ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    this is the evidence proving that the boy called shinta has a heart. (end)

    ลำดับตอนที่ #3 : 02 - surely my sins have found me out.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 69.56K
      5.85K
      2 ส.ค. 62

    02
    "spit on my grave, but kiss my mouth
    surely we'll live to see the day
    when all of our problems, 
    they fade away"



    .
    .





                “รอตรงนี้นะเอย ห้ามไปไหนนะ”

                รู้หน่า สั่งเหมือนเราเป็นเด็กอะ แกไปเหอะ” เอยพยักพเยิดหน้าบอกว่าไม่เป็นไร นั่งขัดสมาธิรอบนเก้าอี้ตัวยาวในลานจอดรถของร้านที่เราสังสรรค์กันจนตีหนึ่งนิดๆก่อนจะเปิดเกมในโทรศัพท์มาเล่น

                พอออกจากร้านมาเพื่อนๆบางส่วนก็แยกย้ายกันกลับ เหลือแค่เขา จัสมิน ตงที่ต้องกลับรถคันเดียวกันแล้วก็จ๊าบ ตอนนี้ทั้งสามคนไปสูบบุหรี่ในที่ที่ร้านจัดไว้ให้ เขาที่ไม่สูบและโดนควันบุหรี่จังๆที่ไรจะหายใจไม่สะดวกทุกทีเลยต้องนั่งรอตรงนี้

                คนตัวเล็กที่พอนั่งขัดสมาธิแบบนี้แถมยังถูกจ๊าบจับติดกระดุมจนถึงคอตั้งแต่ออกจากร้านแล้วดูเหมือนเด็กๆไม่มีผิดจดจ่อกับเกมที่ทั้งชีวิตเล่นเก่งอยู่เกมเดียวอย่างบอมเบอร์แมน .. คุณหมอในคราบเด็กติดเกมที่ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกใครบางคนมองอยู่ก้มหน้าจนแทบชิดเกมในมือ

     

                ชิน มึงมองอะไรวะ .. อ้าว กูนึกว่ากูตาฝาด”

                หมอเอยนี่หว่า” จิมมี่ผิวปากอย่างอารมณ์ดี มองตามทิศทางที่เพื่อนตัวสูงมองอยู่ พรุ่งนี้เขากับมันมีถ่ายแบบที่สตูดิโอแถวลาดพร้าว จากที่คิดว่าจะเผาหัวกันต่อหลังเล่นจบก็เปลี่ยนไปเป็นกินข้าวมันไก่ซอยสามแล้วนอน

                ไก่ไง ไม่อ้วนหรอกหน่า

     

                เอ้า เพื่อนมึงไปแล้วน่ะ”

                เสือไม่สิ้นลาย” มีนยักไหล่มองชินตะที่สาวเท้าเข้าไปหาคนที่นั่งเล่นเกมไม่รู้ร้อนรู้หนาว ตัวเล็กนิดเดียวและดูเหมือนจะเล็กลงเรื่อยๆทุกครั้งที่เจอ

                แปลกชะมัด .. เจอกันแค่ครั้งนั้น ก็เจอกันเรื่อยๆมาตลอดเลย

     

                ฮึ่ย”

     

                เอยงึมงำกับตัวเอง กดปุ่ม play again ใหม่เมื่อเล่นด่านนี้ยังไงก็ไม่ผ่าน ที่จริงเล่นมาเป็นอาทิตย์แล้วด้วยซ้ำ แต่ยังไม่ทันจะเริ่มเดินเกมก็ถูกสัตว์ประหลาดชนจนหัวใจลดเพราะมือใครสักคนเคาะลงบนหัวจนคนตัวขาวสะดุ้งโหยงเหมือนแมว

     

                เฮ้ย!”

                ไง”

                ตกใจหมดเลย เล่นเกมแพ้แล้วด้วยเนี่ย” บอกแบบเมาๆเพราะก็เมาจริงๆแต่ไม่ได้มากขนาดนั้น จ๊าบเคยบอกว่าเวลาเอยเมาน่ะห้ามแกล้งเพราะจะขี้หงุดหงิดเอาซะมากๆ หงุดหงิดไม่พอยังเพิ่มงอแงไปด้วยอีก

     

                จะรับผิดชอบยังไงเนี่ยๆๆๆ”

     

                เจ้าของใบหน้าหล่อร้ายกับต่างหูห่วงสีเงินเลิกคิ้วมองคนที่ดิ้นๆเหมือนเด็กๆ .. นี่ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเป็นหมอ เขาคงคิดว่าเด็กมัธยมแอบแม่มาเที่ยวร้านเหล้า

     

                เราเล่นจนปวดหัวแล้ว ชินก็มาแกล้งเรา”

     

                เขาแกล้งคนตรงหน้างั้นเหรอ ชินตะครุ่นคิดกับตัวเองเพราะถ้าจะให้พูดตามตรง เขาไม่เคยแกล้งใครมาก่อน หมายถึงแกล้งเพราะด้วยความรู้สึกมันเขี้ยวแบบที่รู้สึกว่าอยากจะบีบแก้มเกมเมอร์ตัวกระจิ๋วที่นั่งหน้างออยู่แบบนี้น่ะ

     

                เกมอะไร”

                บอมเบอร์แมน”

                เด็ก”

                ว่าเราอีกแล้ว” โทรศัพท์ในมือถูกริบไปถือไว้ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงข้างๆโดยไม่ลืมจะฝากกระเป๋าเบสไว้กับคนตัวเล็กกว่า ชินตะได้ยินเสียงบางคนงอแงและชะโงกหน้าเข้ามาดูเขาที่เริ่มต้นเล่น

     

                เฮ้ย .. ทำได้ไงอะ”

     

                เขาไม่ได้ตอบ ทำเพียงแค่เดินเกมไปเรื่อยๆโดยที่มีกลิ่นหอมจางๆจากลมหายใจและร่างกายของคนข้างตัว รู้ตัวอีกทีเอยก็ปรบมือเสียงดังพร้อมกับทำตาโตมองเขาที่เล่นผ่านด่านในรอบเดียว

     

                โห! เล่นโคตรเก่งเลยอะ”

                it is just a kid game.” (ก็แค่เกมเด็กๆ)

                ว่าเราทุกอย่างแหละ”

                ทำไมยังไม่กลับ”

                รอเพื่อนอะ คุณล่ะ?”

                รอคุณกลับมั้ง”

                … ”

               

                เราสบตากันอีกครั้งเมื่อประโยคนั้นจบลง ไม่มีรอยยิ้มบ่งบอกว่าอีกฝ่ายล้อเล่น ในขณะที่นัยน์ตาคมนั้นก็ไม่ได้บอกถึงความจริงจังเช่นกัน

                เอยอ่านใจคนไม่เก่ง แค่ให้เดายังเดาไม่ได้

                ดังนั้นกับคนข้างๆตัวก็คงเป็นหมอกหนาๆที่เดาท่าเดาทางอะไรไม่ออก

     

                ยุงกัดมั้ย”

                มะ ไม่” ส่ายหัวบอกพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง ชินตะรู้แล้วว่ามันเป็นนิสัย เพราะคืนนี้เขาเห็นคนข้างๆตัวยิ้มให้ใครต่อใครไปร่วมร้อยหนได้แล้ว

     

                คุณอายุยี่สิบห้าใช่มั้ย?”

     

                เอยชะงักพลางพยักหน้า แปลกใจที่วันนี้คนตัวโตกว่าชวนคุย .. หรือมันอาจจะเป็นคำถามเบสิกๆที่เราน่าจะรู้กันตั้งนานแล้วก็ไม่รู้แะ ทำไงได้ล่ะ บังเอิญเจอกันบ่อยขนาดนี้น่ะ

     

                จริงๆเรียกเอยก็ได้ เพื่อนเราก็เรียก”

                น้องเอย”

                เฮ้ย ได้ยินเหรอ”

     

                เอยทำหน้าหงอย

                ไม่ชอบเลยเพราะมันทำให้เขาดูเหมือนเด็กๆ

     

                เราตัวเล็กกว่าเพื่อนในรุ่นอะ มันเลยชอบเรียกเราน้องเอยๆ”

                ก็เหมือน”

                ทำไมคุณชอบว่าเราอะ”

                “i’m just telling.” (ไม่ได้ว่า แค่บอก)

                ก็หน้าชินดุอะ ตาก็ดุ”

                เหรอ”

                ไม่เคยมีคนบอกเหรอ” คนเมาว่าเสียงยานๆและเพราะว่าเมานั่นแหละถึงเอื้อมมือมาปัดผมที่ปรกตาเขาพลางบอกว่าเพราะตรงนี้นี่แหละยิ่งทำให้ดุไปกันใหญ่

     

                เนี่ย แล้วพอผมปรกตาคุณแบบนี้นะ .. นึกว่ามาเฟียในหนัง หน้าดุอย่างกับพี่ชายจัสมินเลย” คนหน้าดุมองริมฝีปากสีสดที่ขยับพูดนั่นพูดนี่ไม่หยุด

                “แล้วไม่กลัวเหรอ”

                ทำไมต้องกลัวอะ”

                ก็บอกว่าดุ”

                คุณก็ไม่เคยกัดเรานี่หว่า ฮ่าๆ .. อ๊

     

                สิสิรเบิกตากว้างเพราะถูกงับไหล่ เขาอาจจะใช้คำสวยหรูไป มันคือการใช้ฟันกัดลงบนไหล่ผ่านเนื้อผ้า แบบที่เขาเจ็บจนน้ำตาไหล

     

                “i do bite.”

                (ผมกัดนะ)

     

                เพราะว่าเรียนมาถึงได้รู้ว่าตอนนี้หัวใจสูบฉีดเลือดผิดปกติ มันเร็วเกินไปจนกล้ามเนื้อหัวใจทำงานอย่างหนัก บีบและคลายอย่างใจร้ายจนเขาวาบไหวในอก เอยมองอีกคนค้อนๆ เขาคงไม่กล้ากัดคนหน้าตายกลับ ทำได้แค่คิดหาคำด่าในหัว แต่ค้นไม่เจอเลยสักคำ

                สุดท้ายมันก็ยังอยู่ตรงนั้น

                .. ความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมาในอก

     

                see you later.”

     

                และรอยฟันที่เอยพนันว่าต้องขึ้นรูปอยู่บนผิวขาวๆของเขาแน่ๆ

     

     



            



     

               

                “ไอ้ชิน”

     

                เจ้าของชื่อไม่ตอบ ทำแค่ป้องมือกันลมตอนที่จุดไฟแช็กเพื่อติดบุหรี่ที่เขาคาบไว้ในปาก ลมเย็นๆพัดเอากลุ่มควันสีขุ่นไป .. ตาคมจ้องมองมันอย่างเอื่อยเฉื่อย

                ไร้ความรู้สึกใดๆ

     

                มึงรู้ตัวมั้ยเนี่ยว่าทำอะไรลงไป”

                อะไร?”

     

                จิมมี่สบตากับเพื่อนที่เขาพอจะจับทางมันได้บ้างอย่างคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่ชินตะย้ายมาไทยตามพ่อที่เป็นทูต หน้าตาร้ายๆของมันนี่แหละที่ดึงดูดใครๆเข้าหา แถมใจร้ายๆของมันก็เป็นอีกอย่างที่ทำให้คนชอบเอาชนะทุกคนฝันว่าสักวันมันจะน้ำตาเช็ดหัวเข่าและอ้อนวอนขอความรักกลับคืนจากคนพวกนั้นบ้าง

                แต่ไม่เลย

                  ชินตะไม่เคยรักใครเลย

     

                มึงแกล้งเขา”

                … ”

                มึงชวนเขาคุย .. มึงแตะตัวเขา มีปฏิสัมพันธ์”

     

                บางคนหยุดสูบบุหรี่เพื่อสบตากับเพื่อนสนิท

                ไม่ใช่ไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป

     

                มึงไม่ทำแบบนั้นชิน”

                แล้วไง”

                  มึงไม่เคยทำแบบนั้นกับใคร”

     

                แต่แล้วยังไง

                เขาถามเพื่อนผ่านสายตาอีกครั้ง ได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างคนไม่คิดอยากจะสู้กับมนุษย์เข้าใจยากแบบเขา ที่จริงเขาน่ะ .. ไม่มีอะไรให้ทำความเข้าใจเลยด้วยซ้ำ

     

                แม่งเอ๊ย มึงทำกูปวดหัว”

                เป็นเหี้ยอะไรนักจิมมี่”

                มึงไปแกล้งเขาทำไมวะ ก็กูไม่เคยเห็นอะ”

                มึงดูเขาดิ”

     

                ชินตะพยักพเยิดหน้าให้เพื่อนดูคนที่วางเกมเพราะโดนกลุ่มเพื่อนรุมหอมหัว เขาพอจะรู้จักผู้ชายตัวสูงกับรอยยิ้มสดใสคนนั้นมาก่อนเพราะเคยถ่ายแบบสตูเดียวกันอยู่สองสามครั้ง .. ถ้าจำไม่ผิดคงจะชื่อจัสมิน

     

                เขาเป็นแบบนั้น เป็นมึงไม่อยากแกล้งหรือไง?”

                แล้วมึงเป็นอะไรมาเบรกแตกแกล้งเขาอะ คนมีเป็นล้าน”

                  ก็ที่ผ่านมากูไม่เคยเจอใครเหมือนเขาเลยไง”

     

                  ประโยคธรรมดาๆที่ชินตะอาจไม่ได้ใส่ใจเลยแต่มันกระทบใจคนฟังที่ทำแค่เงียบเพราะอยากให้มันพรั่งพรูออกมามากกว่าเก่า บางครั้งคนเราแสดงพฤติกรรมออกไปอย่างเป็นธรรมชาติ .. เมื่อเจอสิ่งเร้าที่เข้าไปยึดพื้นที่ในใจ

                ก็ถ้าชินตะมันจะมีหัวใจขึ้นบ้างล่ะก็นะ

     

                กลับยัง เดี๋ยวกูไปส่ง วันนี้มึงมาแท็กซี่นี่”

                มีนัด”

                ไหนบอกจะกินข้าวมันไก่กันไง นี่ไอ้เจ๋งกับไอ้มีนก็เทกูไปแล้วนะ”

                “take it easy, Jim.”

                มึงไม่ต้องเลย จะไปมีเพศสัมพันธ์อีกแล้วเหรอ?” จิมมี่แหวใส่เพื่อนที่ดับบุหรี่แล้วแสยะยิ้มร้ายๆใส่เขา ไอ้นี่มันร้าย ร้ายอยู่ในสันดาน แก้ไม่หาย ร้ายไม่มีใครเท่า

                ใครจะไปหยุดมันได้วะ

     

                ชินคะ”

                fu.ck you, Shinta.”

     

                ไม่มีวันซะหรอก

     

                later.”

     

                จิมมี่ชูนิ้วกลางใส่เพื่อนตัวเองอีกทีตอนที่เห็นว่าผู้หญิงที่สวยที่สุดคนนั้นเขย่งตัวกดจูบลงบนแก้มมันและมันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเดินไปที่ลานจอดรถ ดีลง่าย .. แค่สวย เซ็กซี่ ตรงสเปก มันก็ไม่เกี่ยงอยู่แล้ว

                เขาถอนหายใจออกมา มองตามแผ่นหลังกว้างของเพื่อนสนิทที่สวมแค่เสื้อยืด ยีนส์และรองเท้าผ้าใบแต่กลับปั่นหัวผู้หญิงได้ง่ายๆ ไม่รู้ทำไมคนเราถึงชอบความไม่ชัดเจนนัก จะว่าไม่ชัดเจนก็ไม่เชิง เพราะสำหรับชินตะแล้วมันไม่เคยเป็นความรักหรือชอบเลย

                มันเป็นแค่ความใคร่ .. ที่เจ้าตัวบอกออกไปตรงๆแต่คู่นอนมักไม่ยอมรับ

                ความอยากครอบครงไม่เคยมีในหัวมัน เหมือนกับความโอนอ่อน การยอมแพ้ รอยยิ้ม ความอบอุ่นใดๆ .. ชินตะไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น มันทื่อ เถรตรงและค่อนข้างเลือดเย็น

     

                … ”

     

                แถมยังคาดเดาไม่ได้อีกต่างหาก

     

                กลับกันเถอะลูกพ่อ ตาหนูจะปิดแล้ว ตัวแม่งก็อย่างซีด ถ้านุ่งจงกระเบนกูนึกว่าพกกุมารทองมาด้วย”

                จ๊าบเลิกแกล้งเราสักทีได้ปะ”

                เนี่ย มึงโอ๋เอยเลยนะ มึงทำน้องทำไม?”

                จ๊าบ ขอโทษเอย” ตงจื้อสั่ง เอ็นดูเอยที่มักโดนแกล้งหอม แกล้งหยอกเสมอ จะทำยังไงได้ล่ะ น่ารักเอง ให้ไปโทษใคร บางครั้งเขายังอยากบีบแก้มแรงๆเลย

               

                เบะเข้าไป พ่อขอโทษนะลูก”

                ไม่ให้อภัย!”

                มึงดูเอาเหอะไอ้จัส กวนส้นตีนไม่มีใครเกิน”

                โธ่ น้องเอยยยย”

     

                เอยแลบลิ้นใส่เพื่อนก่อนจะลุกขึ้นจากม้านั่งเพราะอยากจะกลับแล้ว แต่พอลุกขึ้นไวๆโดยที่ลืมไปว่าตัวเองดื่มไปเยอะพอสมควรเลยหัวมันก็หมุน ทรงตัวได้อีกทีก็ตอนที่ตงจื้อเข้ามาพยุง เขาบอกขอบคุณแล้วยิ้มกว้างให้แฟนของเพื่อนสนิท

                ขนาดตงยังสูงกว่าเขาเลย ให้ตาย

                .. ว่าแต่

     

                … ”

     

                นั่นชินตะนี่

     

                อ้าว มือเบสใช่มั้ยคนนั้น หล่อฉิบหาย”

                เออ หน้าดุกว่าพี่กูอีก ตกใจเลย” จัสมินพึมพำ จะว่ายังไงดี ถึงพี่ชายเขาจะดูดุ แต่มันดุที่ตา พอมีแก้มเข้ามามันเลยทำให้ดูเบบี้เฟซแล้วก็เป็นหมูอ้วนแบบที่พี่ตี้เรียก แต่ผู้ชายคนนั้นต่างไปอย่างสิ้นเชิง พอนึกดีๆเขาคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยเจอที่ไหน อาจจะเป็นตอนถ่ายแบบหรืออะไรก็ไม่รู้แหละ

     

                มองตามเขาจังน้องเอย ชอบเหรอ”

                ปะ เปล่า .. รู้จักกันๆ”

                เอ้า ไม่บอกล่ะว่าเป็นเพื่อน” จ๊าบถาม

                ก็ไม่ใช่เพื่อน เขาเป็นคนไข้แล้วบังเอิญเจอกันบ่อยๆเลยพอคุยได้” เอยยิ้ม ถอนสายตาออกจากคุณคนนั้นที่เดินไปพร้อมกับผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อย

                ที่จริงบนโต๊อาหารวันนั้น เขาได้ยินบทสนทนาที่พอจะปะติดปะต่อได้ คืนนั้นที่เจ้าตัวคิ้วแตกน่ะเป็นเพราะไปฟัดกับแฟนของผู้หญิงคนหนึ่งมา

               

                  ‘ไอ้ชินตะมันเป็นชู้ครับ’

                ‘นิสัยเลวสิ้นดี แต่ไม่อยากว่าเพื่อนมากหรอกครับ เลยหลอกตัวเองว่าเป็นรสนิยม’

     

                ก็ดูร้ายสมเป็นเจ้าตัวดี

     

                แม่งดูแบดบอยสัดๆเลย”

                คือมันร้ายแบบไม่ใช่เพราะลุคอะ เธอว่าไงตง?”

                  อืม .. ดูรักใครไม่เป็น”

     

                  ประโยคนั้นของตงจื้อดังอยู่ในหัวสิสิร .. เจ้าของฤดูหมอกครุ่นคิดกับตัวเอง มันมีด้วยเหรอ คนที่รักใครไม่เป็น อย่างน้อยๆการรักคนในครอบครัวก็ควรจะเป็นพื้นฐานของคนปกติรึเปล่านะ

               

                เน้นมีอะไรกันอย่างเดียว ป้าบๆ” จ๊าบทำท่าประกอบแต่โดนจัสมินซัดหัวไปที ตงจื้อไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากลากเอยไปขึ้นรถเพราะไม่อยากอยู่กับพวกประสาท

                และนี่คืออีกหนึ่งคืนที่โคตรจะเหนื่อยกายแต่ใจสุขดีของเอยเลย

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     



    .





     

     

                แผ่นหลังกว้างไร้ผ้าผ่อนสะท้อนอยู่ในกระจกเมื่อบางคนเอี้ยวตัวไปมอง ชินตะสบถเป็นภาษาแรกที่เขาพูดได้ก่อนจะปรายตามองคู่นอนที่ไร้ผ้าผ่อนเช่นกัน

                ไม่มีหรอกไอ้คำว่า make love หรือ pillow talk

                เซ็กซ์ก็คือเซ็กซ์ เสนอไว้ก็รับมาแล้วจบไปง่ายๆ .. ไม่มีรักหรือเสน่หาปะปนอยู่แต่อย่างใด

     

                ชิ

                [ว่าไงครับพี่ชาย]

                มึงอยู่ไหน”

                [บ้านครับ พี่โปรดจะมาเหรอ]

                อืม .. จะเข้าไปเอาของ”

                [พ่อไม่อยู่ มาได้เลย]

                เจอได้”

                [ไม่อยากเจอไม่่ใช่เหรอ รู้หน่า]

     

                เขาไม่ได้ตอบอะไรน้องชายไป บอกแค่เพียงว่าเดี๋ยวเจอกันก็แค่นั้น ชินตะหยิบเสื้อผ้าที่ตกบนพื้นมาสวม ติดกระดุมลวกๆ เสยผมหน้าด้วยความรำคาญก่อนจะคาบบุหรี่ จุดแล้วเดินออกจากห้องของผู้หญิงที่เขาจำชื่อได้ไม่ถนัดนัก .. เป็นเรื่องจริงที่ว่าเขาไม่ชอบขับรถเอง แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ล่ะก็ไม่มีเกี่ยง

                อาจเพราะเป็นคนไม่ชอบรอ เวลารถติดน่ะปวดหัวฉิบหาย .. ขับมอเตอร์ไซค์คันละล้านมันยังไวกว่ารถสี่ล้อคันละสิบล้านที่ติดแหง็กอยู่แบบนั้นค่อนวันไม่ได้ไปไหน และนั่นแหละ เรียกแท็กซี่กลับบ้านเพราะนี่มันยังเช้าอยู่เลย ขึ้นทางด่วนก็ไม่น่าติดมาก

                ตาคมมองออกไปนอกกระจกรถที่เคลื่อนไวๆขึ้นสะพาน

                แดดแรกของวันทำให้เขารู้ว่าตัวเองเป็นคนตื่นเช้าแม้เมื่อคืนจะสังสรรค์จนหัวหมุน เคยได้ยินว่าช่วงวัยรุ่นเรามักทำอะไรเกินตัว ทำงานหนัก โหยหาชื่อเสียง วิ่งไล่ชัยชนะ ดื่มมากเกินไป

                และรักใครสักคนจนเสียจุดยืน

     

                … ”

     

                  โชคดีที่เขาไม่เคยรู้สึกมากเกินไปกับข้อสุดท้ายที่กล่าวมา

                ชินตะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็ข้อความจากกลุ่มเพื่อน เขามีเพื่อนในโปรแกรมสนทนาอยู่แค่ไม่ถึงยี่สิบคน แน่นอนล่ะว่าไม่มีพ่อ เขาเบื่อพ่อตัวเองจะตายชัก

     

                ว่า”

                [อย่าลืมนะไอ้หน้าสัด วันนี้มีซ้อมตอนบ่ายสอง กูเห็นมึงไม่ตอบตั้งแต่เมื่อคืน รู้สันดานว่าตื่นเช้าเลยตั้งนาฬิกาปลุกแล้วโทรมาด่ามึง]

                เช็ข้อความแล้ว แล้วก็ .. fu.ck you, Meen.”

                [you son of a b.itch, Shinta!]

     

                พอด่ากันจนพอใจไปคนละหมัดก็กดตัดสาย ที่จริงงานดนตรีไม่ได้รับตลอด ทำแก้เบื่อแล้วก็เพราะเรียนมาด้านนี้ พวกเขาทั้งสี่คนจบคณะดุริยางคศิลป์มาด้วยกัน ทำวงตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยแล้วและเบาลงไปมากเมื่อออกมาทำงานที่ตัวเองชอบ หลักๆของเขากับจิมมี่คือถ่ายแบบ มีถ่ายให้ฝั่งเกาหลีกับญี่ปุ่นบ้างตามวาระโอกาส ส่วนมีนกับเจ๋งทำงานเบื้องหลังอยู่ที่ค่ายเพลงเล็กๆแต่มีศิลปินตัวโหดอย่างอดีตวงกัมพ์อยู่

                ชินตะจ่ายค่าแท็กซี่และไม่ได้รับเงินทอนเพราะเขาอึดอัดเกินกว่าจะนั่งอยู่ในรถที่มีกลิ่นแอร์ทื่อๆแบบนี้ คนตัวสูงเหวี่ยงประตูรถปิดและเดินเข้าคฤหาสน์หลังโตที่ไม่ค่อยได้กลับ

               

                สวัสดีตอนเช้าครับพี่ชาย”

     

                คนเป็นพี่ตอบกลับไปด้วยภาษาญี่ปุ่น เราทั้งคู่ตื่นเช้า มันถูกฝึกจนเป็นนิสัยไปแล้วและคงแก้ไม่หาย เขารับชาจากมือน้องชายที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมเดือน เราอายุห่างกันห้าปี .. นั่นหมายความว่าชิโร่อายุยี่สิบและถ้าจะให้พูดตามตรง น้องเขาน่ะ นิสัยดีกว่าเขาเยอะ

     

                คอพี่มีรอยจูบอีกแล้ว”

                “i see.” (อืม)

                what’s wrong with those girls then?” (พี่ว่าผู้หญิงพวกนั้นเป็นอะไรนักหนา?)

                “i don’t give a x.” (ช่างแม่งเหอะชิ)

                but you should. it makes you look like you have been through hell.” (พี่ต้องแคร์หน่อยนะเว้ย มันทำให้พี่ดูแย่ เหมือนผ่านสงครามมาเลยว่ะ)

     

                ชิยักไหล่ มองพี่ชายที่แผ่นหลังมีทั้งรอยข่วนและต้นคอมีรอยคิสมาร์ก จะบอกว่าไอ้นิสัยชอบถอดเสื้อเดินโงๆในบ้านนี่ก็เหมือนกันที่ทำเขาปวดประสาท แต่ไม่อยากบ่นมากนักหรอก พี่ชายเขาน่ะ .. moody ง่ายกว่าคนปกติตั้งสิบเท่า

     

                พี่จะนอนหน่อยมั้ย”

                อาจจะ มีซ้อม”

                วงพี่แม่ง viral แล้วนะ เพื่อนผมมาถามใหญ่เลยว่าพี่ชายผมใช่มั้ย”

                ปวดหัว”

                หญิงเยอะเลยดิทีนี้” คนเป็นพี่กลอกตา เยอะก็ไม่ได้หมายความว่าดี เห็นแบบนี้เขาก็เลือก .. แต่มันก็ยังไม่เคยซ้ำหน้ากันอยู่ดีนั่นแหละ

                ช่วยไม่ได้ เขาขี้เบื่อจะตาย

     

                เมื่อไหร่พี่จะมีแฟนสักที”

                มึงมีหรือไง”

                “i won’t ever tell you if I have one.” (ชิไม่บอกพี่หรอก ถ้าชิมีอะ)

                go f.uck yourself, Pluem.” (ไปตายปลื้ม)

                นี่ถึงกับเรียกชื่อไทยเลยเหรอพี่โปรด”

     

                คนตัวสูงกว่าไม่ได้ตอบ เดินขึ้นชั้นสองเพราะเหนื่อยจะเสวนากับน้องชายตัวเอง .. ที่จริงตอนย้ายมาไทย แม่ตั้งชื่อให้เขากับน้องทั้งๆที่เขาไม่เห็นว่ามันจำเป็นเลยสักนิด แต่แม่ก็เอาแต่เรียกเราแบบนั้น ไม่เคยเรียกเราว่าชินตะกับชิโร่อีกเลยตั้งแต่ย้ายมาที่นี่

                แม้กระทั่งวันสุดท้ายในชีวิตแม่ แม่ก็ยังเรียกเราว่าโปรดกับปลื้ม

     

                ‘โปรดรักน้องเยอะๆนะครับ’

                ‘ … ’

                  แม่รักโปรดกับปลื้มมากๆเลยนะลูก’

     

                และสำหรับเขาแล้วมีแค่แม่กับน้องชายเท่านั้นที่ได้สิทธิ์เรียกเขาด้วยชื่อนี้

     



     

            




     

                พี่เอยคะ หนูขอเข้าร้านนี้แป๊บนึงได้มั้ยคะ”

                ได้เลยค่ะ” ผมพยักหน้าหงึกหงักตอบน้องอินเทิร์นที่วันนี้มีโอกาสพามาเลี้ยงปิ้งย่างที่ห้างแถวโรงพยาบาลสักที น้องวิ่งกรูกันเข้าไปในร้านเครื่องสำอางกันยกกลุ่ม หลังจากที่โดนคนไข้ทักว่าคุณหมอหน้าซีดจังเลยทำให้น้องๆเสียความมั่นใจมั้ง ผมคิดเอาเองนะ

                เครื่องสำอางกับผู้หญิงเป็นของคู่กันนี่นา

     

                พี่เอยขาาา”

                อ้าว ซื้อเสร็จไวจังค่ะ” ผมดันกรอบแว่นของตัวเองอย่าคนติดนิสัย มองซ้ายมองขวาก็ไม่พบถุงเครื่องสำอางแต่อย่างใด

                พี่เอยใช้ครีมอะไรเหรอคะ หน้าใสจัง

                แหะ .. พี่เอยไม่ได้ใช้อะไรเลยค่ะ” ถ้าแม่รู้ล่ะก็ แม่ต้องตีผมแน่ๆ อย่างน้อยๆผมก็ควรทากันแดด ถึงจะไม่เคยออกไปโดนยูวีที่ไหนเพราะวันๆก็หมกตัวอยู่แต่ในโรงพยาบาลก็เถอะ ยังไงก็มีแสงจากหลอดไฟ แสงจากคอม สารพัดสารเพ แต่ผมก็ผู้ชายนี่นา

                เวลาดูแลตัวเองก็เอาไปนอนหมดแล้ว T-T

     

                จริงเหรอคะ แต่ช่วงนี้พี่เอยปากแห้งจัง งั้นเดี๋ยวพวกหนูซื้อลิปมันให้นะคะ! ตอบแทนที่พี่เอยดูแลพวกเราอย่างดีมาตลอดเลยย~”

                เฮ้ย ไม่เป็นไรเลยค่ะ”

                ไม่เป็นไรเหมือนกันค่ะ~~” เธอบอกอย่าร่าเริงแล้ววิ่งกลับเข้าร้านไป ดูเหมือนจะถูกกลุ่มเพื่อนส่งมาถามว่าผมใช้ครีมอะไร ผมยืนเกาแก้มงงๆ มองนาฬิกาข้อมือที่สวมแล้วคิดกับตัวเองว่าเด็กๆคงหายไปในดินแดนลี้ลับที่เราเรียกกันว่าอีฟแอนด์บอยราวๆชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ

                ขออย่าให้เกินนั้นเลย ผมอยากกลับบ้านไปนอนจะแย่

     

                ไปซื้อไอติมกินดีกว่า”

     

                ผมพึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไลน์บอกเด็กๆในกรุ๊ปรวมว่าจะแยกไปซื้อไอศกรีม แต่เดี๋ยวยังไงจะกลับมารอหน้าร้าน .. เพื่อนๆหลายคนบอกว่าผมเข้าใจเด็กผู้หญิง มันอาจจะจริงก็ได้ เพราะผมอยู่กับแม่มาตลอด นิสัยพูดคะขากับเด็กผู้หญิงก็ติดมาจากแม่ที่พูดครับกับผมเหมือนกัน การมีตรรกะแบบแปลกๆนี้ของตัวเองเลยหลอมให้ผมกลายเป็นคนที่น้องๆอินเทิร์นพูดว่าใจละลาย

                โธ่ ก็แค่พูดคะขาด้วย เวลาตรวจงานผมก็โหดอย่าบอกใครเลยนะ!

                สวัสดีค่ะ รับรสอะไรดีคะ”

                ขอชิมได้มั้ยครับ” ผมเกาะตู้กระจก มองเจลาโตหน้าตาน่ากินแล้วใจพองโต

                ได้เลยค่ะคุณลูกค้า”

     

                ผมชี้ชิมรสนั้นที รสนี้ที ในใจอยากจะสั่งทั้งหมดที่ชิมมาอย่างละสกู๊ปเลยด้วยซ้ำแต่ก็เกรงใจพุงตัวเองเป็นบ้า สุดท้ายผมก็เดินออกมาจากร้านพร้อมกับเจลาโตทั้งหมดสามรส

                ผมยิ้มแฉ่ง ตักเข้าปากด้วยความรู้สึกสุขสุดขีด

                นานๆทีจะได้มาห้าง นานๆทีจะได้กลับบ้านไว วันนี้เป็นวันที่ดีจริงๆ

     

                ขอโทษครับ!”

     

                ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างดังเมื่อเดินชนใครสักคนด้วยแรงที่ไม่น้อยเลย นิสัยเสียแบบนี้แหละ ผมชอบจดจ่อกับของในมือ เช่นถ้าเล่นเกมก็จะเอาหน้าจุ่มลงไปในจอ(จ๊าบชอบล้อผมแบบนั้น) หรือเวลากินไอศกรีมก็จะเล็งว่าจะบาลานซ์แต่ละรสยังไงให้เท่ากันในคำเดียว

                เอยนะเอยยยย

     

                ไง”

                คุณณณ” ผมลากเสียงทำตาโต เขาตัวสูงกว่าผมแบบที่ผมไม่เคยชินเลยเวลาต้องยืนคุยกับเขา เขาใส่เสื้อยืดตัวหลวมๆผ้าบางๆ มันทำให้ผมเห็นว่าเขามีรอยสักในร่มผ้าอีกหลายจุดรางๆ ผมย้ายสายตาจากตรงนั้นไปสบตาเขา เขาทำหน้าดุใส่ซึ่งน่าจะเป็นหน้าปกติเขานั่นแหละ

     

                หวัดดี”

     

                ผมยิ้มกว้างให้เขาเหมือนกับเวลาที่เจอเพื่อนโดยบังเอิญก่อนจะสะดุ้งโหยงเมื่อเขาวางมือใหญ่ๆลงบนหัวผมแล้วโยกไปโยกมาเหมือนเป็นเกียร์รถ

     

                ยิ้มอะไร”

                เอ้า” เขาดูงุ่นง่านอยู่พักหนึ่ง แต่ผมยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มีบางคนเรียกเขาด้วยภาษาญี่ปุ่น เขาไม่ได้หันไปมองแต่ผมเองที่กำลังสบตากับเด็กผู้ชายตัวสูงโปร่งคนนั้นอยู่

                รอยยิ้มขี้เล่นต่างจากพี่ชายทำให้ผมนึกถึงจัสมิน .. แต่มันเป็นรอยยิ้มที่มีความเจ้าเล่ห์นิดๆจนผมเงอะงะที่จะยิ้มตอบกลับไป

     

                พี่ทำอะไรอยู่”

                ยุ่งอะไร”

                เป็นเพื่อนกันๆ” ผมชี้เข้าหาอกตัวเองแล้วชี้เข้าหาคนที่คนมาใหม่เรียกว่าพี่ ชินตะชะงักไปก่อนจะยักไหล่แล้วโยกหัวผมแรงๆเหมือนจะบอกให้ไปได้แล้ว

     

                “พี่ชื่ออะไรครับ”

                พี่ชื่อเอยครับ”

                ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ .. ผมชื่อชิโร่

     

                น้องชายเขาแน่ๆล่ะมาแนวนี้ ผมพยักหน้าหงึกหงักให้กับเด็กอัธยาศัยดี ต่างจากพี่ชายที่ยืนกลอกตาเหมือนกับว่าตรงนี้มันโคตรจะน่าเบื่อ

     

                คุณจะมาโยกหัวเราทำไมนักวะ” แล้วผมก็แหวขึ้นมาเพราะเขาไม่ได้ทำมันด้วยความรู้สึกว่าเอ็นดูหรืออะไรทั้งนั้น เขาทำมันแรงๆเหมือนจะทดลองกับตัวเองว่าคอผมจะหักมั้ยถ้าเขาทำแรงขึ้นเรื่อยๆ

                ให้ตาย

     

                ฮึ”

                หัวเราะอะไรไม่ทราบ!”

                น่าสนใจดีนะครับพี่ชิน :)”

     

                ผมพยายามต่อสู้ แต่เพราะมือข้างหนึ่งถือถ้วยไอศกรีมอยู่ก็เลยตัดใจและยอมแพ้ ผมตักไอศกรีมเข้าปาก คาบช้อนค้างไว้แบบนั้นแล้วยักคิ้วใส่เขาเป็นเชิงบอกว่าแน่จริงทำให้แรงกว่านี้สิ

     

                อื้อ!”

     

                ไอ้มนุษย์เลือดเย็น ผมอยากจะโพล่งด่าเขาไปแบบนั้นแต่ทำไม่ได้เพราะดันคาบช้อนอยู่ เขาโยกหัวผมแรงมากๆจนผมเกือบหงายหลัง ผมเอาช้อนออกจากปาก หมายมั่นปั้นมือว่าจะด่าเขาให้เปิงเลย

                  ผมไปเรียนรู้คำด่ามาจากจ๊าบแล้ว!

     

                นี่คะ .. ”

                พี่เอยคะ”

     

                น้องๆอินเทิร์นที่น่าจะตามหาผมอยู่เรียกผมจากด้านหลัง ผมหันกลับไปมอง มีของพะรุงพะรังเต็มมือเด็กๆ จะบอกว่ากลุ่มนี้น่ะหญิงล้วน .. และเพราะว่าเป็นผู้หญิงนั่นแหละ ถึงได้มองไปที่ไอ้คนเลือดเย็นที่พยายามโยกหัวผมจนคอเกือบเคล็ด

     

                พะ พี่เอยรู้จักกับพี่ชินตะด้วยเหรอคะ”

                ค่ะ”

     

                ผมมองสายตาเด็กๆแล้วกลั้นยิ้มกับตัวเอง ตายแน่ๆ

                ตายแน่ๆนายคนดังคนนั้นน่ะ

     

                ขอถ่ายรูปด้วยได้มั้ยคะ”

                หนูขอจับมือ!”

     

                ผมสบตากับเขาที่มีสีหน้าเซ็งสุดๆอย่างเห็นได้ชัด นาทีนั้นผมบอกกับตัวเองว่าเด็กๆทุกคนต้องได้รูป ได้จับมือ ได้ทุกอย่าง ทั้งหมดเพื่อแก้แค้นไอ้คนที่มันพยายามจะฆ่ากัน

     

                ได้เลยค่ะ พี่เขาใจดีมากๆเลย เนี่ย .. จะลองกอดดูก็ได้ พี่เขาไม่ว่าเลยสักคำ”

     

                สุดยอดไปเลยสิสิร!







    tbc.



































    น้องเอยเก่งที่สุดเรยค้าบ แม่รักน้องเอย (T▽T)

    ไม่มีอะรัย แบนิสัยตัวละครให้ศึกษากันไปก่อน

    เหย จริงๆมันอาจจะไม่เศร้าอะ เก็ทมะ

    เริ้บๆคับ 

    #จนมีหัวใจ 

    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×