* เจาะลึก ชีวิตนักศึกษาเภสัชศาสตร์ ม.ขอนแก่น *

ลำดับตอนที่ #1 : __แนะนำตัวผู้เขียน__

สวัสดีค่ะ ^^ 

           ก่อนอื่นผู้เขียนขอเรียกแทนตัวเองว่าพี่นะคะ เชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านน่าจะเป็นรุ่นน้องน่ะค่ะ 

และก็ดูเป็นกันเองด้วย 


              เริ่มจากชีวิตในช่วงมัธยมของพี่เลยละกัน พี่เป็นเด็กมัธยมโรงเรียนสตรีชื่อดังแห่งหนึ่ง

ในจังหวัดสุพรรณบุรี ตอนที่พี่เรียนม.ต้นก็ไม่โดดเด่นอะไรมากนัก ไม่ค่อยขยันด้วย 55 


            พอถึงช่วงม.3 ที่โรงเรียนจะต้องให้เลือกแผนการเรียน บอกตามตรงเลย ตอนนั้นอยากจะ

เรียนสายศิลป์-ภาษา มากกก เพราะเป็นคนชอบเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ชอบคณิตศาสตร์ แต่ก็ชอบ

วิทยาศาสตร์อีก (เป็นไง งง ไปเลย ) ก็เลยไปหาครูแนะแนว ให้ช่วยแนะนำให้ ปรากฎว่า ครูแนะแนว

ก็ชี้ขาดให้ไม่ได้ว่าควรเรียนสายอะไร 

             ดังนั้นพี่จึงกลับบ้านมาปรึกษาพ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่พี่อยากให้เรียนสายวิทยาศาสตร์มาก แต่ก็ไม่

ได้บังคับอะไร พี่ก็เลยยื่นสายวิทยาศาสตร์ และได้เข้าเรียนในห้องคิงส์ของโรงเรียน (ถ้าไม่นับห้อง 

smart class ) 


         ช่วงชีวิตมัธยมปลาย ขึ้นม.4 มา พี่ก็ยังเรียนเหมือนตอนม.ต้น ถึงเวลาสอบก็อ่านหนังสือที 

การบ้านก็เยอะมาก แต่ก็ไม่ค่อยทำ หุหุ ไปปั่นๆ เอาตอนใกล้ส่ง ทำเอาเกรดเทอมแรกสตาร์ทแค่ 

3.75 ก็เลยต้องเริ่มปรับตัวใหม่ เพราะรู้สึกไม่ไหวแล้ว อยู่แบบนี้ไม่ทันเพื่อนในห้องแน่ๆ ทำให้เกรด

ของพี่ดีขึ้นในเทอมต่อมา 


        พอช่วงปิดเทอมขึ้นม .5 ก็รีบไปเรียนพิเศษที่กรุงเทพ แล้วก็เรียนมาเรื่อยๆ จนถึงช่วงปิดเทอม
 
ต.ค. ของม.6 

      
      แล้วก็ช่วงม.6นี่แหละ ที่พี่ทำเอาเพื่อนหลายคนประหลาดใจ เพราะช่วง ม.4 - ม.5 พี่จะสอบตก 

สอบซ่อมบ่อยๆ 55 แต่พอขึ้นม.6  ตอนสอบชีววิทยา คนสอบผ่าน 6 คนในห้อง 1 ในนั้นก็มีพี่ด้วย 

แถมวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ฉุดเกรดพี่บ่อยๆ  ก็สอบได้คะแนนดีดีตลอด ตอนม.6 เทอม 1 พี่จึง

ได้ 4.00 ซึ่งก็มีไม่ถึง 10 คนในห้องที่ได้ เท่านั้นแหละ เพื่อนๆ หลายคนก็เลยหาว่าพี่ฟิต 55555 

          เคล็ดลับของพี่คือ อ่านก่อนเข้าเรียนคร่าวๆไปก่อน แล้วตั้งใจฟังในห้องให้ดี เท่านั้นเอง ^^  


        พอเข้าม.6 เทอม 2 พี่ก็เริ่มปล่อยๆในห้องแล้ว เพราะมันเริ่มมีการเปิดสอบตรงหลายๆมหา'ลัย 

แล้วพี่ก็เป็นคนประหลาดๆด้วย 55 ที่ไหนมีสอบตรง ชั้นสอบหมด ไม่เลือกคณะ เพราะว่าพี่เป็นคนไม่

มีเป้าอยู่แล้วไง เวลาเรียนแนะแนว มีกิจกรรมอาชีพ หรือคณะที่ใฝ่ฝันทีนึง ต้องคิดนานเชียวกว่าจะ

กรอกลงไปได้ แล้วแต่ละครั้งก็ไม่ใช่คณะเดียวกันด้วยนะ เพื่อนๆในห้องเลยสงสัยพี่ ว่าตกลงอยาก

เรียนอะไรกันแน่ ? อิอิ


        ที่ว่าบ้าสอบตรงน่ะ พี่ก็เริ่มตั้งแต่ 

    สอบตรงของมหาวิทยาลัยบูรพา >> ช่วงต.ค. เลือกได้ 4 อันดับ พี่ติดคณะสาธารณสุขศาสตร์ 

    สอบความถนัดครู + วิศวะ >> ช่วงเดือน ต.ค. 

    สอบความถนัดแพทย์ >> ประมาณต้นเดือน พ.ย. 

    สอบตรงคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย >> ช่วงเดือน ต.ค. เค้าจะสอบความถนัดทางวิทยาศาสตร์ แล้วจะใช้คะแนนสอบโอเน็ต + เอเน็ต ร่วมด้วย ซึ่งพี่ติด คณะ วิทยาศาสตร์ สาขาสิ่งแวดล้อม 

    สอบตรงคณะวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา มศว >> ช่วงกลางเดือน พ.ย. อันนี้พี่ก็ติด 

   สอบตรงคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ >> ช่วงปลาย พ.ย.ติดค่า 

    สอบตรงคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มาวิทยาลัยมหิดล >> ช่วงปลาย พ.ย. อันนี้ไม่ติดหล่ะ 55 

    สอบตรงคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร >> ช่วงกลางเดือนม.ค. ไม่ติดค่าา^^
 
    สอบตรงคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น >> ช่วงต้นเดือน ก.พ. เรื่องของการสอบจะเป็นอย่างไร พี่จะกล่าวถึงในบทถัดไปนะคะ 

    สอบแอดมิชชั่นส์ >> ติดคณะ แพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี สาขาความผิดปกติของการสื่อความหมาย 


        การสอบตรงของพี่ข้างบนนั้น ไม่ได้อวดอ้างตนเองแต่อย่างใด ในการสอบแต่ละครั้งนั้น มันทำ

ให้พี่ได้ประสบการณ์ และเจนสนามมากขึ้น ซึ่งจะช่วยได้มากเวลาเราเข้าสนามใหญ่ๆ อย่างการสอบ

โอเน็ต เอเน็ต จึงอยากฝากน้องๆให้เตรียมพร้อมกับการลงสนามด้วย เพราะเห็นเพื่อนพี่หลายคน 

ไม่เคยสอบตรงเลย แล้วสนามที่ลงสอบครั้งแรกนั้น เป็นสนามสอบระดับประเทศอย่างสนามสอบ

โอเน็ต ตอนเข้าสอบก็จะมีทั้งความตื่นเต้น ความกังวล เพราะไม่เคยลงสนามมาก่อน พอคะแนน

ออกมา ก็ทำคะแนนได้ไม่ดีเท่าที่ควร น่าเสียดายที่ตั้งใจอ่านหนังสือมานาน 


          เอาหล่ะ การแนะนำตัวของพี่น่าจะพอแค่นี้ก่อน 55 เพราะพี่ก็รู้สึกว่ามันยาวเกินไปเดี๋ยวน้องๆ

จะเบื่อกันพอดี 

         
          อ่ออ เกือบลืมไป น้องๆอยากคุย หรือปรึกษาพี่ได้ที่ booby-prize@hotmail.com 

หรือเยื่ยมชม hi5 ได้ที่ http://peachiiiz.hi5.com 


                            ติดตามตอน ต่อไปได้เลยค่ะ ^^