ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Super Junior] Loveless

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1

    • อัปเดตล่าสุด 10 ธ.ค. 52



    เพี้ยะ!!! แกมันไม่น่าเกิดมาเป็นลูกฉัน

    แกไอ้ตัวกาลกิณี แกทำให้แม่ของแกต้องตาย

    ฮึ มีแกเป็นลูกทำให้ฉันต้องอับอายขายขี้หน้าคนอื่นว่ามีลูกผู้ชายหรือผู้หญิงกันแน่

     

     

    เฮือก  ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมือเรียวสวยทาบลงกับอกด้านซ้ายที่หัวใจกำลังเต้นอย่างรัวเร็วก่อนจะค่อยๆช้าลงจนเป็นปกติ แค่ฝัน  เขาหลับตาลงช้าๆราวกับต้องการจะลืมเรื่องที่ฝันไปให้หมด ก่อนจะลุกลงจากเตียงเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปมหาลัยอย่างทุกวัน เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินไปส่องกระจกเพื่อเช็คความเรียบร้อย ภาพในกระจกสะท้อนให้เห็นชายหนุ่มหน้าตาสวยหวานดั่งผู้หญิง เรือนผมสีดำสนิทที่ตัดกับผิวขาวๆราวกับหิมะ ใบหน้าเรียวรูปไข่รับกับปากเรียวเล็กสีกุหลาบตามธรรมชาติทำให้คิมฮีชอลดูเหมือนตุ๊กตากระเบื้องแก้วที่มีชีวิตแต่เพราะดวงตากลมโตที่มีนัยน์ตากระด้างบวกกับบุคลิกและสีหน้าที่เย็นชาทำให้คนที่อยู่ใกล้ต่างพากันเกรงกลัว

     

     

     

    ห้องอาหาร

     

     

    ท่านประธานล่ะ ฮีชอลเอ่ยถามแม่บ้านที่ยืนตักข้าวอยู่ข้างๆ

     

     

    นายท่านออกไปแต่เช้าแล้วคะ เห็นว่าจะไปดูสาขาที่จีนประมาณเดือนนึง แม่บ้านตอบคำถามเสร็จก็ถอยมายืนห่างๆเผื่อว่าคุณหนูเรียกใช้ด้วยเป็นที่รู้กันว่าคุณหนูฮีชอลอารมณ์ร้อนและไม่ชอบรอ หากทำให้ไม่พอใจแล้วมีสิทธิ์โดนตะคอกใส่หรือไม่ก็ทำร้ายร่างกายเอาได้ ทานไปได้ไม่กี่คำร่างบางก็รวบช้อน

     

     

    ฉันอิ่มแล้ว ไปบอกให้ฮันเกิงเตรียมรถรอด้วย มือเรียวยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มช้าๆ

     

     

    ค่ะ แม่บ้านรับคำแล้วรีบออกไปทำตามที่คุณหนูสั่ง

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    มหาลัยเอกชนมีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง

     

     

    อ...เอ่อ พี่ฮีชอลครับเสียงเรียกจากคนตรงหน้าทำให้ฮีชอลละสายตาจากหนังสือที่อ่านอยู่มาจ้องหน้าคนที่เรียกแทน ใบหน้าสวยเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามีธุระอะไรกับตน คนที่เป็นฝ่ายเรียกในตอนแรกกลับเงียบเสียเองด้วยที่ว่าเผลอจ้องใบหน้ารุ่นพี่คนสวยอย่างลืมตัว

     

     

    ว้าว พี่ฮีชอลสวยจังเลยถึงจะดูหยิ่งๆไปหน่อยแต่พอมองใกล้ๆแล้วสวยมากๆ เผลอๆอาจจะสวยกว่าพี่จองซูอีกก็ได้... ไม่ซิสวยกว่าด้วยซ้ำ

     

     

    ฮีชอลเริ่มขมวดคิ้วไม่พอใจเมื่อคนตรงหน้าไม่พูดเสียที ฝ่ายรุ่นน้องเมื่อเห็นฮีชอลชักสีหน้าก็รีบปริปากพูดอย่างรวดเร็ว

     

     

    คือว่า มีคนฝากบอกว่าต้องการพบพี่ฮีชอลฮะ ตอนนี้เขารออยู่ที่ศาลาริมน้ำ โดยไม่รอให้ฮีชอลพูดอะไรรุ่นน้องคนนั้นก็วิ่งหนีหายเข้าตึกไปเลย

     

     

    ใครกันนะ เขาคิด หวังว่าคงไม่ใช่.....ช่างเหอะ ไปเดี๋ยวก็รู้เองว่าใคร ว่าแล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเก็บของลงกระเป๋า ฝ่ายฮันเกิงที่นั่งมองอยู่ห่างๆเมื่อเห็นฮีชอลเก็บของก็ลุกเดินเข้าไปหา

     

     

    คุณฮีชอลจะไปไหนครับ

     

     

    ไม่ใช่เรื่องของนาย แล้วไม่ต้องตามฉันไปนะ เสร็จธุระแล้วฉันจะเข้าเรียนเลย สั่งเสร็จก็เดินออกไป ฮันเกิงได้แต่นิ่งเงียบมองร่างบางที่เดินออกไปอย่างเป็นห่วง

     

     

     

    ที่ศาลาริมน้ำ

     

     

    ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนรอใครซักคนด้วยความกระวนกระวายใจ

     

     

    หึย ให้ซองมินไปตามจะได้เรื่องมั๊ยวะ โอ๊ย เครียดๆๆๆๆโว้ย ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่เดินวนไปมารอบศาลา

     

     

    อ๊ะ เมื่อเห็นคนที่เขาต้องการเจอกำลังเดินตรงมาก็รีบเอามือเสยผมจัดแต่งเสื้อผ้าให้ดูดีทันทีหวังจะให้คนๆนั้นประทับใจมากที่สุด เมื่อร่างบางก้าวเท้ามายืนตรงหน้าก็รีบทักทันที

     

     

    สวัสดีครับ ฮีชอล

     

     

    ฮีชอลมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก ทำให้คนที่ถูกมองรู้สึกร้อนๆหนาวๆในใจ

     

     

    ขอโทษนะรู้สึกว่าฉันจะไม่รู้จักคุณ ฮีชอลตอบชายหนุ่มตรงหน้าด้วยเสียงเรียบๆ

     

     

    เอาแล้วไงกู ตอนนี้ใจเขาเริ่มจะตกลงไปอยู่ตาตุ่มอยู่รอมร่อ เอาวะเป็นไงเป็นกัน

     

     

    แต่ผมรู้จักฮีชอลดีเลยครับ ผมชื่อฮยอกแจครับ ชายหนุ่มส่งยิ้มที่เขาคิดว่าดูดีที่สุดไปให้คนตรงหน้า

     

     

    แล้วมีธุระอะไรกับฉัน หวังว่าคงไม่ใช่เรื่องไร้สาระนะ

     

     

    ผมรักฮีชอลครับ ได้โปรดคบกับผมด้วย เขาตัดสินใจบอกความในใจที่เขารู้สึกกับร่างบางในที่สุด

     

     

    .........

     

     

    ถ้าฉันขอให้นายทำอะไรบางอย่าง นายจะทำเพื่อฉันได้มั๊ย เมื่อได้ยินที่ฮีชอลพูดทำให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาเป็นกองแล้วก็รีบละล่ำละลักตอบรับทันที

     

     

    ด...ได้ครับ เพื่อฮีชอลแล้วผมทำได้ทุกอย่างง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ เขาคิดในใจอย่างลิงโลด

     

     

    ฮีชอลยิ้มออกมานิดนึงก่อนจะพูดเสียงหวานว่า

     

     

    “ตายให้ฉันดูหน่อยซิ

     

     

    ต...ตาย ชายหนุ่มย้ำอีกทีให้แน่ใจว่าตนไม่ได้หูฝาด

     

     

    ใช่ ฉันอยากให้นายตาย... เพื่อฉัน...ไม่ได้หรือไง

     

     

    อ...เอ่อ

     

     

    ไหนใครๆเขาก็พูดกันว่าเพื่อคนที่รักแล้วแม้แต่ชีวิตก็ให้ได้ไงละ

     

     

    ............

     

     

    นายไม่รักฉันหรอ เสียงหวานเอ่ยยั่ว

     

     

    ...........

     

     

    เอาไว้นายพร้อมที่จะตายเพื่อฉันได้เมื่อไหร่ก็เรียกฉันด้วยนะ ฉันจะมาดู พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไป อ้อ คราวหลังถ้าเจอช่วยเรียกฉันว่าพี่ด้วยนะเพราะฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นนาย แต่ถ้าไม่มาเจอกันก็จะดีเป็นที่สุด คราวนี้เดินออกไปเลยโดยไม่หันกลับมามอง

     

     

    ฮึ รักงั้นหรอ ไร้สาระ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    แปะๆๆ เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมกับชายคนหนึ่งที่เดินออกมาจากมุมตึก

     

     

    ช่างเป็นคำพูดที่เท่จริงๆเลยนะ น่าเสียดายที่ฉันไม่ได้อัดเสียงเอาไว้ชายคนนั้นพูดด้วยน้ำเสียงเยาะๆ

     

     

    แก ฮีชอลกัดฟันแน่นด้วยความโกรธเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนพูด

     

     

    หึ คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกหรือไง

     

     

    งั้นมั้ง ฮีชอลยักไหล่กวนๆ

     

     

    เหอะ คนอย่างนายไม่มีค่าพอที่จะให้ใครซักคนต้องมาตายหรอก เพราะคนอย่างนายหนะมันเลือดเย็นไม่สมควรได้รับความรักจากใคร

     

     

    ไม่สมควรได้รับความรักจากใครงั้นหรอ ฮีชอลคิดอย่างขมขื่น

     

     

    ใช่ ฉันมันเลือดเย็น...ก็แหม...ใครจะเหมือนนายละมีแต่คนรัก หึ น่าเสียดายนะที่คราวนั้นนายแค่ขาหักแต่ครั้งต่อไป.... ฮีชอลทำท่าปาดคอช้าๆ

     

     

    หมับ มือแกร่งบีบแขนร่างบางแน่นราวกับจะให้แหลกคามือ

     

     

    นายคิดจะทำอะไร ร่างสูงถามเสียงต่ำ

     

     

    ไม่รู้ซิ...แต่รับรองว่าสนุกแน่ ฮีชอลแค่นยิ้มใส่คนตรงหน้าก่อนจะผลักอกร่างสูงออกแล้วเดินขึ้นตึกไป

     

     

    ฉันไม่ปล่อยให้นายทำตามใจหรอก ฮีชอล ชายหนุ่มมองตามร่างบางที่เดินไปด้วยสายตาเคียดแค้น

     

     

     

    เลิกเรียน

     

     

    แวะไปหาแม่ก่อน ฮีชอลสั่งเสียงเรียบแต่ในใจกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่

     

     

    ครับ ฮันเกิงรับคำ

     

     

    ที่สุสาน ฮีชอลนั่งคุกเข่าตรงหน้าป้ายหลุมศพหนึ่ง มือเรียวปัดเศษใบไม้แถวนั้นออกก่อนจะวางช่อลิลลี่สีขาวที่แวะซื้อมาลง ตาคู่สวยมองรูปที่ติดอยู่ที่ป้าย...ในรูปเป็นภาพของหญิงสาวที่ดูขี้โรคเห็นได้จากใบหน้าที่ค่อนข้างซูบแต่กระนั้นก็ยังมีเค้าของความสวยอยู่ ปากบางยิ้มกว้างอย่างสดใสราวกับยิ้มให้คนตรงหน้า ฮีชอลใช้มือไล้ไปที่รูปเบาๆเหมือนจะส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดไป ไม่มีใครรู้ว่าฮีชอลรู้สึกอย่างไรนอกจากตัวฮีชอลเอง ฮันเกิงนึกห่วงร่างบางตรงหน้าอยู่ในใจ

     

     

    แปลก ฮีชอลดูเงียบๆตั้งแต่แยกกับเขาเมื่อเช้า ปกติฮีชอลเงียบอยู่ก็จริงแต่เขารู้สึกได้ว่ามันผิดปกติ เหมือนฮีชอลกำลังคิดจะทำอะไรบางอย่าง แววตาแบบนั้น....แถมยังมาที่นี่อีก ฮีชอลมักจะมาที่นี่เวลามีเรื่องไม่สบายใจ เฮ้อ...ทั้งที่เขารู้จักฮีชอลมาเป็นเวลานานแต่ในเวลานี้เขาเหมือนจะไม่รู้จักฮีชอลเลย

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    พยากรณ์อากาศวันนี้ โซลและพื้นที่ใกล้เคียงมีฝนฟ้าคะนองอย่างหนักทำให้การจราจรในช่วงนี้ติดขัด คาดว่าจะตกหนักต่อเนื่อง..........

     

     

    ปิ๊ด มือเรียวกดปุ่มปิดทีวีอย่างรำคาญแล้วโยนรีโมทลงเบาะข้างตัว

     

     

    น่าเบื่อ ฮีชอลคิดในใจพลางเบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถดูวิวยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยสายฝนปรายโปรยก่อนที่นัยน์ตาสวยจะหยุดอยู่กับภาพๆหนึ่ง

     

     

    จอดรถ!!”

     

     

    ฮันเกิงเบนรถมาจอกข้างทางอย่างรวดเร็วแล้วเปิดไฟกระพริบเอาไว้ โชคดีที่ซอยนี้รถไม่เยอะไม่เช่นนั้นเขาอาจจะโดนรถคันอื่นที่ตามมาบีบแตรไล่เอาได้ ชายหนุ่มหันไปมองฮีชอลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามแต่ฮีชอลก็ไม่ได้สนใจเขาเพราะสายตากำลังจับจ้องไปที่สิ่งๆหนึ่ง

     

     

    มองอะไรของเขานะ

     

     

    ฮันเกิงเลื่อนสายตาตามไปที่ฮีชอลกำลังมองก็พบกับภาพของชายกลุ่มหนึ่งกำลังมุงทำอะไรบางอย่างอยู่ตรงซอกตึก ด้วยความที่ฝนกำลังตกอยู่จึงทำให้มองเห็นไม่ค่อยชัดนักแต่เมื่อสายตาเริ่มปรับภาพได้ก็พบว่าชายกลุ่มนั้นกำลังรุมทำร้ายคนอยู่ จอดมองได้ซักพักฮีชอลก็เอ่ยปากพูด

     

     

    ไล่พวกมันไปซิ

     

     

    ค...ครับ?” ให้เขาไปไล่ไอ้พวกนั้นเนี่ยนะ

     

     

    อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำสอง

     

     

    ครับ เขารับคำแล้วเปิดประตูเดินลงไปจากรถโดยไม่ลืมที่จะหยิบปืนคู่ใจเหน็บไปด้วย

     

     

    นี่มันอะไรกันวะ ฮีชอลคิดจะทำอะไร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมฮีชอลถึงต้องการให้เขาไปช่วยเหยื่อคนนั้น มันผิดวิสัยของฮีชอลที่ไม่ชอบยุ่งกับใครแล้วก็ไม่ชอบให้ใครมายุ่ง

     

     

    ขายาวก้าวมาหยุดมายืนหน้าพวกกลุ่มนักเลง ชายคนนึงที่นั่งอยู่บนลังไม้เก่าๆเหลือบมาเห็นคนแปลกหน้าเดินเข้ามาจึงสั่งให้พวกที่เหลือหยุด

     

     

    เฮ้ พวกเราดูซิมีแขกมาหา พวกนักเลงหันมามองหน้าแขกไม่ได้รับเชิญก็พากันทิ้งอาวุธแล้วค่อยๆเดินมาล้อม

     

     

    มีธุระอะไรกับพวกเรารึป่าวไอ้น้อง คนที่น่าจะเป็นหัวหน้าเดินแหวกออกมาจากกลุ่มพลางทำหน้ากวนๆใส่เขา

     

     

    ปล่อยเขาไปซะ เมื่อฮันเกิงพูดจบไอ้นักเลงพวกนั้นก็พากันหัวเราะเหมือนเรื่องที่เขาพูดไปตลกเสียเต็มประดา

     

     

    เฮ้ย ไอ้คนหัวหน้าหันไปตวาดใส่พวกลูกน้องให้หยุดหัวเราะก่อนจะหันมามองหน้าเขาอย่างดูถูกแล้วเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อผู้ชายคนที่โดนซ้อมที่นอนอยู่กับพื้นให้เงยหน้าขึ้นมา

     

     

    เฮ้ ไอ้หนูมีคนมาช่วยแกวะ สงสัยมันอยากจะเป็นพระเอก...แต่ท่าทางมันคงจะได้มานอนตายเป็นเพื่อนแกแทน วะ ฮ่าๆๆๆ

     

     

    ใครกันจะมาช่วยเขา ผมพยายามเปิดเปลือกตาอันหนักอึ้ง ภาพตรงหน้าของผมคือผู้ชายคนนึงยืนอยู่ท่ามกลางไอ้พวกนั้นที่ซ้อมผม มาคนเดียวหรอ แล้วจะไหวมั๊ยเนี่ยขนาดเขาคนเดียวยังเอาตัวไม่รอดเลยแล้วผู้ชายคนนี้...จะเหลือหรอ

     

     

    ปล่อยเขาไปซะ ชายคนนั้นพูดอีกครั้ง

     

     

    มึงคิดว่ามึงเป็นใครหะ ไอ้หน้าอ่อน ไอ้คนพวกนั้นเริ่มทำท่าจะรุมเข้าหา

     

     

    ผู้ชายคนนั้นแสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมาว่า

     

     

    ใครที่ไม่ใช่บุพการีมึงไงละ...ไอ้กร๊วก หน้าของคนที่จับคอเสื้อผมไว้กระตุกด้วยความโกรธจัด

     

     

    จัดการมัน ไอ้เวรนั่นตะคอกสั่งลูกน้องเสียงดัง

     

     

    กริ๊ก

     

     

    ถ้าขยับเข้ามาอีกก้าวเดียวสมองมึงกระจุยแน่

     

     

    ชิ ฝากไว้ก่อนเหอะมึง เจอคราวหน้ามึงไม่รอดแน่...ไปเด็กๆ ไอ้ตัวหัวหน้าชี้หน้าผู้ชายคนนั้นแล้วหันหลังพาพวกกลับไป

     

     

    อิโด่ ก็แค่พวกกุ๊ยกระจอกๆ ปืนยังแม่งไม่มีปัญญาซื้อใช้ ผู้ชายคนนั้นบ่นเบาๆแล้วเหน็บปืนเก็บไว้ที่เดิม

     

     

    นายเป็นอะไรมากรึเปล่า เขาเดินเข้ามาถามผมพร้อมกับช่วยพยุงผมนั่งพิงกำแพง

     

     

    ข...ขอบคุณค...ครับ ผมพยายามพูดแต่มันเจ็บปากชะมัดเลย

     

     

    อย่าพยายามพูดเลย เดี๋ยวจะเจ็บเปล่าๆ เขาโบกมือห้ามไม่ให้ผมพูด

     

     

    ข...ขอบคุณจ...จริง ถ้าไม่ได้คนตรงหน้าช่วยไว้ป่านนี้เขาคง....

     

     

    เอาน่าๆ แล้วนี่ไหวมั๊ย

     

     

    พอไหวครับ

     

     

    ฉันคงช่วยนายได้เท่านี้แหละ เพราะว่า... เขาทำสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยแต่อยู่ดีๆเขาก็หยุดพูด

     

     

    ค...คุณฮีชอล ผู้ชายคนนั้นครางเบาๆ เมื่อใครอีกคนเดินเข้ามา

    TBC 

     

     

    nu eng 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×