คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : : :Witch Heechul: : Part2
: :Witch Heechul: : Part2
ใครๆก็เรียกฉันว่าแม่มด..แม้แต่คนรัก
หนึ่งเดือนผ่านไปเรื่องของยูริก็เงียบหาย ไม่มีใครพูดถึงเธออีกราวกับไม่เคยมีคนชื่อนี้ที่โรงเรียนนี้มาก่อน...
“นี่ฮีชอล พรุ่งนี้ฉันจะไปเดทกับเดนนิส นายไปนอนค้างบ้านฉันช่วยฉันเลือกชุดหน่อยหน่อยซิ นะๆๆๆๆๆ” โบกยองเอ่ยปากขอร้องเพื่อนรักพลางทำหน้าตาน่าสงสาร หลังจากที่เดนนิสมาช่วยโบกยองตั้งแต่คราวนั้นทั้งสองคนก็เริ่มโทรศัพท์คุยกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันและในที่สุดก็ตกลงคบกันเป็นแฟน
“โอ๊ย..ทำยังกะไปเดทครั้งแรก เธอไปเที่ยวด้วยกันเกือบจะทุกอาทิตย์เลยนะ ยังจะตื่นเต้นอะไรอีก” ฮีชอลพูดอย่างเอือมๆ ชิส์ยัยโบกยอง ฉันรู้หรอกน่าว่าคราวนั้นเธอไม่ได้ช๊อคอะไรหรอกแต่เป็นเพราะเดนนิสยืนอยู่หรอกเธอถึงได้ทำตัวน่าสงสาร ลองนายนั่นไม่อยู่เถ๊อะยัยยูริได้ตายตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว..ยัยแรดเอ๊ย
“น่านะฮีชอลเพื่อนรักของฉัน ไว้คราวหน้าฉันไปปารีสจะซื้อกระเป๋าร้านที่นายชอบมาให้เลยโอเคมะ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นว่าการทำตัวออดอ้อนกับคนที่รู้ไส้รู้พุงกันมานานแล้วคงไม่ได้ผล
“อืมมมม....” ฮีชอลแกล้งทำท่าคิด
“สามใบเลยเอ๊า” ตัดใจเพิ่มโปรโมชั่นพิเศษ ฉันเพิ่มให้ขนาดนี้อย่าเล่นตัวอีกนะยะ
“ก็ได้..แต่ขอไปบอกซีวอนก่อนนะ” ตกลงใจช่วยในที่สุด ถึงโบกยองไม่เอากระเป๋ามาล่อเขาก็ต้องช่วยอยู่แล้วแต่ขอแกล้งหน่อยเหอะ คนมันหมั่นไส้
“ย่ะ..ไปขอกันดีๆนะ อย่ามัวแต่ร่ำลา ฉันขี้เกียจรอ” ยักคิ้วให้อีกฝ่ายอย่างรู้ทันแล้วรีบวิ่งหนีไปก่อนที่จะโดนสำเร็จโทษ
.
.
.
.
.
.
ห้องประธานนักเรียน
“ซีวอนวันนี้ฉันไปค้างบ้านโบกยองนะ” ฮีชอลเอ่ยขออนุญาตพ่อ(ทูนหัว)ขณะที่อีกฝ่ายกำลังนั่งคร่ำเคร่งทำงานอยู่
“วางแผนอะไรกันอีกหล่ะ..หืม” ชายหนุ่มวางมือจากงานหรี่ตามองหน้าคนรักอย่างหวาดระแวง ฮีชอลได้ฟังก็พลางทำหน้ามุ่ยลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปตีแขนซีวอนอย่างหมั่นไส้
“เห็นฉันเป็นคนแบบไหนกันฮะ” ต่อว่าอีกฝ่ายเสียงเขียวแถมด้วยส่งค้อนให้อีกยก กะว่าจะยอมทำตัวดีๆซักวันนึงทดแทน..อย่าหวังเลยชิส์
“โอ๋ๆๆๆ ผมไม่ได้หมายความว่ายังงั้นซักหน่อย” ซีวอนชักเหงื่อตกเมื่อเห็นสุดที่รักเริ่มงอนหวั่นๆว่าจะเกิดพายุลูกใหญ่ขึ้น “ผมหมายความว่าฮีนิมกับโบกยองวางแผนจะไปช๊อปปิ้งหรือไปเที่ยวที่ไหนรึป่าวเอง” พูดแก้ตัวเสร็จก็ส่งยิ้มหวานๆไปหนึ่งทีกลบเกลื่อน
“ไม่รู้แหละ..ต้องอนุญาตด้วย” ฮีชอลที่ตอนนี้งอนแก้มป่องไปแล้วสะบัดหน้าหนีคนรักแล้วไปยืนกอดอกอยู่มุมห้อง ซีวอนส่ายหัวน้อยๆให้กับความน่ารักของร่างบางบทจะร้ายก็ร้ายซะสุดขั้วบทจะน่ารักก็น่ารักซะจนน่า.....(น่าอะไร?)
“งั้นขอกอดให้ชื่นใจหน่อยนะ เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่ได้กอดแล้ว” ซีวอนเดินเข้าไปกอดฮีชอลจากข้างหลังพลางซุกหน้าเข้าที่คอ จมูกโด่งเริ่มซุกไซร้ไปตามซอกคอหอมกรุ่นสูดดมความหอมหวานของคนรักที่หวานไปทั่วทั้งตัว
“อื้อ..มันจั๊กกะจี๋นะคิกๆๆ” ฮีชอลดันหน้าซีวอนออกไปห่างๆ แต่ซีวอนก็ไม่ยอมแพ้พลิกตัวฮีชอลเข้าหาตัวเองแล้วประกบจูบเข้าที่ริมฝีปากอิ่ม จุมพิตนุ่มนวลแผ่วเบาก่อนจะค่อยๆทวีความร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์ที่เริ่มก่อตัว ร่างบางเผยอปากเพื่อให้ลิ้นอุ่นสอดแทรกเข้าไปหาความหอมหวานภายในโพรงปาก มือเรียวค่อยๆเลื่อนไปคล้องคอร่างสูงไว้ ริมฝีปากร้อนผละออกจากริมฝีปากแดงที่ดูเย้ายวนอันเนื่องมาจากความบวมช้ำอย่างอ้อยอิ่งแล้วไล้ลงมาเรื่อยผ่านลำคอขาวโดยไม่ลืมที่จะฝากรอยรักไว้เป็นที่ระลึก มือหนาเริ่มซุกซนไม่อยู่สุขเลื่อนไปบีบเฟ้นสะโพกกลึง ขายาวแกล้งแทรกผ่านกลางลำตัวให้ร่างบางเกิดอารมณ์
“อ๊ะ..” ฮีชอลเริ่มจะเกิดอารมณ์ขึ้นมาจริงๆแต่ก็นึกได้ว่าโบกยองกำลังรอตัวเองอยู่จึงออกแรงพลักซีวอนอีกครั้ง “ฮีนิมต้อง..ป..ไปแล้วนะ.อืมม..โบกยองรอ อ..อยู่” เสียงหวานพูดตะกุกตะกักเพราะร่างสูงเริ่มใช้ลิ้นหยอกล้อกับเม็ดทับทิสีสด ยิ่งทำให้สติของร่างบางหลุดลอยไปมากขึ้น
“ขอก่อนได้ไหม” ซีวอนกระซิบแผ่วเบาตรงซอกหูก่อนจะตวัดลิ้นเบาๆให้ร่างบางเสียวซ่าน
“อ๊า..อย่าแกล้งซิ” ฮีชอลเชิดหน้าขึ้นกัดริมฝีปากสะกัดกลั้นอารมณ์ ส่วนนั้นของร่างสูงเริ่มตุงกางเกงมาชนหน้าขาของร่างบางจนฮีชอลรู้สึกได้
“ดูซิผมเป็นขนาดนี้แล้วฮีนิมยังไม่ยอมผมอีกหรอ” ซีวอนจับมือเรียวมาลูบส่วนนั้นของตนเองเป็นการพิสูจน์ ดวงหน้าหวานขึ้นสีอย่างห้ามไม่ได้ ฮีชอลตัดสินใจขั้นเด็ดขาดก่อนที่จะเลยเถิดไปมากกว่านี้จนไม่ได้ไปกับโบกยอง
พลั่ก/โอ๊ยยย
ฮีชอลจัดการเหยียบเท้าซีวอนเต็มแรงเล่นเอาร่างสูงหดมือปลาหมึกมากุมเท้าแทบไม่ทัน ใบหน้าหล่อเบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“ที่รักอ่า..ซีวอนจูเนียร์ตกใจหดเลย”
“นี่แหน่ะ ไอ้หื่นยังมีหน้ามาตลกอีก” ฮีชอลหยิกพุงซีวอนแรงๆอีกทีนึง “ฉันไปแล้วนะ ป่านนี้ยัยโบกยองสาปส่งฉันแล้วมั้ง” ซีวอนพยุงตัวขึ้นเดินกะเพลกๆมาหาฮีชอล
“เดี๋ยวผมเดินไปส่ง” มือหนาไม่วายคว้าเอวบางมาโอบแต่ฮีชอลก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเห็นเจ็บเท้าอยู่ “กลับมาผมจะทบต้นทบดอกคิดบัญชีเอาให้ลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลยคอยดู” ซีวอนแกล้งกระซิบใส่หูฮีชอลให้ร่างบางเขินเล่น ซึ่งแน่นอนว่าเขาเอาจริงถึงตอนนั้นดิ้นยังไงเขาก็ไม่ปล่อยแน่!!!
.
.
.
.
.
.
“ส่งแค่ตรงนี้พอแหละ ไม่ต้องไปถึงรถหรอก” ฮีชอลหยุดยืนอยู่หน้าตึก มองเท้าซีวอนอย่างเป็นห่วง “เจ็บมากมั๊ย”
“ไม่หรอก..ไปเถอะเดี๋ยวโบกยองรอ” ซีวอนส่งยิ้มให้คนรัก เขาไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอกแค่อ้อนนิดอ้อนหน่อยเท่านั้นเอง
“ไปนะ” ฮีชอลโบกมือให้อีกฝ่ายกำลังจะหันหลังไป
“ซีวอน!!!!”
พลั่ก
เด็กหนุ่มหน้าหวานพุ่งตรงเข้ามากอดซีวอนเต็มแรงไม่สนใจคนรอบข้างที่ยืนมอง ซีวอนพลางทำหน้างงนึกไม่ออกว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
“คิดถึงจังเลย..ทึกกี้ไงจำไม่ได้หรอ” คนกอดเงยหน้าขึ้นมาทำให้ซีวอนเห็นหน้าหวานชัดๆ
“ทึกกี้...” ซีวอนครางเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างตกใจก่อนจะกอดอีกฝ่ายกลับแน่นซะยิ่งกว่าเดิม สองคนยืนกอดกันอยู่ตรงนั้นเรียกสายตาจากทุกคนให้หันมามองได้เป็นอย่างดี
“ทึกกี้กลับมาแล้วนะ” อีทึกพูดพร้อมกับส่งรอยยิ้มน่ารักให้ซีวอน ไม่ทันคาดคิดคนตัวเล็กก็เขย่งจุ๊บปากซีวอนเบาๆนึงทีโดยที่เจ้าตัวไม่ขัดขืนแถมยังยิ้มแก้มปริเสียอีก
ฮีชอลที่ยืนอยู่มองภาพตรงหน้าด้วยสายตาน่ากลัว ออร่าแม่มดแผ่ออกมาจนคนรอบข้างรู้สึกได้และเริ่มขยับตัวหนียกเว้นก็แต่สองคนนั้นที่สร้างโลกส่วนตัวของตัวเอง มือเรียวหยิบโทรศัพท์สีแดงออกมาจากกระเป๋าก่อนจะกดเบอร์คนคุ้นเคยลงไป ‘โบกยอง..วันนี้ฉันคงไปไม่ได้แล้ว’เสียงเย็นถูกกรอกลงไปในโทรศัพท์แล้วกดวางทันทีโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร
“ไม่คิดจะแนะนำให้ฉันรู้จักบ้างหรอ” ฮีชอลเดินตรงเข้าไปแทรกบทสทนาระหว่างซีวอนกับอีทึก รอยยิ้มจอมปลอมถูกส่งไปให้คนหน้าหวานที่กำลังยืนหยอกล้อกับคนรักของเขาอยู่
“อ้าว ยังไม่ไปอีกหรอ” ซีวอนทักอย่างงๆทั้งๆอีกฝ่ายรีบนักหนาว่าจะไปหาเพื่อนรัก โดยไม่ได้สังเกตุเลยว่าฮีชอลนั้นหน้าหงิกไปแล้วที่ซีวอนพูดราวกับไล่เขาให้รีบไป
ฮีชอลปรับสีหน้าให้เป็นปกติอย่างรวดเร็วก่อนจะตอบ “อ๋อ พอดีเมื่อกี๊โบกยองโทรมาบอกว่าไม่ต้องแล้ว จะไปดินเนอร์กับเดนนิสสองคน” ฮีชอลคิดข้ออ้างขึ้นมามั่วๆ “แล้วตกลง...” เหล่ไปทางอีทึกเป็นนัยให้ซีวอนแนะนำ
“นี่อีทึก...เป็นเพื่อนผมสมัยเด็กๆ เราสองคนสนิทกันมากกกกแค่มองตาก็รู้ใจกันแล้วเน๊อะ” ประโยคนี้หันไปพยักเพยิดกับอีกฝ่าย ซึ่งอีทึกก็ผงกหัวรับอย่างน่ารักแต่คงไม่ใช่ในสายตาฮีชอล “เมื่อปีที่แล้วทึกกี้ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาฮีนิมเลยไม่ทันได้รู้จักไงล่ะ ไม่งั้นป่านนี้คงสนิทกันไปแล้วเพราะทึกกี้น่ารักจะตาย”
ฮีชอลเพิ่งคบซีวอนมาได้ปีกว่าๆเพราะฮีชอลเพิ่งย้ายเข้ามาโรงเรียนนี้ตอนปีสองพร้อมกับโบกยอง ซีวอนที่ตอนนั้นเป็นกรรมการนักเรียนได้รับมอบหมายให้ดูแลฮีชอลกับโบกยองเลยทำให้สนิทสนมกันจนในที่สุดซีวอนก็คบกับฮีชอล ซึ่งนั่นก็หลังจากที่อีทึกไปอเมริกาแล้วจึงทำให้ฮีชอลไม่เคยเห็นหน้าอีทึก
“สวัสดีฉันชื่ออีทึกนะ” อีทึกแนะนำตัวอีกครั้งหร้อมกับส่งรอยยิ้มเป็นมิตรให้ฮีชอล
ชิส์ แอ๊บแบ๊ว..น่าหมั่นไส้
“ฉันชื่อฮีชอล เป็นแฟนของซีวอนยินดีที่ได้รู้จักนะ” ฮีชอลยิ้มหวานให้อีทึกทั้งที่ในใจอยากจะกระชากอีกฝ่ายมาตบๆๆๆเต็มที
“อะไรกันฉันไปแค่ปีเดียวนายก็มีแฟนแล้วหรอ ลืมฉันแล้วใช่มั๊ยฮึ” อีทึกหันไปโวยวายใส่ซีวอน พลางทำท่างอนแก้มป่องใส่
“ไม่ใช่นะไม่ใช่ ซีวอนไม่ได้ลืมทึกกี้ซักหน่อย เอายังงี้ไหนๆฮีนิมก็ไม่ไปค้างบ้านโบกยองแล้วใช่มะ เราจัดปาร์ตี้ฉลองทึกกี้กลับมาดีกว่า แม่ต้องดีใจแน่ๆเลยที่ได้เห็นทึกกี้” ซีวอนทำเสียงง้ออีทึกอย่างน่ารัก ฮีชอลตอนนี้หน้าเริ่มบูดมากกว่าเดิมที่ซีวอนไม่ได้สนใจตนเองแม้แต่น้อย “โอเคมั๊ย ฮีนิม” ซีวอนหันมาถามความเห็นจากคนรัก
“อืมม ก็ดีเหมือนกัน ฮีนิมจะได้รู้จักอีทึกมากขึ้น” ทำท่าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตอบตกลง มือเรียวคว้าแขนอีทึกมาจับพร้อมกับบีบแรงๆ “ไปกันเถอะ” พูดจบก็จูงอีทึกไปที่ลานจอดรถปล่อยให้ซีวอนเดินตามมาคนเดียว
“อ..โอ๊ย ฮีชอลเบาๆหน่อยซิ ฉันเจ็บแขนนะ” อีทึกพูดกับฮีชอลให้จับแขนตนเองเบาๆเนื่องจากอีกฝ่ายเล่นบีบซะเต็มแรง
“อุ๊ย ขอโทษทีพอดีฉันตื่นเต้นไปหน่อย” ฮีชอลแกล้งทำหน้าสำนึกผิดก่อนจะค่อยๆลดแรงที่จับแขนอีทึก
“ว่แต่ฮีชอลเป็นแฟนกับซีวอนนานแค่ไหนแล้วหรอ” อีทึกหันมาถามอย่างข้องใจ
“ก็เกือบๆปีนึงแล้วล่ะ” ฮีชอลยิ้มอย่างภูมิใจ ปีนึงถือว่านานพอสมควรสำหรับคนนิสัยอย่างเขา
“ไม่น่าเชื่อนะ..ซีวอนเคยคบนานสุดไม่ถึงปี” อีทึกทำสีหน้าประหลาดใจ “หวังว่าซีวอนจะคบกับนายนานนะ” หันมายิ้มให้กับฮีชอลด้วยรอยยิ้มแปลกๆ
“แน่ซิ เพราะเขารักฉัน” ฮีชอลจ้องตาอีกฝ่ายอย่างมั่นใจ
“ขอให้เป็นอย่างนั้นนานๆนะ” อีทึกพูดอวยพร ก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ซีวอนก็เดินมาถึงพอดี
“เอ้า ขึ้นรถซิ” ซีวอนกดปุ่มเปิดรถอัตโนมัติ อีทึกเดินขึ้นไปนั่งคู่กับคนขับปล่อยให้ฮีชอลยืนมองอย่างเจ็บใจ
มือบางไขกระจกรถแล้วยื่นหน้ามาถามฮีชอล
“ฮีชอลไม่ขึ้นรถหรอ” อีทึกเอียงคอถามอย่างน่ารัก ฮีชอลไม่ตอบอะไรเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งข้างหลังด้วยอารมณ์โกรธ
.
.
.
.
.
.
วันต่อมา
ฮีชอลเดินหน้าตาบูดบึ้งเข้ามาในห้องเรียน ปกติฮีชอลก็น่ากลัวอยู่แล้วยิ่งทำหน้าแบบนี้ยิ่งไม่มีใครกล้าเดินเข้าใกล้ฮีชอลซักราย อาจจะเป็นเพราะข้างกายไม่มีซีวอนเดินเป็นเพื่อนอย่างเช่นเคยซะละมั้ง
“เป็นไรยะ หน้าบูดมาเชียว” คงจะมีแค่คิมโบกยองคนเดียวที่กล้าทักฮีชอลในเวลานี้ “เกี่ยวกับเมื่อวานที่ไม่ไปบ้านฉันรึเปล่า”
“เออ!!!” กระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิดแต่โบกยองก็ไม่ได้เคืองเพื่อนรักเพราะโดนจนชิน อีกอย่างฮีชอลก็กำลังหงุดหงิดอยู่ขืนมาโกรธกันเพราะเรื่องแค่นี้ก็งี่เง่าไปแล้ว
“.......”
“โทษทีฉันหงุดหงิดมากไปหน่อย” ในที่สุดฮีชอลก็ยอมปริปากพูดเมื่ออารมณ์เริ่มสงบ
“เกิดอะไรขึ้น...เรื่องซีวอน?” โบกยองลองถามหยั่งเชิงดู ฮีชอลพยักหน้ารับก่อนที่เรื่องราวต่างๆจะถูกถ่ายทอดให้อีกฝ่ายฟัง
“แย่ที่สุด!!!!” โบกยองลุกขึ้นยืนตะโกนลั่นเสียงดัง
“เบาๆซิ อยากให้คนอื่นรู้หรือไงฮะ” ฮีชอลเอ็ดเพื่อนรักเบาๆพลางดึงหญิงสาวลงนั่งเหมือนเดิม โบกยองเอามือปิดปากหันมองซ้ายขวาแล้วค่อยๆนั่งลงอย่างเพิ่งรู้ตัว
“ซีวอนทำอย่างงี้ได้ไง ทิ้งนายไว้คนเดียวเนี่ยนะ” แต่ก็ยังไม่วายพูดเสียงดังอีกทำให้คนรอบๆข้างหันมามองยิ่งมีชื่อของซีวอนแล้วใครๆก็อยากฟังทั้งนั้น ฮีชอลหันไปถลึงตาใส่คนที่มองเล่นเอาพวกนั้นหันหลังกลับแทบไม่ทัน
“เธอยังไม่รู้ เมื่อวานนะก็พายัยแอ๊บนั่นไปกินข้าวบ้าน คนที่บ้านก็ต้อนรับซะดิบดีแถมคุณป้าแทบจะไม่สนใจฉันเลย” ฮีชอลพูดถึงแม่ของซีวอนที่ปกติเอ็นดูเขาเหมือนลูกชวนคุยนู่นคุยนี่ แต่พอซีวอนพาอีทึกมาทุกคนก็พากันรุมสนใจแต่อีทึกคนเดียวปล่อยให้เขานั่งเซ็งไม่มีคนสนใจ
“แต่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับซีวอนไม่ใช่หรอคงไม่มีอะไร..มั้ง” โบกยองพยายามพูดปลอบใจฮีชอล
“มันจะดีนะซิถ้ายัยนั่นไม่เกาะซีวอนแจลากไปนู่นไปนี่ตลอด” ฮีชอลพูดอย่างเข่นเขี้ยวตั้งแต่เมื่อคืนก็นอนห้องเดียวกับซีวอนอ้างว่าไม่ได้เจอกันนาน เช้าพอมาถึงโรงเรียนปุ๊บก็ควงซีวอนให้พาไปเดินรอบโรงเรียน มันจะอะไรนักหนาฮะ!!!
“แล้วเขาน่ารักมั๊ยอ่า” โบกยองถามอย่างกล้าๆกลัวๆ ฮีชอลยักไหล่เล็กน้อยแล้วตอบ
“ไม่เท่าไหร่” โบกยองผงกหัวเข้าใจ “งั้นก็ไม่น่ากลัว ถ้าน่ารักนี่ซิ...”
ครืด เสียงประตูเปิดเบาๆพร้อมกับคนสองคนที่เดินเข้ามา
“อ้าว ฮีชอลอยู่นี่นี่เองฉันกับซีวอนตามหาตั้งนาน” อีทึกทักทายฮีชอลอย่างน่ารัก ยิ้มแก้มบุ๋มจนเห็นลักยิ้มทำเอาหลายๆคนในห้องถึงกับเคลิ้ม นางฟ้าชัดๆ
ฮีชอลแอบเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ โบกยองที่นั่งมองอยู่สะกิดฮีชอลแล้วกระซิบข้างหู
“ไหนว่าไม่น่ารักไง นี่มันโคตระน่ารักเลยนะ เทียบกับนายแล้ว....นางฟ้ากับแม่มดเลยล่ะคิกๆๆ” ฮีชอลตวัดตามองเพื่อนรักอย่างไม่พอใจ
“เพื่อนฮีชอลหรอ” อีทึกหันไปมองโบกยองที่กำลังหัวเราะอย่างสนใจ “สวัสดีฉันชื่ออีทึกนะ” โบกยองยิ้มตอบให้กับความน่ารักของอีทึก
“ฉันชื่อคิมโบกยองเรียกว่าสเตฟานี่ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” อีทึกจับมือกับโบกยองแล้วหันไปเขย่าแขนซีวอนอย่างตื่นเต้น
“ซีวอน..ทึกกี้มีเพื่อนเพิ่มอีกคนแล้วนะ ดีใจจังเลย” ซีวอนขยี้หัวอีทึกอย่างเอ็นดูเล่นเอาอีทึกยู่ปากใส่
“อ๊า..อย่าแกล้งทึกกี้ซิ หัวยุ่งหมดแล้ว” อีทึกตีแขนซีวอนแล้วพยายามลูบผมตัวเองให้เข้าที่ ซีวอนเห็นดังนั้นก็ช่วยเพื่อนตัวเล็กติดกิ๊บให้ ทุกคนต่างมองภาพนั้นด้วยความเอ็นดู
“ฉันว่านายเจอคู่แข่งที่น่ากลัวแล้วล่ะ ระวังนะ..เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ฮ่าๆๆ” ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ไว้แล้วก็รีบวิ่งหนีไปทันที
ฮีชอลมองภาพสองคนที่กำลังหยอกล้ออย่างไม่สบอารมณ์ มีความสุขไปก่อนเถอะแล้วฉันจะทำให้หัวเราะไม่ออก
.
.
.
.
.
.
สามวันผ่านไปเรื่องของอีทึกก็กลายเป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมาก ทุกคนพากันหลงรักเจ้าของรอยยิ้มสดใสที่แสนจะน่ารักบวกกับความนิสัยดีและเป็นกันเองแล้วทำให้อีทึกกลายเป็นนางฟ้าแสนสวยของใครๆไปทันที แถมเรื่องที่ซีวอนดูจะสนิทสนมกับอีทึกเป็นพิเศษและพักนี้ไม่ค่อยเห็นอยู่กับฮีชอลด้วยซักเท่าไหร่นักทำให้มีคนคาดเดาไปกันว่าคงถึงเวลาแล้วที่ซีวอนกับฮีชอลจะเลิกกัน ยิ่งมีอีทึกที่แสนดีเข้ามาในเวลานี้ด้วยแล้วทุกคนต่างก็พากันเชียร์อีทึกอย่างสุดใจ
“นี่ๆๆพี่อีทึกน่ารักจังเลยนะ ฉันอยากให้เค้าเป็นแฟนกับพี่ซีวอนจัง”
“ใช่ พี่อีทึกทั้งน่ารักทั้งใจดี วันก่อนฉันเดินชนเค้าแต่เค้ากลับขอโทษฉันใหญ่เลยไม่ว่าอะไรฉันซักคำ อย่างงี้ซิคู่ควรกับเจ้าชายของพวกเรา”
“นั่นซิลองถ้าเป็นแม่มดคิมฮีชอลนะมีหวังตายคาที่ไม่ต้องผุดต้องเกิดแน่ๆ ไม่รู้พี่ซีวอนชอบไปได้ไงสงสัยต้องโดนมนต์ดำแน่ๆเลย ดูซิแค่พูดถึงก็ขนลุกแล้ว บรึ๋ยไปกันเถอะ”
“อ๊า...นางฟ้าของผมทึกกี้ครับผมร๊ากคุณณณณณณ”
“มึงอย่านะเฟร้ย..นางฟ้ากูจอง”
“อะไรนางฟ้าของกูต่างหากอย่างมึงนะเอาแม่มดไปเลย”
“เฮ้ยๆๆ กูยังไม่อยากถูกสาปตายนะเว้ยปล่อยให้ไอ้ซีวอนมันเป็นไปคนเดียวเหอะ ฮ่าๆๆๆ”
ทุกคนเดินไปกันหมดแล้วแต่คิมฮีชอลยังคงยืนพิงกำแพงอยู่เงียบๆ น้ำใสๆเอ่อคลอเต็มสองเบ้าตาถึงเขาจะเข้มแข็งแค่ไหนแต่เจอแบบนี้เข้าไปมันก็ไม่ไหวเหมือนกัน มันผิดนักหรือไงที่เขากับซีวอนรักกัน มันผิดมากนักหรอที่เขาเป็นคนแบบนี้ ลำพังแค่ว่าเขาคนเดียวยังพอทนได้แต่นี่มีซีวอนเข้าไปเกี่ยวด้วย...เขาทนไม่ได้หรอกที่คนรักต้องมาโดนว่า
ฮึก มือเรียวยกขึ้นมาปาดน้ำตาลวกๆก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วปล่อยให้ความอ่อนแอปลิวไปกับสายลม
ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เปลี่ยนความคิดง่ายๆหรอก..จะว่าคิมฮีชอลเห็นแก่ตัวก็ได้แต่เขาจะไม่มีวันปล่อยมือจากซีวอนเด็ดขาด
.
.
.
.
.
.
ติ๊ด ติ๊ด
“อ๊ะ แป็บนึงนะ” อีทึกหันไปบอกกับเพื่อนที่คุยอยู่แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
มาหาที่ห้องพยาบาลหน่อยซิ
ซีวอน
อีทึกยกยิ้มอย่างดีใจเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนส่งข้อความ ร่างบางร่ำลาเพื่อนที่คุยอยู่ด้วยแล้วรีบเดินตรงไปห้องพยาบาล มีอะไรรึเปล่านะถึงเรียกไปห้องพยาบาล เอ๊ะ.หรือว่าจะไม่สบาย คิดได้ดังนั้นก็รีบเดินให้เร็วกว่าเดิมกลัวว่าเพื่อนรักตัวโตจะเป็นอะไรร้ายแรง
ประตูห้องพยาบาลอยู่ตรงหน้ามือบางกำลังจะเปิดเข้าไปแต่หูพลันได้ยินเสียงเล็ดลอดออกมาจากข้างไหนซะก่อน ร่างบางเงี่ยหูฟังจนจับใจความได้ว่า....
“อ๊าาา..อย่าแกล้งซิ”
.....คนข้างในกำลังทำกิจกรรมกันอยู่!!!
“อ๊ะ..อ๊าาา..” ร่างบางหน้าแดงเมื่อได้ยินเสียงชัดๆมือละจากลูกบิดประตูเตรียมหันหลังกลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินชื่อที่ดังลอดออกมา
“อืมมมม แรงๆซิ...ซีวอน” อีทึกหมุนตัวกลับไปที่เดิมอีกครั้งมือเรียวแง้มประตูเล็กน้อยแล้วมองลอดเข้าไป
ภาพตรงหน้าคือเพื่อนรักที่เขาตามหาอยู่กำลังร่วมรักอยู่กับฮีชอลแฟนหนุ่มแสนสวยอย่างร้อนแรง เสียงครางที่ออกมาจากปากฮีชอลพอจะทำให้รู้ได้ว่าบทรักที่กำลังดำเนินอยู่ทำให้เจ้าตัวพอใจได้มากขนาดไหน ร่างบางยืนนิ่งอยู่กับที่มองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตาจนหนึ่งในคนตรงหน้าส่งสายตาเยาะเย้ยมาให้เขาถึงรู้สึกตัว...คิมฮีชอล
ฮีชอลลอบยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นว่าอีทึกวิ่งออกไปแล้ว ไม่เสียแรงที่แกล้งทำเป็นป่วยเรียกให้ซีวอนมาหาที่นี่ แค่อ้อนนิดอ้อนหน่อยบวกกับมารยาเล็กน้อย..ซีวอนที่ไม่ได้ทำอะไรเขามาหลายวันก็เริ่มทนไม่ได้ ฉวยโอกาสตอนซีวอนไปหยิบผ้ามาเช็ดตัวให้แอบหยิบมือถือซีวอนออกมาแล้วส่งข้อความไปหาอีทึกให้มาหาที่ห้องพยาบาลเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จรอแค่เจ้าตัวมาเห็นภาพนี้..เห็นขนาดนี้แล้วยังทนได้ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว
ต้องขอบคุณฉันนะปาร์คจองซู..ในบรรดาศัตรูฉันนายถือว่าโดนน้อยสุดแล้ว..เห็นว่าเป็นเพื่อนซีวอนหรอกนะ
.
.
.
.
.
.
เช้าวันต่อมา
“Morning Kissซีวอน...จุ๊บ” อีทึกกระโดดหอมแก้มซีวอนหน้าโรงเรียนท่ามกลางสายตานักเรียนนับร้อยที่ยืนมองตาค้างรวมทั้งฮีชอล
อะไรกันเนี่ย...โดนขนาดนั้นแล้วยังหน้าด้านอยู่อีกหรอเนี่ย ฮีชอลอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ
อีทึกมองหน้าฮีชอลที่เผลอทำหน้าบูดเบี้ยวแล้วหลุดขำออกมา
“คิกๆๆ” ฮีชอลตวัดสายตามองหน้าอีทึกอย่างแค้นๆ “ฮีชอลดูท่าทางเหนื่อยๆนะเมื่อคืนหนักไปหรอ” อีทึกถามอย่างทะเล้นๆ ซีวอนที่เห็นว่าเจ้าตัวแสบเริ่มไปสะกิดต่อมโมโหของคนรักแล้วรีบปราม
“ทึกกี้ไม่เอาน่า..ฮีชอลโกรธแล้วนะไม่รู้หรือไงฮีชอลของฉันนะเป็นแม่มดเดี๋ยวก็ถูกสาปหรอก” ซีวอนพูดขู่ร่างเล็กแต่ก็ไม่วายแหย่คนรักให้โกรธอีก
“ฮ่าๆๆๆ โอเคๆฉันไม่แกล้งแล้วก็ได้...แต่เอ๊..ถ้าฉันเอาคลิปห้องพยาบาลไปขายจะได้ซักเท่าไหร่น๊า คิกๆๆ” อีทึกพูดล้อเลียนร่างสูงแล้วหันไปยักคิ้วให้ฮีชอลที่ยืนงงในบทสนทนาของทั้งสองคน “น่าจะได้เยอะอยู่นะ..เตรียมตัวดังได้เลยชเวซีวอนฮ่าๆๆ” วิ่งหัวเราะออกไปทิ้งให้ซีวอนเป็นคนเคลียร์ที่เหลือ
“หมายความว่าไง” ฮีชอลหันมาถามซีวอนเสียงเรียบไม่มีความรู้สึกใดๆปรากฎอยู่ในแววตา
“อีทึกแค่แกล้งนายเฉยๆ....เขาก็แค่หวงฉันน่ะไม่มีอะไรหรอก” ซีวอนมองคนรักที่ยืนนิ่งเงียบๆอย่างไม่สบายใจ “ฮีนิม..โกรธผมหรอ..” ขายาวขยับจะก้าวไปหาคนรักแต่ฮีชอลก็ถอยหลังหนี “เราสองคนไม่มีอะไรกันจริงๆนะ” ซีวอนพยายามอธิบายคนรักที่เอาแต่เงียบไม่พูดตอบจนเขาใจไม่ดี
“.........” น้ำตาที่เขาไม่ได้เห็นจากร่างบางมานานค่อยไหลๆลงจากตาคู่สวย
“ฮีนิม...” ซีวอนครางเบาๆพยายามจับแขนร่างบางแต่อีกฝ่ายก็สะบัดตัวหนี
“ฮึกก ทั้งๆที่ฉัน..ฉันกลัวแทบแย่...” ฮีชอลพยายามกลั้นน้ำตาแต่ก็ยิ่งทำให้มันไหลมากขึ้น “ฉันกลัว..กลัวว่านายจะทิ้งฉันไป..ถึงแม้ว่าใครต่อใครจะพูดยังไงฉันก็ไม่สน..เพราะฉันรักนาย..แต่นาย..ฮึกก” ร่างบางสะอื้นตัวโยนอย่างน่าสงสาร ดวงตาสองข้างที่แดงช้ำยิ่งทำให้ซีวอนรู้สึกผิด...เขาไม่เคยรู้เลยว่าฮีชอลต้องอดทนแค่ไหน “นายมัวแต่สนใจอีทึก..คิดแต่จะแกล้งฉัน..ฉันก็เจ็บเป็นนะ” ฮีชอลปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครตอนนี้เขาไม่สนว่าใคจะมองเขายังไงแล้ว..ความอดทนของเขามันหมดลงแล้ว
ซีวอนกอดคนรักแน่น มือหนาลูบหัวฮีชอลเบาๆเพื่อปลอบประโลม “ผมขอโทษ..ผมแค่อยากรู้ว่าฮีนิมจะหึงผมไหม..ผมมันโง่เองทั้งที่ฮีนิมรักผมจะตาย..ผมจะไม่ทำอีกแล้วนะ..ผมรักฮีนิมนะ” พูดจบก็กดจูบซับน้ำตาให้กับร่างบางอย่างอ่อนโยน “อย่าร้องไห้อีกเลยนะ..มันทำให้ผมอยากร้องตามไปด้วย”
พลั่ก ฮีชอลทุบอกร่างสูงแรงๆทีนึงเขาไม่ได้โกรธที่ซีวอนแกล้งเขา..แค่น้อยใจเฉยๆก็เท่านั้นเอง
“ตาบ้าเอ๊ย..ฮึก” เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างอู้อี้ ใบหน้าสวยซุกลงกับอกกว้างของคนรัก “อย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“สัญญา” ซีวอนสัญญาเสียงหนักแน่นเรียกรอยยิ้มจากฮีชอลได้
“ต้องทำตามนะ..ไม่งั้นแม่มดจะสาปจริงๆด้วย”
“สาปว่าอะไรหือ” จมูกโด่งคลอเคลียอยู่ที่แก้มใสของร่างบาง
“ก็สาปให้หลงรักคิมฮีชอลคนนี้จนโงหัวไม่ขึ้นเลยนะซิ” ร่างบางพูดขู่ซีวอนอย่างน่ารักจนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนิ่มแรงๆหนึ่งที
“แค่นี้ก็รักจะแย่อยู่แล้ว”
END
C G C
ความคิดเห็น