* เจาะลึก ชีวิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น *

ลำดับตอนที่ #4 : __ชะตาชีวิตพลิกผัน__

      ตอนช่วงเดือนธ.ค. ช่วงที่พี่บ้าสอบตรงอยู่นั้น พี่ขยันเปิดอินเตอร์เน็ตหาข่าวเกี่ยวกับการสอบตรง

หลายที่ จนมาเจอโรงการสมัครสอบตรงของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 

พี่จึงรู้สึกสนใจ เพราะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและน่าเรียน จึงสมัครสอบไป แต่ก็ยังไม่ได้โอน

เงิน แล้วพี่ก็นำข่าวนี้ไปบอกเพื่อนๆ แต่หลายวันต่อมาพี่ก็เริ่มคิดว่า ขอนแก่นมันไกลจากสุพรรณ

เกือบ 600 กิโล แล้วครูคณิตศาสตร์ที่พี่เคารพก็พูดอยู่เรื่อยๆว่า เด็กพื้นที่ของเค้าเก่งและมีคุณภาพ

มาก โอกาสที่เราจะเข้าไปเอาที่นั่งมานั้นมันลำบาก บอกตามตรงตอนนั้นพี่ล้มเลิกความคิดนั้นไป

แล้ว เพราะว่าวันสอบของที่นั่นเป็นวันจันทร์ โรงเรียนก็ไม่ปิดด้วย แต่ก็มีเพื่อนคนนึงชี้แนะกับพี่ว่า 

จะปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดลอยไปได้อย่างไร ลองไปสอบดูก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลย พี่จึงโอนเงิน

ค่าสมัครและส่งเอกสารจนเสร็จเรียบร้อย 

            วันไปสอบ พี่และเพื่อนๆ อีก 7-8 คนออกเดินทางก่อนวันสอบ 1 วัน โดยรถตู้ พักที่โรงแรม

หลังม. 1 คืน แล้วรุ่งเช้าก็เข้าห้องสอบ 


          ข้อสอบของที่นี่ เป็นข้อสอบความถนัด ขอย้ำ ความถนัดธรรมดา ไม่ใช่ความถนัดครู แพทย์
 
หรือเภสัชศาสตร์ ถ้าเป็นสมทบธรรมดาก็เป็นภาษาไทย แต่ถ้าเป็นภาคภาษาอังกฤษก็เป็นความถนัด

เหมือนกันแต่เป็นภาษาอังกฤษ น้องสามารถเลือกสอบได้ทั้ง 2 โครงการ เพราะสมทบธรรมดา 

สอบเช้า ส่วนพวก Eng สอบช่วงบ่าย เวลาสอบ ชั่วโมงครึ่งแบ่งออกเป็น 4 พาร์ท ได้แก่

พาร์ทคณิตศาสตร์, แผนภูมิ , ภาษาไทย ,มิติสัมพันธ์ พี่จึงเริ่มทำจากแผนภูมิก่อน แล้วทำภาษาไทย
 
ต่อมาก็มิติสัมพันธ์ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 นาที คราวนี้เอาไงดี พี่พยายามคิดคณิตศาสตร์ 

จน 5 นาทีสุดท้าย รีบดิ่งเลย 555   พี่ดิ่งข้อ 4 หมดเลย    พอดิ่งเสร็จก็กลับมาคิดแล้วเปลี่ยนคำตอบ

ในข้อที่คิดได้ 

             พอออกจากห้องสอบ พี่และเพื่อนๆ ก็ขึ้นรถตู้กลับสุพรรณฯ ทันที ระหว่างทางก็คุยกัน

เรื่องข้อสอบ ซึ่งเพื่อนพี่ทุกคนไม่มีใครทำทัน พี่บอกพวกมันว่าพี่ดิ่งคณิตไป เพื่อนพี่มันก็ถามว่า 

ดิ่งข้ออะไร ? พี่ก็บอกว่าดิ่งแต่ข้อ 4 มันหันมาทันทีแล้วบอกว่า " กรุคิดคณิตทุกข้อ แล้วก็คิดได้ 

ไม่เข้าใจเหมือนกัน ว่าทำไมคำตอบมีแต่ข้อ 4 !!! " แล้วพวกมันก็บอกว่า คอยดูสิ เดี๋ยวพี่ติดอีก 

แต่พี่คิดในใจว่า ไม่มีทางติดแน่นอน 


          วันประกาศผลสอบข้อเขียน ก็ปรากฎว่าเป็นอย่างที่พวกมัน  คิดไว้จริง ๆ พี่สอบติดคนเดียว 

ในบรรดาพวกที่ไป และต้องไปสัมภาษณ์ อีก 3 วันหลังประกาศผล  พี่ตื่นเต้นมาก และรู้สึกอยาก

เรียนที่นี่ แต่ทางคณะเรียกสัมภาษณ์ 53 คน และรับจริง 30 คน พี่ก็กลัวตกสัมภาษณ์มาก รีบหา

ข้อมูลคณะ แล้วเตรียมคำถาม - คำตอบ กับพ่อเป็นการใหญ่ 

           
           วันสอบสัมภาษณ์ ไม่มีใครขาดสอบสัมภาษณ์เลย 55    ซวยแล้วไหมล่ะตู พี่คิดในใจ 

ความตื่นเต้น เข้ามาเยือนทันที แต่พ่อกับแม่ก็ให้ตั้งสติ และทำตัวสบายๆ ทำให้ตอนเข้าสัมภาษณ์

จริงๆ พี่ไม่ตื่นเต้นเลย 


      เมื่อเข้าห้องสัมภาษณ์ กรรมการก็ให้พี่แนะนำตัว แล้วเริ่มถามคำถาม ก็จะเป็นคำถาม ธรรมดา

ทั่วไปๆ ไม่มีวิชาการ เพราะเค้าจะอิงคะแนนข้อเขียนเป็นหลักอยู่แล้ว ถ้าใครมั่นใจข้อเขียนละก็ 

สบายใจได้ แต่สำหรับพี่ ไม่มีทางสบายใจแน่นอน 55 แล้วอีกอย่างวันประกาศผลสอบสัมภาษณ์ 

มันหลังสอบเอเน็ต วันเดียว นั่นหมายความว่าพี่ก็จะต้องกลับไปอ่านหนังสือเตรียมแอดมิชชั่นส์อีก
 
พี่จึงเครียดเข้าไปใหญ่ 


           วันสอบเอเน็ตวันสุดท้าย เพื่อนๆ หลายคนก็ลั้ลล้ากัน แต่พี่ไม่ลันล้าด้วย เย็นนั้นตอนแม่มา

รับกลับจากสนามสอบ พี่ปวดท้องมาก อาจเป็นเพราะเครียดลงกระเพาะก็ได้ ก็ใครจะไปวางใจลง 

กลัวตกสัมภาษณ์ก็ตก กลัวคะแนนแอดไม่ดีอีก 


         .. พอกลับถึงบ้านปุ๊บ พี่ก็รีบเปิดคอม ฯ ทันที กะว่า ผลน่าจะออกก่อน แล้วก็จริงๆ ผลสอบ

สัมภาษณ์ มันออกตั้งแต่เช้าแล้ว แต่ที่บ้านไม่มีใครเปิดดู 


          แล้วผลปรากฎว่า ... พี่ติดจริงๆ พี่กอดกับแม่ยกใหญ่เลย ดีใจ ปลื้ม และหายเหนื่อยเป็น

ปลิดทิ้ง    อีกทั้งยังหายปวดท้องด้วย - - 


          คราวนี้เป็นอันว่าพี่สบายเลย นอนตีพุงอยู่บ้าน ไม่ต้องเครียดเรื่องผลคะแนนแอดมิชชั่นส์ต่อ
 
ถ้าคะแนนมากก็ดี คะแนนน้อยก็ไม่เป็นไร ^^ 



                 อ้ออ.. ลืมบอกไป โครงการนี้ไม่ตัดสิทธิ์แอดมิชชั่นส์ด้วยนะคะ ^^