คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : : :Witch Heechul: : Part1
: :Witch Heechul: : Part1
ใครๆก็เรียกฉันว่าแม่มด..แม้แต่คนรักของฉัน
“มาด้วยกันอีกแล้วอ่า..”
“ฉันว่าเขาต้องอยู่บ้านเดียวกันแน่ๆเลย”
บรรดาเด็กสาวพากันซุบซิบนินทาคาดเดาไปต่างๆนาๆกับภาพที่เห็นเป็นประจำทุกเช้าของ “คู่รักแห่งปี”
รถยุโรปสีดำสนิทแล่นมาจอดตรงหน้าโรงเรียนคยองจู ประตูด้านหลังเปิดออกพร้อมกับการปรากฏตัวของชายหนุ่มรูปหล่อที่สาวๆกว่าค่อนโรงเรียนรวมทั้งชายหนุ่มหัวใจสาวทั้งหลายล้วนแต่หมายปองต้องการเป็นเจ้าของหัวใจ
ชายหนุ่มเอื้อมมือไปรับมือของใครอีกคนข้างในรถ ขาเรียวก้าวลงมาเผยให้เห็นใบหน้าเจ้าของฉายา “แม่มด” ผู้กุมหัวใจของเจ้าชายแห่งคยองจู มือเรียวเกาะไปที่ท่อนแขนของคนรักเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่พวกเด็กสาวด้วยสายตาที่ราวกับว่ากำลังร่ายมนต์ดำใส่ ทำให้ทุกคนพากันหลบสายตาด้วยความหวาดกลัว เมื่อเห็นว่าทุกคนเลิกสนใจก็เดินเชิดหน้าเข้าโรงเรียน
“หูยย..ขี้หึงชะมัด พี่ซีวอนทนไปได้ยังไง”
.
.
.
.
.
.
“ไม่ไปไม่ได้หรอ”ร่างบางหย่อนก้นนิ่มลงบนตักแกร่ง ริมฝีปากอิ่มกระซิบพูดอยู่ที่ริมหูแล้วเลยไปขบเม้มที่ติ่งหูเบาๆ สองมือก็คล้องคอคนรักไว้อย่างออดอ้อน
“อื้อ ไม่ได้หรอก วันนี้มีประชุมนะ”ชายหนุ่มพยายามหลอกล่อคนรักที่มือไม้เริ่มไม่อยู่นิ่ง แขนข้างนึงโอบเอวคอดไว้ส่วนอีกข้างก็ลูบไล้ใบหน้าหวานอย่างหลงใหล “อย่าดื้อน่า..”
คนหน้าสวยมุ่ยหน้าลงอย่างขัดใจก่อนจะพูดต่อรอง
“จูบก่อนซิ”
ไม่ต้องรอให้พูดมากไปกว่านี้ ริมฝีปากร้อนก็ทาบลงบนกลีบปากนุ่ม ดูดเม้มจนริมฝีปากแดงบวมช้ำแล้วจึงสอดลิ้นเข้าไปควานหาความหวานทั่วโพรงปาก ทั้งสองแลกลิ้นกันอย่างร้อนแรง จูบของฮีชอลช่างหอมหวานและน่าหลงใหลทำให้เขาแทบเมาจนขาดสติในรสจูบ อา..นายต้องเป็นแม่มดแน่ๆคิมฮีชอล นายต้องร่ายเวทมนต์ใส่ฉันแน่ๆ จูบเร่าร้อนดำเนินต่อไปเรื่อยๆ มือบางลูบไล้ไปตามแผงอกของชายหนุ่มช้าๆปลุกเร้าอารมณ์ของอีกฝ่าย ซึ่งนั่นก็เรียกเสียงครางจากคนรักได้เป็นอย่างดี
ก๊อกๆๆ
“ประธานคะ ได้ว..ว๊าย”เด็กสาวที่เข้ามาใหม่ตาค้างด้วยความตกใจกับภาพตรงหน้า
ฮีชอลถอนจูบจากคนรักอย่างช้าๆก่อนจะตวัดสายตาไปมองเด็กสาวที่เข้ามาใหม่อย่างหงุดหงิด
“อ..เอ่อ ได้เวลาประชุมแล้วคะ”แก้มของเด็กสาวแดงระเรื่อ สายตาไม่ได้มองไปที่คนพูดด้วยเพราะเขินอายเกินกว่าที่จะมอง
“อืม เดี๋ยวฉันตามไป”ซีวอนจัดเสื้อผ้าตัวเองที่ยับยู่ยี่ไปตามแรงอารมณ์ให้เข้าที่เรียบร้อยโดยมีมือของคนรักคอยจัดแต่งทรงผมให้
“ไปแล้วนะ อย่าเที่ยวซนไปสาปใครเข้าหล่ะ”สั่งเสียราวกับคนรักเป็นเด็กอนุบาลพร้อมกับหอมแก้มนุ่มแรงๆหนึ่งทีก่อนจะไปประชุม ทิ้งให้คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดยืนกระฟัดกระเฟียดอยู่คนเดียว
“ชิ มาหาว่าฉันเป็นแม่มด คอยดูเถอะจะสาปให้รักคิมฮีชอลคนนี้จนโงหัวไม่ขึ้นเลยคอยดู”
.
.
.
.
.
.
“OK ทุกอย่างเป็นไปตามแผนงาน ถ้าไม่มีอะไรแล้วเลิกประชุมได้”ซีวอนกล่าวปิดประชุมที่กินเวลานานเกือบสองชั่วโมงลง ตาคมเหลือบมองนาฬิกาที่ติดฝาผนังแล้วรีบเก็บเอกสารลุกไป
เกือบบ่ายแล้ว ป่านนี้วีนแตกแน่เลย
เป็นไปตามที่เขาคิดเป๊ะ เมื่อเปิดประตูห้องไปก็พบกับร่างบางนั่งอารมณ์เสียอยู่ตรงโซฟา รอบๆห้องเต็มไปด้วยกระดาษที่ถูกขยำปาทิ้งไว้เกลื่อนพื้นบ่งบอกได้ดีว่าก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ซีวอนอมยิ้มน้อยๆในความขี้โมโหของคนรักที่แลดูเหมือนกับเด็กเล็กๆ
หมับ
“อารมณ์ดีรึยัง”แขนแกร่งกอดเอวบางไว้พร้อมกับที่จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอหอมกรุ่น
“.......”
“งอนหรอ นี่ผมรีบแล้วนะอยากมาหาฮีนิมเร็วๆ กลัวฮีนิมหิวข้าว”เมื่อเห็นว่าใช้วิธีแรกไม่ได้ผลก็เปลี่ยนมาทำเสียงออดอ้อนแทน
“.......”
“ไปกินข้าวกันเถอะนะ ผมหิ๊วหิวประชุมตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย”ไม่รอให้ตอบมือหนาก็ฉุดแขนร่างบางลุกขึ้นทันทีทำเอาคนสวยถึงกับหน้าเหวอ
นี่ฉันยังงอนอยู่นะ ง้อให้มันนานกว่านี้หน่อยเซ่!!!!!
โรงอาหาร
พอคู่รักแห่งปีเดินเข้ามาในโรงอาหารก็พลันเรียกทุกสายตาให้หันมาจับจ้องทันที คนนึงก็หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรส่วนอีกคนก็สวยเสียจนผู้หญิงบางคนเทียบไม่ติด
สองคนเดินหยอกล้อกันกระหนุงกระหนิงหลังจากซีวอนง้อฮีชอลได้สำเร็จ ภาพที่ฮีชอลเดินเกี่ยวแขนพลางหอมแกมซีวอนสลับกันไปมาทำให้อุณหภูมิภายในโรงอาหารร้อนจนแทบลุกเป็นไฟ บรรดาหญิงสาวต่างพากันมองด้วยความอิจฉาริษยา ส่วนพวกหนุ่มๆก็พากันจินตนาการว่าถ้าปากนิ่มๆของคนหน้าสวยมาประทับอยู่ตรงหน้าตัวเองคงจะดีไม่น้อย
ตุ๊บ
ซ่า..
“โอ๊ะ ขอโทษนะคะ ขอโทษจริงๆ”หญิงสาวกล่าวขอโทษพลางก้มลงเก็บแก้วน้ำและจานข้าวที่หล่น
“ไม่เป็นไรครับ แค่เปื้อนนิดหน่อยเอง”ซีวอนกล่าวปัดอย่างไม่ถือโทษแล้วช่วยอีกฝ่ายเก็บของ
เมื่อลุกขึ้นยืนซีวอนก็มองอีกฝ่ายอย่างสำรวจ “ไม่เจ็บตรงไหนนะครับ” ท่าทางจะเป็นเด็กใหม่เขาถึงไม่คุ้นหน้า
“ม..ไม่เป็นไรคะ” หญิงสาวที่ตอนนี้เห็นหน้าคนที่ถูกชนแล้วหน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินไหนจะซุ่มซ่ามต่อหน้าคนทั้งโรงอาหารแถมยังมาชนรุ่นพี่สุดหล่อด้วยอีก น่าอายจริงๆ
“แล้วข้าวกลางวัน....” ซีวอนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงตามประสาประธานนักเรียนผู้ใจดี
“เดี๋ยวฉันซื้อใหม่ได้ค่ะ พี่ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกคะ” หญิงสาวตอบด้วยความเกรงใจในเมื่อตัวเธอเองเป็นคนซุ่มซ่ามเอง
“ใครเขาเป็นห่วง ซีวอนยังไม่ได้พูดซักหน่อย” ฮีชอลที่ยืนดูอยู่นานบ่นลอยๆขึ้นมาอย่างหมั่นไส้โดยไม่มีเหตุผล
ซีวอนก็มัวแต่สนใจยัยนั่นอยู่ได้ไหนบอกว่าหิวข้าวไงชิส์
ซีวอนยิ้มให้เด็กสาวพลางขอโทษผ่านทางสายตา เมื่อไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้วซีวอนจึงจูงมือคนรักของตนให้ไปอีกทางก่อนที่จะแปลงร่างไปข่วนหน้าใคร
เมื่อซีวอนกับฮีชอลเดินไปแล้วเด็กสาวจึงหันไปถามเพื่อนข้างๆทันทีด้วยความสนใจ
“รุ่นพี่คนนั้นใครหรอ”
“คนที่เธอชนหน่ะชื่อพี่ซีวอนเป็นประธานนักเรียน หล่อใช่มั๊ยหล่ะเป็นผู้ชายที่เพอร์เฟ็คสุดๆไปเลยแต่เธออย่าไปยุ่งเลยนะเขาเป็นแฟนกับพี่ฮีชอลที่ยืนข้างๆกันหน่ะ พี่เค้ามีว่าฉายาแม่มดเพราะว่าร้ายสุดๆระวังอย่าไปทำให้เขาไม่พอใจละกัน” เพื่อนสาวอธิบายตามข้อมูลที่ได้ยินมา
“ฉันควอนยูริซะอย่าง ถ้าอยากได้ก็ต้องได้” ยูริเอ่ยอย่างมาดมั่น
คิมฮีชอลหรอ..ฮึ มาเจอกันหน่อยเถอะ
.
.
.
.
.
.
“ซีวอนอ่า...กลับบ้านกันเถอะนะ ฮีนิมเบื่อแล้ว” ฮีชอลเอ่ยชวนคนรักอย่างออดอ้อนพลางทำตาปรอยใส่
นี่มันก็เย็นแล้วนะซีวอนก็ยังมัวแต่ทำงานอยู่ได้ เขานะเบื่อๆๆๆๆๆจะแย่อยู่แล้ว
ซีวอนที่เห็นว่าคนรักเริ่มงอแงก็รีบเซ็นต์เอกสารฉบับสุดท้ายก่อนจะเก็บของบนโต๊ะเข้าที่ให้เรียบร้อย ร่างบางเมื่อเห็นว่าคนรักยอมรามือจากงานก็ยกยิ้มอย่างดีใจพร้อมกับช่วยอีกฝ่ายเก็บของอย่างทันที
“ฮีนิมไปนั่งเถอะนะเดี๋ยวผมเก็บเอง” ซีวอนเอ่ยห้ามคนรักที่กำลังช่วยเก็บของ ไม่ใช่อะไรหรอกแต่พอฮีชอลช่วยเขาเก็บของที่ไรเขามักจะหาเอกสารไม่เจอทุกทีเป็นเพราะเจ้าตัวจับวางลวกๆเพื่อที่จะได้กลับบ้านเร็วๆ
“ชิส์ คนอุตส่าห์ช่วย” ฮีชอลบ่นหน้ามุ่ยกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาแรงๆ
ซีวอนเมื่อเก็บของเสร็จเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋าของตัวเองและของร่างบางมาถือแล้วหันไปเรียกคนรักที่นั่งน้อยใจนิ่งๆอยู่บนโซฟา
“ไปฮีนิมกลับบ้านเรากัน เดี๋ยวผมจะทำของโปรดให้ฮีนิมทานดีมั๊ย” ง้อด้วยคำพูดหวานๆแถมด้วยหอมแก้มแรงๆอีกทีแค่นี้คิมฮีชอลที่(แสร้ง)งอนก็หายงอนเดินตามคนรักไปแต่โดยดี แต่ก็ยังมิวายเชิดหน้าสวยๆท่าประจำใส่
“ฮีนิมเข้าห้องน้ำก่อนนะ ไปรอที่รถได้เลยเดี๋ยวฮีนิมตามไป” ฮีชอลบอกกับซีวอนระหว่างทางที่กำลังเดินไปที่รถ
“ให้ผมไปด้วยมั๊ย” ซีวอนลังเลเล็กน้อยที่จะให้ฮีชอลไปคนเดียวนี่ก็เย็นแล้ว ถึงแม้ว่าจะอยู่ในโรงเรียนก็เถอะ
“ไม่ต้องหรอก ฮีนิมไปแป๊ปเดียวเอง...อีกอย่างซีวอนก็ถือของตั้งเยอะรีบเอาไปเก็บที่รถเถอะ”
“เอางั้นก็ได้..รีบมานะ ไปนานๆเดี๋ยวผมคิดถึง” พูดด้วยความเป็นห่วงแต่ก็มิวายหยอดคำหวานในประโยคท้ายให้คนสวยเขินเล่นๆ
“บ้า!!!” ฮีชอลตะโกนเสียงดัง แก้มแดงน้อยๆด้วยความเขินก่อนจะเดินเร็วๆไปอีกทาง
ซีวอนอมยิ้มเมื่อเห็นคิมฮีชอลที่ใครต่อใครแอบนินทาลับหลังว่าเป็นแม่มดเจ้าอารมณ์มาดหลุด อยากให้ใครๆเห็นจริงๆว่าคนรักของเขาน่ารักจะตาย...แต่เอ๊ะไม่ดีกว่า..เขายอมให้น่ารักต่อหน้าเขาได้แค่คนเดียว คนนี้ผมหวง!!!
.
.
.
.
.
.
ห้องน้ำ
ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ มือเรียวเปิดก๊อกน้ำแล้วยื่นมือล้างให้สะอาดก่อนจะปิด ส่องกระจกจัดแจงแต่งกายให้เรียบร้อยแล้วเดินตรงไปยังลานจอดรถ ระหว่างทางก็นึกถึงคำพูดของแฟนหนุ่มที่ว่าจะทำของโปรดให้ทานพลันหน้าใบหวานก็ยิ้มเสียจนแก้มแทบปริ ซีวอนใจดีและน่ารักกับเขาเสมอต้นเสมอปลายทั้งๆที่เขาออกจะขี้หงุดหงิด อารมณ์ร้ายแถมเอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งแต่ซีวอนก็อดทนและคอยตามง้ออยู่ตลอดแม้ว่าจะมีงานกองอยู่เต็มโต๊ะ ซีวอนเห็นเขาเป็นที่หนึ่งเสมอ บางครั้งเขาเองก็อยากถามซีวอนเหมือนกันว่าเหนื่อยมั๊ยที่ต้องมาทนกับคนอย่างเขาเพราะซีวอนเองก็หน้าตาดี เรียนเก่งที่บ้านก็ฐานะร่ำรวยมีผู้หญิงมากมายรอให้เลือก จนเขารู้สึกว่าตัวเองร้ายกาจที่ทำให้ซีวอนต้องมาเสียเวลา...
พลั่ก
ด้วยความที่มัวแต่เดินคิดเพลินๆไม่ได้มองทางจึงทำให้เดินไปชนใครอีกคนเข้าเต็มแรง
“อ๊ะ โทษทีนะ” เอ่ยขอโทษไปห้วนๆอย่างเคยชิน
“.......”
“นึกว่าใคร..เธอนี่เอง ซุ่มซ่ามจังเลยนะ ตามัวแต่ส่องมองหาผู้ชายหรือไงฮึ” คำพูดประชดประชันถูกปล่อยออกมาทันทีที่เห็นหน้าคู่กรณี ไม่มีความจำเป็นต้องพูดดีด้วยเมื่อคนตรงหน้ายืนนิ่งจ้องตาด้วยสีหน้าท้าทายโดยไม่มีท่าทางนอบน้อมเหมือนเมื่อตอนกลางวัน
“.......”
“ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็หลีกไป..ขวางทาง!!!” ฮีชอลเริ่มหงุดหงิดเมื่อควอนยูริยังยืนนิ่งกวนโทสะอย่างไม่สะทกสะท้าน ร่างบางเดินกระแทกอีกฝ่ายผ่านไปโดยไม่สนใจ
หมับ
มือของหญิงสาวคว้าแขนของฮีชอลไว้พร้อมกับบีบเต็มแรง
“พี่ซีวอนฉันขอนะ” ปากสีสดขยับพูดอย่างอวดดี
ฮีชอลหันมามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะแสยะรอยยิ้มที่ใครๆก็พากันเรียกว่า”รอยยิ้มแม่มด”ใครก็ตามที่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ร้อยทั้งร้อยโดนฮีชอลจัดการหมดแตกต่างวิธีออกไปขึ้นอยู่กับว่า...ทำคิมฮีชอลโมโหมาก...หรือน้อย
“เอาซิ....ถ้ามีปัญญานะ” พูดจบก็เดินออกไปไม่สนใจหญิงสาวทียืนโกรธจนตัวสั่น
ตั้งแต่ฉันเกิดมาไม่เคยมีใครดูถูกหรือมองฉันด้วยสายตาเหยียดหยาม..แกกล้ามากนะ..คิมฮีชอล!!!!
.
.
.
วันต่อมา
“นี่ฮีชอล เสาร์นี้ไปเที่ยวกันเถอะ” คิมโบกยองเพื่อนสาวคนสนิทของฮีชอลเอ่ยชวนอีกฝ่ายอย่างอารมณ์ดีขณะกำลังเดินไปเรียนพละที่โรงยิม
“เอาซิ ที่ไหนะหล่ะ...โบกยอง” คำสุดท้ายตั้งใจเน้นเสียงดังชัดเจน
“เอ๊ะ ฉันบอกว่าให้เรียกว่าสเตฟานี่ไงเล่า” หญิงสาวแว๊ดใส่เพื่อนรักทันที
“ทำไมหล่ะ ก็ชื่อเธอมันคือโบกยองนิ ฉันจะเรียกเธอว่าโบกยองจะทำไมหล่ะ...โบกยองๆๆๆๆๆๆๆ” ฮีชอลเรียกชื่ออีกฝ่ายไม่หยุดพลางทำหน้าลอยไปลอยมาอย่างไม่สนใจ
“กรี๊ดดดด หยุดเดี๋ยวนี้นะคิมฮีชอล ฉันบอกให้หยุดดดดด” โบกยองกรีดร้องใส่เพื่อนสาว(?)
ฮีชอลและโบกยองเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่เด็กๆ มีเพียงโบกยองเพียงคนเดียวที่ไม่กลัวฮีชอลถ้าไม่นับซีวอน ทั้งสองคนนิสัยเหมือนกันมากแต่ก็ต่างกันที่โบกยองอัธยาศัยดีกว่า ชอบเข้าสังคมแต่ฮีชอลไม่สนที่จะยุ่งเกี่ยวกับใครซักเท่าไหร่ ดังนั้นเพื่อนของเขาจึงมีอยู่ไม่มากและคิมโบกยองก็ถือว่าเป็นเพื่อนที่เค้ารักมากที่สุด
“คนอะไร๊ กระแดะใช้ชื่อฝรั่ง” ยังมิวายค่อนขอดใส่คนข้างๆ ตั้งแต่ยัยนี่ตกหลุมรักหนุ่มฝรั่งสุดฮอตก็มาบังคับให้เขาเรียกว่าสเตฟานี่แถมยังพยายามพูดภาษาอังกฤษเน่าๆใส่เขา เพียงเพื่อที่ว่าจะฝึกพูดให้คล่องทั้งที่ไอ่ฝรั่งนั่นมันก็พูดเกาหลีได้ เอากับเพื่อนเขาซิ
“อ๊ะ..นั่นเดนนิสนิ นี่ๆๆๆฉันดูดีรึยัง” โบกยองหันมาเขย่าเพื่อนรักทันทีที่เห็นหนุ่มในฝันกำลังเดินตรงมา
“ก็ทุเรศเหมือนเดิมนั่นแหละ”
พลั่ก / ซ่า...
“ปากเสีย” โบกยองพลักฮีชอลกระเด็นพร้อมๆกับที่น้ำถูกสาดมาจากข้างบนไหลลงตัวหญิงสาว
“........”โบกยองยืนนิ่งอ้าปากค้างด้วยความช๊อค
“Oh my god!!! Stephanie, are you ok?” เดนนิสรีบวิ่งเข้ามาดูหญิงสาวที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ ชายหนุ่มถอดเสื้อตัวเองออกแล้วนำมาคลุมร่างบางไว้
ฮีชอลเงยหน้ามองขึ้นไปตรงจุดที่มีคนสาด...ควอนยูริยืนถือถังน้ำใบใหญ่ไว้ไม่หนีไปไหนอย่างคนไม่กลัวความผิด ใบหน้าสวยที่ไม่ได้เข้ากับจิตใจมองลงมาที่โบกยองด้วยความขัดใจ ก่อนจะเบือนหน้ามามองเขา ปากบางขยับพูดช้าๆให้เขาเห็น...โชคดีไป
ฮีชอลกำมือแน่นด้วยความโกรธ กล้ามากนะควอนยูริ...อยากเล่นกับฉันมากนักใช่มั๊ย.ฮึ..แล้วฉันจะทำให้เธอสนุกจนลืมไม่ลงเลย..คอยดู
.
.
.
.
.
.
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
“เออ นี่รู้รึเปล่าควอนยูริลาออกไปแล้วนะ”
“ยูริคนที่เข้ามาวันแรกก็ดังเลยใช่มั๊ย”
“นั่นแหละๆ เมื่อเช้ามีคนเห็นว่าคนที่บ้านเอาจดหมายมายื่น พวกผู้ชายนะ...หงอยกันเป็นแถว”
“ชิส์ ดีแล้วฉันหมั่นไส้จะตาย”
“ว่าแต่...ทำไมถึงอยู่ดีๆก็ลาออกหล่ะ เพิ่งเปิดเทอมไม่กี่วันเองนะ”
“รู้แล้วเหยียบเลยนะ...ฉันได้ยินมาว่ายัยยูรินั่นลองดีกับแม่มดนะ”
“หยึย..บ้ารึเปล่า กล้าไปยุ่งกับคิมฮีชอลได้งัย”
“เห็นฮโยยอนห้องCพูดว่ายัยนั่นประกาศจะแย่งพี่ซีวอนนะซิ”
“ก็รู้อยู่ว่ายุ่งกับคิมฮีชอลแล้วจะเป็นยังไง ซวยเลยมั๊ยหล่ะ”
เสียงบรรดาพวกผู้หญิงที่ยืนจับกลุ่มนินทาเรื่องควอนยูริลอยมากระทบหูฮีชอลเต็มๆ ตอนนี้เกือบทั้งโรงเรียนพากันพูดเรื่องนี้ไม่หยุดปาก เพราะควอนยูริเองถึงแม้ว่าจะเพิ่งเข้ามาก็ดังใช่ย่อยเพราะเป็นถึงคุณหนูตระกูลดัง อยู่ๆก็หายหน้าไปเกือบอาทิตย์ไม่ทันไรก็มาลาออกกระทันหันแบบนี้ใครๆก็พากันสงสัยคาดเดาสาเหตุไปต่างๆนานา บ้างก็ว่าถูกลักพาตัว บ้างก็ว่าไปเรียนต่อต่างประเทศ ที่หนักสุดคือหนีไปคลอดลูก!?! แต่กระแสไหนก็ไม่แรงเท่าไปมีเรื่องกับคิมฮีชอล
“ฮึ่ย เงียบน่าพี่ฮีชอลเดินมา” เพื่อนสาวรีบกระทุ้งเพื่อนข้างๆให้หยุดพูดเมื่อเห็นว่าฮีชอลเดินผ่าน เด็กสาวทั้งกลุ่มพากันเงียบกริบเมื่อฮีชอลเดินใกล้เข้ามา ปกติฮีชอลจะวีนทุกครั้งเวลาที่ได้ยินใครนินทาแต่คราวนี้กลับยิ้มน้อยๆให้กับพวกหล่อนแล้วก็เดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แทนที่เด็กสาวจะโล่งอกที่ไม่ถูกฮีชอลเอาเรื่องแถมยังยิ้มให้กลับรู้สึกขนลุกแทน
“ฉันว่าควอนยูริคงถูกแม่มดกำจัดแหงเลย บรึ๋ย” ทั้งกลุ่มหันมามองหน้าพลางผงกหัวหงึกหงักเห็นด้วยกันก่อนจะรีบวิ่งเพื่อไปกระจายข่าวต่อ
.
.
.
.
.
.
ก๊อกๆๆ
ร่างบางเคาะประตูสองสามทีก่อนจะผลักเข้าไปโดยไม่รอคำบอกอนุญาต ขาเรียวก้าวไปหาคนรักที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดแล้วสวมกอดพร้อมกับบรรจงหอมแก้มซ้ายขวาฟอดใหญ่
“นั่งหน้าเครียดเป็นตาแก่อีกแล้วนะ” ฮีชอลเอ่ยล้อคนรักที่นั่งคิ้วขมวดเป็นปมอยู่หน้าโต๊ะซึ่งเป็นภาพที่เคยเห็นจนชินตาตั้งแต่มาเป็นประธานนักเรียน มือบางถอดแว่นอีกฝ่ายออกนิ้วเรียวนวดคลึงตรงขมับให้คนรักอย่างอ่อนโยน ซีวอนรับตาพริ้มรับสัมผัสอันนุ่มนวล
“มีเรื่องเครียดอะไรหรอ” ฮีชอลถามคนรักในขณะที่มือก็ยังคงนวดให้อยู่
“ไม่มีอะไรมากหรอก จู่ๆเด็กปีหนึ่งคนนึงก็ลาออกทั้งๆที่เพิ่งเปิดเทอมเอง” ซีวอนเล่าให้คนรักฟัง ตัวเขาก็ไม่ได้เครียดอะไรเพียงแต่สงสัยว่าทำไมถึงได้ลาออกกระทันหัน
“ใครหรอ”
“อืม..รู้สึกจะชื่อควอนยูรินะ” บอกชื่อออกไปตามที่ได้เห็นในเอกสาร ซีวอนดูท่าจะไม่ได้สนใจอะไรกับชื่อนี้ว่าเป็นคนเดียวกับคนที่เคยเดินชน
“หรอ แล้วสาเหตุล่ะ” แกล้งสงสัยไปอย่างงั้นแหละทั้งๆที่ก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ไม่รู้ซิ เขาบอกว่าลูกสาวขังตัวเองไว้ในห้องแล้วก็ไม่ยอมออกมาบอกแต่ว่าจะไม่เรียนที่นี่อีกแล้ว พ่อแม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
“ฮีนิมว่าคงมีเรื่องกับเพื่อนที่โรงเรียนแหล่ะ ผู้หญิงก็แบบนี้..ชิงดีชิงเด่นกันจะตาย” พูดไปก็พลางทำหน้าเอือมระอา ซีวอนเริ่มคล้อยตามคนรัก เขาเองก็เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้มาเหมือนกัน
“อืม..ช่างเหอะ นี้ฮีนิมมาตามผมไปเรียนใช่มั๊ยเนี่ย ไปเถอะเดี๋ยวสาย” ว่าจบก็ลุกขึ้นยืนเก็บของแล้วจูงมือร่างบางไปเรียน ฝ่ายฮีชอลที่เดินข้างๆก็ลอบยิ้มอย่างพอใจในท่าทีของคนรักที่ไม่ได้สงสัยอะไร
ลาก่อนนะควอนยูริ
End Part1
เดนนิส โอ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แถมอีกรูป
.
C G C
ความคิดเห็น