคุณฮีชอลต่างหากล่ะ ฉันแค่ทำตามที่เขาสั่งแค่นั้นเอง”
“เอ๋”
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม..ช่างเหอะ เข้าบ้านได้แล้วและนายก็ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณฮันเกิงหรอกนะ เรียกฉันว่าฮันเกิงเฉยๆก็ได้” ฮันเกิงตบบ่าคิบอมเบาๆรู้สึกถูกชะตาด้วย
“ไม่ได้หรอกครับยังไงคุณฮันเกิงก็เป็นผู้มีพระคุณกับผม” คิบอมพูดด้วยสีหน้าจริงจังจนฮันเกิงนึกขำ
“เอ๊า ตามใจนาย”
ห้องนอน
คิบอมไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่เป็นเรื่องจริง เขาไม่ได้กำลังฝันไปอยู่ใช่ไหม ในชีวิตนี้คิบอมไม่เคยคิดว่าจะได้มาอยู่บ้านที่ใหญ่โตขนาดนี้แล้วก็มีห้องนอนส่วนตัวเป็นของตัวเอง ทั้งๆที่ในความเป็นจริงแล้วเขาไม่มีแม้แต่ครอบครัวหรือแม้กระทั่งสถานที่ที่เรียกว่าบ้าน
แอ๊ด
“พออยู่ได้ไหม” ฮีชอลถามแล้วเดินเข้ามานั่งข้างๆคิบอมบนเตียง มือเรียวเปิดกล่องพยาบาลที่ถือมาด้วยหยิบสำลีออกมา
“ได้ครับ ออกจะใหญ่ไปด้วยซ้ำ” คิบอมตอบไปตามความเป็นจริง ขณะที่ฮีชอลกำลังทำแผลบนหน้าให้เขา
“นายเรียนหนังสือรึเปล่า”
“ผมไม่ได้เรียนมหาลัยหรอกครับ” คิบอมพูดพลางทำหน้าเศร้า ฮีชอลที่ทำแผลชะงักมือไปชั่วครู่
“ไว้ฉันจะพานายไปสมัครเรียน”
“จ..จริงนะครับ”คิบอมหันไปถามฮีชอลด้วยความตื่นเต้น
“ฉันจะโกหกนายไปทำไม”
“คุณฮีชอลครับผมขอถามอะไรคุณหน่อย” คิบอมจับมือฮีชอลที่กำลังแปะพลาสเตอร์แล้วมองหน้าอย่างจริงจัง
“เรียกฉันว่าฮีชอล” ฮีชอลไม่สนใจในท่าทีจริงจังของคิบอมแต่ยังคงทำแผลให้ต่อไป
“ฮีชอลไม่คิดจะถามผมหน่อยหรอครับว่าผมเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงมีเรื่องกับพวกนั้น”
ฮีชอลสบตาคิบอมแล้วพูดด้วยเสียงที่หนักแน่น
“ฉันไม่สนว่านายจะเป็นใคร มาจากไหน ทำไมถึงมีเรื่องกับพวกนั้นแต่จากนี้ไปจำไว้แค่ว่านายเป็นคนของฉัน” พูดจบฮีชอลก็ส่งยิ้มมาให้ผม
“แต่ผมอยากบอกนี่ครับ” คิบอมพูดเสียงอ่อย “อย่างน้อยผมจะได้สบายใจ”
“อย่าทำหน้าแบบนั้นซิ อยากเล่าก็เล่าแต่นอนเล่าได้มั๊ย” ฮีชอลถามพร้อมกับเอนตัวลงนอนอย่างสบายใจ
“ม..มันจะดีหรอครับ”
“เอ๊ะ ฉันว่าดีก็ต้องดีซิ” ฮีชอลพูดอย่างเอาแต่ใจแล้วฉุดแขนคิบอมให้นอนลงไปด้วย เสร็จก็จัดการพลิกตัวหันตะแคงข้างจ้องหน้าคิบอม
“เล่ามาซิ”
.
.
.
.
.
.
เช้าวันต่อมา
“วันนี้ฉันไม่ไปมหาลัยนะ” ฮีชอลพูดขึ้นระหว่างทานอาหารเช้า คิบอมที่นั่งอยู่กับฮันเกิงที่ยืนข้างๆหันมามองหน้ากันอย่างงงๆแล้วหันไปมองฮีชอลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ต..แต่..” ฮันเกิงพยายามเอ่ยแย้ง
“ให้คนเตรียมบีเอ็มไว้ให้ฉัน ฉันจะขับคันนั้น ส่วนคันที่ขับอยู่ทุกวันนายขับไปมหาลัยได้ฉันอนุญาต” ฮีชอลพูดต่อเรื่อยๆเหมือนไม่ได้ยินเสียงฮันเกิงที่พยายามแย้ง
“ครับ” สุดท้ายฮันเกิงก็ต้องรับคำเหมือนทุกๆครั้งอย่างเสียไม่ได้เพราะไม่มีทางที่ใครจะห้ามคนอย่างฮีชอลได้ ถ้าฮีชอลอยากได้ฮีชอลก็ต้องได้!!!
“กินข้าวเสร็จแล้วตามไปด้วย ฉันจะรออยู่ที่รถ” ฮีชอลหันไปพูดกับคิบอมหลังทานข้าวเสร็จแล้วจึงลุกออกไป
เมื่อฮีชอลลุกไปได้ซักพักคิบอมก็รีบรวบช้อนตามทันที
“อ้าว อิ่มแล้วหรอ” ฮันเกิงท้วงเมื่อเห็นคิบอมทานข้าวไปแค่นิดเดียว
“ผมว่าให้ฮีชอลรอคงไม่ดีมั้งครับ”
“ฮึๆ ใช่ไม่ดีแน่ๆ นั่นคือข้อนึงที่นายควรจะรู้ไว้ว่าคุณฮีชอลไม่ชอบรอแม้ว่าจะพูดว่ารอก็ตาม”
“งั้นผมคงต้องรีบไปแล้วล่ะครับ” คิบอมผงกหัวลาฮันเกิงแล้วรีบเดืนตามฮีชอลออกไป
บนรถ
“เราจะไปไหนกันหรอครับ” คิบอมเริ่มเปิดบทสทนาเมื่อนั่งรถมาได้พักนึง
“ก็จัดการเรื่องของนายให้เรียบร้อยไงล่ะ”
“เรื่องของผม?”
“อย่าถามมากน่า” ฮีชอลทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอพร้อมกับกรอกตาไปมาอย่างหน่ายๆ
เกือบๆ40นาทีรถคันหรูก็จอดลงหน้าคอนโดมีชื่อที่อยู่ใกล้ๆกับมหาลัยของฮีชอล ร่างบางเปิดประตูลงจากรถโดยไม่สนใจคิบอมที่นั่งงงอยู่ในรถแม้แต่น้อย ฮีชอลหันมามองหน้าอีกฝ่ายพลางทำตาดุใส่
“จะไม่ลงหรือไงหา”
ได้ยินดังนั้นคิบอมก็รีบลงจากรถแล้ววิ่งตามฮีชอลที่เดินนำหน้าลิ่วเข้าไปในตึกอย่างรวดเร็ว
“แฮ่กๆ ร..เรามาที่นี่ทำไมครับ” คิบอมที่วิ่งตามมาทันแล้วถามด้วยความสงสัยในขณะที่มือก็กุมหน้าอกไว้พยายามผ่อนลมหายใจให้เป็นปกติ ฮีชอลหันมามองหน้าคิบอมแล้วพูดเสียงดังฟังชัดใส่หน้า
“มา-ซื้อ-ห้อง-ให้-นาย” คิบอมหน้าเหวอทันทีที่ฟังจบ ฮีชอลอธิบายต่อ “เผื่อไว้เวลาท่านประธานมาบ้าน”
“เอ่อ..ท่านประธานนี่ใครหรอครับ” เขาได้ยินฮีชอลพูดถึงท่านประธานตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ก็ไม่รู้ซักทีว่าหมายถึงใคร
“พ่อฉันเอง” ฮีชอลตอบเสียงแข็งทำหน้าไม่พอใจเวลาพูดถึงคนที่เป็นพ่อ
“เลิกถามแล้วก็เลือกห้องซะ” ฮีชอลจบเรื่องแล้วยัดแฟ้มเอกสารเกี่ยวกับคอนโดใส่มือคิบอม
เกือบๆชั่วโมงกว่าทุกอย่างก็เสร็จเรียบร้อย ห้องของคิบอมอยู่ชั้นบนสุดของคอนโดกินบริเวณพื้นที่ทั้งชั้น ความจริงจะเรียกว่าห้องก็ไม่ถูกนักเพราะมันใหญ่เกินกว่าที่จะเรียกว่าห้องได้ อีกทั้งยังมีห้องมากมายหลายห้องไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องดูหนังฟังเพลง ห้องทานอาหารสารพัดห้องแม้แต่ห้องดูดาวก็ยังมี คนที่เลือกก็ไม่ใช่คิบอมแต่เป็นฮีชอล ทั้งๆที่ตอนแรกบอกจะให้คิบอมเลือก พอคิบอมบอกว่าใหญ่ไปฮีชอลก็แย้งว่า’เผื่อฉันมาอยู่ด้วย’ ถึงฮีชอลจะมาอยู่ด้วยแต่ขนาดของห้องมันก็ยังใหญ่เกินอยู่กัน2คนอยู่ดี แต่เอาเถอะใครจะไปห้ามคิมฮีชอลได้
“นี่กุญแจของนายเอาไป” ฮีชอลยื่นกุญแจห้องให้คิบอมส่วนอีกพวงก็เก็บไว้กับตัวเอง “ต่อไปก็..พานายไปสมัครเรียน” ฮีชอลมองตามตารางที่จดไว้ในสมุดอย่างครุ่นคิด “อืม..แล้วก็พานายไปซื้อของต่อ” พูดเองเออเองเสร็จสรรพก็สตาร์ทรถออกมุ่งหน้าไปยังมหาลัยทันที
“เดี๋ยวนะครับ แล้วเขาจะรับผมหรอ” คิบอมสงสัย เข้ามหาลัยมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆไหนจะต้องสอบ ต้องคัดเลือกแถมเขายังจะมาเข้ากลางคันอีกคงวุ่นวายน่าดู
“อย่ามาดูถูกฉันนะ อย่างน้อยการเป็นลูกท่านประธานมันก็มีดีเหมือนกัน” ฮีชอลยักไหล่น้อยๆประกอบคำพูด พ่อของเขาเป็นผู้อุปถัมภ์รายใหญ่ของมหาลัยการที่จะยัดใครเข้ามหาลัยกลางคันสักคนจึงไม่ใช่เรื่องยากอะไร
TBC
nu eng
ความคิดเห็น